ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Child's mother! หกคะเมน อลเวง บังคบรัก!

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : Suggestion

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 57


    Suggestion 



    ”ทวนคำพูดอีกทีสิว่ะ?

    “กูกำลังจะมีลูก” ผมตอบเจอโรมนักบอลผิวสีสุดหล่อเพื่อนร่วมทีมชาติและเพื่อนรักของผม  ผมนัดมันมาเจอที่ผับใกล้ๆคอนโดเพื่อบอกเรื่องนี้

    ผมคิดว่าการที่จะปรึกษามันนั้นดีที่สุดเพราะมันแต่งงานมีครอบครัวรวมถึงมีลูกแล้วด้วย ผมเชื่อว่าต้องมีคำแนะนำที่ดีแน่

    “กับใคร? กูไม่เห็นรู้เลยว่ามึงมีแฟน”

    “เธอไม่ใช่แฟนกูหรอก”

    “เฮ้ย? ยังไง! มึงทำเมียชาวบ้านท้องหรอ?” เจอโรมวางแก้วเบียร์ที่กำลังจะเอาเข้าปากออกและจ้องหน้าผมเขม่ง

    “ไม่ใช่โว้ย!

    “แล้วเธอเป็นใคร?

    “เอาเถอะ มึงไม่รู้จักเธอหรอก”

    “ร้ายนะมึง, เผลอไม่ได้แวบไปไข่ทิ้งไว้ แสรดด แล้ว,ผู้หญิงแถวไหนว่ะ?

    “ ไอ้ปื๊ด! ตบปากเท่าอายุมึงเลยนะ!!  เธอไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น!

    “อ้าว ไม่ใช่แฟนมึง แต่ท้องกะมึงได้ก็มีอยู่ไม่กี่พวกนี่หว่า”

    “เอาเหอะ เรื่องมันสับซ้อน โง่ๆแบบมึงไม่เข้าใจหรอก”

    “เออๆ  งั้นยินดีด้วย”

    “มีคำพูดอื่นที่ดีกว่านี้ไหมว่ะ? อย่างเช่นพวกคำแนะนำดีๆว่ากูควรเตรียมตัวยังไง?

    “เตรียมตัวเหี้ยอะไร ยังไง?

    “จริงๆที่กูบอกมึงเนี่ยเพราะจะมาปรึกษา คือกูยังไม่พร้อมที่จะอยู่กับเด็กว่ะ”

    “ห๊ะ?

    “กูอยากให้เธอมั่นใจว่ากูเป็นเสาหลักและพ่อของลูกที่ดีให้เธอได้ แต่กูจะทำได้ไงว่ะ ตัวกูเองยังรับไม่ได้เลยกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไงอ่ะ? กูทำไง กูก็ต้องรับผิดชอบ แต่..มึงเข้าใจไหมว่า..”

    “เออๆ มึงใจเย็นๆก่อนค่อยๆเล่า”

    “คือกูไม่ได้รังเกียจนะโว้ย เขาเป็นลูกกู แต่.. มันยากสำหรับกูนิดหน่อยว่ะ ที่จะทำใจให้มีอีกคนนึงในบ้าน ใครคนนึงที่จากนี้ก็จะต้องรับผิดชอบชีวิตเขาไปตลอด กูนึกภาพตัวเองไม่ออกตอนที่จะต้องเจอลำตัวเล็กๆของเด็กนอนทับอยู่บนหน้าอก”

    “มึงจะพูดอะไรเนี่ย?

    “กูกลัว!

    “เวร!  แล้วมึงจะให้กูพูดกับมึงยังไงล่ะ เด็ก ไม่ใช่หมา ไม่ขย้ำมึงแน่ๆ , แต่ระวังนิดนึงตอนฟันจะขึ้นนะ เจ็บฉิบหายอ่ะ”

    “มึงมีลูกแล้วสามคน มึงว่า.. มันจะออกมาเป็นในรูปแบบไหนว่ะ?

    “มีลูกนี่มันจะมีได้กี่รูปแบบว่ะ?

    “ก็ไม่รู้สิ ถึงมาถามมึงเนี่ย”

    “คือ..มันยอดไปเลยล่ะเพื่อน” เจอโรมรินเหล้าจากขวดลงในแก้วและกระดกลงคอไปอย่างรวดเร็วหลังจากพูดประโยคนี้

    “ยกเว้นในช่วงนอนหลับ เวลาว่าง และการขอนอนกับเมียอ่ะนะ - -

    “...”

    “ยังไม่นับต้องมาเก็บของเล่นในบ่ายวันอาทิตย์ที่ควรได้ออกไปแรดๆ แล้วก็เปลี่ยนผ้าออมเด็กที่เต็มไปด้วย..”

    “เออๆ พอแค่นั้นแหละ”


    ทำไมต้องมาพูดเรื่องผ้าอ้อมตอนกำลังที่จะกินอะไรสีเหลืองๆด้วยว่ะ - -


    “ทางที่ดีที่สุดที่ควรบอกมึงคือมัน...เลวร้าย ยอดแย่ และ แย่ฉิบหาย แต่มึงไม่ต้องห่วงนะหลังจากผ่านช่วงนี้ไม่ได้มันจะ แย่ฉิบหาย ยอดแย่ และ เลวร้าย เอง”


    แล้วมันต่างกันตรงไหน =:=


    “ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น หลังจากมึงผ่านช่วงเวลานั้น มันจะมีบางอย่างเกิดขึ้น แกจะรู้สึกว่าแต่ละวันที่แกใช้มันอย่างผ่านไปอย่างยากลำบากเหลือเกิน แกจะอยากตาย และคิดถึงชีวิตตอนที่ไม่มีเด็กอีกครั้ง...”

    “เออ พอแล้ว ไม่ได้ช่วยเหี้ยอะไรเลย” - -

    “เดี๋ยวมีอีกหน่อย มันเป็นแบบที่กูบอกจริงๆโว๊ย แต่ว่าหลังจากที่ความรู้สึกพวกนั้นมันจางไปเนี่ย โมเม้นต์เล็กๆบางอย่างจะเกิดขึ้น” ตอนนี้ผมว่าเจอโรมกำลังจริงจังนะ หน้ามันดูเคลิ้มๆตาหวานแบบแปลกๆ มันคงกำลังนึกถึงลูก...

     

     

    หรือไม่ก็เมาเบียร์

     

    “มึงจะรู้สึกว่าชีวิตของมึงคุ้มค่า พวกเขาเหมือน..แสงสว่างบางอย่างที่บางทีก็ร้อนแต่เราขาดเขาไม่ได้ ความสุข สัสเอ๊ย มันเป็นแบบนั้น”


    ผมไม่ได้พูดอะไรตอบมัน ผมไม่รู้จะพูดอะไร จริงๆผมเองก็ยังไม่พร้อมหรอก การมีลูกไม่เหมือนกับเกมส์เดอะซิมส์ที่ชอบเล่นตอนเด็กๆ แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วผมจะทำให้ดีที่สุด


    ผมแยกกับเจอโรมตอนประมาณ5ทุ่ม ซึ่งเร็วกว่าปกติมากถ้าเทียบกับเวลาที่ผมกลับประจำทุกครั้งที่มา ผมอยากรีบกลับ ผมควรจะรีบเปลี่ยนนิสัยซะตั้งแต่ตอนนี้


    “เจน่าคุณหลับหรือยัง?

    ผมถามหลังจากเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง ผมอยู่คอนโดเดี่ยวที่หรูที่สุดในเมืองแต่ที่นี่ไม่พลุกพล่านนักหรอกเพราะผมต้องการความเป็นส่วตัว เรามีสองห้องนอนใหญ่ หนึ่งห้องน้ำ ห้องครัวขนาดย่อม โซนห้องนั่งเล่นหนึ่งชุดใหญ่และห้องโถงโล่งขนาดพอเหมาะ ผมชอบทีนี่ถึงขนาดย่อม แต่สักพักห้องโถงคงจะไม่โล่งแล้วต่อจากนี้ หวังว่าลูกของผมจะเป็นเด็กเรียบร้อยและเก็บของเล่นเป็นที่นะ

    “ยัง อยากดูการ์ตูนอีกตอน”

    “ตามใจคุณเถอะ แต่อย่าให้ดึกมากเกินไปนะ”


    เมื่อก่อนผมนอนแยกห้องกับเจน่า แต่เรามานอนห้องเดี๋ยวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้นะ จำไม่ได้ คืนแรกและคืนนั้นมันเกิดขึ้นเร็วมาก แต่ผมยืนยันว่าผมมีสติ ผมไม่ได้เมา และเรื่องไม่ได้เกี๋ยวกับเกมส์มุ้งมิ้งที่เธอคิดขึ้นมาด้วย ไม่รู้สิ ผมอยากชนะเกมส์ตอนแรกเพื่อให้เธอไป แต่ตอนนี้..


    ไม่รู้สิ ผมก็ไม่รู้


    “คุณอยากได้อะไรเพิ่มไหม ผมว่าจะไปที่เซนเตอร์เมือง”

    “ฉันคิดว่าคุณทำแป้งเค้กหกหมดแล้วตอนที่เราทำแพนเค้กเมื่อวานก่อน”

    “ยังๆ ผมทำหกไปแค่ครึ่งถุง... อืม จากครึ่งถุง”

    - - ซื้อแป้งเค้กมาละกัน อืมม น้ำตาล เนย แล้วก็แยมด้วยนะ”

    “แล้วของพวกนั้นซื้อที่ไหน?

    “ร้านขายของพวกเบเกอร์รี่ไง  อยู่ชั้นสามของชั้นใต้ดินของห้างที่อยู่ริมๆถนน คุณต้องผ่านแม่น้ำกลางเมืองก่อนแล้วเลี้ยวซ้ายสองครั้งเลี้ยวขวาสามแล้วเดี๋ยวเจอเอง ไหนๆก็ไหนๆ ซื้อผลไม้มาด้วยนะ”

    “ฮะ? คุณว่าผมจะจำทางได้หรอ”  ผมปลดเนคไทค์วางบนโต๊ะแล้วเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆเธอ

    “คุณเกิดที่นี่นะอย่าลืมสิ ทำไมจะไปไม่ถูก อย่าถามอีกครั้งด้วย ฉันก็จำไม่ได้”

    “ก็ใช่แต่...ผมว่าไปด้วยกันดีไหม?

    “ไม่  ขี้เกียจ”

    “ไปด้วยกันเหอะ ผมกำลังคิดอะไรสนุกๆในตอนที่เราเดินซื้อขวดนมจิ๋วๆสักลัง”

    “มันยังไม่ต้องใช้หรอก ยังอีกตั้งหลายเดือน นี่กี่เดือนแล้วก็ไม่รู้”


    เจน่าพูดส่งๆและตายังมองโทรทัศน์  นี่การ์ตูนทอมแอนด์เจอรี่มันสนุกตรงไหน?ผมว่าผมเห็นเธอดูตอนนี้มากกว่ายี่สิบครั้ง - -


    “ไปเหอะ ไปเดินดูสนุกๆกันก่อนก็ได้”

    “งั้นไปดูหนังด้วยดีไหม?”

    “คุณเลือกเลยว่ารอบไหน” ผมตอบก่อนจะยื่นโปรชัวหนังให้เธอเลือก แต่เธอคงไม่หลับคาโรงตั้งแต่ครึ่งเรื่องเหมือนครั้งล่าสุดที่พาไปดูนะ

    “อืม ขอเลือกก่อนนะแปบนึง”



    ผมชอบเจน่าตอนจดจ่อกับอะไรสักอย่างแบบนี้



    จริงๆสถานะของผมกับเธอเองมันคืออะไรกันแน่นะ? เราออกไปไหนด้วยกัน ดูหนังและพาเธอไปร้านหนังสือบ่อยๆ ผมก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเรื่องเธอ...แต่ก็นั้นแหละไม่ได้เปิด


    เคยมีปาปารัซซี่ถ่ายรูปผมกับเธอได้ครั้งนึง ผมรู้สึกไม่ดีเล็กน้อยที่ต้องโกหกว่าเธอเป็นแค่คนรู้จัก..แต่จริงๆ ผมก็ไม่ได้โกหก เธอก็เป็นแค่นั้นจริงๆ


    แต่ผมรู้สึกไม่ดีเลย


    จากคนแปลกหน้าที่ผมบังเอิญต้องรับผิดชอบ กลายเป็นใครบางคนที่มาเป็นแม่ของลูกผม เรื่องมันตลกจริงๆ ผมรู้สึกดีที่ได้อยู่กับเธอแบบนี้นะ แต่ยอมรับว่าไม่แน่ใจว่าดีมากพอถึงขนาดเรียกว่ารักได้หรือเปล่านี่สิอธิบายยากยิ่งกว่าซิกม่ากำลังเอ็น

    ถึงมั้ง..ไม่รู้สิ ผมตอบไม่ได้

    “เลือกไปแล้วกันนะ ผมง่วง โดนไอ้ปี๊ดคะย่อนเข้าปากไปตั้งสามขวด”

    “เอาไว้เสร็จแล้วฉันจะตามไปนอนนะ ฝันดีคะ”


    ผมหอมแก้มเธอก่อนที่จะลุกออกจากโซฟาและตรงไปที่นอนโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำ อากาศหนาวๆกับหิมะปรอยๆข้างนอกผสมกับแอลกอฮอลอุ่นๆในเลือดทำให้ผมหลับไปแบบไม่ยากเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่วายลุกขึ้นมาตอนตีสองเพื่อให้แน่ใจว่าเธอนอนอยู่ข้างๆผมแล้ว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×