ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ] Furious for Love...แค้นนี้ เพื่อรัก [KyuMin]

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro...

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.ย. 52


    ***แนะนำตัวละครอินโทร
         โจฮยอนจิน พ่อของโจคยูฮยอน มือปืนอันดับ1ของแก๊งอาริ 
          ลีซองวอน พ่อของลีซองมิน มือปืนอันดับ1ของแก๊งอาริ
          ชเวเยจิน แม่ของคยูฮยอนและซีวอน
          ลีฮโยริ แม่ของซองมิน
          ฮันชาง พ่อของฮันคยอง

     

    Intro



                    ปัง!
     
                    เสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้ผู้คนที่อยู่ภายในงานเลี้ยงการเลื่อนตำแหน่งของนายตำรวจยศใหญ่เกิดอาการแตกตื่น ต่างคนต่างมองหาต้นเสียงและวิ่งหาที่หลบภัยกันอย่างชุลมุนวุ่นวาย พร้อมกับเสียงโหวกเหวกโวยวาย เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นไม่หยุด
     
                    “ผู้กำกับ!!!” ชายร่างสูงที่มีระดับยศน้อยกว่าถลาตัวเข้าไปประคองร่างที่ล้มตึงลงกับพื้น เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมามากมายเมื่อร่างของคนที่ถูกเรียกว่าผู้กำกับถูกยกขึ้น กระสุนปริศนาฝังเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายทำให้เหยื่อเสียชีวิตภายในทันที
     
                    “เรียกกำลังเสริม!! ปิดทางออกให้หมด! ดักจับมันให้ได้!!” ฮันชางผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
    ฝ่ายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยภายในงาน เรียกกำลังเสริมทันทีเมื่อเห็นร่างที่เป็นเป้าหมายโดนลอบยิง
     
    ก่อนหน้านี้ฮันชางได้รับข่าวมาว่าจะมีการฆาตกรรมนายตำรวจขั้นสูงในงานวันนี้ถึงได้ถูกส่งตัวมาดูแลความปลอดภัย แต่เขากลับไม่เห็นวี่แววของผู้ร้ายเลยซักนิด แม้แต่กระสุนถูกยิงมาจากทางไหนยังไม่สามารถรู้ได้
                   
    เพียงกระสุนแค่ลูกเดียวเท่านั้น สามารถดับชีวิตคนทั้งคนได้โดยที่ไร้ร่องรอยการลงมือ มือสังหารของแก๊งอาริไม่ธรรมดาสมชื่อที่เลื่องลือจริงๆ
     
     
     
     
    “เท่านี้ก็เรียบร้อย” น้ำเสียงที่ฟังดูใจเย็นเอ่ยขึ้นพร้อมกับเช็ดปืน TAURUS PT 99 SS ขนาด 9 มม. ที่เพิ่งใช้สังหารชีวิตของนายตำรวจไปเมื่อกี้นี้ สายตาคมจ้องมองไปยังบริเวณงานซึ่งกำลังเกิดความวุ่นวายเป็นอย่างมาก ร่างกายของชีวิตที่เพิ่งโดนปลิดลมหายใจไปนั้นทำให้เกิดความพอใจเป็นอย่างมาก
     
    “ยังแม่นไม่เปลี่ยนเลยนะฮยอนจิน สมแล้วที่เป็นมือหนึ่งของอาริ” เสียงทุ่มที่ฟังดูเย็นชาไม่แพ้กันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองทำงานสำเร็จโดยใช้เพียงกระสุนแค่ลูกเดียวเท่านั้น มือปืนอันดับหนึ่งของแก๊งอาริ โจฮยอนจิน
     
    “นายก็มือหนึ่งไม่ต้องมายอฉันหรอกน่า ตอนนี้เรารีบไปกันก่อนเถอะซองวอน” เมื่อฮยอนจินเริ่มสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของตำรวจเลยเอ่ยบอกเพื่อนรัก ถ้าขืนชักช้ามันอาจจะเป็นอันตรายกับเขาทั้งคู่ได้ ฝ่ายป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่ถูกเรียกตัวมาดูแลความปลอดภัยในวันนี้ไม่ใช่หน่วยงานที่จะดูถูกได้เลย โดยเฉพาะฮันชาง เพราะคนๆนี้สามารถรู้การเคลื่อนไหวของคนในแก๊งอาริได้ ถึงจะไม่ละเอียดมากมายก็ตาม แต่แค่นี้ก็ถือว่าน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว
     
    โจฮยอนจินและลีซองวอนเดินออกมาจากบริเวณงานไปยังลานจอดรถด้วยท่าทีที่ใจเย็นเพราะจะได้ไม่เป็นพิรุธอะไรมากนัก ชุดสูทที่ทั้งสองคนสวมอยู่นั้นทำให้ดูกลมกลืนกับผู้คนที่เข้ามาพักภายในโรงแรมได้เป็นอย่างดี แต่ในเวลาคับขันแบบนี้คงไม่มีแขกในโรงแรมคนไหนออกมาเดินเพ่นพ่านแบบนี้
     
    “ระวังตัวด้วยนะ” ซองวอนออกปากเตือนเพราะเริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เขาดึงฮยอนจินให้ไปหลบที่หลังเสาต้นหนึ่ง ตำรวจสี่ห้าคนกำลังเดินมาทางนี้ ปากกระบอกปืนถูกส่ายไปส่ายมาจนทั่วบริเวณพร้อมกับท่าทีที่ดูระมัดระวังเป็นอย่างมาก
     
    “เดี๋ยวฉันจัดการเอง” ฮยอนจินบอกก่อนจะชักปืนขึ้นมาและยิงไปที่ตำรวจกลุ่มนั้นทันทีด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ร้อนอยู่พอสมควร
     
    “อย่า! ฮยอนจิน!” เสียงห้ามของเพื่อนคงไม่ทันแล้วในเวลานี้ ตำรวจสองคนล้มลงกับพื้นด้วยลูกกระสุนของฮยอนจิน ส่วนคนที่เหลือต่างวิ่งไปหาที่หลบและยิงสวนกลับมาทำให้เขาทั้งสองต้องวิ่งไปหาที่หลบใหม่เช่นกัน เมื่อเสียงปืนดังขึ้นแบบนี้แน่นอนว่า พวกตำรวจที่เหลือก็คงจะตามมาในไม่ช้านี้
     
                    “ทำบ้าอะไรของนาย!!” ซองวอนชักปืนของตัวเองออกมาแล้วสบถเบาๆ เหตุผลที่เขาต้องทำงานร่วมกับฮยอนจินตลอดเพราะฮยอนจินเป็นคนใจร้อน และเขาก็มีหน้าที่คอยเตือนคอยห้าม แต่มันก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นัก หากฮยอนจินคิดจะทำอะไรเขา เขาก็จะทำในทันที
     
                    “อย่าเพิ่งบ่นน่าซองวอน ไปที่รถก่อนดีกว่า” ฮยอนจินมองไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะรีบลากเพื่อนรักให้ค่อยๆเดินเลาะไปตามเสาแต่ละต้น แต่ก็เกิดการยิงปะทะกันตลอดเวลา
     
                    ไม่นานตำรวจที่เหลือก็แห่กันมายังลานจอดรถเนื่องจากเสียงปืนที่ดังอยู่หลายนัด ซองวอนดึงฮยอนจินให้ไปหลบที่หลังรถคันหนึ่งแล้วยิงกลับไปก่อนจะเกิดการปะทะครั้งใหญ่ขึ้น แต่แล้วเสียงปืนทางฝั่งตำรวจก็เงียบลง รับรองว่าถ้าปะทะกันจริงๆ ต่อให้เก่งแค่ไหนก็คงไม่รอด ตำรวจกองปรามหลายสิบคนกับฮยอนจินและซองวอนเพียงแค่สองคน
     
                    “ไอ้ฮันชาง!” ฮยอนจินสบถออกมาด้วยความไม่สบอารมณ์นัก ถึงเขากับฮันชางจะไม่ได้รู้จักกัน แต่เขาก็รู้กิตติศักดิ์ของคนๆนี้เป็นอย่างดี คนที่ไม่เคยทำคดีพลาดแม้แต่คดีเดียว
     
                    “ใจเย็นฮยอนจิน ไม่งั้นเราจะไม่รอด” ซองวอนต้องรีบเตือนสติเพื่อน ก่อนที่จะทำอะไรให้มันเลวร้ายไปมากกว่านี้ เพียงแค่เท่านี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะหนีออกไปยังไงแล้ว แถมยังมีฮันชางมาอีกคน งานนี้คงลำบากไม่ใช่เล่น
     
                    “ฉันยังไม่อยากวิสามันนาย ออกมาแล้วมอบตัวซะ” ถึงว่ามันฟังแล้วดูจะโง่ไปหน่อยกับการเกลี่ยกล่อมผู้ร้ายด้วยคำพูดแบบนี้ แต่มันก็คงจะดีกว่าการยิงปะทะกัน เพราะเขาอยากจับคนของแก๊งอาริแบบเป็นๆมากกว่าตาย
     
                    เมื่อไม่มีการตอบรับกลับมาฮันชางจึงเล็งปืนไปยังเป้าหมายที่แอบอยู่ที่หลังรถ คนของอาริหาตัวจับยากที่สุด และเขาก็อยากจะเห็นหน้าคนพวกนี้ที่สุดเช่นเดียวกัน แก๊งมหาอำนาจที่ไม่มีใครกล้ายุ่ง
     
     
     
     
                    “คิดว่ากลัวหรือไงวะ!” ดูแล้วตอนนี้ฮยอนจินจะหัวเสียเอามากๆ และมันก็เสี่ยงมากที่เขาจะทำอะไรที่มันจะเป็นอันตรายต่อตนเองได้
     
                    “ฮยอนจินอย่าออกไป!!” ซองวอนพยายามคว้าตัวของฮยอนจินไว้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเพื่อนรักเดินออกไปปรากฏตัวต่อหน้าฮันชางและตำรวจนับสิบคน
     
                    เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้งเมื่อฮยอนจินจ่อยิงไปที่ฮันชาง แต่อีกคนกลับไหวตัวทันมันยิ่งทำให้ฮยอนจินยิ่งรู้สึกหัวเสีย ก่อนที่ฮันชางจะยิงโต้กลับมาเฉียวแขนฮยอนจินไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
     
                    “อยากตายหรือไงวะ!” ซองวอนออกมายิงสกัดพวกตำรวจที่เริ่มระดมยิงใส่พวกเขาพร้อมกับผลักฮยอนจินให้เข้าไปหลบที่หลังรถเหมือนเดิม
     
                    ซองวอนยิงสกัดพร้อมกับถอยหลังเพื่อหาที่หลบ แต่แล้วลูกกระสุนที่ฮันชางเป็นคนยิงก็ฝังเข้าที่สีข้างด้านซ้าย ทำให้ร่างของซองวอนเซไปพิงที่เสา
     
                    “ไปที่รถซะฮยอนจิน!!” ซองวอนตะโกนขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับกราดยิงไปที่พวกตำรวจเพื่อสกัดทางให้ฮยอนจินหนีไป ถ้างานนี้เขาไม่รอดฮยอนจินก็ต้องรอด
     
                    “ซองวอน!!”
     
    “ไปสิวะ!!” ฮยอนจินทำท่าจะเข้าไปดูอาการเพื่อนรักแต่ก็โดนตะคอกกลับมาพร้อมกับปากกระบอกปืนที่จ่อมาที่เขา
     
    “บอกให้ไปไง!!” เสียงตะคอกของซองวอนดังขึ้นอีกรอบเมื่อเห็นว่าฮยอนจินจะไม่ยอมไป แค่โดนยิงแค่นี้เขาไม่ตายง่ายๆหรอก
     
                    “จะให้ฉันหนีไปคนเดียวได้ยังไง!” ฮยอนจินมีท่าทางลังเลอยู่ไม่น้อย ซองวอนโดนยิงแล้วจะให้เขาปล่อยเพื่อนไปได้ยังไงกัน
     
                    “ฉันบอกให้ไปก็ไปซะ!!!” ปากกระบอกปืนของซองวอนถูกเปลี่ยนเป้าหมายไปยังฮันชางก่อนจะเหนี่ยวไกแล้วยิงสกัดให้ฮยอนจินได้มีทางหนีอีกครั้ง
     
                    ฮยอนจินมีท่าทีที่ลังเลอยู่นาน จนเมื่อซองวอนหันมาตะโกนไล่อีกครั้งจึงยอมวิ่งไปที่รถขับออกไป ดักซุ่มรออยู่ที่ทางด้านหน้าและพยายามติดต่อคนมาช่วย ด้านในเสียงปืนยังคงดังขึ้นหลายต่อหลายนัดและไม่นานเสียงก็เงียบลง ภายในใจของฮยอนจินระส่ำระสายไปหมด เขาเห็นแค่เพียงกลุ่มของตำรวจเท่านั้นแต่ไม่เห็นซองวอนเลยแม้แต่นิด
     
                    “แล้วฉันจะรีบมาช่วยนะซองวอน” เสียงไซเรนดังระลมไปทั่วบริเวณเมื่อตำรวจเริ่มออกตามล่าผู้ร้ายอีกคนที่หนีไป ฮยอนจินจึงรีบออกรถเพื่อหนีทันที ในสมองตอนนี้คิดแค่เพียงว่าจะช่วยซองวอนได้ยังไง และเขาก็ไม่อาจรู้ได้ด้วยว่าตอนนี้ซองวอนจะเป็นยังไงบ้าง มันยิ่งทำให้เขาเป็นห่วงเพื่อนมากขึ้นไปอีก
     
                   
     
     
                    “สุดท้ายฉันก็จับเป็นพวกนายไม่ได้ใช่มั้ย” กระสุนนัดสุดท้ายถูกยิงฝั่งที่กะโหลกศีรษะด้านซ้ายของซองวอน ทำให้เสียชีวิตทันที หลังจากที่ยิงปะทะกัน ฮันชางได้แต่ยืนถอนหายใจ ในที่สุดเขาก็วิสามันผู้ร้ายอีกครั้ง
     
                    ร่างของซองวอนนอนแน่นนิ่งอยู่ที่พื้น เลือดสีแดงสดไหลออกมามากมายแต่ซองวอนก็ไม่สามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดนั้นได้อีกแล้ว
     
                    “ลีซองวอน” ฮันชางหยิบกระเป๋าสตางค์ของซองวอนขึ้นมาบัตรประจำตำแหน่งของแก๊งอาริเด่นหลาอยู่ตรงหน้า มือปืนอับดับหนึ่งของแก๊งอาริ
     
                    “ไม่คิดเลยนะว่านายจะมาตายเอาง่ายๆแบบนี้” ฮันชางได้แต่พูดขึ้นกับร่างที่ไร้วิญญาณของซองวอน สายตาเรียวคมหันไปมองตามทางที่เพิ่งสั่งให้ลูกร้องตามผู้ร้ายอีกคนไป มือปืนอีกคนของอาริ เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเป็นใคร
     
     
     
     
                    ตอนนี้รถของฮยอนจินจอดอยู่ที่หน้าบ้านของซองวอน เขาใช้เวลาอยู่นานกว่าจะหลบหนีพวกตำรวจมาได้ แต่ฝีมือระดับเขาแล้ว ไม่ว่าจะทำงานกี่ครั้งก็ไม่เคยพลาด จะมีก็ครั้งนี้ที่เขาชะล่าใจจนซองวอนโดนจับ แต่เขาก็สามารถหนีตำรวจออกมาได้
     
                    ฮยอนจินเข้าไปในบ้านของซองวอนอย่างคุ้นเคย เพราะเขาก็ไปมาหาสู่ที่บ้านหลังนี้อยู่บ่อยครั้ง และสนิทกับคนในบ้านหลังนี้อยู่พอสมควร
     
                    “ฮโยริ!” เมื่อเห็นคนที่ต้องการพบนั่งอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่กลางบ้าน ฮยอนจินก็รีบเข้าไปหาในทันที ลีฮโยริภรรยาของลีซองวอน
     
                    “อ้าว! ฮยอนจิน แล้วซองวอนล่ะ” ฮโยริมีสีหน้าที่แปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นฮยอนจินมาที่บ้านเธอเพียงคนเดียวโดยไม่มีสามีของเธอมาด้วย ทั้งที่ออกไปทำงานด้วยกัน แถมท่าทางของฮยอนจินยังดูตื่นๆ เหมือนกับว่ามีเรื่องเกิดขึ้นยังไงยังงั้น
     
                    “ฟังฉันก่อนนะฮโยริ....ตอนนี้ซองวอนโดนตำรวจจับ ฉันกำลังเรียกคนไปช่วยอยู่ เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง” ฮยอนจินพูดออกมาอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก เพราะเขาเองก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าตอนนี้ซองวอนจะเป็นยังไงบ้าง
     
                    “โดนจับเหรอ!” ฮโยริขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าของเธอดูตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว อยู่ๆก็มาบอกว่าซองวอนโดนจับ แต่ฮยอนจินกลับหนีรอดออกมาเพียงคนเดียว
     
                    “ฉันจะจัดการเรื่องทุกอย่างเองฮโยริ เธอไม่ต้องเป็นห่วง ซองวอนต้องไม่เป็นอะไรเชื่อฉันสิ” ฮยอนจินพยายามพูดให้ฮโยริสบายใจ แต่ใจเขาเองกลับเต้นไม่เป็นส่ำ เสียงปืนที่ดังขึ้นก่อนที่เขาจะหนีออกมา มันทำให้เขาไม่แน่ใจว่าซองวอนจะปลอดภัยอย่างที่เขาบอกออกไปมั้ย
     
                    ฮโยริไม่ได้ตอบอะไรออกมาอีก แต่เธอเงียบไปอยู่พักใหญ่ ฮยอนจินเห็นท่าไม่ดีเลยต้องรีบชิงพูดขึ้นก่อนที่บรรยากาศมันจะดูแย่ไปมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือเปล่าที่มาบอกฮโยริแบบนี้ แต่เขาก็ยังอยากให้คนในครอบครัวซองวอนรับรู้เรื่องนี้เอาไว้
     
                    “ฉันจะช่วยซองวอนออกมาเอง” พูดจบฮยอนจินก็เดินออกมาจากบ้านของซองวอน น้ำเสียงสั่นๆที่เขาบอกฮโยริไปเมื่อกี้ดูไม่มีความมั่นใจเลยซักนิด ดวงตาของเขาสั่นระริกเพราะความกลัว มือใหญ่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะสอบถามถึงความคืบหน้าที่เขาขอความช่วยเหลือไป
     
                    โทรศัพท์มือถือของฮยอนจินหล่นกระแทกพื้นจนแตกกระจายเมื่อเสียงปลายสายตอบกลับมา แทนที่เขาจะได้รับข่าวดีแต่สิ่งที่ได้ยินมันคือข่าวร้ายที่เขาไม่อาจจะรับได้
     
                   
     
     
     
                    เพียงแค่ข้ามคืนเท่านั้นข่าวร้ายที่สุดก็ล่วงรู้ถึงครอบครัวลี ฮโยริทรุดลงตรงหน้าทีวีพร้อมกับน้ำตาหยดใสๆล่วงลงมาหยดแล้วหยดเล่า ลีซองวอนสามีของเธอถูกวิสามันเมื่อคืนหลังจากที่ลอบยิงนายตำรวจใหญ่กลางงานเลี้ยง ซึ่งมันดูจะเป็นที่น่าภูมิใจของกรมตำรวจยิ่งนัก
     
                    ฮโยริหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาฮยอนจินทันทีที่รู้ข่าว แต่กลับไม่สามารถติดต่อฮยอนจินได้เลย เธอเพียงแค่อยากรู้รายละเอียดของเรื่องเมื่อวาน ทำไมฮยอนจินถึงได้รอดออกมาแค่เพียงคนเดียว แล้วทำไมซองวอนสามีของเธอถึงได้โดนตำรวจวิสามันแบบนี้
     
                    “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ฮยอนจิน ไหนนายบอกว่าจะช่วยซองวอนไง” ฮโยริทำได้แค่พูดกับเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในมือเท่านั้น ในใจของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสน อีกทั้งความเศร้าเสียใจ แต่ตอนนี้เธอกลับหาทางออกของความรู้สึกที่น่าทรมานเหล่านี้ไม่ได้เลย



                                                                      -------------------------------------------------------------
    kr...Talk
    เริ่มอินโทรแล้วนะ
    พวกเราอยากเขียนเรื่องแบบนี้มานานมากแล้ว
    แต่กลัวมันจะไม่ดี ไม่เข้ากับบุคลิกบ้าๆบอๆของไรเตอร์
    แต่จะพยายามดู เพื่อนช่วยกันอ่านและเม้นกันเยอะๆด้วยนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×