คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : AZB 2: Dragon VS Phoenix [1] เวทปะทะดาบ
AZB 2: Dragon VS
“เอาล่ะ ในเมื่อแยกเป็นสองทีมเรียบร้อย นี้คือกติกา ฟังให้ดี เพราะจะพูดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”ชายท่าทางใจดี แต่หน้าบากกล่าว
“แต่ละทีมจะมีจำนวน 100 คน ให้แยกเป็นทีมย่อยทีมล่ะ 5 คน เป็น 20 ทีมย่อย หรือที่จะเรียกต่อไปว่า แท็ค แต่ละแท็คมี 5 คน
“การแข่งคือ การต่อสู้ 5 ต่อ 5 คน แท็คใดชนะ ทั้งแท็คจะผ่านรอบนี้ และเป็นการเพิ่มคะแนนให้ทีม เมื่อแข่งครบ 20 คู่แล้ว ทีมใดมีคะแนนมากกว่า จะทำให้แท็คที่ผ่านเข้ารอบมีสิทธิ์ในการไม่ต้องคัดเลือกรอบสุดท้าย”
สายตาเคร่งๆของชายคนนั้นมองไปรอบๆผู้สมัคร โดยหยุดอยู่ที่เฟร์เป็นคนสุดท้าย
“เอาล่ะ แบ่งแท็คได้เลย”ชายคนนั้นกล่าว ก่อนที่ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทันที...
“ท่านครับท่าน!”เสียงตะโกนโหวกเหวกของประธานฮาเดล ที่กำลังวิ่งมาซุบซิบกับอาจารย์สองคน
“เอ่อ...ขอให้นักเรียนทุนทั้ง 4 คน อยู่ทีมเดียวกันกับ ลูฟา โดโรซ่า ด้วย”
สายตาสี่คู่กำลังเพ่งมองเด็กอภิสิทธิ์ที่กำลังเดินไปยืนยังจุดที่โล่งๆ ไม่มีคนมุงมาก
“เฮ้ หวัดดี ฉันชื่อ เฟเซีย ยินดีที่ได้รู้จักนะลูฟา”เฟร์เข้าไปตีสนิทอย่างรวดเร็ว พลางยิ้มแฉ่งให้อย่างน่ารัก (และน่าถีบเหมือนเดิม)
“เรียกว่า ลูฟ ก็ได้”น้ำเสียงทุ้มนุ่มจากคนเบื้องหน้า ทำให้เฟร์แอบยิ้มในใจ กับมาดเจ้าชายแห่งความมืดที่หล่อเหลาเอาการ เรือนผมสีดำถูกปล่อยยาวพลิ้วไปกับสายลม นัยน์ตาคมกริบเหมือนดาบแห่งรัตติกาลสีดำทะมึนดูนิ่งเฉย
“อื้อ ลูฟก็ได้ ยังไงนายก็เรียกฉันว่า เฟร์แหละกัน”เฟร์กล่าว พลางยิ้มเหมือนเดิม “เจอกัน ครึ่งๆ”
“เจอกัน? ครึ่งๆ??”ลูฟหันมาถามพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย
“ก็นายให้ฉันเรียกนายว่า ลูฟ ดังนั้น นายก็เรียกฉันว่า เฟร์ เขาเลยเรียกว่า มาเจอกันครึ่งๆ ไม่เสียเปรียบกันไง”ลูฟพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจกับศัพท์วัยรุ่นพิลึกนั้น
“สวัสดี ฉันหนึ่งในนักเรียนทุน ชื่อ เรฟาเอล หรือจะเรียกว่าเรฟก็ได้”อีกหนุ่มเดินเข้ามาทักทาย พร้อมกับสายตาที่ทำให้เฟร์นึกหมั่นไส้นิดๆกับดวงตาที่ไม่มีแววเป็นมิตรเหมือนคำพูดเอาเสียเลย
“คาโล วาเนสตรา กับ ลีโอนาส ฟรานซิส 2 นักเรียนทุน”คาโล หนุ่มหล่อเจ้าของ “รอยยิ้มพิฆาตกระชากใจสาว” (ตั้งชื่อ BY: เฟร์) พร้อมกับหนุ่มหล่อข้างๆที่ยิ้มน้อยๆอย่างตลกให้เฟร์
“ว่าแต่ ทำไมพวกเราต้องอยู่แท็คเดียวกันหมดเลยล่ะ”เฟร์บ่นขึ้นมา
“ผู้ใหญ่ทำอยากดูอะไรสนุกๆล่ะมั้ง”คาโลกล่าวพลางยิ้มที่ทำให้หน้าดูชั่วไปหนึ่งวิฯ
“อะไรคือ สนุกๆ”เฟร์ชักสีหน้างง
“สนุกก็คือ สนุก มีแต่คนโง่เท่าแหละที่ไม่รู้ว่ามันแปลว่าอะไร”เสียงตอกกลับมา เรียกสายตาขุ่นมัวของเฟร์ให้หันไปมองยังผู้พูดที่ยิ้มร่ามาให้
“เออ”เฟร์ตอบกลับแบบห้วนๆ ก่อนที่เธอจะระเห็จตัวเองๆไปยืนกับลูฟที่ (อุตส่าห์) เขยิบที่ให้
“ว่าแต่ ทำไมเธอถึงไม่มาทดสอบตั้งแต่แรกล่ะ อภิสิทธิ์เป็นบ้า”คนไม่รู้ว่าโดนเมินอย่างเรฟเอ่ยถามออกมา เรียกได้แต่สีหน้าบูดบึ้ง ไม่ตอบอะไร
“ทำไมมาสายล่ะ”คราวนี้เจ้าชายแห่งความมืดของเฟร์ (ไปเป็นของมันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี้ย) เอ่ยถามแทน
“พึ่งได้รับแจ้ง”สาวเจ้าตอบก่อนมองมายังเรฟ แล้วสะบัดหน้าหนีอย่างเมินๆ
“พึ่งได้รับ?”คาโลถามพลางทำสีหน้างุนงงแบบหล่อๆ (ทำได้ไง = =’’)
“อืมนะสิ จะว่าไป ฉันยังไม่รู้เลยว่าได้เรียกเพราะอะไร”เฟร์กล่าวตามที่ตัวเองสงสัยมานาน
“นักเรียนทุนทุกคนจะมีความสามารถที่แตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างลีโอ ก็มีพลังความมืดสูง คาโลพลังน้ำแข็ง ส่วนฉันก็เสียง”คนที่โดนเมินกล่าวออกมา
“ใครถามมิทราบย่ะ!”
“อยากบอกนะ โทษที คิดว่าไม่อยากฟัง”
“ไอ้โรคจิต!”
“ถ้าโรคจิต ก็ต้องคุยกับคนโรคจิตนะสิ”
“นายด่าใคร!”
“ไม่ได้ด่านะ...แค่บอกเฉยๆ”
“ฮึ่ย”คนเถียงคนไม่ขึ้นอย่างเฟร์ได้แต่ฮึดฮัดอย่างไม่พอใจ
“แล้วเธอมีพลังอะไรล่ะ”คาโลถามอย่างไม่เจาะจงคนตอบ
“ไม่รู้สิ”เฟร์ตอบพลางยิ้มแหยๆไปให้
“เธอเก่งอะไรบ้างล่ะ”ลูฟถามขึ้นบ้าง ลีโอก็ทำได้แค่จ้องมองมาอย่างรอคอยคำตอบ
“ดาบนะ...ฉันใช้เป็นอยู่อย่างเดียว”
“ห๊า”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ทุกแท๊คตอนนี้กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะกำลังปรึกษาวางแผนกัน หากแต่มีเพียงแท็คพิเศษที่มีอภิสิทธิ์ไม่เหมือนคนอื่นเท่านั้น กำลังมีสีหน้าเคร่งเครียดเพราะคนที่กำลังทำหน้าตาเจี๋ยมเจี้ยม
โรงเรียนเวท ที่รับคนอย่างจำกัดต่อปี...
...กลับรับนักเรียนที่ไม่เป็นเวท มาเป็นนักเรียนทุน!!!
จะบ้าตาย!
พลันสายตาสีมรกตหันไปสบกับนัยน์ตาสีฟ้าคู่สวยนั้นที่กำลังทำหน้ายู่ยี้ บ่นอะไรงึมงำอย่างจับความไม่ได้ สายตามรกตก็ลดความเครียดลงเป็นสายตาขบขันแทน
“แล้วฝีมือดาบของเธอเป็นอย่างไงล่ะ”น้ำเสียงที่ถามอย่างอ่อนโยน เรียกสายตาทั้งกลุ่มมามอง คนที่โดนถามก็ยักไหล่แล้วตอบอย่างกวนๆว่า
“จะลองดูก็ได้ ว่าเจ๋งแค่ไหน”
“ก็เอาสิ”คำตอบกลับที่ไม่ได้เป็นอย่างคาด ทำให้ตาเบิกกว้าง ปากพะงาบๆ อย่างไม่สมหญิง ก่อนที่จะถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นายจะเอาอะไรมาสู้ล่ะ ฉันจะได้เลือกดาบให้ถูก”
“ดาบเยอะหรอ”คำตอบที่ไม่ใช่คำตอบเอ่ยออกมาอย่างใคร่รู้
“ไม่มากหรอก”เฟร์ตอบกลับอย่างงั้นๆ “ตกลงนายจะเอาอะไรมาสู้ฉันล่ะ ดาบกับดาบ หรือจะเอาพวก ขวาน ทวน หอก ส้อม ก็ได้นะ”
“ส้อม??”เรฟเอ่ยทวนอย่างสงสัย โดยมีลูฟที่ยืนทำหน้างงเป็นตัวประกอบ (= =’’)
“ก็ใช่นะสิ ไม่เคยรู้หรือไงนะ ว่าทุกอย่างรอบตัวก็เป็นอาวุธได้หมดถ้าอยู่ในมือของคนที่มีฝืมือนะ เอ๋....หรือว่าฉันประเมินนายโรคจิตนี้ผิด”สายตาประเมินตรวจกวาดสายตาตรวจสอบทั้งเรือนร่างสูงของ ‘โรคจิต’ ที่กำลังยืนเสียววูบๆ
“เอาเวทมนต์สู้ได้หรือเปล่าล่ะ”คนถามๆอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ (หลังจากที่ถูกประเมินไปเมื่อกี้)
“ได้ๆ”เจ้าตัวแสบพยักหน้าตอบอย่างสบายใจ ส่วนคนดูรอบข้างกลับกำลังคิดอย่างเป็นห่วงปนงุนงง
‘ผู้หญิงคนนี้ คิดจะเอาเศษเหล็กไปสู้กับนักเรียนทุนที่มีพลังด้านเสียงเนี้ยนะ?’
“เอาล่ะ พร้อมเมื่อไหร่ ก็บอกแล้วกัน”นัยน์ตาสีเขียวมรกตพราวระริก ในใจนึกว่าคนตรงหน้าโง่หรือเปล่าที่คิดมาลองดี แต่หากเสียงลึกๆในใจบอกกลับมาว่า มันไม่ใช่เรื่องปกติ
“พร้อมแหละ”หญิงสาวกล่าว ก่อนยืนแยกขาออกทำท่าเตรียมพร้อม พลางส่งยิ้มอย่างกวนบาทาไม่สมหญิงมาให้
“ดี งั้นเริ่มกันเลย”
สิ้นเสียง ร่างสูงก็พึมพำร่ายเวทเป็นท่วงทำนองไพเราะ พลัน บรรยากาศแจ่มใสก็ปรากฏเมฆครึมฟ้าครึมฝน ผู้คนที่กำลังพูดคุยก็หยุดมองการต่อสู้ที่เห็นว่าเอาเปรียบอย่างชัดๆ
พ่อมดหนุ่มกับเด็กที่คิดจะสู้ด้วยมือเปล่า!!
“ไพริออน!!!!”เสียงคำประกาศก้อง บังเกิดมังกรสีดำทมึนจากฟากฟ้าบินโฉบมาเคียงข้างผู้เป็นนาย พลางส่งสายตาข่มขู่มาให้คนที่ยืนเตรียมสู้ที่กำลังส่งยิ้มกว้างมาให้
“นายบอกจะใช้เวทสู้กับฉันไม่ใช่หรอเนี้ย (ว่าแล้วก็โคลงหัวไปมาอย่างน่าถีบเช่นเคย) เล่นเรียก ‘กิ้งกือ’ มาสู้ซะงั้นแหนะ”
คนผิดคำพูดชักสีหน้าแดงกล่ำ และไม่ต่างกัน เจ้า ‘กิ้งกือ’ ก็พ่นคว่นสีดำออกมา แล้วคำรามก้องฟ้า
“โห ไม่ยักจะเชื่อว่ากิ้งกือจะใจร้อนใช่เล่นนะเนี้ย จะเหมือนเจ้าของหรือเปล่าก็ไม่รู้”น้ำเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น เรียกแววตากราดเกรี้ยวจากเจ้าของกิ้งกือ
“จัดการได้เลยไพริออน!!!”ราวกับรอมานาน ร่างกิ้งกือ หรือ มังกรแห่งสายหมอกก็ทะยานเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เจ้าคนจะถูกทำร้ายกับยืนเฉย ยิ้มอย่างถูกใจ
“ชอบบุกก็บอกมาตั้งแต่แรกสิ ...ดาบแห่งแสง ไลลิไฟร์”
ดาบยาวพอเหมาะมือมีประกายสีทองระยับ เจ้าตัวกระโดดพุ่งขึ้นทันทีที่มังกรทะยานเข้ามายังจุดเดิมที่ยืนอยู่ ราวกับมีปีกบิน! เรือนร่างเพรียวก็กระโดดวูบเดียวจากผืนฟ้า แล้วตวัดเพียงดาบเดียว มังกรแห่งสายหมอกก็ต้องร้องคำรามอย่างเจ็บปวดเมื่อดาบแห่งแสงฟันฉับเข้าที่ต้นคอ เรียกให้สายลมรอบๆตัวมันมีกลิ่นเลือกคาวคลุ้ง
“อะฮา เจ้านี้คงไม่ใช่กิ้งกือธรรมดา ท่าทางจะแพ้ธาตุแสงเสียด้วยสินะ...”น้ำเสียงกล่าวอย่างสบายอารมณ์หาได้มีอารมณ์เหนื่อยอ่อนหรือเครียดไม่ “งั้นเจอท่าเบสิคเก่าๆของท่านเฟร์กับดาบแห่งแสงดูล่ะกัน!! วงดาบแห่งแสง!!!”
พลันเกิดลมสีขาวเหลืองนวลบาดตาสว่างจ้า พุ่งเข้าใส่ร่างมังกรอย่างรวดเร็วชนิดที่เพียงกะพริบตาเดียวเท่านั้น ร่างมังกร ก็หายวาบไปจากตรงนั้นทันที
...เร็ว
...แรง
...และ ตัดสินใจอย่างยอดเยี่ยม
คำนึกคิดในหัวอย่างฉับไหว เรียกเหงื่อซึมตามร่างกายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นัยน์ตาสีเขียวมองร่างเพรียวตรงหน้าที่กำลังมองดาบที่ดูยังไงก็กำลังอวดศักดา
...เกินไป...
...นี้มันเกินไป...
...นี้ไม่ใช่ฝีมือของนักดาบทั่วไป...
...ไม่มีทาง...
ความคิดเห็น