ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SJ] รักวุ่นๆ ชุลมุนยกแก๊ง[KYUMIN]

    ลำดับตอนที่ #25 : Chapter 24 : สิ่งที่ต้องการที่สุด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.57K
      10
      22 มิ.ย. 52

    Chapter 24 : สิ่งที่ต้องการที่สุด
     
      
    “ทำไมมานั่งตรงนี้คนเดียวล่ะ”
     “ฮยอกแจ”    ฮันคยองหันไปเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง หอบถุงขนมมาเต็มมือแล้วก็ยิ้มออก
    “ฉันเห็นนายนั่งอยู่คนเดียวนานแล้วเลยกะจะมานั่งเป็นเพื่อน แต่ไม่รู้ว่านายอยากให้ฉันนั่งด้วยหรือป่าว”    ฮยอกแจยังคงยืนอยู่ตรงนั้นรอให้คนที่นั่งอยู่อนุญาตก่อนถึงจะนั่ง
     “ก็นั่งสิ”
    ฮยอกแจนั่งลงข้างๆฮันคยองแล้วกองขนมที่หอบมาวางไว้ระหว่างตัวเองกับฮันคยอง ก่อนจะหยิบขึ้นมาแกะแล้วยื่นไปตรงหน้าฮันคยอง
     “กินมั้ย”
     “ขอบใจ”    ฮันคยองหยิบขนมถุงนั้นมาจากฮยอกแจ
     “นายมานั่งทำไมคนเดียวล่ะ”    ฮยอกแจเริ่มชวนคุย
     “มาแอบดูคนน่ะ”    ฮันคยองตอบตามความจริงเพราะอย่างฮยอกแจคงจะไม่มีพิษมีภัยสำหรับเขาซักเท่าไหร่
     “มองคนหรอ”    ฮยอกแจมองตามสายตาของฮันคยองไปเห็นซีวอนกับซินเดอเรลล่าของเขากำลังวิ่งไล่กันอยู่
     “นายมองใคร พี่ฮีชอลหรอ”
     “หึหึ”    ฮันคอยองไม่ได้ตอบคำถาม แค่หัวเราะเบาๆแล้วมองคนทั้ง 2 วิ่งไล่กันต่อไป คนที่ทำให้เขาต้องเจ็บอยู่ตลอดเวลา
     “นายก็ชอบพี่ฮีชอลงั้นหรอ”    ฮยอกแจถามขึ้นอีกครั้ง ในเมื่อไม่ตอบ มันก็คิดได้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ คนอย่างฮันคยองไม่มีทางชอบซีวอนอย่างแน่นอน
     “แล้วนายคิดว่าไงล่ะ”    ฮันคยองนึกขำตัวเองในใจ เขาคงไม่เหมาะกับซีวอนจริงนั่นแหละ
     “งั้นนายก็เป็นศัตรูหัวใจฉันน่ะสิ”
     “ฮ่าๆๆ นายคิดงั้นหรอ มันไม่ใช่หรอก แต่ฉันว่าสองคนนั้นก็เหมาะสมกันดีนะ เจ้าหญิงกับเจ้าชาย”    ฮันคยองหัวเราะร่าเริงกับคำตอบของฮยอกแจแต่ประโยคหลังกลับเบาลงจนคนฟังแทบไม่ได้ยิน
     “เหมาะหรอ ตรงไหนกัน ฉันว่าไม่นะ ฉันยังเหมาะกับพี่ฮีชอลมากกว่าอีก”    ฮยอกแจทำท่าใช่ความคิด
     “อย่างนายน่ะหรอ ตัวก็เตี้ยกว่าฮีชอล แล้วมันเหมาะกันตรงไหน”
                    “ชิ!”    ฮยอกแจได้แต่หันไปมองฮันคยองตาขวางเพราะเถียงไม่ออก
                    “ฮ่าๆๆ ทำไมมองอย่างนี้เล่า ฉันว่านะ นายเหมาะจะเป็นเคะมากกว่าอีก”    ฮันคยองพูดตามที่ตนคิด ตัวเล็กๆ ผิกขาวๆ ปากแดงๆ อย่างฮยอกแจเหมาะที่จะเป็นเคะมากกว่าเมะ
                    “ฉันเป็นเมะ เป็นเมะได้ยินมั้ย”    ฮยอกหันมาทำเสียงดุใส่ฮันคยอง ยังไงชาติเค้าก็ไม่ยอมเป็นเคะเด็ดขาด
                    “แต่ฉันว่าเป็นเคะสบายกว่าอีกนะ”
                    “สบายกับผีน่ะสิ ฉันเป็นเมะ”    ฮยอกแจยังคงไม่ละความพยายาม เป็นเคะมันสบายกว่าเมะยังไง ต้องคอยรับอย่างเดียว แถมครั้งแรกมันยังทรมานสุดๆ
                    “แล้วนายรู้ได้ไงว่ามันไม่สบาย”    ฮันคยองถามต่อ รู้สึกว่าคุยกับฮยอกแจแล้วเพลินดี
                    “ฉันไม่ใช่เด็กนะ รู้หรอกน่าว่าอะไรมันเป็นยังไง”
                    “แล้วนายไม่อยากจะลองภาคปฏิบัติบ้างหรอ ฉันช่วยได้นะ”    ฮันคยองพูดแหย่ฮยอกแจเล่น คุยเรื่องนี้แล้วมันทำให้นึกถึงตอนที่เขายอมซีวอน มันทรมานอย่างที่ฮยอกแจบอกจริงๆนั่นแหละ ทั้งๆที่มีอะไรกับเขาแต่กับเรียกแต่ชื่อของฮีชอล และความสัมพันธ์ของฮันคยองกับซีวอนก็จบลงตรงนั้น
                    “หยุดพูดเลยนะนาย”    ฮยอกแจชี้ไปที่หน้าของฮันคยอง ต้องการบอกให้รู้ว่าไม่ชอบ ถ้าหากยังพูดต่อไปได้มีเรื่องกันแน่
                    “หยุดก็ได้ นายนี่น่ารักจริงๆเลย”    ฮันคยองจับมือฮยอกแจให้ลดลง ส่ายหน้าน้อยๆ เอื้อมมืออีกข้างไปบิดแก้มฮยอกแจอย่างหมั่นเขี้ยว
                    “โอ๊ย! เจ็บนะ”    ฮยอกแจสะบัดมือฮันคยองที่จับมือเขาอยู่ออก ใช้สองมือแนบกับแก้มของตัวเองที่โดนฮันคยองจับเมื่อกี้
                    “แก้มนายนี้นิ่มดีจัง”    ฮันคยองจ้องไปที่ฮยอกแจ
                    “ไอ้บ้า! นายโรคจิตป่ะเนี่ย”    ฮยอกแจพูดทั้งๆที่มือยังแนบกับแก้มตัวเองอยู่ รู้สึกมันร้อนๆ ยังไงไม่รู้
                    “พูดความจริงผิดด้วยหรอ”
                    “นั่งคนเดียวเลยไป อุตสาห์มานั่งเป็นเพื่อน ยังมาทำทะลึ่งใส่อีก” ฮยอกแจสะบัดหน้าใส่ฮันคยองก่อนจะลุกเดินออกไปหาชินดง
                    “นายมันเคะชัดๆ”    ฮันคยองนึกขำกับท่าทางของฮยอกแจ ก่อนจะเอนตัวพิงต้นไม้แล้ว     หลับตาลง
                   
                    “อ้าว! ฮยอกแจเป็นอะไรครับ”    ชินดงถามขึ้นเมื่อฮยอกแจเดินฟึดฟัดเข้ามานั่ง ทำให้คังอินและลีทึกที่กำลังนอนกกกันอยู่ตื่นขึ้นมามอง
     “แค่หวังดี แต่ดันไปเจอคนโรคจิต”    ฮยอกแจพูดอย่างใส่อารมณ์ ดูจากอาการแล้วท่าจะงอนขั้นหนัก
     “ไปทำไรมาอีกล่ะ”    คังอินถาม
     “ผมถามอะไรหน่อยนะ พี่ฮันคยองนี่เค้าเป็นคนยังไง”    ฮยอกแจหันหน้าไปถามคังอิน
     “คนดี”    ตอบคำถามเพียงสั้นๆ แล้วซุกหน้าลงกับไหล่ของลีทึก
     “ช่วยได้มากเลยครับพี่ ขอบคุณ!”    ฮยอกแจประชดใส่คังอินที่ช่วยตอบคำถามให้เขาได้อย่างดีเยี่ยมก่อนจะหยิบขนมของชินดงขึ้นมากิน
     “ฮยอกแจนั่นมันขนมผมนะ ขนมคุณเยอะแยะไปไหนหมดล่ะ”    ชินดงมองตามขนมที่ฮยอกแจกำลังหยิบเข้าปาก
    ฮยอกแจไม่ตอบเอาแต่กินลูกเดียว ขนมของเขาอยู่กับฮันคยองหมดเลย จะกลับไปเอาก็ยังไงอยู่ งั้นขอแย่งกินของนายก่อนก็แล้วกันนะชินดง
    “เอ้า! ถามก็ไม่ตอบ”    ชินดงเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ จะว่ากินเสร็จจะลงไปเล่นน้ำซักหน่อย นานๆทีจะได้มาเที่ยวเล่นแบบเด็กๆกับเค้า
     
     
    ด้านคิบอมกับดงเฮก็กำลังเพลิดเพลินกับโลกส่วนตัวในการเล่นน้ำ ต่างคนต่างผลัดกันสาดน้ำใส่กันไปมา แต่เหมือนว่าคิบอมมักจะหาโอกาสลวนลามคนรักตลอดเวลาเท่าที่จะทำได้
    “อย่าสาดใส่หน้าสิคิบอม น้ำมันเข้าตา”    ดงเฮบอกคนรักที่เอาแต่แกล้งตลอด
    “น้ำเข้าตาหรอครับ ไหนขอดูหน่อย”     คิบอมเดินเข้ามาจับมือดงเฮที่ปิดหน้าตัวเองออก มือใหญ่ลูบไล้ไปตามใบหน้าหวาน
     “มันไม่ใช่น้ำทะเล ไม่แสบหรอก”    ดงเฮผลักคิบอมออกเบาๆ
     “ก็ผมเป็นห่วงด๊องหนิครับ”
     “เป็นห่วงก็อย่าแกล้งสิ”    ดงเฮว่าพลางทำปากจู๋กับแก้มป่อง
    จุ๊บ!
     “คิบอม!”    ดงเฮร้องออกมาอย่างตกใจเพราะอยู่ๆคิบอมก็เข้ามาจูบซะงั้น หน้าหวานเลยแดงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
     “เรียกทำไมครับ...ก็เห็นด๊องปากจู๋ๆก็นึกว่า...”    คิบอมยิ้มจนตาเป็นขีด ทำตัวน่ารักซะขนาดนั้น ใครทนไหวก็บ้าแล้ว
     “ใครบอกเล่า! งอนแล้ว!”    ดงเฮพาหน้าแดงๆนั้นเดินหนีคิบอมออกมา แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเพราะโดนรวบเข้าไปกอดไว้ซะก่อน
     “คิบอมขอโทษนะคร๊าบ อย่างอนเลยนะ เพราะรักด๊องไงถึงได้ทำแบบนั้น่ะ ไม่รักไม่ทำหรอก”  คิบอมว่าก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มคนในอ้อมกอดที่เขินจนหน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้ว
     “ปล่อยได้แล้ว”    ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่กลับไม่มีท่าทีดิ้นหรือขัดขืนเลยซักนิด
     “ผมว่าเราไปหาของกินกันดีกว่านะครับ ตั้งแต่มายังไม่ได้กินอะไรเลย”    คิบอมเปลี่ยนจากการกอดมาเป็นจูงมือดงเฮขึ้นไปหาชินดง ฮยอกแจ คังอินและลีทึกที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม
     
     
     “ไม่ลงมาด้วยกันหรออุกกี้”    เยซองที่อยู่ในน้ำร้องเรียกเรียวอุกที่นั่งแกว่งเท้าลงมาในน้ำแต่ตัวยังคงนั่งอยู่ด้านบน
     “ไม่อ่ะ ไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน”    เรียวอุกแล้วเตะน้ำใส่เยซองเล่น
     “ก็แล้วทำไมไม่เอามาล่ะครับ ก็รู้ว่าจะมาน้ำตก”
     “ก็ขี้เกียจเอามา ช่างมันเถอะน่า”    เรียวอุกเบ้ปากที่โดนเยซองว่าแบบนั้น ก่อนจะเตะน้ำใส่แรงกว่าเดิม
     “ที่จริงลงมาก็ได้นะ น้ำมันไม่ลึกเท่าไหร่หรอก คงไม่เปียกมาก”    เยซองเข้ามาใกล้ๆเรียวอุกแล้วจับข้อเท้าเล็กที่กำลังเตะน้ำใส่เขาไว้
     “ไม่เอาอ่า”    ถึงจะโดนจับข้อเท้าไว้แต่ก็ยังพยายามแกว่งไปมาเล็กน้อย เยซองเลยเปลี่ยนมาเป็นวางลำแขนทั้งสองข้างไว้บนเข่าของเรียวอุกแล้วเกยคางไว้บนแขนของตัวเอง ทำให้เรียวอุกหยุดแกว่งขาทันที
     “ไม่เล่นก็ไม่เล่น”    เยซองว่าแล้วยิ้มตาหยี
     “เอาตัวออกไปเลยนะ มันหนัก”    เรียวอุกว่าแล้วดันแขนเยซองออกแต่เยซองกลับคว้าเอวเรียวอุกลงมาในน้ำด้วยกัน
     “เล่นอะไรเนี่ย”    เรียวอุกผลักอกเยซองเบาๆ พยายามดันตัวออกจากวงแขนที่กอดรอบเอวตัวเองอยู่
     “อุกกี้”    เยซองเรียกพร้อมกับยิ้ม
     “อะไร...ปล่อยได้แล้ว”
     “รักอุกกี้นะ”    เยซองพูดพร้อมกับหอมแก้มนิ่มไปหนึ่งที
     “เฮ้ย!”    เรียวอุกร้องออกมาอย่างตกใจ
     “รักนะครับ รักที่สุดเลย อุกกี้ล่ะ รักเยเย่หรือเปล่าครับ”    เยซองกอดเรียวอุกแน่นขึ้น
     “นะ...นายจะบ้าหรือไงห๊ะ! รักบ้าบออะไรกัน”    เรียวอุกดิ้นไปมาเบาๆ แก้มที่ร้อนผ่าวของตัวเองลง โดนสารภาพตรงๆแบบนี้มันเกินบรรยายจริงๆ
     “ไม่รักกันบ้างเลยหรอครับ”    เยซองทำเสียงให้ดูเศร้าและน้อยใจเต็มที่ แต่ใบหน้ากลับยิ้มจนแก้มแทบแตก เรียวอุกคงไม่มีทางเห็นแน่นอนก็เล่นก้มหน้าซะขนาดนั้น
     “เอ่อ...ฉัน...”    เรียวอุกทำอะไรไม่ถูกเงยหน้าแดงๆของตัวเองขึ้นมาสบตากับเยซอง ทำเอาคนที่กำลังยิ้มหน้าบานปรับสีหน้าแทบไม่ทัน
     “ไม่รักหรอ”    เยซองแสร้งทำหน้าจ๋อยหนัก
     “เปล่านะ...ก็แค่...”
     “อะไรครับ...หือ”
     “นายจะบ้าหรือไง! มาพูดกันตรงๆแบบนี้ฉันก็เขินน่ะสิ!”    เรียวอุกทำเป็นตะคอกกลบเกลื่อน
     “แล้วรักมั้ยล่ะ”    เยซองยังคงรุกหนัก ยังไงวันนี้เรียวอุกต้องเป็นแฟนเขาให้ได้
     “รัก! รัก! รัก! รัก! รัก! รัก! รัก! พอใจหรือยัง!”    เรียวอุกหลับตาแล้วพูดรัวออกมา ทำเอาเยซองยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าเดิม
     “อุกกี้ของผมนี่น่ารักจังเลย”    พูดจบก็กอดเรียวอุกซะแน่น
     “โอ๊ย! ปล่อยได้แล้ว! จะเล่นน้ำ”    เรียวอุกผลักเยซองออกแล้วว่ายน้ำหนีไป
    เยซองหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะว่ายตามเรียวอุกไป ได้แฟนกับเขาแล้วล่ะเยซอง ต่อไปนี้สองแก๊งคู่ปรับของโรงเรียนคงจะญาติดีกันได้ซักที เมื่อความรักความผูกผันมันเริ่มเกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
     
     
    ด้านคยูฮยอนที่มากับซองมิน จะว่ามาด้วยก็คงไม่ได้ เรียกว่าโดนบังคับน่าจะเหมาะกว่าก็เดินนำลิ่วไม่สนใจคยูฮยอนที่เดินตามเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงยังไงก็เดินไปไหนไม่ได้ไกลอยู่ดี มันก็วนเวียนอยู่แถวๆน้ำตกนั่นแหละ
     “นี่นายจะเดินวนทำไมนักหนา”    คยูฮยอนฉุดข้อมือซองมินให้หยุดเดิน ทำเอาคนตัวเล็กกว่าเซแทบล้มเลยทีเดียว
     “ดึงเบากว่านี้ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ”    ซองมินพูดประชดใส่ แล้วสะบัดมือออก
     “นายจะเดินไปไหนของนายนักหนา”    คยูฮยอนยืนท้าวเอวพูดเหมือนคนอยากจะหาเรื่องซะมากกว่าถามดีๆ
     “แล้วนายจะบังคับให้ฉันมากับนายทำไมล่ะ”
     “มาน้ำตกทั้งทีนายจะนั่งเฉยๆอย่างเดียวเนี่ยนะ แล้วมันจะสนุกอะไร”
     “มันก็เรื่องของฉัน ฉันอยากเล่นน้ำเดี๋ยวก็ไปเล่นเองนั่นแหละ”
     “เออๆ ช่างเหอะ แต่เดินมาแล้วก็เล่นซะเลยสิ”    คยูฮยอนว่าพลางมองไปที่น้ำตก นี่เขา 2 คนเดินมาจนถึงตรงที่น้ำมันตกลงมาพอดี
     “เล่นกับนายน่ะหรอ บอกตรงๆไม่ปลอดภัยอย่างแรง”    ซองมินพูดจบกำลังจะเดินหนีแต่โดน คยูฮยอนจับแขนไว้ เลยสะบัดอย่างแรงจนแขนไปฟาดบริเวณใกล้ตาของคยูฮยอนจนล้มลงไปนั่ง
     “โอ๊ย!”
     “เฮ้ย! คยูฉันขอโทษเป็นอะไรมั้ย”    ซองมินนั่งลงด้านหน้าของคยูฮยอน จับมือของคยูฮยอนที่ปิดบริเวณตาออกแล้วลูบเบาๆ ปัดปอยเส้นผมที่ตกลงมาปรกออกคิ้วออก สายตาก็ไปสะดุดรอยแผลเป็นเล็กๆที่หางคิ้วเข้า
     “ฟาดมาได้ ดีนะที่ไม่โดนลูกตา”    คยูฮยอนกำลังจะลุกขึ้นแต่โดนซองมินดันไหล่เอาไว้
     “แผลนี่นายไปโดนอะไรมาหรอ เหมือนฉันจะเคยเห็นนะ” ซองมินนึกอยู่ซักพักก็เริ่มจำได้ เขาเห็นแผลนี่ของคยูฮยอนตอนที่คยูฮยอนเตะบอลมาโดนเขา ตั้งแต่คยูฮยอนเข้าแก๊งหนุ่มหล่อใหม่ๆ
     “แผลนี่น่ะหรอ มันมีมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ ฉันโดนเด็กผู้ชายที่ไหนไม่รู้เอามาไล่ตี แล้วก็โดนฟาดเข้าเต็มๆตรงหางคิ้ว แผลลึกซะด้วยสิ มันก็เลยเป็นแผลเป็น”    คยูฮยอนอธิบาย นึกแล้วก็แค้นไอ้เด็กคนนั้นไม่หาย ถ้าเจอตัวจะเอาคืนซะให้เข็ด
     “งั้นหรอ รู้สึกว่านายจะเจอเหตุการณ์คล้ายๆกับฉันเลยนะ”    ซองมินพูดแล้วทำท่านึก
     “นายเจออะไรมาหรอ แผลก็ไม่มีซักหน่อย”    คยูฮยอนเอาผมของซองมินทัดหูแล้วเปิดผมที่ปิดบริเวณแถวหน้าผากและหางคิ้วออก
     “มันตรงกันข้ามต่างหากล่ะ”    ซองมินว่าพลางเอาที่คยูฮยอนทัดหูเขาออก
     “ตรงกันข้าม อย่าบอกนะว่านาย เคยเอาไม้ไปไล่ฟาดใครมาก่อนน่ะ”
     “ฟาดไปเต็มเลยล่ะ ตรงนี้เลยด้วย เย็บเกือบ 20 เข็ม”    ซองมินจิ้มที่รอยแผลเป็นของคยูฮยอน
    2 คนนั่งมองหน้าสลับกันไปมา มันคงจะไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง ซองมินยิ้มแหยๆออกมา ถ้าเกิดเป็นคยูฮยอนจริงเขาคงไม่รอดแน่ๆ เพราะตอนนั้นเด็กคนนั้นร้องไห้หนักมากแถมเลือดยังออกเยอะมากๆด้วย ซองมินเองยังกลัวไปด้วยเลยร้องไห้ตาม ดีที่พ่อแม่เด็กคนนั้นไม่เอาความอะไรมากมาย เพราะเห็นว่ายังเด็กกันอยู่ และพ่อแม่ของเด็กคนนั้นก็เป็นเพื่อนกับพ่อแม่ของเขาด้วย
     “ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไง”    คยูฮยอนถามออกไปอย่างสงสัย
     “คือว่าก่อนนายจะโดนไล่ตีน่ะ...นายไปทำอะไรไว้หรือเปล่าล่ะ”    ถ้าเพราะเด็กผู้ชายคนนั้นไม่มาเตะบอลใส่หน้าเขา เขาก็คงไม่เอาไม้ไปไล่ตีหรอก
     “ฉันก็แค่เตะบอลไปโดนหมอนั่นเท่านั้นแหละ”
     “ระ..หรอ...แล้วนายไปเตะโดนที่ไหนล่ะ”    ซองมินเริ่มจะมั่นใจแล้วสิว่าคนที่เขาเอาไม้ไล่ตีอายจะเป็นคยูฮยอนก็ได้ พ่อแม่ก็รู้จักกันแถมยังเจอเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก
     “ที่หน้า แต่หมอนั่นก็ไม่น่าเล่นฉันกลับแรงขนาดนั้นเลยนี่น่า ถ้าเจอตัวนะ น่าดู!”    คยูฮยอนพูดออกมาอย่างจริงจังและตอนนี้ซองมินก็แน่ใจแล้วว่าเด็กคนนั้นใช่คยูฮยอนแน่ๆ
     “เอ่อ...แล้วนายจะจำหน้าเด็กคนนั้นได้หรอ นายยังไม่หายโกรธอีกหรอ แล้วนายจะทำอะไรเขาล่ะ”    ซองมินแกล้งถามลองเชิงไปก่อน ดูท่าคยูฮยอนคงจะโกรธอยู่ แค้นฝังลึกจริงๆ
     “ยังไม่รู้หรอกว่าจะทำอะไร แต่คงจะทำให้เจ็บไม่ต่างจากฉันเลยล่ะ จะว่าไปหน้าตาของไอ้เด็กนั้นก็คล้ายๆนายเหมือนนะ ไอ้ตาแบ๊วๆที่มันมองฉันน่ะ มันติดตามากเลย”    คยูฮยอนจ้องหน้าซองมินเขม็ง ถ้าเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นซองมินขึ้นมาล่ะก็...
     “เหะๆ งั้นหรอ แต่ฉันว่าคงไม่ใช่หรอก ก็แค่หน้าเหมือนมั้ง”    ซองมินหัวเราะแห้ง ตอนนี้อยากจะไปให้ไกลจากคยูฮยอนจริงๆ
     “แต่พ่อแม่ของเด็กนั้นรู้จักกับพ่อแม่ของฉันด้วยนะ แถมหน้ายังคล้ายนายอีก...ฉันว่ามัน”
                    “ไม่ใช่หรอกน่า”    ซองมินปฏิเสธสุดฤทธิ์ ไม่น่าไปขุดคุ้ยมันขึ้นมาเลย เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว ถ้าคยูฮยอนรู้แล้วว่าใครคือเด็กผู้ชายคนนั้นแล้วทำอย่างที่เขาพูดไว้ล่ะ ไม่โดนไม้หน้าฟาดจนมีแผลแบบเดียวกันหรอกหรอ
                    “แต่ฉันว่า...”
                    “เราหยุดพูดเรื่องนี้กันจะดีกว่านะ มาน้ำตกทั้งที ลงเล่นน้ำกันเถอะ”    ซองมินรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนที่
    คยูฮยอนจะนึกอะไรออกไปมากกว่านี้
                    “ไหนนายบอกว่าไม่อยากเล่นน้ำกับฉันไง”    คยูฮยอนแทบจะปรับอารมณ์ตามไม่ทัน อยู่ดีๆมาชวนเล่นน้ำเฉยเลย เรื่องเมื่อกี้ก็ยังคุยกันไม่จบเลยด้วยซ้ำ ทำตัวมีพิรุธจริงๆเลยนะ...ลีซองมิน
                    “ไปเล่นน้ำนะ ๆๆๆๆ เล่นน้ำกัน”    ไม่รอช้า ซองมินฉุดคยูฮยอนให้ลุกขึ้นแล้วทั้ง 2 คนก็เดินไปหยุดที่ริมน้ำตก
                    ตู้ม!
    คยูฮยอนเป็นคนแรกที่กระโดดลงไปพร้อมกับดึงซองมินลงมาด้วย น้ำบริเวณนี้เกือบจะลึกที่สุดเลยก็ว่าได้ คยูฮยอนกดให้ซองมินอยู่ในน้ำโดยที่ตัวเองโผล่ขึ้นพ้นน้ำแล้ว มือและเท้าของซองมินบัดป่ายไปทั่ว ทั้งตกใจที่โดนดึงลงมาและตกใจที่โดนกดเอาไว้ อาการหายใจเขาแทบจะหมดลงในทันทีเลยก็ว่าได้
     “แค่กๆๆ!!! คะ...คยู!!! แค่กๆๆ นายเล่นบ้า...อะไรเนี่ย”    เมื่อคยูฮยอนยอมปล่อยซองมินก็โผล่หัวขึ้นมาทันที สำลักน้ำจนแทบจะพูดไม่รู้เรื่อง อีกอารมณ์ก็โกรธจนอยากจะกระทืบคยูฮยอนโทษฐานที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง
     “หายกันนะ แต่ฉันว่าแค่นี้มันยังน้อยไปหน่อย”
    คยูฮยอนพูดจบก็ดึงซองมินเข้าจูบทันที ซองมินที่เกือบจะขาดอาการหายใจไปแล้วหนึ่งรอบโดนดึงเข้าไปจูบทั้งๆยังหายใจไม่เต็มปอดเลยด้วยซ้ำ บวกกับอาการตกใจทำให้คยูฮยอนสอดลิ้นเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ลิ้นของคยูฮยอนกวาดต้อนความหอมหวานอย่างโหยหาภายในโพรงปากของซองมินอย่างไม่รู้จักพอ แต่ซองมินกลับดิ้นเร่าๆ ถ้าคยูฮยอนไม่ปล่อยเขาต้องขาดใจแน่ๆ
     “ทีนี้ก็หายกัน มันน้อยไปด้วยซ้ำที่นายทำกับฉันไว้น่ะ รู้หรือเปล่าซองมิน”    คยูฮยอนปล่อยซองมินให้เป็นอิสระ ซองมินรีบใช้แขนของตัวเองโอบรอบคอของคยูฮยอนไว้ทันที พร้อมกับหอบอย่างหนัก พยายามเอาอาการเข้าปอดให้เต็มที่ ไม่มีแรงทำอะไรเลยตอนนี้
     “ฉันรู้ตั้งแต่ที่นายเริ่มถามซักไซ้ฉันแล้วล่ะ ถ้าถามแล้วทำหน้าปกติยังพอว่าแต่นายดันออกอาการซะขนาดนั้น ฉันก็เลยมั่นใจว่าใช่นายแน่ๆ บังเอิญชะมัดเลย สุดท้ายไอ้เด็กแสบที่เอาไม้ไล่ฟาดฉันก็เป็นนายนี่เอง คงไม่ปฏิเสธใช่มั้ย เด็กคนนั้นก็คือนาย”    คยูฮยอนก้มลงมองซองมินที่ยังหายใจถี่อยู่ ถ้าไม่ยอมรับล่ะก็ จะจับกดมันในน้ำนี่แหละ
    ซองมินพยักหน้ารับเบาๆ ตกใจอยู่เหมือนที่คยูฮยอนรู้เรื่องแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ แล้วมาทำกับเขาแบบนี้ ทั้งโกรธทั้งตกใจ แต่ตอนนี้กลับทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่แรงจะขยับยังไม่มี
     “ขอโทษนะที่กดนายไว้ใต้น้ำเมื่อกี้ ฉันคิดว่ามันคงแรงไปหน่อย”    คยูฮยอนเอ่ยขอโทษความรู้สึกผิดจริงๆแล้วกอดซองมินไว้
     “เออ! ชั่งมันเหอะ”    ซองมินว่าด้วยอารมณ์ที่ยังมีอยู่เล็กน้อย ที่เริ่มจะหายไปเมื่อได้ฟังคำขอโทษ
     “ฉันว่าขึ้นจากน้ำดีกว่า นายคงไม่อยากเล่นน้ำแล้วมั้ง”    คยูฮยอนพาซองมินขึ้นมาที่เดิมที่เขานั่งคุยกันเมื่อกี้ ซองมินไม่ยอมมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย
     “โกรธมากเลยหรอ”
     “...”
     “ขอโทษ”
     “...”
     “พูดอะไรหน่อยสิ”
     “นายเล่นแบบนี้ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ!! ฉันกลัวนะ!!”     ซองมินตวาดใส่คยูฮยอนดังลั่น ทำให้คยูฮยอนหน้าจ๋อยลงทันที
     “ขอโทษ”    คยูฮยอนก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด
     “แถมยังมาจูบฉันอีก คยูฮยอนนายมันบ้าที่สุดเลย!”    ซองมินยังคงว่าคยูฮยอนต่อ แต่น้ำเสียงกลับท่าทางมันไม่ได้สอดคล้องกันเลยซักนิด ปากด่าแต่หน้ายิ้มออกแนวสะใจยังไงชอบกล แถมยังแลบลิ้นใส่คยูฮยอนที่ก้มหน้าอยู่อีก
     “ขอโทษ”    คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมาทำเอาซองมินนิ่งในทันที แต่มันก็อดไม่ไหวเมื่อเห็นหน้าจ๋อยๆของคยูฮยอนเลยหลุดหัวเราะออกมา
     “ฮ่าๆๆๆๆ หน้านายตลกชะมัดเลยรู้มั้ย”
     “หา! นี่นายแกล้งฉันหรอ”    คยูฮยอนเพิ่งจะรู้ตัวโดนแกล้ง แต่กลับไม่โกรธ จะไปโกรธลงได้ไงเรื่องเล็กน้อยๆ ที่คนที่รักทำ
     “ฉันหายโกรธตั้งแต่นายขอโทษฉันครั้งแรกแล้วล่ะคยู”    ซองมินพูดยิ้มๆ
     “แต่ฉันโกรธนายแล้วนะซองมิน”   ซองมินเหมือนจะรู้ชะตากรรมรีบลุกขึ้นวิ่งหนีทันที วิ่งหนีกันไปหัวเราะกันไป
     
     ‘โกรธ’ มันก็แค่คำที่ใช่บังหน้าเพื่อจะได้ใกล้ชิดนายเท่านั้น
    ‘รอยยิ้ม’ต่างหากล่ะที่ต้องการ...และ...
    ‘ความรัก’ที่ฉันอยากได้จากนายมากที่สุด
    ‘ความรัก’จากนายคนเดียว ‘ลีซองมิน’ ที่ ‘โจคยูฮยอน’ ต้องการ
     
     
    ---------------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×