คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : Chapter 20 : เราสามคน
Chapter 20 : เราสามคน
การสอบที่เคร่งเครียดสิ้นสุดลงแล้ว บรรยากาศในมหาวิทยาลัยกลับมาดูคึกคักเช่นเดิมเมื่อเหล่านักศึกษาเริ่มกลับมาทำกิจกรรมกันอีกครั้งหลังจากที่ใช้เวลากว่าสองสัปดาห์กับการอ่านและท่องจำหนังสือ
และถึงแม้ว่าคำสั่งของคิงอีทึกจะสิ้นสุดไปนานแล้วเช่นกัน แต่คยูฮยอนกลับเดินมารับซองมินที่หน้าคณะจนมันกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว เรียวอุกที่เดินลงมาพร้อมซองมินเลยต้องบ่ายเบี่ยงให้ซองมินกลับไปก่อนอีกเช่นเคย เพราะไม่อยากไปอยู่เป็นก้างขวางคอ
ระหว่างทางที่เดินกลับหอซองมินก็ชวนคยูฮยอนคุยไปเรื่อยเปื่อยเพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบจนเกินไป แต่เสียงโทรศัพท์ของคยูฮยอนกลับดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน รูมเมทตัวสูงหยิบมือถือของตนขึ้นมาก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นชื่อที่โชว์อยู่
“ว่าไง”
(พี่คยูฮยอน ออกไปทานข้าวกันมั้ยคะ) ปลายสายตอบกลับมาอย่างร่าเริงจนคนฟังชักรู้สึกหมั่นไส้ในน้ำเสียง ไม่รู้ไปอารมณ์ดีมาจากไหนกัน
“วันนี้เหรอ” ถามกลับไปอย่างไม่แน่ใจนัก ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรหาไหงวันนี้ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบของเขาถึงโทรมาได้ เพราะหลังจากที่เจอกับซันนี่ที่ผับวันนั้นก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกลับมาอีก
(ใช่ค่ะ วันนี้และก็ตอนนี้เลย ออกมาทานข้าวกับซันนี่หน่อยนะ ตอนนี้รออยู่หน้ามหาลัยเรียบร้อยแล้ว) ซันนี่ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เป็นการดักทางไม่ให้คยูฮยอนได้มีสิทธิ์ปฏิเสธ หวังว่าพี่ชายเธอคงไม่ใจร้ายให้ยืนรอเก้อ ไม่งั้นจะบุกเข้าไปถึงหอเลย
คยูฮยอนอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะตอบตกลงหรือปฏิเสธดี เลยได้แต่เหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ถ้าไม่ติดว่ามีซองมินอยู่ด้วยเขาคงตอบตกลงไปแล้วเพราะไม่อยากให้ซองมินเจอกับซันนี่อีก ไม่งั้นคงวุ่นวายเหมือนตอนเจอกันที่ผับ
“มีอะไรหรือเปล่าคยูฮยอน” เห็นรูมเมทตัวเองทำหน้าหนักใจซองมินเลยอดที่จะถามไม่ได้ แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเสียงแหลมๆก็ดังออกมาจากโทรศัพท์จนคยูฮยอนดึงมือถือออกจากหูแทบไม่ทัน
(อ๊ายยย!!! พี่ซองมินก็อยู่ตรงนั้นด้วยเหรอคะ!! งั้นดีเลยคะ พาพี่ซองมินมาด้วยนะคะพี่คยูฮยอน แล้วซันนี่จะรอ แค่นี้นะคะ) พูดจบซันนี่ก็วางหูไปทันที คยูฮยอนเลยได้แต่ยืนมองโทรศัพท์ตัวเองสลับกับหน้ารูมเมท แบบนี้เรียกว่าโดนซันนี่มัดมือชกได้หรือเปล่า
“ซันนี่โทรมาชวนไปกินข้าวด้วยกันน่ะ” เงียบไปซักพักคยูฮยอนจึงพูดออกมา
“ก็ไปสิ” แทบจะไม่ต้องคิดซองมินก็ตอบออกไปทันที แต่คยูฮยอนกลับทำหน้าเหมือนไม่อยากไปซะอย่างนั้น
“ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ” เห็นคยูฮยอนทำนิ่งซองมินเลยต้องถามออกมา น้องสาวโทรมาชวนไปทานข้าวด้วยกันทั้งทีไม่ดีใจเลยหรือไง
“งั้นก็รีบไปเถอะ ตอนนี้ซันนี่รออยู่หน้ามหาลัย” เพราะหาเหตุผลอะไรมาแก้ตัวไม่ได้คยูฮยอนจึงต้องยอมไปแต่โดยดี จะบอกว่าไม่อยากไปเจอความวุ่นวายมันก็ยังไงอยู่ ที่ซันนี่ที่โทรมาชวนออกไปแบบนี้ก็เพราะอยากเจอซองมิน ถ้าเป็นแบบตอนอยู่ในผับอีกเขาคงต้องปวดหัวแน่
พอได้รับคำตอบจากคยูฮยอนซองมินก็ออกเดินนำหน้าไปทันที ท่าทางนั้นดูร่าเริงขึ้นมาจนคยูฮยอนชักรู้สึกหงุดหงิด คงจะดีใจสินะที่จะได้เจอซันนี่น่ะ
“พี่ซองมิน!!” เพียงแค่เห็นว่าคนที่รอเดินเข้ามาใกล้ซันนี่ก็รีบโผเข้าไปกอดทันที ไม่ได้มีความเกรงใจพี่ชายตนเองที่ยืนอยู่ข้างๆเลยแม้แต่น้อย
“มากไปๆ” คยูฮยอนดึงซันนี่ให้ปล่อยซองมินออก เป็นสาวเป็นนางมายืนกอดผู้ชายแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน ส่วนรูมเมทเขาก็ยืนนิ่งให้กอด คงจะชอบใจล่ะสิท่า ดูยิ้มเข้า
“สวัสดีครับ” ซองมินทักทายไปตามมารยาทพร้อมกับยิ้มกว้างทำเอาซันนี่ชอบใจใหญ่ แต่คงไม่ใช่กับ
คยูฮยอนเมื่อน้องสาวตัวแสบทำท่าจะโผเข้าหาซองมินอีกรอบ
“หยุดเลยซันนี่ จะไปกินมั้ยข้าวน่ะ” คยูฮยอนเดินเข้ามาขาวงซันนี่เอาไว้ พูดด้วยน้ำเสียงที่ชักเริ่มจะฉุนขึ้นมา เจอกันไม่เห็นจะทักเขาซักคำ
“ไปสิคะ ไปกันเถอะค่ะพี่ซองมิน” ตอบคยูฮยอนก่อนจะคว้าแขนซองมินมากอดไว้แล้วพาเดินไปหน้าตาเฉย คยูฮยอนได้แต่ถอนหายใจออกมายาวพรืด สงสัยเขาจะกลายเป็นหมาหัวเน่าซะแล้วงานนี้
ใช้เวลาเดินไม่นานนักก็มาถึงร้านที่ซันนี่เลือกเอาไว้ คนที่ควงกันมาเป็นคู่นั่งลงข้างๆกัน ส่วนคนที่เดินมาอย่างโดดเดี่ยวนั้นนั่งฝั่งตรงข้าง ซันนี่ยังคงทำท่าทางรื่นเริงอยู่ตลอดเวลา ซองมินเองก็เอาแต่ยิ้มอย่างเดียว เพราะเอ็นดูในความน่ารักแบบเด็กๆของซันนี่
เมนูอาหารมากมายถูกสั่งมาเสิร์ฟไว้บนโต๊ะโดยที่ซันนี่เป็นคนเลือกและเป็นเจ้ามือมื้อนี่เอง เสียงเจื้อแจ้วของน้องสาวคนเดียวในที่นี่ดังออกมาเป็นระยะ โดยที่มีคนช่างพูดอีกคนเป็นคนตอบ ส่วนรูมเมทตัวสูงอีกคนนั้นได้แต่นั่งมองอย่างเซ็งๆ คุยกันอยู่แค่สองคนแล้วแบบนี้จะเอาเขามาด้วยทำไม
“พี่ซองมินมีแฟนหรือยังคะ” คุยกันเรื่องเรื่อยเปื่อยไปได้ซักพักใหญ่ซันนี่ก็ถามประโยคเด็ดออกมา ที่ทำเอาคนที่นั่งฟังอยู่หูผึ่งขึ้นมาทันที
“ยังครับ” ซองมินตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอีกเช่นเคย แต่ถ้าเกิดซันนี่มาถามตอนที่เขาต้องเล่นเป็นแฟนกับคยูฮยอนอยู่ก็คงไม่รู้จะตอบออกไปยังไงเหมือนกัน
“จริงเหรอคะ น่ารักแบบนี้ไม่มีแฟนได้ไง งั้นเป็นแฟนกับซันนี่มั้ยคะ” ซันนี่ขอออกมาแบบตรงๆโดยไม่คิดจะอ้อมค้อมแต่อย่างใด ถึงคำพูดเธออาจจะดูเหมือนเล่นๆ แต่เธอจริงจัง
ได้ฟังแบบนี้ซองมินก็หันไปมองหน้าคยูฮยอนที่ดูจะมีสีหน้าตกใจมากกว่าเขาเสียอีก ขอกันแบบนี้แล้วจะให้เขาตอบว่ายังไงล่ะเนี่ย
“ซันนี่! พูดอะไรของเธอเนี่ย! หัดอายซะบ้าง เป็นผู้หญิงมาขอคบผู้ชายได้ไง!!” คยูฮยอนทนไม่ได้กับความใจกล้าของซันนี่เลยต้องออกปากว่าเสียหน่อย
“ก็เด็กนอกนี่คะ” ลอยหน้าลอยตาตอบอย่างไม่สนใจอะไร ทำเอาคยูฮยอนต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบด้วยความหนักใจกับนิสัยน้องสาวของตน อยู่เกาหลีมาตั้งแต่เกิด แต่ชอบเอานิสัยพวกตะวันตกมาใช้ และไอ้เด็กนอกเนี่ยไม่รู้พูดออกมาได้ไง นอกประเทศตัวเองยังไม่เคยออกเลยซะด้วยซ้ำ
“ซันนี่” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ เพราะไม่รู้จะสรรหาคำอะไรออกมาว่าอีกดี ถึงพูดไปเท่าไหร่คนอย่างซันนี่ก็คงไม่ยอมฟังง่ายๆอยู่แล้ว
ซองมินเองก็ได้แต่นั่งยิ้มแหยๆ เมื่อซันนี่คว้าเอาแขนตัวเองไปกอดไว้ จะดึงออกก็ไม่กล้าเลยต้องปล่อยไปเลยตามเลย เกิดมาก็เพิ่งจะเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดนผู้หญิงเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอคบก่อนเป็นครั้งแรก
“นะคะพี่ซองมิน คบกันซันนี่นะคะ” ซันนี่ทำท่าอ้อนยกใหญ่ ยังไงซองมินก็ต้องตอบตกลง
เจอตื้อแบบนี้ซองมินเองก็เริ่มไปไม่ถูก จะหันไปขอความช่วยเหลือจากคยูฮยอนก็ดูเหมือนว่าพ่อรูมเมทของเขาจะไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ด้วยซักเท่าไหร่ ก็ดูตอนนี้สิ ทำหน้าบูดเป็นตูดลิงไปแล้ว
“พี่ขอกลับไปคิดดูก่อนแล้วกันนะ มันกะทันหันเกินไป” ตอบแบบปัดๆไป เพราะจะให้ตอบตกลงมันก็คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เขาไม่อยากคบกับใครโดยที่ยังไม่ได้ศึกษากันให้ดีก่อน อีกอย่างเขากับซันนี่ก็เพิ่งเจอกันเป็นครั้งที่สอง
ซันนี่ทำหน้างอทันทีเมื่อได้คำตอบแบบนี้ แต่เธอคงไม่มีทางเลือกอื่น ขอเวลาคิดยังดีกว่าโดนปฏิเสธไปซะตอนนี้
“ก็ได้ค่ะ แต่อย่านานนะ”
“เธอนี่จริงๆเลย” คนเป็นพี่ได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมาอีกครั้ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้าแทนซะ
แล้วอาหารมื้อนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงหัวเราะและพูดคุยระหว่างซองมินกับซันนี่ที่ไม่รู้ไปขุดเอาเรื่องจากไหนมาคุยกันได้ไม่หยุดหย่อน โดยที่มีคยูฮยอนนั่งทำหน้านิ่งฟังอยู่อย่างเงียบๆ
ผ่านไปกว่าสองชั่วโมงกว่าจะได้เวลาแยกย้าย ซันนี่เดินควงซองมินออกมาจากร้านโดยที่มีคยูฮยอนเดินตามหลังออกมา
“ไปส่งซันนี่ที่บ้านหน่อยสิคะพี่ซองมิน ตอนนี้มันมืดแล้วอ่ะ ผู้หญิงกลับบ้านคนเดียวมันอันตราย” ได้โอกาสซันนี่ก็เริ่มอ้อนอีกครั้ง พร้อมกับเอนหน้าลงไปซบกับแขนซองมิน จนคยูฮยอนทนไม่ไหวต้องรีบเข้ามาแยกทั้งคู่ออกจากกัน มันจะโจ่งแจ้งกันเกินไปแล้ว
“ซันนี่เลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้วน่า ถ้าซองมินไปส่งเธอกว่าจะกลับมาถึงหอก็คงปิดพอดี มาเองได้ก็กลับเองสิ บ้านเธอก็อยู่ตั้งไกล” คยูฮยอนบ่นออกมายาวยืดพร้อมกับดึงซันนี่ให้ผละออกมาจากซองมิน
“ใครว่าไกลล่ะคะ ตอนนี้ซันนี่ย้ายออกมาอยู่หอแล้ว” คนเป็นน้องเถียงออกมาเสียงดัง โรงเรียนของเธอนั้นอยู่ไกลจากบ้านของเธอก็จริง แต่ตอนนี้เธอขออนุญาตพ่อแม่ออกมาอยู่หอได้อาทิตย์กว่าๆแล้ว แถมมันยังไกลจากที่นี่ไม่มากด้วย ไม่งั้นเธอคงมาหาซองมินแบบนี้ไม่ได้หรอก
“งั้นใกล้แค่นี้ก็เดินกลับไปเองสิ” คนเป็นพี่ก็เถียงกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน สองพี่น้องเลยได้แต่จ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ส่วนซองมินก็ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีเลยแต่ยืนยิ้มแหยๆ เมื่อทั้งสองคนหันมามอง นี่เขากลายเป็นตัวปัญหาไปแล้วเหรอเนี่ย
“งั้นก็ให้พี่ซองมินเลือกแล้วกันค่ะว่าจะไปส่งซันนี่มั้ย ถ้าพี่ซองมินไปพี่คยูฮยอนไม่ไปก็เชิญกลับไปก่อนได้เลย” พูดอย่างคนเหนือกว่าพลางเข้าไปเกาะแขนซองมินอีกครั้ง อย่างซองมินคงไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้ว
และก็เป็นอย่างที่พูดไว้จริงๆ ซองมินไม่กล้าที่จะปฏิเสธแต่ก็ใช่ว่าอยากจะตอบตกลง เลยได้แต่ยืนอ้ำๆอึ้งๆจนซันนี่ต้องออกมาเร่ง
“ว่ายังไงล่ะคะ ไปส่งซันนี่นะ”
“ก็ได้ครับ” สุดท้ายซองมินจำต้องตอบตกลงไป ส่วนคยูฮยอนั้นก็ได้แต่ยืนทำหน้าตึง มันรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่รู้จะไปโกรธซองมินกับซันนี่เรื่องอะไร เพราะทั้งสองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
“งั้นก็ไปกันเถอะ พี่คยูฮยอนจะกลับก่อนก็ได้นะคะ” พูดอย่างอารมณ์ดีพลางหันไปบอกคยูฮยอนด้วยสีหน้าท่าทางที่ดูกวนประสาท ถ้าไม่ติดว่ามีซองมินอยู่คยูฮยอนคงเดินเข้าไปบีบคอซันนี่ไปแล้ว
“ไปด้วยกันนะคยูฮยอน” ก่อนจะโดนซันนี่ลากไปซองมินก็หันกลับมาบอกคยูฮยอน เขาไม่อยากไปกับซันนี่แค่สองต่อสองมันจะดูไม่ดี ถ้ามีคยูฮยอนไปจะได้สบายใจ
“นายอยากไปก็ไปเถอะ ฉันไม่อยากไป” คยูฮยอนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ แต่ในใจกลับแอบสะใจที่เห็นซันนี่ทำหน้าจ๋อยที่ซองมินหันมาขอให้เขาไปด้วยกัน งานนี้ขอเอาคืนที่ทำให้เขากลายเป็นหมาหัวเน่าหน่อยแล้วกัน
“งั้นเราไปกันเถอะค่ะ” ซันนี่แลบลิ้นใส่พี่ตัวเองอย่างมั่นไส้ พยายามดึงแขนซองมินที่คล้องไว้อยู่ให้เดินไปด้วยกัน
“ไปด้วยกันเถอะนะคยูฮยอน ฉันไม่อยากเดินกลับหอคนเดียว” ซองมินไม่ยอมเดินไปตามแรงของซันนี่ หันกลับมาขอร้องคยูฮยอนอีกครั้ง เดินกลับหอตอนมืดๆแบบนี้คนเดียวน่ากลัวจะตาย และจะให้ยกเลิกที่จะเดินไปส่งซันนี่ก็ทำไม่ได้ด้วยในเมื่อตอบตกลงไปแล้ว
“แต่ฉันไม่อยากไป”
“ไปเถอะนะ นายเป็นรูมเมทฉันนะจะปล่อยให้ฉันเดินกลับมืดๆคนเดียวเหรอ” ทำหน้าตาน่าสงสารเข้าใส่หวังว่าคยูฮยอนจะยอมใจอ่อน
“ใช่ค่ะ พี่ก็ไปเป็นเพื่อนพี่ซองมินหน่อยสิคะ” เห็นคยูฮยอนยังนิ่งซันนี่เลยช่วยพูดเสริม ทั้งที่ตอนแรกไม่ได้อยากให้คยูฮยอนไปด้วยเลยซักนิด แต่เพราะกลัวซองมินจะไม่ยอมไปถ้าคยูฮยอนไม่ยอมมาด้วยเลยต้องช่วยพูด ไม่ยักกะรู้เลยว่าซองมินจะติดพี่ชายเธอขนาดนี้
“ทำเป็นพูดนะทีนี่” ได้ฟังซันนี่พูดคยูฮยอนเลยอดจะว่าไม่ได้ ที่เมื่อกี้ล่ะไม่อยากให้ไป
“รีบไปเถอะก่อนจะดึกไปมากกว่านี้” ซองมินรีบห้ามทัพไว้ก่อนที่สองพี่น้องจะได้เปิดศึกกัน เขาเองก็อยากจะกลับไปพักผ่อนที่หอเต็มที
หอพักของซันนี่อยู่ไม่ไกลอย่างที่บอกจริงๆ ใช้เวลาเดินเพียงไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง ระหว่างทางที่เดินมาซันนี่เกาะแขนซองมินตลอดท่าทางกระหนุงกระหนิง ส่วนคยูฮยอนก็เดินหน้าตึงตามหลังเช่นเดิม เขาจะมีค่าตอนที่ซันนี่ไม่อยู่เท่านั้นใช่มั้ย
“ขึ้นไปบนห้องด้วยกันไม่คะ” ซันนี่ชวนเมื่อทั้งสามเดินมาอยู่หน้าหอพักเรียบร้อยแล้ว
“เป็นผู้หญิงมาชวนผู้ชายขึ้นห้องได้ไง!!” อีกครั้งที่คยูฮยอนต้องออกปากว่าน้องสาวคนนี้ ก่อนจะเดินเข้าไปเขกกะโหลกซักทีอย่างหมั่นไส้
“โอ้ย! เจ็บนะพี่คยูฮยอน...พี่ซองมินดูสิ” ลูบหัวตัวเองปอยๆ หันไปทำตาขวางใส่พี่ชาย พลางจะโผเข้ากอดซองมินเพราะอยากได้คนปลอบ
“หยุดเลยซันนี่...ขึ้นห้องไปเลย” คยูฮยอนดึงแขนซันนี่ออกมาแล้วผลักหลังให้เดินเข้าหอไป ขืนยังปล่อยไว้แบบนี้มีหวังพวกเขาไม่ได้กลับหอของตัวเองแน่
“พี่คยูฮยอนอ่ะ!...บ๊ายบายนะคะพี่ซองมิน” ทำท่าสะดีดสะดิ้งใส่คยูฮยอนก่อนจะโบกมือพลางยิ้มหวานให้ซองมินก่อนจะเดินเข้าหอพักของตัวเองไป
ซองมินยิ้มบางๆ ยกมือขึ้นโบกกลับ เมื่อซันนี่เดินลับตาไปแล้วทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกหนักๆมาพร้อมกัน รู้สึกโล่งอกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“นายน่ะตามใจซันนี่มากเกินไปแล้ว” คยูฮยอนบอกกับรูมเมทตัวเองก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับ ให้ไปส่งก็ยอมมาส่ง โดนเกาะแขน โดนกอดไม่มีขัดขืนเลยซักนิด แบบนี้ซันนี่ก็ได้ใจใหญ่
“ก็จะให้ทำไงเล่า” ได้แต่พึมพำอยู่คนเดียวเบาๆ พลางก้าวเท้าเดินตามคยูฮยอนไป ก็เขาไม่กล้าปฏิเสธนี่นา ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเสียหน้า
บรรยากาศโดยรอบบริเวณนี้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่นัก มีผู้คนอยู่จำนวนมากที่เดินขวักไขว่กันไปมา แต่ที่ซองมินอยากให้คยูฮยอนมาด้วยเพราะบริเวณทางเดินที่ทอดยาวไปยังทางเข้าหอต่างๆนั้น เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดก็จะไม่ค่อยมีนักศึกษาออกมาเพ่นพ่านมากนัก เพราะรู้กิตติศักดิ์ดีว่าหอแห่งนี้นั้นเฮี้ยนขนาดไหน
พอเดินมาใกล้ถึงหอของตัวเองซองมินก็รีบเดินเข้าไปเบียดคยูฮยอนทันที แถวนี้ไม่มีใครเลยนอกจากเขาสองคน เมื่อยิ่งเดินเข้าใกล้หอสิบสามเท่าไหร่บรรยากาศก็ยิ่งวังเวงมากขึ้นเท่านั้น ซองมินกับคยูฮยอนรีบเดินขึ้นห้องของตัวเองให้เร็วที่สุดก่อนที่จะมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่มาซะก่อน
“นี่คยูฮยอน ตัวตนของซันนี่เป็นอย่างที่แสดงออกมาหมดเลยหรือเปล่า” เข้ามาในห้องได้ไม่ทันไหร่ซองมินก็เริ่มชวนคุย คยูฮยอนหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงก่อนจะหันกลับมามองเจ้าของคำถาม
“ก็อย่างที่เห็น นายสนใจหรือไง”
“ก็แค่ถามเฉยๆ ฉันว่าซันนี่ก็น่ารักดีนะ” พูดไปก็ยิ้มไปเมื่อนึกถึงหน้าของซันนี่ที่เอาแต่จ้อไม่หยุดจนคนช่างพูดอย่างซองมินต้องชิดซ้าย
“อย่างยัยนั่นน่ะเหรอน่ารัก” คยูฮยอนเลิกคิ้วถามอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ซองมินพูดออกมา แน่นอนว่าคยูฮยอนเห็นซันนี่มาตั้งแต่เด็กๆ รู้นิสัยดีว่าเด็กคนนี้เป็นยังไง และเขาก็จะไม่มีวันบอกว่าซันนี่น่ารักเด็ดขาด นิสัยนี่แสบอย่าบอกใครถึงแม้หน้าตาจะน่าเอ็นดูมากแค่ไหนก็เถอะ
“ใช่ ถ้าฉันลองคบกับซันนี่จะเป็นยังไงน้า” ซองมินทำท่าเพ้อกับคำพูดของตัวเอง ในหัวสมองวาดเรื่องราวความรักขึ้นมาเป็นฉากๆ แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเล่นๆเท่านั้น เกิดมาก็เกือบจะยี่สิบปีแล้ว เขายังไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนซักที
“ถ้าชอบกันก็คบกันไปซะเลยสิ” เพราะความหงุดหงิดที่ไม่รู้มันโผล่มาจากไหนทำให้คยูฮยอนพูดประชดออกมาแบบนี้
แต่ซองมินกลับไม่ได้รู้เรื่องเลยว่าตัวเองนั้นโดนรูมเมทประชดอยู่ เลิกทำหน้าเพ้อฟันแล้วหันมาทำหน้าจริงจังใส่คยูฮยอน
“งั้นฉันขอเบอร์ซันนี่หน่อยสิ จะได้โทรไปหา”
“ว่าไงนะ” แทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยินเมื่อกี้นี้ คยูฮยอนถามซองมินกลับไปด้วยความตกใจ ที่เมื่อกี้เขาพูดประชดอย่าบอกนะว่าซองมินคิดจะเอาจริง
“เบอร์ซันนี่ไง ฉันขอหน่อยสิ” ซองมินยังคงพูดออกมาหน้าตาเฉยแต่ทว่ากลับดูจริงจังเป็นอย่างมาก
คยูฮยอนพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างแรงด้วยความหงุดหงิดที่มันเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมถึงได้อารมณ์เสียขนาดนี้ทั้งที่เรื่องนี้มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยซักนิด ซองมินจะคบกับซันนี่มันเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลอยู่แล้ว
“ว่าไงคยูฮยอน” เห็นว่าคยูฮยอนยังนิ่งซองมินเลยย้ำอีกรอบ แต่รูมเมทตัวสูงกลับหันมาทำตาขวางใส่
“เอา!ไปหาเองแล้วกัน” คยูฮยอนหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาจากกระเป๋าก่อนจะโยนลงบนเตียงโดยไม่มีการถะนุถนอมมันแม้แต่น้อย ก่อนจะเดินหน้าตึงออกไปจากห้องโดยไม่พูดอะไร อารมณ์เขามันเริ่มพุ่งสูงตั้งแต่ตอนที่ซองมินบอกว่าซันนี่น่ารักแล้ว
ซองมินเอื้อมมือไปหยิบมือถือมาเปิดดู พอเห็นคยูฮยอนเดินออกจากห้องก็เพียงแค่มองตามเท่านั้นไม่ได้ถามอะไรออกมา เพราะตอนนี้ความสนใจมันอยู่ที่โทรศัพท์เครื่องนี้มากกว่า
กดหาไปได้ไม่นานนักก็เจอเบอร์ที่ต้องการ ซองมินจัดการเมมเบอร์ของซันนี่ลงในเครื่องของตัวเองทันทีก่อนจะวางโทรศัพท์ของคยูฮยอนไว้บนเตียงเช่นเดิม
“จะโทรไปดีมั้ยเนี่ย” พึมพำกับตัวเองเบาๆ พอได้เบอร์มากลับลังเลไม่กล้าที่จะโทรไป ถ้าเขาโทรไปหาซันนี่ คืนนี้คงไม่ได้นอนแน่ๆ
ส่วนคยูฮยอนที่เดินออกมาจากห้องก็ไม่ได้ไปไหนไกลยังคงยืนอยู่ที่หน้าห้องเพราะไม่รู้ว่าเวลาตอนนี้จะออกไปไหนได้ บรรยากาศด้านนอกก็ใช่จะน่าพิศวาสเท่าไหร่นัก อากาศเย็นๆแบบนี้ดับความร้อนในใจได้อย่างชะงัดทีเดียว
ยืนอยู่ข้างนอกได้ไม่นานนักคยูฮยอนก็ต้องกลับเข้าไปในห้องเหมือนเดิมก่อนที่จะมีใครโผล่มาทักทายเขาเสียก่อน
“คยูฮยอนออกไปไหนมา” ซองมินละสายตาจากการจับจ้องโทรศัพท์หันไปถามรูมเมทที่เดินหน้านิ่งเข้ามา ที่คิดว่าจะโทรหาซันนี่ก็ยังไม่ได้โทรเสียที
“ไปรับออกซิเจน” ตอบนิ่งๆก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป อยู่ในห้องแล้วมันหงุดหงิดเลยต้องออกไปรับบรรยากาศพิศวงเสียหน่อย
“อะไรของเขา” ได้แต่พึมพำมองตามคยูฮยอนไปอย่างงงๆ ไม่รู้เป็นอะไรตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
สุดท้ายซองมินก็วางโทรศัพท์มือถือไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เอาไว้คราวหลังค่อยโทรก็คงไม่สายเกินไป เขามีลางสังหรณ์ว่ายังไงก็คงได้เจอกับซันนี่อีกในเร็วๆนี้ ขอคบไปแล้วร้อยทั้งร้อยซันนี่ก็ต้องมาเอาคำตอบจากเขาอยู่
----------------------------------------
kr...Talk
อัพแล้วจ้า จบ
ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับคำแนะนำเรื่องNC
ไว้ถ้ามีจะทำแบบนั้นนะ
ความคิดเห็น