ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MINICOOPER ฉันรักนาย{Fic Hanhyuk Woncin Kihae}

    ลำดับตอนที่ #6 : MINICOOPER*:) CHAPTER 4

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 52


    MINICOOPER*:) CHAPTER 4

     

              (Rrrrrrrrrrrrrrrrr)

    (ฮันนนนนนน!   ฉันขับรถชนคน)

    “ฮะ!  ว่าอะไรนะ”

    (ฉัน ฉัน ฉัน ฉัน...ไม่รู้จะทำยังไงอ่ะ)

    “เอ่อ... เอางี้หล่ะกันแกตั้งสติเอาไว้นะ  เดินหลังจากรถจากรถแล้วเดินเข้าไปหาเค้า แล้วหลังจากนั้นก็เข้าไปประคองเค้าเอาไว้ พาเค้าไปส่งโรงพยาบาลไม่ว่าจะบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน แล้วก็โทรมาบอกฉันอีกทีนะว่าเค้าอยู่โรงพยาบาลอะไร”

    (อะ..อืม  แค่นี้เองหรอ)

    “อืม แค่นี้ก่อนนะซิน ฉันธุระด่วนแล้วเดี๋ยวจะตามไปหาที่โรงพยาบาล”

    (รีบๆมานะฮัน)

     

     

              ฮันคยองที่หลังจากแยกกับฮีชอล ก็คิดที่จะไปทำธุระส่วนตัวที่ทราบมาจากลูกน้องนิดหน่อย(?) แต่สุดท้าย ก็คงต้องเลื่อนไปเพราะคุณเพื่อนตัวดีที่ฟังจากน้ำเสียงตอนนี้คงสติแตกเข้าขั้น

     

    “ฮะฮะฮะ ฮยอกแจก็  วันหลังฉันเลี้ยงนายเองนะ”

    “ไม่เป็นไรหรอกน่าคิบอม  นายเป็นเพื่อนฉันเรื่องแค่นี้น่ะมันได้อยู่แล้ว”

    “หรอ แต่ยังไงก็ขอโทษนะ ค่าอาหารมื้อนี้อ่ะ แพงหูฉี่เลย”

    “นายก็รู้นิ  แล้วยังจะสั่งเยอะอีก==’

    “เอาน่า อย่าขี้บ่นนักเลย ไปๆขึ้นห้องกัน”

     

    บรื้นนนนนน!!!!

              การกรำของฮยอกแจและคิบอมต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเร่งคันเร่งของรถคันหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ฮยอกแจก็เห็นอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดใส่ใจ  โดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้แม้แต่น้อยว่า จุดประสงค์ของการเร่งเครื่องนั้นก็คือตัวเองทั้งหมด!

     

    ___________________________________________________________

     

    *โรงพยาบาล กรุงโซล*

              ห้องฉุกเฉิน

     

    “ซิน  เป็นไงบ้าง”

    “ฮะฮัน ทำไมมาไวจังหล่ะ”

    “อ่อ พอดีเมื่อกี้อยู่แถวนี้น่ะ   แล้วคู่กรณีแกเป็นไงบ้าง”

    “มาทำอะไรแถวนี้หะ?”

    “ช่างฉันเถอะน่า ว่าแต่เรื่องของคู่กรณีแกเป็นไงบ้าง”

    “หมดสติไม่ยอมตื้นเลย ฉันเลยรีบพามาส่งโรงบาล ตัวหนักเป็นบ้า ชิ!

    “เอาน่า แล้วนี้หมอว่ายังไงบ้างหล่ะ”

    “ยังไม่รู้ ก็รอฟังผลอยู่เหมือนกันแหละ เฮ้อ”  ร่างบางบ่นพลางแหงนหน้าขึ้นฟ้

    แล้วพ่นลมหายใจออกจากปา หวังเพื่อจะคลายความกังวลที่มีตอนนี้ให้มันน้อยลงไปบ้าง  ฝ่ายฮันกยองนั้นก็ดูท่าว่าจะทำไรไม่ได้มากนอกจากนั่งกุมไหล่เพื่อนเอาไว้เหมือนจะแบ่งปันความทุกข์  แต่ถึงยังไงในหัวใจของเค้าก็ยังคงกระวนกระวายกับเรื่องที่เพิ่งเจอมาเมื่อกี้นี้เหมือนกัน  ...สองคนนั้น เค้าเป็นอะไรกันนะ??....

     

              ((Rrrrrrrrrrrrrrrrr))

    ‘HYUKJAE Calling’

     

    “ซิน เดี๋ยวฉันขอตัวไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ เดี๋ยวมา”  ไม่ทันที่จะรอฟังคำตอบของร่างบางที่นั่งอยู่ข้างๆ ฮันกยองก็รีบพุ่งจากไปด้วยความเร็วสูง ทันที่ที่เห็นชื่อของบุคคลที่โทรเข้าอยู่หน้าจอ

     

    “ฮันกยองพูดสายครับ”

    (เอ่อ... คุณฮันกยองครับ นี่ผมฮยอกแจนะครับ)

    “ฮยอกแจ อยอกแจไหนหรอ?” ถึงแม้เจ้าตัวจะรู้ดีว่าในชีวิตนี้รู้จักอยอกแจอยู่ฮยอกแจเดียวก็เถอะ แต่ก็อยากจะทำฟอร์มชวนคนปลายสายคุยนานๆหน่อยก็เท่านั้นเอง

     

    (ฮยอกแจที่เป็นพนักงานขายรถให้คุณกับแฟนน่ะครับ)

    “เฮ้ย! ไอ้ซินไม่ใช่แฟนฉันนนะ!!!!” จะว่าลืมตัวหรืออย่างไรไม่รู้ ฮันกยองถึงรีบโพล่งออกไป เพระด้วยความที่คนปลายสายจะเข้าใจผิด

    (อ้าวหรอครับ งั้นก็ขอโทษที แหะๆ)

    “อืม ฉันพอจะนึกออกแล้ว ว่าฮยอกแจไหน  ว่าแต่มีเรื่องอะไรหรอ”

    (คือว่า... คือว่าผม.... ผม..)

    “เอางี้ ไม่ต้องพูดแล้ว”

    (อ้าววววว)

    “พรุ่งนี้นายว่างมั้ยหล่ะ? เข้ามาหาฉันที่บริษัทหล่ะกัน”

    (เอ๋???  เข้าไปหาที่บริษัทหรอครับ)

    “ให้เวลานายถึง11โมงเช้า เรทได้แค่สิบนาทีเท่านั้น”

    (ฮะ!)

    “เอาเป็นว่าเข้าใจนะ ถ้านายทำให้ฉันไม่พอใจล่ะก็”

    (ครับครับ แล้วผมจะเข้าไปให้ทัน==?)

     

              หลังจากที่คุยโทรศัพท์เสร็จฮันกยองก็เดินหัวเราะชอบใจกลับมา สร้างความแปลกใจให้กับเพื่อนสนิทสุดสวย(?)อย่างคิมฮีชอลไม่น้อย

     

    “มีอะไรน่าขำรึไง”

    “เปล่า ก็แค่...เหยื่อติดกับ ฮ่าฮ่าฮ่า”

    “ไอ้นี้  ท่าทางจะบ้าแหะ”

    “เออแล้วเป็นไงบ้างอ่ะ คนในห้องนั้นอ่ะ”

    “อ่อก็....”

     

              ผลัก!!!!!

              ในทันใดนั้นเอง คุณหมอรูปร่างท้วมซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นคุณหมอเจ้าของไข้ ก็เดินออกมาพร้อมกับพยาบาลสาวสวยอีกคนหนึ่ง ซึ่งพยายามอ่อยชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาอย่างฮันกยองเต็มที ...บรึ๋ย สยองชะมัดเลย พวกผู้หญิงให้ท่าเนี่ย...

    “คุณคือญาติของผู้ป่วยใช่มั้ยครับ”

    “เอ่อไม่ใช่ครับ พอดีผมแค่เจอเค้านอนอยู่ข้างทางเลยนำตัวมาส่งโรงพยาบาลน่ะครับ”

    “หรอครับ งั้นคุณคงเป็นคนดีมากเลยสินะครับ”

    “((...เปล่าหรอก ฉันโกหก...)) ครับ พอดีผมไม่ชอบเห็นเพื่อนมนุษย์ลำบากน่ะครับ”

    “ครับ ส่วนเรื่องอาการของคนไข้นั้นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ”

    “เฮ้อ!แล้วไป”

    “ว่าอะไรนะครับ”

    “เปล่าครับ ผมแค่บอกว่าโชคดีมากน่ะครับ”

    “แต่ว่าทางคนไข้มีอาการที่น่าเป็นห่วงอยู่อย่างหนึ่งก็คือ.... อาการความจำเสื่อมชั่วคราวน่ะครับ”

    “หะ! คุณหมอว่าอะไรน่ะครับ”

    “ความจำเสื่อมชั่วคราวครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ เพราะความทรงทั้งหมด จะย้อนกลับมาเองครับ”

    “อ้อ งั้นผมก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสินใช่มั้ยครับ จะได้ขอตัวเลย”

    “แต่ว่า.... ทางโรงพยาบาลไม่สามารถติดต่อญาติของผู้ป่วยได้ จึงอยากจะขอความอนุเคราะห์คุณ ให้ช่วยเป้นญาติชั่วคราวของเค้าไปก่อน จะได้มั้ยครับ”

    “เอ่อ..เห็นทีว่าคงไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าผมเองก็มีการีงานต้องทำเหมือนกัน และเพื่อนผม ฮันกยองเองก็ไม่ได้ว่างอะไรขนาดที่จะเป็นบุรุษพยาบาลน่ะครับ เพราะยังไงแล้วพวกผมก็มีการมีงานต้องทำเหมือนกัน”

    “ถือซะว่า ช่วยเพื่อนมนุษย์ไม่ได้หรอครับ  คุณน่าจะเห็นใจเพื่อนมนุษย์ที่กำลังลำบากนะครับ

     

    “หึหึ ยังไงก็เอาตัวรอดเองหละกันนะ” เสียงที่เปร่งออกมาจากปากของฮันกยอง เป็นการย้ำเตือนสติให้ฮีชอลรู้ว่า ไม่ว่ายังไงงานนี้ก็ตัวใครตัวมันต่อให้ข้อร้องสักเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จหรอก เพราะเจ้าตัวดันไปโกหกเสแสร้งเอาไว้เอง แล้วดันไปเล่นกับใครไม่เล่น สุดท้ายเลยได้ผลออกมาเป็นอย่างนี้ยังไหล่ะ

    ________________________________________________________

    2 Be con...
    เพราะรักทุกคนนะเนี่ย ถึงรีบมาปั่น(รีบแล้วหรอ==')
    ไม่รู้ว่า ยังมีคนติดตามอยู่รึเปล่า

    บอกข่าวดี! คาดว่าจะทำการเปลี่ยนแบนเนอร์ และสร้างหน้าบทความให้งาม
    ข่าวดีสำหรับใครเอ่ย? 5555

    เม้นกันด้วยนะจ่ะ กำลังใจสำคัญของเฟินคือการเม้น><
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×