คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2
บทที่ 2
มือนุ่มๆถูกยกขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า ก่อนจะรับถาดอาหารมาจากพ่อครัวแล้วรีบยกออกมาเสิร์ฟลูกค้า เมื่อสองวันก่อน เธอยังมานั่งทานอาหารที่ร้านนี้กับลูกค้าชาวเกาหลีอยู่แท้ๆ วันนี้เธอกลับกลายมาเป็นพนักงานเสิร์ฟของร้านอาหารชื่อดังร้านนี้ซะได้ แต่กว่าจะสามารถแย่งตำแหน่งนี้มาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นับว่าเป็นโชคดีของเธอที่สามารถพูดได้ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาจีน และเธอเก่งภาษาเกาหลีขั้นเทพ! ก็เลยสามารถช่วงชิงงานมาได้
“ทานให้อร่อยนะคะ”
หญิงสาวพูดประโยคเดิมซ้ำๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจไปให้ลูกค้าแล้วเดินกลับไปยกถาดอาหารไปส่งยังโต๊ะอื่นด้วยความคล่องแคล่ว ทว่านัยน์ตาแฝงความเหนื่อยล้าจากการเดินเสิร์ฟอาหารมาหลายชั่วโมง แต่ท่ามกลางลูกค้ามากมายเต็มร้านนั้น กลับมีสายตาคู่หนึ่งคอยมองอยู่ และบัดนี้คิ้วเข้มๆของเขาขมวดเข้าหากันจนยุ่งเหยิง เชน ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงไม่ทำตามที่เขาบอก และมาเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่นี่ทำไมดึกๆดื่นๆ..
หวังว่าจะไม่ได้เป็นเพราะเขา..เชนนึก ก่อนจะเม้มปากแดงๆของตัวเองแน่นเมื่อเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังทำผิดอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มถอดแว่นที่สวมอยู่ออกมาพิจารณา..แว่นอะไร ทำไมยัยนั่นถึงอยากได้คืนนัก แรกทีเดียวตอนที่ได้แว่นนี้มาจากเอวา เขานึกว่าเป็นแว่นสายตา แต่พอนำมาใส่จริงกลับไม่ใช่…สวยรึ..ก็ธรรมดา อยู่บนหน้ายัยนั่นแล้วยิ่งธรรมดาเข้าไปใหญ่
“คืนเขาไปเถอะค่ะพี่เชน”
เสียงหวานๆดังขึ้นกลบความคิด เชนมองคนตรงหน้าก่อนจะพยักหน้าแล้วส่ายหน้าไปมา
“ไม่ล่ะ ถ้าเขาอยากได้คืนก็ต้องไปคุยกับเอวา”
“..พี่กำลังแกล้งเขาอยู่ใช่ไหมคะ ตัวคุณเอวาไม่ได้เจอง่ายๆซะหน่อย”
มารีย์ค้อนให้เขา แต่เชนยังมีสีหน้านิ่งเช่นเดิม เป็นเรื่องจริงที่ว่าเอวาเป็นผู้หญิงโลกส่วนตัวสูง แต่ญาติผู้พี่ของเขาคนนี้ก็ดำเนินชีวิตตามปรกติไม่ได้หลบซ่อนตัวอะไร
“เอวาไม่ใช่คนถือตัว”
“แต่ก็ไม่ใช่คนที่ใครก็สามารถเข้าพบได้สักหน่อยนี่คะ”
“ยกเว้นว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่เอวาอยากพบ”
เชนมองผู้หญิงตรงหน้า เขาเห็นสายตาสงสัยของเธอ แต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ มันไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะต้องมาอธิบายเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจให้ใครฟัง
แต่แล้วสายตาของเขา กลับมองหาอดีตเจ้าของแว่นที่อยู่ในมือของเขาอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้!
ชาลีวางกระเป๋าสะพายหนังสีน้ำตาลไว้บนโต๊ะที่ถูกวางอยู่ข้างเตียง ก่อนจะล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลียโดยไม่มีแรงแม้กระทั่งอาบน้ำให้สบายตัวกว่านี้ ในหัวของเธอคิดวนไปมาว่าเธอจะมีแรงทำงานวันละกว่าสิบห้าชั่วโมงต่อวันไปได้อีกกี่วัน ยังไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ สติก็ดับวูบลง…นิทราที่คืบคลานเข้ามาทำให้หญิงสาวลืมคิดไปเสียสนิทถึงสาเหตุของความเงียบสงัดในบ้านชั้นเดียวนี้!
ตึง! ตึง! ตึง!
ในบ้านชั้นเดียวที่แสนสงบ ตอนนี้กลับถูกกลบด้วยเสียงวิ่งของหญิงสาวที่สวมแว่นกลมๆประดับอยู่บนใบหน้า ชาลียกมือขึ้นมาเขกหัวตัวเองสองทีที่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก และมันกำลังจะทำให้เธอไปทำงานสาย! ไม่เชิงว่ากำลังหรอก เธอสายไปแล้วสามสิบนาทีต่างหาก! เจ้านำตาล รถส่วนรวมของบ้านก็หายไป!!! แสดงว่าพี่สาวของเธอออกจากบ้านไปแล้วเรียบร้อยโรงเรียนชาม
“พี่ชามนะ พี่ชาม แค่นี้ก็ไม่รอกัน”
หญิงสาวพึมพำบ่นพี่สาวไปตลอดทาง เท้าก็รีบจ้ำอ้าวไปหน้าปากซอยให้เร็วที่สุดเพื่อเรียกแท็กซี่สักคัน ราวกับสวรรค์โปรดเมื่อมีแท็กซี่จอดรับผู้โดยสารอยู่ตรงหน้า ชาลีรีบโบกมือเรียก และกระโดดขึ้นไปทันทีที่รถมาจอดอยู่ข้างตัว แต่ก่อนที่เธอจะได้ปิดประตูรถ ก็มีมือหนึ่งมากระชากประตูไม่ให้ปิดลง
“ขอโทษนะครับ รถคันนี้ผมเรียกให้เจ้านายของผมน่ะครับ”
ชาลีนิ่งอึ้งไปกับคำพูดของคุณลุงผู้ชายที่สวมชุดคล้ายคนขับรถของใครสักคนตรงหน้า ก่อนที่เธอจะปรายตามองไปตามมือที่ชี้ให้ดูรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ใกล้ๆและมีผู้ชายคนหนึ่งยืนคุยโทรศัพท์หันหลังให้เธออยู่ และเมื่อมองมายังคนขับแท็กซี่ซึ่งกำลังมองมายังเธออย่างเห็นใจนั้น ก็เป็นอันเข้าใจแจ่มแจ้งแบบไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม
“คือว่า หนูรีบมากค่ะลุง ขอไปก่อนได้ไหมคะ”
“เจ้านายลุงก็รีบเหมือนกันนะหนู”
ชาลีมองหน้าเห็นใจของคุณลุงคนขับรถแล้วก็ทำใจ แต่มือยังเกาะอยู่ที่ประตูรถไม่ยอมปล่อย
“คันนี้ใช่ไหม”
เสียงทุ้มดังขึ้นก่อนที่คุณลุงคนขับรถจะเบี่ยงตัวตอบและแน่นอนว่าพูดเรื่องที่เธอขึ้นรถผิดด้วย ชาลีตั้งใจแน่วแน่ว่ายังไงเธอก็คงต้องขอไปคันนี้ก่อนในเมื่อตอนนี้เธอไม่เห็นว่าจะมีแท็กซี่โผล่มาซักคัน! ถ้าเธอพลาดคันนี้ รับรองว่าได้รอจนเหงือกแห้ง ในเมื่อแถวนี้ไม่ค่อยมีแท็กซี่ ทุกทีชามจะไปส่งเธอตอนเช้าก่อนจะเข้าสำนักพิมพ์หรือไปทำธุระต่อ เธอจึงไม่เดือดร้อนเท่าวันนี้! วันที่มีนักคุยกับนักธุรกิจชาวเกาหลี คุณฮันจุง!
“เอ่อ เจ้านายลุงบอกว่าถ้าไปทางเดียวกัน ท่านยินดีที่จะให้นั่งไปคันเดียวกันได้ หนูจะไปที่ไหนล่ะ” ชาลีบอกทางที่ไปบริษัทอย่างรวดเร็ว ราวกับโชคเข้าข้าง เพราะเจ้านายของคุณลุงคนขับรถก็ไปทางเดียวกัน!! ในวันที่เหมือนจะโชคร้าย ก็ยังมีโชคดีแซมอยู่บ้าง ชาลีเปิดยิ้มกว้างเมื่อเจ้านายของคุณลุงยื่นขายาวๆเข้ามาในรถ
“ออกรถได้เลย ผมรีบ”
เสียงที่มาพร้อมกับคนที่ก้าวเข้ามาครบทั้งตัวทำให้ชาลีที่กำลังยิ้มอยู่ ต้องยิ้มค้างไปทันทีเมื่อเห็นผู้ชายสุดเนี้ยบตรงหน้า เขาอยู่ในชุดสูทสุดหรูกับกระเป๋าเอกสารหนึ่งใบที่น่าจะมีค่าราวทองคำ แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุของอาการค้างที่หน้าของเธอ แต่มันเป็นเพราะใบหน้าของเขาต่างหาก!!
“คุณ!”
เสียงทักจากคนที่เขาอนุญาตให้นั่งไปด้วยกันทำให้เชนปรายตามามอง มีแววแปลกใจในความบังเอิญอยู่ในสายตาทั้งของเขาและของเธอ!
“คุณนั่นเอง”
เชนปรายตามองสาวแว่นในชุดพนักงานบริษัทอีกครั้งอย่างเต็มตา
“ใช่..ผมนั่นเอง”
ชาลีมองหน้าเขาแล้วค้อนให้ทันที ก่อนจะสะบัดหน้าพรืดไปอีกทางอย่างไม่ชอบท่าทางยียวนของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะยังคงนั่งนิ่ง แต่คำพูดและสายตามันน่าโมโหที่สุด โลกก็ไม่ได้กลมดิ้กสักหน่อย แต่เธอก็ดันไถลลื่นมาเจอกับเขาพอดีในเช้าที่เธอกำลังจะไปทำงานสาย!
“จะไปไหนนะน้อง”
คนขับแท็กซี่หันมาถาม เธอรีบบอกสถานที่ไปทันที ก่อนจะหันหน้าไปอีกทางราวกับบนรถนี้มีแค่เธอเท่านั้น และเมื่อได้ยินขนขับถามคนที่เธอจินตนาการว่าไม่มีอยู่ในรถ เขาก็บอกเพียงว่าไปทางเดียวกับเธอเท่านั้น
“ทำไมคุณถึงใส่แว่น”
เสียงทุ้มดังขึ้นไล่ความเงียบ สายตาเขาไล่มองไปที่แว่นกลมๆแล้วเลื่อนลงมาที่แก้มนูนๆคล้ายซาลาเปาสองลูกของเธอ
“ถ้าคุณคืนแว่นมาให้ฉันแล้วฉันจะบอก”
เสียงเล็กๆของเธอมีแววสะบัดอยู่เล็กน้อยเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าแว่นของเธอยังอยู่ที่เขา แต่ในวันนี้กลับไม่ยักมีแว่นของเธอไปลดความหล่อเหลาของเขาเหมือนเช่นที่เคยเห็น ซึ่งแตกต่างจากเธอที่เขาเห็นกี่ครั้งก็ต้องมีแว่นประดับอยู่บนใบหน้าตลอด
“เจ้าเล่ห์”
สายตาดุๆมองมาที่เธอ วูบหนึ่งชาลีนึกถึงสายตาดุๆของแม่ขึ้นมาถนัด
“แล้วแว่นฉันหายไปไหน เอาไปแล้วก็ทิ้งขว้างรึเปล่า”
เชนมองปากยื่นๆราวกับเด็กน้อยของเธอแล้วจึงขยับปากแดงธรรมชาติของตัวเอง
“เปล่า ฉันเก็บไว้อย่างดี”
“ก็ดีแล้วล่ะ แว่นนั่นน่ะแพงมากเลยนะบอกให้”
คำตอบของเธอเป็นอีกหนที่เขาต้องหันมามองเธออย่างเต็มตา เมื่อไม่กี่วันก่อนเธอยังมาตามตื๊อเขาเพื่อที่จะเอาแว่นคืน แต่เมื่อเขาบอกว่าไม่คืนให้..ผู้หญิงคนนี้ก็เหมือนจะยอมรับได้ง่ายๆ
“แพงเพราะอะไรล่ะ ฉันดูแล้วยี่ห้อก็ธรรมดาทั่วไป”
ชาลีส่ายหน้าให้กับเสียงของคนข้างๆที่ยังเรียบราบไม่มีความตื่นเต้นเอาเสียเลย แต่ถ้าเขารู้ว่าเธอได้มันมาจากไหน เขาจะต้องตื่นเต้น!
“เพราะมันเป็นของโอปป้าคริสน่ะสิ พี่สาวฉันไปประมูลมาให้”
“โอปป้าคริส?”
เชนถามอย่างสงสัยแต่ก็ยังไร้ซึ่งวี่แววของความตื่นเต้นที่ชาลีคิด
“ใช่ โอปป้าคริสสุดหล่อ”คนพูดไม่พูดเปล่ายังยกมือทั้งสองข้างขึ้นมากุม ในตามีแววเพ้อฝันอยู่ไม่น้อย ก่อนจะได้ยินเสียง หึ ออกมาจากลำคอของเขา
“ผมพอจะรู้มาบ้างว่าผู้หญิงไทยบ้าดาราเกาหลี”
“เขาเรียกว่าเป็นแฟนคลับย่ะ!”
“ผมไม่เห็นว่าพวกนั้นมันจะมีเสน่ห์ตรงไหน..หน้าก็คล้ายๆกันไปหมด”เสียงที่แฝงแววไม่พอใจทำให้ชาลีหันมาถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจกว่า
“คุณพูดอย่างกับว่าคุณหล่อมากกกกอก”
อดที่จะประชดประชันให้กับหนุ่มหน้าลูกครึ่งตะวันตกตรงหน้าไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสายตาที่มองมาเป็นเชิงถามว่า แล้วเขาไม่หล่ออย่างนั้นเหรอ? เธอก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมากับคนที่ช่างมั่นใจในตัวเองเสียแหลือเกิน
โอเค เขาอาจจะหล่อมากๆในแบบของเขา แต่รสนิยมสาวไทยเดี๋ยวนี้ก็ต้องโซนเอเชียค่อนไปทางเกาหลีกันเกือบหมดประเทศแล้วย่ะ!
“ผมเห็นคุณไปทำงานกลางคืน” เขาไม่สนใจท่าทางของเธอ แต่ยังคงชวนคุยอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ตามปรกติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่จะเป็นคนชวนเขาคุยมากกว่า..แต่กับผู้หญิงธรรมดาคนนี้แล้ว ในสมองของเขาอยากจะพูด อยากจะรู้ อยากจะโต้ตอบด้วย..
“เดี๋ยวนะ งะ..งานกลางคืน?”
“ผมเห็นคุณทำงานจนดึกดื่น” คำพูดของเขาทำให้ตาที่เบิกกว้างของชาลีกลับมาหรี่เล็กเหมือนเดิม เมื่อเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร..เขาคงจะไปเห็นตอนเธอทำงานเมื่อคืนนี้แน่ๆ แล้วเขายังไม่รู้อีกด้วย ว่าสาเหตุมันก็มาจากเขานั่นแหละ
“อ๋อ..”
เชนมองคนข้างๆที่ลากเสียงแค่คำว่า ‘อ๋อ’ แล้วก็ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาเพิ่มเติมอีก ..ทั้งๆที่เขาอยากจะฟัง!
เธอควรจะพูดอะไรมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอไง ยัยเด็กแว่น
“แล้วเธอ..”
“อ้ะ จอดข้างหน้านั้นเลยค่ะลุง” ชาลีไม่ปล่อยโอกาสให้คนข้างๆมีโอกาสพูดอีกต่อไป เมื่อรถจอดสนิท หญิงสาวก็รีบก้าวขาลงจากรถแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในตึกสูงคุ้นตาอย่างเร่งรีบ ไม่มีแม้แต่คำบอกลาเจ้าของนัยน์ตาสวยที่มองตามไปอย่างสนใจ!
‘ เกาหลี หรือ อังกฤษ ใครจะชนะกันล่ะ’
“จอดข้างหน้านี่แหละค่ะ”
ชาลีเดินลงมาจากรถด้วยความเหนื่อยอ่อน หลังจากเลิกงานเธอก็ไปทำงานต่อเป็นพนักงานเสิร์ฟอีกเป็นวันที่สอง วันนี้เธอมีความชำนาญและรวดเร็วกว่าวันแรกขึ้นมาหน่อยแต่ร้านที่เธอไปทำงานช่างเป็นร้านที่มีลูกค้าแน่นขนัดเสียเหลือเกิน เวลาพักให้หายใจหายคอก็เลิกคิดไปเลย มิน่าเล่าถึงจ้างพนักงานแต่ละคนด้วยอัตราที่สูงเทียบเท่ากับคนจบปริญญาตรีใหม่ๆเลยทีเดียว แล้วแบบนี้เธอจะต้องทำงานเก็บเงินไปอีกกี่เดือนดีหนอถึงจะเพียงพอต่อค่าแว่นอันใหม่.. ว่าแต่เร็วๆนี้จะมีใครมาเปิดประมูลของใช้ส่วนตัวกันอีกน้า
แต่ทว่าคนช่างคิดช่างเพ้อจำต้องหยุดจินตนาการของตัวเองลง เมื่อเดินเข้ามาในบ้านแล้วเจอแต่ความเงียบบวกความมืด มือน้อยคลำไปตามผนังจนเจอสวิตซ์ไฟ
“พี่ชาม”
เมื่อจัดการไล่ความมืดได้ ชาลีก็เปล่งเสียงออกไปไล่ความเงียบ แต่ก็ยังไร้ซึ่งเสียงตอบรับของพี่สาว ลางสังหรณ์แปลกๆผุดขึ้นเมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องพี่สาวแล้วก็ยังไม่พบใคร ครั้นเดินสำรวจไปทั่วบ้านก็ยังไม่พบใครอยู่ดี เมื่อวิ่งออกมาดูที่จอดรถปรากฏว่าเจ้าน้ำตาลก็ไม่อยู่!
จะว่าไปหมู่นี้ก็รู้สึกเหมือนกับว่าไม่เจอหน้าเจ๊ชามเลย ปรกติจะไปไหนก็จะบอกเธอก่อนอยู่แล้ว แต่คราวนี้กลับหายไปเสียเฉยๆ
ด้วยความเป็นห่วงชาลีรีบควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาพี่สาวทันที แต่กลับติดต่อไม่ได้!
“ชาลี!!”
เสียงเรียกอันคุ้นเคยที่เสียงดังฟังชัดกระชากสติของคนที่กำลังเหม่อลอยให้กลับมา ก่อนจะเจอเข้ากับสองสามีภรรยาคู่ใหม่ที่กำลังยืนจับมือแสดงความหวานกันอยู่ตรงหน้า ชาลีสะบัดหัวแรงๆ เมื่อยังรู้สึกหน่วงๆไม่หาย ก่อนจะรีบปรับสีหน้า ส่งยิ้มแหยๆไปให้เพื่อนกับสามี
“ชาลีมาทำอะไรที่นี่”
เป็นคำถามที่นำพาความอึ้งมาสู่คนถูกถามในบันดล หญิงสาวก้มลงมองยูนิฟอร์มที่ตัวเองกำลังใส่
“เอ่อ…”
เมื่อมองชุดสวยๆของเพื่อนสาวแล้ว ก้มลงมองชุดของตัวเองอีกที..ชาลี เธอสามารถเป็นอะไรได้มากกว่าบอกว่าเป็นเด็กเสริ์ฟหรือเปล่าเนี่ย!
ความคิดเห็น