คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 การเปลี่ยนแปลงที่ฉันชินชา
"คุณเพื่อนขา ดิฉันจ้างหล่อนมาถ่ายรูปบรรยากาศในงานนะค่ะ ไม่ได้จ้างให้มาถ่ายกุ้ง หอย ปู ปลา ริมหาดแบบนี้" เพื่อนบอยสุดสวยเดินมาตามฉันที่ริมหาดในขณะที่ฉันกำลังสนุกเพลิดเพลินอยู่กับการถ่ายรูปเหล่าบรรดากุ้ง หอย ปู ปลาที่ลอยมาเกยตื้นที่ชายหาด วันนี้ฉันต้องเริ่มงานเลยหลังจากที่ฉันขับรถมาถึงที่นี่เมื่อตอนสายๆ กว่าฉันจะมาถึงหาดที่นี่ได้ขอบอกว่าหลงทางไปตั้งหลายรอบแน่ะ แถมยังต้องนั่งเรือข้ามเกาะอีกด้วย ฉันต้องเอารถจอดไว้นอกเกาะโน้น เพราะเค้าห้ามเอารถข้ามเกาะเห็นเค้าว่าเกาะนี้เป็นเกาะที่เปิดให้กับเฉพาะนักท่องเที่ยว VIPเท่านั้นคนปกติไม่สามารถเข้ามาเที่ยวได้แล้วทำยังไงละถึงจะได้เป็นลูกค้า VIPฉันละงงกับการท่องเที่ยวสมัยนี้จริงๆสงสัยจะเป็นเกาะส่วนตัวละมั้งคนธรรมดาเลยเข้าไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษขึ้นมาทีเดียวที่สามารถเข้ามาในเกาะนี้ได้ ฮ่าๆ
"ก็เห็นงานยังไม่เริ่ม เลยแอบมาอยู่ตรงนี้" บอยย่นจมูกใส่ฉันอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมากเราสองคนเดินเข้าไปในงาน บอยเดินไปที่จุดลงทะเบียนแล้วเอาบัตรสต๊าฟมาให้ฉันแขวน
เห็นบอยบอกว่างานนี้เป็นงานเปิดตัวสตูดิโอเวดดิ้งอะไรสักอย่างนี่ละเป็นงานใหญ่โตเลยทีเดียวพวกเหล่าสต๊าฟงานนี้มีแต่พวกมืออาชีพทั้งนั้นสงสัยเจ้าของร้านจะรวยจริงถึงได้มาจัดงานเปิดตัวร้านที่เกาะส่วนตัวแบบนี้
"งานจะเริ่มแล้วนะแก แกก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไป เดี๋ยวมันจะมีตากล้องประจำงานอยู่อีกหลายคนอยู่ แต่แกเป็นตากล้องประจำอ็อฟฟิศของฉัน งานนี้เค้าจ้างบริษัทออแกไนซ์มาเยอะงานใหญ่น่ะแก แล้วแกอย่าลืมถ่ายแขกที่มาร่วมงานด้วยนะเอาให้ครบทุกคน ฉันต้องไปแล้วละ วันนี้ฉันเป็นพิธีกร" บอยสั่งงานฉันเสร็จสรรพแล้วตบไหล่ฉันทีหนึ่งก่อนจะขยิบตามให้ฉันอย่างกิ๊ฟเก๋ยูเรก้าแล้วเดินหลบเข้าไปที่หลังเวที งานของฉันเริ่มแล้วซินะ พลอยพราว ตั้งใจทำงานละ ฉันให้กำลังใจตัวเองเหมือนทุกครั้งก่อนที่ฉันจะเริ่มทำงาน ก่อนอื่นเลยต้องเดินสำรวจบรรยากาศในงานและเก็บภาพไปด้วยตอนนี้คนยังไม่เยอะมากฉันเลยแอบหลบแดดไปถ่ายพวกบรรยากาศหลังเวทีตอนนี้มีเหล่าดารากำลังแต่งหน้าแต่งตัวกันอยู่ แต่ละคนอยู่ในชุดเจ้าสาวเจ้าบ่าวเตรียมตัวเดินแบบ
ฉันเดินถ่ายรูปคนโน้นทีคนนั้นทีสงสัยเจ้าของงานนี้จะเป็นดาราหรือไม่ก็พวกไฮโซละมั้งนางแบบนายแบบที่จ้างมามีแต่คนดังๆทั้งนั้นเลยอยู่ในดงชุดเจ้าสาวแบบนี้ฉันชักอยากจะแต่งงานบ้างแล้วละ อยากใส่ชุดเจ้าสาวบ้างอ่ะ ^^
ไม่นานนักเหล่าบรรดาแขกทั้งหลายก็ทยอยเข้ามาในงานฉันเดินไปประจำอยู่หน้างานเพื่อดักรอถ่ายรูปแขกที่มาร่วมงานแต่ละคนมากันเป็นคู่แต่ไม่รู้ว่าเขาแต่งงานกันแล้วหรือยังฉันแอบสังเกตบางคู่ก็ยังไม่มีแหวนแต่งงานที่นิ้วนางข้างซ้าย
"ยิ้มหน่อยนะค่ะ^^"การถ่ายรูปเป็นความสุขอย่างหนึ่งของฉันเพราะอย่างน้อยคนที่อยู่หน้าฉันก็ยิ้มให้กับฉันอยู่ถึงแม้บางทีฉันต้องออกปากสั่งให้เขายิ้มก็เถอะ แขกหลายต่อหลายคน
ทยอยเข้ามาร่วมงานอย่างไม่หยุดหย่อนคนเยอะจนฉันไม่สามารถลดกล้องลงจากตาได้กดชัตเตอร์รัวกันเลยทีเดียว
"เอ่ะ !!"
สงสัยความบังเอิญบนโลกนี้จะมีจริงฉันมองคนตรงหน้าผ่านเลนส์กล้องของฉันแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ บังเอิญ โลกกลมจริงๆฉันจำ 2 คนนี้ได้เขาคือผู้ชายที่อยู่ห้องตรงข้ามคอนโดฉันและผู้หญิงที่เขาควงมาด้วยก็คือผู้หญิงคนเดียวกับที่มาหาเขาที่คอนโดสงสัย 2คนนี้กำลังจะแต่งงานกันไม่ก็เป็นคู่แต่งงานใหม่ละมั้ง ฉันถ่ายรูปคนทั้งสองไว้หลายช๊อตเพราะไม่อยากลดกล้องลงมาจากใบหน้ากลัวบุคคลทั้ง 2จะจำหน้าฉันได้นานทีเดียวกว่า 2คนนั้นจะเดินเข้างานไปได้ก็มีแต่คนรุมถ่ายรูปคู่นี้น่ะซิคนอะไรเกิดมาเหมาะสมกันชะมัดคนนึงหล่อลากดินอีกคนสวยลากไส้ พระเจ้าช่างสรรค์สร้างจริงๆคู่นี้ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยคู่รักมากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็นคู่รักคนในวงการหรือคู่รักคนธรรมดาล้วนแล้วแต่เดินโชว์ความหวานกันให้ว่อนงานนี้มันงานรวมเหล่าบรรดาคนดังชัดๆการเดินถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศในงานเป็นงานที่ไม่หนักก็จริงแต่มันก็เหนื่อยใช่เล่นกว่าจะถ่ายคนโน้นให้ดี ถ่ายคนนี้ให้สวยเหงื่อตกเลยทีเดียว กว่างานจะเสร็จกว่างานจะเลิกก็ปาเข้าไปเกือบตี1ดีนะที่ฉันไม่ต้องไปเก็บของช่วยพวกสต๊าฟ ไม่อย่างนั้นฉันคงเป็นลมกลางหาดไปเลยละ
"เมยา คุณเป็นอะไรไป" ระหว่างที่ฉันเดินกลับที่พักหูของฉันกลับได้ยินเสียงคนคุยกัน แต่ลองฟังดีๆเหมือนกำลังทะเลาะกันมากกว่าฉันจะเดินผ่านไปแล้วทำเป็นไม่สนใจหรือว่าจะแอบอยู่
ตรงนี้ดีน่า ต่อมความอยากรู้อยากเห็นมันสั่งการให้ฉันยืนหลบอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งมันใกล้พอที่ฉันจะได้ยินเสียงของคนทั้งคู่ทะเลาะกัน แสงไฟที่เล็ดลอดออกมาจากตัวรีสอร์ททำให้ฉันสามารถมองเห็นใบหน้าของคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ โอ้..พอฉันเห็นหน้าคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ฉันแทบอยากจะเดินออกจากหลังต้นไม้ซะเดี๋ยวนั้นเลย หนุ่มห้องตรงข้ามกับคู่ควงของเขานั่นเอง นึกว่าเซเลปดาราที่ไหนมายืนทะเลาะกันริมหาดซะอีกพอรู้ว่าเป็นคู่นี้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของฉันมันก็หยุดทำงานทันทีเลยละ รู้งี้ไม่น่ามายืนให้ยุงกัดแบบนี้หรอกแต่จะทำยังไงได้ละจะเดินออกไปตอนนี้ก็คงจะไม่ดี ไหนๆก็ไหนๆแล้วรอให้เขาทะเลาะกันเสร็จก่อนละกันค่อยเดินกลับที่พัก --"
"นนทร์ คุณอย่าพยายามอีกเลย" เสียงผู้หญิงที่ชื่อเมยาดูจะไม่แคร์คนที่กำลังอ้อนวอนเธออยู่เลย ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายชะมัดแต่ฉันจับใจความไม่ได้เลยว่า 2คนนี้เขาทะเลาะเรื่องอะไรกัน
แต่ดูเหมือนสถาการณ์จะย่ำแย่มากเลยทีเดียว
"4ปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายเลยหรอเมยา คุณจะทิ้งผมไปแบบนี้ได้ยังไง" เสียงของผู้ชายเริ่มจะดังขึ้นและเคร่งเครียดมากขึ้นเมื่อฝ่ายหญิงรั้นแต่จะไป 4ปีที่พวกเขารักกันมาก็คงไม่มีความหมายอะไร ฟังแล้วมันหดหู่ใจจริงๆนี่แหละความทุกข์ทรมานที่มาพร้อมกับความรัก
"พอเถอะนนทร์ อย่ารั้งเมไว้อีกเลย" เสียงพูดคุยหรือการทะเลาะแบบนุ่มนวลของคนทั้งคู่ได้เงียบลงแล้วได้ยินแค่เพียงเสียงรอยเท้าที่เดินย่ำทรายห่างออกไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ แล้วฉันก็ไม่คิดจะเดินตามไปด้วย ฉันง่วงและเหนื่อยเกินกว่าจะยุ่งเรื่องของชาวบ้านต่อแล้วละ แล้วคืนนั้นฉันก็หลับไปพร้อมกับเสียงสนทนาของคู่รักคู่นั้น เสียงบอกลาของผู้หญิงคนนั้นยังวนเวียนอยู่ในหัวฉันสงสัยจะอินมากไปจนเก็บเอามาฝันเลยละ
วันสุดท้ายของการทำงานวันนี้ไม่มีอะไรมากฉันแค่เดินถ่ายภาพบรรยากาศการถ่ายแบบของเหล่านางแบบนายแบบในชุดเจ้าสาว เจ้าบ่าวริมทะเลแค่นั้นเองมันช่างเป็นงานที่สุดแสนจะสบายแถมยังมีอาหารตาให้ดูเล่นอีก นายแบบแต่ละคนแบบว่า หล่อๆทั้งนั้นเลย ฉันตั้งใจทำงานที่เหลืออย่างเต็มที่เพราะบอยบอกว่าตอนเย็นจะมีงานปาร์ตี้สำหรับสต๊าฟของงานนี้โดยเฉพาะ นี่แหละเวลาที่ฉันรอคอย ของกินฟรี เหล้าฟรี เพลงฟรี ว้าว !!แถมงานนี้เจอเพื่อนคู่หูสมัยเรียนอย่างบอยอีก งานนี้ปาร์ตี้โต้รุ่งแน่ๆ ไม่อยากจะคิดว่าคืนนี้จะมันส์แค่ไหนอดทนรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหวแล้วละ และแล้วปาร์ตี้ที่ฉันรอคอยก็มาถึง เพลงฟรี เหล้าฟรี เพียบเลย ปาร์ตี้เลี้ยงพนักงานถูกจัดขึ้นที่ผับในรีสอร์ทที่ฉันพักอยู่ บอยบอกว่าเป็นปาร์ตี้ที่จัดขึ้นสำหรับพวกสต๊าฟแล้วไหงมีดาราตั้งครึ่งค่อนงานละเนี่ย แต่ฉันไม่สนใจหรอกค่ะงานนี้ขอสนุกหลังจากที่เหนื่อยกับงานมา2วันหน่อยละกัน บอยพาฉันไปรู้จักกับเพื่อนเหล่าบรรดาเก้งกวางของเขา แต่ละคนหน้าตาหล่อเหลาทั้งนั้นน่าเสียดายผู้ชายเหล่านี้เสียจริงๆ พอเพลงมา เหล้าเข้าปาก เหล่าแก๊งหนุ่มสวยของฉันก็เริ่มวาดลวดลายแข่งกันสุดฤทธิ์ ว่าแต่ฉันไปอยู่แก๊งนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ละเนี่ยเป็นชะนีคนเดียวในแก๊งด้วย เริ่ดมากจริงๆ การนั่งเฝ้าโต๊ะให้กับเหล่าบรรดาเดอะแก๊งหนุ่มสุดสวยทั้งหลายก็สนุกดีเหมือนกัน เหล้าฟรีกินกี่ทีก็อร่อย ฉันเป็นสาวโสดที่รักปาร์ตี้มากที่สุด งานนี้ฉันฮ๊อตใช่เล่นเลยละตั้งแต่เข้างานมามีเหล่าบรรดาสต๊าฟผู้ชายแวะเวียนเข้ามาคุยกับฉันไม่ขาดสาย แต่ก็โดนเหล่าเดอะแก๊งของฉันกันซีนไปซะทุกราย เพลงมันส์ๆแสงไฟสลัวๆมันทำให้ฉันอยากจะลุกขึ้นเต้น
"เอ่อ คุณใช่ตากล้องที่ถ่ายรูปในงานรึเปล่าครับ" ก่อนที่ฉันจะลุกไปเต้นกับเหล่าบรรดาเดอะแก๊งของฉัน ผู้ชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาคุยกับฉันเสียก่อนฉันทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้ารับไป ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าฉันก็ยิ้มกว้างทันทีผู้ชายคนนี้หน้าตาคุ้นๆนะ หรือว่าฉันจะคิดไปเอง
"ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะมีตากล้องสวยๆแบบนี้ด้วย" ชายหนุ่มทำหน้าตากระริ้มกระเรี่ยใส่ฉันสุดฤกธิ์อย่าบอกนะว่าจะมาจีบฉันเนี่ยฉันรีบเขยิบออกห่างเขาออกมานิดนึงเพื่อความปลอดภัย
"เอ่อ มีอะไรหรือเปล่าค่ะ" ถึงเขาจะหล่อมากแต่ท่าทางแบบนี้ไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่เลย ทีอย่างนี้เดอะแก๊งของฉันหายไปไหนกันหมดนะ
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากทำความรู้จักกับคุณก็แค่นั้นเอง" ฉันนึกออกแล้วละว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เขาเป็นนายแบบที่เดินแบบให้กับงานนี้นี่เอง ฉันเป็นคนถ่ายรูปเขาก็จริงแต่ฉันไม่ได้ถ่ายเขาคนเดียวนี่นา ไม่แปลกที่ฉันจะจำเขาไม่ได้
"อ่อ ค่ะ" ก่อนที่เราทั้งคู่จะได้สานสัมพันธ์ไปมากกว่านี้ หญิงสาวร่างสูงระหงส์ก็เดินเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
"รันค่ะ มาทำอะไรที่นี่ค่ะ" สาวสวยร่างสูงเดินเข้ามาคลอเคลียกับคนที่กำลังจะเข้ามาจีบฉันการแสดงออกของเธอแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของสุดๆสองคนนี้น่าจะเป็นอะไรกันที่มากกว่าเพื่อน
ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเธอมาปรากฏตัวในงานนี้ก็เมื่อวานเธอยังบอกเลิกกับผู้ชายอีกคนอยู่เลยแต่วันนี้กลับมาคลอเคลียอยู่กับผู้ชายอีกคนซะแล้วถ้าฉันจำไม่ผิดผู้หญิงคนนี้น่าจะชื่อ เมยา นะผู้หญิงอะไรร้อนแรงชะมัดเมื่อวานยังอยู่กับผู้ชายอีกคนแต่วันนี้กลับมาอยู่กับผู้ชายอีกคนน่าเกลียดจริงๆผู้หญิงแบบนี้ เธอปลายตามามองฉัน ฉันทำทีเป็นไม่สนใจแล้วเดินลุกหนีเธอคนนั้นไปสมทบกับเหล่าเดอะแก๊งของฉัน จะไปสนใจทำไมกับผู้หญิงนิสัยไม่ดีคนหนึ่งกับผู้ชายเจ้าชู้ฉันไปแด๊นกับเพื่อนๆให้หายเหนื่อยดีกว่า งานนี้โตรุ่งไปเลย วิดวิ้วว!!!
เช้านี้กับอาการแฮ้งค์เอ้ามาเยือนแสงแดดสาดส่องเข้ามาผ่านช่องว่างของหน้าต่างห้องพักทำให้ฉันต้องตะเกียกตะกายตื่นขึ้นมาสู้กับแสงแดดจะนอนนานกว่านี้ก็ไม่ได้ต้องเช็คเอ้าร์กลับกรุงเทพไม่อยากตื่นเลยจริงๆปาร์ตี้เมื่อคืนจบลงที่เวลาตี 5 กว่าๆ กว่าจะลากตัวเองกลับมาที่ห้องพักได้ก็เกือบแย่เหมือนกันเหล่าบรรดาเดอะแก๊งค์ของฉันป่านนี้กลับกรุงเทพไปเรียบร้อยแล้วมั้งเห็นบอกว่ารถตู้ของบริษัทจะออกเดินทางตอน 7โมงสงสัยจะอ้วกแตกกลางทางแน่ ก็เล่นกินไม่หยั้งกันขนาดนั้นฉันก็กินไม่หยั้งเหมือนกันรู้สึกว่าตอนนี้มึนสุดๆไปเลยละฉันออกไปหาอะไรดื่มแก้แฮ้งค์หน่อยดีกว่า แล้วจะทำอะไรต่อค่อยว่ากันอีกที กาแฟดำคือเครื่องดื่มแก้แฮ้งค์ของฉันค่ะกาแฟดำนี่แก้แฮ้งค์ได้ดีจริงๆรสขมๆของมันทำให้ฉันตาสว่างขึ้นมาทันทีทันใดหญิงสาวในชุดนอนเดินจิบกาแฟอยู่ที่ริมหาดถึงจะเป็นเวลาที่สายพอสมควรแล้ว แต่ชายหาดแห่งนี้ก็ยังเงียบสงบเหมือนมีเพียงเธอคนเดียวที่อยู่ที่เกาะแห่งนี้เธอจึงไม่อายที่จะออกมาเดินเล่นทั้งๆที่ใส่ชุดนอน
"บรรยากาศดีจริงๆ" เธอสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างเต็มเหนี่ยวแต่ก็ต้องสำลักออกมาเพราะควันบุหรี่ที่ลอยมาจากที่ไหนสักแห่ง เธอมองหาที่มาของควันบุหรี่แล้วก็เจอต้นตอจนได้มีผู้ชายคนหนึ่งยืนดูดบุหรี่อยู่ริมทะเลไม่ไกลจากเธอมากนักเธออยากจะตะโกนบอกคนที่กำลังยืนดูดบุหรี่อยู่อย่างสบายอารมณ์ให้ไปดูดที่อื่น ปากน้อยๆของเธอกำลังจะตะโกนออกไปแต่สมองก็คิดขึ้นมาได้เสียก่อนการมาเที่ยวเกาะส่วนตัวคนเดียวแบบนี้จะไปร้องโวยวายมีเรื่องกับคนแปลกหน้าก็คงไม่เหมาะนัก คนที่มาเที่ยวที่นี่ก็คงจะเป็นพวกระดับวีไอพีถ้าจะไปมีเรื่องด้วยก็คงไม่ปลอดภัยกับตัวเธอแน่คิดได้ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเดินกลับห้องพักของเธอไป ชายหนุ่มผู้ผิดหวังกับความรักยืนทอดสายตามองดูท้องทะเลที่เวิ้งว้างกว้างใหญ่พร้อมกับบุหรี่ที่อยู่ในมือหนึ่งตัว เขาไม่รู้เลยว่าควันบุหรี่ได้ไปรบกวนบรรยากาศของใครคนหนึ่งจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงคนเดินอยู่ใกล้ๆเขา เขาละสายตาจากท้องทะเลที่เงียบสงบแล้วเปลี่ยนไปสนใจแผ่นหลังของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในชุดนอน
เธอกำลังเดินจากเขาไปช้าๆ โดยไม่หันกลับมามอง ภาพสะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหวนกลับมาอีกครั้ง เมยา เธอทอดทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี ทำไมภาพแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นแบบซ้ำๆซากๆไม่จบไม่สิ้น เขาเกลียดเหลือเกินคนที่เดินหันหลังแล้วเดินจากเขาไปแบบนี้ เธอคนที่เขารักมากที่สุดของหัวใจได้เดินจากเขาไปแบบนี้เหมือนกัน
ในชีวิตสิ่งที่ฉันเกลียดมีไม่กี่อย่างสิ่งที่รวมอยู่ในนั้นก็คือการนั่งเรือตอนแฮ้งค์นี่แหละ มันช่างเป็นอะไรที่สุดแสนจะทรมานเหลือเกิน ฉันต้องขึ้นเรือออกจากเกาะเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพ คลื่นซัดสาดโต้ลมเข้าหน้าฉันอย่างจัง มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังรู้สึกว่าตัวเองอยากจะอ้วกอยู่
"แหวะ~"ระหว่างที่ฉันอยู่บนเรือฉันอาเจียนไปหลายรอบมาก อาการเมาเรือของฉันพาร่างอันผอมแห้งแรงน้อยไร้เรี่ยวแรงและพลังงานมานั่งลงอยู่ที่นั่งตรงหัวเรือตรงนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วแต่ฉันไม่ทันได้สนใจว่าเป็นใครเพราะเขาใส่แว่นกันแดดสีชาอันใหญ่ แต่ฉันรู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้จังอาการของฉันไม่สู้ดีนักอาการพะอืดพะอมยังไม่หายไป
"คุณๆ คุณโอเคมั้ย" ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆฉันหันมาถามฉันว่าฉันยังโอเคอยู่หรือเปล่า บอกได้คำเดียวเลยว่าไม่โอเค
"ไม่โอเคเลยค่ะ" แล้วก็เหมือนสวรรค์มาโปรดฉันมองเห็นฝั่งและผืนถนนอยู่เบื้องหน้า ฉันแถบอยากจะถลากระโดดลงจากเรือซะตอนนี้เลย พอเรือจอดเทียบท่าฉันก็ถลากระโดดลงจากเรือไปก่อนใครโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นการกระทำของเธออยู่ในสายตาชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอตลอดเวลาสงสัยเธอจะไม่ชอบเรือเอามากๆเธอรีบจนไม่รู้ว่าผ้าคลุมไหล่ของเธอหล่นอยู่ที่พื้นเรือ เขาพยายามจะเรียกเธอให้มาเก็บผ้าคลุมไหล่ผืนนั้น แต่เธอเดินไปไกลเกินกว่าที่จะได้ยินเสียงของเขา เขาเลยเก็บผ้าผืนนั้นติดมือไปด้วย
"โอ่ย เกือบตายอยู่บนเรือแล้วไหมล่ะ พลอยพราว" สาวสวยยืนบ่นอยู่กับตัวเองเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนหน้าผาก ตอนนี้อาการเมาเรือของเธอหายเป็นปิดทิ้ง ไม่หายได้ยังไงละเล่นอาเจียนไปตั้งหลายรอบ
"โทรไปหาบอยดีกว่า มันคงจะถึงกรุงเทพแล้วมั้ง"
ฉันควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายเพื่อจะใช้โทรหาบอยแต่หายังไงก็หาไม่เจอ นี่มันกระเป๋าหรือถังขยะกันแน่เธอคิดอยู่ในใจจะหาของทีไรหาไม่เคยเจอสักทีฉันเดินไปด้วยหาของในกระเป๋าไปด้วยเลยไม่ทันได้มองคนที่เดินสวนไปสวนมา ฉันเลยชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งอย่างจัง ทำให้ของในกระเป๋าหล่นกระจัดกระจายไปหมด แล้วโทรศัพท์ก็โผล่มาให้ฉันเห็น ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ฉันหาอยู่ตั้งนาน--"
"โอ๊ะ !!เจอแล้วโทรศัพท์"
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ฉันมัวแต่เก็บของที่หล่นออกมาจากกระเป๋าจนไม่ได้ฟังว่าคนที่ฉันชนพูดกับฉันว่าอะไร พอเจอโทรศัพท์แล้วฉันก็รีบเก็บของจนไม่ได้มองว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า
เป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษจริงๆนะค่ะ" ฉันกำลังจะเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ฉันชน แต่โทรศัพท์ฉันก็ดังขึ้นเสียก่อน ฉันเลยรับโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ลานจอดรถโดยไม่ได้สนใจคนที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่นิดเดียว
‘ว่าไง บอย’ ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เดินชนเขาแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะเธอคือผู้หญิงคนที่เมาเรืออยู่ข้างๆเขาเมื่อกี้ เขารู้สึกว่าเธอหน้าคุ้นเสียเหลือเกินแต่ก็ไม่ทันได้ทักทายอะไรเพราะเธอรีบเดินหนีเขาไปเสียก่อน แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเธอมากนักอันที่จริงเขาน่าจะคืนผ้าพันคอที่เธอทำหล่นไว้ให้กับเธอซะ แต่เหตุการณ์ก็ฉุกระหุกเกินกว่าที่เขาจะคิดอะไรทัน
ความคิดเห็น