คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 7 : เกมส์คิง 2_100%
Chapter7 : เกมส์คิง 2
---------------------------- 50% ----------------------------------
โชคดีที่ชั้นหนึ่งมีนักศึกษาที่พักอยู่หอเพียงสามห้องเท่านั้น ส่วนที่เหลือกลับบ้านกันหมด ดังนั้นทุกคนจึงเคลื่อนย้ายพลกันไปที่ชั้นสองต่อไป
สามห้องแรกนั้นไม่มีคนอยู่จนมาถึงห้องที่สี่ คยูฮยอนเป็นฝ่ายเคาะประตูเช่นเดิม รอมาซักพักแต่ก็ยังไม่มีคนมาเปิดประตู จนทุกคนคิดว่าไม่มีคนอยู่และกำลังจะเดินไปห้องอื่น แต่แล้วประตูห้องก็เปิดออก ทำเอาซองมินหน้าบึ้งขึ้นมาในทันที
“พวกนายมีอะไร” เจ้าของห้องถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียออกจะหงุดหงิดเล็กน้อยด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไร นายไปนอนต่อเถอะ” ด้วยความที่ว่าเกรงใจบวกกับไม่อยากจะมาแสดงความรักกับคยูฮยอนต่อหน้าเพื่อนร่วมหอที่แม้แต่ชื่อยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ ซองมินเลยรีบไล่ให้กลับไปนอน แต่มีหรือคนอย่างอีทึกจะยอม
“ไม่ได้!” อีทึกบอกออกมาเสียงดังอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาซองมินไหล่ตกในทันที
“ขอโทษที่รบกวนนะ ฉันแค่จะบอกว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน” พูดจบก็ก้มลงหอมแก้มซองมินเหมือนทั้งสามครั้งที่ผ่านมา ก่อนจะถอนออกมาแล้วรีบปิดประตูห้องเพื่อนร่วมหอไปซะ กันคำโวยวายหรือคำต่อว่าที่จะตามมาภายหลัง
ซองมินยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองไปมาเบาๆ ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือว่าคยูฮยอนกดปลายจมูกลงมาที่แก้มเขาแรงขึ้นแถมยังนานขึ้นอีกด้วย อีกอย่างเหมือนกับสิ่งที่โดนแก้มเขาไม่ใช่แค่ปลายจมูกโด่งนั่น แต่เป็นริมฝีปากหยักนั่นด้วย
“บ้าน่า!” ส่ายหัวไปมาอย่างแรงเมื่อชักจะเริ่มคิดอะไรฟุ้งซ่าน
“เป็นอะไรของนาย” คยูฮยอนหันมาถาม ซองมินเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเพื่อนๆเดินกันไปหมดแล้ว และเขาสองคนก็มักจะกลายเป็นคนที่เดินรั้งท้ายเสมอ
“เปล่า!” ปฏิเสธเสียงสูง ก่อนจะเริ่มออกเดินไปยังห้องถัดไป
คยูฮยอนมองตามหลังซองมินไปซักพักก่อนจะเดินตามไป รู้สึกว่ากลิ่นหอมมันยังติดจมูกไม่ยอมจางหายไปไหนเลย แถมแก้มซองมินยังนิ่มอีกต่างหาก อยากให้เกมวันนี้จบลงเร็วๆ ไม่งั้นแก้มนิ่มๆนั่นคงต้องช้ำเพราะเขาแน่
หอพักชั้นสองมีนักศึกษาที่อยู่หอในวันหยุดเพียงสองห้องเท่านั้น ซึ่งมันทำให้อีทึกออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะผ่านมาถึงสองชั้นแล้ว เพิ่งจะได้เห็นฉากสวีทเพียงเจ็ดครั้งเท่านั้น จากที่ควรจะเป็นสิบแปดครั้ง
และแล้วทุกคนก็เคลื่อนพลมาถึงชั้นที่สาม ซึ่งมีนักศึกษาอยู่ที่หอถึงสี่ห้องด้วยกัน ทุกอย่างเป็นอย่างปกติเหมือนกับที่ผ่านๆมา จนมาถึงห้องสุดท้าย
คยูฮยอนเคาะประตูห้องและไม่นานเจ้าของห้องก็ออกมาเปิดประตูเพราะไฟในห้องยังคงเปิดไว้อยู่แสดงว่าคนในห้องนั้นยังไม่นอน
“ขอโทษนะครับที่มารบกวน”
“มีอะไรกันเหรอครับ” เจ้าของห้องคนแรกถามด้วยสีหน้าสงสัย เพราะจำนวนคนที่ยืนอยู่หน้าห้องทำให้อดแปลกใจไม่ได้
“เราสองคนเป็นแฟนกันครับ” พูดจบก็ก้มลงหอมแก้มซองมินเหมือนเดิม แต่จากที่ใช้แค่ปลายจมูกตอนนี้กลับกลายเป็นริมฝีปากไปแล้วที่ใช้สัมผัส แถมตำแหน่งที่โดนมันกลับเขยิบเข้ามาใกล้ริมฝีปากสีชมพูนั่นเรื่อยๆ จนซองมินถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ แต่ก็ดิ้นหรือขัดขืนอะไรไม่ได้ ซักพักคยูฮยอนจึงผละออกมา
“โอ้โห! โชว์กันอย่างนี้เลย” เจ้าของห้องอีกคนร้องขึ้นหน้าตาตื่น เพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
ซองมินได้ยิ้มแหยๆกลับไปให้แล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเพราะไม่อยากให้คนจำหน้าได้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ยืนทำกันจะๆตรงนี้แบบนี้ใครจำไม่ได้ก็บ้าแล้ว
“นายหอมคยูฮยอนกลับบ้างสิซองมิน~ แบบนี้มันไม่แฟร์~” อีทึกโผลงออกมาเสียงดัง พร้อมกับส่ายนิ้วชี้และส่ายหน้าไปมาเป็นท่าที่ใช้ประกอบคำพูด
“หา!” ซองมินหันกลับไปถลึงตาใส่อีทึก แค่ให้คยูฮยอนทำเขาฝ่ายเดียวก็เขินจะแย่แล้ว นี่ยังจะให้เขาทำกลับอีกงั้นเหรอ
“ไม่ต้องหา~ ทามเลย~” บอกพร้อมกับยิ้มหน้าระรื่น
ซองมินเงยหน้าขึ้นไปมองคยูฮยอนแล้วใบหน้ามันก็ร้อนผ่าวขึ้นมาดื้อๆ ชักเริ่มรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
“นายก้มลงมาหน่อยสิ” กระตุกแขนเสื้อคนตัวสูงกว่าหงิกๆให้ก้มหน้าลงมา
คยูฮยอนยอมก้มลงไปแต่โดยดีโดยไม่พูดอะไร ซองมินจึงรีบเข้าไปหอมแล้วผละออกมา แต่ดูเหมือนมันจะผิดตำแหน่งไปหน่อย เพราะความรีบร้อนเลยทำให้มันโดนที่มุมปากของคยูฮยอนแทนที่จะโดนแก้ม
“ฮ่าๆๆ เจ๋ง!” เจ้าของห้องอีกคนร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
ปัง!
คยูฮยอนปิดประตูห้องนี้อย่างแรง ทำเอาซองมินรวมไปถึงเพื่อนๆคนอื่นๆสะดุ้งไปตามๆกัน เพราะคิดว่าคยูฮยอนคงจะโกรธแน่ๆ
“อย่าใส่อารมณ์สิคยู~ มานก็แค่เกมมมมม~” พูดจบอีทึกก็เดินนำไปยังชั้นต่อไป ตามด้วยเพื่อนๆทั้งหลายที่เดินตามกันไป
“นายโกรธฉันเหรอ” ซองมินถามขึ้นอย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงจะไม่รู้ก็เถอะว่าคยูฮยอนจะมาโกรธเขาเรื่องอะไร เขาไม่ชอบเลยเวลาคยูฮยอนทำท่าเหมือนจะโกรธ มันน่ากลัว
“เปล่า” ตอบเพียงแค่นั้นแล้วก็เดินต่อไปโดยไม่พูดอะไรอีก ที่จริงเขาไม่ชอบเจ้าของห้องคนนั้นต่างหาก เพราะเสียงหัวเราะบวกกับหน้าตาที่ดูตื่นเต้นนั่นทำให้เขารู้สึกทำตัวไม่ถูก
ชั้นสี่เป็นชั้นที่พวกเขาพักอยู่ ดังนั้นจึงผ่านชั้นนี้ไปเพราะไม่มีนักศึกษาคนใดพักอยู่เลยนอกจากพวกเขาเอง และแล้วก็มาถึงชั้นห้าซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายของหอ และดูเหมือนว่าชั้นนี้จะเงียบผิดปกติ หรือว่าชั้นนี้นักศึกษากลับบ้านกันหมด
คยูฮยอนไล่เคาะทุกห้องแต่ไม่มีคนอยู่เลยซักห้องจนมาถึงห้องสุดท้ายซึ่งตรงกับทางลงพอดี ยืนรออยู่หน้าห้องซักพักเจ้าของห้องทั้งสองก็ออกมาเปิดประตู
“ขอโทษที่มารบกวนนะครับ”
“มีอะไรกันเหรอครับ” เป็นคำถามที่ทุกๆห้องมักจะถามออกมาแบบนี้
“เราสองคนเป็นแฟนกันครับ” คยูฮยอนโอบเอวซองมินไว้ก่อนจะก้มลงไปใกล้ใบหน้าหวานนั้นเรื่อยๆ
ซองมินหลับตาปี๋เมื่อริมฝีปากของคยูฮยอนแตะลงเบาๆ ที่แก้มนุ่มนิ่ม แต่แล้วอยู่ๆริมฝีปากนั่นกลับเลื่อนมาประทับที่มุมปากสีชมพูแทน ดวงตากลมโตเบิกกว้างอย่างตกใจกับการกระทำของรูมเมท แต่เท่านั้นยังไม่พอ คยูฮยอนเลื่อนริมฝีปากไปยังริมฝีปากบางก่อนจะกดน้ำหนักลงไปเบาๆ
เมื่อริมฝีปากโดนปิดสนิทซองมินจึงหลับตาแน่น รู้สึกตัวเกร็งไปหมดจนทำอะไรไม่ถูก ริมฝีปากหนาขยับดูดเม้มเบาๆ มือที่โอบรอบเอวนั้นกระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม ลิ้นหนากำลังจะทำการรุกรานเพื่อเข้าไปภายในโพรงปากที่มันช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน
“ผมทราบแล้วคร๊าบบบบ!!!” เจ้าของห้องร้องออกมาดังลั่น ทำเอาทั้งสองคนผละออกจากกันแทบไม่ทัน สีหน้าของเจ้าของห้องตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าอึ้งกับการกระทำตรงหน้า ใบหน้าแดงก่ำนั่นไม่รู้เพราะว่าโกรธหรือเขินแทนกันแน่
“เอ่อ...ขอโทษที่รบกวนนะครับ!!” คยูฮยอนก้มหัวขอโทษขอโพยแล้วรีบลากซองมินลงมาบันไดไปทันที ใครจะไปยืนอยู่ตรงนั้นได้ล่ะ ไม่รู้ว่าเจ้าของห้องคนนี้เขาจะโกรธเอาหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆขอหนีไว้ก่อน อายเพื่อนก็อาย แถมยังเผลอทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรต่อหน้าคนที่ไม่รู้จักอีก
“จารีบลงปายต่อที่ห้องกานหรืองายยย~” อีทึกร้องแซวตามลงไป ก่อนจะหัวเราะร่าเริง
“พวกคุณเล่นอะไรกันนี่” เจ้าของห้องอีกคนถามขึ้น
“มันเป็นแค่เกมน่ะครับ ขอโทษด้วยที่รบกวนดึกๆแบบนี้ และก็ขอบคุณมากครับที่ให้ความร่วมมือ” ซีวอนเป็นคนตอบแทน เพราะถ้าขืนให้อีทึกตอบคงไม่รู้เรื่องแน่ๆ
“แล้วเค้าเป็นแฟนกันจริงๆเหรอครับ” เจ้าของห้องยังคงถามต่อ
“เปล่าหรอกครับ พวกเราเล่นกันเฉยๆ”
“ครับ แต่เค้าน่ารักดีนะ...ผมขอตัวนะครับ” ตอบรับพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยก่อนจะขอตัวเข้าห้องไป
“ฉันว่าเราเลิกเล่นแล้วกลับไปล้างจานกันได้แล้ว” ฮีชอลพูดขึ้น เพราะห้องตัวเองเป็นสถานที่จัด ฉะนั้นทุกคนต้องไปช่วยกันจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อย ไม่งั้นเขาไม่ยอมแน่ๆ
ทุกคนพยักหน้ารับตามที่ฮีชอลบอกและทยอยกันเดินลงบันไดไปโดยมีคังอินคอยประคองอีทึกเดินนำหน้าคู่กับซีวอนและฮีชอล คนอื่นๆเดินตามหลัง ส่วนซองมินกับคยูฮยอนนั้นก็หนีเข้าห้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไร้เสียงพูดจาพูดคุยกันระหว่างที่ทุกคนเดินกลับห้องของฮีชอลกับซีวอน
คิบอมกับดงแฮที่เดินรั้งท้ายเมื่อเดินลงมาบันไดมาได้ก็เจอกับห้องตัวเองพอดี คิบอมดึงดงแฮให้เดินเข้าห้องไปด้วยกันอย่างเงียบๆ โดยกะว่าไม่ให้มีคนเห็น แต่ฮันคยองที่เดินอยู่ข้างหน้าตัวเองกลับหันมามองเสียอย่างนั้น แถมยังทำท่าจะร้องทักเสียด้วย
“ชูว์~” คิบอมยกนิ้วชี้มาจุ๊ปากเอาไว้ ตอนนี้เขากำลังปฏิบัติภารกิจหนีการล้างจานกองโตอยู่
ฮันคยองพยักหน้ารับเข้าใจเลยปล่อยให้คิบอมกับดงแฮเข้าห้องของตัวเองไป จนเดินถึงห้องของตัวเองที่อยู่ถัดมาจึงดึงฮยอกแจไว้บ้าง แล้วพากันเข้าห้องไปอย่างเงียบๆ
เสียงฝีเท้าที่เคยดังนั้นเริ่มเบาลงเรื่อยๆโดยไม่มีใครได้ทันสังเกต ยกเว้นก็แต่ชินดงที่สงสัยจึงหันหลังกลับมาดูก็พบว่าฮันคยอง ฮยอกแจ คิบอมและดงแฮได้หายตัวไปเป็นที่เรียบร้อย ชินดงจึงหยุดมองอยู่อย่างนั้น ก่อนจะหันกลับไปมองข้างหน้าก็พบว่าตอนนี้ได้ยืนอยู่หน้าห้องตัวเองเสียแล้ว งั้นเขาก็ขอตัวเข้านอนเลยก็แล้วกัน
เดินผ่านมาจนถึงหน้าห้องของเยซองและเรียวอุก คนตัวเล็กหันกลับไปมองด้านหลังที่ไร้เงาของเพื่อนๆก็เบิกตากว้างทันทีก่อนจะเรียกให้เยซองหันไปมอง
“อะ....”
“ชูว์~....เข้าห้องกัน” เรียวอุกยกมือปิดปากเยซองไว้แทบจะไม่ทัน มองซ้ายขวา ใช้ความคิดเกี่ยวกับการหายตัวไปของเพื่อนอยู่ซักพัก ก่อนจะค่อยๆพากันเดินเข้าไปในห้องและปิดประตูอย่างเบาที่สุด ถ้าเขาเดาไม่ผิดเพื่อนๆคงหนีเข้าห้องกันไปหมดแล้วแน่ๆ
ในที่สุดก็มาถึงสองห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด ท่าทางโอนเอนไปมาของอีทึกเลยทำให้คังอินขอตัวพาอีทึกเข้าไปพักผ่อนก่อน ซีวอนจึงปล่อยให้ไปเพราะคิดว่าอีทึกคงไม่ไหวจริงๆ
“ทำไมมันเงียบแบบนี้ล่ะ” ฮีชอลพูดพร้อมกับหันหลังกลับไปมองยังทางที่เดินมาซึ่งความจริงแล้วมันควรจะมีเพื่อนๆอีกกว่าสิบคนเดินตามมา แต่นี่มันกลับมีแต่ความว่างเปล่า
ทุกอย่างยังคงอยู่ในความเงียบสงัดกับแสงไฟสลัวๆเท่านั้น แต่ตอนนี้อารมณ์ฮีชอลกำลังปรี๊ดสุดๆ เหมือนปรอทที่กำลังจะแตกในเวลาอันใกล้นี่
“ไอ้พวกบ้า!!! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!!!”
หลังจากที่พากันหนีความอับอายเข้ามาในห้องพักคยูฮยอนกับซองมินก็ยังไม่ได้เอ่ยปากคุยกันเลยแม้แต่นิด ตอนนี้คยูฮยอนกำลังอาบน้ำอยู่ ส่วนซองมินก็เอาแต่นอนคลุมโปงอยู่บนเตียง
เสียงประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพร้อมกับหัวใจของซองมินที่อยู่ๆมันก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมา คราวนี้เขาจะคุยกับคยูฮยอนได้อย่างปกติมั้ยล่ะเนี่ย
“นายไม่อาบน้ำเหรอ” คยูฮยอนเอ่ยถาม
“ดะ...เดี๋ยวอาบ” ซองมินโผล่หัวออกมาจากผ้าห่มก่อนจะตอบ แต่แล้วใบหน้ามันก็กลับร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง ให้ตายสิ ทำไมคยูฮยอนถึงไม่แต่งตัวให้มันเรียบร้อยก่อนนะ ใส่แค่ผ้าขนหนูผืนเดียวแถมยังมีน้ำเกาะอยู่ตามตัวอีกด้วย บอกจากใจซองมินเลยว่า ดูดีและเซ็กซี่อย่างมากมาย
“เมื่อกี้ฉันขอโทษนะ...ที่จูบนาย” หันหลังให้ก่อนจะพูดออกมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกันตอนนั้นถึงได้เปลี่ยนจากหอมแก้มเป็นจูบได้ ความรู้สึกมันพาไปโดยที่เขาห้ามมันไม่ได้เลย
“ไม่เป็นไร!...ฉะ...ฉันนอนแล้วนะ...ฝันดี!” ตอบกลับเสียงสูงก่อนจะรีบคลุมโปงไว้อย่างเดิม ไม่อาบมันแล้วน้ำ
“ฝันดี” คยูฮยอนพูดขึ้นเบาๆ หันกลับไปมองซองมินที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ก่อนจะเดินไปแต่งตัว หวังว่าซองมินคงไม่คิดมากเรื่องนี้หรอกนะ
---------------------------------------------
kr...Talk
มาแล้วจ้า ไรเตอร์กลับมาอีกครั้ง
เป็นงัยกันบ้างอีก50%ที่เหลือ
หวานกันไหมล่ะ คยูมินเราเริ่มพลิกล็อตวุ่นวาย
อยู่ๆก็ต้องกลายมาเป็นแฟนกัน
อย่าว่าแต่เรื่องวุ่นเลย ไรเตอร์ก็เริ่มงง
อยู่ๆก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว แล้วเราควรทำงัยต่อดี
มักเน่คยูของเราเรื่องนี้ไม่ค่อยหวานเลยเนอะ
ทำไมน้าาาาา?
มีความสุขกับการอ่านนะจ๊ะ
แล้วอย่าลืมเม้น+โหวต+ป่าวประกศให้คนอื่นรู้จักฟิคเรื่องนี้
เซงอิลซุกฮาฮัมนีดา เซงอิลซุกฮาฮัมนีดา
ซารางฮานึน ฮันเกิงชี
ขอให้ได้จับฮยอกกดทุกวัน
หรือขอให้ได้จับฮีกดทุกวัน
เอิ๊กอ๊ากตามประสา
คิดถึงเกิงสุดตีน
ความคิดเห็น