คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11 : แผนการลัก_100%
Chapter11 : แผนการลัก
“ทำกันได้นะยัยขี้โวยวาย ใบหน้าอันหล่อเหลาของฉัน โอ๊ย! เจ็บชะมัด” เสียงคร่ำครวญดังเล็ดลอดออกมาเบาๆจากริมฝีปากหยักได้รูปที่กำลังยืนส่องกระจกอยู่ด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง มือข้างขวาถูกยกขึ้นมาสัมผัสบริเวณตาขวาเบาๆ ก่อนจะร้องซีดซาดเมื่อความเจ็บมันวิ่งพล่านไปรอบดวงตา
ภาพเบื้องหน้าที่ปรากฏอยู่บนกระจกนั้นคือชายหนุ่มรูปงามซึ่งมีใบหน้าที่ใครๆต่างอิจฉา แต่บัดนี้มันกลับมีรอยช้ำเขียวรอบดวงตาข้างซ้ายบั่นทอนความหล่อเหลาที่มีเป็นยิ่งนัก
ซีวอนยังคงอาลัยอาวอนรอยช้ำที่ดวงตาไม่เลิก พลางหันหน้าไปมองประตูห้องน้ำที่ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขามีรอยทุเรศๆที่ตาแบบนี้ด้วยความเจ็บใจเล็กๆ เพียงแค่เขาทำตุ๊กตาพังไม่เห็นต้องทำกันขนาดนี้เลย ทั้งที่เป็นรูมเมทกันแท้ๆ
ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้วกลับไปแก้ไขอะไรก็คงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ก็คือต้องทำใจ เอาวะ! เจ็บตัวเล็กๆน้อยๆ เอาไปอ้อนฮยอกแจให้สงสารก็น่าจะเข้าท่าอยู่เหมือนกัน
คิดได้ดังนั้นซีวอนก็หยิบกระเป๋าเดินออกไปจากห้องทันที ตรงไปยังห้องของเป้าหมายที่อยู่เกือบสุดทางเดิน มือข้างขวาถูกยกขึ้นมาเคาะประตูสองสามครั้ง ไม่นานนักประตูห้องก็ถูกเปิดออก ซีวอนพุ่งตัวเข้าไปสวมกอดเต็มที่ พร้อมกับถ้อยคำต่างๆนานาที่พรั่งพรูออกมา
“ฮยอกแจครับดูสิ ฮีชอลต่อยตาผมจนเขียวน่าเกลียด แค่ผมทำตุ๊กตาเค้าพังเอง ไม่เห็นต้องรุนแรงกันขนาดนี้เลย” ซีวอนพูดไปมือที่กอดอยู่ด้านหลังก็ควานไปสะเปะสะปะ ถึงจะรู้สึกถึงความแปลกประหลาดเกี่ยวกับรูปร่างของฮยอกแจอยู่เล็กๆแต่ก็ยังไม่ยอมผละออกมา
“ฮยอกแครับ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าตัวฮยอกแจจะสูงล้ำ กล้ามเป็นมัดๆแบบนี้ ปกติไม่เคยได้กอด” ปากพูดไปมือก็บีบแขนที่รู้สึกว่าจะล้ำกว่าจากที่เคยใช้สายตาพิจารณา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ
“อ้าว! ฮยอกแจ ทำไมไปยืนอยู่ตรงนั้น” ซีวอนอุทานออกมาเสียงดังเมื่อบุคคลที่ตนคิดว่ากำลังกอดอยู่กลับยืนอยู่ในห้อง พอเริ่มตั้งสติได้และรู้ตัวว่ากำลังกอดใครอยู่ก็รีบผละออกมาทันที
“อยากเขียวอีกข้างใช่มั้ยแกเนี่ย!” ฮันคยองว่าพลางกำหมัดทำท่าจะต่อย เมื่อวานก็รอบหนึ่งที่ซีวอนมาสารภาพรักต่อหน้าเขาแทนที่จะได้เป็นฮยอกแจ เพื่อนคนนี้ไม่เคยดูตาม้าตาเรือเลยจริงๆ ผิดไม่เคยจำ
“เฮ้ย! ไม่ต้อง อะไรวะ! แกอีกแล้วไอ้ฮัน! ก็ว่าล่ะทำไมฮยอกแจของฉันถึงได้ล้ำจัง” ผละถอยทันทีเมื่อเห็นเพื่อนรักทำท่าจะต่อย ก่อนจะส่ายหัวน้อยๆ เพราะความไม่ได้ดั่งใจซึ่งไม่ใช่ความผิดของฮันคยองเลยแม้แต่น้อย แต่คนที่ยืนฟังอยู่ในห้องนี่สิใบหน้าขาวใสกลับเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อนิดๆเพราะคำพูดที่ว่า ฮยอกแจของฉัน ของซีวอนเมื่อกี้นี้
ซีวอนไม่ได้สนใจอีกว่าฮันคยองจะพูดอะไรต่อหรือไม่ เดินเข้ามาภายในห้องโดยไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องอนุญาต ตรงดิ่งเข้ามาหาฮยอกแจทันที และกำลังจะอ้าปากคร่ำครวญสิ่งที่เพิ่งพูดให้เพื่อนรักฟังเมื่อกี้นี้อีกรอบ
“หยุด! ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ตานายน่ากลัวชะมัด” ฮยอกแจยกมือขึ้นห้ามก่อนที่ซีวอนจะได้พูดอะไรออกมา พลางทำท่าขนลุกเมื่อเห็นรอยช้ำที่ตาของซีวอนเพราะมันดูน่ากลัวและน่าเกลียดพิลึก จนเขาคิดว่าซีวอนกล้าออกมาเดินโดยไม่มีอะไรปิดตาเอาไว้ได้อย่างไง
“อ่า~ ฮยอกแจครับ เห็นตาผมแล้วใช่มั้ย มันเจ็บมากๆเลยนะ ฮีชอลเล่นซัดเข้ามาเต็มๆจนมันเขียวขนาดนี้ ฮยอกแจช่วยทำแผลให้ผมหน่อยสิ” พอได้โอกาสซีวอนก็ออกปากอ้อนทันที ซึ่งมันดูตลกไม่น้อยในสายตาฮยอกแจที่มีผู้ชายตัวใหญ่ๆมาทำท่าทางอ้อนต่อหน้าแบบนี้ แต่ดูไปดูมามันก็น่ารักพิลึก
“ไม่เอาอ่ะ นายก็ไปให้ฮีชอลทำสิ เค้าต่อยนายไม่ใช่เหรอ” ส่ายหน้าพัลวันเมื่อซีวอนพูดจบ
“ไม่เอาอ่ะ เค้าต่อยผมแล้วจะมาทำแผลให้ทำไม ฮยอกแจทำให้หน่อยนะ นะครับนะ” เมื่ออ้อนครั้งแรกไม่สำเร็จซีวอนจึงปล่อยลูกอ้อนออกมาอีกระลอก ขืนกลับไปให้ยัยขี้โวยวายทำแผลให้ได้เขียวอีกข้างแน่ๆ
“เอ่อ...งั้นเอาเป็นตอนเย็นได้มั้ย ตอนนี้ฉันต้องรีบไปเรียน ไปก่อนนะ” พูดจบฮยอกแจก็จ้ำอ้าวออกไปจากห้องทันที ไม่อยากอยู่ให้ซีวอนทำตาละห้อยหวานเยิ้มใส่อีก เพราะไอ้ตาเขียวๆนั่นมันน่าดูซะที่ไหนกัน
“เดี๋ยวก่อนสิครับ” ซีวอนทำท่าจะเข้าไปรั้งแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เลยได้แต่ยืนมอง
“ทุเรศลูกกะตาชะมัด เอานี่ไปใส่ไป คนอื่นเค้าจะได้ไม่ตกใจ” ฮันคยองเดินเข้ามาในห้องก่อนจะหยิบแว่นตาดำของตนเองโยนให้ซีวอน เพราะขืนให้เดินลงไปสภาพแบบนี้คงได้กลายเป็นเป้าสายตาของคนทั้งมหาวิทยาลัยแน่ หนุ่มหล่อแห่งคณะรัฐศาสตร์ถูกรูมเมทต่อยตาเขียว มันช่างน่าอนาถใจจริงๆ
“ขอบใจวะ แล้วแกจะลงไปพร้อมฉันเลยมั้ย” พอได้แว่นมาก็รีบใส่เข้าไปทันทีเพราะซีวอนก็รู้สึกอายไอ้รอยเขียวๆที่อยู่บนตาเหมือนกัน
“อืม” ฮันคยองพยักหน้ารับก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินออกจากห้องไปพร้อมกับซีวอน
งานนี้ถึงแม้จะใส่แว่นตาซีวอนก็ยังกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนอยู่ดี ไม่ใช่เพราะใครเห็นรอยช้ำที่ดวงตา แต่เป็นความหล่อเท่ที่เสริมให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นจากการใส่แว่นตาดำนั่นเอง ทำเอาฮันคยองชักรู้สึกหมั่นไส้อยากจะกระชากแว่นตาออกซะตอนนั้น ถ้าทุกคนเห็นว่าภายใต้แว่นตานี้มีอะไรซ่อนอยู่จะยังทำหน้าหลงเสน่ห์ซีวอนอยู่อีกมั้ย
หลังเลิกเรียนซีวอนรีบกลับมาที่หอทันทีและมารอฮยอกแจอยู่ที่หน้าห้องพัก วันนี้เขาแทบจะไม่ได้ออกไปไหนกับเพื่อนๆในคณะเลย อยู่เฉพาะในห้องเรียนกับตอนไปกินข้าวที่โรงอาหารตอนกลางวันเท่านั้น แถมแว่นตาก็ไม่ถอดมันออกแม้แต่วินาทีเดียว
ยืนรอได้ซักพักใหญ่ๆฮยอกแจก็เดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกับถุงสีขาวที่ข้างในบรรจุยาเพื่อนำมาทำแผลให้กับซีวอน เมื่อขึ้นมาเห็นซีวอนยืนยิ้มแป้นรออยู่หน้าห้องฮยอกแจก็ลอบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปหา
“นายเอาไปทำเองแล้วกันนะ วันนี้ฉันเหนื่อยมากๆเลย” ว่าพลางยื่นถุงยาไปตรงหน้าซีวอน เพราะวันนี้เขาเรียนหนักมาก แถมเลิกเรียนแล้วต้องเดินไปซื้อยาให้ซีวอนอีก ตอนนี้อยากนอนพักเป็นที่สุด
“ไม่ได้นะครับ ผมจะทำเองได้ยังไงล่ะ ตาผมเจ็บอยู่นะ มันก็มองไม่ถนัดสิครับ” เมื่อได้ฟังซีวอนก็หน้าบึ้งแทบจะในทันทีก่อนจะเริ่มออกลูกอ้อนเหมือนตอนเช้าอีกครั้ง
“นายเอาไปทำเองเถอะ ฉันอยากพักแล้ว” ฮยอกแจบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ และพยายามยัดเยียดถุงยาใส่มือซีวอนแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอบรับท่าเดียว
“ฮยอกแจทำให้หน่อยนะครับ แป๊บเดียวเอง” ซีวอนยังคงตื้อไม่เลิก แต่ยังตื้อได้ไม่ทันไรเสียงที่ไม่ประสงค์จะได้ฟังเท่าไหร่ก็ดังขึ้นตรงหน้า
“ห้องไม่มีให้กลับหรือไงถึงได้มายืนวุ่นวายหน้าห้องคนอื่นเค้าแบบนี้น่ะ” ฮีชอลที่เดินขึ้นมาได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนพอดีเลยเอ่ยปากกัดรูมเมทตัวเองซักนิด ตั้งแต่เมื่อวานที่เขาชกเข้าไปเต็มๆเบ้าตาซีวอนอีกฝ่ายก็ไม่เข้าหาเขาเลยแม้แต่น้อย แถมเมื่อเช้าก็แทบจะไม่ได้เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ
“ใครเค้าอยากจะไปอยู่กับคนที่ชอบใช้กำลังกันเล่า” พึมพำขึ้นกับตัวเองเบาๆ แต่มีหรือที่คนหูดีอย่างฮีชอลจะไม่ได้ยิน ว่าแล้วก็เตรียมง้างมือทันที
“อยากได้อีกรอยหรือไงนาย ไอ้โรคจิต!” ขู่ฟ่อทำท่าจะตบแหล่ไม่ตบแหล่ ทำเอาซีวอนใจหายวาบ
“พอแล้วน่าฮีชอล แค่นี้ก็ไม่น่ามองพอแล้ว” ฮยอกแจออกปากห้ามก่อนจะเกิดมวยขึ้นหน้าห้องของตัวเอง จะว่าไปตัวซีวอนก็ออกจะใหญ่ดันกลัวคนตัวเล็กๆอย่างฮีชอลไปได้
ฮีชอลทำท่าจิ๊ปากใส่เล็กน้อยอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ก่อนจะลดมือลงไปกอดอกแทน
“งั้นเราไปทำแผลกันนะครับฮยอกแจ” แล้วซีวอนก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันทีเพราะไม่อยากจะเสวนากับฮีชอลต่อ เดี๋ยวได้มีลงไม้ลงมืออีก
“จริงสิฮีชอล งานนี้นายเป็นคนทำให้ไอ้รอยทุเรศๆนี่ไปอยู่บนหน้าซีวอนนายก็ทำแผลให้เขาเองแล้วกันนะ” พูดพลางยื่นถุงยาไปให้ฮีชอล พออีกฝ่ายรับไปก็รีบเดินหนีเข้าห้องล็อกประตูใส่ทันที
“อ้าว! ฮยอกแจครับ ฮยอกแจ!” ซีวอนเห็นดังนั้นก็ได้แต่ทำหน้าเหวอ หันกลับไปเคาะประตูเรียกฮยอกแจยกใหญ่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีการตอบรับอะไรกลับมาเลยแม้แต่นิด
ฮีชอลเห็นดังนั้นก็เดินกลับไปที่ห้องตัวเองอย่างไม่สนใจใยดีเท่าไหร่นัก จนเดินมาถึงหน้าห้องซีวอนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเคาะเรียกฮยอกแจซักที จนเขาซักเริ่มรำคาญแทนจริงๆ
“ไอ้โรคจิต! จะทำแผลมั้ยห๊ะ!” ตะโกนถามข้ามฟากไปด้วยใบหน้านิ่งๆ ซึ่งซีวอนก็ทำนิ่งกลับมา
“ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่มาไม่ต้องทำ” ออกปากขู่แต่ซีวอนก็ยังคงเฉยอยู่ ถึงหันมามองแล้วก็ตาม
“หนึ่ง”
“สอง”
“สะ...”
ยังไม่ทันจะพูดได้เต็มคำดีซีวอนก็รีบวิ่งมาหาทันทีด้วยความเร็วสูง ใครจะไปกล้าเสี่ยงกับยัยขี้โวยวายนี่ เขาแหละคนหนึ่งที่ไม่คิดจะเสี่ยงอีกเป็นครั้งที่สอง เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่ร้ายใช่ย่อย
เมื่อซีวอนวิ่งมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าฮีชอลก็ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะดึงแว่นที่ซีวอนใส่อยู่ออก พิจารณารอยช้ำที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ
“น่าเกลียดใช้ได้เลยนะเนี่ย”
ซีวอนได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าตอบอะไรออกไป แต่ในใจนั้นอยากจะตะโกนใส่หน้าดังๆเลยว่า ‘เพราะนายนั่นแหละที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้!’ แต่ก็อย่างว่า เขาไม่กล้าเสี่ยงหรอก เกิดไม่เข้าหูยัยขี้โวยวายขึ้นมาอีก ได้เจ็บตัวอีกแน่
“เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้นายเอง” พูดพร้อมยิ้มหวานให้ก่อนจะพาซีวอนเดินเข้าห้องไป เห็นแผลซีวอนแล้วใช่ว่าเขาจะไม่ตกใจ ไม่คิดว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้ และเขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดจะไม่ยอมทำแผลให้ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นต้นเหตุของรอยช้ำนี้
ภายในช่วงค่ำของวันซึ่งเป็นเวลาที่นักศึกษาส่วนใหญ่กลับเข้าหอกันหมดแล้ว เยซองที่หลังจากเลิกเรียนก็กลับเข้ามาในหอพักพร้อมกับเรียวอุกตามปกติ แต่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เพื่อนร่วมคณะกับเรียวอุกมาชวนให้ออกไปข้างนอกด้วยกัน จึงเป็นการดีที่เยซองจะได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเพื่อนใหม่ที่ได้นั่งคุยกันเมื่อวาน
“เจ้าตังโกมาเอ่ย เสร็จฉันล่ะแก อยากแย่งความรักของเรียวอุกไปจากฉันดีนัก ไปหาที่อยู่ใหม่ซะเถอะ แกไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่หรอก” เยซองเปิดฝาตู้เลี้ยงเต่าของเรียวอุกออกก่อนจะคร่ำครวญกับเจ้าเต่าที่คงฟังเขาไม่ออกพอเป็นพิธี หลังจากนั้นจึงใช้มือขวาลูบกระดองเต่าเบาๆก่อนจะหยิบมันขึ้นมา
“ฉันจะพาแกไปอยู่ที่สวนของมหาลัยแล้วกันนะ ที่นั่นบรรยากาศดี” พูดจบก็ยิ้มแป้นให้เจ้าเต่าผู้โชคร้ายพลางหันหลังกลับเพื่อตรงไปยังประตูแล้วก็ต้องสะดุ้งตัวโหยงเต่าที่อยู่ในมือแทบจะล่วงลงมา เมื่อเจ้าของห้องอีกคนกำลังยืนปั้นหน้าบึ้งอยู่ที่ประตู
“ระ...เรียวอุก...กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เยซองถามออกไปเสียงเบาหวิว จากสีหน้าแล้วคงเดาได้ไม่ยากว่าเรียวอุกจะกลับมาตอนไหน เพราะที่เขาพร่ำบ่นกับเจ้าเต่ากังโตมาไปนั้น คงได้ยินแน่ๆ ไม่มากก็น้อยล่ะ
“ก็กลับมาทันที่พอจะรู้ว่านายจะทำอะไรกับตังโกมานั่นแหละ!!!” ตะคอกใส่เสียงดังบ่งบอกให้รู้ว่าตอนนี้กำลังโกรธเต็มที่ ที่เรียวอุกออกไปกับเพื่อนนั้นยังเดินไปไม่ทันถึงไหนเพื่อนก็กลับเปลี่ยนใจเลยต้องกลับมาที่ห้อง พอเข้ามาก็เห็นเยซองกำลังวุ่นวายอยู่ที่ตู้เลี้ยงเต่าแล้วก็พร่ำประโยคต่างๆออกมา ความโกรธมันเลยพุ่งมาจุกอยู่ที่อกทันที
“ไม่ใช่นะ” เยซองพยายามที่จะปฏิเสธ แต่หลักฐานคามือกับสิ่งที่ได้ยินคาหูขนาดนั้นคงจะแก้ตัวอะไรไม่ขึ้น
“เกลียดนายแล้ว!! เยซองใจร้ายที่สุด!!” เรียวอุกตะคอกใส่สุดเสียงก่อนจะเดินออกไปจากห้องทันที
เรียวอุกก้าวเดินอย่างรวดเร็วไปที่หน้าห้องของเพื่อนที่คิดว่าน่าจะพึ่งได้ในตอนนี้ก่อนจะลงมือเคาะประตูไปสองสามครั้ง ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก
“อ้าว! เรียวอุก มีอะไรเหรอ” ดงแฮที่เป็นคนออกมาเปิดประตูเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ เพราะดูจากสีหน้าเรียวอุกแล้วน่าจะมีเรื่องอะไรมาซักอย่าง
“คืนนี้ฉันขอนอนด้วยคนนะ” พูดจบก็ไม่ต้องรอให้เจ้าของห้องอนุญาต เรียวอุกแทรกตัวเข้าไปในห้องทันที งานนี้ดงแฮไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขา ยังไงคืนนี้เขาจะไม่ยอมนอนกับเยซองเด็ดขาด งอน!
“นายนอนเตียงไหนดงแฮ” เรียวอุกถามขึ้นเมื่อดงแฮปิดประตูห้องแล้วเรียบร้อย
“เตียงใน” ดงแฮบอกพลางชี้นิ้ว
“งั้นนายไปนอนกับคิบอมแล้วกันนะ” เมื่อได้ฟังเรียวอุกก็เดินตรงไปยังเตียงของดงแฮทันที ออกปากสั่งเจ้าของเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงกันใครเข้ามาซักไซ้หรือเซ้าซี้อะไรอีก
“เอ้า! ได้ไงอ่ะเรียวอุก นั่นมันเตียงฉันนะ” พอได้ฟังชื่ออีกคนดงแฮก็รู้สึกเดือดร้อนขึ้นมาทันที ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนเดินเข้าไปหาเรียวอุกเพื่อนจะทวงสิทธิ์เตียงของตัวเองคืนมา ส่วนคิบอมที่โดนพาดพิงถึงก็ยังคงนอนนิ่งสังเกตการณ์ต่อไป
“ตอนนี้เตียงนี้เป็นของฉัน!! นายไปนอนกับคิบอมซะดงแฮ!! อย่ามาวุ่นวายกับฉันนะ!!” เนื่องจากอารมณ์งอนบวกโกรธเยซองยังไม่หายไปจากใจ เรียวอุกเปิดผ้าห่มขึ้นมาคะตอกใส่ดงแฮก่อนจะกลับไปนอนคลุมโปงอีกครั้ง
ส่วนดงแฮก็ได้แต่ทำหน้าจ๋อยเพราะเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก ทำไมชีวิตเค้าตอนนี้ถึงไม่มีเรื่องดีๆเข้ามาเลยนะ โดนคิบอมโกรธแถมเรียวอุกยังมาโมโหใส่อีก
ในเมื่อเตียงโดนยึดจะให้ลีดงแฮไปนอนที่ไหนได้นอกจากนอนกับคิบอม ถ้าเรียวอุกใจดีให้หมอนเขามาซักใบมันคงจะดีมากเลย เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเขายอมนอนพื้นก็ได้
“คือ...คิบอม...” ยังไม่ทันที่ดงแฮจะได้พูดจบประโยคคิบอมก็หอบหมอนกับผ้าห่มลงมานอนที่พื้น เหลือแค่เพียงเตียงกับที่นอนเปล่าๆไว้ให้ดงแฮเท่านั้น
เมื่อเห็นการกระทำของคิบอมดงแฮก็ได้แต่ร้องห๊า! อยู่ในลำคอเบาๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงที่ปราศจากหมอนและผ่าห่ม จะให้เขานอนบนเตียงเปล่าๆเนี่ยนะ
“นี่คิบอม! แบ่งหมอนหรือผ้าห่มมาให้กันบ้างสิ” ดงแฮร้องขอแต่สิ่งที่ได้รับคือความนิ่งเฉย แล้วจะให้เขานอนแบบนี้ได้ไง ไม่เอาหรอก
เมื่อไม่ได้การตอบรับอะไรกลับมาดงแฮเลยเอื้อมมือลงไปกระชากผ้าห่มที่คิบอมห่มอยู่ หวังเพื่อจะได้อะไรซักอย่างกลับ เพราะอย่างน้อยผ้าห่มก็เอามาทำเป็นหมอนหนุนได้ แต่คนแรงน้อยๆอย่างดงแฮจะไปสู้คนแรงเยอะอย่างคิบอมได้ยังไงกัน เพียงแค่คิบอมออกแรงกระชากเพื่อปกป้องผ้าห่มของตัวเองไว้เท่านั้นดงแฮก็ตกลงมาจากเตียงอย่างง่ายดาย
“เฮ้ย!” ดงแฮร้องอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบดันตัวเองให้ลุกขึ้น เพราะเมื่อกี้คิบอมดึงผ้าห่มกลับไปทำให้เขาล้มลงไปนอนทับคิบอมเต็มๆ ทำเอาใจหายวาบไปเลยทีเดียว ตอนนี้หัวใจเขามันเต้นแรงจนจะหลุดจากอกอยู่แล้ว แต่คิบอมกับยังนอนนิ่งอยู่ได้ น่าโมโหจริงๆ
เมื่อลุกขึ้นมาตั้งตัวได้ดงแฮก็รีบเดินกลับไปหาเรียวอุกทันที เพื่อจะทวงสิทธิ์ในเตียงของตัวเองกลับมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วมันก็เหมือนเดิม แถมเรียวอุกยังไม่มีปฏิกิริยาจะลุกขึ้นมาคุยด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว
“ต้องนอนบนเตียงนี้จริงๆเหรอเนี่ย” ดงแฮได้แต่บ่นอยู่กับตัวเอง สุดท้ายแล้วก็ต้องขึ้นไปนอนบนเตียงของคิบอมที่ไม่มีแม้แต่หมอนกับผ้าห่ม แต่ยังไงซะมันก็ดีกว่านอนพื้นแข็งล่ะนะ วันซวยของลีดงแฮจริงๆ
“ยุนโฮ! ยุนโฮ! นายอยู่แถวนี้หรือเปล่า!” เยซองที่หลังจากเรียวอุกหนีออกไปจากห้องก็ลงมาชั้นล่างเผื่อจะเจอกับยุนโฮเพื่อนที่แนะนำวิธีการนี้ให้เขาทำ และจะได้ขอคำปรึกษาอีก แต่คราวที่แล้วเขากลับลืมถามไปว่ายุนโฮพักอยู่ห้องไหน
“นายมาเรียกหายุนโฮทำไมกัน” เสียงที่ทักขึ้นด้านหลังทำเอาเยซองหันขวับทันทีแล้วก็พบกับแจจุงที่ยืนกอดอกทำหน้าบึ้งให้อยู่ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกว่าคนๆนี้หน้าตาคุ้นมากๆ
“เอ่อ...ขอโทษนะ นายคือใครเหรอ” เยซองชี้นิ้วไปที่แจจุงก่อนจะเอ่ยถาม
“ฉันถามนายก่อนนะว่านายเรียกหายุนโฮทำไม นายเป็นกิ๊กเค้าใช่มั้ย!” แทนที่แจจุงจะตอบคำตอบแต่กลับคาดคั้นเอาคำตอบในคำถามเดิมแถมยังทำหน้าเข้มพลางชี้หน้าหาเรื่องใส่ซะอีก
“ไม่ใช่นะๆ” เยซองโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน อย่าบอกนะว่านี่คือแจจุงแฟนของยุนโฮที่เคยเล่าให้ฟัง หน้าตาก็สวยดีนะแต่ดุชะมัด แล้วอย่างเขาเนี่ยนะจะไปเป็นกิ๊กกับยุนโฮไม่มีทางหรอก แทนที่จะได้มาปรึกษาปัญหากลับได้คนทะเลาะเพิ่มซะงั้น
“อย่ามาโกหกนะ! นายเป็นคนเดียวมาเรียกหาเค้าแบบนี้!! นายเป็นกิ๊กเค้าใช่มั้ย!!” สุดท้ายแจจุงก็เกิดอาการวีนแตก ทั้งที่ยุนโฮเป็นผีแต่กลับมีคนมาเรียกหาแบบนี้จะให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นได้ไงล่ะ
“เฮ้ย! ไม่ใช่!” เยซองก็ยังคงพยายามปฏิเสธต่อไปแต่ก็ดูเหมือนแจจุงจะไม่ยอมฟังเลยซักนิด
จนในที่สุดแล้วเจ้าชายขี่ม้าขาวก็ออกมาช่วยเมื่ออยู่ๆยุนโฮก็โผล่ออกมาจากด้านหลังของเสาตรงเข้ามาหาแจจุงที่กำลังวีนใส่เยซองอยู่ ถึงจะยังงงอยู่บ้างๆว่ายุนโฮโผล่ออกมาได้ยังไงแล้วไปหลบอยู่ที่หลังเสาตั้งแต่เมื่อไหร่แต่เยซองก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป ขอแค่ตอนนี้ทำให้แจจุงเลิกคะตอกใส่เขาเป็นพอ
“ขอโทษนะเยซอง ฉันว่านายขึ้นห้องไปก่อนดีกว่านะ” ยุนโฮเอามือมาปิดปากแจจุงเอาไว้และกอดเอาไว้หลวมๆ ปากก็ไล่ให้เยซองกลับขึ้นหอไปซะ เพราะเขาไม่อยากให้เยซองจำได้ว่าเขาไม่ใช่คนตอนนี้
“แต่ฉันมีปัญหาจะปรึกษานายนะ”
“เอาไว้วันหลังแล้วกัน วันนี้นายขึ้นห้องไปก่อนนะ” พูดจบยุนโฮก็ทำการลากแจจุงที่พยายามดิ้นให้หลุดออกไปด้วยการเดินเพื่อไม่ให้เยซองรู้ความจริงจนกลัวแล้วต้องวิ่งหนีรอบหอไปซะก่อน
ในเมื่อคนที่อยากปรึกษาไม่อยู่แล้วเยซองจึงต้องจำใจเดินขึ้นหอไป โดยที่ค่ำคืนนี้ปราศจากรูมเมทอย่างเรียวอุกนอนเป็นเพื่อนอย่างทุกๆวัน
---------------------------------------------------
kr...Talk
กลับมาแล้วจ้ารีดเดอร์ทั้งหลาย
มาอัพ100%หลังจากหายไปเป็นเดือน
ตอนแรกจะอัพตั้งแต่วันแก้เสร็จแล้ว แต่อีกเรื่องยังไม่เสร็จเลยอยากอัพพร้อมกัน
แถมยังโดนรัฐบาลประกาศพรก.ฉุนเฉินอีก เลยอัพไม่ได้(เกี่ยวไหม ไรเตอร์แย่ แก้ตัวน้ำขุ่นๆ)
ตอนนี้ตามใจเหล่าเยเรียวที่เรียกร้องมาเลยจัดไปให้
ส่วนหนทางความรัก?ของวอนฮยอกก็ตามกันต่อไป
มันอาจจะต้องมีบ้างมั้งที่ใจอ่อนหรือไม่เป็นกัน
แฟนฮันฮยอกกับวอนซินก็อ่านกันนะ จะได้รู้งัย ทีฮันมิน+วอนฮันนิดหน่อยจากรักวุ่นๆยังอ่านกันเลย
แฟนวอนฮยอกก็อาจจะต้องรีบกอบโกยช่วงนี้ สำหรับแฟนฮันชอล โนคอมเม้นนะ
จะรีบมาอัพตอนหน้าให้เร็วที่สุดนะ
ขอบคุณทุกครั้งที่อ่านมากๆจ้า
ปล.อยากให้ชาวไทยกลับมารักกันเหมือนเดิม เกิดมาบนแผ่นดินเดียวกัน
พ่อของแผ่นดินคนเดียวกัน(ส่วนพวกไม่รักไม่เห็นค่า ก็ไสหัวออกไปซะ)
เลือดเนื้อเดียวกัน แล้วจะทะเลาะกันทำไม รักกันเถอะ
ถ้าเราไม่รักกันเอง แล้วใครจะมารักเรา
ความคิดเห็น