ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] อาคะ [NyTae]

    ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER7

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 58


    CHAPTER7



    "เจสแกได้ยินชั้นมั้ย"
     
    "อื้อได้ยินแต่ไม่ค่อยชัดแกอยู่ไหนของแกเนี่ย"
     
    ร่างบางนั่งบนเตียงไม้อย่างเซ็งก็แบตโทรศัพท์มันก็เตือนว่าใกล้จะหมดเต็มทน ไหนจะเรื่องความไม่สะดวกสบายอีก
     
    ขืนเป็นแบบนี้เธอได้ถอดใจยอมแพ้ก่อนจะง้อแทยอนได้แน่ๆดังนั้น ก็เลยต้องหาตัวช่วยนิดหน่อย
     
    "ชั้นอยู่ไร่ของพี่แทฮี "
     
    "แกเจอแทยอนยัง"
     
    "ยังเจสแกอย่าพึ่งถามอะไรฟังชั้นนะ ให้คนของเราเอาแบตสำรองมาให้ชั้นทีพี่แทฮีแกล้งให้ชั้นมาอยู่กระท่อมที่ไม่มีไฟฟ้าเลย
     
     แล้วก็นอกจากนั้นก็เตรียมพวกข้าวของอำนวยความสะดวกมาให้ชั้นด้วยอะไรก็ได้ที่แกเห็นว่ามันจำเป็นอ่อเสื้อผ้าด้วยก็ดี
     
    ชั้นไม่อยากไปเจอแทยอนในสภาพที่ใส่เสื้อคนงานเก่าๆขาดๆหรอกนะ กำชับด้วยว่าแอบเข้ามาอย่าให้ใครเห็นเด็ดขาด"
     
    "ดูลำบากเนอะแก"
     
    'ก็นิดหน่อย"
     
    "เดี๋ยวจะให้คนเอาไปให้ แล้วตอนนี้แกทำอะไร"
     
    "ก็นั่งมองตะเกียงแล้วตบยุงเล่นนะสิ ถ้าไม่ใช่แทยอนนะชั้นไม่ยอมมาลำบากแบบนี้หรอก
     
     อีกอย่าเกือบลืมฝากดูแลร้านด้วยนะชั้นคงต้องอยู่ที่นี่ไปสักพักละ"
     
    "ได้ไม่ต้องห่วง แกแค่พาแทยอนกลับมาให้ได้ก็พอ ตอนนี้ยูลมันก็บ่นคิดถึงเพื่อนจนเหมือนลิงป่วยเข้าไปทุกทีละ"
     
    "ชั้นจะพยายามเจส แค่นี้นะเดี๋ยวไว้จะติดต่อไปใหม่"
     
    "อื้อ สู้ๆแก "
     
     นิ้วเรียวกดวางสายเพื่อน กลางคืนมืดๆแบบนี้มันก็น่ากลัวพิลึกแฮะ ป่านนี้แทยอนจะทำอะไรอยู่นะ
     
     ร่างบางหยิบกระเป่าที่ใส่ของออกมาจากรถสปอตหรูไม่ต้องเดาว่าตอนนี้รถของเธออยู่ไหนถูกแทฮียึดไปเรียบร้อย
     
     มือเรียวหยิบกระเป๋าแทของที่อยู่ด้านในออกมาจนเจอของที่ต้องการ ไฟฉายขนาดเล็กที่เธอพกติดไว้ในรถเผื่อจะได้ใช้
     
    แล้ววันนี้มันก็จะได้ใช้จริงๆ ต่อให้ไม่ได้คุยกันแต่ขอให้ได้เห็นหน้า หลานรักของเธอสักครั้งก่อนนอนก็คงจะดี 
     
     
     
     
     
     
     
     
    เสียงแมลงเสียงจิ้งหรีดร้อนกันระงม กลางไร่แบบนี้มองไปทางไหนก็มืดไปชะหมดแต่เท้าสองข้างของทิฟฟานี่ก็ยังคงก้าวเดินไม่ได้เกรงกลัวอะไร 
     
    อาศัยความสว่างจากกระบอกไฟฉายถ้ามีคนมาเห็นเธอเข้าตอนนี้ก็คงจะตกใจน่าดูที่มีผู้หญิงมาเดินสวยกลางไร่ในยามวิกาลเช่นนี้
     
     ทิฟฟานี่เดินลัดเลาะไปตามไร่เป้าหมายก็คือบ้านหลังใหญ่ของเจ้าของไร่เธอแค่แอบหวังว่าจะได้พบกับแทยอนสักครั้ง
     
    หรือไม่ถ้าหากโชคไม่เข้าข้างก็คงอาจจะไม่ได้เจอคนตัวเล็ก หวังว่าอีกคนจะยังไม่นอน เดินมาไกลพอดูทิฟฟานี่เหนื่อยเล็กน้อยกับระยะทางจาก
     
    กระท่อมมาบ้านหลังใหญ่แห่งนี้ ทิฟฟานี่ปิดไฟฉายลง อาศัยแสงสว่างจากไฟที่อยู่รอบบริเวณบ้านในการนำทาง เธอแอบหลบมองหลังพุ่มไม่
     
    ที่ปลูกไว้ประดับบ้าน ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเธอชะแล้วเมื่อม้านั่งหน้าบ้านนั้นมีร่างของเด็กผู้หญิงสองคนนั่งอยู่คนหนึ่งเธอเองจำได้แม่น
     
    ต่อให้มองไกลแค่ไหนก็เถอะแทยอนกำลังนั่งอ่านหนังสือเหมือนเมื่อก่อนที่ร่างเล็กยังอยู่กับเธอทุกๆคืนเด็กน้อยมักจะหยิบหนังสือข้นมาอ่านก่อนนอน
     
    เสมอ เธอก็ไม่ได้สนใจมันมากหนักเมื่อเธอต้องการเธอก็แค่เดินไปดึงหนังสืออกจากมือเด็กน้อย แทยอนเองก็เหมือนจะรู้น่าที่ดีเมื่อเธอต้องการหนังสือ
     
    เหล่านั้นก็จะหมดความหมายไป สายตากวาดมองไปที่เด็กผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่กับร่างเล็กเด็กคนนี้ค่อนข้างจะสูงเมื่อเทียบจากระดับสายตาแต่ ท่าทีที่
     
    คอยเอาแต่แกล้งร่างเล็กเหมือนเรียกความสนใจแบบนั้นคงจะเด็กกว่าแทยอน อาจจะเป็นลูกหรือหลานของแทฮีสินะ ทิฟฟานี่ละความสนใจไปจากเด็ก
     
    ผู้หญิงคนนั้นแล้วหันกลับมาให้ความสนใจไปที่ร่างเล็ก ชุดนอนลายการ์ตูนเนี่ยน่ารักชะมัด แต่ตอนนี้ร่างบางเริ่มรู้สึกว่ามันมีสิ่งรบกวนเธอเข้าให้แล้ว
     
    กลางป่าแบบนี้ยุงมันเยอะคอยกัดโน่นกัดนี่จนเริ่มคันไปทั่วละ สุดท้ายก็ได้แต่เก็บเอารอยยิ้มที่ร่างเล็กยิ้มให้เด็กสาวที่นั่งด้วยกัน ขอมโนว่ารอยยิ้มนั้น
     
    เป็นรอยยิ้มที่แทยอนส่งมาให้กับเธอก็แล้วกันส่วนตอนนี้ไม่ไหวละคันขอกลับไปตั้งหลักก่อน
     
     
     
    [b]ปังๆ ปังๆ [/b]
     
    เสียงเคาะประตูไม้เก่าของกระท่อมดังขึ้น ทิฟฟานี่ขยับตัวเล็กน้อยเพราะเสียงรบกวน
     
    [i]ปังๆปัง[/i] เสียงทุบประตูยังดังขึ้นไม่หยุด
     
     
    โอ้ยมันจะอะไรหนักหนาเนี่ยมันยังมืดอยู่เลย ร่างบางหงุดหงิดแต่ก็ยังลุกขึ้นมา
     
    "ตื่นได้แล้วทิฟฟานี่ได้เวลาทำงานของเธอแล้ว"
     
     ให้ตายสินี่พี่แทฮีเอาจริงใช่มั้ยร่างบางเดดินไปเปิดประตูอย่างงัวเงีย
     
    "อะนี่ "
     
    ทิฟฟานี่มองของที่อยู่ในมือแทฮีอย่างไม่เข้าใจหนัก
     
    "นี่เสื้อผ้าที่เธอต้องใส่ไปเปลี่ยนมันชะชั้นให้เวลาสิบนาทีชั้นจะรอ"
     
     ร่างบางรับมันมาอย่างไม่เต็มใจปิดประตูกระแทกใส่หน้าแทอีก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่อีกคนบอก
     
    ถึงเสื้อผ้าที่ใส่จะดูเก่าตามประสาชุดทำงานในไร่แต่ทิฟฟานี่ก็เหมือนพวกนางเอกหนังที่แสดงบทสาวชาวไร่มากกว่า
     
     แทฮีมองแบบพอใจคนงานในไร่คนอื่นคงมองทิฟฟานี่เป็นตัวประหลาดแน่ 
     
    "ตามชั้นมา"
     
    ทิฟฟานี่เดินตามอย่างเอื่อยก็มันยังเช้ามืดอยู่เลยไม่รู้จะรีบตื่นไปไหนกลัวไม่ได้แกล้งเธอหนักรึไง
     
    หญิงวัยกลางคนเดินมาหยุดจุดที่มีคนงานจำนวนหนึ่งรวมตัวกันอยู่ 
     
    "เอาละทุกคนชั้นมีคนจะแนะนำให้รู้จัก" น้ำเสียงทรงอำนาจตามฉบับเจ้าของไร่เรียกความสนใจจากทุกคนมาที่จุดๆเดียว
     
    "นี่ทิฟฟานี่ คนงานพิเศษต่อไปนี้เธอจะมาทำงานในไร่ของเรา "
     
    ทุกคนต่างก็มองหญิงสาวด้วยความประหลาดใจเนื่องจากใบหน้าสวยผิวขาวที่ดูยังไงๆก็ไม่น่าจะใช่คนที่มีอาชีพนี้เลยแม้แต่น้อย
     
    "จุนซู "
     
    สิ้นเสียงเรียกร่างของชายหนุ่มผู้จัดการไร่ก็ก้าวเข้าไปหาเจ้าของไร่ตามคำเรียก
     
    "ชั้นมีงานให้ทำ "
     
    บอกกับชายหนุ่มแล้วค่อยๆหันไปหาร่างบาง
     
    "ทิฟฟานี่ชั้นจะให้เธอเริ่มงานแรกด้วยการเก็บส้มหนึ่งแถวให้เสร็จภายใน1วัน"
     
    งานง่ายๆทิฟฟานี่ไม่คิดว่างานที่แทฮีให้มันจะแค่งานเก็บส้มเองนะเหรอ ร่างบางไม่ได้มีสีหน้าวิตกหนักต่างจากคนงานคนอื่น
     
    ที่อึ้งไปตามๆกันกับคำสั่งนั้น
     
    "แต่นายหญิงครับ แบบนี้ทิฟฟานี่เธอจะทำไหวเหรอครับ"
     
     จุนซูถามด้วยความสงสัยมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะกับคำสั่งนี้
     
    "นายจะสนใจทำไมจุนซู นายไม่ได้เป็นคนเก็บเองสักหน่อย ทิฟฟานี่เขายังไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ "
     
    "นายช่วยสอนให้ทิฟฟานี่เก็บส้มและคอยดูตลอดเวลาที่ทิฟฟานี่ทำงาน"
     
    "ชั้นไม่ใช่นักโทษนะพี่แทฮี "
     
     ร่างบางแย้งขึ้นอย่างอดไม่ได้ขืนให้หมอนี่จับตาเธอตลอดเวลาแล้วแบบนี้จะมีโอกาสแว๊บไปหาแทยอนได้ยังไง
     
    "เธอเป็นมากว่านักโทษชะอีกทิฟฟานี่"
     
     สรรพนามที่คนทั้งคู่เรียกกันมันดูไม่เหมือนเจ้านายกับลูกน้องเลยสักนิดทำให้จุนซูได้แต่สงสัยเข้าไปอีก
     
    "เอาละเริ่มงานได้เดียวชั้นจะให้คนเอาข้าวมาให้อย่าให้รู้นะว่าอู้งาน"
     
    "ถ้ารู้พี่ทำอะไรชั้น"
     
    "ก็ป่าวไม่ทำอะไรก็แค่จะไล่ออกแล้วข้อตกลงที่ว่าไว้ก็คงต้อง…."
     
    "ได้อย่าให้ถึงทีชั้นบ้างนะ"
     
    "จุนซูฝากด้วยนะ "
     
    แทฮีหันไปสั่งลูกน้องอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้น
     
    ผู้จัดการหนุ่มหันมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความลำบากใจ 
     
    "เอ่อ คุณเก็บส้มเป็นมั้ย"
     
    "ไม่เป็น"
     
     คำตอบห้วนๆทำให้ชายหนุ่มไม่สบอารมณ์หนัก
     
    "มาเดี๋ยวผมสอน"  มือหนาหยิบกรรไกรขึ้นมา 
     
    "เวลาเก็บส้มใช้กรรไกรเก็บมันจะได้ง่าย คุณเก็บใส่ลังไว้จะมีคนงานมาเก็บลังอีกที อะนี่ถุงมือใส่ไว้ดูแล้วคุณไม่น่าจะใช่คนที่ทำงานไร่แบบนี้"
     
    ร่างบางรับถุงมือมาใส่ตอนนี้แสงแรกของวันส่องให้พื้นที่เริ่มสว่างจนมองเห็นได้ตามปกติแล้ว 
     
    ชายหนุ่มหยิบกรรไกรค่อยๆบรรจงตัดลุกส้มออกจากกิ่งให้หญิงสาวได้ดูเป็นตัวอย่างทิฟฟานี่มองแบบผ่านๆตอนนี้เธออยากจะรีบเก็บให้เสร็จๆไปจะได้
     
    รีบมีเวลาไปง้อเด็กน้อยสักที
     
    ร่างบางหยิบกรรไกรขึ้นมาทำตามมันก็ไม่ได้อยากสักหน่อย
    .
     
    .
     
    .
     
    .
     
    โอเคขอถอนคำพูดเมื่อที่ว่ามันไม่อยาก ตอนนี้ทิฟฟานี่กำลังนั่งมองข้าวกล่องง่ายๆสำหรับคนงานและสำหรับเธอ ให้ตายสิเก็บมาจนสายแล้วยังไม่ถึง
     
    ไหนเลย มองข้าวตรงหน้าแล้วก็ต้องถอนหายใจมันเหนื่อยจนกินอะไรไม่ลงเลยทีเดียว เข้าใจแล้วว่าทำไมจุนซูถึงถามแทฮีว่ามันไม่มากไปหรอ
     
     ตอบได้เลยว่ามันมากไปมากกกกกกกกกก
     
     
    "ไม่หิวหรอคุณเห็นนั่งจ้องมันอยู่ได้"
     
     ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงข้างๆร่างบาง
     
    "หิวสิแต่มันเหนื่อยจนกลืนไม่ลงแล้ว"
     
    "คุณคงไม่เคยทำงานในไร่สินะ ดูแล้วมันไม่ใช่ "
     
    ชายหนุ่มชวนคุยอย่างไม่ถือตัวปกติเขาทำตัวแบบนี้กับคนงานคนอื่นๆเสมอไม่ถือตัวว่าตนเป็นถึงผู้จัดการเลยสักนิด
     
    "ถ้าไม่ใช่เพราะคนที่ชั้นรักชั้นไม่มานั่งทำอะไรลำบากๆแบบนี้หรอกนะ"
     
     ร่างบางตอบ รู้สึกว่านายคนนี้ก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างน้อยๆก็ยังดีทีมีเพื่อนคุย
     
    จุนซู คิ้วขมวดเพราะไม่เข้าสิ่งที่อีกคนพุด
     
    "ช่างมันเหอะเอาเป็นว่าชั้นมีเหตุผลที่มาทำงานที่นี่ก็แค่นั้นเอง"
     
    "ผมไม่ถามเหตุผลคุณหรอก แต่ผมว่าคุณกินข้าวสักหน่อยก็ดีนะเดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไป"
     
    ชายหนุ่มส่งยิ้มอย่างจริงใจ เขาแค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดูน่าจะเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งได้
     
    ทิฟฟานี่ฝืนตักข้าว เคี้ยวแบบช้าๆกลืนมันลงไปอย่างน้อยก็จะได้ไม่เป็นลมเป็นแล้งไปตามที่ชายหนุ่มบอก
     
    ทั้งคู่ก็นั่งกินไปคุยกันไปตามประสาคนที่ต้องทำงานด้วยกันอย่างน้อยก็ตลอดทั้งวันนี้แน่ๆ
     
    .
     
    .
     
    .
     
     
    "จียอนปั่นเร็วๆสิปั่นช้าจัง"
     
    "อ่าพี่แทก็ตัวพี่นะเบาๆที่ไหนมาลองเป็นคนปั่นเองไหม"
     
     น้ำเสียงตัดเพ้อทำให้ร่างเล็กยิ้มกว้างที่ได้แกล้งน้องสาว ตอนนี้เธอกำลังนั่งช้อนท้ายจักรยานโดยมีสารถีคนสวยเป็นคนขับ 
     
    ไปตามเส้นทางในไร่เพื่อไปดูคนงานเก็บส้มและเพื่อเที่ยวเล่นไปตามประสาเด็กสาว
     
    จียอนปั่นไปเรื่อยๆจนมองเห็นผู้จัดการไร่นั่งอยู่ก็ไม่รอช้ารีบปั่นเข้าไปหา
     
    "พี่จุนซูคะ"
     
     เสียงแจ่วๆนั้นทำให้ชายหนุ่มหันไปมอง รอยยิ้มกว้างจึงปิดไว้ไม่มิดเมื่อเห็นจียอนกำลังปั่นจักรยานมาทางเขาโดยมีร่างเล็กของคนที่เขาแอบชอบนั่ง
     
    ซ้อนท้ายอยู่
     
    เด็กสาวจอดจักรยานหยุดนิ่งให้พี่สาวลงไป แล้วตัวเองก็เดินตามพี่สาวไป
     
    "วันนี้พี่จุนซูมาแอบอู้งานเหรอคะ" แทยอนพูดแซวผู้จัดการหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้ม
     
    "ปะ ป่าวครับพี่ไม่ได้อู้นั่งพักนิดหน่อยเอง "
     
    จุนซูยกมือเกาท้ายทอยเพราะเขินที่แทยอนแซวว่าเขาแอบอู้งาน
     
    "อะแฮ่มจียอนก็มาด้วยนะ สนใจกันหน่อยสิ"
     
    "แหมใครละจะไม่สนใจตัวแสบของไร่"
     
     ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเขาเอ็นดูจียอนเหมือนน้องสาวแท้ๆคนหนึ่งเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก 
     
    "เชอะใช่สิจียอนไม่ใช่พี่แทยอนคนสวยนิเชอะปะพี่แทเราไปดูคนงานเก็บส้มกันไม่ต้องมาสนใจผู้ใหญ่ขี้ลำเอียงแถวนี้หรอกแบร่ "
     
     เด็กสาวดึงมือพี่สาวเข้าไปกุมก่อนจะแลบลิ้นทะเล้นให้กับผู้จัดการหนุ่ม ชายหนุ่มหัวเราะกับความแสบนั้นแล้วมองตามแผ่นหลังเล็กที่ถูกลากไปตาม
     
    แรงดึงของเด็กแสบประจำไร่ 
     
    ร่างเล็กเดินแยกออกจากจียอน ที่คอยเข้าไปป่วนคนงานตามประสาคนร่าเริงแทยอนเดินดูคนงานเก็บส้มอย่างสนใจบางทีเธอก็แอบหยิบส้มขึ้นมาแกะ
     
    กินไปอย่างมีความสุข
     
     
     
    "พี่คะส้มลูกนี้ชิมได้มั้ยคะ"
     
     แทยอนถามคนงานหญิงที่ยืนหันหลังเก็บส้มอยู่
     
    "อยากชิมก็ชิ…………….แทยอน!!!!!!"
     
     ทิฟฟานี่ยิ้มร่าหัวใจเต้นแรงไม่คิดว่าจะได้เจอแทยอนเร็วแบบนี้
     
    "คุณอา!!!"
     
     ในขณะที่อีกคนดีใจแต่กลับอีกคนกลับรู้สึกอึ้งเหมือนจะซ็อคไป ร่างเล็กโอนเอนเหมือนจะล้มลงไปทิฟฟานี่รีบถลาเข้าไปช้อนเอาร่างเล็กเข้าไปกอดไว้
     
     
    "แท แทได้ยินที่อาเรียกมั้ย"
     
     ร่างบางพยายามเรียกคนที่หมดสติไปในอ้อมกอดด้วยความร้อนใจ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×