ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ข่าว บอลโลก 2006

    ลำดับตอนที่ #8 : "เยอรมัน" ถึงฆาตโดน "อัซซูรี่" ฝัง 2 นาทีท้าย 2-0

    • อัปเดตล่าสุด 5 ก.ค. 49


    ฟุตบอลโลก 2006 รอบรองชนะเลิศ นัดประจำวันอังคารที่ 4 ก.ค. ที่สนามเวิลด์คัพ สเตเดี้ยม เมืองดอร์ทมุนด์ ประเทศเยอรมัน เป็นการแข่งขันระหว่าง เจ้าภาพ เยอรมัน กับ อิตาลี

    เริ่มเกมในครึ่งแรก อิตาลีเปิดเกมไล่บอลได้อย่างน่ากลัว โดยพยายามเข้าบอลตั้งแต่ในแดนหน้าบีบให้ให้ผู้เล่นแผงหลังเยอรมันเร่งจ่ายบอล นาทีที่ 16 ฟรานเชสโก ต็อตติ เปิดบอลจากครึ่งสนามขึ้นหน้าให้ ซิโมเน่ แปร์รอตต้า ที่ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนพยายามจิ้มบอลที่ห่างเท้าไปติด เยนส์ เลห์มันน์ นายทวารเยอรมันที่ออกมาขวาง และตะครุบรับไว้ได้
    อิตาลี ยังคงเร่งเกมบุกกดดันเกมรับของเจ้าภาพ จ่ายบอลกันจังหวะเดียวเป็นส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกัน เยอรมันก็หาจังหวะสวนกลับ จนนาทีที่ 34 เยอรมัน มีโอกาสได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะ มิโรสลาฟ โคลเซ่ จ่ายบอลออกทางขวาให้ แบรนด์ ชไนเดอร์ ที่เลี้ยงจี้หาพื้นที่ว่างทางด้านขวาบริเวณหัวมุมเขตโทษ ก่อนตัดสินใจตะบันด้วยขวา บอลพุ่งเฉียดคานไปชนิดได้ลุ้นประตู

    นาทีที่ 40 ทิม โบรอฟสกี้ ของเยอรมัน เข้าเสียบสกัดข้างหลัง ต็อตติ จนร่วงไปนั่งกับพื้น ผู้ตัดสินชูใบเหลืองให้ โบรอฟสกี้ เป็นคนแรกของเกม

    จบครึ่งแรก เสมอกันไป 0-0
    เริ่มครึ่งหลัง เยอรมัน เริ่มเปิดเกมบุกใส่ทันที นาทีที่ 50 โคลเซ่ กระชากบอลเลี้ยงจี้เข้าหาประตูฝ่าแผงหลังอิตาลีอย่างทุลักทุเล ก่อนบอลจะหลุดเท้า และพยายามจะยิงแต่ จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารอัซซูรี่ก็ออกมาล้มขวางและรับไว้ได้อย่างหวุดหวิด

    นาทีที่ 55 โบรอฟสกี้ ลองสับไกยิงระยะ 25 หลา แต่ก็เหินข้ามคานออกไป

    นาทีที่ 56 คริสตอฟ เมตเซลเดอร์ ได้รับใบเหลืองเป็นคนที่สองของเกม หลังไปทำฟาล์ว ลูก้า โทนี่
    นาทีที่ 63 เยอรมัน มีจังหวะน่าได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ แบรนด์ ชไนเดอร์ ที่ได้บอลอยู่ทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ จ่างทะลุช่องเข้าไปในเขคโทษให้ ลูคัส โพดอลสกี้ กลับตัวยิง แต่ไปติดบล็อก บุฟฟ่อน กระดอนออกมาถึง อาร์เน่ เฟรดริช ที่ยิงซ้ำแต่ข้ามคานออกมาอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 73 เยอรมันเปลี่ยนตัวสำรองคนแรก โดยส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ลงมาแทน ทิม โบรอฟสกี้ ก่อนเพียงนาทีเดียว อิตาลี ก็เปลี่ยนเอา อัลเบอร์โต จิลาร์ดิโน ลงมาแทน ลูก้า โทนี่

    นาทีที่ 82 มิชาเอล บัลลัค ได้ยิงฟรีคิกในหัวกะโหลกเขตโทษ แต่ก็ยิงออกข้างไป ก่อนนาทีที่ 83 เยอรมัน จะถอดเอา แบรนด์ ชไนเดอร์ ออก และส่ง ดาวิด โอดอนคอร์ ลงมาแทน

    นาทีที่ 86 เป็นเกมบุกของอิตาลี ต็อตติ กระดกบอลต่อให้ แปร์ร็อตต้า หลุดกับดักเช็คล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษเดี่ยว แต่ เลห์มันน์ ก็ออกมากระโดดตัวลอยชกบอลเคลียร์ออกไปได้ พร้อมกับท่อนแขนที่ไปเกี่ยว แปร์ร็อตต้า จนล้มลงไปกองกับพื้น

    นาทีที่ 90 เมาโร คัมโมราเนสซี่ ของอิตาลี รับใบเหลืองหลังเข้าเสียบ ฟิลิป ลาห์ม จนล้มไปดิ้นกับพื้น ก่อนจะหมดเวลาการแข่งขัน ทั้งสองทีมทำประตูกันไม่ได้ เสมอกัน 0-0 ต้องเล่นกันถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ
    เริ่มครึ่งแรกช่วงต่อเวลาพิเศษ อิตาลี เปลี่ยนตัวสำรองโดยถอดเอา เมาโร คัมโมราเนสซี่ ออก และส่ง วินเซนโซ ไอควินตา ลงมาแทน และเป็นฝ่ายอิตาลี ที่เปิดเกมบุกได้อย่างน่ากลัวอีกครั้ง และมีจังหวะใกล้เคียงได้ประตูขึ้นนำมากที่สุด นาทีที่ 91 เมื่อ จิลาร์ดิโน พาบอลไปถึงสุดเส้นหลังในกรอบเขตโทษ ก่อนกระชากตัดเข้าหาหน้าประตู และตัดสินใจยิงระยะแค่ 5 หลา แต่ยิงไม่เต็ม บอลเลียดผ่านมือ เลห์มันน์ ที่ล้มตัวขวางกับพื้นไปแล้ว แต่ไปชนเสาแรกกระดอนผ่านหน้าประตูไปชนิดไม่มีใครเติมเข้ามาซ้ำ เยอรมันรอดพ้นการเสียประตูอย่างหวุดหวิด

    แต่เพียงนาทีเดียว นาทีที่ 92 เยอรมันเกือบเสียประตูอีกครั้ง เมื่อ จิอันลูก้า ซามบรอตต้า สบโอกาสสับไกยิงเต็มข้อระยะ 25 หลา แต่บอลไปชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 102 อิตาลี ส่ง อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ลงมาแทน แปร์ร็อตต้า จบครึ่งแรกต่อเวลาพิเศษ ยังเสมอกัน 0-0
    เริ่มครึ่งหลังต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 111 เยอรมัน ถอด โคลเซ่ ออก และส่ง โอลิเวอร์ นอยวิลล์ ลงมาแทน จากนั้นเพียงไม่ถึงนาที ไอควินตา ของอิตาลี พาบอลไปหยุอยู่หน้าประตู พยายามจะหาจังหวะยิง ขณะที่เลห์มันน์ ก็จด ๆ จ้อง ๆ ไม่กล้าออกไปคว้าบอล แต่แผงหลังเยอรมันก็เตะสกัดออกมาชนิดหวาดเสียว

    จากนั้น เยอรมัน อาศัยเกมสวนกลับเร็วทันที และก็มีโอกาสได้ประตู เมื่อ โพดอลสกี้ สบโอกาสยิงหน้ากรอบเขตโทษแบบโล่ง แต่ บุฟฟ่อน ก็เซฟปัดข้ามคานออกไปอย่างหวาดเสียวเช่นกัน
    แต่แล้วช่วง 2 นาทีสุดท้าย เยอรมัน ระส่ำหนัก เมื่อมาเสีย 2 ประตูรวดอย่างเหลือเชื่อ โดยนาทีที่ 119 อังเดร ปิเอโร่ จ่ายตัดทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ฟาบิโอ กรอสโซ่ ซัดเน้น ๆ จังหวะเดียวด้วยซ้าย บอลพุ่งโค้งผ่านมือ เลห์มันน์ เข้าเสาสองเสียบตาข่ายอย่างสวยงามเป็น 1-0

    และเพียงนาทีเดียวประตูตอกฝาโลงเจ้าภาพก็ตามมาติด ๆ จากจังหวะสวนกลับเร็ว เมื่อ จิลาร์ดิโน ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจตวัดออกซ้ายให้ เดล ปิเอโร่ ที่เติมสอดขึ้นมาโล่งหลุดเข้าชิพด้วยขวา บอลลอยข้ามศีรษะ เลห์มันน์ เสียบคานข้าไปตุงตาข่าย เป็นประตูปิดท้ายให้ อิตาลี ชนะ ทีมเจ้าภาพเยอรมัน ไป 2-0 โดยอิตาลี ผ่านเข้าไปรอชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก รอพบกับ ทีมชนะระหว่าง ฝรั่งเศส กับ โปรตุเกส.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×