ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FIC 1D;ONE DIRECTION★BE AMBITIOUS

    ลำดับตอนที่ #5 : บันทึกการเดินทาง 04 : Misbehavior story [London,England]

    • อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 57


    A day with you

    DIARY:04 [LONDON,ENGLAND]

    Misbehavior story L

     

     

    Is your heart taken ,Is there somebody else on your mind ?

    I'm so sorry, I'm so confused

    Just tell me, am I out of time ?

    หัวใจของคุณถูกใครขโมยไปหรือยัง มีใครอยู่ในหัวบ้างไหม

    ผมขอโทษนะผมแค่สับสนนิดเดียวเท่านั้นแหละ

    แต่บอกผมทียังไม่หมดเวลาสำหรับผมใช่ไหมครับ

     

     

     

     

            ปั่ก!

     

            “โอ๊ย”  ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นทันทีเมื่อสัมผัสได้ว่าหัวของตัวเองฟาดกับอะไรแข็งๆ ใช่ค่ะ...มันคือพื้นห้อง สาบานได้ว่าฉันนอนตกเตียงครั้งแรกในรอบสิบปี จริงๆ นะ เชื่อฉันหน่อยสิ

     

            ฉันขึ้นมาบนเตียงต่อและยังคงนอนนัวเนียอยู่บนเตียงสักพักพลิกตัวไปพลิกตัวมาบนผ้านวมหนา ปล่อยให้แอร์เย็นๆ ภายในห้องกระทบผิวกายไปสักพัก แต่เฮ้! ฉันลืมไปซะสนิทเลย วันนี้เริ่มงานวันแรกนี่หว่า เฮ้ยยย! ติ๊บหายแล้ว T^T แล้วไอ้บ้าหน้าเผือก (ฉายาใหม่) ไปไหนอ่ะ ทำไมไม่ยอมปลุกฉัน แว้กกกก! แล้วนี้กี่โมงแล้วเนี่ย...ฉันหันหน้าไปมองนาฬิกาปลุกที่วางไว้ข้างๆ เตียง อ่อ...สิบโมง

     

            “สิบโมง!” ฉันตะโกนขึ้นมาดังลั่นห้อง จากที่กำลังงึมงำอยู่บนเตียงกลายเป็นตอนนี้ฉันสปริงตัวขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็วและไม่ลืมจะหยิบเสื้อผ้าและตรงดิ่งเข้าไปในห้องน้ำ

     

            วันนี้คงเป็นวันที่ฉันอาบน้ำเร็วที่สุดตั้งแต่เกิดมาชนิดที่ว่าความเร็วแสงตามไม่ทันอย่างแน่นอน (อีเว่อร์!) ในใจก็นึกแค้นที่เขาไม่ยอมปลุกฉัน ให้ตายเถอะ! เขาเป็นรูมเมตที่แย่เนอะทุกคน :’(

     

            คราวนี้ฉันไม่ได้นั่งแท็กซี่มาแล้วนะทุกคน แต่ฉันนั่งรถบัสมาจ้าเพราะกลัวว่าต้องเสียเวลากับการโบกแท็กซี่อีกน่ะนะ การนั่งรถเป็นอะไรที่มีทั้งด้านดีและด้านเสียนะ ด้านดีคือได้ใช้ชีวิตแบบคนในเมืองมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้นด้วย แสนคุ้มก็คือมีของแถมคือการได้เหล่ฝรั่งหนุ่มๆ ด้วย ฮิโฮะ รถบัสที่อังกฤษขึ้นไม่ยากเพราะมันก็คล้ายๆ กับที่ไอร์แลนด์คือแค่จ่ายเงินก่อนขึ้นรถ ส่วนด้านเสียคือค่อนข้างที่จะอึดอัดนิดหน่อย แต่ถ้าวันไหนโล่งคุณก็โชคดีไป

     

            เมื่อรถบัสมาเทียบที่ริมฟุตบาทฉันจึงรีบย่างก้าวไปที่ตัวห้างเลยทันที เพราะฉันเคยมาที่ห้างนี่แล้วเมื่อวานจึงรู้ว่าต้องไปทางไหนอะไรยังไงบ้างแล้วฉัยจึงไม่รอช้าวิ่งไปที่ลิฟท์กดเบอร์ชั้นที่คุ้นเคยจากเมื่อวาน อันที่จริงแล้วห้างนี้เปิดตอนสิบเอ็ดโมงน่ะ แสดงว่าตอนนี้ที่ร้านคงจัดโต๊ะ เตรียมของกันอยู่แหละนะ

     

            “พี่เจสหวัดดีค่ะ ขอโทษที่มาช้านะคะฉันกล่าวทักทายพี่เจส แล้วยิ้มให้เธอแห้งๆ ทีนึง อ้อ! ฉันลืมแนะนำไป ‘พี่เจส’ หรือว่า ‘เจสสิก้า เบรต’ คือผู้จัดการที่ร้านนี้ ฉันรู้จักเธอเพราะว่าเมื่อวานที่มายื่นใบสมัครเธอเป็นคนที่รับฉันไว้นั่นเอง พี่เจสเป็นหญิงรูปร่างท้วมแต่ก็ไม่ได้อ้วนจนตุ๊ต๊ะนะ อายุอานามไม่มากนัก แต่อย่าตบฉันนะคะ...หน้าตาพี่แกไม่ได้เอื้ออำนวยเท่าไหร่น่ะ

     

            “ไม่เป็นไรจ้า เดี๋ยวเนลรับผิดชอบตรงส่วนรับออเดอร์กับเสิร์ฟนะเธอบอกกับฉันพลางเขียนอะไรยุกยิกในมือ แล้วจึงนำมากลัดกับเสื้อฉัน ฉันก้มลงไปมองที่เสื้อของตัวเอง อ้อ! มันคือบัตรฝึกงานน่ะ  “พี่เตรียมชุดฟอร์มแล้วนะอยู่ที่ล็อคเกอร์หลังร้าน เธอจำเบอร์ล็อคเกอร์ตัวเองได้ใช่ไหมพี่เจสถามต่อ

     

            “จำได้ค่ะ ขอบคุณนะคะฉันไปล่ะเมื่อฉันเตรียมจะก้าวเข้าไปในร้านพี่เจสก็เรียกฉันไว้เสียก่อน

     

            “เอ่อ...น้องเนลพี่ถามอะไรหน่อยสิ”  สีหน้าพี่เนลเริ่มมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาบนใบหน้าขาวซีดของเธอ ฉันสัมผัสได้ว่าเธอคงจะเขินไม่ใช่น้อยสำหรับเรื่องที่เธอจะพูดออกมา

     

            “ได้ค่ะพี่”

     

            “คือว่าพี่ชอบไนออลน่ะ อันที่จริงพี่เป็นไดเรกชันเนอร์ด้วยแหละ คือเนลสนิทกับเขาช่วยพี่หน่อยได้ไหม”  โอเคจ้า ฉันบอกแล้วไงว่าฉันเดาอะไรผิดซะที่ไหน  หมอนั่นมันน่าปลื้มตรงไหนก็แค่หน้าตาดีเท่านั้นแหละ นิสัยน่ะ...ยึ้ย!

     

            “แล้วจะให้เนลช่วยไงอ่ะคะไม่รู้ทำไมตัวเองเกิดมาเป็นแม่พระตอนนี้กันนะ หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้วนะเนโอมี่ U_U

     

            “ก็ยังไงดีอ่ะ..ฮู้วว”  พี่เจสกระอักกระอ่วนพูดไม่ออก หน้าเธอคงร้อนเธอเลยโบกมือพัดใบหน้าตัวเอง ฉันเลยได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ ไป “ประมาณว่าช่วยแนะนำพี่ก็ได้ พี่ไม่กล้าไปขอเบอร์เขาตรงๆ เดี๋ยวจะถูกคนเขม่นกันน่ะจ่ะ” โอยพี่คะ..ไม่ต้องกลัวใคร เขม่นหรอกค่ะ ขนาดนี้แล้ว..ฉันเขม่นพี่จนตาเหลือกแล้วค่ะ

     

            “อุ้ย..ความจริงแล้วเนลไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้นหรอกค่ะ กลับห้องนี่แถบนับคำคุยกันได้เลยนะคะฉันชอบนะเวลาที่เห็นคนที่แอบชอบสมหวังในรักอ่ะ แต่จะมาบังคับกันเป็นแม่สื่อนี่...ข้ามฉันไปเถอะ

     

            “อุ๊ตะ! เนลอยู่ห้องเดียวกับเขาด้วยเหรอจ๊ะ แหม่! ทางสะดวกเลย กลับไปที่ห้องก็ช่วยพูดถึงพี่ให้เขาฟังบ่อยๆ หน่อยนะจ๊ะ เขาจะได้ฟังชื่อพี่แล้วติดหูที่รู้ๆ คือหน้าของพี่จะมาติดที่กำปั้นงามๆ ของหนูแล้วล่ะค่ะ แล้วไอ้ที่ฉันพูดไปนี่ไม่มีความหมายเลยใช่ป่ะ -_-

     

            “จะดีเหรอคะ”

     

            “ดีมากเลยจ้า พี่ไม่กวนเธอแล้วอย่าลืมนะจ๊ะ พอพี่เขาพูดจบพี่เขาก็ลั๊นลาเดินออกไปเลยจ้า ปล่อยให้ฉันอยู่กับคำขอร้อง (แกมบังคับ) ของพี่เจส

     

            เห้อ...คนหนอคน

     

            ฉันส่ายหน้าแล้วเดินเข้าไปที่ล็อคเกอร์หลังร้านเปิดล็อคเกอร์ตามเบอร์พนักงานของฉัน หลังร้านเป็นแค่โซนเล็กๆ ไม่กว้างมากนัก มีที่สำหรับตู้ล็อคเกอร์ แต่ก็มีห้องเล็กๆ ที่ให้พนักงานไว้เปลื่ยนเสื้อผ้า ชุดที่ฉันได้มันเป็นชุดเสื้อคอปกสีชมพูอ่อนมีรูปสัญลักษณ์ร้านเล็กๆ อยู่ที่หน้าอกด้านขวา กับกระโปงสั้นสีขาวและยังมีผ้ากันเปื้อนสีแดงแถมมาด้วย ฉันว่าชุดมันมุ้งมิ้งเกินกว่าจะเป็นชุดพนักงานนะ ฉันจึงรีบเปลื่ยนเสื้อแล้วเดินออกมา

     

            ฮึ้ย! ร้านเรามีม็อบหรือนี่…ทำไมสาวๆ (ในชุดยูนิฟอร์มเดียวกับฉัน) ถึงไปลุมอยู่ที่กลางร้านกันล่ะ ไม่การล่ะ! ฉันจึงแทรกตัวไปดู และอืม..ให้ท่านผู้อ่านเดานะคะว่าใครมา ติ๊กต่อก...ติ๊กต่อก ถูกต้องค่ะ! คุณได้เข้ารอบต่อไป

     

            มันจะเป็นใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่เจ้าของนัยต์ตาสีฟ้าครามแสนสะดุดตานั่น เขายังไม่ได้เปลื่ยนเสื้อเป็นยูนิฟอร์มของร้าน ยังอยู่ในชุดไปรเวตสบายๆ อยู่เลย เอ๊ะ! แสดงว่าเขาก็มาหลังฉันน่ะสิ เขาไปไหนมาก่อนนะ แต่เขาก็ออกจากห้องก่อนฉันนี่ แปลกจังเลยอ่ะ ‘__’

     

           “สาวๆ คะ พี่รู้ว่าพวกเธอรู้จักเขาและคงชอบเขา แต่ว่ากรุณาอยู่ในความสงบด้วยนะคะ ทั้งเด็กฝึกงานของโครงการและพนักงานพาร์ตไทม์ประจำนะคะพี่เจสเดินเข้ามาห้ามปรามไว้ก่อนที่จะเกิดจราจลได้ร้าน แต่ยังโอเคนะที่เธอไม่กรี๊ดกร๊าดจนเสียมาดผู้จัดการ...

     

            มั้ง...

     

            สวัสดีค่ะน้องไนออลพี่ชื่อเจสสิก้านะคะ เรียกเจสอย่างเดียวก็ได้ ทำงานเป็นผู้จัดการที่นี่สักพักแล้วน้องงน่าจะรู้ พี่ยังโสดนะคะน้องไม่ต้องห่วง” พี่เจสพูดรัวรวดเดียวจบโดยไม่พักหายใจ เห็นทีว่าฉันไม่จำเป็นต้องช่วยพี่เขาแล้วล่ะพี่เธอเล่นเสนอตัวเต็มที่เลยจ้า

     

            “ครับ Jจะว่าฝ่ายหญิงอย่างเดียวก็ใช่ที่ไหน อีฝ่ายชายเองก็ยิ้มหวานให้ผู้จัดการร้านซะเธอแทบจะละลายลงบนพื้นอยู่แล้ว ฝากตัวด้วยนะครับพี่เจส”  เจ้าของร่างสูงพูดต่อตอนนี้หน้าของพี่เจสแดงยิ่งกว่าตอนที่มาขอให้ฉันช่วยอีกนะ

     

            เมื่อพี่เจสเดินออกไป (นางคงจะระเบิดเลยรีบออกไป) ฉันเลยได้แต่พูดพึมพำเบาๆ ล้อเลียนเขาที่บอกฝากตัวกับพี่เจส แล้วเบ้ปากกลอกลูกตาไปมา ฉันคงจะพูดดังไปหน่อยมั้ง เพราะไนออลหันมาทางฉันแล้วแยกเขี้ยวใส่

     

            อะไร -_-!”  เขาหันหน้ามาทางฉันแล้วทำหน้าเนือยใส่

     

            “เปล๊า..ไปละ” ฉันพูดตัดบทแล้วเดินสวนเขาไปจัดหน้าร้านแทน

     

            สักพักไนออลเดินออกในชุดยูนิฟอร์มของทางร้านแต่ของผู้ชายเป็นเสื้อคอปกสีขาวกับกางเกงสีกากีนะ แล้วมีผ้ากันเปื้อนสีแดงเหมือนของฉัน เออ!.....ยอมรับว่าหล่อ เมื่อเขาเดินออกมาสังเกตได้ว่าพนักงานในร้านนี่ดี๊ด๊ากันใหญ่รวมทั้ง...

     

            “น้องหล่อมากออร่ามากเลย อย่าลืมนะคะพี่ยังโสด พี่เจสเดินเข้ามาหาไนออลแล้วยิ้มร่า #จ้า เสนอตัวชนิดอันลิมิตเวอร์ชันอัลติเม็ทเลยเนอะ

     

            วันนี้คนทั้งร้านทำงานนะ..แต่คาดว่าลืมหู ลืมสมองไว้ที่บ้าน ฉันถามอะไรไม่มีใครตอบฉันเอาแต่จ้องผู้ชายที่ชื่อว่า ‘ไนออล ฮอแรน’ ที่ทำหน้าที่คิดเงินที่แคชเชียร์อยู่ และอีกอย่างที่เป็นข้อดีคือวันนี้ลูกค้าแน่นร้านจนต้องขายเป็นรอบๆ ยังแน่นชนิดที่ว่าบางคนยอมยืนกินเพื่อจะได้มองไนออล ตั้งแต่เช้ามามีคนชนิดที่ว่าซื้อไอศกรีมหลายๆ ถ้วยเผื่อที่จะได้เช็คบิลนานๆ ด้วยก็มีนะ

     

            21.32 PM

     

            แม้จะเป็นเวลาที่ทุกคนควรจะกลับบ้านแล้วแต่บรรยากาศในร้านยังคงคึกคักเหมือนเดิม สามทุ่มครึ่งคือเวลาที่ห้างปิด กว่าจะได้ปิดร้านนี่ท่าทางจะนาน เพราะพี่เจสยังจัดการเชิญลูกค้าออกจากร้านไปไม่หมดเลย บางคนเช็คบิลแล้วก็ยังมาเป็นปลิงเกาะตรงเค้าท์เตอร์อยู่ จนสักพักบรรดาลูกค้าจึงออกไปหมดเหลือแต่เพียงพนักงานที่ช่วยกันเก็บกวาดเศษขยะ

     

            “น้องๆ คะวันนี้ลูกค้าที่ร้านเราเยอะมากเลยและขายดีมากๆ ด้วย ขอบคุณไนออลมากๆ นะคะที่ช่วยพี่ น่ารักจริงๆ เลย นี่ขนาดเป็นคนฝึกงานนะคะเนี่ยร้านเรายังรุ่งได้ขนาดนี้”  จากนั้นพี่เจสก็ได้แต่สาธยายคุณงามความดีของเขาไป ทุกคนในร้านที่เป็นผู้หญิงก็หัวเราะคิกคักกันใหญ่ แต่..............เว้นฉันคนนึงเถอะ

     

            กว่าจะได้ออกมาจากห้างก็สี่ทุ่มแล้ว ฉันจัดการเปลื่ยนชุดกลับมาเป็นชุดเดิมของฉัน และเดินออกมาจากตัวห้าง แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าฉันเดินออกมาพร้อมกับคนอื่นๆ นะฉันเดินออกมาคนแรกด้วยซ้ำเพราะคนอื่นยังคงอยู่ในร้านต่อ ที่ลอนดอนนี่ยิ่งดึกยิ่งหนาวเนอะ

     

            ฉันมายืนรอที่ริมถนนและกวักแท็กซี่แต่ระหว่างนั้นก็มีผู้ชายร่างสูงโปร่งคนหนึ่งที่กำลังคุยโทรศัพท์เดินเข้ามาฝั่งเดียวกับฉัน ดูแลว้เขาไม่น่าใช่โจรหรือผู้ร้ายนะ ออกจะหล่อด้วยซ้ำหน้านี่นายแบบชั้นนำเลยก็ว่าได้ ใบหน้าคมคายราวกับถูกพระเจ้าสลักมันมากับมือ เพราะเขาอยู่ไม่ไกลฉันนัก ฉันจึงแอบเงี่ยหูฟังที่เขาพูดได้

     

            “…ฉันหึงนะเหอๆ คงจะคุยกับแฟนอยู่ล่ะสิท่า หุๆ ขอเจือกสักนิดละกันโน้ะ ว่าดังแล้วฉันจึงแกล้งเดินเข้าไปใกล้เขาอีกนิด  ทำไมนายทำแบบนี้ทั้งๆ ที่ยังมีฉันอยู่ทั้งคน นายอยู่ท่ามกลางสาวๆ เหล่านั้นแล้วยิ้ม ดราม่าเดย์แล้วครับท่าน

     

            “รู้ว่าแฟนคลับแต่นายควรมีขอบเขตบ้างนะทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ ฟร้ะ -.- เขาเรียกแฟนว่า ‘นาย’ ฉันฟังไม่ผิดหรอก เอ๊ะ! แสดงว่าไอ้หน้าหล่อนี่มีแฟนเป็นผู้ชาย!!!

    .

    .

     

            ฉันไม่เข้าใจ! ฉันก็งี่เง่าแบบนี้แหละ”  เขาพูดกระชากเสียงและขอบตาของร่างสูงข้างๆ ฉันเริ่มมีน้ำรื้นออกมา ฉันไม่สามารถจ้องเขาได้แต่ก็เหลือบตาอยู่ไปเป็นพักๆ

    .

    .

     

            “ฉันก็มีหัวใจนะ”

    .

    .

     

            ไนล์”

     

            อะ..อะไรนะ เมื่อกี้เขาพูดว่า ‘ไนล์’ เหรอ ไนล์ไหนวะ -0- วันนี้ฉันแคะขี้หูมาเรียบร้อยแล้วนะ ฉันฟังถูกแน่นอนร้อยเปอร์! แล้วร่างสูงก็เดินออกไปจนลับตาฉัน ดะ..ดะ..เดี๊ยววว T0T มาพูดให้เคลียร์ก่อนไนล์คนไหนนนนนน….....

     

            ระหว่างทางที่นั่งอยู่บนรถบัสคิ้วของฉันขมวดเป็นปมตลอดเวลา ในใจครุ่นคิดแต่เรื่องเมื่อกี้ที่มีผู้ชายหน้าหล่อโทรหาคู่ขาของเขาที่มีชื่อว่า ‘ไนล์’ เหมือนกัน มันจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่านะ เหมือนเดิมรสบัสจอดเทียบที่ซอยของคอนโด ฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...

     

            เมื่อขึ้นห้องมาฉันเก็บข้าวของสัมภาระของฉันเข้าที่จนหมด ต่อมอยากรู้อยากเห็นของฉันมันก็ทำงานอีกรอบ ยอมรับว่านิสัยเสียแต่ก็...เอาเถอะ ฉันเริ่มเปิดตู้เสื้อผ้าของเขาเป็นอย่างแรกในนั้นมีทั้งชุดธรรมดากับเสื้อเชิ้ตออกงานต่างๆ ไม่มีอะไรน่าแปลกนี่...ปกติทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังไม่ล้มเลิกความพยายามต่อไปค้นมันทุกซอกทุกมุม และในขณะที่ฉันกำลังจะค้นโต๊ะทำงานของเขาแต่ทว่า...

     

            “รู้หรือเปล่าว่าค้นของคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติน่ะมันไม่ดี” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาจากด้านหลังของฉัน ฮะ..เฮ้ยย! เขาเข้ามาตอนไหนอ่ะ TT อีกแล้วหรอเนี่ย เอาแล้วไงล่ะ!

     

            “เอ่อ..คะ..คือว่า” ฉันอึกอักหาคำแก้ตัวไม่ถูก

     

            “เธอสงสัยอะไรถึงต้องค้นห้องฉัน

     

            “ก็...”

     

            “หืม”

     

            เอ่อ...ขอยืมโทรศัพท์นายเล่น Flappy bird หน่อยสิ เครื่องฉันมันค้างทำแต้มไม่ได้อ่ะ TT;” สาบานว่านี่คือคำแก้ตัวที่อุบาทว์หลุดโลกสุดๆ เลยค่ะ แต่มันสามารถช่วยเพื่อนๆ ในยามคับขันได้นะคะ ... จริงๆ นะ

     

            “อย่าเปลื่ยนเรื่อง บอกความจริงมาคงช่วยไม่ได้แล้วล่ะ T___T))

     

            “อ่ะหือ เอาตรงๆ เลยหรอฉันเกาหัวแก้เก้อ

     

            “...เขาไม่ตอบอะไรมาแต่คงจะหมายความว่าใช่สินะ

     

            “โอเคร๊…นะ..นายเป็นผู้ชายแท้หรือเปล่าเสียงของฉันสั่นระริกนิดหน่อยแต่ก็พอมีความกล้าที่ถามออกไป คนตัวสูงตรงหน้าขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะกลั้วขำออกมา

     

            “ฮะๆ …. อยากรู้จริงๆ หรอ

     

            ไนออลไม่รอคำตอบของฉันแต่เขากลับเดินเข้ามาใกล้ฉันในระยะประชิดและเอาหน้าเข้ามาใกล้ เขานี่หน้าใสเนอะ..เห็นใกล้แล้วละ..เฮ้! นี่ไม่ใช่เวลามานั่งบรรยายนะ ตอนนี้จมูกของเขาโดนจมูกฉันด้วยอ่ะฉันพยายามเถิบหนีแต่ก็ไม่พ้น เมื่อมีท่อนแขนใหญ่รั้งเอวของฉันให้เข้าไปใกล้เขาอีก จนทำให้ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ของเขา แว้กกกก T__T

     

            “นายทำบ้าอะไรปล่อยฉันสิโว้ยฉันพยายามดันตัวเขาออก

     

            “เธออยากรู้ไม่ใช่หรอว่าฉันเป็นชายแท้หรือเปล่าเขาเหยียดยิ้มพลางช้อนตัวฉันขึ้น

     

            “แว้กกกก พอแล้ววไม่เอาแล้วฉันกรีดร้องและข่วนแขนเขาไปด้วยเมื่อฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยู่ติดกับพื้นแล้ว

     

            เขาอุ้มฉันไปหยุดที่เตียงแล้ว........................................

     

     

            #ก็ไม่รู้สินะ

     

     


     

     

     

     

    เอโล่! หายหน้าหายตาไปซะนานเลยเนอะ ^0^+ กลับมาอีกทีก็เดือนมีนาคมแล้วหรอเนี่ย เวลาผ่านไปไวจุงเบยแต่ถึงยังไงเดียก็สัญญาว่าจะมาอัพนิยายให้บ่อยๆ น้า เพราะนี้ก็ปิดเทอมแล้ว งุงิ > < สำหรับเมื่อกี้อยากรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเนโอมี่ของเรา.... เฮฮฮฮฮฮ รอลุ้นกันเองนะ 555555555555555555555 แต่ถ้าอยากรู้ไวๆ ก็เม้นท์ให้กำลังใจเดียด้วยน้า U___U ดีใจที่มีคนอ่านเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีเม้นท์นี่แป่วเบยยยย TT; ขอบคุณสำหรับคนที่ติดตามเรื่องนี้มากๆ บางเม้นท์แล้วกระชุ่มกระชวยมาก 5555555  สัญญาว่าจะปั่นให้จบไวๆ เนอะ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ 

     

     อีดิท

    ครั้งที่ 1 (7/มี.ค./57) ลงครั้งเเรก
    ครั้งที่ 2 (15/มี.ค./57)
    © Tenpoints!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×