ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] รักวุ่นๆ ชุลมุนยกแก๊ง[KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : หมีกินไก่!!!!!!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.11K
      14
      22 มิ.ย. 52

    Chapter 6 : หมีกินไก่!!!!!!
      
    บนเวทีเยซองกับซีวอนขึ้นไปกล่าวเปิดงานแทนคังอินที่หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ เยซองและซีวอนกล่าวประวัติคร่าวๆของคิบอมกับคยูฮยอน ก่อนจะให้ฮยอกแจขึ้นมาบนเวที
    เมื่อฮยอกแจก้าวขึ้นมาบนเวที ผู้คนในงานต่างงงกับการปรากฏตัวของใครก็ไม่รู้ ที่หน้าตาคล้ายไก่ละเริ่มมีเสียงซุบซุบนินทา          
     “คือตอนนี้สมาชิกใหม่ของแก๊งเรายังไม่สามารถมาพบกับทุกคนได้ เนื่องจากต้องไปทำภารกิจบางอย่าง เลยให้ฮยอกแจเพื่อนสนิทของทั้ง 2 คนขึ้นมาเล่าเรื่องราวของทั้ง 2 ไปพลางก่อนๆ”    พูดจบเยซองพูดจบก็ส่งไมค์ให้ ฮยอกแจ ทุกคนในงานเริ่มหันกลับมาฟังตามปกติ                    
    “เอ่อ...สะ...สวัสดีครับ ผมชื่อฮยอกแจครับเป็นเพื่อนสนิทของคิบอมกับคยูฮยอน”     ฮยอกแจเริ่มพูดไปเรื่อยๆ โดยมีเยซองกับซีวอนยืนประกบอยู่ ช่วงแรกก็พูดดีอยู่หรอก ชมเพื่อนอย่างนู้นอย่างนี้แต่หลังกลับกลายเป็นนินทาซะงั้น        
     “เมื่อกี้นะครับ ผมเห็นไอ้คิบอมมันเดินควงกับดงเฮด้วยล่ะ อี๋อ๋อกันน่าดูเลย...”          
    ยิ่งพูดยิ่งออกท่าออกทาง ซีวอนเห็นท่าไม่ดีเลยแย่งไมค์มาจากฮยอกแจส่งให้เยซองแล้วลากฮยอกแจลงเวทีไป             
    “ไอ้สิ่งที่ควรพูดกลับไม่พูดแต่ไอ้สิ่งที่ไม่ควรล่ะพูดจัง! รออยู่นี้แหละนายเดี๋ยวฉันจะกลับมาเคลีย! พี่คังอินก็หายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ไม่มาช่วยกันบ้างเลย!”    ซีวอนในมาดโหดครับท่านผู้อ่าน  
                   
    คิบอมแล้วดงเฮหลังจากที่หนีออกมาจากงานด้วยกัน ก็เดินกันไปทางที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ            
    “ดงเฮรู้มั้ยครับทำไมผมถึงมาเรียนที่นี่”    คิบอมหันไปมองดงเฮแล้วยิ้ม
     “ทำไมหรอ”    ดงเฮหันไปมองหน้าคิบอมแล้วเอียงคอก่อนจะยิ้ม
     “ก็เพราะดงเฮไงครับ ผมอยากรู้จักดงเฮ ผมเลยสอบเข้ามาเรียนที่นี่”            
    “จริงหรอดีใจจัง”    ดงเฮเข้ามาควงแขนคิบอมแล้วซบลงที่แขนแกร่งนั้น
    “แล้วดงเฮไม่เกลียดผมหรอที่ผมเข้ามาอยู่แก๊งหนุ่มหล่อ”                
    “ไม่หรอก คิบอมน่ารักออกอย่างนี้ เราเกลียดไม่ลงหรอก...เอาเป็นว่าต่อไปนี้คิบอมเรียกเราว่าด๊องก็ได้นะ จะได้ดูสนิทสนมไง”       
    ดงเฮหันไปหอมแก้มคิบอม ก่อนซบลงที่แขนของคิบอมเหมือนเดิม รอยยิ้มของผู้ที่กุมชัยชนะปรากฏขึ้นเมื่ออีกคนเล่นตามเกมอย่างว่าง่าย
    “คิบอม...ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ย”    ดงเฮทำท่าออดอ้อนคิบอม     
    “ว่ามาเลยครับ สำหรับด๊องแล้วผมตอบได้ทุกทำถามเลย”    คิบอมตอนนี้ที่หน้ามืดตามัวหลงดงเฮจนโงหัวไม่ขึ้น ดงเฮพูดอะไรมาก็พร้อมจะทำตามทุกอย่าง                             
     “คือ...เราอยากรู้ว่าแก๊งหนุ่มหล่อให้นายทำอะไรหรือป่าว”    ดงเฮจ้องไปที่หน้าของคิบอม                  
    “เอ่อ...คือ...”     คิบอมรู้สึกอึดอัดทันทีเมื่อได้ยินคำถาม เรื่องนี้เค้าไม่ควรพูดโดยเฉพาะกับคนในแก๊งหน้าหวานอย่างดงเฮ แต่ถ้าเขาไม่พูดดงเฮอาจจะโกรธได้   
     “ไหนคิบอมบอกว่าจะบอกเราทุกอย่างไง คนผิดสัญญา งอนแล้วนะ”    ดงเฮพองลมที่แก้มแล้วเบ้ปาก คิบอมเห็นอย่างแล้วยิ่งร้อนรน             
     “เอ่อ...ด๊องอย่าเพิ่งงอนผมสิ ผมจะบอกแล้ว”     คิบอมพูดอย่างร้อนรน ดงเฮเห็นท่าทางของคิบอมแล้วยิ่งได้ใจ                  
     “ว่าไง บอกมาเลย”    จากหน้าบึ้งเมื่อกี้นี้กลายเป็นยิ้มในทันที ดงเฮเลื่อนหน้าเข้ามสใกล้ๆคิบอมแล้วยิ้มหวานให้                                    
    “เอ่อ...คือ...พี่คังอินให้ผมกับคยูมาสืบเรื่องเกี่ยวกับแก๊งหน้าหวาน สืบความเป็นไปในแก๊ง สืบว่าไม่ใครเข้าออกหรือสุงสิงกับแก๊งนี้หรือป่าว”    คิบอมพูดออกไปจนหมดทุกอย่าง ในใจตอนนี้คิดแค่เพียงว่า คนตรงหน้ายังจะโกรธเขาอยู่หรือป่าว                                        
    “หรอ...เราชอบคิบอมที่สุดเลย”    ดงเฮกอดคอคิบอมก่อนที่ทั้ง 2 คนจะเดินมาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของดงเฮ       
     “เข้าไปข้างในก่อนมั้ย วันนี้เราอยู่คนเดียว คิบอมเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเราหน่อยสิ”           
    ยังไม่ทันที่จะได้คำตอบจากปากคนที่โดนชวน ดงเฮก็ลากคิบอมเข้าไปในบ้านเสียแล้ว คิบอมไม่เพียงจะพูดคำใดออกมา แม้แค่แรงยังไม่มีจะขัดขืน หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เป็นจังหวะ ดงเฮให้คิบอมนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้วตัวเองเดินเข้าครัวเพื่อเอาน้ำมาเสิร์ฟแขก
                  
             
                หลังจากที่น้ำ 2 แก้วถูกวางลงที่โต๊ะความเงียบก็เริ่มปลกคลุม มีเพียงเสียงรายการโทรทัศน์ ที่ดังโหวกเหวกโวยวาย     
     “ด๊องชอบเราหรือป่าว...คือ...แบบคนรักน่ะ”ความเงียบระหว่างคน 2 คนถูกทำลายลง คิบอมรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไป
    “อืม...ชอบสิ”     ด้วยมารยาหญิง(หรือป่าว)ของดงเฮทำให้ตอบออกไปอย่างนั้นพร้อมกับยิ้มที่มอบให้คิบอม                       
    คิบอมได้ฟังดังนั้นก็ยิ่งดีใจ หัวใจมันพองโตแทบจะระเบิดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ใบหน้าตี่เต็มไปด้วยรอบยิ้มที่มาจากใจจริง แต่ทั้งรอยยิ้มละความรู้สึกของคนข้างๆ มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิดน่ะสิ        
    คิบอมเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ดงเฮ มือหนาดันตัวดงเฮให้นอนลงโดยไม่มีการขัดขืนใดๆ ริมฝีปากของดงเฮเลื่อนลงไปหมายจะประกบกับริมฝีปากบางตรงหน้า           
    ~ Love ~ oh baby my girl~คือ เดน นา เอ จอน บู นุน บู ซี เดอา รึม ทา อุน นา เอ ชิน บู ชี นี จู ชิน ซอน มุล~                  
    เสียงโทรศัพท์ของดงเฮดังขึ้นขัดจังหวะความสุขของใครบางคน ดงเฮผละออกจากคิบอมทันที มือคว้าไปที่โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะชื่อของฮีชอลที่โชว์อยู่หน้าจอทำให้ดงเฮต้องรีบของตัวออกไปคุย                  
    “แป๊บนะ เดี๋ยวมา”    ดงเฮหันไปบอกคิบอมที่หน้าตาแสดงออกอย่างเห็นได้ว่าอารมณ์เสีย ก่อนจะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก            
    “ฮัลโหล”                
     “ด๊อง!! นายอยู่ไหน!! แล้วมินล่ะอยู่ที่ไหน โทรไปก็ปิดเครื่อง ไม่รู้เลยหรือไงนะว่ามีคนเค้าเป็นห่วง ถ้าโดนไอ้คยูบ้านั่นทำอะไรขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไง...”    เสียงที่พูดเหมือนกับว่าตัวเองหายใจทางผิวหนัง ไม่คิดว่าจะเปิดโอกาสให้คนฟังพูดบ้าง แล้วไม่รู้ว่าเจ๊แกเข้าใจอะไรผิดหรือป่าว โทหาดงเฮ พูดถึงแต่ซองมิน           
     “เอ่อ...พี่ฮีชอลครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านอยู่กับคิบอม ส่วนมินผมไม่รู้หรอกครับว่าอยู่ที่ไหน”
     “นายพาคิบอมไปที่บ้านเลยหรอ มันเสี่ยงไปหน่อยหรือป่าว”    ถึงจะรู้ว่าดงเฮเอาตัวรอดเก่งแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นห่วงน้องอยู่ดี      
     “ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว ได้ข้อมูลดีๆมาเพียบ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะเล่าให้ฟัง”
    “อืม...ได้ งั้นนายช่วยพี่โทหามินทีนะ”            
     “ครับ”    ดงเฮวางสายก่อนจะเดินเข้าบ้าน                   
    คิบอมที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่เห็นดงเฮเดินเข้ามาก็ยิ้มให้               
     “ผมว่าผมกลับก่อนดีกว่า”    คิบอมลุกขึ้นและเดินออกไป               
     “งั้นฉันไปส่งหน้าบ้านนะ”    ดงเฮเดินตามคิบอมออกมาหน้าบ้าน
     “บายนะครับ ฝันดีนะ”     คิบอมยิ้มให้ดงเฮก่อนจะเดินเข้ามาหอมแก้มแล้วกระซิบที่ข้างหูก่อนจะเดินจากไป ทำเอาหนุ่มหน้าหมวยหน้าแดงยืนยิ้มลูบแก้มตัวเองปรอยๆรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
                

                 หลังจากที่ฮันคยองหลุดออกมาจารุ่นน้องได้ก็วิ่งตามหามินอย่างบ้าคลั้ง แต่กลับมาเจอฮีชอลที่นั่งอยู่ข้างซีวอน ฮันคยองมอง 2 คนนั้นอย่างเจ็บปวด ในขณะเดียวกันฮีชอลก็หันมาเห็นฮันคยองที่ยืนมองเขากับซีวอนอยู่ จึงเขยิบออกห่างซีวอนเพราะไม่อยากให้คนที่ตนชอบต้องเข้าใจผิด ฮันคยองเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่ได้เห็นและวิ่งออก ตามหาซองมินต่อไป              
    ซองมินที่นอนหลับสบายอยู่บนอกของคยูฮยอนซุกหน้าหาไออุ่นไปที่อกกว้าง คยูฮยอนที่ตื่นมาได้ซักพักกอดซองมินแน่นยิ่งขึ้น มองดูคนน่ารักตรงหน้า ไม่อยากจะปลุกให้ตื่นเลยจริงๆ คยูฮยอนลูบผมนุ่มๆของซองมินเบาแล้วหอมไปที่ผมนั้น                         
     “มิน! นายอยู่ไหนน่ะ”              
    เสียงของผู้ที่ไม่ประสงค์อยากจะให้มาดังขึ้น ทำให้คนในอ้อมกอดงัวเงียตื่นขึ้นมา                      
    คยูฮยอนดึงซองมินเพื่อจะหาที่หลบ แต่กลับโดนคนที่ไม่อยากจะเจอดึงซองมินที่งัวเงียเพราะเพิ่งตื่นจนเซเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
     “พี่ฮัน”    ซองมินที่เริ่มได้สติการแรงดึงเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาเยือนก็ยิ้มออก
     “นายทำอะไรมิน”ด้วยความโกรธ ฮันคยองตรงเข้าไปต่อยคยูฮยอนเข้าเต็มๆที่มุมปาก จนเห็นเลือดสีแดงไหลออกมา
    “พี่ฮันคยองอย่าทำเค้า มินไม่อยากให้มีเรื่อง”    ซองมินเดินเข้าไปจับแขนฮันคยองไว้
     “อย่ามายุ่งกับแฟนฉันอีก! เข้าใจมั้ย!”    ฮันคยองยอมเชื่อฟังซองมินแต่โดย ชี้หน้าคยูฮยอนก่อนจะโอบเอวซองมินพากลับเข้างาน
     “มินไปรู้จักกับหมอนั่นได้ไงบอกพี่มาเดี๋ยวนี้เลยนะ”     มาถึงในงานฮันคยองก็ลากซองมินเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อนเค้นเรื่องคยูฮยอน    
     “มินว่าเราออกไปที่งานดีกว่านะ มินหิวแล้ว”    ซองมินพยายามเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากตอบถาม
     “อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”    ฮันคยองจ้องซองมินเขม็ง                 
     “เราปะ...”
     “จะบอกไม่บอก”    ฮันคยองเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ซองมิน สายตาบ่งบอกว่าต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้
    “บอกแล้วๆ...คือ...พี่ฮีชอลให้คนในแก๊ง.............................................”     แล้วซองมินก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฮันคยองฟัง (จนได้)
     “หมอนั่นคิดอะไรอยู่นะ ถึงให้ทำอะไรบ้าๆแบบนี้”
    “แล้วพี่ฮันสัญญาได้มั้ยว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”    ซองมินชูนิ้วก้อยให้ฮันคยอง
    “ได้สิ...พี่สัญญา”    ฮันคยอง เกี่ยวนิ้วก้อยของตัวกับนิ้วเล็กๆที่ชูอยู่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มให้คนน่ารักที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟน
    “นี่ก็ 3 ทุ่มแล้วพี่ว่ากลับบ้านกันเถอะ งานก็ใกล้เลิกแล้วด้วย เดี๋ยวพี่ไปส่ง”    ฮันคยองดูนาฬิกาที่ข้อมือก่อนจะจูงมือซองมินออกจากห้องน้ำ
    ฮันคยองกับซองมินเดินคุยกันมาเรื่อยจนมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านซองมิน ทำไมความสุขมันผ่านไปเร็วแบบนี้นะ
     “หลับฝันดีนะครับ”    ฮันคยองก้มลงหอมแก้มซองมินเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะเดินกลับไป
    และก็เป็นประจำที่ซองมินจะยืนลูบแก้มตัวเองอยู่หน้าบ้านจนแม่บ้านต้องออกมาเรียก ทำยังไงก็ไม่ชินซักที
                         

                คยูฮยอนหลังจากที่โดนแย่งซองมินไปก็โมโหยกใหญ่ พาลเดินเตะทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหูขวางตา
     “ไอ้บ้าเอ้ย!! เซ็งโว้ยยย!!!”    คยูฮยอนที่เดินหลับหูหลับตาโวยวายจนไปชนเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง
     “ไอ้บ้า!!มองไม่เห็นคนหรือไง ถอยไปสิว่ะ!!”    คยูฮยอนต่อว่าเสาไฟฟ้าที่คงจะด่าเค้ากลับไม่ได้เพราะมันไม่มีปาก ไม่น่าเชื่อว่าขนาดไม่ได้กินเหล้ายังเมาได้ นายสามารถมากเลยคยู
     “ไม่ตอบใช่มั้ย!!”
    พลั่ก!
    คยูฮยอนต่อยเสาไฟฟ้าไปเต็มๆแรง ไม่รู้เพราะเสียสติไปแล้ว หรือเพื่อจะระบายอารมณ์กันแน่ จนนิ้วเรียวเต็มไปด้วยรอยถลอกและเลือดที่ค่อยๆไหลซึมออกมาจากรอยแผล
     “โธ่เว้ย!! เซ็ง!”    ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็ยังไม่วายเดินเตะข้าวของที่ขวางหน้าไปตลอดทางจนถึงบ้าน
                
     
    -- เช้าวันต่อมา ที่โรงเรียน –
                          
    “ถอยไป!! บอกให้ถอยไปไงวะ!!”    คังอินเดินเหวกฝูงชนนักเรียนชั้นปี 1 ใครขวางจับโยนซะกระเด็น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้อารมณ์เป็นยังไง เยซองกับซีวอนก็ได้แต่เดินตามมาอย่างเงียบๆ จนถึงเป้าหมาย
     “คิมคิบอม!! โจคยูฮยอน!! เมื่อวานพวกนายหายหัวไปไหนก๊านนนนน!!!!!!!!!”    คังอินผลักประตูห้อง B1 ออกอย่างแรงแล้วแผดเสียงไปทั่วห้อง เดินไปยังโต๊ะของตัวปัญหาทั้ง 2ทำเอาคนที่ไม่รู้เรื่องวิ่งออกจากห้องกันแทบไม่ทัน
    คิบอมกับคยูฮยอนมองหน้าคังอินแว๊บหนึ่งก่อนคิบอมจะก้มหน้าอ่านหนังสือเหมือนเดิม ส่วนคยูฮยอนก็กลับไปให้ความสนใจกับเกมในโทรศัพท์ที่กำลังเล่นอยู่
     “ฉันถามพวกนายไม่ได้ยินหรือไง!!!!!!!!!!!!”    คังอินที่ตอนนี้ความโมโหพุ่งถึงขีดสุดเดินเข้าไปลากตัว
    คิบอมกับคยูฮยอนออกจาห้องเรียน ตรงไปยังสนามฟุตบอล เยซองและซีวอนรีบวิ่งตามไปเพราะกลัวจะเกิดอันตรายกับน้อง โดยมีตัวป่วนอย่างฮยอกแจตามไปด้วย
                   
    เมื่อมาถึงสนามฟุตบอลคังอินโยนคิบอมกับคยูฮยอนลงไปนอนกองกับพื้นอย่างแรงแล้วตวาดเสียงดัง
     “เมื่อวานนาย 2 คนหายหัวไปไหนห๊า!!! นั่นมันงานของนายนะโว๊ยย!!! แต่คนสำคัญกลับไม่อยู่ที่งานมันใช้ได้ที่ไหน!!!”    คังอินตวาดเสียงดังจนคนที่ผ่านไปผ่านมาเริ่มเข้ามามุง
    และหนึ่งในนั้นคือพวกที่หัวหน้าแก๊งอย่างคังอินไม่อยากจะเจอซักเท่าไหร่ ผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์ถูกแหวกออกเหมือนทะเลแหวก ชินดงบอดี้การ์ดร่างอ้วนประจำแก๊งหน้าหวาน (ถ้าจำกันได้ในงานเลี้ยงเมื่อวาน) เดินแหวกฝูงชนมา ตามาด้วยฮีชอลและลีทึก
     “แก๊งนายคงได้ยุบเร็วๆนี้แน่เลย มีสมาชิกแก๊งไปไม่ได้เรื่องแบบนี้”    ฮีชอลมองคังอินด้วยสายตาเหยียดหยาม ทำให้คังอินยิ่งโมโหมากขึ้น
     “อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย!”    คังอินตะคอกฮีชอลกลับ แต่เมื่อสายตาไปปะทะกับลีทึกอารมณ์โกรธก็เริ่มลดลง ส่วนลีทึกกลับนึกถึงเรื่องเมื่อวาน จนต้องหลบสายตาและไปแอบอยู่หลังฮีชอล
     “ทำไม ยอมรับความจริงไม่ได้หรือไง”    ฮีชอลไม่มีทีท่าว่าจะยอมหยุดง่ายๆ
    คังอินที่โดนยั่วจนอารมณ์พุ่งปรี๊ด ยืนก้มหน้านิ่ง มือกำหมัดแน่น พยายามระงับสติอารมณ์ไม่ให้ทำร้ายคนตรงหน้า
     “ผมว่าพี่หยุดยั่วโมโหพี่คังอินดีกว่า”    สถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ ซีวอนที่เห็นท่าไม่ดีเดินมาห้ามฮีชอล
     “นายมันก็พวกเดียวกันนั่นแหละ ไม่ต้องมาพูดมาก!”            
    “นี่ผมเตือนด้วยความหวังดีนะ”
     “ดูดิ๊แค่เด็กปี 1 ยังคุมไม่อยู่ งานเมื่อวานก็ดูเหมือนจะเละไม่เป็นท่า คนสำคัญของงานก็ไม่อยู่ ไม่ใช่เด็กนายแอบ...”    ยังไม่ทันที่ฮีชอลจะได้พูดอะไรไปมากกว่านี้ ซีวอนก็ฉุดแขนฮีชอลวิ่งออกไปจากที่ ที่คาดว่าจะเกิดเหตุฆาตกรรมหมู่ขึ้น ส่วนชินดงก็ไม่รอช้าวิ่งตามไปติดๆ ลีทึกที่ทนมองหน้าคังอินไม่ได้ก็วิ่งปิดหน้าปิดตาตามออกไป
    คิบอมกับคยูฮยอนที่หยุดออกจากวงสนทนาชั่วคราว ใช้โอกาสตอนที่ฮีชอลกำลังยั่วโมโหคังอินหนีออกไป
     “ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!”    คังอินที่ไม่เหลือใครให้ระบายอารมณ์ หันมาไม่เจอคิบอมกับ คยูฮยอน ก็ทำให้อารมณ์โมโหพุ่งสูงขึ้นไปอีก หน้าแดงจัดเหมือนเหล็กที่กำลังลนไฟ
     “ฉันไม่เล่นกับแกนะคังอิน”    คังอินหันไปมองเยซองที่มองอย่างหวาดๆก่อนเจ้าตัวจะพูดแล้ววิ่งหน้าตั้ง จากไป
     “อ้าว! พี่เยซอง!” ฮยอกแจที่ยังคงยืนเซ่อเมื่อเห็นเยซองวิ่งไปแล้ว แล้วตัวเค้าจะอยู่ต่อไปอีกทำไมล่ะ
    คังอินที่ไม่เลยใครให้ระบายอารมณ์เห็นฮยอกแจตั้งท่าจะวิ่งหนี ก็วิ่งไล่ฮยอกแจทันที ด้วยความตกใจฮยอกแจจึงวิ่งวนไปรอบสนามบอลโดยมีคังอินวิ่งไล่ตาม คนอื่นๆที่หลุดออกมาได้มองดู 2 คนนั้นก็ต้องหัวเราะออกมา
    เหมือนจริงๆ เหมือนมากๆ
    ...เหมือนหมีที่ไล่ตะครุบไก่ไง...
     
     
    -----------------------------------------------------------
                
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×