ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One Loveรักนี้มีแค่เรา

    ลำดับตอนที่ #5 : One Love # 5

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 53


     
     



    One Love รักนี้มีแค่เรา




         หลังจากที่พากันเดินจนมาถึงโรงอาหารได้สำเร็จ ทั้งสี่หนุ่มหน้าสวยต่างก็แยกย้ายกันไปสั่งอาหารที่ตัวเองชอบ ยกเว้นดงเฮที่ถูกสั่งให้นั่งเฉยๆ อยากกินอะไรให้บอกเพราะอีกสามหนุ่มจะจัดการซื้อมาให้ทันทีแบบถึงที่


    ดงเฮลองชิมนี่สิ อร่อยนะ “  เด็กเก่าเจ้าของที่อย่างอีทึกรีบนำเสนออย่างแรง


    ไม่อันนั้นมันเผ็ดกินนี่ดีกว่า รับรองรสชาติสุดยอด..ดดด “  อึนฮยอกเด็กสร้างของโรงเรียนอีกคนบอกขณะที่เลื่อนจานของอีทึกออกไปแล้วเลื่อนจานของตัวเองเข้าแทนที่


    อึนฮยอกทำไมทำงี้ล่ะ เค้ากำลังให้ดงเฮชิมอยู่นะ “  หน้าหวานๆของอีทึกหงิกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อเห็นว่าจานของตัวเองโดนเขี่ยทิ้ง.ง ..ง ง ง


    นี่นายสองคนเลิกทะเลาะกันเป็นเด็กๆได้แล้ว ให้ดงเฮตัดสินใจเองว่าอยากกินอะไรน่ะ เถียงกันอยู่ได้ “  ดีมากอุคกี้ พูดซะสองคนนั่นอึ้งไปเลย
         

         ดงเฮมองเพื่อนใหม่ที่เถียงกันเพราะแค่อยากให้เค้าชิมอาหารที่ตัวเองตักมาให้ แล้วก็อมยิ้ม แต่สายตาเจ้ากรรมก็ดันเหลือบไปเห็น   อา
    !... นั่นมันพวกรุ่นพี่ชมรมฟุตบอลนี่นา แล้วก็นั่นไอ้รุ่นพี่ปากเสีย
        

         อีทึกที่เห็นดงเฮกำลังมองอะไรอยู่อย่างสนใจก็หันตามไป



    นั่น พวกรุ่นพี่นี่นา เค้าก็มาทานอาหารกันที่นี่ด้วยอ่ะ “  ร้องซะดังเชียว แล้วทำไมต้องตกใจด้วยที่พวกนั้นมากินข้าวที่โรงอาหาร นักเรียนก็ต้องมากินที่นี่อยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องตื่นเต้นเลยนี่


    จริงด้วย  แปลกแฮะ ดูสิมีแต่คนมอง “ เรียวอุคก็อีกคนดูจะตื่นเต้นเหลือเกิน อะไรกันนะพวกนี้


    ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยอ่ะ ทุกคนก็ต้องมากินที่นี่ไม่ใช่เหรอ “  อยากรู้ก็ต้องถาม ดงเฮพูดพร้อมหันหน้ามาสนใจกับอาหารของตัวเองต่อ


    ถ้าคนอื่นน่ะใช่ แต่ไม่ใช่กับรุ่นพี่พวกนี้ เพราะว่าพวกเค้าเป็นคนดัง พอมากินที่นี่ทีไรนะ โรงอาหารวุ่นวายทุกที พวกเค้าก็เลยไม่ค่อยมาน่ะ “  อีทึกร่ายยาว ก่อนจะหันไปหาอึนฮยอกที่ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว


    ฮยอก พี่ฮันก็มานะ ไม่สนใจหน่อยเหรอ “  เอ่ยแซวเพื่อนที่ตอนนี้เหมือนกับไม่สนใจโลกซะงั้น


    ไม่อ่ะ ฉันหิว ”  ปากก็พูดไป แต่ในใจอึนฮยอกตอนนี้มันเต้นรัวยิ่งกว่ากลองเพลซะอีก เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตอนที่เพื่อนมัวแต่เม้าท์กันอยู่เค้าดันหันไปเห็นพวกนั้นเข้า

         แล้วไอ้พี่ฮันก็ดันมองมาพอดี ยัง ยังไม่พอยังโบกมือให้อีก ไก่น้อยเลยต้องรีบก้มหน้าเพื่อซ่อนหน้าแดงๆของตัวเอง ก่อนที่จะโดนแซว เขินชะมัด
        

         คิบอมที่มองเห็นกลุ่มรุ่นน้องที่นั่งกินอาหารเที่ยงกันอยู่ สายตาคมจับจ้องไม่กระพริบตา ก็ไม่ให้มองได้ไงในเมื่อหนึ่งในนั้นคือเพื่อนบ้านคนใหม่ที่เค้าแอบมองที่ระเบียงนี่นา ตอนแรกที่เห็นที่สนามฟุตบอลมันไกลก็ไม่แน่ใจนัก 

         แต่ตอนที่เห็นว่าร่าง
    บางโดนลูกฟุตบอลหล่นใส่หัวแบบเต็มๆแล้วเค้าที่เป็นคนแรกที่วิ่งเข้าไปช่วย แถมยังเป็นคนอุ้มไปส่งที่ห้องพยาบาลอีก  ให้ตายเถอะใช่จริงๆด้วย 


    เฮ้ คิบอมมองไรวะ “  คยูฮยอนที่เห็นว่าคิบอมกำลังสนใจอะไรก็หันตามไปมอง


    อ๋อ พวกรุ่นน้องหน้าหวานน่ะเอง ไงสนใจคนไหนวะ มองตาไม่กระพริบเลยนะแก “


    เปล่า ”  ปฏิเสธเพียงสั้นๆก่อนจะหันกลับมาสนใจอาหารของตัวเองต่อ




    แล้วนั่นก็ไก่น้อยของไอ้ฮันมันนี่หว่า คนอะไรวะขาวได้ขาวดี “  แซวคนเดียวไม่พอ มันต้องสองขึ้นไปสำหรับคยูฮยอน


     พวกนายนี่เห็นเด็กใหม่ไม่ได้เลยนะ กะจะเก็บให้ครบเลยหรือไงห๊ะ  “  ซองมินเอ่ยขึ้นมาบ้างหลังจากเงียบอยู่นานปล่อยให้พ่อไก่แจ้ทั้งหลายตีปีกพรึ่บพรั่บเวลาเจอคนน่ารักๆ


    อ้าว อิ่มแล้วเหรอซองมิน......แต่ฉันว่านะน้องคนที่เจ็บน่ะน่ารักสุดเลยว่ะ คนอะไรวะหน้าหว๊าน หวาน ยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก “  เจ้าคยูยังพล่ามต่อไม่หยุด ในขณะที่ซองมิน
    ขยับตัวลุกขึ้นยืน


    ฉันจะไปรอที่สนามนะ ถ้ากินอิ่มกันแล้วก็รีบเสด็จตามไปด้วย “  พูดจบก็เดินจากไป


    ฉันไปด้วย “  และเป็นคิบอมที่พูดจบก็เดินตามซองมินออกจากโรงอาหารไป


    ไรวะ ทำเหมือนโกรธใครมาเป็นชาติงั้นแหละ หรือว่าเมนส์จะมาวะ “  ฮันคยองหัวเราะเบาๆ เพราะรู้ว่าที่คยูฮยอนพูดน่ะ
    หมายถึงใคร ที่แน่ๆไม่ใช่ไอ้คิบอมแน่นอน
     



                            

                                         .................................................................................................................................




    หนูจ๊ะ .... หนูจ๊ะ “
      เรียกใครหนูหวา คนหน้าหวานหันมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่ปรากฏร่างของผู้ใดจะถูกเรียกอย่างนี้ได้.......นอกจาก.....


    ก็ หนูนั่นแหละจ๊ะ “  หญิงสาวที่สูงวัยกว่าชี้นิ้วเพื่อยืนยันคำพูดว่าคนที่ตนเองเรียกนั้นคือเค้าน่ะเอง


    ฮะ ...เรียกผมเหรอฮะ “  ดงเฮที่เห็นว่าเธอคนนั้นชี้มาที่ตัวเองเริ่มขานรับ


    จ๊ะ ใช่หนูดงเฮหรือเปล่าจ๊ะ “  ซอฮยอนถามเพื่อย้ำความถูกต้อง


    ฮะ ... คุณป้ารู้จักผมด้วยเหรอฮะ “  จะไม่ให้ถามได้ไงก็เค้าเพิ่งจะมาอยู่ได้สองวันเอง แล้วที่สำคัญเค้าก็ไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนี้แน่นอน


    “ ป้าชื่อซอฮยอนจ๊ะอยู่บ้านหลังนี้แหละ เมื่อวานได้คุยกับของแม่หนู แต่ยังไม่เคยเจอเราเลย แหม ..น่ารักกว่าในรูปอีกนะจ๊ะ
     ร่ายยาว แถมตบท้ายด้วยคำชม


     เอ่อ....ขอบคุณฮะ ผม ลี ดงเฮ ยินดีที่ได้รู้จักครับ “  ก้มตัวทักทายตามมารยาทที่ดีพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้


     มาใกล้ๆหน่อยซิจ๊ะ “  ว่าพลางกวักมือเรียก


     อืม . . . . หนูนี่น่ารักจริงๆเลยนะ หน้าหว๊าน หวาน ผิวก็สวย “  ยกมือขึ้นลูบแก้มขาวไปมา ปากก็เอ่ยชมไปเรื่อยๆ


    เอ! แล้วนี่รอยอะไรจ๊ะเนี่ย “  ร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นรอยตรงขมับของดงเฮ


    “ อุบัติเหตุนิดหน่อยที่โรงเรียนครับ “


    ระวังหน่อยนะจ๊ะ เดี๋ยวหน้าสวยๆของหนูจะเป็นรอยเอา “  บอกอย่างเป็นห่วง ซอฮยอนยอมรับว่ารู้สึกถูกชะตากับเด็กคนนี้เอามากๆตั้งแต่เห็นในรูปตอนที่เข้าไปช่วยแม่ของดงเฮจัดของ แล้งยิ่งได้มาเห็นใกล้ๆแบบนี้ยิ่งเห็นว่าดงเฮนั้นน่ารักมากแค่ไหน

         ถ้าจะให้เทียบกับ คิบอม น่ะเหรอคนละทางกันเล๊ย คนนั้นน่ะออกจะห้าวๆแบบเด็กผู้ชาย แต่ดงเฮนั้นออกจะเรียบร้อยและดูอ่อนหวานกว่ามาก

    เอ่อ ขอบคุณฮะ แต่แค่นี้เองไม่เป็นไรมากหรอกครับ “ 
     ต้องยอมรับว่ารู้สึกดีกับสัมผัสของหญิงสาวตรงหน้าดงเฮเลยปล่อยใหซอฮยอนจับแก้มตัวเองไว้โดยไม่ได้คิดที่จะปฏิเสธ


    แล้วนี่จะไปโรงเรียน แล้วเหรอจ๊ะ “


    ฮะ “  ก้มหน้าน้อยๆเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ามองตัวเองแทบไม่กระพริบตา ต้องยอมรับว่ารู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสจากผู้หญิงคนนี้จริงๆ ดงเฮเลยปล่อยให้ซอฮยอนจับแก้มอยู่แบบนั้น แต่ว่า.....หน้ามันเหมือนจะร้อนๆซะแล้วซิ


    “ ป้าก็มีลูกชายอยู่กับเค้าคนนึง อายุมากกว่าหนูปีนึง แต่เสียดายวันนี้ไม่อยู่ไม่งั้นจะได้แนะนำให้รู้จักกันไว้ “  พูดพร้อมกับอมยิ้ม เมื่อเห็นว่าแก้มขาวๆนั้นตอนนี้ดูมันมีเลือดฝาดยังไงไม่รู้....น่ารักซะจริงๆเลย 

         ซึ่งในความรู้สึกของดงเฮเวลาที่สบตาคู่นั้นแล้วรู้สึกว่ามันดูแปลกๆยังไงพิกล


    ดงเฮ เสร็จรึยังลูก “


    อ้าวคุณพี่ สวัสดีตอนเช้าค่ะ “ ยูริที่เปิดประตูบ้านออกมาเห็นเพื่อนบ้านที่ยืนคุยอยู่กับลูกชายก็รีบเอ่ยทักขึ้นทันที


    พี่กำลังคุยกับหนูดงเฮอยู่น่ะจ๊ะ แล้วนี่จะไปกันแล้วเหรอ “


    ค่ะ ต้องไปส่งดงเฮที่โรงเรียนก่อน แล้วค่อยเลยไปทำงานน่ะค่ะ “ยูริเอ่ยขณะที่ยกมือขึ้นโอบเอวลูกชาย
         

            แม้ว่าเมื่อก่อนนี้สมัยที่พ่อของดงเฮยังมีชีวิตอยู่เธอไม่ต้องทำอะไรนอกจากทำหน้าที่ของภรรยาและแม่ที่ดีเท่านั้น งานนอกบ้านไม่เคยได้แตะ

         แต่เพราะเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปทำให้วันนี้หล่อนต้องลุกขึ้นมาทำงานเพื่ออนาคตของตัวเองและที่สำคัญคือของดงเฮ แม้ว่าเงินที่เหลือจากใช้หนี้แล้วยังมีเหลืออยู่มากพอสมควร แต่หล่อนก็ไม่ควรประมาทนั่งงอมืองอเท้าไม่ใช่รึ เพราะว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา


    งั้นก็รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา เอาไว้เราค่อยคุยกันใหม่นะหนูดงเฮ “  เอ่ยปากบอกกับร่างบางที่ยืนอยู่ในอ้อมแขนมารดา


    ฮะ สวัสดีฮะคุณป้า “  ก้มหัวให้กับผู้อาวุโสกว่าเพื่อลา


    “ น่ารักจริงๆ เจ้าคิบอมน่าจะอยู่ด้วยนะเนี่ย “  เอ่ยตามร่างบางที่ขึ้นรถออกไปแล้ว
                    
                        
                        



                                           ...............................................................................
     
     


    “ หวัดดี ดงเฮ มาแต่เช้าเลย “ เรียวอุคผู้สดใสเป็นฝ่าย
    ทักทายก่อน


    “ นายก็มาแต่เช้าเหมือนกัน “


    “ วันอื่นน่ะไม่ แต่วันนี้น่ะใช่ เพราะพ่อต้องออกไปทำงานแต่เช้าเลยลากเราออกมาด้วยน่ะสิ ฮ้าววววว ง่วงชะมัด “  ว่าจบก็หาวโชว์ซะเลย กลัวไม่เชื่อ


    “ เอาหล่ะเด็กๆเงียบกันได้แล้ว จะเสียงดังไปไหนกันเนี่ย “ อาจารย์ยุนโฮที่เดินเข้ามาถึงปุ๊บก็เสียงเข้มปั๊บ


    “ หยิบหนังสือขึ้นมาแล้วเปิดไปที่หน้า 129 นะ “
     แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่ม ... ก็ ...


    “ อา
    ! ดงเฮ “


    “ ฮะ อาจารย์มีอะไรหรือเปล่าฮะ “  อยู่ๆก็เรียกคนน่ารักตกใจหมด


    “ อาจารย์ลืมบอกไป อาจารย์ฝ่ายปกครองให้ไปหาน่ะ “ น่าน
    ! อายุมากแล้วก็ขี้ลืมซะงั้น


          หลังจากที่ฟังจากเรียวอุคแล้วว่าห้องอาจารย์ฝ่ายปกครองอยู่ตรงไหนแล้วดงเฮก็เดินออกจากห้องเรียนเดินไปตามทางที่ฟังมา แต่.... เอ ที่นี่ทำไมมันกว้างอย่างนี้นะ แล้วตึกเนี่ยจะสร้างอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ ดูสิเดินไปเดินมาเลยชักงงๆแฮะ


    “ เอ ใช่ตึกข้างหน้ารึเปล่านะ “  ร่างบางที่หันรีหันขวางมองอย่างไม่แน่ใจนัก


    “ น่าจะใช่นะ ก็เรียวอุคบอกว่าตึกสีเขียวนี่นา “  เงยหน้าขึ้นมองดูตึกหลังใหญ่ที่ตัวเองคิดว่าน่าจะเป็นตึกที่อยู่ของอาจารย์ฝ่ายปกครอง


    “ ตายแล้ว ลืมถามว่าอยู่ชั้นไหนอ่ะ “ ว่าแล้วมือขาวๆก็ถูกยกขึ้นเขกหัวตัวเองหนึ่งที


    “ ไม่น่าลืมเลย “  บ่นให้กับตัวเองก่อนที่จะหันมองไปรอบๆตัวเพื่อหาตัวช่วย แต่ว่าเวลาเรียนแบบนี้จะหาใครสักคนคงลำบากเพราะว่าทุกคนคงอยู่ในห้องเรียนกันหมด


    “ คงต้องขึ้นไปดูทีละชั้นละนะ อยากโง่เองนิ่ “  เมื่อคิดได้ดังนั้นขาเรียวเลยพาเจ้าของเดินตรงไปยังทางขึ้นตึก แต่ว่าด้วยความรีบร้อน บวกกับความที่มัวแต่มองนั่นมองนี่ไปเรื่อยทำให้ร่างบางไม่ได้มองด้านหน้าที่เป็นมุมตึกพอดี ... ทำให้ ...


    “ โอ้ย
    ! “  ร้องไม่ทันขาดคำร่างเล็กๆก็หงายหลังก้นกระแทกพื้นอย่างจัง


    “ เฮ้ย
    ! น้องเป็นไรไหม “ ดูสิไอ้คนโดนชนไม่เป็นอะไรเลยซักนิด แต่คนชนนี่สิลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว


    “ อา เจ็บชะมัด “   ว่าพลางคลำก้นตัวเองป้อยๆ อะไรกันนักหนานะ เข้ามาเรียนสองวันก็เจ็บตัวทั้งสองวัน อะไรมันจะดวงดีขนาดนี้ ลี ดงเฮ เอ้ย
    !


    “ เป็นอะไรมากมั้ย “  เมื่อรู้สึกว่าคำถามแรกไม่ได้ถูกสนใจ ร่างสูงเลยตามไปอีกหนึ่งคำถามที่ยังเหมือนเดิม พร้อมกับยื่นมือไปให้


    “ อา ไม่เป็นไรฮะ “ เมื่อถูกถามเป็นครั้งที่สอง ดงเฮจึงเงยหน้าขึ้นมองคนที่โดนชน


          โอแม่เจ้า
    ! คนอะไรหล่อชะมัดเลย ตะลึงอยู่ชั่ววินาที มือหนาก็คว้าเข้าที่เอวบางแล้วออกแรงพยุงตัวให้ลุกขึ้นจากพื้น


    “ อา . . ขอบคุณฮะ “ เอ่ยตะกุกตะกัก เมื่อคนตรงหน้าก้มตัวลงมามองตัวเอง


    “ เจ็บตรงไหนมั้ย “  ยังคงถามต่อด้วยความเป็นห่วง


    “ นิดหน่อยฮะ ไม่เป็นไรมาก “ พูดพร้อมกับก้มหน้าหลบสายตาที่จ้องมา


    “ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วงั้น พี่ไปก่อนนะ “ ว่าจบก็ทำท่าจะเดินจากไป
        

         ดงเฮที่เห็นว่าคนตรงหน้ากำลังจะเดินจากไปก็รีบเรียกไว้ก่อน


    “ เอ่อ.อ  ขอโทษฮะ คืออยากถามอะไรหน่อยได้ไหมฮะ “  ไม่ได้หลงเสน่ห์นะแค่จะถามทางน่ะ


    “ ว่ามาซิ “  ยิ้มบางให้กับคนตรงหน้าที่ดูเหมือนจะเกรงใจเค้าเอามากๆ แถมดูกล้าๆกลัวยังไงพิกล นี่เค้าดูดุมากขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย

    “ คือ..อ ผมจะไปห้องอาจารย์ฝ่ายปกครองน่ะฮะ แต่ว่าไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน “  กว่าจะหลุดออกไปหมดทุกคำก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน  อะไรกันดงเฮแค่โดนรุ่นพี่มองหน้าแค่นี้ถึงกับแทบจะพูดไม่ออกเลยเหรอเรา


    “ เดินขึ้นตึกนี้ไปที่ชั้นสาม แล้วเลี้ยวขวาก็ถึงแล้ว “  ร่างสูงยังคงพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ยังประดับอยู่บนใบหน้า


    “ ขอบคุณฮะ “  กล่าวขอบคุณรุ่นพี่ที่ชี้ทางสว่างให้ ไม่งั้นกว่าจะได้พบอาจารย์อาจจะถึงเที่ยง


    “ ไม่เป็นไร ยังไงก็ระวังด้วยนะอย่าไปชนใครเข้าอีกล่ะ “  ปิดท้ายด้วยคำแซวจบ


         ร่างเล็กที่พอถูกแซวเข้าให้แก้มใสๆก็เริ่มมีสีขึ้นนิดๆซะแล้ว แล้วรีบหมุนตัวกลับอย่างเร็ว ก็ขืนอยู่คงได้อายมากกว่านี้แน่

           ชายหนุ่มที่มองตามร่างเล็กที่เดินจากไปก็กดยิ้มมุมปากอย่างอดไม่ได้กับความน่ารักของรุ่นน้องที่เพิ่งจะพบกันครั้งแรกแต่ว่าสามารถเรียกรอยยิ้มจากเค้าได้อย่างต่อเนื่อง
    ขณะที่ขายาวกำลังจะก้าวเดินออกไปนั้น พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับบางอย่างที่พื้น
         นี่คงเป็นคนตัวเล็กเมื่อกี้นี้ทำหล่นเอาไว้แน่ๆ ชายหนุ่มหยิบสิ่งนั้นขึ้นมาพิจารณาก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่ออีกครั้ง


    " ลี ดงเฮ เหรอ งั้นเราได้เจอกันอีกแน่ "





    ใครกันน้า .....



    ......ลองทายดูซิว่าใครเอ่ย...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×