ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cage คลังเก็บของจิปาถะส่วนตัว. บุคคลไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า!!!

    ลำดับตอนที่ #103 : ส่งงาน : ฮอกวอตส์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 58
      0
      22 เม.ย. 56

     

     ส่งงาน

     

    ชื่อ สเตลลิเท เวลช์
    บ้าน กริฟฟินดอร์
    ชั้นปีที่ 4
    ชนิดของงาน - งานประจำวิชา
    หัวข้อเรื่อง - การล่าแม่มด

    ตอบคำถาม เรื่องประวัติศาสตร์การล่าแม่มดในยุคกลาง

     

    1. ผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการสร้างโรงสำหรับทรมานแม่มด มีนามว่าอะไร ตอบ พระเจ้าโยฮัน จอร์จที่ 2 (Gohannes Georg II ) แห่งเยอรมัน โยฮันเนส จูนิอุส

    2. เพราะเหตุใด ในคู่มือการจับและล่าแม่มดของมักเกิ้ล จึงกล่าวว่าแม่มดมักเป็นผู้หญิง ตอบ เพราะผู้หญิงอ่อนแอกว่าผู้ชาย จึงถูกปีศาจหลอกได้ง่ายกว่า

    3. วิลเลียม เชกส์เปียร์ (William Shakespeare) ได้นำเหตุการณ์ที่ใด มาทำเป็นละครและจัดแสดงต่อหน้าพระพักตร์ที่พระราชวัง แฮมพ์ตัน ตอบ เหตุการณ์ที่นอร์ธ เบอร์วิก

    4. เอิร์ล แห่ง โบธเวลล์ ผู้เป็นราชนัดดา ได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศใด ตอบ ประเทศชิลี

    5. หัวหน้าแม่มดที่ถูกนำมาพิจารณาคดี มีนามว่าอะไร ตอบ แอกเนส ซิมพ์สัน

    6. จำนวนแม่มดในสหรัฐอเมริกามากที่สุด เมื่อศตวรรษที่เท่าไร ตอบ ศตวรรษที่ 16-17

    7. เขียนรายงานย่อ เรื่องการล่าแม่มด ตอบ
    ประวัติศาสตร์ตะวันตก แม่มดจะถูกกวาดล้างและฆ่า การกวาดล้างไม่ได้ทำให้แม่มดหมดไป แต่กลับมีการฝึกฝนพลังแม่มดมากกว่าสมัยพุทธศตวรรษที่ 16-17 ที่มีการคลั่งไคล้และศรัทธาแม่มดเสียอีกศตวรรษที่ 16-17 จำนวนแม่มดในสหรัฐอเมริกามีมากถึง 50,000 คน สหรัฐอเมริกาเป็นดินแดนที่ วิชาว่าด้วยคุณไสย(witchcraft ) เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการ มีการเปิดสอนวิชาการแม่มดทางจดหมายซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมมากกว่า 40,000 คน ในสมัยก่อนผู้คนต่างเชื่อว่า การเจ็บป่วยและโชคร้ายนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเอง เชื่อกันว่าเกิดจากความตั้งใจของแม่มด แม่มดเป็นผลพวงของลัทธิป่าเถื่อน ใช้คุณไสยช่วยเหลือผู้คน รักษาโรค นำโชค แต่คุณไสยสามารถนำมาใช้ในทางไม่ดีได้ด้วย ในซูดานและซาอีร์ เชื่อว่า การเป็นแม่มดนั้นเป็นคุณสมบัติที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด ผู้ที่เป็นอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองเป็นแม่มด สังคมนี้เชื่อว่าความเจ็บป่วยเกิดจากเชื้อโรค ซึ่งตรงกับนิยามทางวิทยาศาสตร์ ผิดแต่เพียงว่า แม่มดเป็นผู้ควบคุมเชื้อโรคเพื่อสร้างความเจ็บปวดให้กับคนบางคนเท่านั้นภาพลักษณ์ของแม่มดในสังคมยุโรปนั้นไม่ค่อยชัดเจน แม่มดอาจจะเป็นผู้วิเศษที่ช่วยรักษาโรคและนำโชคดีมาให้ก็ได้ พวกเขาจะรักษาโรคโดยใช้ความรู้ทางยาและสมุนไพรประกอบกับเวทมนตร์คาถา ภาษา ละติน และฮิบรู นอกจากคุณไสยจะถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคแล้ว ยังอาจนำไปใช้ในการสาปแช่ง และทำเสน่ห์ได้ด้วย บุคคลใดเชื่อว่าตนถูกสาป จะต้องไปหาแม่มดเพื่อแก้คำสาปนั้นเรื่องของคุณไสยและเรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนในยุคกลาง แม้ในศาสนาคริสต์พลังเหนือธรรมชาติถูกแสดงได้โดยพระเจ้าเท่านั้น
         เรื่องราวของการต่อต้านแม่มดและการใช้คุณไสยเริ่มมีขึ้นก่อนยุคกลาง มีผู้วิเศษออกมากล่าวหาว่า พระเยซูเจ้าไม่ได้ต่างอะไรกับผู้วิเศษคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจสูงสุดอย่างองค์กรทางศาสนาอ้าง ตั้งแต่นั้นมาองค์การศาสนาก็ทำการต่อต้านผู้วิเศษรวมทั้งแม่มด ฐานแสดงความขัดแย้งต่อพลังอำนาจของพระเจ้า พ.ศ. 2027 องค์กรทางศาสนาโรมันคาทอลิก ประกาศว่า ผู้ใดก็ตามที่ไม่ไช่สมาชิกของศาสนาแต่ปฏิบัติพิธีกรรม การใช้เวทมนตร์ คาถา และมีพลังเหนือธรรมชาติ ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับซาตานและปีศาจ พลังที่ได้มาไม่ได้มาจากพระเจ้า แต่ได้มาจากซาตานและปีศาจ องค์กรศาสนาพยามเผยแพร่ศัตรูของพระเจ้าและสร้างภาพลักษณ์ให้ชัดเจนในช่วงปลายยุคกลาง ปีศาจเริ่มมีรูปร่างชัดเจนมากขึ้น ปีศาจอาจจะออกมาในรูปลักษณ์อื่นเพื่อหลอกลวงแม่มด ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่ยอมรับและลุ่มหลงในพลังอำนาจของปีศาจ และถือว่าเป็นสาวกของมัน นั่นเป็นเหตุให้มีการล่าและกำจัดแม่มดในเวลาต่อมาในปี พ.ศ. 2133 พระเจ้าเจมส์ ที่ แห่งสก็อต ได้รับทราบแผนลอบปลงพระชนม์ที่เอิร์ล แห่งโบธเวลล์ (Bothwell) เป็นผู้วางแผนโดยใช้คุณไสยของแม่มดเป็นเครื่องมือ พระเจ้าเจมส์มีความเชื่อในอำนาจของปีศาจอยู่แล้ว จึงสืบสวนแม่มดฐานเป็นกบฏ แอกเนส ซิมพ์สัน (Agnes Simpson) หัวหน้าแม่มดถูกนำมาพิจารณาคดีที่ นอร์ธ เบอร์วิก(North Berwick)ส่วน เอิร์ล แห่ง โบธเวลล์ ผู้เป็นราชนัดดาที่ก่อการทั้งหมดได้ลี้ภัยไปอยู่ประเทศชิลีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ นอร์ธ เบอร์วิก เป็นจุดเริ่มต้นของการล่าแม่มด แม่มดกลายเป็นคนชั่วร้าย สมควรแก่การล่า สังหารโดยการแขวนคอหรือเผาทั้งเป็น นักประพันธ์ผ็ยิ่งใหญ่อย่างวิลเลียม เชกส์เปียร์ (William Shakespeare) ก็ได้นำเหตุการณ์ที่ นอร์ธ เบอร์วิก มาเขียนเป็นละครและจัดแสดงต่อหน้าพระพักตร์ที่พระราชวัง แฮมพ์ตัน (Hamton) เนื้อหาของละครเป็นไปตามเหตุการณ์จริงที่แอกเนสสารภาพในปี พ.ศ. 2029 มีการพิมพ์คู่มือพฤติกรรมแม่มด เพื่อช่วยในการจับและล่า วันหนึ่งๆมีผู้หญิงที่ต้องตายเนื่องจากการล่าแม่มดนับพันคน มีตัวอย่างในสมัยพระเจ้าโยฮัน จอร์จที่ 2 (Gohannes Georg II ) แห่งเยอรมัน โยฮันเนส จูนิอุส ไม่เห็นด้วยสำหรับการสร้างโรงสำหรับทรมานแม่มดโดยเฉพาะ จึงถูกจำและกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า เพราะสาเหตุใดความเชื่อเกี่ยวกับการล่าแม่มดและแม่มดเสื่อมสลายไป อาจจะเป็นไปได้ว่า ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ในพุทธศตวรรษที่ 23 เบี่ยงเบนความสนใจ แม้ความเชื่อเรื่องการล่าแม่มดจะเริ่มสลายหายไปตามกาลเวลา แต่ก็ยังมีกลุ่มลัทธิของมักเกิ้ลบางกลุ่มที่ยังคงหลักความเชื่อไว้ จึงขอเตือนเพื่อนแม่มดด้วยกันไว้ในที่นี้

    8. แสดงความคิดเห็นของนักเรียนกับเหตุการณ์ล่าแม่มดของชาวมักเกิ้ล ตอบ ผมไม่รู้จะบอกยังไงเลยล่ะครับ บอกได้แค่ว่ามัน "โหดร้ายมาก" ไม่แน่ว่าพวกที่น่ากลัวที่สุดบนโลกอาจเป็นมักเกิ้ลก็ได้...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×