คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 โลกกลมหรือโลกเอียง
กริ๊ง กริ๊ง
ในขณะที่กำลังเพลิดเพลินไปกับสถานที่ท่องเที่ยวที่คิดไว้ว่าจะไป เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน ใครโทรมากันหนอ
(Rainny)
เพื่อนสาวแสนสวยของฉันนั่นเอง นานๆนางจะโทรมาที สงสัยต้องมีเรื่องให้ช่วยแน่ๆเลย
‘ว่ายังไงค่ะเพื่อนสุดสวย’
ขอคอนเฟิร์มนะค่ะว่าเพื่อนของฉันคนนี้สวยจริงค่ะ จะไม่สวยได้ยังไงละค่ะ นางเล่นศัลยกรรมมาซะเกือบจะหมดทุกอย่าง หน้านางเป๊ะสุดแล้วละในกลุ่มเพื่อนของฉันน่ะ แต่ก็คงจะเป็นเพราะหน้าที่การงานของนางด้วยแหละ นางถึงต้องศัลยกรรม ก็นางทำงานเดินแบบ พริตตี้นี่นา ก็ต้องสวยเป๊ะซิ
‘พลอย พลอย ฉันมีเรื่องให้แกช่วยอ่า วันนี้แกว่างไหม’
นั่นไง เคยเดาอะไรผิดซะที่ไหนละ นางโทรมานางต้องมีเรื่องให้ช่วย ชัวร์
‘ว่างทั้งวันค่า มีเรื่องอะไรให้ช่วยค่ะ ว่ามาเลยคะ’
‘คือ อย่างนี้นะ คืนนี้มีงานเดินแบบที่ผับเปิดใหม่ แล้วฉันเป็นแม่งานดูแลเรื่องเดินแบบ แล้วที่นี้เด็กในสังกัดฉันมันป่วยกะทันหัน เลยขาดคนเดินแบบ คือสรุปละกัน คืนนี้แกต้องมาเดินแบบให้ฉัน มีค่าขนมให้ด้วยนะ’
เอิ่ม.. ฉันก็พอจะรู้หรอกนะว่าเรนนี่มันทำงานเกี่ยวกับพวกเดินแบบ พริตตี้ ฉันก็เคยไปช่วยมันบ้างเป็นบางครั้ง แต่เดินแบบตอนกลางคืนฉันไม่เคยไป มันดูจะล่อแหลมไปรึเปล่านะ
‘เอ่อ จะดีหรอแก’
ฉันลองถามแบบหยั่งเชิงไปก่อนเพราะยังไม่อยากตอบตกลงเรนนี่ไป เพราะถ้ารูปแบบงานมันล่อแหลมเกินไปฉันก็ไม่อยากทำ
‘ดีซิแก แค่เดินแบบรอบเดียวเอง แล้วก็เดินไปทักทายแขกอ่ะ แต่แกไม่ต้องไปก็ได้ เดินแบบเสร็จแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้า รับเงินกลับบ้านเลย คือคนฉันไม่พออ่ะ แกมาเถอะนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเหล้า’
นั่นไง เห็นฉันเป็นสาวขี้เมาไปได้ เอะอะๆเลี้ยงเหล้าๆ แหมๆ
‘เอางั้นหรอแก ชุดไม่โป๊ใช่ป่ะ’
‘เอางี้แหละแก ไม่โป๊หรอก นะ มาช่วยฉันหน่อย ร้านแถวทองหล่อนะ เจอกัน 2 ทุ่ม ไปไม่ถูกยังไงก็โทรมานะ แค่นี้ก่อนนะ ฉันไปเตรียมงานก่อน แกต้องมานะ บ๊าย บาย จุ๊บ’
‘เอ้ยๆ วางเร็วไปป่ะ’
ตู๊ดๆๆๆ นั่นไง เพื่อนฉันมันก็นิสัยเป็นแบบนี้กันซะหมด เอาแต่ใจกันเกือบทั้งแก๊ง สรุปว่าคืนนี้ฉันต้องไปเดินแบบที่ร้านอะไรนั่นใช่ไหมเนี่ย เห้อ
จะรอดไหมเนี่ยเรา แต่ก็ถือซะว่าไปเจอเพื่อนเก่าๆละกัน ไหนๆก็ว่างงานแล้วนี่นา ออกไปท่องราตรีสักหน่อยจะเป็นไรไป เอิ่ม.. ชวนทรีไปด้วยก็น่าจะดี หาคนไปขับรถให้สักหน่อย เผื่อเมา ฮ่าๆๆ
‘ฮัลโหล’
เสียงตอบกลับมาจากปลายสายแลดูจะสดใสกว่าวันที่ฉันไปดื่มเบียร์เล็กน้อย สงสัยจะวาดรูปเสร็จแล้วแน่เลย
‘ทรี วันนี้แกว่างป่ะ’
‘ว่างนะ ทำไมหรอ แกจะให้ฉันพาไปไหน’
นั่น !! มันจะรู้ดีไปไหน รู้ดีทุกเรื่องเลยซิ ให้ตายเถอะ
‘พาฉันไปทำงานหน่อย วันนี้ฉันต้องไปเดินแบบช่วยยัยเรนนี่อ่ะ เรนนี่มันรับงานมาแล้วขาดคน ที่ผับแถวทองหล่อ โอเค ตามนั้นนะ มารับฉันที่คอนโดด้วย ทุ่มนึงเจอกันนะจ้ะ บ๊าย บายค่ะ’
ฉันรีบชิงวางสายจากทรีอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวว่าทรีจะไม่ยอมไปเป็นเพื่อน ก็เลยต้องใช้วิธีมัดมือชกแบบนี้แหละ ฮ่าๆ บอกแล้วไง ว่านิสัยนี้เป็นกันทั้งแก๊ง
19:00 น.
ทรีขับรถมารับฉันที่หน้าคอนโดตามที่นัดหมายไว้ ทรีเลื่อนกระจกลงมาเพื่อบอกให้ฉันขึ้นรถเร็วๆ โอ้ พระเจ้า ทำไมเพื่อนฉันถึงได้หล่อเหลากระชากใจสาวน้อย สาวใหญ่ ชะนี เก้ง กวางได้มากขนาดนี้ ฉันรู้สึกว่าโดนสายตาสัก 10 คู่จับจ้องและทิ่มแทงอยู่ ด้วยไฟอิจฉาอันร้อนแรง ฉันจะถูกแผดเผาไหมเนี่ย ออกแนวเพ้อเจ้อ - -“
“เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนจะตาย”
ทรีทักฉันเมื่อฉันขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว สงสัยฉันจะโอเว่อร์แอ็คติ้งมากไปหน่อย มันเลยแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างเด่นชัด
“อ่อ ฉันรู้สึกว่าฉันโดนสายตาบรรดา สาวน้อย สาวใหญ่ ทิ่มแทงและแผดเผาน่ะ เพราะขึ้นรถมากับนายไง ฮ่าๆ”
“โอ้ย !!”
โดนเข้าให้ 1 ที ทรีผลักหัวฉันจนเกือบจะไปฟาดกับกระจกอีกด้านหนึ่ง อะไรมันจะรุนแรงขนาดนี้ นี่ฉันเป็นผู้หญิงนะเนี่ย
“เธอจะโอเว่อร์แอ็คติ้งมากไปแล้วมั้ง พลอย เพ้อเจ้อชะมัด”
พร้อมกับคำด่าทออีกหนึ่งชุด เพื่อนฉันนี่หน้าตาไม่ได้ช่วยให้คำพูดคำจามันดีขึ้นเลยจริงๆ
ฉันเบ้หน้าใส่ทรีไป หมอนั่นก็ยังจะมีหน้ามาหัวเราะชอบใจอีกนะ เอ้อ.. ฉันละเพลียกับเพื่อนฉันคนนี้เสียจิง
“ตกลงเธอไปทำงานอะไรนะ เดินแบบหรอ ตัวก็เตี้ย เขาจะให้เดินหรอ”
กวนฝาพระบาทอีกแล้วค่ะ ทรีเป็นแบบนี้ตลอดอ่ะ มันไม่เคยจะเห็นความสวยงามจากตัวฉันหรอก
“เดี๋ยวนี้เขามีส้นสูงหรอกทรี นายอย่ามาบ้านนอกได้ป่ะ เคยเห็นป่ะ ส้นสูงน่ะ”
โดนเข้าไปหนึ่งดอก กวนฉันดีนักแหละ สาวๆมันก็ออกจะมีเยอะแยะ ทำมาเป็นแซวฉัน โถ่ๆ
“อ่าวหรอ ต้องใส่สัก 10 นิ้วละมั้ง ถึงจะสูงเท่าชาวบ้านเค้า ฮ่าๆ”
ทรีหัวเราะชอบใจกับคำพูดของตัวเอง หนอยๆ หัวเราะดังขนาดนี้เอารองเท้ามาปาหน้าฉันซะเลยเถอะ
“ตัวเตี้ยแล้วไงอ่ะ หน้าสวยอ่ะ จบป่ะ”
เชิ่ดเลยค่ะ ตัวเตี้ยแต่หน้าสวยไง เลยไม่ต้องซีเรียส ฉันเชิ่ดหน้าใส่ทรีอย่างเป็นต่อ เถียงไม่ออกเลยซิ พอบอกว่าสวยถึงกับเงียบกริบ
“เออครับ สวยมากเลยครับ”
เราสองคนกัดกันมาตลอดทาง เหน็บโน่นเหน็บนี่ ด่ากันมั่ง ชมกันมั่ง มันก็สนุกดีเหมือนกันนะ ไม่เหงาปากดี ฉันมาถึงร้านที่เรนนี่นัดไว้เรียบร้อย ร้านใหญ่โตเลยทีเดียวละ สาวๆนางแบบเดินซ้อมกันอยู่บนเวที พอเรนนี่เห็นฉันกับทีก็รีบวิ่งตรงเข้ามากอดทันที ทรีก็พอรู้จักเรนนี่อยู่บ้าง เพราะเรนนี่เป็นเพื่อนในกลุ่มฉันเคยเจอกันบ้างตอนเรียนมหาวิทยาลัย
“หวัดดีจ่ะทรี”
เรนนี่หันมาทักทายทรีเล็กน้อย ก่อนจะพาฉันขึ้นเวที ฉันเลยยื่นกระเป๋าและของใช้จุกจิกฝากไว้กับ
ทรี ไม่อยากจะเม้าส์ว่าสาวๆนางแบบมองทรีตาเป็นมันเลยทีเดียวละ โห๊ะๆ เพื่อนฉันหล่อล่ะซิ ภาคภูมิใจเสียจริง
หลังจากที่ซ้อมเดินแบบบนเวทีเรียบร้อยแล้ว ฉันก็ไปที่ห้องแต่งตัว ทรีก็ไปนั่งจิบเหล้าแถวบาร์เหล้า สาวๆล้อมหน้าล้อมหลังเลยทีเดียวละ ภาคภูมิใจจริงๆเพื่อนฉันขายดีชะมัด นี่ก็ใกล้เวลาจะเดินแบบแล้วซิ ชักจะตื่นเต้นแล้วละ เพราะแขกก็มากันเยอะแล้ว ไม่อยากจะเม้าส์ว่าคนที่มางานเปิดร้านมีแต่พวกหล่อๆไฮโซๆทั้งนั้น ฉันแอบเห็นดาราด้วยนะ โอ้ววว ...ตื่นเต้นจัง
และแล้วเวลาแห่งการรอคอยก็มาถึง แขกผู้มาร่วมงานทุกคนล้วนแต่รอคอยดูการเดินแบบของบรรดาสาวงามทั้งหลาย หนุ่มๆมากหน้าหลายตาหวังที่จะได้สาวๆที่เดินแบบมาควงสักคน หนุ่มๆต่างใจจดใจจ่อกับการเดินแบบในครั้งนี้ แต่ยังมีหนุ่มคนนึงที่ไม่สนใจอะไรเลยถึงแม้ว่างานนี้จะมีการเดินแบบจากสาวสวยสักกี่คนก็ตาม เขาสนใจเพียงเหล้าที่อยู่ตรงหน้า และตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดของตัวเขาเองเท่านั้น
“เห้ย นนทร์ แกจะกินแต่เหล้าเลยหรือไง เงยหน้ามาดูสาวๆบ้างก็ได้ จะเศร้าไรนักหนา ผู้หญิงมีเยอะแยะ”
เสียงเพื่อนที่มาด้วยกันบอกให้นนทร์เงยหน้าจากแก้วเหล้าเพื่อมองการโชว์เดินแบบของเหล่านางแบบบ้าง เพราะนนทร์เอาแต่ซดเหล้าไม่แม้แต่จะเงยหน้ามาสนใจสาวๆเลย
“เห้ยๆ สาวคนนี้หน้าคุ้นๆว่ะ เหมือนเคยเจอที่ไหนเลย น่ารักด้วย สวยด้วยเหอะ นนทร์ แกต้องได้เห็น เงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย”
นนทร์เงยหน้าจากแก้วเหล้าเพื่อมองดูนางแบบที่เพื่อนตัวเองพูดถึง พอนนทร์ได้เห็นผู้หญิงที่เพื่อนของเขาบอกให้มองเท่านั้นแหละ ตาก็สว่างขึ้นมาทันที นั่นมัน พลอยพราว นี่นา ทำไมเธอมาเดินแบบในงานนี้ได้ละ โลกกลมเกินไปจริงๆแล้วละ
“นั่นไง ฉันบอกแกแล้ว ว่าแกต้องสะดุดกับผู้หญิงคนนี้ ฮ่าๆๆ”
เสียงเพื่อนของเขาพูดขึ้นแข่งกับเสียงเพลง จะไม่ให้สะดุดได้ไงก็ผู้หญิงคนนี้เขาบังเอิญเจอกับเธอหลายครั้งหลายหนแล้วน่ะซิ
“หู้ววว !! เสร็จซะที ตื่นเต้นจนจะตกส้นสูง”
ในที่สุด การเดินแบบเปิดผับใหม่ก็จบสิ้นลง เรนนี่เดินมาหาฉันพร้อมกับซองเงินค่าจ้างที่นางบอกไว้ นางบอกว่าเดินเสร็จเปลี่ยนชุดกลับเลยก็ได้ แต่ฉันยังไม่กลับหรอก ขอไปนั่งดริ้งค์กับเพื่อนสุดหล่อของฉันเสียหน่อย ฉันล่ำลาเรนนี่แล้วก็ออกมาจากห้องแต่งตัว เรนนี่ไม่มีเวลาออกมาส่งฉันเพราะนางต้องดูแลเด็กๆของนางเวลาออกไปคุยกับแขก
“เป็นไงบ้างจ่ะ พ่อหนุ่อเนื้อหอม”
ฉันเดินออกมานั่งข้างๆทรีในจังหวะที่สาวๆเดินออกไปจากโต๊ะทรีหมดแล้ว
“นี่ถ้าไม่ติดว่ามากับเธอ ป่านนี้ฉันลากไปโรงแรมละเนี่ย”
โอ้โห นี่หละหนอ ความคิดผู้ชาย มันช่างร้อนแรงและร้ายกาจเสียจริงๆ
“ไปป่ะละ เดี๋ยวฉันหาคนแถวนี้ไปส่งก็ได้”
ฉันแกล้งทำเป็นงอลนิดหน่อย ใครที่ไหนจะไปส่งละ ก็แค่แกล้งๆพูดไปเท่านั้นแหละ ความจริงถ้าทรีไปกับสาวจริงๆฉันก็คงต้องโบกแท็กซี่กลับเอง
“แหมๆ พูดเล่นหรอก อย่ามาแรงได้ป่ะ จะให้ผู้ชายที่ไหนไปส่งละครับ เพื่อนพลอย”
นนทร์ยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ แล้วใครว่าฉันจะเอาจริงละ ฉันก็แค่แกล้งพูดไปแค่นั้นแหละ
“ลืมไปแล้วหรอ ว่าฉันสวย ฮ่าๆ”
ฉันหัวเราะเสียงดังก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบเบาๆ
“เออ สงสัยจะสวยจริง เธอรู้ป่ะ ว่าตั้งแต่เธอมานั่งกับฉันเนี่ย ผู้ชายมองมาที่โต๊ะนี่ไม่ต่ำกว่า 10 คน ฉันจะโดนต่อยป่ะเนี่ย”
ทรีแกล้งทำหน้าเหยเก ฉันมองไปรอบๆโต๊ะของตัวเอง ก็จริงอย่างที่ทรีบอก มีผู้ชายไม่ต่ำกว่า 10 คน มองมาที่เราสองคน ฉันเลยเขยิบไปนั่งใกล้ทรีมากขึ้นแบบคลอเคลียมันสุดๆ คือให้เค้าเข้าใจผิดกันไปเลยว่าฉันเป็นแฟนกับทรี เพราะผู้ชายในผับพวกนี้ไว้ใจไม่ได้สักคน
“นี่ๆ เธอจะมาคลอเคลียฉันทำไมเนี่ย เดี๋ยวสาวๆก็คิดว่าเธอเป็นแฟนฉันหมด ดูซิ เรตติ้งตกหมดแล้วมั้งเนี่ย”
ทรีพยายามดันตัวฉันให้ออกห่างเขา แต่ฉันก็ไม่ยอมเกาะแขนทรีไว้แน่น แถมยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก เขาและเธอคงไม่รู้หรอกว่าการกระทำของทั้ง 2 คนกำลังอยู่ในสายตาของใครบางคน
ถึงเวลากลับไปนอนแล้วละ ฉันคิดว่าฉันเริ่มจะเมาได้ที่ เพราะฉันคิดว่าโลกมันเริ่มเอียงๆและฉันก็เริ่มจะตาลาย ฉันเลยชวนทรีกลับเพราะอีกอย่างผับก็คงใกล้จะปิดแล้วละ
“ทรี กลับเหอะ เหมือนจะเมาละ”
ฉันสะกิดแขนทรี
“โอเค งั้นฉันขอเข้าห้องน้ำก่อน รออยู่นี่ เดี๋ยวกลับมา แปบเดียว”
ทรีขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เอาละซิ ปล่อยฉันไว้แบบนี้ คงไม่รอดพ้นหนุ่มคนไหนสักคนแน่ๆ ฉันจึงแกล้งหันหน้าไปทางบาร์เหล้าแล้วคุยกับบาร์เทนเดอร์แทน อย่างน้อยก็ดีกว่าคุยกับผู้ชายพวกนั้นละน้า
นั่นไง !! พูดไม่ทันขาดคำ มีคนมาสะกิดซะแล้ว เอาไงดีละทีนี้ จะหยิ่งๆจนกว่าทรีจะออกมา หรือว่าจะหันไปคุยดี เห้อ !! เพลียจริงๆกับพวกผู้ชาย
“คุณ คุณ !!”
ผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเรียกฉันหลายครั้ง แต่ฉันก็ยังไม่ยอมหันไปเสียที ฉันหยิ่งค่ะ ฉันขี้เกลียดคุยกับผู้ชายขี้หลีในผับ
“นี่ พลอยพราว หันมาคุยกับผมหน่อย”
เห้ย !! ใครกันเนี่ย รู้จักชื่อฉันด้วยอ่ะ
“อ่าว คุณนนทร์ มาได้ไงเนี่ย”
ก็นึกว่าผู้ชายขี้หลีที่ไหน ที่แท้ก็เพื่อนร่วมคอนโดนี่เอง ท่าทางจะเมาพอดูเลยละตาเหยิ้ม กลิ่นเหล้าหึ่งเชียว
“ผมมากับเพื่อนน่ะ นี่ก็จะกลับแล้ว คุณขับรถมาหรือเปล่า กลับด้วยกันไหม”
เพื่อนร่วมคอนโดชวนฉันกลับด้วย ถ้าเป็นเวลาปกติตอนที่เขาไม่เมาฉันก็คงจะกลับด้วยแล้วละ แต่นี่กลิ่นเหล้าแรงซะขนาดนี้ ไม่ดีกว่า
“ไม่ต้องหรอกครับ เธอมากับผม เดี๋ยวผมไปส่งเธอเอง”
จู่ๆทรีก็กลับมาจากห้องน้ำและเดินมาโอบเอวฉัน นนทร์ดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นท่าทางสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวของฉันกับทรี แต่นนทร์ก็ไม่ได้พูดอะไร
“อ่อครับ ผมนึกว่าพลอยมาคนเดียว ไม่นึกว่าจะมีคนมาด้วย งั้นไว้คุยกันนะครับ สวัสดีครับ”
นนทร์หันมาลาฉัน แล้วหันไปทักทายทรีด้วยรอยยิ้ม ฉันโบกมือบ๊าย บายเขา แล้วก็เดินตามแรงดึงจากทรีออกไปที่ลานจอดรถ
“ทรีๆ ไม่ต้องรีบๆ นายจะรีบไปไหนเนี่ย”
ฉันรั้งมือทรีไว้นิดนึง เพราะหมอนั่นเดินเร็วเป็นบ้า จนฉันแทบจะเดินไม่ทัน แล้วอีกอย่างฉันใส่ส้นสูงด้วยแหละ เลยเดินลำบากนิดหน่อย
“อ่าว ฉันนึกว่าเธออยากจะรีบๆหนีพวกผู้ชายขี้หลีพวกนั้นซะอีก”
ทรีปล่อยมือฉันเมื่อเรามาถึงรถกันเรียบร้อยแล้ว
“เห้ยๆ ไม่ใช่ๆ นั่นมันเพื่อนที่อยู่คอนโดเดียวกับฉัน ฉันรู้จักเขา เขาชื่อนนทร์”
ฉันรีบออกตัวทันที เพราะนนทร์ไม่ใช่คนแปลกหน้า แต่เป็นคนรู้จักต่างหาก
“อ่าว ผิดคิวซิฉัน อุตส่าห์แสดงตัวเป็นแฟนหนุ่มที่ดี ผิดคิวซะงั้น”
ทรีบ่นอุบอิบแล้วขับรถออกไปเพื่อจะไปส่งฉันที่คอนโด ฉันแอบยิ้มกับการกระทำของเพื่อนตัวเองไม่ได้ ถึงทรีจะเป็นคนนิ่งๆ บ้างาน แต่พอถึงเวลาที่เขาต้องดูแลเพื่อนอย่างฉัน เขาก็ดูแลได้ดีเลยทีเดียวเลยละ
“ผิดคง ผิดคิว อะไรกัน ถูกคิวแล้วละ ฮ่าๆ”
ฉันพูดแบบนั้นออกไป ฉันเองก็ไม่ค่อยเข้าใจกับคำพูดของตัวเองเท่าไหร่หรอก และฉันก็คิดว่าทรีก็คงจะไม่ค่อยเข้าใจกับคำพูดของฉันเท่าไหร่ หรือว่าเขาจะเข้าใจก็ไม่รู้นะ ฉันชอบพูดอะไรเข้าใจยากแบบนี้เสมอแหละ ยากนักที่ใครจะมาเข้าใจ...
ความคิดเห็น