ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] อลวนรัก หอพักสุดเพี้ยน (Super Junior Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #19 : Chapter 17 : หอ7 ปะทะ หอ13

    • อัปเดตล่าสุด 12 ส.ค. 53



     Chapter17 : หอ7 ปะทะ หอ13

     

     

     

     

     

                คู่นี้ก็คงเป็นอีกคู่ที่สถานการณ์ไม่ค่อยปกติในเวลานี้ ตั้งแต่ที่งานกีฬาเลิกเยซองก็เหล่มองเรียวอุกตลอดเวลาว่ามีแววจะหายโกรธเขาบ้างหรือเปล่า ตอนนี้เป็นเวลาเหมาะที่เขาจะได้คุยกับเรียวอุกซักที เพราะเพื่อนๆต่างไปรื่นเริงกันอยู่ ไม่มีใครสนใจใครว่าจะทำอะไร

     

                    เรียวอุก ลองเรียกเป็นเชิง แต่เรียวอุกกลับหันมามองเพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนจะหันไปทางอื่น

     

                    เรียวอุกครับ ออดอ้อนเสียงเล็กเสียงน้อยพร้อมกับเขยิบเข้าไปใกล้ แต่เรียวอุกก็ยังไม่สนใจหรือคิดจะหันมาคุยด้วยอยู่ดี

     

                    ยังไม่หายโกรธผมอีกเหรอ ถามออกไปเสียงอ่อย คราวนี้เรียวอุกหันมามองแต่กลับเดินออกไปเลย เยซองเลยได้แต่ร้องอ้าว! ก่อนจะรีบเดินตามไป แค่เต่าตัวเดียวทำไมถึงได้ง้อยากขนาดนี้นะ

     

                    เดี๋ยวก่อนสิเรียวอุก รั้งแขนคนขี้งอนเอาไว้ก่อนเรียวอุกจะได้เดินเข้าไปในห้องน้ำ

     

                    ปล่อย เรียวอุกออกแรงบิดแขนตัวเองเบาๆให้เยซองปล่อยโดยไม่มองหน้าคนที่ตามมาง้อเลยแม้แต่นิด

     

                    ฟังผมก่อนนะ เยซองเปลี่ยนจากแขนมาจับที่ไหล่ทั้งสองข้างแทน เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง

     

                    ไม่ฟัง!” ปฏิเสธออกมาเสียงดังพร้อมกับสะบัดตัวให้หลุดแต่แรงของเยซองนั้นเยอะกว่ามาก ถึงจะสะบัดยังไงเยซองก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

     

                    เมื่อคนตัวเล็กไม่ยอมฟังดีๆก็คงต้องใช้ไม้แข็ง เยซองก้มศีรษะลงเข้าไปใกล้ใบหน้าเรียวอุกที่เอาแต่ก้มหน้า มือทั้งสองข้างพยายามแกะมือของเขาออก แต่แล้วการกระทุกอย่างก็ต้องหยุดลง เมื่อริมฝีปากของเยซองสัมผัสแผ่วเบากับริมฝีปากบางของคนขี้งอน จากสัมผัสแผ่วเบาจึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นนุ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ

     

                    ไร้การขัดขืนจากเรียวอุกเยซองจึงจูบค้างไว้อย่างนั้นซักพักก่อนจะถอนริมฝีปากออกมา ก็พบว่าตอนนี้เด็กขี้งอนของเขาเกิดอาการอึ้งไปเรียบร้อยแล้ว

     

                    จะยอมฟังที่พูดดีๆมั้ย เอ่ยถามเสียงอ่อนโยน เจอแบบนี้เข้าไปเรียวอุกจึงพยักหน้ารับเบาๆ ยอมฟังคำที่เยซองจะพูดแต่โดยดี

     

                    ตอนนั้นที่จะขโมยเจ้าตังโกมาไปทิ้งเพราะผมน้อยใจเรียวอุกไงล่ะ ผมแค่อยากให้เรียวอุกสนใจผมบ้างแค่นั้น อยากให้สนใจผมเหมือนกับเจ้าตังโกมาบ้าง อยากให้เรียวอุกชอบผมเหมือนกับที่ผมชอบเรียวอุกบ้าง เยซองสารภาพทุกอย่างออกมาสีหน้าจริงจัง สายตาจ้องมองเรียวอุกไม่วางตา แต่เมื่อได้ฟังเรียวอุกกลับต้องหลบตา

     

                    อืม ตอบรับกลับมาเบาๆแล้วก้มหน้านิ่ง เยซองเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วปล่อยมือที่จับตัวเรียวอุกออกซะ เพราะคิดว่าเรียวอุกคงยังไม่หายโกรธเขาแน่ๆ เมื่อตัวเองเป็นอิสระเรียบร้อยแล้วเรียวอุกจึงเดินหนีออกไปทันที ลำบากเยซองต้องเดินตามไปอีก

     

                    เดี๋ยวก่อนเรียวอุก รั้งแขนเล็กไว้อีกครั้ง แต่คราวนี้เรียวอุกหันกลับมามอง ใบหน้าใสที่อยู่ท่ามกลางแสงสีในความมืดของผับนั้นร้อนผ่าวและแดงขึ้นมา แต่เยซองคงจะไม่ทันได้สังเกตเห็นมัน

     

                    รู้เหตุผลแล้วหายโกรธหรือเปล่า ถามออกไปอย่างมีความหวัง และคำตอบที่ได้ก็ทำให้ความหวังของเยซองเป็นจริงเมื่อเรียวอุกพยักหน้ารับอย่างช้าๆ

     

                    เยซองยิ้มกว้างก่อนจะเข้าไปกอดไหล่เรียวอุกไว้อย่างเจ้าข้าวเจ้าของพาเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อนๆอย่างอารมณ์ดี เขาไม่ได้ต้องการคำตอบว่าเรียวอุกจะชอบเขาตอบหรือไม่ เพียงแค่หายโกรธเขาก็เพียงพอแล้ว

     




                    กลางฟลอร์เต้นบัดนี้ดูสนุกสนานเป็นอย่างมาก คยูฮยอนเต้นไปหัวเราะไปเช่นเดียวกับเพื่อนๆคนอื่น แต่ในขณะนั้นกลับมีผู้หญิงคนหนึ่งเต้นอย่างเมามันจนมาชนคยูฮยอนเข้า

     

                    อุ้ย! ขอโทษคะ หญิงสาวคนนั้นหันมากล่าวคำขอโทษ ถึงแม้ว่าคยูฮยอนจะไม่ได้สนใจนักแต่ก็ขอหันไปดูหน้าซักหน่อย

     

                    อ้าว! ซันนี่/พี่คยูฮยอน คยูฮยอนกับหญิงสาวที่ชื่อซันนี่อุทานออกมาพร้อมกัน

     

                    คิดถึงพี่จังเลย ว่าแล้วซันนี่ก็โผเข้ากอดคยูฮยอนอย่างคุ้นเคย ก่อนจะหอมแก้มเข้าไปฟอดใหญ่ คยูฮยอนเองดูจะอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจอะไร กลับกอดซันนี่ตอบซะด้วยซ้ำ

     

                    ซองมินที่เต้นอยู่ไม่ไกลจากคยูฮยอนนักหันมาเห็นก็หยุดเต้นไปพลางเดินเข้ามาดูใกล้ๆว่าคยูฮยอนกำลังกอดกับผู้หญิงอย่างที่ตนเห็นจริงๆ ขณะเดียวกันนั้นซันนี่ก็หันมาเห็นซองมินพอดี เธอจึงกรีดร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับผละออกจากคยูฮยอนตรงเข้ามาหาซองมิน

     

                    อ๊ายยย!! ผู้ชายอะไรเนี่ยน่ารักจังเลย ซันนี่โผเข้ามาหาซองมิน มือทั้งสองข้างยกขึ้นจับแก้มซองมินพร้อมกับเอ่ยชมไม่ขาดปากเพราะความน่ารักที่เปล่งประกายออกมาท่ามกลางแสงสีในยามราตรีแบบนี้ บอกตามตรงเลยว่าเธอหลงในความน่ารักของคนๆนี้เสียแล้ว

     

                    ฟอด!” ไม่พูดเปล่าว่าแล้วซันนี่ก็เข้าไปหอมแก้มซองมินฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวในความน่ารัก ส่วนซองมินนั้นอึ้งไปเรียบร้อยแล้ว เกิดมาจนป่านนี้ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำกับเขาแบบนี้เลยซักครั้ง

     

                    ทำอะไรของเธอเนี่ยซันนี่ คยูฮยอนเข้ามาห้ามไว้แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว ซองมินหันไปมองคยูฮยอนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความมึนงงและสงสัย กอดกับคยูฮยอนอยู่เมื่อกี้ไหงมาหอมแก้มเขาได้ล่ะเนี่ย

     

                    “มานี่เลย!” คยูฮยอนคว้าข้อมือซันนี่ให้เดินตามออกมาเพื่อไปคุยกันที่โต๊ะ แต่ซันนี่กลับคว้าข้อมือของซองมินให้เดินตามมาด้วย

     

                    แล้วไปพาเค้ามาด้วยทำไม เมื่อมาถึงโต๊ะคยูฮยอนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าซันนี่พาซองมินมาด้วย ส่วนคนที่ถูกลากติดตามมาก็ยังคงทำหน้างงไม่รู้เรื่องรู้ราวต่อไป

                   

                    “ก็เขาน่ารักนี่ ซันนี่ชอบ ตอบกลับเสียงระรื่นพร้อมกับหันไปยิ้มให้ซองมินโดยไม่ยอมปล่อยมือซองมินออกเสียที

     

                    แล้วนี่นายไม่คิดจะขัดขืนบ้างหรือไงซองมิน คยูฮยอนไม่รู้จะว่าอะไiซันนี่อีกดีเลยหันไปว่ารูมเมทของตัวเองแทนเอาแต่ยืนบื้อยอมให้ซันนี่จับนู้นหอมนี่ตามใจชอบ เห็นแบบนี้แล้วมันรู้สึกหงุดหงิด

     

                    ซองมินยังคงไม่พูดอะไร แต่ก็บิดข้อมือของตนเองออกจากมือซันนี่ แล้วยืนทำหน้ามึนต่อไป

     

                    อ้าว! รู้จักกันด้วยเหรอคะ แนะนำให้ซันนี่รู้จักบ้างสิ เมื่อรู้ว่าคยูฮยอนกับซองมินรู้จักกันซันนี่เลยออกอาการดีใจยกใหญ่

     

                    จะรู้จักไปทำไม ว่าด้วยน้ำเสียงที่ออกจะรำคาญเล็กน้อยกับท่าทางที่ดูร่าเริงเกินเหตุของซันนี่

     

                    ก็เขาน่ารักนี่คะ พี่คยูฮยอนไม่แนะนำซันนี่ไม่ง้อก็ได้...ชื่อซันนี่นะคะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพี่คยูฮยอน ว่าแต่ชื่ออะไรเหรอคะ แล้วเป็นอะไรกับพี่คยูฮยอน ทำเมินใส่พี่ชายที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกันก่อนจะหันไปแนะนำตัวกับซองมินเสียงอ่อนเสียงหวาน จนคยูฮยอนชักเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมา

     

                    ชื่อซองมินครับ เป็นรูมเมทกับคยูฮยอน ซองมินเหล่ขึ้นมามองคยูฮยอนเล็กน้อยก่อนจะตอบออกมา หลังจากงงมานานก็ได้รู้แล้วว่าซันนี่กับคยูฮยอนเป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน ตอนแรกเขาก็คิดว่าเป็นแฟนกันเสียอีก

     

                    ว๊าย!! ชื่อซองมินน่ารักจังเลยคะ แถมเป็นรูมเมทกันด้วย ว่าแล้วซันนี่ก็กรีดร้องออกมาอีกครั้ง เอื้อมไปจับมือซองมินก่อนจะโผเข้ากอดอย่างกับว่าสนิทสนมกับซองมินเป็นอย่างยังไงยังงั้น

     

                    จะกอดทำไม คยูฮยอนทนยืนมองอยู่เฉยๆไม่ได้เลยต้องเข้ามาจับซันนี่แยกออกจากซองมินซะ แต่จะว่าซันนี่คนเดียวก็ไม่ถูก เพราะซองมินกลับยืนนิ่งให้กอดซะอย่างนั้น

     

                    ก็ซันนี่เป็นเด็กนอกนี่คะ เขาก็ทักทายกันแบบนี้แหละ จริงมั้ยคะพี่ซองมิน ทั้งสีหน้าและหน้าตาระรื่นตลอดเวลาตั้งแต่เจอซองมิน จนคยูฮยอนอยากจะลากซองมินกลับหอตอนนี้ซะให้รู้แล้วรู้รอด

     

                    หน้าตาอย่างเธอน่ะนักเรียนนอก นอกเมืองหลวงหรือไง ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะเชื่อในสิ่งที่ซันนี่พูดออกมานัก

     

                    พี่คยูฮยอนก็! ไม่คุยด้วยแล้ว คุยกับพี่ซองมินดีกว่า ว่าแล้วก็หันไปควงแขนซองมิน คนโดนควงก็เอาแต่ยืนนิ่งเป็นหินเพราะไม่คุ้นชินกับการโดนผู้หญิงรุกตรงๆแบบนี้ ลำบากคยูฮยอนต้องคอยจับแยกอีกครั้ง

     

                    ปล่อยแขนซองมินซะ ชี้ไปที่แขนที่ซันนี่กำลังเกาะอยู่อย่างเอาเรื่อง แต่ซันนี่กลับแลบลิ้นใส่

     

                    ไม่ปล่อยค่ะ คืนนี้ซันนี่จะอยู่กับพี่ซองมิน พูดเย้ยใส่พี่ชายพร้อมกับทำหน้าทะเล้นทำเอาคยูฮยอนถอนหายใจออกมายาวพรืด

     

                    การเที่ยวที่ควรจะสนุกสนามกลับสร้างความวุ่นวายให้กับซองมินและคยูฮยอนเสียแล้วเมื่อตัวป่วนอย่างซันนี่เข้ามา ซันนี่นั้นเกาะซองมินไม่ยอมปล่อย ส่วนคยูฮยอนก็คอยตามแยก งานี้ซองมินเลยทำตัวไม่ถูกให้คนนู้นคนนี้ดึงไปทางนู้นทางนี้ที งานนี้ความน่ารักทำพิษเสียแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

                    ตั้งแต่ที่เพื่อนๆออกไปโชว์ลวดลายกันกลางฟลอร์ฮีชอลกับซีวอนก็ยังคงนั่งดื่มกันอยู่ที่เดิมโดยไม่มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ฝ่ายฮีชอลนั้นเอาแต่จ้องซีวอนไม่วางตา แต่คนโดนมองก็ไม่ได้คิดจะสนใจอะไรมาก

     

                    เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีสวยถูกยกขึ้นจิบอีกครั้ง ถึงแม้คราวนี้ฮีชอลจะไม่ได้ขยับปากโวยวายแต่ภายในหัวกลับมีเรื่องให้คิดไม่หยุดหย่อนเกี่ยวกับรูมเมทที่นั่งอยู่ไม่ห่างกันนี่ ภาพที่ซีวอนดูเป็นห่วงเป็นใยฮยอกแจหนักหนาฉายซ้ำไปมารอบแล้วรอบเล่า ตั้งแต่ตอนงานกีฬาจนถึงเหตุการณ์ที่เกิดในห้องของฮันคยองกับฮยอกแจก่อนที่พวกเขาจะออกมาที่นี่ จนบางทีมันกลับย้อนเลยไปตั้งแต่ที่ซีวอนรีบจีบฮยอกแจ อะไรๆก็มีแต่ฮยอกแจ เป็นห่วงเป็นใยแต่ฮยอกแจ จนเขาเองชักรู้สึกหมั่นไส้

     

                    “จะมองให้ทะลุเลยหรือไง ซีวอนที่ทนกับสายตาของฮีชอลมานานชักเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว ไม่รู้หน้าตาเขามันแปลกประหลาดไปหรือไงถึงได้จ้องไม่คาดสายตา

     

                    เออ!” กระแทกเสียงกลับด้วยอารมณ์ล้วนๆ ซีวอนที่ทุนเดิมอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้วยิ่งรู้สึกฉุนเข้าไปใหญ่ แต่ก็พยายามเก็บมันเอาไว้ เพราะไม่อยากมีเรื่องกับรูมเมทตัวเอง ถึงเขาจะรู้ดีอยู่ว่าฮีชอลนั้นน่ากลัว แต่อารมณ์นี้เขาก็น่ากลัวไม่แพ้ฮีชอลเหมือนกัน

     

                    อย่ามาหาเรื่องฉันนะยัยขี้โวยวาย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ ออกปากเตือนไปเพราะไม่อยากมีเรื่องจริงๆ นึกถึงหน้าฮันคยองทีไรมันโกรธจนควันออกหูทุกที อ้างสิทธิ์รูมเมททั้งที่จริงๆแล้วควรจะช่วยเขาให้สมหวังกับฮยอกแจมากกว่า

     

                    คิดว่านายอารมณ์ไม่ดีคนเดียวหรือไง หน้าตานายมันกวนประสาทน่าหมั่นไส้ ฮีชอลเถียงกลับทันควัน ยิ่งซีวอนมีอารมณ์โมโหตัวเขาก็ไม่ต่างกัน

     

                    ถ้าว่างมากก็หุบปากของนายไปฮีชอล อย่าคิดว่าฉันจะกลัวนายนะวันนี้ ซีวอนลุกขึ้นท่าทางหาเรื่องเพราะชักทนไม่ไหวจริงๆ อยู่ดีไม่ว่าดีมากวนประสาทเขา

     

                    ไม่กลัวก็มาสิ จะเอาให้ไม่มีหน้าไปเดินลอยหน้าลอยตาเลยคอยดู ฮีชอลลุกขึ้นเดินจังก้าเข้าไปหาซีวอน ถึงแม้ขนาดตัวจะต่างกัน แต่ยังไงเขาก็เคยชนะซีวอนมาแล้ว ลองมาหาเรื่องกันแบบนี้เขาไม่ยอมหรอก

     

                    ฮีชอลง้างหมัดขึ้นทำท่าจะต่อย แต่ซีวอนกลับยื่นหน้ากวนๆมาให้อย่างไม่เกรงกลัว แต่ก่อนที่หมัดลุ่นๆนั่นจะปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อๆ ก็มีคนเข้ามาขวางซะก่อน

     

                    เฮ้ยๆๆ หยุดๆ จะทำอะไรกันเนี่ย!” อีทึกวิ่งเข้ามาจับแขนของฮีชอลเอาไว้ก่อนที่จะได้ปล่อยหมัดใส่ซีวอน

     

                    มาห้ามทำไมเนี่ย หันไปถามอย่างขัดใจ แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนแรงของอีทึกที่พยายามรั้งตัวเขาเอาไว้ไม่ให้ถลาเข้าไปต่อยซีวอนอีก

     

                    ใจเย็น มีเรื่องอะไรกันทำไมต้องถึงขั้นต่อยกันด้วย อีทึกลูบหลังฮีชอลเบาๆหวังให้เพื่อนใจเย็นลง

     

                    ก็ยัยนี่เอาแต่จ้องหน้าฉันอยู่ได้ น่ารำคาญชะมัด ซีวอนพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดที่บ่งบอกว่ารำคาญถึงที่สุด

     

                    นายว่าใครน่ารำคาญ ได้ยินแบบนี้ฮีชอลเลยทำท่าจะเข้าไปหาซีวอนอีกรอบ ลำบากอีทึกต้องรีบลากตัวให้ออกห่าง ไม่งั้นคงตีกันตายคาร้านแน่

     

                    หลังจากแยกฮีชอลออกมาจากซีวอนได้สำเร็จ อีทึกก็ทำการหว่านล้อมเพื่อนให้ใจเย็นลง พร้อมกับพาเดินไปแถวเคาน์เตอร์เพื่อไปหาอะไรดื่มให้มันสบายใจ ***ไม่งั้นหน้าคนที่หมั่นไส้ให้เห็นจนอยากจะเข้าไปตะบันหน้าซะ

     

                    โอ้ย!” ระหว่างทางที่กำลังเดินไปฮีชอลกลับเดินไปเหยียบเท้าใครบางคนเข้าจนเขาร้องออกมาเสียงดัง แต่ดูเหมือนตัวการจะไม่ได้ใส่ใจที่จะหันไปขอโทษเลย เพราะอารมณ์โมโหเมื่อกี้มันทำให้ลืมไปว่าตัวเองกำลังทำผิดอยู่

     

                    เอ่อ ขอโทษครับ เลยกลับกลายเป็นอีทึกที่ต้องพูดคำนั้นออกมาแทน

     

                    เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยหรือไง ถึงจะเอ่ยขอโทษไปแต่ดูเหมือนว่าคู่กรณีจะไม่ยอมง่ายๆ ได้ยินแบบนี้อารมณ์โมโหของฮีชอลก็เลยปะทุขึ้นมาอีก

     

                    เออ! ไม่ได้ดู ขอโทษไปแล้วไม่พอหรือไง ฮีชอลหันมาตะคอกใส่คู่กรณีอย่างไม่ยอมเช่นกัน

     

                    ฮีชอลพอได้แล้ว ฉันว่าหมอนี่มันหน้าคุ้นๆนะ อีทึกเตือนสติฮีชอลไว้ และพยายามจะลากออกไปจากตรงนี้ซะ หนีซีวอนแต่กลับมาเจอเรื่องใหม่อีก แถมเขายังรู้สึกคุ้นหน้าของคนๆนี้มากๆ เหมือนกับว่าจะเรียนที่คยองฮีเหมือนกัน

     

                    เหยียบตีนคนอื่นแล้วยังมาคะตอกใส่อีกหรอ ไร้มารยาท!” คู่กรณีแวดกลับเสียงแหลม ทำเอาฮีชอลกับอีทึกถึงกับต้องปิดหู และเสียงอันทรงพลังนี้ก็กลับช่วยเรียกเพื่อนพ้องที่นั่งอยู่ไม่ไกลนักให้เข้ามาดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเพื่อนของตน

     

                    มีเรื่องอะไรกันเหรอโจควอน เพื่อนคู่กรณีของฮีชอลโผล่ออกมาอีกราวเก้าสิบคน แต่พอเห็นหน้าของคนเหล่านี้อีทึกกลับถลึงตาโตทันที

     

                    อูยอง ก็หมอนี่มันเหยียบตีนฉัน แถมยังมาตะคอกใส่อีก ว่าแล้วโจควอนก็ทำการฟ้องทันที

     

                    คนนี้เหรอ นายสองคนเด็กหอสิบสามใช่มั้ย ทำไมถึงออกมาเที่ยวแบบนี้ได้ล่ะ อูยองชี้หน้าฮีชอลกับอีทึกอย่างใช่ความคิดซักพักก็นึกออกว่าเป็นใคร นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นมาดูก่อนที่คิ้วเรียวจะขมวดมุ่น เพราะนี่มันเลยเวลาหอปิดมานานแล้ว

     

                    “ฉันว่าเรารีบไปกันเถอะฮีชอล พูดจบอีทึกก็รีบลากฮีชอลกลับไปหาเพื่อนที่โต๊ะทันที งานนี้ต้องรีบเผ่นกลับหอโดยด่วน ไม่งั้นพรุ่งนี้คงได้ยินข่าวดีแน่ๆ

     

                    ฉันว่าพวกนั้นต้องหนีออกมาเที่ยวแน่เลย อูยองหันไปบอกเพื่อนๆที่ยืนอยู่ด้านหลัง ซึ่งก็พยักหน้าเห็นด้วย งานนี้คงต้องรายงานหัวหน้าหอสิบสามเสียแล้ว

     

     

     

                    เรารีบกลับหอกันเถอะ เมื่อกี้ฉันไปเจอพวกหอเจ็ดมา มันคงสงสัยแน่ว่าเราแอบหนีเที่ยว เมื่อมาถึงโต๊ะที่คังอินกับซีวอนนั่งอยู่อีทึกก็พูดรัวออกมา ทำเอาทุกคนแตกตื่น

     

                    งั้นรีบไปเรียกคนที่เหลือมาด่วนเลย จบคำพูดของคังอินต่างคนก็ต่างวิ่งไปตามเพื่อนๆที่เหลือให้มารวมตัวกัน แต่กลับหาคิบอมกับดงแฮไม่เจอ

     

                    หายไปไหนๆ อีทึกพูดพร้อมกับกระโดดไปมาอย่างร้อนลน สองคนนี้หายไปไหนกัน

     

                    เดี๋ยวฉันโทรหาเอง ว่าแล้วเรียวอุกก็หยิบโทรศัพท์โทรออกมาดงแฮ ใช้เวลานานกว่าจะคุยกันรู้เรื่องและก็ได้ความว่าดงแฮกับคิบอมกลับไปหอกันเรียบร้อยแล้ว

     

                    กลับไปแล้วตอนไหน หนีเอาตัวรอดชะมัด แล้วฮีชอลก็เริ่มจะโวยวายอีกครั้ง แบบนี้คิบอมกับดงแฮก็รอดน่ะสิถ้าเกิดโดนลงโทษขึ้นมาจริงๆ

     

                    ฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะ ชินดงเสนอแล้วทุกคนก็รีบวิ่งออกจากผับทันที

     

                   

     

     

                    “เฮ้ย! ประตูปิด คังอินร้องออกมาอย่างตกใจพลางเข้าไปเขย่าประตูลับที่คิบอมบอกแต่มันกลับลงกลอนล็อกไว้อย่างเรียบร้อย อย่าบอกนะว่าที่รุ่นพี่หนีออกไปบ่อยๆคือหนีออกได้อย่างเดียว แต่กลับเข้ามาไม่ได้

     

                    ทำไงดี เรียวอุกพึมพำออกมาเบาๆ กลับเข้าหอไม่ได้แล้วจะไปอยู่ที่ไหนล่ะงานนี้

     

                    งั้นคงต้องปืนข้ามไปแล้วล่ะ เข้าทางประตูนี้ดีกว่าเข้าประตูหน้า ยามเฝ้าอยู่ อาจจะโดนหนักเลยก็ได้ ชินดงเสนอ ทุกคนเลยต้องจำใจปีนประตูข้ามไป ดีกว่าไปเข้าทางประตูหน้า

     

                    คังอินให้อีทึกเหยียบบ่าตัวเองเพื่อปีนข้ามไปก่อนตัวเองจะปีนตามไป เยซองเองก็ทำแบบเดียวกัน จะมีปัญหาก็ตรงฮีชอลกับซีวอนที่มัวแต่เขม่นกัน

     

                    นายมานี่มาฮีชอล ชินดงกวักมือเรียกฮีชอลให้มาเหยียบบ่าตัวเองเพื่อปีนขึ้นไป เมื่อฮีชอลข้ามไปได้แล้วจึงให้ซีวอนช่วยดันตัวเองให้ขึ้นตามไป จากนั้นซีวอนจึงปีนข้ามไปได้อย่างสบาย จะเหลือก็แต่ซองมินกับคยู ฮยอน ส่วนเพื่อนๆที่เหลือนั้นยืนรอยู่อีกฝั่งของประตู

     

                    ยืนบื้ออยู่ทำไมเล่า รีบปีนขึ้นไปสิ ท่าทางของซองมินที่เอาแต่ยืนเฉยคยูฮยอนเลยอดไม่ได้ที่จะกัด

     

    ซองมินเลยต้องรีบวิ่งเข้ามาหา คยูฮยอนนั่งยองๆก่อนจะให้ซองมินเหยียบที่บ่าแล้วยืนขึ้นช้าๆ

     

    ฉันกลัวอ่ะ แทนที่จะยืนแล้วรีบข้ามไปอีกฝั่งซองมินกลับนั่งลงอยู่บนไหล่ของคยูฮยอนเพราะความสูงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ทำให้ขามันสั่นขึ้นมา

     

    กลัวก็รีบๆปีนไปสิ ฉันหนักนะ คยูฮยอนจับขาซองมินไว้แน่นกันรูมเมทร่างอวบของตัวเองตกลงมากระแทกพื้นบาดเจ็บไปเสียก่อน วันนี้เขาแบกซองมินมาก็หลายรอบ ตั้งแต่ตอนแข่งเกม จนปวดหลังไปหมด

     

    ซองมินยืนขึ้นตามที่คยูฮยอนบอก มือทั้งสองข้างคว้ากับขอบของประตูเอาไว้แล้วค่อยๆยันตัวเองให้ขึ้นไปนั่งด้านบนเพื่อจะกระโดลงไปอีกฝั่ง

     

    เมื่อส่งซองมินขึ้นไปด้านบนเรียบร้อยแล้วคยูฮยอนจึงปีนตามขึ้นไปแต่ก็ต้องพบปัญหาอีกครั้งเมื่อซองมินไม่ยอมกระโดดพร้อมกับเหตุผลที่ทำให้เขาต้องกุมขมับ

     

    มันสูงอ่ะ ฉันกลัว ว่าพลางเกาะแขนคยูฮยอนเอาไว้แน่น

     

    รีบลงมาเร็วๆสีซองมิน เดี๋ยวก็มีใครมาเห็นหรอก เรียวอุกเริ่มเร่งเพราะเพื่อนไม่ยอมกระโดดลงมาเสียที

     

    งั้นเดี๋ยวฉันลงไปก่อนแล้วกัน จะรอรับอยู่ด้านล่าง คยูฮยอนเสนอแล้วก็กระโดดลงไปทันที ทำเอาซองมินทำอะไรไม่ถูก

     

    คนที่กำลังกลัวหลับตาปี๋นับหนึ่งถึงสามในใจก่อนจะกลั้นใจแล้วกระโดดลงมาโดยไม่รอสัญญาณจาก คยูฮยอนว่าพร้อมที่รับตัวเองหรือยัง

     

    โอ้ย!” ซองมินส่งเสียงร้องออกมาดังลั่น เมื่อตัวกระแทกลงกับพื้นเต็มๆ

     

    ทำไมไม่รอให้ฉันบอกก่อนค่อยกระโดดลงมา คยูฮยอนกับเพื่อนๆที่เหลือรีบวิ่งเข้าไปดูซองมินทันที ใบหน้าหวานตอนนี้เหยเกเกินรับประทาน ดูท่าแล้วคงจะเจ็บหน้าดู

     

    เจ็บตรงไหนบ้าง เอ่ยถามต่อด้วยความเป็นห่วง คยูฮยอนค่อยๆพยุงซองมินให้ลุกขึ้น แต่ซองมินกลับร้องโอดโอยออกมาอีกครั้ง

     

    ฉันลุกไม่ไหว เจ็บขา เลื่อนมือไปจับที่ข้อเท้าของตัวเองแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ กระดูกจะหักหรือเปล่าก็ไม่รู้

     

    แค่ข้อเท้าแพลงเองไม่เป็นอะไรมากหรอก ฉันว่าเรารีบกลับหอกันเถอะ นายก็แบกซองมินไปแล้วกันนะคยูฮยอน ชินดงนั่งลงมองดูที่ข้อเท้าซองมินก็รู้ว่าแค่ข้อเท้าแพลงเท่านั้น ก่อนจะรีบสั่งการให้เพื่อนๆเผ่นกลับหอโดยด่วน

     

    แบกอีกแล้ว บ่นออกมาเบาๆแต่คยูฮยอนก็ยอมนั่งยองๆลงด้านหน้าซองมินเพื่อให้ขี่หลัง

     

    ขอโทษนะ เอ่ยออกมาเบาๆด้วยความรู้สึกผิด ก่อนจะพยุงตัวเองขึ้นขี่หลังของคยูฮยอน รู้สึกวันนี้เขาจะทำอะไรก็ผิดไปหมด

     

    ช่างมันเถอะน่า คยูฮยอนยิ้มตอบกลับไปให้บางๆ ก่อนจะเริ่มออกเดินตามเพื่อนๆไป เขาไม่อยากจะโทษซองมิน ถึงจะผิดจริงๆก็เถอะ ยังไงซะคนเราก็ย่อมมีผิดพลาดกันบ้าง คืนนี้สู้กลับไปเตรียมใจเรื่องที่จะโดนทำโทษดีกว่ามาโทษกันว่าใครผิดใครถูก


    -----------------------------------------



    kr...Talk
    สวัสดีจ้าทุกคน ขอโทษนะที่หายไปนาน
    และผิดสัญญาเรื่องที่จะอัพอ่ะ เพราะว่าไรเตอร์ติดจัดเรียงหน้าฟิคทั้งวันทั้งคืน
    เลยไม่ได้อัพให้เลย แถมติดงานฟิคFF#2อีกด้วย
    หลายคนก็อาจจะเจอกันในงานแล้ว
    ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆที่อุดหนุนนะ

    ตอนนี้เรามีแขกรับเชิญพิเศษอีกแล้ว
    พอดีช่วงนั้นไรเตอร์ดูแฟมมิลี่ นึกถึงพี่ควอนเลยเอามาร่วมด้วยเลย
    คยูมินหวานดีไหมล่ะ มีตัวมารมาอีกแล้ว
    แต่มันอาจจะดีก็ได้เนอะเพื่อนๆ 555
    ชอบเย่อุกมากเลย ไรเตอร์กรี๊ดกร๊าด ตั้งแต่คอนครายแล้ว
    ไปอ่านหนังสือก่อนนะทุกคน อาทิตย์หน้ามีสอบ
    คราวหน้าจะพยายามอัพบ่อยๆนะ

    วันนี้วันแม่ ก็รักแม่กันมากๆนะ
    ส่วนไรเตอร์ซื้อficpicเป็นของขวัญให้แม่เรียบร้อย 555

    ไรเตอร์ซื้ออัลบั้มของอาเกิงเรียบร้อยแล้วนะค่ะ
    ตอนนี้รอแค่ของมาส่ง
    อุดหนุนและฟังเพลงทั้งของSJ และของอาเกิงเราด้วยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×