คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 : กีฬาหอพัก
Chapter12 : กีฬาหอพัก
เช้าวันนี้นี้ดูเหมือนจะหม่นหมองสำหรับใครหลายๆคน เยซองที่ตื่นขึ้นมาแต่เตียงข้างๆก็ยังคงว่างเปล่าไร้วี่แววของรูมเมทตัวเล็กที่เคยนอนด้วยกันทุกวัน เลยทำได้แค่ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป สงสัยงานนี้เรียวอุกจะโกรธจริงจัง เหตุเกิดเพราะความอิจฉาเจ้าเต่าตังโกมานั้นแท้ๆ
เป็นวันที่สองแล้วที่ดงแฮไม่ได้ยินเสียงของรูมเมทคอยปลุกตอนเช้า และก็ไม่เห็นเจ้าตัวอยู่ในห้องตอนตื่นมาอีกเช่นเคย แต่ที่หน้าแปลกใจก็คือ หมอนกับผ้าห่มมันมาอยู่บนเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อคืนเขาจำได้ว่านอนเตียงเปล่าๆนี่นา บางทีคิบอมอาจจะเอามาวางไว้บนเตียงก่อนจะออกจากห้องไปและที่หน้าแปลกคือ หมอนมันหนุนหัวเขาอยู่แถมผ้าห่มยังห่มให้ไว้อย่างดีด้วย หรือว่า...
“ไม่หรอกมั้ง” ดงแฮรีบส่ายหัวไล่ความคิดของตัวเองออกไปทันที ก็คิบอมกำลังโกรธเขาอยู่จะมาทำดีด้วยทำไมกัน
“เรียวอุกก็คงกลับห้องไปแล้วล่ะมั้ง” เมื่อดงแฮหันไปมองเตียงของตัวเองที่เหลือแต่ความว่างเปล่าจึงคิดว่าเรียวอุกคงจะกลับห้องไปแล้ว และก็ไม่รู้ว่าเมื่อวานมีเรื่องอะไรกันแน่ถึงได้มานอนที่เขาห้องแบบนี้
เมื่อหันหน้าไปมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้ก็ใกล้จะแปดโมงครึ่งแล้ว ดงแฮจึงรีบเด้งตัวจากที่นอนวิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที ให้ตายสิ เมื่อคืนนอนร่วมห้องกันตั้งสามคน ไม่มีใครคิดจะปลุกเขาเลยหรือไงนะ น่าน้อยใจชะมัด ชีวิตลีดงแฮช่างน่าเศร้าจริงๆ
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยนั้นยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สำหรับเด็กหอนั้น ตอนเช้าไปเรียนตอนเย็นก็กลับมาที่หอ วนเวียนเป็นกิจวัติประจำวัน จะมีบ้างที่ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่ชีวิตก็มีเวลาเป็นตัวกำหนด ไม่อิสระเหมือนอย่างนักศึกษาทั่วๆไป
ซองมินกับคยูฮยอนที่โดนคำสั่งของคิงอีทึกให้เป็นแฟนกันหนึ่งสัปดาห์ก็ยังคงปฏิบัติตามคำสั่งของคิงอย่างเคร่งครัดจนเหมือนจะติดเป็นนิสัยไปเสียแล้ว ตอนนี้ซองมินไปไหนก็จะเห็นคยูฮยอนติดสอยห้อยตามไปด้วยตลอด เช่นเดียวกันเวลาคยูฮยอนไปไหนก็จะเห็นซองมินอยู่ด้วยตลอด จะยกเว้นก็เวลาเรียนเท่านั้น
“ให้ตาย! ฉันอิจฉานายชะมัดซองมิน” เรียวอุกที่กำลังจะเดินเข้าตึกคณะไปหันมาเห็นคยูฮยอนเดินมาส่งเรียวอุกก็อดจะแซวไม่ได้
“เป็นอะไรเรียวอุกหน้ามุ่ยเชียว” ซองมินทักด้วยสีหน้าสงสัยเดินเข้าไปหาเรียวอุกที่ยืนกอดอกทำหน้าบึ้งตึงอยู่ สงสัยจะอารมณ์ไม่ดี
“งั้นฉันไปก่อนนะ” เอ่ยบอกแฟนจำเป็นก่อนจะเดินหันหลังมุ่งตรงไปยังคณะของตัวเอง ซองมินได้แต่ยกมือขึ้นโบกลาเบาๆก่อนจะหันกลับมาสนใจเรียวอุกต่อ
แต่เมื่อหันกลับมาอีกทีซองมินก็ไม่เห็นเรียวอุกยืนอยู่ตรงนี้เสียแล้ว เพราะเจ้าตัวเล็กเล่นเดินดุ่มๆเข้าตึกไปโดยไม่สนใจใครซะแล้ว
“เป็นอะไรของเขาล่ะเนี่ย” พึมพำขึ้นกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินเข้าคณะไปบ้าง
ในเย็นของวันนี้เด็กหอทุกคนต่างถูกหัวหน้าหอแต่ละหอเรียกมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยถึงเรื่องกีฬาประจำหอที่จะถูกจัดขึ้นในอาทิตย์หน้านี้ ซึ่งเป็นการกิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ของแต่ละหอ โดยมีรางวัลเป็นสิทธิพิเศษในการเข้าออกหอนอกเวลาที่กำหนดเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ด้วยกัน
“น้องๆทุกคนคงรู้แล้วนะว่าสัปดาห์หน้าเราจะมีการแข่งขันกีฬาหอกัน” รุ่นพี่ร่างยักษ์ของหอสิบสามที่หลายๆคนต่างเกรงกลัวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม ขาทั้งสองข้างก้าวเดินไปเดินมาอยู่ด้านหน้าของเหล่ารุ่นน้องที่นั่งฟังกันอย่างตั้งใจ
“เกมส่วนใหญ่ที่เราจะแข่งกันนั้นเป็นเกมคู่ เพื่อความยุติธรรมพี่จะใช้วิธีจับฉลากเพื่อสุ่มหานักกีฬา น้องๆที่เป็นรูมเมทพี่คิดว่าคงมีความสนิทชิดเชื้อกันมากที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าพี่จับได้หมายเลขห้องของใครสองคนที่พักอยู่ห้องนั้นต้องลงแข่ง ใครไม่ให้ความร่วมมือคงรู้นะว่าจะโดนอะไร” พูดจบรุ่นพี่ร่างยักก็หัวเราะในลำคอทำเอาเหล่ารุ่นน้องแอบกลืนน้ำลายกันเป็นแทบๆ
“ส่วนเกมที่ต้องเล่นคนเดียวนั้นมีไม่กี่เกม เอาเป็นว่าพี่จับได้หมายเลขห้องไหนก็ให้ตกลงกันว่าใครจะเป็นคนลงแข่ง โอเคมั้ย” เว้นจังหวะให้น้องๆ เมื่อได้คำตอบเป็นการพยักหน้าหงึกหงักๆก็เริ่มพูดต่อ
“งั้นพี่จะเริ่มจับฉลากแล้วนะ” รุ่นพี่ร่างยักษ์เดินไปที่กล่องฉลาก และการสุ่มหานักกีฬาของหอสิบสามก็ได้เริ่มขึ้น
เสียงโห่ร้องของเหล่ารุ่นน้องรุ่นพี่ดังมาเป็นระลอกเมื่อรู้ว่าใครได้ลงกีฬาชนิดไหน เกมแต่ละอย่างที่ทางหอได้คิดขึ้นก็ไม่ใช่ธรรมดาซะด้วย เพราะฟังแค่ชื่อก็เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างถล่มทลาย และหมายเลขห้องที่ถูกสุ่มเลือกได้ก็ต้องเดินออกไปเซ็นชื่อที่โต๊ะด้านหน้า
“วิ่งสามขา ห้อง 1349” สิ้นเสียงประกาศของรุ่นพี่เหล่ารุ่นน้องในหอก็พากันมองหาเจ้าของห้องเป็นการใหญ่ หลังจากที่ประกาศไปได้ประมาณสี่ถึงห้าเกมแล้ว
“ดงแฮห้องนายไม่ใช่เหรอ” ฮยอกแจที่นั่งอยู่ข้างๆดงแฮสะกิดบอกเพื่อนเบาๆ เพราะเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้ว่าที่รุ่นพี่ประกาศออกมานั้นเป็นห้องของตัวเอง
“หา! ห้องฉันเหรอ” ตอบกลับหน้าหลอหลาพร้อมชี้ที่หน้าอกตัวเอง
“ก็ห้องนายนั่นแหละ ออกไปเซ็นชื่อสิ คิบอมเดินไปนู้นแล้ว เดี๋ยวก็โดนรุ่นพี่ด่าเอาหรอก” ฮยอกแจเบ้ปากไปที่คิบอมซึ่งเดินออกไปที่โต๊ะด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว ดงแฮเลยต้องรีบลุกตามออกไปทันที
“ทำไมต้องเป็นห้องเราด้วยเนี่ย คิบอมยังโกรธอยู่แบบนี้แล้วจะเล่นได้เหรอ” เดินไปปากก็บ่นไป ถึงเกมวิ่งสามขามันจะดูธรรมดาแต่มันต้องใช้ความสามัคคีสูงมาก อย่างเขากับคิบอมตอนนี้อาจจะเล่นได้ไม่ดีก็เป็นได้
“ขี่ม้าชิงเมือง ห้อง 1342” ผ่านไปสองเกมหมายเลขห้องที่ถูกจับได้ก็วนมาที่ชั้นสี่อีกครั้ง เจ้าของห้องอย่างฮีชอลกับซีวอนได้แต่เบ้ปาก สามัคคีกันเป็นเลิศอย่างเขาสองคนคงพาให้หอชนะได้หรอกนะ
“เกมต่อไป ตามองตา ห้อง 1341” ประกาศจบเหล่ารุ่นน้องก็มองหาเจ้าของหมายเลขห้องอีกเช่นเคย
“ชั้นเราโดนอีกแล้วเหรอเนี่ย” อีทึกออกแนวบ่นเพราะต่อจากห้องของฮีชอลกับซีวอนก็เป็นห้องของตัวเองเลย สรุปแล้วตอนนี้ชั้นสี่โดนสุ่มไปแล้วสามห้องด้วยกัน
แต่ดูเหมือนว่าคนที่ปลื้มสุดจะเป็นคังอิน เพราะพอโดนสุ่มได้ปั๊บก็ยิ้มหน้าบ้านทันที ได้เล่นเกมกับนางฟ้าของตัวเองทั้งที ไม่ดีใจได้ยังไงกันล่ะ
หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็ทำการจับสุ่มเกมต่างๆไป จนมาถึงเกมยอดฮิตสองเกมสุดท้ายที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ เพราะทุกๆปีที่ผ่านมาสองเกมนี้มักจะเรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมากมาย
“help me please! ห้อง 1348” สิ้นคำพูดของรุ่นพี่ ทุกคนต่างชะเง้อมองหาผู้โชคดีไม่เว้นแม้กระทั่งรุ่นพี่เอง
“help me please! เกมบ้าอะไรของมันวะ” ฮยอกแจบ่นอุบอิบออกมาเมื่อได้ฟังชื่อเกมเพราะไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แถมยังเป็นตัวเองที่ต้องเล่นเกมนี้อีก
“จะเกมอะไรก็ช่างเถอะ ออกไปเซ็นชื่อก่อน” ฮันคยองฉุดแขนฮยอกแจให้ลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปเซ็นชื่อเดินหน้า
“คู่นี้ท่าทางจะไปได้สวยนะ” รุ่นพี่พูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของฮันคยองกับฮยอกแจ เพราะดูหน้าตาแล้วน่าจะฉลาดและดูแข็งแรงน่าจะผ่านเกมนี้ได้อย่างสบายๆ
“เกมคู่เกมสุดท้ายนะ we got married ห้อง 1347”
“ห้องนายหนิซองมิน ได้เกมนี้ซะด้วย” พูดจบอีทึกก็หัวเราะเบาๆ นอกจากเกมที่ฮันคยองกับฮยอกแจได้แล้ว เกมนี้ก็เป็นอีกเกมที่มีคนพูดถึงมากที่สุด แถมยังสร้างความฮาได้ทุกปีอีกด้วย
“มันเป็นเกมยังไงเหรออีทึก”
“ไปเซ็นชื่อก่อน” ยังไม่ทันจะได้คำตอบกลับมาจากอีทึกซองมินก็โดนคยูฮยอนจึงให้ลุกขึ้นเดินไปเซ็นชื่อซะก่อน แถมตลอดทางที่เดินออกไปก็ถูกสายตาของเพื่อนจับจ้องเป็นตาเดียว
“คู่นี้ก็ดูจะเข้าท่าแฮะ” รุ่นพี่ร่างยักษ์ลูบคางตัวเองไปมาเมื่อพิจารณาคู่ซองมินกับคยูอยอนนี้แล้วว่าเหมาะกับเกมนี้มากที่สุด งานนี้มีหวังหอสิบสามต้องกวาดชัยชนะมาเพียบแน่
“ต่อไปเป็นเกมเดี่ยวนะ” พูดจบรุ่นพี่ก็ทำการจับฉลากอีกครั้ง จนได้นักกีฬาในสามเกมแรกเรียบร้อย จนมาถึงเกมสุดท้าย
“ชิงธง ห้อง 1346 เลือกได้ว่าใครเป็นคนเล่นก็ออกมาเซ็นชื่อได้เลย”
“งานนี้ฉันลุยเอง” ชินดงหันไปบอกรูมเมทตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างก่อนจะลุกไปเซ็นชื่อด้านหน้า เกมนี้เขาลุยได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน มั่นใจเต็มร้อย
หลังจากที่จัดการเรื่องนักกีฬาเรียบร้อยรุ่นพี่ก็ปล่อยให้น้องๆได้ไปพักผ่อนและเตรียมตัวฝึกซ้อมกับงานที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อชัยชนะกับสิทธิพิเศษที่ไม่ว่าใครก็อยากได้มันมาครอบครองทั้งนั้น
“ชั้นเรานี่โดนเกือบหมดเลยนะ เว้นแต่ห้องนาย” ขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดอีทึกพูดพร้อมกับชี้ไปที่เยซองกับเรียวอุกที่เดินตามหลังมา แล้วก็ต้องแปลกใจที่เห็นสองคนที่เดินห่างกันเป็นเมตร เพราะปกติเยซองจะเดินไม่ยอมห่างเรียวอุกเลย
“ก็ดี” แล้วหนิ เรียวอุกพูดขึ้นมาเบาๆโดยไม่มองหน้าเพื่อนคนไหนเลยซักคน
ซองมินที่ได้ฟังแบบนี้เลยหันไปมองทันที เพราะรู้สึกว่าเรียวอุกมีอาการแปลกตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว ส่วนดงแฮก็มองด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่ที่เรียวอุกมาแย่งเตียงเขานอนก็ยังไม่ได้ถามถึงเหตุผลเลย
“เรียวอุกเป็นอะไรหรือเปล่า แปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะ” ซองมินเดินลงมาอยู่ขั้นเดียวกับเรียวอุกถามด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเป็นห่วง เพราะดูเรียวอุกไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่
“เปล่าหรอก” พูดจบก็เดินนำหน้าเพื่อนๆไปทันที ทำเอาคนที่เหลืออยู่หันไปมองเยซองกันเป็นตาเดียว
“อย่ามาจ้องฉันแบบนี้นะ” พูดไปก็หลบตาเพื่อนๆไป ถ้าทุกคนรู้ว่าเขาทำอะไรกับเรียวอุกไว้คงโดนเล่นงานเอาแน่ๆ
“ให้ตายสิไม่น่าไว้ใจเลย” ฮีชอลพูดขึ้น สีหน้าที่แสดงออกมานั้นบ่งบอกได้ชัดเจนว่าไม่ไว้ใจในตัวเยซองเลยแม้แต่น้อย
“ฉันไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ปฏิเสธเสร็จก็เดินนำเพื่อนๆขึ้นห้องไปทันทีมาโดนจับผิดแบบนี้มันน่าอึดอัดชะมัด สงสัยต้องรีบกลับไปง้อเรียวอุกซะแล้วล่ะงานนี้
“ฉันว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรแน่ๆเลย” ฮยอกแจตั้งข้อสงสัย
“แถมเมื่อวานเรียวอุกยังไปขอนอนห้องฉันด้วย หรือว่าจะทะเลาะกัน” ดงแฮเสริม นึกถึงเรื่องเมื่อคืนวานไม่รู้จะเคืองหรือจะเขินดี จะเคืองที่คิบอมงกไม่ยอมแบ่งหมอนกับผ้าห่มให้เขาแต่พอนึกถึงกลับเขินเรื่องที่ล้มลงไปทับคิบอมทุกที
“ทะเลาะกันชัวร์ ฟันธง!” ว่าแล้วอีทึกก็ทำการสรุปทันที โดยมีเพื่อนพยักหน้าหงึกหงักตามอย่างเห็นด้วย
“แล้วเราจะทำไงกันดี” ซองมินพูด
“ไม่ต้องทำอะไรหรอก ปล่อยให้สองคนนั้นจัดการเอง ถ้าเรื่องมันใหญ่จริงๆเราค่อยเข้าไปช่วย ส่วนตอนนี้ก็กลับห้องกันไปได้แล้ว” ฮีชอลพูดก่อนจะเดินนำหน้าขึ้นห้องไปบ้าง ต้องกลับไปคิดแผนการเพื่อให้ชนะเกมนี้ให้ได้ ซีวอนก็ซีวอนเถอะถึงจะเถียงทุกวัน แต่วันแข่งขอพักยก ของรางวัลล่อตาล่อใจแบบนั้นใครไม่อยากล่ะจริงมั้ย
อีกไม่กี่วันเท่านั้นก็จะได้เวลาแข่งขันกีฬาประจำหอ วันหยุดแบบนี้นักกีฬาแต่ละหอต่างพากันฝึกซ้อมเป็นการใหญ่เพื่อคว้าชัยชนะมาครอบครองให้ได้
แต่สำหรับนักกีฬาของหอสิบสามชั้นสี่วันหยุดทั้งทีแทนที่จะฝึกซ้อม แต่สายตะวันโด่งป่านนี้หลายคนกลับยังไม่ตื่น มีเพียงซองมิน เรียวอุก ดงแฮเท่านั้นที่ลงมาทานข้าวด้วยกันอยู่ข้างล่าง เพราะรูมเมทของตัวเองต่างนอนสลบไสลกันอยู่บนห้อง
“นี่เรียวอุก ตกลงนายกับเยซองทะเลาะเรื่องอะไรเหรอ” ซองมินถามขึ้นเมื่ออาหารในจานหมดลง แต่ถามไปก็เปล่าประโยชน์เหมือนทุกๆครั้ง เพราะเรียวอุกไม่ยอมปริปากตอบเลยแม้แต่น้อยว่าทะเลาะกับเยซองเรื่องอะไร
“ก็คนมันจิตใจไม่ดีน่าโกรธไหมล่ะ” เรียวอุกนั้นดูใส่อารมณ์กับการตอบคำถามนี้พอสมควร นึกถึงทีไรอารมณ์โมโหมันพุ่งขึ้นสมองทุกที
“ตกลงเยซองทำอะไรนายกันแน่ ทำไมไปว่าเค้าจิตใจไม่ดีล่ะ” ดงแฮถามต่อ
“หยุดพูดเรื่องนี้เลยนะ” ว่าเสียงเข้มพร้อมกับทำหน้าโหดทำเอาเพื่อนทั้งสองต้องรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที เวลาเรียวอุกโกรธนี่น่ากลัวใช่เล่นเลย
“จริงสิซองมิน ครบหนึ่งสัปดาห์แล้วนี่ นายกับคยูฮยอนก็ไม่ต้องเป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย” ดงแฮเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อเห็นว่าเรียวอุกทำท่าจะโมโหใส่และเรื่องที่เปลี่ยนนั้นไม่ใช่คนไกลตัวเลย
“อืม” ซองมินพยักหน้าขึ้นลงเบาๆ เขาเกือบลืมไปแล้วว่าคำสั่งของคิงอีทึกสิ้นสุดลงแล้ว
“เสียใจมั้ย” ดงแอฮแกล้งถาม เพราะดูสีหน้าซองมินดูหมองลงเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
“ทำไมต้องเสียใจด้วยเล่า ฉันไม่ได้เป็นแฟนกับคยูฮยอนจริงๆซักหน่อย” รีบปฏิเสธเสียงสูงออกมาทันที แถมใบหน้าขาวใสนั่นกลับเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาซะเฉยๆ
“เป็นแฟนกันตั้งหนึ่งสัปดาห์ไม่รู้สึกหวั่นไหวอะไรเลยเหรอ” ดงแฮยังคงแกล้งซองมินไม่เลิก ส่วนเรียวอุกก็ได้แต่นั่งมองยิ้มๆ
“อย่ามาล้อฉันนะดงแฮ ไม่งั้นฉันจะล้อเรื่องนายกับคิบอมบ้าง” ขู่กลับทำเอาดงแฮเงียบไปทันที เรียวอุกที่มองดูอยู่ก็เลยหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อเห็นปฏิกิริยาโต้ตอบอันเงียบกริบของดงแฮ ซองมินนี่จี้ถูกจุดจริงๆ
เงียบได้ไม่นานโทรศัพท์ของซองมินที่วางอยู่บนโต๊ะก็ร้องลั่น ตัวเครื่องสั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะ ดงแฮชะเง้อไปดูก่อนเจ้าของเครื่องว่าใครโทรมา ก่อนจะรีบคว้าโทรศัพท์เครื่องจิ๋วมาไว้ในมือทันที
“นายเอามือถือฉันไปทำไมดงแฮ เอาคืนมา” ซองมินเอื้อมมือจะไปคว้าโทรศัพท์ของตัวเองคืน เพราะอยู่ๆดงแฮก็หยิบมันไปซะเฉยๆ เขามันความรู้สึกช้ากว่าเลยคว้าเอาไว้ไม่ทัน
“สวัสดีครับ” ด้วยความสงสัยดงแฮเลยกดรับทันที เพราะเขาไม่แน่ใจว่าคนที่โทรจะใช่คนที่เขาคิดว่าหรือเปล่า ไม่แน่บางทีซองมินอาจจะมีใครอื่นซ่อนอยู่ก็ได้ ได้เวลาที่ลีดงแฮจะเอาคืนแล้ว
“อ้าว! คยูฮยอนเองเหรอ นี่ฉันดงแฮนะ” พูดตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงร่าเริงเมื่อใช่คนที่ตนเองคิดไว้จริงๆ ทำเอาซองมินรีบลุกขึ้นจะมาแย่งโทรศัพท์มือถือคืนทันที เขาก็เพิ่งจะรู้นะเนี่ยว่าซองมินเมมชื่อคยูฮยอนว่าที่รัก แล้วก็ไม่รู้ว่าคยูฮยอนจะเมมไว้แบบเดียวกันหรือเปล่า
“เอาคืนมานะดงแฮ” ซองมินลุกขึ้นเดินอ้อมไปหาดงแฮเพื่อแย่งโทรศัพท์กลับคืนมา ดงแฮเห็นแล้วแบบนี้ต้องโดนล้อแน่เลย เขาก็ลืมคิดถึงเรื่องชื่อที่โดนอีทึกสั่งให้เมมไว้เสียสนิท
สุดท้ายดงแฮจำต้องคืนโทรศัพท์มือถือให้กับซองมินไม่งั้นเขาคงโดนจับหักกระดูกแน่ถ้าไม่ยอมคืน ก่อนจะเอาแต่นั่งยิ้มอยู่กับเรียวอุกเมื่อซองมินเดินเลี่ยงออกไปคุย
“ตื่นแล้วเหรอ” ถามออกไปเบาๆพลางหันไปมองเพื่อนตัวแสบทั้งสองคนที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้
(อืม แล้วตอนนี้นายอยู่ไหน) เสียงปลายสายถามกลับมา ที่จริงคยูฮยอนตื่นได้ซักพักแล้ว แต่ไม่เห็นซองมินอยู่ในห้องเลยโทรมาหา
“ที่โรงอาหารชั้นล่างน่ะ นายจะกินอะไรมั้ยเดี๋ยวฉันซื้อไปให้”
(ซื้ออะไรขึ้นมาก็ได้ งั้นแค่นี้นะ)
“อืม” พูดจบก็ตัดสายไปก่อนจะเดินกลับมาหาเพื่อนทั้งสองที่นั่งยิ้มแป้นให้อยู่
“แหมๆ เลิกกันแล้วทำไมยังเมมว่าที่รักอยู่อีกล่ะ หรือว่ายังมีเยื้อใยต่อกันอยู่” เมื่อซองมินเดินกลับมาถึงโต๊ะดงแฮก็ออกปากแซวทันที ทำเอาซองมินปั้นหน้าบึ้งใส่
“ไม่คุยกับนายสองคนแล้ว ฉันขึ้นห้องดีกว่า” ว่าแล้วก็เดินไปซื้อข้าวให้คยูฮยอน แต่ก็ไม่วายมีเสียงแซวตามหลังมาจนได้
“ซื้อข้าวไปให้แฟนเหรอจ๊ะ” ดงแฮตะโกนออกเสียงดังอย่างอารมณ์ดี จากที่ตอนแรกโดนขู่เรื่องคิบอมแต่ตอนนี้กลับลืมไปเสียสนิทแล้ว ในหัวมีแต่เรื่องของซองมินกับคยูฮยอนเท่านั้น
ซองมินได้แต่หันมามองด้วยสายตาเคืองๆ เมื่อซื้อข้าวเสร็จก็รีบเดินขึ้นหอไปทันที ทำเอาดงแฮกับเรียวอุกนั่งหัวเราะชอบใจกันอยู่สองคน
“ฉันว่านะคู่นี้ไม่จบกันแค่หนึ่งสัปดาห์นี้แน่เลย” เรียวอุกแสดงความคิดเห็นบ้างหลังจากที่ฟังดงแฮแซวซองมินมาซักพักใหญ่
“เห็นด้วย” ตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง ทั้งดงแฮและเรียวอุกต่างมองตามซองมินที่เดินจ้ำขึ้นบันไดไปแล้วก็หันกลับมานั่งยิ้มกันอยู่สองคน
เรื่องของเพื่อนดูท่าจะไปได้สวยแต่เรื่องของตัวเองนี่สิ ต้องคิดหนัก
-------------------------------------------------------
kr...Talk
สวัสดีจ้าเพื่อนๆทุกคน ห่างหายไปนานเหมือนกันนะเนี่ยไรเตอร์
หลังจากบ้านเมืองของเราเริ่มกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ก็เลยมาอัพ(เกี่ยว?)
จะมีแข่งกีฬาแล้ว หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยว่าชื่อเกมแต่ละชื่อเล่นอย่างไง
ก็ต้องอดใจรอกันหน่อยนะจ๊ะ ไม่นานเกินรอจริงๆ
| ||||
| ||||
Name : HH38 [ IP : 115.87.143.147 ] |
| ||||
| ||||
Name : you^_^< My.iD > [ IP : 114.128.44.169 ] |
สำหรับเม้นที่ไรเตอร์เอามาขึ้นครั้งนี้
ก็เพราะว่าพวกคุณกำลังขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ไรเตอร์อยู่ (ล้อเล่นสนุกๆ)
เราพูดกันตามตรงนะ ไม่ว่าฟิคนี้จะเป็นวอนฮยอก ฮันชอล หรือคู่อื่นที่คุณจะคิดว่ามันจะเป็น
แต่สุดท้ายก็ตอนจบก็ต้องฮันฮยอก และวอนชอลอยู่ดี
เราไม่กลัวว่าคุณจะไม่อ่านฟิคของเรา แต่แค่จะบอกว่าถ้าไม่อ่านก็จะไม่รู้เรื่อง
ก็จะไม่สนุก ก็จะไม่รู้อะไร 3เรื่องที่ไรเตอร์แต่งมาไม่เคยเปลี่ยนเมนเลย
รักคู่ไหนก็เป็นคู่นั้นมาตลอด ฮันมิน ซีฮัน หรือคู่อื่นๆก็มีให้เห็นในรักวุ่นๆ คุณยังอ่านกันได้
เพราะคุณก็รู้ว่าไม่ว่าอย่างไรตอนจบก็ต้องคยูมิน
ไรเตอร์แนะนำตัวละครเด่นชัดขนาดนั้น ถ้ายังเดาไม่ได้ว่าตอนจบเป็นคู่ไหนก็ไม่รู้จะต้องทำไงแล้ว
หากคำพูดเหล่านี้ของไรเตอร์ดูแรงไปก็ขอโทษด้วยนะจ๊ะ แต่ไรเตอร์ก็แค่ไม่อยากให้คุณข้ามตอนไหนในฟิคไปเท่านั้น
มันอาจจะไม่ใช่วอนฮยอกที่หวานชื่นก็ได้นะ แต่สำหรับคนที่ชอบวอนฮยอก มันก็อาจจะไม่ได้ขมไป
แล้วคุณจะเห็นว่าฮยอกของเรามันไม่ธรรมดา... ชักพูดมากไป ไปดีกว่า
อย่าลืมอ่าน+เม้น+โหวต+ป่าวประกาศนะจ๊ะ
เจอกันตอนหน้าจ้า
ความคิดเห็น