คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ช่วงเวลาของฉัน
กริ๊ง กริ๊ง..
เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้นในขณะที่ฉันนั่งรอขึ้นเครื่อง เพื่อนสุดหล่อของฉันนั่นเอง
‘ฮัลโหล ว่าไงจ้ะ ทรี’
ฉันแกล้งพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน
‘เธอไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานเลยนะพลอย หนีไปเที่ยวอีกแล้วหรอ ไปไหนละรอบนี้’
‘ไปเชียงใหม่อ่ะ ไปด้วยเปล่า ยังไม่ได้ขึ้นเครื่องนะ’
อันที่จริงทีแรกฉันก็กะว่าจะชวนทรีไปด้วยแล้วละ แต่เห็นทรีพูดๆไว้ว่าเหมือนจะมีงานมาให้เขาวาดรูป เลยไม่อยากจะโทรไปกวน
‘พอดีมีงานวาดรูปเข้ามาอ่ะ ยังไม่มีไอเดียเลย ขอหาไอเดียก่อน ไม่แน่ว่าเดี๋ยวอาจจะตามไป’
ฉันแอบยิ้มในใจเมื่อรู้ว่าทรีก็อยากจะไปเที่ยวกับฉันเหมือนกัน เพราะฉันกับทรีไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้ว เพราะเราต่างคนก็ต่างทำงาน จะว่างกันทีก็ว่างแค่ไม่กี่วัน แต่คราวนี้ฉันลาออกจากงานเรียบร้อยแล้วมันคงจะดีมากเลยทีเดียวถ้าทรีจะไปเที่ยวกับฉัน
‘โอเคๆ ถ้าจะไปยังไงก็โทรมาหาด้วยละกัน จะได้ไปเที่ยวกัน เดี๋ยวฉันวางก่อน ถึงเวลาขึ้นเครื่องแล้ว แค่นี้ก่อนนะ บ๊าย บาย’
‘โอเค เดินทางปลอดภัยนะพลอย’
ทรีวางสายไป ฉันก็เตรียมขึ้นเครื่องจะไปเชียงใหม่ เชียงใหม่จ๋า อีกชั่วโมงเจอกันนะ ยะ หู้ววว !! มีความสุขจังเลย
ณ. เชียงใหม่
ในที่สุดฉันก็มายืนอยู่ที่ภาคเหนือของประเทศไทยจนได้ อรอิงมารับฉันที่แอร์พ็อต อรอิงคือเพื่อนสนิทของฉันตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วละ รู้จักกันมานานมาก เธอมาตั้งรกรากอยู่ที่เชียงใหม่กับสามีของเธอ เพื่อนฉันแต่งงานแล้วนะค่ะ ขอบอกไว้ก่อน แต่พึ่งแต่งได้ไม่นานนี้เอง แล้วก็เปิดร้านกาแฟกับสามีของเธอ อิจฉาจริงอะไรจริง ฮ่าๆๆ
“คิดถึงจังเลย แม่สาวคนสวย”
อรอิงเดินมากอดฉันแล้วช่วยฉันยกกระเป๋าขึ้นรถของเธอ ฉันเอาเสื้อผ้ามาไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะถ้าไม่พอยังไงก็ค่อยหาซื้อเอาข้างหน้าละกัน ฮ่าๆๆ
“มาคนเดียวหรอ พลอย”
อรอิงถามขึ้นในระหว่างที่ขับรถไปร้านของเธอ
“ก็มาคนเดียวน่ะซิ จะให้มากับใครล่ะค่ะเพื่อนอร”
“แหม ก็นึกว่าจะพาหนุ่มๆมาด้วย มากับฟงกับแฟนไรงี้ ตกลงมาคนเดียวจริงๆหรอ”
โดนเพื่อนแซวคะ เห็นแต่งงานแล้วหรอกก็เลยไม่อยากแซวกลับ ก็ใช่ซิ อรอิงกับสามีของเธอคบกันมาตั้งแต่มัธยมต้น เรียนจบมีงานทำจะแต่งงานกันเลยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคบกันมาเกือบ 10 ปี ฉันละนับถือความรักของคนคู่นี้จริง
“มีที่ไหนละ ฟงแฟน เลือกเยอะซะขนาดนี้ สงสัยจะขึ้นคานด้วยละมั้ง”
เราคุยกันถามสารทุกข์สุขดิบกันไปเรื่อยจนถึงร้านของอรอิง
ร้านกาแฟ อรอิง #
ร้านกาแฟของอรอิงตกแต่งร้านได้น่ารักมาก ตกแต่งด้วยสีขาวน่ารักสะอาดตา น่านั่งเล่นเป็นอย่างยิ่ง ฉันชอบร้านของเพื่อนฉันมากมันให้บรรยากาศเป็นครอบครัวเล็กๆสบายๆ พอเปิดประตูเข้าไป จมูกก็ปะทะเข้ากับกลิ่นกาแฟหอมๆ คนในร้านมีอยู่ปะปราย คนที่กำลังชงกาแฟอยู่คือสามีของอรอิงนั่นเอง
“หวัดดีคับ พลอย”
สามีของอรอิงทักทายฉันอย่างเป็นกันเอง เพราะฉันเป็นเพื่อนสนิทกับอรอิงก็เลยพลอยสนิทกับฉันไปด้วย
“สวัสดีอ้ำ ขอรบกวนมาอาศัยอยู่ที่นี่สักพักนะ พอดีตกงานนะ เดี๋ยวจะช่วยทำงานนะ ฮ่าๆ”
ฉันทักทายอ้ำอย่างคนคุ้นเคยเหมือนกัน อ้ำเดินเอามอคค่าเย็นมาให้ฉัน อรอิงบอกให้ฉันนั่งเล่นอยู่ที่ร้านก่อน เพราะบ้านของอรอิงมันอยู่อีกส่วนหนึ่งแต่ไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่นัก และฉันก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ฉันเลยนั่งดื่มมอลค่าเย็นๆกับเค้กนมสดฝีมือของเพื่อนฉันเองอย่างสบายใจ วันนี้ฉันยังไม่ได้วางแผนว่าจะไปที่ไหน เพราะกะว่าจะพักผ่อนก่อน เห็นอรอิงบอกว่าเย็นนี้สามีของเธอจะพาไปทานอาหารเหนือสุดแสนอร่อยที่ท่าแพร บางทีฉันก็แอบงงๆกับชื่อหมู่บ้าน ชื่ออำเภอ ชื่อสถานที่ของเชียงใหม่เหมือนกันนะ ไหนจะท่าแพร ไหนจะนิมมานพ์ โน่นนี่นั่นนี่ แต่อีกหน่อยก็คงจะชินแหละ
“เห้ย !! อย่ากินเยอะนะ พลอย เดี๋ยวอ้วนนะจ่ะ”
อรอิงเดินมานั่งข้างๆฉันหลังจากที่เห็นฉันเดินไปขอเค้กอ้ำมาอีกชิ้น สงสัยฉันหิวมากไปหน่อย แล้วอีกอย่างเค้กก็อร่อยมากด้วย ฝีมือของเพื่อนฉันนี่ไม่เคยตกเลยจริงๆสมควรแล้วละที่จะมาเปิดร้านเค้กร้านกาแฟแบบนี้ รุ่งแน่นอน
ในที่สุดก็ถึงเวลาอาหารเย็น วันนี้อรอิงกับสามีปิดร้านเร็วเพื่อที่จะพาฉันไปดินเนอร์ โอ้ว !! โรแมนติกจังเลย แต่มันจะโรแมนติกมากกว่านี้ถ้าฉันมีคู่มาด้วย เพราะฉันต้องมาทานข้าวกับคู่แต่งงานใหม่ มันอิจฉารู้บ้างไหม
“พลอย สั่งเต็มที่เลยนะ เดี๋ยววันนี้อ้ำเลี้ยงเอง”
สามีของอรอิงช่างเป็นคนที่จิตใจดีเสียจริงๆ เมื่อเปิดทางให้ขนาดนี้ มีหรือว่าฉันจะเกรงใจ ฮ่าๆ
อาหารเหนือหลากหลายชนิดวางเรียงรายกันอยู่เต็มโต๊ะ ฉันกับอิงอรกินกันอย่างเมามันส์ เพราะฉันกับอิงอรเป็นขากิน ขาเที่ยวกันมาก่อนตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้ว พอได้มานั่งกินข้าวด้วยกันแบบนี้ก็ทำให้ฉันคิดถึงวันวาน วันเก่าๆที่เราอยู่ด้วยกัน
เช้านี้ที่เชียงใหม่ อากาศเย็นๆกับแสงแดดอ่อนๆมันทำให้ฉันสามารถตื่นเช้าได้ โปรแกรมของฉันวันนี้ก็คือ ไปเดินช้อปปิ้ง ถ่ายรูปเล่นที่ถนนคนเดิน แต่ก่อนจะไปเดินเล่นก็ตอนเย็นโน่น ฉันเลยมาช่วยอิงอรกับอ้ำที่ร้านกาแฟ ตอนสายๆคนที่ร้านก็เยอะพอสมควรส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกพนักงานบริษัทมาทานอาหารเช้าเล็กๆน้อยๆ อรอิงบอกว่าตอนบ่ายๆเย็นๆจะมีเด็กๆนักศึกษามานั่งกินกาแฟ กินเค้กกัน เวลานั้นแหละ คือเวลาที่ฉันรอคอย ฮ่าๆ เหล่เด็กค่า
กุ๊ง กิ๊ง..
เสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านดังขึ้น ส่งสัญญาณให้รู้ว่ามีลูกค้าเข้ามา ฉันเลยเดินออกไปต้อนรับ พอฉันเห็นหน้าลูกค้าที่กำลังเข้ามาในร้านเท่านั้นแหละ ฉันแทบจะอ้าปากค้างเลยทีเดียว ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เพื่อนร่วมคอนโดของฉันเอง
“เห้ย !! พลอยพราว”
คนที่กำลังเข้ามาก็ตกใจไม่แพ้กันที่เห็นฉัน นนทร์ถึงกับงงเลยทีเดียว เพราะเมื่อวันก่อนยังเจอเธอที่ผับในกรุงเทพอยู่เลย แต่ทำไมวันนี้เธอมาโผล่แถวนี้ได้ละ นี่เป็นสาวล่องหนหรือเปล่าเนี่ย
“โลกกลมหรือโลกเอียงกันแน่เนี่ย”
ฉันพึมพำขึ้นในขณะที่กำลังพานนทร์ไปนั่งที่โต๊ะ ตอนนี้ลูกค้าไม่มี มีแค่ฉันกับนนทร์เท่านั้น
“ผมว่าโลกกลมแล้วแหละ ไม่ใช่เอียงแล้วละ ทำไมเราบังเอิญเจอกันบ่อยจัง”
นนทร์อมยิ้มไปคุยกับฉันไป เขาดูโทรมๆไปมากเลยทีเดียว โทรมหนักกว่าวันที่ฉันถ่ายรูปเขาวันนั้นเสียอีก สงสัยกินเหล้า เมา หัวราน้ำเลยล่ะซิ
“ฉันมาเที่ยวหรอก คุณเถอะ มาทำอะไร เมื่อวานก่อนยังเจออยู่ที่ผับอยู่เลย หน้าตาแลดูทรุดโทรมเชียว”
นนทร์ยิ้มแบบเขิลๆ ไม่รู้ว่าเขิลหรืออะไร เขาพยายามก้มหน้าก้มตา ฉันคิดว่าเขากำลังหลบสายตาของฉันอยู่ เพราะตอนนี้หน้าตาของเขาแทบจะดูไม่ได้เลย จากหนุ่มนักธุรกิจหล่อเหลาตอนนี้กลายมาเป็นหนุ่มขี้เมาที่ไหนก็ไม่รู้
“ผมมาคุยงานกับลูกค้าน่ะ พอดีที่บริษัทได้รับโปรเจ็คงานที่เชียงใหม่ เลยต้องเข้ามาคุย”
ก็ยังไม่ทิ้งการทิ้งงานนะ ยังถือว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบอยู่ในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเมาจนหัวราน้ำแต่ก็ยังพยายามมาทำการทำงาน ฉันยิ้มเล็กน้อยตอบเขาไป อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว
“แล้วคุณละ มากี่วันเนี้ย แล้วจะกลับวันไหน”
นนทร์ถามขึ้นถึงวันเวลาที่ฉันมาและวันเวลาที่ฉันจะกลับ มาเชียงใหม่คราวนี้ฉันก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าฉันจะอยู่นานแค่เพราะฉันก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร งานก็ไม่ต้องทำก็กะว่าจะพักผ่อนยาวๆไปเลย ตามอารมณ์ละกันอยากกลับเมื่อไหร่ก็กลับ
“ตามอารมณ์คะ อยากกลับวันไหนก็กลับวันนั้นแหละ แต่ที่แน่ๆไม่ใช่วันนี้ และไม่ใช่พรุ่งนี้”
นนทร์แอบยิ้มกับคำตอบของฉันในขณะเดียวกันอรอิงก็ยกกาแฟมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ฉันแอบแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นอรอิงเอากาแฟมาเสิร์ฟให้นนทร์ทั้งๆที่นนทร์ยังไม่ได้สั่งเลย
“ขอบคุณ อร”
ฉันยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่เมื่อเห็นว่านนทร์พูดคุยกับอรอิงอย่างสนิทสนม หรือว่าสองคนนี้จะรู้จักกันมาก่อน อะไรกันเนี่ย ฉันมองหน้าอรอิงกับนนทร์สลับไปสลับมาเพื่อค้นหาคำตอบจากคนทั้งคู่
“พวกเธอรู้จักกันมาก่อนหรอ”
ฉันยิงคำถามที่ฉันสงสัยทันที แต่ไม่ได้เจาะจงว่าจะให้ใครตอบ
“อ่าว รู้จักซิ นนทร์เป็นเพื่อนของอ้ำไง แกจำไม่ได้หรอ ตอนงานแต่งฉันเขาก็มา”
หืมมม... โลกมันจะกลมไปหรือเปล่าเนี่ย ไม่จริงมั้ง ตอนนั้นฉันก็มางานแต่งอรอิง แต่ทำไมไม่เห็นจะคุ้นหน้านนทร์เลย อะไรกันเนี่ย ฉันหันไปมองหน้านนทร์เพื่อยืนยันคำตอบของอรอิง
“จริงครับ ตอนงานแต่งงานของอรอิง ผมก็มา แต่ทำไมผมไม่เห็นคุณ”
นนทร์ก็มีสีหน้าแปลกใจไม่น้อยเหมือนกันเมื่อรู้ว่าฉันได้มาร่วมงานแต่งงานของอรอิงด้วย แต่ทำไมฉันไม่คุ้นหน้านนทร์เลย ตอนนั้นฉันคงไม่สนใจใครเลยละมั้ง
“ตอนนั้นนายมากับใครละนนทร์ นายจะไปสนใจคนอื่นได้ยังไง ในเมื่อนายมากับสาวสวยซะขนาดนั้น”
อรอิงพูดขึ้นถ้าฉันเดาไม่ผิดอรอิงน่าจะพูดถึงเมยา อดีตแฟนของนนทร์แน่ๆ เพราะพออรอิงพูดจบสีหน้านนทร์ก็เปลี่ยนไปทันที อรอิงเอ้ย เธอช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยนะ เขาเลิกกันแล้วเว้ยยย ฉันรีบลากอรอิงมาที่หลังเคาเตอร์
“อร แกอย่าพูดถึงเมยาอะไรนั่นอีก เพราะว่านนทร์พึ่งเลิกกับเมยาเมื่อไม่นานมานี้เอง”
ฉันรีบมาบอกอรอิงเรื่องที่นนทร์เลิกกับเมยา เพราะเดี๋ยวอรอิงพูดถึงเมยาอีก นนทร์คงจะน้ำตาไหลพรากๆแน่ๆ ฉันมองไปที่นนทร์ ชายหนุ่มกำลังนั่งจิบกาแฟเพื่อดับความว้าวุ่นในใจของตนเองอยู่ ผู้คนมากมายที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ทำให้เขาดีขึ้นเลย ไม่ได้ทำให้เขาลืมเมยาได้แม้แต่นิดเดียว
“เอ้อ คุณ เย็นนี้คุณมีธุระที่ไหนหรือเปล่า ไปเดินถนนคนเดินกับฉันไหม”
ฉันเดินกลับมานั่งที่โต๊ะและชักชวนให้นนทร์ไปเดินถนนคนเดินด้วยกัน เผื่อว่ามันจะทำให้นนทร์รู้สึกเบิกบานขึ้นเมื่อได้พบเจอกับผู้คนมากมาย
“เอาซิ เย็นนี้ผมว่างพอดี ไปกี่โมง เดี๋ยวผมมารับ”
เมื่อฉันนัดแนะเวลากับนนทร์เรียบร้อยแล้ว นนทร์ก็ขอตัวไปทำงานต่อ เพื่อจะได้เคลียงานเสร็จเร็วๆ ตอนเย็นจะได้ไปลั่นล้ากับฉัน ฮ่าๆ ช่างน่าสนุกจริงๆ มีคนไปเที่ยวเป็นเพื่อนละ
OMG !! ไม่อยากจะเชื่อว่าเชียงใหม่จะมีแต่ชาวต่างชาติเดินกันให้ว่อนขนาดนี้ พอมาถึงถนนคนเดินฉันก็อยากจะกรีดร้อง คนเยอะเป็นบ้าเลย ไม่อยากจะเข้าไปเดินเบียดตัวกับประชาชนเหล่านั้นเลย มันคงจะอึดอัดน่าดูเลยทีเดียว ฉันหันไปมองหน้าคนที่อยู่ข้างๆ ตอนนี้นนทร์ก็มีสีหน้าไม่ต่างกับฉันหรอก ดูจากลักษณะแล้วเขาก็คงไม่ชอบที่ที่มีคนเยอะๆแบบนี้เหมือนกันแหละ ไม่อยากจะเม้าส์นะค่ะ นนทร์โกนหนวดแล้วหน้าตาเขาดูสะอาดหล่อเหลาขึ้นเป็นกอง กองโตๆเลยละ ยิ่งเขาแต่งตัวสบายๆเสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้นแบบนี้นะ ไม่อยากจะบอกว่า หล่อโฮกกก สาวๆมองกันตรึม !!
“เอ่อ ฉันว่าเราไปหาร้านอาหารนั่งชิวก่อนดีกว่าไหมอ่ะ แล้วตอนดึกๆค่อยมาเดิน คนน่าจะน้อยกว่านี้ คุณว่าไง”
ฉันเสนอความคิดของฉันไป เพราะถ้าให้ฉันไปเดินตอนนี้ คงไม่ได้อะไรหรอก และจะพลอยทำให้ฉันหงุดหงิดเสียเปล่าๆกล้องที่จะเตรียมมาถ่ายรูปก็คงจะไม่ได้รูปกลับไปสักรูปแน่ๆ
“เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ ผมก็ชักจะหิวๆแล้วละคุณ”
แล้วฉันกับนนทร์ก็ตกลงกันไปนั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับถนนคนเดิน คนไม่เยอะมาก บรรยากาศในร้านก็โอเคเลยทีเดียว
“คุณอยากทานอะไรอ่ะสั่งได้เลยนะ”
ฉันยื่นเมนูไปให้นนทร์ แต่นนทร์กลับส่ายหน้าแล้วยื่นกลับมาให้ฉัน
“คุณสั่งมาเลย สั่งเผื่อผมด้วย เอาอะไรก็ได้ผมไม่ค่อยรู้จักอาหารเหนือเท่าไหร่ แต่ขอที่มันไม่เผ็ดนะ”
พอสั่งฉันเสร็จนนทร์ก็ยกน้ำขึ้นมาดื่มไม่สนใจฉันอีกเลย เอาซิ ให้ฉันสั่งอาหารเหนือ ฉันก็พึ่งมาเชียงใหม่ได้ 2 วัน พูดเหมือนกับว่าฉันมาอยู่เป็นปีๆ สั่งๆก็สั่งละกัน จะสั่งมาจนเต็มโต๊ะเลย คอยดู !!
แล้วอาหารเหนือนานาชนิดก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวซอยเอย ใส้อั่วเอย ของกินโน่นนี่ เยอะแยะเต็มไปหมด นนทร์ถึงกับตาโตเมื่อเห็นอาหารที่อยู่ตรงหน้า เป็นยังไงละให้ฉันสั่ง อลังการไปเลยละซิ ฮ่าๆ
“เห้ย พลอย คุณกินหมดหรอ เยอะไปเปล่าเนี่ย”
นนทร์กวาดตามองอาหารที่อยู่ตรงหน้า ทำไมจะกินไม่หมดแค่นี้เอง
“พูดมากน่า กินไปเหอะ กินด้วยกัน หมดไม่หมดค่อยว่ากัน ลุยเลย”
พอจบคำพูดของฉัน ฉันก็จัดการกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างเมามันส์ แบบไม่ได้ห่วงสวยเลยจริงๆ ไม่รู้ซิ เวลาฉันอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ฉันคิดว่าฉันจะห่วงสวยไปทำไม มันไม่จำเป็นเลย ฉันเป็นแบบนี้ฉันรู้สึก โอเค มากกว่า
“พลอย คุณกินเก่งมากอ่ะ”
นนทร์เดินลูบท้องของตัวเองออกมาจากร้าน ถึงแม้เราจะกินอาหารที่อยู่บนโต๊ะไม่หมด แต่ก็ไม่มีอันไหนที่จะเอาไปกินต่อได้ละ เพราะฉันจัดการซะเรียบร้อย ฮ่าๆ สะใจมาก แทบอ้วกเลยทีเดียว
“เก่งอะไรละคุณ แทบอ้วกเลยทีเดียว”
ฉันกับนนทร์เดินตรงไปที่ถนนคนเดิน ตอนนี้ผู้คนเริ่มบางตาลงไปแล้ว เหลือคนเดินดูของอยู่ไม่มากเท่าไหร่ เวลานี้แหละเหมาะกับการช็อปปิ้งและถ่ายรูปของฉันแล้วละ ฉันเริ่มยกกล้องของฉันขึ้นมาและกดชัตเตอร์ ถ่ายคนโน้น คนนี้ และถ่ายบรรยากาศยามค่ำคืนของเชียงใหม่ ฉันรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก เวลาซื้อของนนทร์ก็จะเป็นคนอาสาถือของให้เพราะว่าเขาเห็นฉันถ่ายรูปไม่ถนัด นนทร์เดินผ่านเลนส์ของฉันในขณะที่เขาเลือกซื้อของอยู่ ฉันสัมผัสได้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่ขึ้นกล้องมากและมีพรสวรรค์ในการเป็นนายแบบอยู่ในตัวสูงอย่างมากทีเดียว ฉันเลยแอบชักภาพเขาไว้ซะหลายรูปเลยละ
“เป็นไงคุณ สนุกเปล่า”
ฉันคิดว่าเราสองคนน่าจะเหนื่อยกับการเดินถนนคนเดินในครั้งนี้แล้วละ เพราะฉันทั้งปวดแขนปวดขา นนทร์ก็ได้ของกลับมาเหมือนกัน รู้สึกว่าจะเป็นเสื้อยืดมั้ง เพราะฉันเห็นเขาแวะซื้อเสื้ออยู่พักนึงแต่ไม่รู้ว่าเสื้ออะไร
“สนุกมากเลยพลอย ไว้คราวหน้าไปเที่ยวกันอีกนะ ผมรู้สึกว่าผมสบายใจขึ้นมากเลย”
ใบหน้าของนนทร์มีรอยยิ้มขึ้นมาแต่งแต้มอย่างเห็นได้ชัด พอเขายิ้มแบบนี้มันก็ทำให้ฉันพลอยยิ้มไปด้วย มันต้องแบบนี้ซิถึงจะดูดีหล่อเหลาสมกับหมาดหนุ่มนักธุรกิจหน่อย
“ดีแล้วละคุณ อย่าไปคิดมากเลยนะ เรื่องความรักน่ะ อะไรที่มันไม่ใช่ของเรายังไงมันก็ไม่ใช่ของเรา ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ใช้ชีวิตวันนี้ให้มีความสุขดีกว่านะ ถ้าไม่อยากอยู่คนเดียวก็มาหาฉันที่ร้านกาแฟได้ พรุ่งนี้ฉันกะว่าจะไปไหว้พระ ถ้าสนใจก็แวะเข้ามาละ”
ฉันยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้า และผุ้ชายตรงหน้าก็กำลังยิ้มให้ฉันอยู่เหมือนกัน ฉันมีความสุขฉันก็อยากให้คนที่อยู่รอบข้างมีความสุขไปด้วย ถึงแม้ว่าคนคนนั้นเขาจะเจอกับปัญหาอะไรมาก็ตาม ฉันเชื่อว่าถ้าเรายิ้มให้กับทุกๆปัญหา อีกไม่นานความทุกข์ใจที่เกิดจากปัญหาเหล่านั้นจะจืดจางและเลือนลางหายไปในที่สุด
ฉันเชื่อแบบนั้น จริงๆนะ ^^
ความคิดเห็น