ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    First Love รักนี้ฉันยอม

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 12 มากสักเพียงไหน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 59
      1
      24 พ.ย. 58

    ตอนที่ 12 มากสักเพียงไหน

         "มึงบ้าไปแล้วหรอไง" เสียงฉันสั่น 

         กระดุมเสื้อเชิร์ตของมันถูกปลดออกจนเม็ดสุดท้าย เผยให้เห็นแผงอกและหน้าท้องแกร่งๆ สมส่วนด้านในที่มีไรขนไล่ไปจนถึงในกางเกง ฉันเงยหน้าไปสบตากับเจ้าของดวงตาแข็งกร้าวที่กำลังก้าวเข้ามา

         ความกลัวเริ่มเข้าครอบคลุมจิตใจ เหตุการณ์ที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะมีกำลังจะเกิดขึ้น ในเมื่อด้านหน้าไม่มีทางหนีจึงรีบหันหลังพยายามคลานหนีเพื่อลงจากเตียงจากอีกด้าน

         "จะไปไหน" เสียงเหมือนกำลังเล่นสนุกของผู้ชายด้านหลังดังขึ้นพร้อมกับแรงหยวบบนเตียง ก่อนที่ข้อเท้าฉันจะถูกคว้าเอาไว้ และออกแรงลากกลับมาอย่างงายดาย ตัวถูกพลิกให้หันกลับมา แขนลองข้างถูกขึงลงบนที่นอน

         "ฮึก....ปล่อยเถอะนะ เฟิร์ส" น้ำตาเริ่มไหลออกมา มันไม่ใช่เฟิร์สที่ฉันรู้จักอีกต่อไป ผู้ชายคนนี้ดูน่ากลัวเหลือเกิน แต่น้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ซ้ำยังดูเพิ่มความโกรธให้กับคนตรงหน้าอีกเข้าไปอีก

         "ฮึ มึงร้องไห้ มึงจะร้องไห้ทำไม หรือเพราะเป็นกูไม่ใช่ไอ้นิล ห่ะ!"

         สียงมันดังขึ้นพร้อมกับเสียงฟ้าร้องด้านนอก เสียงเม็ดฝนที่อยู่ๆ ก็ถาถมลงมา เหมือนกำลังระบายความโกรธเกรี้ยว

         "หยุดพูดถึงคนอื่นสักที มันไม่เกี่ยวกับคนอื่น รู้แค่กูไม่ง่ายแบบผู้หญิงคนอื่นของมึงแล้วกัน"

         "ไม่ง่ายหรอ ที่กูเห็นมึงนัวเนียจนแทบจะเอากันในร้านแบบนั้นยังไม่ง่ายอีกหรอว่ะ นี่ขนาดคนเยอะแยะ ถ้าอยู่กันสองคน..." มันเว้นไว้แล้วแค่นเสียงหัวเราะออกมา

         "มันไม่ใช่...คือ..." ฉันพยายามจะอธิบาย แต่จะเรียบเรียงคำพูดยังไงให้อีกฝ่ายเข้าใจง่ายที่สุด

         "กูกับนิลไม่เคยมีอะไรกัน" อีกฝ่ายได้ยินแล้วมองมานิ่งๆ ฉันไม่รู้ว่าคิดมันอะไรอยู่ ข้อมือที่เหมือนกำลังจะคลายออก แต่เพียงแว็บเดียวมันก็บีบแน่นใหม่ยิ่งกว่าเดิม มันกำลังทำหน้าเหมือนอยากหัวเราะเหมือนมีอะไรน่าขำ

         "หรอ ไม่เคยหรอ แล้วนี่อะไร!" มากระชากตัวฉันขึ้นจากที่นอนมาที่หน้ากระจก แล้วชี้ลงบนต้นคอที่มีรอยแดงปรากฏอยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

         "คือ..." ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง ต้องเป็นนิลตอนนั้นแน่ๆ 

         "มึงนี่เป็นคนที่โครตตอแหลเลยว่ะพิศ แสดงบทว่าไม่เคยผ่านมือใครมาซะเนียน ถ้ากูไม่เห็นกับตาคงไม่เชื่อเหมือนกัน ดีนะที่จิลล์ให้กูตามไป" ชื่อของผู้หญิงทำให้ฉันรู้สึกเคืองขึ้นมา ฉันรู้จักกับมันมานานแค่ไหนทำไมไม่เชื่อกันบ้าง แล้วทีกับคนอื่นกลับเชื่อ

         "ถ้ามึงไม่เชื่อก็เรื่องของมึง อีกอย่างมึงพูดเองว่าชีวิตกูใช่ไหม ฉะนั้นกูจะไปเอากับใครมึงก็ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง"

         "มีสิ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงเห็นว่ากูมีสิทธิ์นั้น"

         "อย่าดิ้นเลย ของแบบนี้ก็เคยๆ กันอยู่แล้วหนิ ปรกติกูไม่ค่อยชอบรับของต่อจากใครหรอกนะ แต่เห็นมึงต้องการมาก กูเลยจะช่วยสงเคราะห์ให้"

         "ต่ำ"

         "ไม่เอาสิ เปลี่ยนคำด่าเป็นเสียงครางดีกว่าไหม เมื่อกี้ยังเห็นครางเสียงกระเส่าอยู่เลย กูสัญญา กูทำให้เสียวกว่าที่ไอ้นิลทำอีก" 

         "กูเกลียดมึงได้ยินไหม กูเกลียด เกลียด..." ไม่มีเสียงใดๆ หลุดออกมาอีก เพราะริมฝีปากถูกปิดลงด้วยน้ำมือของอีกฝ่าย จูบที่รุนแรง หนักหน่วง เหมือนกำลังโกรธแค้นอะไรบ้างอย่าง แม้จะเคยต้องการมันมากเพียงใด ตอนนี้กลับรู้สึกรังเกียจมันมากเท่านั้น

         "อื้อ.." ฉันพยายามเบือนหน้าหนีแต่กลับถูกกดท้ายทอยเอาไว้ สองมือทุบตีร่างกายคนสูงใหญ่พัลวันแต่อีกฝ่ายกลับไม่มีที่ท่าว่าจะยอมหยุด แม้ไม่โต้ตอบแต่เสี้ยงครางในลำคอเหมือนถูกขัดใจดึงขึ้นก่อนจะผละริมฝีปากออก แล้วอุ้มฉันขึ้นโยนลงไปบนเตียงแทน

         เฟิร์สทาบตัวลงมาโดยไม่เปิดโอกาสให้หนี ริมฝีปากยังคงทำหน้าที่ของมันต่อ ริมฝีปากถูกดูดจนชาไปหมด ลิ้นเริ่มทำหน้าที่อย่างชำนาญ แต่เมื่อมันเห็นฉันไม่เปิดรับจึงเค้นมือลงบีบสะโพก พอจะอ้าปากห้ามมันก็ได้จังหวะส่งลิ้นตวัดเข้ามา

         เหมือนยิ่งพยายามขัดขืนมากเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ยิ่งรุกหนักมากขึ้นเท่านั้น ด้วยความชำนาญของอีกฝ่าย แม้ปากจะประกบกันไว้อยู่ แต่มือที่เหลือทำให้เสื้อถูกถอดออกอย่างไม่อยากเย็นนัก รวมถึงเสื้อในที่กำลังใส่อยู่ตอนนี้ เฟิร์สสอดมือไปด้านหลังแล้วปลดตะขอออกอย่างรวดเร็วจนฉันแทบคว้าไว้ไม่ทัน

         "...อย่าทำอย่างนี้เลยนะ" ฉันเปล่งเสียงที่สั่นเครือ มือจับชุดชั้นในของตัวเองไว้แน่น แต่อีกฝ่ายกลับมองอย่างไม่รู้สึกอะไรกับคำขอของฉัน ก่อนที่จะออกแรงกระชากมันออกไป

         เมื่อร่างกายท่อนบนไร้สิ่งปกปิดก็ยิ่งรู้สึกอับอาย ยิ่งได้เห็นสายตาที่เหมือนกำลังพึงพอใจ จ้องมองลงมา 

         "สวยดีนิหว่า" มันพูดพร้อมรอยยิ้มน่ากลัวมือที่พยายามจะเอามาปิด กลับถูกดึงออก

         "มึงจะปิดทำไม อายหรือไง เมื่อกี้มึงปล่อยให้ไอ้นิลจับยังไม่เห็นจะอาย" มันพูดด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่ดูถูก

         "มันไม่ใช่อย่างนั้น อย่านะ...เฟิร์ส ปล่อย อ๊า เจ็บนะ พอเถอะ" ฉันห้ามตัวเองไม่ได้ที่ปล่อยให้เสียงแบบนั้นหลุดออกไปจากปาก เมื่อริมฝีปากมันจรดลงบนยอดอก และออกแรงดูดอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ

         "ฮึก... พอเถอะนะ พอเถอะ" ฉันยังคงพูดแต่คำเดิมๆ น้ำตายังคงไหลอาบแก้ม มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีเลย ในระหว่างนั้นฉันไม่รู้ว่ามันแทรกตัวเข้ามาเมื่อไหร่ มันใช้มือข้างเดียวรวบข้อมือทั้งสองข้างของฉันไว้เหนือหัว ส่วนอีกข้างกำลังลูบไล้ต่ำลงไป...

         "อะ..." ฉันสะดุ้งเมื่อรู้ถึงสัมผัสในบริเวรนั้น 

         "เอามือออกมา" ฉันพยายามห้าม แต่ตรงกันข้ามกับที่มันจะหยุด กลับรู้สึกได้ถึงการรุกรานเข้ามาของนิ้วมือ

         "โอ้ย" ....เจ็บ.... ฉันรู้สึกได้ว่าตัวสั่นสะท้านไปหมด 

         "ก็กูบอกให้มึงอยู่เฉยๆ" มันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาพูดและค่อยๆ เลื่อนตัวลงไป

         "อย่ามองนะ" ฉันพยายามหุบขาตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ

         "หึ" รอยยิ้มเยาะปรากฏบนหน้าของมัน หลังจากมันสำรวจด้วยตา ด้วยนิ้ว และ...ริมฝีปาก

         "อย่า...อย่าทำนะ มันสกปรก...อ๊า..." ฉันพยายามกัดฟัน กลั้นเสียงน่าเกลียดนี้ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ความรู้สึกชื้นแฉะที่ทำเอาตัวแทบลอย ร่างกายบิดเกร็ง เหมือนฉับควบคุมตัวเองไม่ได้ ความรู้สึกมันรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนแทบถึงขีดสุด ...แต่มันก็หยุดและเลื่อนต้วขึ้นมา ปล่อยฉันนั้นหายใจหอบเหมือนออกกำลังกายมา ฉันคิดว่ามันกำลังจะจบลง แต่ก็เปล่า

         "จะทำอะไร" ฉันถามเมื่อเห็นมันกำลังปลดกางเกงที่คับตุง

         "มึงจะเห็นแก่ตัวมีความสุขอยู่คนเดียวหรือไง" 

         "ความสุขเหี้*อะไรของมึง ปล่อยนะ"

         "กูรู้หรอกหน่า ว่ามึงอยากดู กูเห็นมึงชอบแอบดูกูไม่ใช่หรือไง วันนี้กูจะถอดให้มึงดูชัดๆ เลย" มันถอดและโยนทั้งกางเกงละบ็อกเซอร์ทิ้งไปไว้ข้างเตียง อวัยวะส่วนนั้นผงาดขึ้น บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนตรงหน้า เราทั้งสองคนไม่เหลืออะไรปกปิดร่างกายอีกต่อไป ยิ่งเห็นแบบนี้ ฉันยิ่งกลัวมากกว่าเดิม

         "ไง มองตาค้างเลย มึงชอบใช่ไหมของกู รับรองว่ากูจะทำให้มึงลืมผู้ชายคนอื่นไปเลย" คำพูดที่แสนเลวร้าย ยังไม่เท่ากับร่างกายของมันที่กำลังแทรกตัวเข้ามา

         "ไม่ กูไม่เอานะเฟิร์ส พอเถอะ" ฉันพยายามดิ้นหนี มันจะต้องไม่เกินขึ้น มันต้องไม่ใช่อย่างนี้ ได้โปรดเถอะ 

         "ถ้ามึงทำ กูจะไม่มีวันให้อภัยมึงอีกเลย ระหว่างเราสองคนจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป" มันชะงักไป ฉันหวังว่าอย่างน้อยที่สุด มันคงเห็นแกความเป็นเพื่อนของเราบ้างสักนิด ก็ยังดี แต่ฉันคิดผิด

         "ระหว่างเรา มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้วว่ะ" สิ้นเสียงมันก็เหมือนฟ้าผ่าลงมาที่กลางหัวใจ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้ไปมากเท่าไหร่

         "ปล่อยกูเถอะนะ... ฮึก" คำข้อสุดท้ายที่มันไม่เป็นจริง 

         "เจ็บ เฟิร์ส" ฉันถึงความเจ็บปวด ร่างกายเหมือนจะฉีกขาด 

         "มึงอย่าเกร็งขาดิ อ้าออกดีๆ" มันพยายามเล้าโลม

         "โอ้ย เอาออกไปเถอะ กูเจ็บ" ฉันยังคงพูดแบบคำเดิมซ้ำไปซ้ำมา

         "ซี๊ดดด รัดโครตอ่ะ นี่ขนาดกูเพิ่งเข้าไปนะ" มันหยุดและค้างไว้ เหมือนให้ฉันพักหายใจ ก่อนที่มันจะเดินเครื่องอีกครั้ง

         "อะ...อย่าเพิ่ง" มันค่อยๆ ขยับตัวเร็วขึ้น

         "อืมมม พิศ" มันครางออกมา 

         "เจ็บ" เล็บจิกผ้าปูจนยับยู่ยี่ไปหมด 

         "ยังเจ็บอยู่หรอ กูว่าไม่แล้วมั้ง" มันจ้องตาฉันจนเยิ้ม สีหน้าบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังพุ่งทะยาน การจูบที่หนักหน่วง ไอร้อนจากลมหายใจยามมันฝากร่องรอยเอาไว้บนซอกคอ แม้ไม่เต็มใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ 

         "ชอบล่ะสิ กูบอกแล้วว่ามึงต้องชอบ" สีหน้าและคำพูดมันทำให้ฉันรู้สึกละอายมากกว่าเดิม ที่พลั้งเผลอไปกับเซ็กซ์สกปรกของมัน

         "ไม่...กูไม่ชอบ" ฉันกัดฟันพูดเต็มที่ 

         "ปากดี" เมื่อมันเห็นฉันไม่ร้อง มันจึงขยับตัวออกอีกครั้ง และใส่เข้าจนสุด จนฉันแทบจะกรีดร้องออกมา แต่ก็พยายามกลั้นเสียงร้องตัวเองไว้

         "มึงร้องออกมาเถอะ กูอยากได้ยิน"

         "ไม่" ฉันเบือนหน้า

         "ได้ กูจะทำให้มึงร้องเอง เอาให้ครางเรียกชื่อกูไม่หยุดเลย" มันพูดแค่นั้นแล้วความรู้สึกอีกทีก็คือตัวเองกำลังลอยขึ้น 

         "อะ..." มันเปลี่ยนลงไปนั่งกึ่งพิงหัวเตียง แล้วตัวฉันเองที่ขึ้นครอมบนตัวมัน

         "ขยับเองสิ" เมื่อเห็นฉันยังนิ่ง มันเลยจับเอวฉันแน่น และเป็นฝ่ายยกตัวฉันขึ้นลงตามจังหวะที่มันปรารถณา

         "เสียวโครตเลยว่ะ พิศ" มันยังคงครางเรียกไม่หยุด

         "มึงชอบใช่ไหม กูอยากได้ยิน" ตัวฉันสั่นสะท้านไปหมด ยิ่งมันซุกหน้าลงบนเนินอก ขบ เลียอย่างหื่นกระหาย

         "อ๊า เฟิร์ส เบาๆ หน่อย กูไม่ไหวแล้ว" ...และเป็นฉันเองที่ต้องยอม มันยิ้มอย่างผู้ชนะ แล้วพลิกตัวฉันลงบนเตียงอีกครั้ง ทุกอย่างดูนุ่มนวลขึ้น อย่างที่ฉันเองก็รู้สึกได้ เกมส์กำลังดำเนินมาถึงจุดสิ้นสุด มันค่อยๆ จูบระดมตามคราบน้ำตาที่แห้งบนหน้า ก่อนจะไปหยุดที่ข้างหู แล้วก็ซิบคำที่ฉันเฝ้ารอมาทั้งชีวิต

         "อ๊า เฟิร์ส" ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่างกายที่เกร็งกระตุก จนต้องกอดอีกฝ่ายไว้ ตัวมันเองก็เช่นเดียวกัน

         "พิศ กูรักมึงนะ" นั้นเป็นคำสุดท้ายก่อนที่ฉันได้ยินก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดลง


    ...............................................................................................................................


         พายุด้านนอกหยุดลงแล้ว ในห้องก็เช่นเดียวกัน ผมมองพิศที่นอนตะแคงหันไปอีกฝั่ง เห็นคราบเลือดบนกระดาษที่มาเช็ดทำความสะอาด

         ....ผมทำเหี้*อะไรลงไป....

         ทั้งห้องมีแต่ความเงียบ ไม่มีแม้แต่เสียงสะอื้น ผมผิดรึเปล่าที่อยากให้มันร้องไห้ อย่างน้อยผมจะได้เป็นคนที่ปลอบมัน ปลอบมันเหมือนทุกครั้งที่มีใครทำให้มันร้องไห้ ผมมักจะบังคับให้มันหยุดร้อง ไม่งั้นผมจะไปเอาเรื่องคนที่แกล้งมัน แต่แล้วครั้งนี้ล่ะ ผมเองเป็นคนทำมันเสียใจ ทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัยที่สุด

         "พิศ..." ผมเอื้อมมือไปจับไหล่มัน แต่มันก็เพียงขยับหลบ ไม่แม้แต่จะหันมามอง หรือตอบรับผมเลยด้วยซ้ำ มันกำลังทำให้ผมกลัว ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง แววตามันที่ผมเห็นล่าสุดมันดูว่างเปล่า ความรู้สึกดีๆ ที่มักอยู่ในแววตามันเวลามองผม มันไม่มีอีกต่อไปแล้ว 

         แม่ง! ผมหยิบบุหรี่ในลิ้นชัก และคว้ามือถือตัวเองออกไปที่ระเบียง ปรกติพิศมันจะมองมาด้วยสายตาเป็นห่วงเวลาเดินไปที่ระเบียง เพราะมันรู้ผมจะสูบบุหรี่เวลามีเรื่องเครียดเท่านั้น

         "ไงมึง" เสียงตัวต้นเหตุดังมาจากปลายสาย

         "มึงยังมีหน้ามาทำเสียงระรื่นอีกนะ" ผมยังคงได้ยินเสียงมันหัวเราะ นั้นทำให้ผมยิ่งฉุน

         "สัสนิล" 

         "โอเคๆ มึงมีอะไรว่ามา" ในที่สุดทันก็ยอมหยุด แล้วพร้อมคุยแบบจริงจัง

         "กูจะถามมึงอย่างเดียวเรื่องพิศ" 

         "ก็ง่ายๆ เลยนะ..." ผมเงียบและตั้งใจฟังที่นิลมันพูด

         "ไม่มีเหี้* อะไรเลย มึงคิดไปเอง"

         "มึงอย่ามาโกหก กูเห็นรอยดูดที่คอไอ้พิศ" ผมพยามยามข่มอารมณ์ตัวเองอย่างที่สุด 

         "ก็เพื่อความความสมจริงไง พิศมันไม่รู้เรื่องอะไรเลย อะไรมันก็มีแต่มึง เฟิร์สอย่างโน้น เฟิร์สอย่างนี้ เขาไม่ได้ชอบกู กูก็ไม่ได้ชอบเขา มีแต่มึง บ้าไปเอง"

         "แล้วที่มึงบอกจะจีบ?

         "กูแกล้งมึงเล่น" ผมกำโทรศัพท์แน่น อยากต่อยหน้ามัน

         "พอแล้ว เอามานี่ จิลล์คุยเอง" เสียงจิลล์ดังขึ้นมา อย่าบอกนะว่า...

         "จิลล์ก็รู้เรื่องนี้ด้วยหรอ"

         "อย่าเพิ่งโกรธนะ คืองี้ มันเป็นแผนของจิลล์กับนิลเองแหละ คือคืนที่พิศไปค้างกับนิลอ่ะ จิลล์เปิดประตูไปเจอพิศ เขาเลยเข้าใจผิด จิลล์ก็เพิ่งรู้ที่หลัง แต่เอาเป็นว่าสองคนนี้ไม่มีอะไรกันแน่นอน ไอการันตรี" ผมยังพยายามประมวลเหตุการณ์ต่างๆ 

         "แต่ที่จริง มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรป่ะ อธิบายนิดเดียว ชีคงเข้าใจแหละ" ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็คงดี ถ้าผมมีสติอีกสักนิดเรื่องคงไม่เลยเถิดจนมันบานปลายแบบนี้ 

         ...ถ้าผมเชื่อใจพิศอีกสักนิด

         ที่จริงผมก็พอรู้ ว่าพิศคงไม่เคยมีอะไรอย่างว่ามาก่อน จากอาการ แรงต้านต่างๆ เพียงแต่ทั้งความโกรธ การอยากเป็นเจ้าของ มันทำครอบงำผม


    ..............................................................................................................


         "เชียส" ฉันยกแก้วขึ้นชนกับหนุ่มหล่อตรงหน้า

         "โอ้ย แสบปาก ไอ้เฟิร์สแม่ง หมัดโครตหนัก" ฉันปล่อยให้พ่อหนุ่มหล่อสบถถึงเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ที่เพิ่งวางมวยกันจนเกือบโดนเชดหัวออกจากคลับตะกี้

         "ก็เล่นล้วงจริงอะไรจริง มันก็ต้องโดนจริงๆ แบบนี้แหละ"

         "เพื่อความสมจริงไง เดี๋ยวมันไม่เชื่อ"

         "หรอ ว่าแต่แล้วเป็นไง เหมือนของแท้เลยม่ะ" ฉันถามด้วยความอยากรู้ส่วนตัว

         "จะไปอัพไซส์หรอไง" นิลมองหน้า แล้วก็เหลือลงไปมองหน้าอกฉัน

         "Just curious แค่อยากรู้เฉยๆ ย่ะ คุยกันช่วยมองหน้าด้วย หน้าอยู่ตรงนี้" ฉันเอานิ้วเชิดคางคาสโนว่าคนนี้ขึ้น

         "ว่าแต่ไม่สงสัยบ้างหรอ ทำไมเฟิร์สยอมไปสนใจแม่นั้น หรือเบื่อผู้หญิงจริงๆ แล้ว" 

         "ตอนแรกก็สงสัยอ่ะนะ แต่พอรู้จัก ชีก็เป็นคนดีนะ น่ารักเลยแหละ ยูต้อง open your mind บ้างนะ" 

         "ก็ไม่ได้คิดอะไรมากซะหน่อย..."

         "แต่เสียเซลล์ล่ะสิ" รู้สึกโดนพูดจี้ใจดำเลยแหะ

         "เสียเซลล์ไม่เท่าไหร่ แต่เสียดายนี่สิ นั้นนะเกรดพรีเมียมเลยนะ ไม่ใช้หาง่ายๆ ซะด้วย" 

         "หายาก แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีนะ หรือลืมกันไปแล้วหรือไง" พ่อคาสโนว่านิลไม่พูดเปล่าแต่มือยังรั้งเอวฉันเข้ามาใกล้ แต่ฉันไม่ใช่ยัยพิศที่จะอายม้วนไปแบบนั้นหรอกนะ ฉับเอามือลูบไปตามคอและแผ่นหลังอีกฝ่ายบ้าง เรื่องอะไรจะยอมเสียเปรียบโดนกระทำอยู่ฝ่ายเดียว

         "ก็ครั้งแรกของไอ มันกี่ปีแล้วนะ five, six or seven..." ฉันค่อยๆ นับนิ้ว "Wow, it's been 8 years since I've lost my virginity to you." 

         ใช่ เขาคือคนแรกของฉัน อย่านับเลยว่าครั้งแรกของฉันน่ะ อายุเท่าไหร่ หึหึ

         "ทำเหมือนหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยอีกเลยนะ" เขายิ้มแบบที่ชอบเอาไว้โปรยเสน่ห์สาวๆ ...ฉันชอบผู้ชายคนนี้ยิ้มจัง 

         "จะพูดอีกนานไหม เสียเวลา" ฉันส่งสายตาที่คิดว่าเซกซี่ที่สุดไปให้ เราสองคนน่ะ รู้จักกันดีที่สุดแล้ว มองตาก็รู้ไปถึงข้างใน

         "งั้นทนปวดหลังหน่อยละกันนะ เดี่ยวจัดให้ในรถเลยครับ มายเลดี้" นิลโค้งนิดๆ และคว้าฉันไปจูบ แม้มันไม่รุนแรง แต่รับรองว่าถ้าใครได้ลิ้มลองต้องร้องขอให้เขาจูบต่อแน่ๆ





    .......................................................................................................................................
              

         ผมกลับของห้องมาก็เห็นพิศพยายามขยับตัวจะลุกขึ้นยืน แต่ก็เกืองทรุดไปกองลงไปกับพื้น แต่ผมรับไว้ทัน

         "ปล่อย" พิศพยายามออกแรงดิ้น แต่ผมไม่ปล่อย

         "ยังมาอวดเก่ง เดินยังจะไม่ไหว" ผมดุ

         "มากูช่วย" ผมพยายามพยุง

         "เรื่องของกู ต่อให้กูเดินไม่ไหว ต่อให้ต้องคลานไป กูก็จะไม่ให้มึงช่วย" มันพูดเสียงแข็ง

         "เออ งั้นกูอุ้มมึงไปเอง จะไปห้องน้ำใช่ไหม" ผมรวบตัวมันขึ้น 

         "ปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้นะ" ...ทำไมมันถึงดื้อแบบนี้ว่ะ

         "โอ้ย" ผมวางมันลงกับชักโครก พออยู่ในห้องน้ำที่ไฟเริ่มสว่าง ทำให้เห็นมันชัดๆ ตัวมันแดงเป็นรอยนิ้วมือ มีรอยแดงตามคอ ผมทำกับมันรุนแรงขนาดนี้เลยหรอ

         "เจ็บไหม" 

         "มึงจะอยากรู้ไปทำไม" มันพูดนิ่งๆ

         "กูขอโทษ..."

         "ขอโทษเรื่องอะไร ที่เอากูอ่ะหรอ กูมันแรดอยู่แล้วนิ ให้อื่นเอาได้ ทำไมให้มึงอีกคนจะไม่ได้"

         "พิศ..." ผมเสียใจที่พูดกับมันไปแบบนั้น

         "ช่างมันเถอะ เพราะอย่างที่มึงบอก ระหว่างกูกะบมึง มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว" ใช่ผมทำลายมันลงไปเอง

         "พิศ คือกู..."

         "ออกไปเถอะ" 

         "กูรู้เรื่องหมดแล้ว เรื่องมึงกับไอ้นิล เรื่องกูกับจิลล์..."

         "กูบอกให้ออกไป!" มันพลักผมจนเซออกมา แล้วล็อคประตูห้องน้ำ มันร้องไห้ ผมรู้ ไม่ว่าจะเปิดเสียงน้ำกลบยังไง เสียงสะอื้นมันก็ยังคงบาดลึกลงไปในจิตใจผมอยู่ดี

         "พิศ" ผมพยายามเคาะประตู 

         "มึงต้องให้กูทำอะไร มึงถึงจะหายโกรธ กูยอมมึงทุกอย่าง ออกมาคุยกับกูเถอะนะ" 

         ...มันยังไม่ยอมเปิด มีเพียงเสียงสะอื้นให้ผมได้ยินผมไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีที่ยืนมองประตูอยู่แบบนั้น 

         ก็อกๆ

         ใครว่ะ ผมมองนาฬิกาตอนนี้ ตี 4 เนี่ยนะ ผมเดินไปเปิดประตู

         "ไอ้เงิน" ผมพูดชื่อไอ้คนที่อยู่ตรงหน้า

         "มาทำไรของมึงป่านนี้"

         "กูมารับพิศ มันจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว"


    ..........................................................................................................................




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×