เรื่อง...สเลนเดอร์แมน ( Slenderman)
ที่สนามเด็กเล่นเด็กหญิงเริ่มเบื่อหน่ายค่อยๆหันหลังเดินหนีเสียงเล่นสนุก
ของพวกเพื่อนๆหลบแสงแดดยามสายอุ่นๆเข้าไปใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ แต่พอเธอเดินอ้อมไป
ด้านหลังต้นไม้นั้นก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับบุรุษแต่งตัวดีสวมชุดสูดสีดำผูกไท้แขนขายาวเก้งก้าง
ตัวสูงฉลูดจนเธอต้องค่อยๆแงนขึ้นมอง แล้วดวงตาของเด็กหญิงก็ต้องเปิดโพนพลัดพึงเมื่อพบว่า
บุรุษผู้นั้นไร้ใบหน้าค่อยๆยกมือชูนิ้วชี้ขึ้นจรดบริเวณที่ปากของมันควรจะอยู่เพื่อสงสัญญาณให้
เด็กหญิงเงียบเสียง
และใต้แสงจันทร์เต็มดวงที่เสียงนับเลขของเด็กหญิงอีกผู้นึ่งกำลังดังคลอเรไรรัตติกาล
ขับเสียงหัวเราะของพวกเพื่อนๆเด็กชายหญิงนับสิบให้วิ่งร่าแว่วกระจ่ายหายไปแอบซ้อนตัวออกห่าง
จากจุดที่เธอกำลังฟุกแขนพิงหน้าที่โขนต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้าน
" 1-2-3-4-5-6-7-8-9-10-11-12.... "เมื่อเด็กหญิงร้องนับเลขส่งสัญญาณให้เวลา
พวกเพื่อนๆไปแอบซ่อนตัวได้สักพักเธอก็ต้องละขึ้นมองเสียงคุ้นหูของเพื่อนคนนึ่งในกลุ่ม
" พวกฉันอยู่นี้ "ซึ่งเธอได้ยินออกมาจากชายในป่าไม่ไกลนัก เด็กหญิงจึงอมยิ้มเดินจ้ำ
จากโขนต้นตรงไปหาตามเสียงของเพื่อนตัวดีทันที แต่พอเธอเดินไปถึงกับไม่พบ
" พวกฉันอยู่ตรงนี้ "เด็กหญิงได้ยินเสียงเพื่อนคนเดิมหัวเราะร้องบอกออกมาจากข้างในป่า
เป็นเงาตะคุ้มพุ้มไม้ไหวๆไม่ห่างจากจุดเดิมมากนัก คราวนี้เธอจึงรีบวิ่งตรงไปหาหวังจะให้ทัน แต่ก็ไม่พบ
" พวกเราอยู่ตรงนี้ต่างหาก " เสียงเพื่อนคนเดิมร้องบอกหัวเราะร่าออกมาอีกครั้งให้เด็กหญิง
หันควับไปหาแล้ววิ่งปรีถลำลึกเข้าไปในป่าที่ร่มเงาแมกไม้บดบังแสงจันทราจนความมืดสลัวกลืนกินทุกสรรพสิ่ง
ไม่นานนักเด็กหญิงก็พบว่าตนหลงเข้ามาอยู่ข้างในป่าลึกที่รอบตัวมองเห็นเพียงต้นไม้ห่ม
ความมืดรายล้อมบังตาอยู่เท่านั้น
" นี่...พวกเธออยู่ไหน เราตกลงกันไว้ว่าให้ซ่อนตัวแถวบ้านไม่ใช่เหรอ !? "เด็กหญิงผู้หา
ตัวเพื่อนๆหารอบตัวร้องบอกดังก้องป่าด้วยน้ำตาที่เริ่มคลอเบ้า
" ฉันอยู่นี้ไง ! " ฝ่ายเด็กหญิงพอได้ยินเสียงเพื่อนคนเดิมก็ยิมร่าหันควับไปหาทางพุ้มไม้ที่กำลังขยับไหวๆรอพวกเพื่อนๆออกมา แต่สิ่งที่ออกมากับทำให้เธอดวงตาเปิดโพนเพราะมันคือบุรุษไร้ใบหน้าที่ใช้นิ้วมือยาวประหนึ่งแขนขานับสิบข้างหมอบตะกายพื้นหมุนคอหันศรีษะซึ่งมีปากขากรรไกรซี่ฟันเหมือนสัตว์ร้ายข้างด้านหลังจู่โจมเธอจากพุ้่มไม้นั้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งทำให้เบตี้ตกตะลึงเมื่อได้ฟังเรื่องเล่านี้จากมารดาบนเตียงนอนของเธอ
" แล้วเกิดอะไรกับเด็กหญิงคนนั้นคะ "เบตี้ถามมารดาต่ออย่างลุ้นระทึก
" หลังจากนั้นมีคนพบศพของเธอข้างในป่า พวกผู้ใหญ่ลงความเห็นว่าเธอถูกหมาป่าลุมกิน
จนตาย แต่พวกแม่ที่ตอนนั้นเป็นเด็กรู้่ดีว่าเป็นฝีมือของสเลนเดอร์แมนบุรุษไร้ใบหน้า " มารดาของเบตี้ตอบด้วยความเคร่งเครียด ว่าแล้วนางก็ลูบศรีษะสั่งกำชับเธอด้วยความปารถนาดี
" ลูกจงจำไว้นะว่าไม่ควรไว้ใจผู้ชายที่แต่งตัวดีดูภูมิฐาน และอย่างหลงเชื่อตามเสียงของใครไปแม้ว่าเสียงนั้นลูกจะรู้จักคุ้นเคยดีแค่ไหน "
" คะ แม่ " เบตี้รับปากให้มารดาสบายใจ
ฝ่ายมารดาเมื่อได้ยินดังนั้นก็ปิดโคมไฟหัวเตียงแล้วลุกออกไปจากห้องนอนของบุตรสาว พอเบตี้
อยู่ในความมืดสลั่วห้องเพียงลำพังได้ไม่นานรอยยิ้มนั้นของเธอก็อันตธานหายไปเมือสะดุดตากับเงาศรีษะกลมๆ
ของบุรุษผู้นึ่งที่บังแสงจันฉายเคลื่อนไหววูบผ่านหน้าต่างทาบอยู่บนพื้นห้องใกล้ๆเตียงนอนของเธอ
วันรุ่งขึ้นช่วงเวลาสายๆที่สนามเด็กเล่นเบตี้ได้ถูกเด็กชายที่สนามแกล้งพลักเธอล้มลง จนเบตี้
อับอายเดินร้องไห้ไปนั้งกอดเข่าสะอึกสะอื้นใต้ร่มเงาโคนต้นไม้ใหญ่เพียงลำพังหนีห่างจากพวกเด็กคนอื่นๆที่กำลังเล่นสนุกกันอยู่เหล่านั้น แล้วไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงของบุรุษผู้นึ่งแหบเสียงถามดังลงมาจากข้างบนแมกไม้
" ฉันก็ไม่มีใครเล่นด้วยเหมือนกัน... "
ฝ่ายเบตี้เมื่อได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆละขึ้นจากอ้อมแขนแงนขึ้นมองหาต้นตอเสียงของบุรุษผู้นั้น
ซึ่งเธอพบว่าเขาแต่งตัวดีสวมชุดสูดผูกไท้รองเท้าคัดมันสีดำแขนขายาวกำลังเกาะไต่ไปตามกิ่่งก้านพยายามซุกหน้าหลบตามพุ้มใบไม้ไม่ให้เธอเห็น
" ทุกคนต่างก็เกลียดฉัน ไม่มีใครอยากจะเล่นกับฉัน "ชายผู้นั้นตอบราวกับปลอบประโลมเบตี้
ขณะยังคงพยายามเกาะไต่กิ่งก้านน้อยใหญ่หลบซุกโฉมหน้าตามพุ้มใบให้รอดพ้นสายตาจากเบตี้ที่เริ่มยืนหัน
ขึ้นมองสนใจตน
" ท.ทำไมละคะ " เบตี้ถามแทรกขึ้นด้วยความฉงนสงสัย ทำให้ชายผู้นั้นหยุดนิ่งสักครู่แล้วค่อยๆ
แหบเสียงตอบเบตี้
" เพราะฉันไม่เหมือนทุกคนอย่างไงล่ะ " ว่าแล้วชายผู้นั้นก็ค่อยๆโพล่ศรีษะออกมาจากพุ้มใบ
เฉลยให้เบตี้ตกตะลึงกับหน้าที่ไร้ตาหูจมูกปากของเขา
" ค..คุณคือ.... " เบตี้ร้องอุทานอย่างเฉลียวใจนึกขึ้นได้ แต่ยังไม่ทันจบประโยคบุรุษไร้ใบหน้า
ก็กล่าวตอบชื่อของตัวเองแทรกให้เบตี้ฟัง
" ทุกคนเรียกฉันว่า สเลนเดอร์แมน "
ทำให้เบตี้ที่ได้ฟังทวีความฉงนพลัดพลึง
" ต..แต่แม่บอกว่าคุณเป็นคนไม่ดีหนิคะ !? " เบตี้กล่าวขึ้นเหมือนยังไม่ค่อยมั่นใจ
" นั้นเป็นเพราะว่าแม่ของเธอเกลียดฉัน แม่ของเธอหนะโกหก แม่ของเธอชอบโกหกเธอไม่ใช่หรือไง ! "บุรุษไร้หน้ารีบตอบราวแก้ตัว
ทำให้เบตี้ที่ได้ฟังขมวดคิ้วค่อยๆก้มหน้านิ่งคิดอย่างสลดเหมือนว่าเริ่มจะคล่อยตาม
" เธอลองดูฉันดีๆสิว่าเหมือนคนไม่ดีหรือไง ? "บุรุษไร้ใบหน้ากล่าวถามขึ้นอย่างน้อยใจ
ฝ่ายเบตี้ค่อยๆละขึ้นมองสำรวจดูบุรุษไร้หน้าพอเห็นเขาแต่งตัวดูภูมิฐานใส่สูดผูกไท้สวมรองเท้าขัดมันเกาะอยู่ข้างบนกิ่งไม้ก็ส่ายศรีษะบอกปฏิเสธ
" ใช่ไหมล่ะ !? " บุรุษไร้ใบหน้ากล่าวกามย้ำขึ้นอย่างเลื่อนลอย พอเขาเห็นว่าเบตี้เริ่มมีท่าที
ผ่อนคลายเป็นมิตรด้วยก็ค่อยๆคลานเกาะตามโคนกิ่งไต่สนทนาลงมาใกล้เธอเรื่อยๆ
" เอาอย่างงี้ไหมล่ะ ตอนนี้ฉันก็ไม่มีเพื่อน เธอก็ไม่มีเพื่อน อย่างงั้นเรามาเล่นด้วยกันเอาไหม? "
ฝ่ายเบตี้เมื่อได้ฟังดังนั้นก็ยิ้มร่าพยักหน้าตอบรับด้วยความยินดีขณะที่บุรุษไร้หน้าค่อยๆเกาะ
โคนต้นไม้คลานหันหัวดิ่งลงมาหาสนทนากับเธอเรื่อยๆแบบใจเย็นอย่างจิงจกอสรพิษค่อยๆคลืบคลานเข้าไป
ใกล้ไมให้เหยื่อตกใจ
" งั้นเอาหูมานี้สิเดี๋ยวฉันจะบอกความลับอะไรให้เพื่อนฟัง "
พอเบตี้ได้ยินดังนั้นก็ค่อยๆเงี้ยหูขึ้นไปให้บุรุษไร้ใบหน้ากระซิบบอกความลับ
" ฉันมีที่สนุกๆอยู่ข้างในป่า เข้าไปเล่นกับฉันสิ "
และแค่พริบตาเดียวเมื่อเบตี้หันละไปมองชายป่าตามคำเชิญชวนของบุรุษไร้หน้าก็พบว่า
ตัวเขาไปยืนแอบกวักมือเรียกช้าๆอยู่ด้านหลังไม้ใหญ่ต้นนึ่งบริเวณนั้นแล้ว ทำให้เบตี้รีบหันควับขึ้นไป
มองหาบุรุษไร้ใบหน้าข้างบนต้นไม้ตำแห่งเดิมแต่ก็พบเพียงกิ่งไม้ขยับไหวๆเท่านั้น ทว่าเบตี้ก็ไม่ได้สงสัยอะไร
พอเธอค่อยๆหันละกลับไปเห็นบุรุษไร้ใบหน้าเพื่อนใหม่ยังคงกวักมือเรียกตนอยู่ก็ยิ้มร่ากึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงไปที่ชายป่าแห่งนั้นเพียงลำพัง
Blackapple
---------------------------------------------------