ลำดับตอนที่ #57
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : Part 24 : Would you marry me? ภาค 2 The End
Part 24 : Would you marry me?
อีกแค่เพียงวันเดียวเท่านั้นงานหมั้นของคยูฮยอนกับซองมินก็จะถูกจัดขึ้น สถานที่นั้นฮีชอลเป็นคนเลือกแล้วมันก็ไม่ธรรมดาเลย โซลทาวเวอร์ เป็นที่สาธารณะซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะจัดงานที่นี่ได้ ครอบครัวลีกับครอบครัวโจเลยทุ่มงบเต็มที่เพื่อจองสถานที่ส่วนเล็กๆส่วนหนึ่งของที่นี่สองวันเต็มๆ
บริเวณที่จัดงานหมั้นตอนนี้ดูวุ่นวายเล็กๆสำหรับผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ผู้ที่มีส่วนร่วมในงานตอนนี้กำลังช่วยกันเลือกคอนเซ็ปของงาน และตกลงกันได้ว่าจะจัดแบบเรียบง่าย และเชิญเฉพาะแขกที่รู้จักกันเท่านั้น โดยผู้ชายจะใส่ชุดสูทสีขาว ผู้หญิงใส่เดรสสีชมพูอ่อน ถึงจะดูเรียบง่ายแต่ก็มีความหรูหรา
ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันนี้บ้านตระกูลโจดูเงียบจนผิดปกติ เพราะคุณโจ คุณนายโจ รวมไปถึงเหล่าพ่อบ้านแม่บ้านหลายคนถูกเกณฑ์ไปช่วยดูแลและจัดการเรื่องงานหมั้นที่จะถูกจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้กันหมด
“ทำไมวันนี้บ้านเงียบจัง คนหายไปไหนกันหมด” ซองมินเดินลงมาชั้นล่าง ใช้สายตากวาดมองไปทั่วบ้านด้วยความแปลกใจ ตอนนี้ในบ้านเหลือแค่เพียป้าแม่บ้านคนสนิทของคยูฮยอนกับแม่บ้านอีกสองสามคนเท่านั้น
“คนอื่นไปช่วยงานคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายข้างนอกน่ะคะ” คุณป้าแม่บ้านตอบคำถามของซองมินแล้วยิ้มให้ ที่เธอไม่ไปช่วยงานกับคนอื่นๆเพราะเธอสนิทกับคยูฮยอนมากที่สุด คุณโจจึงสั่งให้เธอช่วยอยู่ดูแลที่บ้าน และคอยตอบคำถามต่างๆของซองมินไปในตัวด้วย
“ครับ” ซองมินพยักหน้าแล้วยิ้มตอบไปให้ก่อนจะเดินไปนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่น เขาไม่ได้สงสัยเลยว่าทำไมอยู่ๆถึงต้องเกณฑ์คนที่บ้านออกไปช่วยงาน ทั้งที่จะมีงานอะไรที่ไหนก็ๆไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ป่านนี้คนที่บ้านซองมินก็คงกำลังวุ่นอยู่กับการจัดงานหมั้นอยู่เหมือนกัน เพราะสถานที่ที่ฮีชอลเลือกให้นั้นไม่ธรรมดาเลย ส่วนคยูฮยอนนั้งยังไม่ตื่นจากที่นอนด้วยซ้ำ เพราะเมื่อมัวแต่เล่นเกมจนดึกดื่นลืมเวลานอนไป เขาก็อุตส่าห์รีบคุยกับฮีชอล แต่คยูฮยอนกลับหายออกไปตั้งสามชั่วโมง
และแล้ววันที่ซองมินกับคยูฮยอนรอคอยก็มาถึง ต่างคนก็ต่างรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในวันนี้ คยูฮยอนตื่นแต่เช้าโดยไม่ต้องรอให้ซองมินปลุกอย่างทุกๆวัน เขากะว่าวันนี้เขาจะเป็นคนปลุกซองมินบ้างแต่พอเขากลับเข้ามาในห้องกลับเห็นซองมินแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว แถมยังน่ารักมากซะด้วย ทั้งที่ก่อนที่เขาจะลงไปข้างล่างนั้นซองมินยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ
“แต่งตัวซะหล่อเลยนะ ฉันตกใจมากเลยที่ตื่นมาไม่เจอนาย นึกว่านายหายไปไหนซะอีก” ซองมินพูดไปก็ยิ้มไปพลางมองคยูฮยอนตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้คยูฮยอนดูดีมากจริงๆ
“ฉันกะว่าจะชวนนายไปเที่ยวน่ะ วันนี้กะว่าจะเป็นคนปลุกซักหน่อย” คยูฮยอนพูดไปก็ยิ้มไปเหมือนกัน เลยรู้สึกว่าวันนี้พวกเขาดูเขินๆกันยังไงก็ไม่รู้
“ฉันก็กะว่าจะชวนนายไปเที่ยวเหมือนกัน”
“เราใจตรงกันเลย” คยูฮยอนหัวเราะออกมาเบาๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังเขินอยู่จริงๆ คงเพราะวันนี้เขาต้องเซอร์ไพรส์ซองมินต่อหน้าทุกๆคน และคนอย่างเขาก็ไม่เคยทำอะไรที่มันโรแมนติกเท่าไหร่นัก พอนึกถึงว่าเขาจะต้องทำแบบนั้นมันเลยรู้สึกเขินขึ้นมา
“ลงไปกินข้าวกัน” ซองมินออกมาปากชวนแล้วจูงมือคยูฮยอนลงไปยังห้องอาหารที่แม่ครัวได้เตรียมอาหารไว้เรียบร้อย
มื้อเช้านี้ดูซองมินกับคยูฮยอนจะเจริญอาหารเป็นพิเศษ พูดคุยหยอกล้อกันดูมีความสุข เวลาที่ใช้ในการทานมื้อเช้าครั้งนี้เลยยาวนานกว่าทุกๆครั้ง ผลัดกันตักนู้นตักนี่ให้กันจนดูวุ่นวาย เสียงหัวเราะที่ฟังดูมีความสุขจึงขึ้นเป็นระยะ
“นายจะพาฉันไปเที่ยวไหนเหรอคยู” คุยกันมาก็ตั้งหลายเรื่อง แต่กลับไม่มีใครถามว่าอยากจะไปเที่ยวไหนกันซักที จนซองมินนึกขึ้นได้เลยถามออกมา
“แล้วนายอยากจะไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” คยูฮยอนถามกลับ เขามีที่ที่จะต้องพาซองมินไปอยู่แล้วแต่คงต้องรอช่วงเย็นๆ เพราะงานหมั้นของเขาจะถูกจัดขึ้นในช่วงเย็น ซึ่งช่วงนั้นโซลทาวเวอร์จะเปิดไฟไปทั่วทำให้มันดูสวยงามมาก
“ตอนเย็นฉันอยากไปที่โซลทาวเวอร์ ส่วนช่วงสายเราไปเดทกันนะ” ซองมินตอบกลับมาแล้วยิ้มหวาน ถ้าเขาต้องขอหมั้นคยูฮยอนจริงๆ เขาจะทำได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
“เริ่มจากไปดูหนังก่อน ถ้าไปโซลทาวเวอร์เราก็ไปหาซื้อกุญแจสวยๆ กัน” คยูฮยอนคิดวางแผนในสมองไว้เรียบร้อย โชคดีมากที่ซองมินอยากไปโซลทาวเวอร์วันนี้ ถึงมันจะดูบังเอิญไปหน่อยก็เถอะ
“อืม” ซองมินพยักหน้าแล้วยิ้มเหมือนเดิม ที่โซลทาวเวอร์ จะมีประเพณีอย่างนึงที่คู่รัก หรือเพื่อนรักกัน จะเอากุญแจ เขียนชื่อแล้วมาแขวนล็อกไว้ที่ราวระเบียงด้านล่างตึก เป็นนัยว่าจะได้ล๊อกความรักไว้ ให้อยู่คู่กันตลอดไป แล้วโยนลูกกุญแจทิ้งลงมาด้านล่าง เขาเองอยากจะทำแบบนี้มานานแล้วแต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปที่นั่นซักที
หลังจากตกลงกันได้ซองมินกับคยูฮยอนก็เริ่มรับประทานอาหารต่อ จากอาหารมื้อเช้าก็เกือบจะกลายเป็นอาหารมื้อเที่ยงไปเสียแล้ว กว่าทั้งสองจะได้ออกมาจากบ้าน ก็ปาเข้าเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า
คยูฮยอนกับซองมินมาที่โรงหนังของห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง หนังที่ดูนั้นซองมินเป็นคนเลือก เป็นการ์ตูนอะนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่กำลังดังอยู่ในขณะนี้ สำหรับคยูฮยอนนั้นอยากจะดูหนังแนวแฟนซีมากกว่า แต่วันนี้กลับไม่แย้งอะไรออกมาเลยซักคำ เพราะอยากตามใจซองมินให้เต็มที่
อีกเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าหนังจะเริ่มฉาย ซองมินเลยชวนคยูฮยอนไปหาของหวานกินระหว่างที่รอเวลา ทั้งที่เพิ่งกินข้าวเช้าออกมาจากบ้าน หลังจากหนังฉายจบประมาณสี่โมงเย็น คยูฮยอนกับซองมินจึงไปเดินหาซื้อกุญแจกันต่อ เพราะเวลาที่ฮีชอลได้นัดไว้คือตอนหกโมงเย็น
คยูฮยอนกับซองมินใช้เวลาเลือกกุญแจกันอยู่นานกว่าจะได้อย่างที่ต้องการ กุญแจของซองมินเป็นสีชมพูอ่อน ส่วนของคยูฮยอนนั้นเป็นสีเขียวใบตอง เมื่อได้ของครบตามที่ต้องการแล้วทั้งสองก็กลับไปที่รถเพื่อไปยังโซลทาวเวอร์ แต่ระหว่างทางที่กำลังเดินไปลานจอดรถนั้นได้ผ่านหน้าร้านเครื่องเพชร จำพวกสร้อยหรือแหวน คยูฮยอนจึงหยุดเดินแล้วมองเข้าไปในร้าน
“ฉันจะรอวันที่นายยอมหมั้นนะ” คยูฮยอนมองในร้านก่อนจะหันไปยิ้มให้ซองมิน พอเห็นแหวนเลยทำให้เขาอยากจะพูดอะไรออกมาเพื่อให้เหมือนกับว่าเขายังรอซองมินอยู่ แต่ถึงยังไงเย็นนี้ซองมินก็ต้องหมั้นกับเขาอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าซองมินจะไม่เต็มใจเท่าไหร่ก็ตามเถอะ
ซองมินไม่ได้ตอบอะไรออกมาเพียงแค่อมยิ้มเล็กน้อยเท่านั้น วันนี้แล้วล่ะคยูฮยอน เขาคงไม่ใจร้ายปล่อยให้คนที่รักรอนานไปกว่านี้ วันนี้แล้วที่เราจะได้แลกแหวนกัน
ภายในงานหมั้นระหว่างคยูฮยอนกับซองมินตอนนี้ทุกอย่างได้เตรียมการไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่เพียงรอคนสำคัญของงานมาถึงเท่านั้น ซุ้มดอกกุหลาบสีขาวแดงถูกตั้งไว้หน้างาน และถือว่าตรงนั้นคือจุดศูนย์กลางของงานด้วย งานถูกจัดขึ้นในส่วนเล็กๆของโซลทาวเวอร์เท่านั้น เพราะในที่สาธารณะแบบนี้ทำอะไรให้ใหญ่โตเกินไปมันก็ดูไม่ค่อยดี
“คงใกล้จะมากันแล้วสินะ” คุณนายลียกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู อีกเพียงสิบห้านาทีเท่านั้นก็จะถึงเวลาหกโมงเย็น ที่ฮีชอลได้นัดกับคยูฮยอนและซองมินไว้ เธออยากจะรู้มากว่าถ้าคยูฮยอนกับซองมินรู้ว่าทั้งสองครอบ
ครัวร่วมมือกันจัดงานนี้ขึ้นมาโดยทั้งหมดเป็นแผนของฮีชอล ลูกชายทั้งสองของเธอจะทำหน้ายังไง
“ผมว่าน่าจะมาแล้วล่ะครับ” คุณโจพูดขึ้นเมื่อเห็นรถของคยูฮยอนเลี้ยวเข้ามา เมื่อเห็นว่าคนสำคัญมาถึงแล้วทุกคนต่างแยกย้ายไปยืนในที่ของตัวเอง คู่รักประจำแก๊งยืนอยู่ด้วยกันเป็นคู่ๆ รวมไปถึงฮันคยองกับ
ฮยอกแจด้วย ที่โดนฮีชอลโทรตามให้มาร่วมงาน
คยูฮยอนลงจากรถเดินอ้อมไปเปิดประตูให้ซองมิน ยื่นมือไปให้ซองมินจับเหมือนกำลังกำลังเชิญเจ้าหญิงออกจากราชรถ ซองมินอมยิ้มจนแก้มปริก่อนจะยื่นมือไปให้คยูฮยอน แล้วทั้งสองก็ตรงเดินไปยังสถานที่จัดงานด้วยกัน ทั้งที่ไม่ได้นัดแนะกันไว้ด้วยซ้ำว่าจะไปส่วนไหนของโซลทาวเวอร์
เมื่อเดินใกล้เข้าไปยังสถานที่จัดงานคยูฮยอนกับซองมินก็หันมายิ้มให้กัน ซึ่งต่างคนต่างคิดว่าจะสร้างความประหลาดใจให้อีกคน แต่ผลที่ได้กลับคือรอยยิ้มที่หวังว่าจะได้เห็นสีหน้าที่แสดงความตกใจของอีกคน
“สำหรับนายซองมิน” คยูฮยอนยิ้มกว้างและมองเข้าไปภายในงานที่มีทุกคนรอรับด้วยรอยยิ้มอยู่แล้ว ตอนนี้เขาทั้งสองคนยืนอยู่ที่หน้างานเรียบร้อยแล้ว
“สำหรับฉันเหรอ” ซองมินขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคยูฮยอนพูดออกมาแบบนี้ นี่มันเป็นงานหมั้นที่เขาจัดเพื่อคยูฮยอน แต่ทำไมคยูฮยอนถึงได้พูดว่างานนี้สำหรับเขา
“นี่เป็นงานหมั้นของเรานะซองมิน” คยูฮยอนยังคงพูดต่อไปด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าที่ดูแปลกใจของซองมิน
“งานหมั้นนี้สำหรับนายต่างหากล่ะคยูฮยอน นายพูดอย่างกับว่ารู้ว่าฉันจะจัดงานนี้ขึ้นมาอย่างนั้นแหละ” ซองมินยืนกอดอก คิ้วยังคงไม่คลายปมออก พลางมองเข้าไปในงาน ทุกคนส่งยิ้มกลับมาให้เขาและหนึ่งในนั้นก็คือฮีชอลที่กำลังหัวเราะอยู่
“รู้ว่านายจัดเหรอ งานนี้ฉันเป็นคนจัดต่างหากล่ะซองมิน นี่มันยังไงกัน” คยูฮยอนชักเริ่มจะงงกับเหตุการณ์นี้เสียแล้ว เขามองเข้าไปในงานเห็นเพื่อนๆและครอบครัวส่งยิ้มมาให้ แต่เมื่อมองไปที่ฮีชอลแล้วกลับเห็นเขากำลังหัวเราะชอบใจ
“พี่ฮีชอล” ซองมินพูดน้ำเสียงเหมือนกำลังโกรธอยู่ หน้าบึ้งๆตอนนี้มองไปที่ฮีชอลเขม็ง สุดท้ายเขากับคยูฮยอนก็โดนฮีชอลปั่นหัวเล่นจนได้ แสดงว่างานหมั้นก็เกิดจากความร่วมมือของทุกๆคนเลยล่ะสิ
“ว่าแล้วว่ามันแปลกๆ สรุปว่าโดนเซอร์ไพรส์กันทั้งคู่เลยใช่มั้ยเนี่ย” เมื่อรู้ความจริงคยูฮยอนก็ทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา เขาคิดว่ามันแปลกๆตั้งแต่ที่ฮีชอลโทรมาแล้ว แถมวันนี้ซองมินดันอยากมาที่โซลทาวเวอร์นี่อีก เหมือนกับว่ารู้ว่าเขาจะพามายังไงยังงั้น
“แสดงว่างานหมั้นนี้นายเป็นคนจัดใช่มั้ย” ซองมินหันไปถามคยูฮยอนเมื่อฟังจากที่คยูฮยอนพูดแล้ว
“นายเองก็เป็นคนจัดงานหมั้นนี้เหมือนกัน” คยูฮยอนไม่ได้ตอบคำถามแต่ถามกลับไปแทน สรุปคือเขาทั้งสองคนร่วมกันจัดงานหมั้นของตัวเองขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัวเลย
“ก็ฉันคิดว่านายไม่อยากจะหมั้นกับฉันแล้วนี่นา นายทำเหมือนไม่สนใจเรื่องหมั้นแล้วอย่างนั้นแหละ” ในที่สุดซองมินก็สารภาพออกมาก่อน ใบหน้าหวานดูเศร้าลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
“ใครว่าฉันไม่อยากหมั้นกับนายล่ะ ที่ฉันทำเป็นไม่สนใจเรื่องหมั้นก็เพื่อทำให้นายสนใจเรื่องหมั้นและยอมหมั้นกับฉัน และเมื่อฉันพานายมาที่นี่ฉันก็จะขอนายหมั้นต่อหน้าทุกคน ถึงนายจะไม่อยากหมั้นแค่ไหน แต่คนนิสัยอย่างนายถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้แล้วก็ต้องยอมตกลงหมั้นอย่างแน่นอน” แล้วคยูฮยอนก็สารภาพทุกอย่างออกมาบ้าง ถึงสิ่งที่เขาพูดมันอาจจะดูเหมือนเห็นแกตัวไปหน่อย เหมือนกับเขาต้องบังคับให้ซองมินยอมหมั้น แต่เขาเชื่อว่าซองมินต้องยอมตกลงหมั้นอย่างเต็มใจ
ซองมินไม่ได้ตอบอะไรกลับมา มีเพียงแค่รอยยิ้มบางๆเท่านั้น
“ซองมิน....มะ...”
“เดี๋ยวๆๆๆ!!!!” ยังไม่ทันที่คยูฮยอนจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ เหล่าเพื่อนๆที่ยืนฟังกันอยู่ในงานก็รีบวิ่งออกมาห้ามซะก่อน ก็คยูฮยอนกำลังจะขอซองมินหมั้นแล้ว แต่ยังไม่ได้ก้าวเข้ามาในงานเลย แล้วไปขอหมั้นกันตรงนั้นใครเค้าจะไปได้ยิน แบบนี้ก็ไม่มีสักขีพยานน่ะสิ
“อย่าเพิ่งพูดนะ เข้าไปในงานก่อน พูดต่อหน้าทุกคนเลย” ฮีชอลคนที่เจ้ากี้เจ้าการจัดการเรื่องทุกอย่างเป็นคนลากคยูฮยอนกับซองมินเข้าไปภายในงาน พร้อมกับจัดตำแหน่งการยืนให้เรียบร้อย
“ที่นี่ก็เริ่มได้” เมื่อจัดการทุกอย่างลงตัวแล้วฮีชอลก็ออกปากสั่งทันที ฉากนี้แหละที่เขาอยากจะดูที่สุด
“ผมก็เขินเป็นนะ พี่ฮีชอล!” ซองมินทำเสียงดังใส่กลบเกลื่อนอาการเขิน อยู่ๆถูกขอหมั้นต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้มันก็ต้องรู้สึกเขินเป็นธรรมดา ถึงคนที่มานั้นจะเป็นคนรู้จักหมดก็ตาม ถ้าเกิดให้เขาเป็นฝ่ายขอ
คยูฮยอนเองเขาคงไม่กล้าแน่ๆ
“ทีตอนที่พี่บอกให้นายเป็นคนขอคยูฮยอนหมั้นเองนายยังตอบตกลงเลย ทีแบบนี้มาทำเขิน” แล้วฮีชอลขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาแซวซองมินจนได้
“เลิกเถียงกันได้แล้ว ฮีชอลนายก็อย่าไปแซวน้องสิ” ลีทึกรีบห้ามไว้ก่อนที่ฮีชอลกับซองมินจะเถียงกันไปไกลมากกว่านี้ วันนี้เป็นวันดีของซองมิน ต้องให้ความสำคัญกับคนสำคัญของงานหน่อย
“นี่แหวนจ๊ะ” คุณนายทั้งสองของตระกูลลีกับตระกูลโจเดินเข้าไปหาลูกชายของตัวเองและยื่นแหวนให้คยูฮยอนกับซองมิน
แหวนของคยูฮยอนที่จะให้ซองมินนั้นเป็นแหวนทองเรียบๆ ไม่มีลวดลายใดๆ ส่วนแหวนของซองมินที่จะแลกกับคยูฮยอนก็มีลักษณะเดียวกัน แต่เป็นแหวนเงิน
ตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงรถราหรือเสียงพูดคุยของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น ทุกคนที่อยู่ในงานต่างกำลังจดจ่ออยู่คนสำคัญของงานในค่ำคืนนี้
“หมั้นกับฉันนะซองมิน” คยูฮยอนคุกเข่าลงต่อหน้าซองมิน มือข้างซ้ายยื่นไปตรงหน้า ส่วนมือข้างขวาถือแหวนเอาไว้ สายตาที่ดูมุ่งมั่นนั้นทำเอาซองมินใจเต้นไม่เป็นส่ำ ตลอดเวลาที่คบกันคยูฮยอนซองมินไม่เคยรู้สึกว่าขาดอะไรเลยจริงๆ
ซองมินยืนมองคยูฮยอนอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้กลับมาเลย จนเหล่าพ่อแม่และครอบครัวเริ่มจะอยู่ไม่เป็นสุข เพราะกลัวจะซองมินเปลี่ยนใจไม่ยอมรับหมั้นคยูฮยอนอีก
“อยู่กับฉันตลอดไปนะคยู” ซองมินยื่นมือข้างไปซ้ายไปให้คยูฮยอนสวมแหวน แล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข มื่อคยูฮยอนค่อยๆดันแหวนใส่เข้าไปในนิ้วนางของเขา
“ฉันจะไม่มีวันทิ้งนายไปไหนเด็ดขาด” คยูฮยอนประทับริมฝีปากลงบนหลังมือของซองมินก่อนจะยืนขึ้น ทั้งคู่หันมายิ้มให้กันจนคนที่ยืนมองชักจะเริ่มอิจฉา
ซองมินจับมือของคยูฮยอนขึ้นมาแล้วทำการสวมแหวนให้คยูฮยอน แหวนเงินถูกใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของคยูฮยอนทีละนิด หลังจากแลกแหวนกันเสร็จซองมินก็อมยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะเขย่งตัวไปจูบที่ปากของคยูฮยอนเบาๆ โดยลืมไปเลยที่นี่มันที่สาธารณะ และมีครอบครัวกับเพื่อนๆที่กำลังมองดูอยู่
“วิ๊ดวิ๊ว!! ฮู้ว! หวานไปแล้ว!!” เมื่อเห็นฉากสวีทตรงหน้าเมื่อก็ร้องแซวกันยกใหญ่ ทั้งที่ซองมินบอกว่าเขินแต่กลับเป็นฝ่ายเข้าไปจูบคยูฮยอนซะอย่างนั้น
เหมือนว่าซองมินเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป คนหน้าหวานเลยรีบปิดหน้าแดงๆของตัวเองทันที ส่วนคยูฮยอนก็เอาแต่หัวเราะชอบใจอย่างเดียว
“อยากหมั้นบ้างๆ” ดงเฮพูดออกมาเหมือนเด็กที่อยากได้ของเล่น แต่หน้าตากลับยิ้มเหมือนแค่อยากจะแซวเพื่อนเล่นซะมากกว่า ยิ่งเห็นคยูฮยอนกับซองมินได้หมั้นกันแล้ว เขาอยากให้พ่อกับแม่ของคิบอมกลับมาจากอเมริกาเร็วๆ จะได้หมั้นบ้าง
“ฉันก็อยากมีความสุขแบบนี้บ้างอ่ะคังอิน” ลีทึกหันไปทำท่าออดอ้อนใส่คังอิน เห็นน้องแล้วอิจฉา ตัดหน้าหมั้นก่อนเขาไปซะแล้ว
“เยเย่รีบทำให้พ่ออุกกี้ยอมรับเร็วๆสิ อุกกี้ก็อยากหมั้นเหมือนกันนะ” เรียวอุกก็หันไปอ้อนเยซองกับเขาบ้าง เหมือนกับว่าอาการอยากหมั้นเป็นโรคติดต่อของเหล่าแก๊งหน้าหวานไปเสียแล้ว
“เราจะหมั้นกันตอนไปหนดีล่ะซีวอน ตอนนี้เลยดีมั้ย” ฮีชอลซบลงที่ไหล่ของซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน เหมือนเป็นการพูดให้คนอื่นได้อิจฉาเขากับซีวอนอีกคู่ เพราะเรื่องหมั้นนั้นเขากับซีวอนไม่มีปัญหาเลยซักนิด เพียงแค่เขาบอกว่าอยากจะหมั้น ซีวอนก็จะจัดการให้ทันที
“ตามใจพี่เลยครับ ผมพร้อมเสมอ” ซีวอนเองก็รับมุขฮีชอลได้ดีไม่แพ้กัน ก่อนจะหัวเราะออกมาทั้งคู่ สมแล้วที่เป็นแฟนกันเข้าขากันได้ดีจริงๆ
“แล้วนายไม่อยากหมั้นเหมือนคนอื่นบ้างเหรอ ฉันก็พร้อมเสมอนะ” ฮันคยองพูดขึ้นบ้าง ก่อนจะหันไปยิ้มให้ฮยอกแจ ถึงจะคบกันได้แค่วันเดียวก็ไม่เป็นไร เขาไม่ซีเรียส
“แต่ฉันยังไม่พร้อม อย่ามาทำตัวไวไฟนะ” ฮยอกแจทำเสียงดุ เพิ่งตกลงคบไปได้แค่เพียงวันเดียวนั้นก็มาพูดเรื่องหมั้นซะแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ รอได้” ฮันคยองยังคงพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตอนนี้เขามีความสุขจริงๆ
“พวกเราเตรียมกุญแจกันมาหรือเปล่า” ฮีชอลตะโกนถามออกมา มาที่โซลทาวเวอร์ก็ต้องมาคล้องกุญแจกับคนรัก เหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกที่นี่เป็นสถานที่จัดงานก็เพราะที่นี่มีประเพณีดีๆแบบนี้นี่แหละ
สิ้นเสียงของฮีชอลทุกคนก็หยิบกุญแจของตัวเองออกมาอวดมาโชว์ ซึ่งแบบหรือลวดลายกุญแจของแต่ละคนนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลยทีเดียว
และกิจกรรมต่อไปของวันนี้ก็คือการไปคล้องกุญแจกับคู่รัก คู่รักแต่ละคู่ในแก๊งแตกต่างแยกย้ายกันไปหามุมของตัวเอง สลับกันเขียนชื่อไว้ที่แม่กุญแจ หยอกล้อกันจนน่าอิจฉา จนฝ่ายผู้ใหญ่แอบหลบไปหามุมของตัวเองบ้าง
“วาดรูปหัวใจตรงนี้ด้วยนะ” เรียวอุกจิ้มไปที่แม่กุญแจของตัวเอง ให้เยซองเป็นคนวาดให้ จริงๆเขากะว่าจะเอาโซ่ล็อกรถจักรยานมาเลยด้วยซ้ำ เขากับเยซองจะได้รักกันอย่างยาวนานและไม่สามารถมีอะไรมาทำลายได้
“อุกกี้ก็วาดให้เยเย่บ้างสิ” เมื่อเขียนชื่อเสร็จ เยซองก็ยื่นแม่กุญแจของเขาไปให้เรียวอุกวาดให้บ้าง ชีวิตทุกวันนี้ของเขามีความสุขที่สุดแล้ว ถึงจะยังไม่เป็นที่ยอมรับของพ่อกับแม่เรียวอุก แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้ถูกกีดกัน
“ห้ามเก็บลูกกุญแจไว้นะ ทิ้งมันไปเลย” คู่คิบอมกับดงเฮเป็นคู่แรกที่ล็อกกุญแจเสร็จแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นการโยนลูกกุญแจลงไปด้านล่าง แต่ดงเฮกลับเห็นคิบอมทำท่าเหมือนจะเก็บลูกกุญแจไว้เลยรีบเข้าไปแย่งลูกกุญแจไว้
“ทำไมล่ะครับ” คิบอมทำหน้าสงสัย เมื่อโดนดงเฮแย่งลูกกุญแจไป เขาก็แค่อยากจะเก็บมันไว้เป็นที่ระลึกเฉยๆเท่านั้น
“ถ้าเก็บลูกกุญแจไว้ก็เหมือนกับว่าเราจะต้องมาไขมันออกน่ะสิ นั่นหมายความว่าเราจะเลิกกันเข้าใจมั้ย ฉะนั้นต้องโยนมันทิ้งไปซะ” พูดจบดงเฮก็โยนลูกกุญแจทิ้งลงไปข้างล่าง เขาไม่เก็บไว้ให้มันรู้สึกระคายเคืองใจ ถึงสิ่งที่เขาพูดมันจะจริงหรือไม่จริงก็ตาม
“ผมไม่มีวันทิ้งด๊องไปไหนหรอกน่า กังวลไปได้” คิบอมเข้ามากอดดงเฮไว้แล้วแอบหอมแก้มหอมๆนั่นไปหนึ่งฟอดใหญ่ อยู่กับดงเฮแล้วมีความสุขมากขนาดนี้ ถ้าเขาทิ้งความสุขของตัวเองไปคงโง่เต็มที
“ขอให้คังอินขอผมหมั้นเร็วๆด้วยเถอะ” ลีทึกพูดขึ้นขณะที่กำลังล็อกกุญแจไว้กับรั้ว มันเป็นเหมือนกับการขอพรจากพระเจ้า แต่จริงๆแล้วเขาอยากจะให้คังอินได้ยินซะมากกว่า ยังไงเขาก็ยังติดใจเรื่องนี้อยู่ ยอมไม่ได้หรอกที่โดนรุ่นน้องหมั้นตัดหน้าไป
คังอินลอบยิ้มเมื่อได้ยินลีทึกพูดแต่ทำเป็นไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาล็อกกุญแจของตัวเองกับลีทึกไป ไม่ได้เงยหน้าหันไปมองแฟนตัวเองเลยซักนิดว่าตอนนี้หน้าบูดไปถึงไหนแล้ว ที่โดนทำเมินใส่
“ถ้านายไม่ขอฉันหมั้น ฉันจะขอนายเองนะคังอิน” ลีทึกบอกเสียงงอนๆ หน้าตาบึ้งตึงจ้องไปที่คังอินเขม็ง งานนี้เขาเองจริง
“รอฉันอีกนิดนะลีทึก ไม่นานเกินรอ ฉันจะเป็นคนขอนายเอง” คังอินจับมือลีทึกมากุมไว้ ตอนนี้เขากำลังเก็บเงินซื้อแหวนอยู่ มันคงต้องใช้เวลาซักหน่อย เพราะเขาไม่อยากรบกวนทางบ้าน
“จริงๆนะคังอิน” ลีทึกในวันนี้ดูเหมือนเด็กซึ่งต่างจากทุกที แต่มันก็ดูน่ารักไม่น้อยเลยที่นานๆทีลีทึกจะยอมทำตัวเป็นเคะที่น่ารักให้คังอินได้ปกป้องได้อย่างเต็มที่บ้าง
“เชื่อฉันสิ” คังอินก้มลงไปจูบลีทึกเบาๆที่มุมปาก แล้วผละออก เขาจะเป็นสามีที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
คู่ซีวอนกับฮีชอลดูจะเป็นคู่ที่ไม่มีการงอนง้อหรือออดอ้อนกันมากที่สุด และดูเป็นผู้ใหญ่กว่าทุกๆคน ฮีชอลเขียนชื่อลงในกุญแจแล้วให้ซีวอนเป็นคนล็อก ซีวอนเองก็เช่นกันเขียนชื่อใส่กุญแจและให้ฮีชอลเป็นคนล็อก ถึงความรักของคนคู่นี้จะไม่ได้หวานซึ้งอะไรมากมาย แต่คบกันด้วยความเข้าใจ ใช้ภาษากายเป็นตัวสื่อความหมายแทนคำพูด
“นายอย่ามาเติมของฉันสิ” ฮยอกแจตีที่มือฮันคยองเบาๆ เมื่อฮันคยองเอาปากกามาวาดที่กุญแจของเขา
“ต่อจากชื่อนายต้องเป็นรูปหัวใจแล้วมีชื่อฉันด้วยสิ แบบนี้ไง” ฮันคยองชูกุญแจของตัวเองให้ฮยอกแจดู ต่อจากชื่อของเขาเป็นรูปหัวใจและมีชื่อของฮยอกแจตามหลัง
“เรื่องมากจริง” ฮยอกแจบ่นเล็กน้อยแต่ก็ทำตามแต่โดยดี วาดรูปหัวใจแล้วเขียนชื่อของฮันคยองตามหลัง
คนคู่นี้หลังจากที่ตกลงคบกันแล้วฮยอกแจก็กลับมาอยู่ในสภาพปกติ คือไม่ได้ทำตัวเคะน่ารักจนเกินไป และมีการเถียงกันบ้างพอเป็นสีสันให้ชีวิตไม่น่าเบื่อกันไป
“เชื่อฟังง่ายๆแบบนี้สิ” ฮันคยองพูดอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นฮยอกแจทำตามที่ตัวเองบอก ก่อนที่ทั้งสองคนจะไปเดินหามุมเหมาะๆเพื่อล็อกกุญแจด้วยกัน
“ตรงนี้ดีมั้ย” ซองมินชี้ไปยังที่ว่างแถวด้านล่างของรั้วแล้วหันไปถามคยูฮยอนที่ยืนด้านหลัง เพื่อจะได้นำกุญแจไปล็อกตรงนั้น
“อืม” คยูฮยอนพยักหน้าแล้วเดินเข้ามากอดคอซองมิน
ทั้งสองคนนั่งลงข้างๆกัน ก่อนจะนำกุญแจมาคล้องเกี่ยวกันแล้วนำไปล็อกไว้กับรั้ว คยูฮยอนจับมือซองมินไว้แล้วกดล็อกกุญแจพร้อมกัน เมื่อเสร็จเรียบร้อยจึงหันมายิ้มหวานให้กัน วันนี้เขาทั้งสองยิ้มให้กันจนนับครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว
“ไปหาเพื่อนกันเถอะ” ซองมินหันไปหาคยูฮยอน ตอนนี้หน้าของทั้งสองคนห่างกันแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น ริมฝีปากที่ดูยั่วยวนของซองมินเผยยิ้มออกมาแล้วมันก็ทำให้คยูฮยอนอดใจไม่ไหว
คยูฮยอนเลื่อนริมฝีปากไปประกบจูบซองมินโดยไม่ต้องคิดอะไรให้เสียเวลา ไม่สนใจด้วยว่าตอนนี้จะมีใครมองพวกเขาอยู่หรือเปล่า ริมฝีปากของซองมินเผยออกให้คยูฮยอนดันลิ้นเข้าไปได้อย่างง่ายดาย คยูฮยอนยกมือขึ้นกดท้ายทอยซองมินเข้าหาตัวเองและบดเบียดริมฝีปากมากขึ้น
“อะแฮ่ม!” เสียงไอกระแอ้มดังขึ้นพร้อมกันเมื่อเหล่าสมาชิกแก๊งทุกคนเดินมาเห็นฉากสวีทของคู่หมั้นคู่นี้อีกแล้ว
“ชอบมาขัดจังหวะกันจริงเลย” คยูฮยอนถอนริมฝีปากออกมาแล้วบ่นอย่างเสียดาย ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้โดนเพื่อนขัดตอนที่กำลังมีความสุขทุกที
“เกรงใจกันนิดนึงนี่มันที่สาธารณะ” ลีทึกพูดขึ้น
“ทำเป็นพูดไป เมื่อกี้ผมก็เห็นพี่คังอินจูบพี่เหมือนกันนั่นแหละ” ซองมินสวนกลับทันควัน เพราะเขาดันหันไปเห็นช่วงที่คังอินก้มลงไปจูบลีทึกพอดี ถ้ารุ่นพี่ทำได้แล้วทำไมรุ่นน้องจะทำไม่ได้
เสียงหัวเราะของเหล่าหนุ่มๆดังขึ้นอีกครั้งเมื่อซองมินพูดจบ เขาว่ากันว่ารุ่นพี่เป็นยังไงรุ่นน้องก็มักจะเป็นแบบนั้น
“เราไปโยนลูกกุญแจกันเถอะคยู” ซองมินดึงคยูฮยอนให้ลุกขึ้น ทั้งสองมองลงไปยังด้านล่างที่มีลูกกุญแจอยู่เต็มไปหมด แล้วคนอื่นก็เดินเข้ามายืนเรียงรายตรงรั้วที่จัดไว้ให้และมองลงไปด้านล่างเช่นกัน
ซองมินกับคยูฮยอนนำลูกกุญแจมาคล้องไว้ด้วยกันก่อนจะโยนมันลงไป มือทั้งสองคนประสานกันไว้แน่นก่อนจะหันมายิ้มให้กันอีกครั้ง
เวลาคือสิ่งที่ช่วยเยียวยาทุกอย่าง วันเวลาที่เปลี่ยนไปก็เปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างไปด้วย เปลี่ยนความชังเป็นความชอบ และเปลี่ยนความชอบเป็นความรัก
“Would you marry me?” เสียงคยูฮยอนถามขึ้นเมื่อทุกคนเงียบลง
ทุกสายตาหันไปโฟกัสที่คยูฮยอนทันทีเมื่อได้ยินเพราะคู่นี้เพิ่งจะหมั้นกันได้ไม่ถึงชั่วโมง คยูฮยอนก็รุกหน้าต่อ โดยการขอแต่งงานเสียแล้ว
“Yes, I do.”
----------------------------------------------------------
kr...Talk
กลับมาแล้วสำหรับตอนจบที่ทุกคนรอคอย
สำหรับสเปเชียลที่ลงในหนังสือก็จะลงในนี้ให้เหมือนกัน
เพราะความรักที่เหนียวแน่นของรีดเดอร์ทุกคน
จะปิดฉากลงแล้วสำหรับรักวุ่นๆชุลมุนยกแก๊งทั้ง 2 ภาค
ขอขอบคุณรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนที่ติดตามผลงานของพวกเรา
ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องใหม่ทั้ง 2 เรื่องด้วยนะ รับรองสนุกไม่แพ้เรื่องนี้แน่นอน
และที่มาอัพช้าก็เนื่องจากช่วงนี้ไรเตอร์ยุ่งมากๆ
ติดกีฬาสีของโรงเรียนแล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตอีก
ส่วนใครไปคอนมาก็มาเม้า มาบอกกันได้นะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านน้า~
เจอกันตอนสเปเชียลจ้า
----------------------------------------------------------
kr...Talk
กลับมาแล้วสำหรับตอนจบที่ทุกคนรอคอย
สำหรับสเปเชียลที่ลงในหนังสือก็จะลงในนี้ให้เหมือนกัน
เพราะความรักที่เหนียวแน่นของรีดเดอร์ทุกคน
จะปิดฉากลงแล้วสำหรับรักวุ่นๆชุลมุนยกแก๊งทั้ง 2 ภาค
ขอขอบคุณรีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนที่ติดตามผลงานของพวกเรา
ยังไงก็ขอฝากฟิคเรื่องใหม่ทั้ง 2 เรื่องด้วยนะ รับรองสนุกไม่แพ้เรื่องนี้แน่นอน
และที่มาอัพช้าก็เนื่องจากช่วงนี้ไรเตอร์ยุ่งมากๆ
ติดกีฬาสีของโรงเรียนแล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตอีก
ส่วนใครไปคอนมาก็มาเม้า มาบอกกันได้นะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านน้า~
เจอกันตอนสเปเชียลจ้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น