ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Satan sucks blood

    ลำดับตอนที่ #2 : เม็ดทรายแห่งกาลเวลาเริ่มเคลื่อนไหว

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 51


    ตึก ตึก  เสียงฝีเท้ากระทบพื้นดังก้องทุกย่างก้าว ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเข้ม ดวงตาถูกปิดไว้ด้วย

    แว่นตากันแดดสีชา ปากสีชมพูระเรื่อกำลังพึมพำขมุบขมิบราวกับท่องมนต์คาถา ผิวขาวๆตัดกับ

    ชุดสูทเป็นอย่างดี ผมสีแดงอมเงินปลิวไหวน้อยๆเมื่อต้องสายลมเหน็บหนาว ร่างสูงกระชับสูทเล็ก

    น้อย เดินไปสักครู่ก็เจอผู้หญิงให้บริการกวักมือไหวๆเชิญชวน ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยก่อนเดินเข้าไป

    ห้าร้อย หญิงสาวพูดแล้วส่งสายตาหยาดเยิ้มเชิญชวน เขาหยิบธนบัตรสีม่วงสดใสส่งให้หญิงสาว

    เธอหยิบธนบัตรใบนั้นขึ้นมาจูบก่อนจะยัดลงไปในร่องอกแล้วยื่นมือมาจับแขนชายหนุ่ม

    เขาใช้มือข้างหนึ่งดึงแว่นตาออกเผยให้เห็นแววตาสีดำทรงเสน่ห์ หญิงสาวตะลึงไปสักครู่ก่อนจะ

    สอดสายตามองหาที่เหมาะพอที่จะร่วมรัก แล้วสายตาก็มองไปเห็นตึกร้างที่เขาว่าผีดุนักดุหนา

    เธอข่มความกลัวเดินนำเขาเข้าไปก่อนเล็กน้อย ชายหนุ่มยืนทำใจสักครู่ก่อนเดินตามเข้าไป

    เธอเดินเข้ามากอดคอ ดวงตาสีม่วงอมดำทอประกายสนุกสนาน เธอยื่นหน้ามาประกบปากกับเขา

    ราวกับเป็นเรื่องปรกติ ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่ขัดข้องมือใหญ่ค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อกอดรัด

    หญิงสาวไว้แน่นหนา หญิงสาวที่จูบอยู่ก็รู้สึกถึงอาการผิดปรกติ จึงเงยหน้าขึ้นมามอง

    ชายหนุ่มยิ้มราวกับเทวดาเผยให้เห็นเขี้ยวยาวสีขาว นัยน์ตากลายเป็นสีแดงกล่ำ!!

    กรี๊ด...หญิงสาวร้องได้ไม่นานก็ถูกปิดปากด้วยริมฝีบางจนกระทั่งอ่อนระทวยลงไปในอ้อมแขน

    ชายหนุ่มโน้มหน้าเข้ามาที่ซอกคอแล้วกัดเต็มแรง ของเหลวเหนียวเหนอะถูกมือบางเช็ดออกจากริม

    ฝีปากขณะเดินผ่านร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายเขาเหลียวมองไปทางศพของหญิงสาว

    เล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้มส่งท้ายแล้วเดินออกมาโดยดวงตาสีดำที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นสีแดงยามดูดเลือด

    ได้เปลี่ยนกลับมาเป็นสีดำสนิทเรียบร้อย....

    เช้าวันต่อมาข่าวหญิงสาวโสเภณีถูกฆ่าตายโดยไม่เหลือเลือดสักหยอดแถมที่ลำคอก็ถูกกัดเป็นรู

    ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกิดจาดการถูกลอบทำร้ายโดยสัตว์อะไรบางอย่าง….

     

    เจแปน เสร็จหรือยังเดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะเสียงดุดังมาจากข้างล่างปลุกให้สาวน้อยอย่าง

    เจแปน ต้องลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงมือบางยกเช็ดริมฝีปากแบบลวกๆแล้วจึงลุกจากเตียงไปเปลี่ยน

    เสื้อผ้าเพราะความง่วงทำให้เธอที่ตื่นมานานแล้วต้องกลับไปนอนต่อจนกระทั่งสายเช่นนี้

    ค่ะแม่ๆ หนูไปก่อนนะคะ ตายแล้ว ~ สายแน่ๆ สายแน่ ~ ไอ้แปน เอ๋ย แกต้องตายแน่ๆ

    ฉันเจแปน สาวน้อยไทยแท้ แต่ชื่อเหมือนแดนซากุระ ร่างบางเฉียบเพียวลม ดวงตาสีเทาอ่อนนิดๆเซ็กซี่หน่อยๆ มีแต่คนชมว่าฉัน     สวย!!

    55+ ฉันเองก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ เพราะฉันสวยจริงๆ~คิกๆ ฉันสูง ขาว ตอนฉันออกมาเดินเล่น

    ที่สวนสาธารณะมีคนเข้ามาทักว่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าถือของหนักสิ ทั้งๆที่ฉันถือหนังสือ

    ไวโอลินเล่มนิดเดียว - -* แล้วก็อีกอย่างนะ ตอนที่ฉันเดินไปหยิบไวโอลินแล้วลมมันพัดเข้ามา

    อาจารย์ก็ลุกลี้ลุกลนวิ่งมาจับแขนฉันพร้อมกับพาไปนั่งที่นั่งอย่างดิบดี ก่อนจะไปแกยังบอกว่า

    ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวลมพัดไปจะแย่เอานะ

    เฮ้อ! ยอมรับก็ได้ ฉันมันตัวเล็ก ไม่สูง แถมยังผอมบางจนอาจารย์กลัวว่าลมมันจะพัดฉันไป

    แล้วไง ฉันผอมแล้วไง ฉันสวยแล้วไง ทำไมชอบมีคนมาดักตีฉันนัก- -* ความจริงไอ้ต้นเหตุ

    น่ะ ฉันพอจะรู้ โน่นไง วิ่งมาโน่น

    แปน ทายสิอะไรเอ่ย? ไอ้โรป(ฉันจะเรียกแบบนี้เฉพาะตอนโกรธ) หรือยุโรป วิ่งมาพร้อมรอยยิ้มสดใสแล้วสอง

    มือก็ทำหน้าที่ยื่นกล่องๆหนึ่งมาจนชิด

    หน้าฉัน - -* กล่องสีขาวประดับดอกไม้สีชมพูผูกด้วยริบบิ้นสีทอง คงจะแพงน่าดูเนอะ^^

    กล่องไง ฉันทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก็จะตอบแบบติดตลก แต่คำตอบกลับทำให้โรปทำหน้าตูมกลับมา

    ของขวัญวันเกิดไงล่ะ โรปยิ้มสดใส เฮ้อ มันกินอะไรตอนเด็กๆน้า ถึงได้ปรับเปลี่ยนสีหน้าเร็วจัง

    ฉันทำหน้าเอือมระอาหน่อยๆก่อนจะยื่นมือไปรับของขวัญ

    อะไร

    ลองเปิดดูสิ *-* ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นก็ได้โรป ฉันอยากจะบอกแบบนั้นจังเลยแต่พอเห็นสีหน้า

    ของโรปก็ปอดแหกขึ้นมาซะอย่างนั้น

    ว้าว สวยจัง เป็นสร้อย สร้อยสีเงินประดับด้วยจี้รูปค้างคาว ตามันฝังเพชรสีแดงแต่คงไม่ใช่ของจริง

    หรอกน่า ถ้าเป็นของจริงคงจะดี แต่มันแปลกๆ ตัวอักษรที่ติดอยู่นี่...มัน...อ่านไม่ออก - -* แหะๆ

    จริงนี่ มันเป็นตัวอักษรยึกยือแปลกๆ

    สวยมั้ย โรปถามแล้วส่งสายตาแปลกๆมาให้

    อือ สวยดี ฉันตอบพลางพิจารณาอีกรอบ มันเป็นสร้อยที่สวย สวยมากจนน่ากลัว มันเหมือนกับของ

    ยุคเก่าเลยอ่ะ

    มาฉันใส่ให้ โรปกระชากสร้อยจากมือฉันแล้ววิ่งไปอยู่ด้านหลังพลางใส่สร้อยให้

    ซื้อมาจากไหนเหรอ

    ไม่รู้สิ ฉันเจอมันห้อยอยู่กับต้นไม้อ่ะ โรปตอบแล้ววิ่งไปทันที

    เฮ้ย!!! ฉันโวยวายแล้วรีบวิ่งตามโรปไปทันที เฮ้อ! อยู่กับโรปบางครั้งก็สนุกบางครั้งก็น่ารำคาญ

    มันเป็นใครน่ะ เดินมากับยุโรปได้ยังไง ไม่รู้จักเจียมตัวซะมั่งเลยเนอะ

    เอาอีกแล้ว เริ่มแล้ว สงครามจิตวิทยา? เฮ้อ!! เซ็งพวกกระซู่กระหายกระทิงตัวผู้จังเลย

    ฉันเดินออกห่างโรปมาเกือบเมตร แต่โรปก็ดั๊น...วิ่งมาเดินข้างฉันแล้วส่งยิ้มสดใสไปให้พวกหล่อน

    พวกผู้หญิงนี่เป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่าน้า รู้สึกว่าจะชอบอ่อยผู้ชายกันจังเลย

    โรปพูดแล้วส่งจูบไปให้พวกหล่อนอีกครั้ง มีบางคนสลบไปเลยนะ

    แต่คำพูดพวกนั้นก็ทำให้ฉันจ้องยูอินตาขวาง ก็ฉันมันผู้หญิงเหมือนกันนี่ ดูเหมือนว่าโรปจะรู้สึก

    ถึงรังสีอาฆาตจากฉันก็เลยยิ้มแหยๆแล้วพูดต่อท้ายเบาๆ

    ยกเว้นยูวอลไว้คนหนึ่ง...

    แล้วไป ฉันคิดต่อท้ายเบาๆในใจ

    ฮู่ หวุดหวิด โรปถอนหายใจ

    อะไรนะ ฉันถามอีกครั้งเพราะได้ยินไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่นัก ก็ยัยพวกนี้น่ะสิ ส่งเสียงมันอยู่นั่น

    แหละ อย่าให้ได้โกรธนะ แม่จะหลังมือให้ซะนี่ โอยไม่ได้ยินอะไรแล้วโว้ย เอาวะ เป็นไงเป็นกันขอ

    ใช้ประโยชน์จากฉายา bad-tempered princess is but, lovelinessตอนนี้แหละวะ

    หุบปาก ฉันตะโกนลั่นแล้วส่งสายตาอาฆาตไปยังเหล่าชะนีพวกนั้น ได้ผล เงียบกันหมด

    ฉันแสยะยิ้มไปให้พวกชะนีทั้งเสียวเล่นๆก็จะก้าวเท้าเดินออกไป

    ยุโรปเป็นแฟนเจแปนเหรอ เสียงใสๆจากยัยเหล่าชะนีดังขึ้น แต่ก็เสียงนั้นอีกนั่นแหละที่ทำให้ตบะฉัน

    แตก ฉันเดินเข้าไปหายัยเด็กนั่น ยิ้มหวานให้ทีนึงก่อนจะเงื้อมือตบหน้ายัยนั่น

    เพียะ คนไหนที่เธอยัดเหยียดให้เป็นแฟนฉัน ฉันตะคอกใส่ยัยเด็กนั่น

    โรปถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาจับแขนฉัน

    ไปเหอะ แปน โรปพูดพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้นแต่เอาเถอะ

    เห็นแก่โรปก็ได้ฟระ ฉันสะบัดแขนออกแล้วเดินเข้าตึกเรียนไปแต่ก็อยากรู้เลยมาแอบดูตรงหน้าต่าง

    คำต้องห้าม จำไว้ซะ โรปกล่าวเสียงเย็นแล้วเงื้อมือ!! เด็กนั่นหลับตาปี๋

    เจ็บมั้ย โรปว่าพลางจับคางของเด็กนั่นหันซ้ายหันขวาอย่างพิจารณา

    ไม่เป็นไร ช่างเถอะ *-* เด็กนั่นพูดแล้วล้มลงไป เฮอะ เป็นลม ชิ

    อ้าว!! เป็นลมไปซะแล้ว โรปพูดแล้วทำหน้าเหวอๆ 55+ น่ารักจังเลย แต่ยังไม่ได้คิดบัญชีเรื่องเอา

    สร้อยที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ฉันใส่นะ ไม่งั้น วันนี้ฉันนอนไม่หลับแน่ๆ ฉันต้องไปเค้นถามมันให้ได้
    ไอ้โรป ฉันเดินเข้าไปพร้อมรังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาจนเห็นได้ชัด ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ เฮอะ อย่าคิดว่า

    ทำเป็นไม่สนแล้วฉันจะให้อภัยแกนะ ย๊ากกก ไอ้โรป วันนี้แกตาย!!!!!

    หมับ มือเรียวบางของฉันคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อของไอ้โรปพร้อมโน้มหน้ามันเข้ามาใกล้ๆ

    สร้อยนี่ ไปเอามาจากไหน ฉันกัดฟันกรอดๆแล้วเน้นถามทีละคำ โรปหน้าซีดไปถนัดตา

    เอาซี ทำหน้าตลกๆแบบนั้นให้ฉันดูอีกซิ ฉันอยากจะรู้จังเลย? ว่าแกจะไถลไปยังไง โฮะๆ

    คือว่า...ยุโรปกรอกตาเล็กน้อย เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน อิอิ เอาซี้ เชิญแกไถลได้ตาม

    สบาย

    อันที่จริง ฉันเจอมันตรงต้นไม้ในสวนสาธารณะน่ะ มันแขวนอยู่กับต้นไม้ที่ฉันแอบไปนอนกลางวัน

    ไอ้โรป แก ไปไกลฉันเลย เอาสร้อยบ้าๆนี่ไปด้วย ฉันปลดสร้อยออกจากคอ ฮื้บ...ฮื้บ  เอ ไหงมันถอดไม่ออกวา

    โรปเดินมาดูสร้อย พอสำรวจดูไปสักพัก โรปก็ตาโตแล้วหลบตาฉันพร้อมกับเอ่ยเบาๆอย่างเลี่ยงไม่ได้

    ฉันเพิ่งรู้ว่ามันต้องใช้รหัสในการถอดน่ะ อะ..อันที่จริงฉันยังไม่ได้สำรวจเลยด้วยซ้ำ พอรู้ว่ามันเป็นสร้อย

    ก็เลยเอาไปห่อแล้วเอามาให้เธอน่ะ

    กะ...แก...อะ...ไอ้ยุโรป  ฉันพูดเสียงเย็นด้วยความโกรธในขณะที่ยุโรปรู้สึกว่ามีสายฟ้าฟาดเปรี้ยงเฉียด

    หางคิ้วเจแปนไปหมาดๆ

    สงสัยจะรอดยากแล้วมั้งวันนี้ เล่นเรียกซะเต็มยศแถมคำว่า ไอ้ ตามมาด้วย ยุโรปถอนหายใจแล้วเอ่ยเสียงเบา

    ก็...ฉัน...ไม่อยากจะพลาดวันเกิดแปนนี่นา เชอะ อุตส่าห์หามาได้แล้วยังเจอว่าอีก รู้งี้ไม่เอามาซะก็ดี T.T~

    แล้วรู้บ้างมั้ยว่าไอ้การที่ฉันถอนสร้อยไม่ออกนี่มันมีผลต่อจิตใจอันแสนบอบบางของฉันนะ ฉันตวาดก่อนจะเดิน

    หุนหันออกมา ทิ้งไว้เพียงความเศร้าใจกับกลิ่นหอมอ่อนๆคละคลุ้ง....

    บนต้นไม้ต้นหนึ่ง.....มีร่างสองร่างกำลังเฝ้าจับตาดูการทะเลาะกันของสองผองเพื่อน

    เจอแล้ว หญิงสาวรูปร่างอรชร สูงโปร่งรำพันออกมาเบาๆ นัยน์ตาสีเพลิงกำลังจ้องร่างเล็กๆของเจแปน

    แล้วเราจะเอายังไงดี ชายหนุ่มข้างๆปลดผ้าคลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้ายาวรีได้รูป ริมฝีปากจิ้มลิ้ม

    กำลังเอ่ยอย่างผะแผ่ว อย่างเรียบๆแต่ดวงตาก็ยังคงจับจ้องเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา

    หญิงสาวข้างๆยิ้มเย็น ดวงตาสีแดงเพลิงฉายแววเหี้ยมเกรียมก่อนจะอ่อนแสงลงเมื่อนึกถึงใบหน้าเล็กๆน่ารัก

    ของเจแปน รอ ริมฝีปากอิ่มเม้มกัดจนเลือดออกมา มือเรียวเช็ดออกอย่างลวกๆแล้วจึงกระโดดลงมา

    เม็ดทรายแห่งกาลเวลาเริ่มเคลื่อนไหวแล้วนายแห่งข้า... 
    ฉับพลันร่างบางก็หายไปพร้อมกับสายลมผะแผ่วเบาบาง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×