ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : One Love # 4
One Loveร รักนี้มีแค่เรา
" ดงเฮ ดงเฮ "
" ฮือ.. ฮือ..อ..อ.. ดงเฮ "
" ใครกันนะ ที่มาร้องไห้อยู่แถวนี้ "
เปลือกตาสวยค่อยๆเปิดขึ้น กระพริบตาถี่เพื่อปรับโฟกัส ภาพที่เห็นก็คือเพื่อนสามคนของเค้าที่ยืนอยู่ข้างเตียง
ส่วนสามคนนั่นพอเห็นดงเฮตื่นเท่านั่นก็พากันฮือเข้ามาที่เตียงโดยมิได้นัดหมาย
" ดงเฮ เป็นไงบ้างเจ็บตรงไหนหรือเปล่า" เจ้าไก่ตัวขาวเป็นแรกที่เริ่มยิงคำถาม
" ฮือ ฮือ นายไม่เป็นไรใช่ไม๊ ฉันตกใจแทบแย่ " อุคกี้น้อยพูดพร้อมกับยกมือน้อยๆขึ้นปาดน้ำตาของตัวเอง
ดูสิทั้งน้ำมูกทั้งน้ำตาเปื้อนเต็มหน้าหวานๆหมดเลย คงจะร้องอยู่นานใช่ไหมเนี่ย! ตาบวมหมดเลย
" นายสลบไปตั้งหลายนาที เล่นเอาพวกเราตกใจหมดเลย " อีทึกพูดพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแก้มขาวๆนั่นที่ตอนนี้มันยังดูซูบซีดอยู่
" เอ.. ทำไมเงียบ... หรือว่านาย... ความจำเสื่อมจำพวกเราไม่ได้เหรอ ฮือๆไม่เอานะดงเฮ มันต้องไม่เป็นยังงั้น " เรื่องโวยวายนี่ต้องยกให้เค้าเลยอุคกี้
" อย่าเพิ่งโวยวายซิเรียวอุค ดงเฮ อาจจะยังงงอยู่ก็ได้ " เจ้าไก่ผู้มีสติดีเลิศ ( ยกเว้นตอนที่อยู่ข้างสนามฟุตบอล ) ปลอบเพื่อนตัวน้อย ก่อนจะหันไปหาคนที่นอนอยู่บนเตียง
" นายจำพวกเราได้ใช่มั้ย ฉันอึนฮยอก ส่วนนี่ก็อีทึก ส่วนนั่นเรียวอุคที่เรียนห้องเดียวกับนายไง " ถามออกไปทั้งที่สีหน้าตัวเองก็ดูกังวลไม่ต่างจากเรียวอุคนักเพียงแต่ไมโวยวายเท่านั้น
" จำได้สิ " ตอบเพื่อนออกไปเพราะกลัวว่าสามคนนั้น จะเป็นบ้าไปซะก่อน
แต่จะว่าไปจะว่าเค้าก็ไม่ถูกก็พอเค้าตื่นขึ้นมาสามคนนั่นก็เล่นยิงคำถามแบบไม่เว้นช่องไฟให้เค้าได้ตอบเลยนิ
ดงเฮพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานๆให้เพื่อนเพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นอะไร แล้วก็จำได้ทั้งสามคนนั่นแหละ ใครจะลืมได้เพื่อนใหม่ที่น่ารักขนาดนี้คงหาที่ไหนไม่ได้ง่ายหรอก
" เฮ้อ! งั้นก็ดีขึ้นมาหน่อย ฉันคิดว่านายจะความสำเสื่อมซะอีก " อุคกี้น้อยพูดขึ้นบ้างหลังจากที่เช็ดน้ำหูน้ำตาเรียบร้อยแล้ว รอยยิ้มสวยๆก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าได้ซะที
" ว่าแต่ ฉันเป็นอะไรไปน่ะ ทำไมมานอนที่นี่ได้ แล้วที่นี่ที่ไหนกัน "
" นี่นายจำไม่ได้เหรอ " ถ้าจำได้จะถามมั้ยล่ะอีทึกคนสวย
" ก็... ที่สนามฟุตบอลไง "
" ใช่แล้ว สนามฟุตบอล " พึมพำกับตัวเอง เค้ากับเพื่อนกำลังจะไปกินข้าวกัน แล้วจู่ๆ ก็ได้ยินเสียงที่ตะโกนมาจากในสนาม ว่าให้ระวังอะไรสักอย่างแต่พอเค้าหันไปเท่านั้นแหละ เจ้าลูกกลมๆนั่นมันก็ลอยมาโดนหัวเค้าอย่างจัง คิดแล้วเจ็บชะมัด
ร่างบางยกมือขึ้นลูบเบาๆที่ขมับตัวเองทันที่มือสัมผัสก็รู้ว่ามันคงปูดขึ้นมาแน่ๆ
........ แล้วงี้เค้าจะเสียโฉมมั้ยเนี่ย!...........
" อา เจ็บจังเลย " นี่ขนาดแตะเบาๆนะยังเจ็บขนาดนี้เลย ริมฝีปากบางถูกขบน้อยๆเมื่อความเจ็บแล่นผ่านมา ขณะที่ขยับตัวเพื่อที่จะนั่งพิงหัวเตียง
" ค่อยๆนะ เอา cold packนี่ประคบไว้ก่อน มันจะได้ไม่ค่อยบวม " อึนฮยอกว่าพลางหยิบเจ้าแผ่นสีฟ้าๆที่เย็นเจี๊ยบขึ้นวางตรงบริเวณที่ปูดโปน
" แล้วนี่ก็ห้องพยาบาลของโรงเรียนน่ะ " ยังว่าต่อในขณะที่มือก็ยังถือเจ้า cold pack ประคบให้ตลอด
ส่วนสองคนนั่นก็ยืนพยักหน้าหงึกหงักให้เพื่อยืนยันว่าเนี่ยเป็นห้องพยาบาลจริงนะๆไม่ได้โม้
" แล้วฉันมาที่นี่ได้ยังไงอ่ะ อย่าบอกนะว่าพวกนายอุ้มฉันมา " ทำหน้าตาแบบว่าไม่เชื่อจริงๆนะถ้าพวกนายบอกยังงั้น.. ก็พวกนี้น่ะตัวไล่เลี่ยกับเค้าให้อุ้มคงทำไม่ไหวแน่ แต่ถ้าลากมา.......ก็อาจจะ
แต่จากสภาพตัวเองแล้วไม่น่าจะใช่ เพราะถ้าจริงสภาพเค้ามันคงเยินกว่านี้เป็นแน่
" พวกพี่พามาเองแหละ " เสียงที่ดังขึ้นทำให้สี่หนุ่มที่อยู่ในห้องก่อนหน้าหันไปตามเสียงทันที
ที่หน้าประตูห้องปรากฏร่างชายหนุ่มสี่คนที่ตอนนี้พาตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
" เป็นไงบ้างเรา เจ็บตรงไหนบ้างห๊ะ " ยังเป็นคนเดิมที่เอ่ยปากถาม เจ้าของรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม จมูกโด่ง รับใบหน้าทำให้ดูดีมากจริงๆ
" นึกยังไงที่เอาหัวไปรับลูกฟุตบอลน่ะ คิดว่าตัวเองเป็น เดวิด เบคแฮม หรือไง " สาบานได้ว่านั่นน่ะปากคน ดงเฮมองตามเสียงที่พูดขึ้นมา ก็พบเจ้าของเสียง ฮึ! หน้าตาก็ดีทำไหมพูดจาสุนัขไม่รับประทานขนาดนี้
" คิบอม เค้าล้อเล่นน่ะ! หมอนี่แหละที่อุ้มเรามาที่ห้องพยาบาล ตอนที่สลบอยู่ " คนนี้ ซิพูดจาค่อยน่าฟังหน่อย หน้าตาดีพูดจาก็เพราะ เอ! ใช่ คนที่ชื่อ ฮัน นั่นหรือเปล่านะ
" แล้วนี่มีแผลตรงไหนหรือเปล่า " อีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดเอ่ยออกมา แม้ว่ารูปร่างจะไม่ได้สูงใหญ่เหมือนสามคนนั่น
แต่ว่าด้วยน่าตาที่น่ารักบวกกับร่างที่ออกจะติดอวบๆหน่อย ผิวขาวอมชมพูก็ทำให้ดูดีไปอีกแบบ คงไม่ใช่นักฟุตบอลหรอกนะ ที่มั่นใจเพราะผิวมันบ่งบอกว่าไม่น่าใช่
" ว่าแต่ไม่เคยเห็นหน้าเลยนิ่ เป็นเด็กใหม่เหรอเราน่ะ " คงจะเป็นพี่ฮันนั่นแหละที่เอ่ยถาม
" เอ่อ.... ดงเฮ ฮะ เพิ่งเข้ามาเรียนวันแรก อยู่ห้องเดียวกับเรียวอุค " และเป็นอีทึกที่ตอบออกไป
ส่วนเจ้าไก่ตอนนี้มันเริ่มมีอาการเหมือนตอนที่อยู่ข้างสนามฟุตบอลอีกแล้ว หน้าเริ่มแดงๆน้อยๆ แถมไม่ยอมมองหน้าใครๆอีก แล้วที่สำคัญไอ้ที่ตอนแรกมันประคบให้ดงเฮตอนนี้มันเริ่มไม่ตรงแผลซะแล้ว
" โอ๊ย .... เบาๆหน่อยซิ ฮยอกอ่ะ เค้าเจ็บนะ " ดงเฮร้องออกมาอย่างลืมตัวเมื่อเจ้าเพื่อนตัวขาวมันเริ่มกดแผลแรงขึ้นเรื่อยๆ
" อ๊ะ ขอโทษ เจ็บมากไหม " ขอโทษเพื่อนเป็นพัลวัน เมื่อเพื่อนเริ่มโวยวาย
" ฮึ... ฮึ " นั่นหัวเราะเยาะใครไม่ทราบครับคุณรุ่นพี่ เจ้าไก่ได้แต่บ่นในใจ ไม่กล้าสบสายตาคนที่หัวเราะตัวเองอยู่
" เอ่อ ลืมแนะนำ นี่รุ่นพี่ปีสองน่ะ นั่นรุ่นพี่ คยูฮยอน " คนดูน่าตาหล่อเหลาคนนั้นชื่อคยูฮยอนนั่นเอง
" นั่นก็รุ่นพี่ ฮันคยอง " ใช่พี่ฮันจริงๆด้วยหน้าตาดูใจดีมากๆเลย แต่สายตาเวลามองเจ้าไก่นี่มันออกจะแปลกๆหน่อย
" นั่นก็รุ่นพี่ ซองมิน " ที่แท้พี่อวบก็ชื่อซองมินชื่อน่ารักสมตัวแฮะ
" ส่วนคนนั้นรุ่นพี่ คิบอม ทั้งหมดอยู่ชมรมฟุตบอลของโรงเรียน " ที่แท้ก็ชื่อคิบอมน่ะเอง! ขนาดเค้าแนะนำตัวยังเก็กไม่เลิก
ดงเฮก้มหัวให้กับรุ่นพี่ทุกคน ก็มันเป็นมารยาทที่ดีนี่นา แต่ว่าไอ้คนที่ยืนตัวดำๆอยู่ตรงมุมห้องนั่นไม่เห็นจะน่าทักทายซักนิดเลย
" ลี ดงเฮ ฮะอยู่ปีหนึ่งห้อง B ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยนะฮะ " ปิดท้ายด้วยคำขอบคุณ แม้ว่าที่เค้าต้องเจ็บตัวจนต้องมานอนอยูที่นี่ก็เพราะรุ่นพี่พวกนี้ก็ตาม
" ที่ต้องขอบคุณน่ะ ต้องไอ้คิบอมเลย มันนะอุ้มเรามาที่ห้องพยาบาลเร็วยิ่งกว่าจรวดซะอีก พวกพี่แทบจะตามไม่ทันแน่ะ " ฮันคยองพูดพร้อมกับอมยิ้ม เมื่อนึกถึงภาพที่เพื่อนของตัวเองอุ้มรุ่นน้องหน้าหวานมาที่นี่ ดูมันร้อนรนเหมือนกลัวว่าดงเฮจะตายยังไงยังงั้นเลย
" เอ่อ ขอบคุณฮะ รุ่นพี่คิบอม " หันไปขอบคุณอย่าเป็นทางการอีกครั้ง แต่ว่า....
" จะไปกันได้หรือยัง ฉันหิวข้าวจะแย่แล้ว กินเสร็จจะได้ซ้อมกันต่อ เสียเวลาชะมัด " ร่างสูงบ่นเบาๆกับคำสุดท้าย แต่ว่ามันก็ยังดังพอให้คนที่เพิ่งกล่าวขอบคุณไปได้ยินอย่างชัดเจน
" เอ่อ งั้นพวกพี่ขอตัวก่อนนะ มีอะไรก็บอกได้นะ " คยูฮยอนเอ่ยขณะที่หมุนตัวออกจากห้องตามเพื่อนๆไป
" แล้ววันหลังก็อย่าเอาหัวไปรับลูกบอลใครเค้าอีกล่ะ เวลาเดินน่ะ หัดมองหน้ามองหลังซะบ้าง จะได้ไม่เจ็บตัวแบบนี้อีก " คำพูดเหมือนจะห่วงใยแต่ในความรู้สึกของดงเฮมันคือคำพูดประชดซะมากกว่า หรือไม่งั้นก็หาว่าเค้าโง่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ
คนบ้า! พูดไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่นเค้าเลยดงเฮส่งสายตาเคืองๆให้กับเจ้าของคำพูด ก็จะใครซะอีกล่ะก็ไอ้รุ่นพี่ตัวดำๆที่ว่าเค้าเป็นเดวิด เบคแฮมนั่นแหละ
คนบ้า! พูดไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่นเค้าเลยดงเฮส่งสายตาเคืองๆให้กับเจ้าของคำพูด ก็จะใครซะอีกล่ะก็ไอ้รุ่นพี่ตัวดำๆที่ว่าเค้าเป็นเดวิด เบคแฮมนั่นแหละ
" เท่ห์ชะมัดเลยเน๊อะพวกรุ่นพี่เนี่ย " เอาแล้วอุคกี้น้อยเริ่มพร่ำเพ้อ
" คนอื่นอาจจะใช่ยกเว้นคนหนึ่งแหละ " ดงเฮเบ้ปากน้อยๆเมิ่อนึกถึงหน้าของบางคน
" หมายถึงรุ่นพี่คิบอมน่ะเหรอ นั่นแหละคง concept เจ้าชายเย็นชาเลยนะ เท่ห์จะตายไป " อีทึกก็อีกคนที่เหมือนจะโดนเสน่ห์ของหมอนั่นแบบเต็มๆ
" ปากร้ายอย่างนั้นน่ะนะที่เรียกว่ามีเสน่ห์ นายคงเข้าใจผิดแล้วล่ะอีทึก " ดงเฮยังคงยืนยันว่านั่นไม่ใช่เสน่ห์แต่เป็นจุดด้อยของหมอนั่นต่างหาก เอ แต่เหมือนว่าเพื่อนเค้าจะหายไปคนหนึ่งหรือเปล่านะ
" อึนฮยอกเป็นไรหรือเปล่าเงียบเชียว " ถามเจ้าเพื่อนตัวขาวที่นั่งเงียบเหมือนโดนใบ้รับประทานก็ไม่ปาน
" มันไม่เป็นไรหรอกดงเฮ มันจะเป็นแบบนี้เสมอๆเวลาที่อยู่ใกล้หรือได้เห็นรุ่นพี่ ฮันคยองสุดหล่อน่ะ " และเป็นเรียวอุคที่เปิดประเด็นกัดเพื่อนตัวขาวก่อน
" ใช่ มือไม้อ่อน พูดไม่ออกได้แต่ยืนให้ใบ้กิน นี่ถ้าเอาไม้เขี่ยนะเจ้าไก่มันคงสลายตัวไปต่อหน้าต่อตาเราแน่ๆ " ตามติดมาด้วยอีทึกที่ไม่ยอมให้เพื่อนได้ผุดได้เกิด
" ฮยอก ชอบรุ่นพี่ฮันคยองเหรอ " น้าน.. ดงเฮผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรพูดออกมาได้ตรงใจจริงๆ เจ้าไก่เลยได้แต่หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุกไปแล้ว
" ไม่ใช่เพิ่งชอบนะ ชอบมาตั้งแต่ม.ต้นแล้ว แต่ไม่กล้าเข้าหา ได้แต่มองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ มาหลายปีดีดัก " ช่างสรรหาคำมาเหน็บแนมดีจริงๆอุคกี้
" นี่ พวกนายเลิกแซวฉันได้แล้วนะ ไม่งั้นฉันจะโกรธจริงๆด้วย " ชักเริ่มมีอารมณ์แล้ว ( อารมณ์โมโหน่ะ )ซะแล้วเจ้าไก่ของพี่ฮัน
" แต่ว่านะ ฮยอกน่าจะบอกรุ่นพี่ให้เค้าได้รู้นะ เพราะอีกแค่ปีเดียวเค้าก็จะจบแล้วอ่ะ " ยัง.... ยังไม่จบปลาน้อยเลยตอกย้ำอีกรอบ
" ดงเฮ นายเลิกบ้าตามสองคนนั่นได้แล้วนะ ไม่งั้นฉันจะไม่พูดกับนายจริงด้วย " หันหน้ามาพูดกับดงเฮแบบจริงจัง
" ฉันจะไปกินข้าวแล้ว ใครจะกินก็ตามมา ใครอยากจะนั่งพร่ำเพ้อต่อไปก็เชิญ " พูดจบก็เดินสะบัดหงอนออกจากห้องไปทันที
" เอาไว้เราค่อยมาคุยกันอีกทีดีมั้ย ตอนนี้ไปกินข้าวกันก่อนดีกว่า ไม่งั้นไอ้ฮยอกมันงอนตัวซีดกว่าเดิมจะลำบาก " สามหนุ่มที่เหลือในห้องสบตากันอย่างมีความหมาย
" ว่าแต่นายเดินไหวมั้ยอ่ะ ดงเฮ " อีทึกพูดเมื่อเห็นว่าดงเฮยังจับที่หัวตัวเองตลอด
" ไหวซิ ฉันไม่เป็นไร แค่เจ็บนิดหน่อยเอง แต่ตอนนี้ความหิวมันมากกว่าเจ็บหลายเท่าตัวเลยล่ะ " พูดเพียงเท่านั่นก็สามารถเรียกรอยยิ้มจากเพื่อนอีกสองได้แล้ว
ดงเฮมองเพื่อนใหม่ที่พร้อมใจกันเข้ามาพยุงเค้าขึ้นยืน ช่างเป็นการรับน้องที่เจ็บตัวใช่ย่อยจริงๆ แต่นั่นมันก็ทำให้เค้าได้เพื่อนที่ดีเพิ่มอีกตั้งสามคนแน่ะ คุณว่ามันคุ้มไหมล่ะ แต่สำหรับดงเฮแล้วมันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มซะอีก
จบตอนสี่เพียงเท่านี้เด้อค่า .....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น