คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
[Fic 1D] So Hard! ยากแค่ไหนยังไงก็จะรักเธอ
เสียงรถยนต์วิ่งโลดแล่นบนถนนสายเล็กๆผ่านไปมาอย่างไม่ขาดสาย ลมพัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน อากาศที่นี่ถือว่าดีมากในฤดูร้อนเพราะมันไม่ถึงกับร้อนมากเท่าไหร่ ยังมีลมเย็นๆพัดหวนตลอดๆ ก็ที่นี่คือ ‘ลอนดอน’ สิน่ะ.. ผู้คนเดินควักไขว่ไปมาตามถนนสายใหญ่ๆ ฉันคิดว่าฉันเลือกถูกแล้วล่ะที่มาศึกษาต่อที่ประเทศนี้
อา..เห็นฉันพล่ามๆอย่างงี้ทุกๆคนก็คงยังไม่รู้จักฉันหรอกค่ะ ขอแนะนำตัวก่อนดีกว่า ฉันมีชื่อว่า ‘น้ำผึ้ง’ น่ะค่ะสาวชาวไทยที่มาเรียนต่อที่ประเทษอังกฤษนี่เอง ^0^ ต้องขอขอบคุณคุณป๋าของฉันที่อุส่าห์ส่งฉันมาเรียนต่อที่นี่ >0< มันทำให้ฉันมีประสบการณ์เยอะขึ้นมากๆเลยล่ะค่ะ ถ้าถามถึงอายุก็ยังไม่แก่มากมั้งหรอกค่ะ (- -‘) แค่ 19 เอง ฮ่าๆ เห็นฉันบ้าๆ บ๊องๆเห็นอย่างนี้ฉันก็ตั้งใจเรียนเหมือนกันน่ะค่ะ เฮ้!อย่าทำหน้าไม่เชื่อแบบนั้นสิ โอเคค่ะ เข้าเรื่องจริงๆจังๆก็ได้ค่ะ U__U ก็คือที่ฉันเลือกมาที่อังกฤษนี่ฉันมาก็เพราะครอบครัวอยากให้มาด้วยแหละค่ะ ตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยอยากจะมาหรอกน่ะค่ะ แต่พอมาอยู่มันก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นักหรอกค่ะ ออกจะดีด้วยซ้ำ
ตอนแรกที่ฉันมาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่ค่อยมีเพื่อนหรอกน่ะค่ะเพราะแค่มาเตรียมตัวเฉยๆ แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วมันก็ทำให้ฉันมีเพื่อนเยอะมากขึ้นและได้เปิดโลก(ที่แสนจะแคบ)ของฉันให้กว้างขึ้นด้วยล่ะค่ะ มาที่นี่ฉันก็มีเพื่อนสนิทอยู่ 2-3 คนค่ะเป็นคนเอเชียเหมือนกับฉันคนหนึ่งเป็นผู้หญิงคนไทยเหมือนกันค่ะเธอชื่อว่า ‘แพร’ แต่น่าเสียดายที่อีก 2 อาทิตย์เธอต้องกลับเมืองไทยแล้ว T T’
เพื่อนๆส่วนใหญ่บอกว่าฉันได้รับความสนใจจากพวกนักศึกษาผู้ชายเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นเดียวกันต่างพากันชื่นชมฉัน อันที่จริงฉันก็ไม่เข้าใจหรอกน่ะค่ะว่าเขาจะชอบฉันอะไรนักหนา หน้าตาฉันก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร หรือว่า!!พวกเขาชอบของแปลกกันน่ะ -0-// เอาเถอะค่ะ แต่ช่างมันเถอะฉันไม่ค่อยจะติดใจอะไรนักหนา และฉันคิดว่าทุกคนคงจะกริ้ดแน่ๆถ้าเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง..คือว่า..แฮรี่ สไตล์ กับ เซน มาลิค แห่งวง one direction เรียนที่เดียวกับฉัน! และที่สำคัญกว่านั้นแฮรี่เขาเรียนห้องเดียวกับฉัน และยังเป็นเพื่อนสนิทของฉันอีกด้วย! ส่วนเซนเขาเป็นรุ่นพวกเราปีนึงแต่ฉันก็เห็นเขาอยู่บ่อยๆแถมยังเคยคุยกันด้วย เป็นใครก็ต้อง กริ้ดบ้านแตกแน่ๆหรือไม่ก็ไม่มีสติเรียนหนังสือ ประมาณนั้นหรือใกล้เคียง แต่ฉันหรอ..ก็เฉยๆน่ะ พอมาเรียนกับเขาฉันก็รู้สึกกับเขาเหมือนเพื่อนธรรมดาน่ะ ฉันยอมรับว่าบางครั้งฉันก็หวั่นไหวกับแฮรี่เหมือนกันน่ะ -///- แต่ฉันก็ ‘พยายาม’ ไม่คิดอะไรกับเขาน่ะ.. ส่วนเซนเขาเป็นพี่ฉันปีนึงแต่ฉันก็เคารพเขาเป็นพี่ชาย(ที่โครตหล่อ)เหมือนกัน ถึงเขาจะบอกว่าไม่ต้องเรียกว่าพี่ก็เถอะ...แต่เฮ้ย! ลืมสนิท!วันนี้ฉันมีนัดกับแฮรี่ ตายแล้วว!เลทไปเกือบชั่วโมง พอดีเขาจะเอารายงานกลุ่มที่เหลือมาให้ฉันทำล่ะ แล้วนัดว่าจะเลี้ยงข้าวกลางวัน แหม!ของฟรีน้ำผึ้งคนนี้ไม่เคยพลาดจ้า
ฉันจึงรีบๆแต่งตัวสบายๆแล้วออกไปหาที่หน้าโรงอาหารมหาวิทยาลัยวันนี้เป็นวันเสาร์คนจึงน้อยมากๆถนนก็ไม่ค่อยจะมีรถ ทำให้การเดินทางวันนี้ประหยัดเวลายิ่งขึ้น
พอมาถึงที่หน้าโรงอาหารฉันก็พบร่างสูงนัยต์ตาสีเขียวมรกต ในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆแต่ทำให้เขาดูหล่อเกินจะบรรยายนั่งรออยู่ที่โต้ะทานอาหารตัวหนึ่งไม่ไกลจากหน้าประตูนัก เขากำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ของเขาอยู่จนไม่ได้สังเกตว่าฉันเดินมาทางนี้แล้ว ฉันจึงเดินอ้อมไปข้างหลังเพื่อจะแกล้งเขา (คิกๆแผนการชั่วร้าย) แล้วฉันก็ย่องเข้าไป..จน..
“แบร่!!!!!!!!!!!!!” ฉันตะโกนออกมาและดูเหมือนจะได้ผลล่ะ แฮรี่สะดุ้งขึ้นมาเลยอ่ะ กร้ากๆ
“เฮ้ย!” เสียงทุ้มต่ำอุทานออกมาเพราะความตกใจอย่างมาก แต่เพราะความตกใจของเขามันสร้างความฮาให้ฉันได้มากจริงๆเลย
“ฮ่าๆๆๆๆ โอ๋ๆพ่อแฮรี่ไม่เป็นไรน่ะจ่ะ ขวัญเอ๋ยขวัญมา ฮ่าๆๆ” ฉันปล่อยกร๊ากออกมาโดยกั้นไม่อยู่ เพราะสีหน้าของแฮรี่ตอนที่ร้อง ‘เฮ้ย’ มันเป็นแบบนี้ o__o ขำจริงๆเลย แต่ต่อให้เขาทำถ้าตลกๆหรือฮาๆแค่ไหนเขาก็หล่ออยู่ดีแหละมั้ง
“กล้าแกล้งฉันหรอยัยตัวแสบ! มานี่เลย!!” พอเขาพูดจบเขาก็เตรียมที่จะเข้ามาจักจี้ฉัน แต่พอฉันรู้ตัวก่อนจึงรีบเดินถอยห่างและ “ย่าห์!เธอตายแน่ยัยตัวแสบ” แล้วเขาก็วิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันจึงรีบวิ่งหนีเขาให้ทั่วโรงอาหาร โชคดีที่วันนี้ไม่ค่อยมีคนหรือก็แทบจะไม่มีเลย ฉันจึงวิ่งกริ้ดกร้าดกับเขาได้อย่างสบายๆ
“กริ้ดๆ ไอ้หัวหยองอย่ามายุ่งกับฉันน่ะ >0<” ฉันพูดในขณะที่กำลังวิ่งอยู่แต่ก็อย่างว่าเนอะ คนเอเชียก็สูงไม่เท่าคนยุโรปหรอกพูดง่ายคือ..ฉันเตี้ยค่ะ และก็เป็นไปตามอย่างที่ทุกคนคิดขายาวๆของคนตัวสูงก็วิ่งไล่ฉันทัน ToT ให้ตายสิ! ฉันต้องโดนแกล้งหนักกว่าเดิมแน่ๆ
“อ๊ะ!จับได้แล้ว นี่แหนะ!แกล้งฉันนัก” พอเขาเข้ามาถึงตัวฉันเขาก็จัดการรวบตัวฉันไว้ในอ้อมแขนเขาพูดง่ายๆก็คือ ‘กอดทางอ้อม’ นี่แหละค่ะแต่เขากับฉันก็เล่นแบบนี้กันบ่อยมาจนชินแล้วล่ะค่ะ พอพูดจบเขาก็จัดการจักจี้ฉัน ฮือออ T T จุดอ่อนของฉันมันคือบ้าจี้ค่ะแล้วไอ้หยองนี่มันก็รู้ตั้งแต่ตอนที่เราสนิทกันตั้งแต่ตอนแรกๆด้วย เขาจึงแกล้งฉันตลอดมาเลย
“ปล่อยน้า อ้ากกก! ฮ่าๆๆๆๆ” ฉันหลุดหัวเราะออกมาในขณะที่เขาจักจี้ฉันที่ท้อง ฉันหลับตาปี๋และหัวเราะอย่างไม่หยุดหย่อนๆ “พอแล้วว ฮ่าๆไม่เล่นแล้ว ฮ่าๆ” ฉันคงเข้าขั้นเซียนบ้าจี้แล้วล่ะมั้ง พอแฮรี่ได้ยินดังนั้นเขาจึงหยุดไป ดีแล้วล่ะ ถ้าไม่หยุดฉันคงเป็นลมซะก่อน ฮ่าๆ
“ยัยตัวแสบเหนื่อยแล้วหรอ ฮ่าๆ เธอนี่จริงๆเลยน่ะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะเยาะเย้ยฉัน
“หึ่ยย!เอาไว้คราวหน้าฉันจะแกล้งให้นายช้อคเลย คอยดู” ฉันพูดพร้อมทำหน้าเซ็งๆ เพราะความพ่ายแพ้ต่อเขานั่นเอง
“จะจ้องเลยล่ะ ฮ่าๆ ไปกินข้าวกันฉันหิวแล้ว” เขาพูดรับมุขฉัน แล้วดันหลังฉันให้เดินนำเขาไปข้างหน้า
“แล้วรายงานอ่ะ?” ฉันถามแล้วหันมามองเขาที่เดินข้างหลังจับไหล่ฉันอยู่
“ส่งไปแล้วล่ะ พอดีฉันว่างๆน่ะแล้วงานเธอมันก็ไม่ยากด้วยเลยทำให้” เขาพูดอย่างสบายๆ เอ๊ะ! นี่เขากินยาผิดกระป๋องรึเปล่าเนี่ย ปกติเขาขี้เกียจจะตายแล้วเรื่องวง one direction อีกล่ะ แปลก..
“นายอ่ะ! ทีหลังไม่ต้องทำให้ก็ได้นั่นมันหน้าที่ฉัน มันก็เท่ากับว่าฉันไม่มีส่วนร่วมในงานกลุ่มครั้งนี้เลยน่ะ” ฉันบอกเขาไปแต่ดูเหมือนว่าเขาก็ยังไม่สนเช่นเดิม
“ช่างมันเถอะน่า..ฉันเห็นว่าเธอต้องจัดการวีซ่าด้วยหนิ ก็เลยช่วย แค่นี้ไม่เห็นเป็นไรเลยคิดมากน่า!” เขาบอกมาอันที่จริงก็เป็นความจริงแหละค่ะ ฉันต้องจัดการวีซ่าทำเรื่องการอยู่ต่อก็ยุ่งๆนิดหน่อย แต่ก็เกรงใจนี่นา ทำยังไงได้
“แต่ฉันเกรงใจนายน่ะ” ฉันบอกเขาไปอีกครั้ง “อย่างน้อยก็ให้ฉันเลี้ยงข้าวนายก็ได้” ดูเหมือนข้อเสนอนี้จะทำให้แฮรี่ยิ้มออกมา
“งั้นก็ตามใจเธอ แต่พอกินข้าวเสร็จเธอไปที่ที่นึงกับฉันหน่อยน่ะน้ำผึ้ง” แฮรี่ตอบกลับมา ว่าแต่ที่ที่นึง นี่มันที่ไหนกันน่ะ แต่ฉันฮาตอนที่เขาพูดชื่อไทยของฉันน่ะเหมือนจะพูดไม่ชัดเท่าไหร่แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ดีใจน่ะที่เขาพยายามพูด
“ก็ได้ ที่ไหนอ่ะ” ฉันถามเขาไปในขณะที่กำลังเดินไปกินข้าวที่ร้านอาหารนอกโรงเรียน เพราะวันนี้ไม่มีอาหารขายในโรงอาหาร
“เดี๋ยวก็รู้เองแหละน่า ฉันไม่พาเธอไปขายหรอก” เขาบอกเพื่อให้ฉันมั่นใจว่าเขาคงไม่พาฉันไปทำมิดีมิร้าย เหมือนข่าวที่ชอบบอกว่าเขาชอบไปอย่างนั้นบ่อยๆ ถึงเขาจะเป็นคนเจ้าชู้แต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีมากๆสำหรับฉันน่ะค่ะ ถึงเขาจะมีสาวๆตามตอแยไม่เลิกก็เถอะ -0-//
วันนี้ฉันกับเขาเลือกที่จะกินร้านอาหารไทยล่ะ อ้า..คิดถึงบ้านจังเลย..ฉันเลือกที่จะกินข้าวต้มกุ้งของโปรดฉันและแฮรี่ก็กินตาม ร้านอาหารนี้อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานักฉันจึงได้มาลิ้มรสบ่อยๆอีกทั้งป้าเจ้าของร้านก็ยังเป็นคนไทยอีกด้วย ฉันจึงได้ส่วนลดมาทุกๆมื้อ คุณป้าก็คงจะจำเราสองคนได้แล้วล่ะเพราะฉันกับแฮรี่มากินที่นี่บ่อยมากๆ แบบว่าพอติวหนังสือเสร็จก็ชอบมากินกันสองคน ตอนแรกๆป้าเขาเชียร์เราสองคนให้เป็นแฟนกัน แต่ฉันปฎิเสธไปมั่วๆว่า แฮรี่เขาชอบคนที่แก่กว่า อันที่จริงฉันอยากเป็นเพื่อนกับเขามากกว่าน่ะ
หลังจากกินข้าวเสร็จฉันจึงเดินไปขึ้นรถของแฮรี่ ซึ่งเขาพึ่งได้รถมาเมื่อไม่นานมานี้ เพราะเขาต้องใช้ขับรถไปบริษัทบ่อยๆ เอ๊ะ!แต่นี่ฉันกับเขาก็เป็นเพื่อนธรรมดาน่ะ ถึงใครๆก็จะมองว่าฉันโชคดีมากๆที่ได้เป็นเพื่อนสนิทของแฮรี่ สไตล์แห่งวง one direction ฉันว่ามันก็ไม่ต่างอะไรจากมีเพื่อนดีๆคนนึงหรอกน่ะ
เขาขับรถไปเรื่อยๆระหว่างทางเราก็คุยนู่นคุยนี่กันบ้าง เราใช้เวลาเดินทางมาไม่ถึง 20 นาทีเอง และฉันก็พบว่านี่เขาพาฉันมาสวนสาธารณะที่เล็กๆ แต่ที่ช้อคกว่านั้นคือ..ที่นี่เป็นที่ที่จะพาคนที่ชอบมาสารภาพรัก แต่วันนี้มันแลดูเงียบๆ ฉันรู้สึกแปลกๆตั้งแต่ที่เขาพาฉันมาแล้วล่ะ บ้าน่า! เขาคงไม่ได้ชอบฉันหรอก เขาชอบคนแก่กว่าหนิ ไม่ได้ชอบคนอายุเท่ากันเห็นข่าวบอกน่ะ แล้วอีกอย่างก็มีผู้หญิงสวยๆพร้อมจะถวายกายและใจให้เขาตรึม
“เอ่อ..แฮรี่ฉันว่าเรากลับกันเถอะ เดี๋ยวถ้าเจอแฟนคลับนาย ฉันจะโดนรุมเอาน่ะย่ะ!” ฉันพูดแกมตลกๆเพื่อทำลายความประหม่านี้
“ไม่หรอก คือฉัน..มีอะไรอยากจะบอกเธอ” น้ำเสียงเขาเริ้มจริงจังขึ้นมาทันที อัยหยา! ‘มีอะไรจะบอก’ นี่มันคืออะไรเนี่ย
“มะ..มีอะไรไม่เห็นต้องจริงจังเลยน่ะ ฮ่ะๆ” ฉันพูดแต่ดูเหมือนเสียงจะสั่นกลัวเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดจะเกิดขึ้น ฉันเลยได้หัวเราะพลางๆไป
“จริงจังสิ..ถ้าฉันพูดไปกลัวเธอจะไม่คุยกับฉัน” เสียงของเขาก็ดูจริงจังขึ้นมากกว่าเดิม
“…..” ฉันเงียบไปและรอฟังเขาพูดให้จบ
“คือ...ฉันรักเธอ” พระเจ้าช่วย!กล้วยเบรคแตก -0-// นี่เขาสารภาพรักฉันเรอะ บอกฉันทีว่ามันไม่จริง แฮรี่ สไตล์เนี่ยน่ะหลงรักฉัน “ฉันไม่รู้ว่าเธอจะคิดยังไง แต่ฉันก็อยากให้เธอรู้ความรู้สึกจริงๆของฉันไว้ ขอโทษน่ะที่ไม่ซื่อสัตย์กับความเป็นเพื่อนของเธอ” ชิท!ฉันสะบดในใจ ฉันอยากจะกลับเมืองไทยให้มันรู้แล้วรู้รอดเลย
“เอ่อ..” ฉันไม่รู้จะตอบอะไรไป จะให้รับรักหรอบ้าไปแล้ว! ฉันไม่ได้รักเขาหนิ
“ฉันก็ไม่รู้น่ะว่าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่..ฉันคบกับผู้หญิงมากมายแต่ก็ไม่มีใครมาแทนที่ความรู้สึกเวลาอยู่กับเธอได้..ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้งหนึ่ง นี่เขาขอฉันเป็นแฟนหรอเนี่ย O__O ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม มันคืออะร้ายยยย
“…” เช่นเคย..ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
“มันอาจจะยังเร็วไปสำหรับเธอ ฉันจะรอน่ะ..” เขาพูดออกมาแล้วยิ้มให้ฉัน ตอนนี้ฉันหน้าร้อนผ่าวๆยังไงก็ไม่รู้ จะว่าเขินก็ไม่ใช่น่ะ
“เอ่อ..แฮรี่พอดีฉันตากผ้าไว้ที่อพาร์ทเม้นท์น่ะ ไปก่อนน่ะบ๊ายบาย เจอกันวันจันทร์” ฉันชิงพูดก่อนเขา ชิงพูดแบบประโยคเดียวรวดเลย..แล้วก็เดินออกไปโดยไม่สนใจเขา แม้ว่าเขาจะตะโกนเรียกแค่ไหน ฉันรีบวิ่งออกมาจากที่นั่นด้วยความเร็วสุดขีด พอเดินออกมาก็นึกได้ว่าที่นี่ไม่มีจุดจอดแท็กซี่ จึงต้องเดินไปอีกหน่อย ฉันจึงรีบๆข้ามถนนแต่เพราะแถวนั้นไม่มีคนจึงเงียบๆ จู่ๆสมองของฉันมันก็เป็นอะไรไม่รูเอาเเต่คิดถึงแต่คำพูดของแฮรี่ตลอดทางตอนที่เดินมา..
ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม..
ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม..
ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม..
แต่ทว่า.....
“กริ้ดดด!!!!” ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อมีรถยนต์คันใหญ่พุ่งเข้ามาหาฉัน ขาฉันก็แข็งไปไหนไม่ได้ ได้แต่หลับตาและ...
ปัง!!! ... รถยนต์วิ่งเข้ามาชนฉันแต่ดูเหมือนจะไม่แรงมากแต่หัวฉันก็ไปกระแทกกับพื้นตรงนั้นอย่างแรง ทุกๆอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน แล้วหลังจากนั้นภาพในสมองของฉันเริ่มขาวโพลนเรื่อยๆและหายไป...
WRITER'S TALK : สวัสดีค่ะ!วันนี้ได้ฤกษ์มาอัพอินโทรของเรื่องนี้กันเเล้ว
เรื่องนี้บอกไว้นิดนึงมีฉากเลิฟซีนจ่ะ เห็นเรื่องหวานๆอย่างงี้
เเต่ข้างในก็ซ่อนความร้อนเเรง หื่น ลามก ไว้ เอ้ย!ไม่ใช่ค่ะ
ยังไงเรื่องนี้ก็ตั้งใจเเละทุ่มเทเขียนมากน่ะค่ะ
อยากให้เม้นท์หน่อยเเค่ไม่ถึง 5 นาทีเอง -3- อ่านเเล้วไม่เม้นท์..ใจร้าย!
เเค่ไม่ชอบนักอ่านเงาอ่ะ..เข้าใจด้วยล่ะกัน เขียนฟิคเรื่องนี้เพราะสนอง need ตัวเอง - -'
อยากเป็นนางเอกจุงเบยยย เเฮรี่หลงรักเลยน่ะ >3<
ถ้าคิดว่าอ่านเเล้วไม่เม้นท์ทีหลังอย่าเข้ามาดีกว่าค่ะ สมรย. มากเลย
รักรีดเดอร์ที่เม้นท์ จุ้บบบบบบบบ
ps. เรื่อง you are mine only! เธอเป็นของฉัน อัพ nc เเล้วน่ะค่ะไปขอกันได้เน้อ
ความคิดเห็น