คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 11 มาเร็ว ไปเร็ว จบเร็ว
“พลอย !!”
ในขณะที่ฉันกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูรถทรีก็เรียกฉันเอาไว้ เขายอมออกมาเจอฉันแล้วหรอ
“ออกมาได้แล้วหรอ”
ฉันหันไปเผชิญหน้ากับทรีหน้าตาของทรีไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก หน้าตาเหมือนคนอดนอนมาหลายวัน
“มาหาฉัน มีธุระอะไรหรือเปล่าพลอย หรือจะมาเคลียเรื่องที่เธอไปยืนกอดอยู่กับผู้ชายคนนั้น”
คำพูดของทรีมันทิ่มแทงหัวใจฉันเสียเหลือเกิน เขาพูดเหมือนเขาไม่ได้ทำผิดอะไรเลย ฉันทำผิดอยู่ฝ่ายเดียวอย่างงั้นหรอ
“เปล่า จะมาคุยเรื่องที่นายไปยืนกอดกับผู้หญิงในผับต่างหาก”
ทรีไม่แสดงสีหน้าอะไรเลย หน้าตาเขาเฉยชามากจนตอนนี้ฉันก็เดาอารมณ์เขาไม่ถูกแล้วว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาคงไม่คิดหรอกว่าฉันรู้สึกยังไง หึ !!ก็ทำผิดเหมือนกันไม่ใช่หรอแล้วยังจะมากัดฉันอีกนะ
“งั้นเราก็เจ๊ากันซินะ ทำผิดเหมือนกัน นายไปกอดกับผู้หญิง ฉันไปกอดกับผู้ชาย จบ เท่าเทียม”
ฉันฝืนยิ้มเยาะใส่ทรี ความจริงแล้วเราสองคนไม่เหมาะที่จะมาคบกันจริงๆนั้นแหละ ฉันว่าฉันควรตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เลิกกับทรีตั้งแต่ตอนนี้ก่อนที่ต่อไปเราจะรับพฤติกรรมของกันและกันไม่ได้และทะเลาะกันจนมองหน้ากันไม่ติด
“ฉันไม่มีข้อแก้ตัว”
ทรีก้มหน้ามองเท้าตัวเองแล้วเอามือล้วงกระเป๋าเหมือนเขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไปเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ทรี ฉันว่าเราอย่าเป็นแฟนกันเลย เชื่อเถอะ เราไปกันไม่รอดหรอก”
ฉันตัดสินใจพูดมันออกไป ทรีเงยหน้าขึ้นมองฉัน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ฉันจึงตัดสินใจเดินกลับไปที่รถอีกครั้ง
“เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมใช่ไหม พลอย”
พอฉันได้ยินคำพูดนี้จากทรี น้ำตาของฉันมันเริ่มเอ่อล้นขึ้นมา เขาไม่ได้ดึงรั้งฉันไว้เลย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมามันเป็นแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบอย่างนั้นซินะ ฉันว่าเราตัดสินใจถูกแล้วละที่เลือกแบบนี้
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิมทรี เรายังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
ฉันหันไปฝืนยิ้มให้กับทรีแล้วเดินขึ้นรถ ทันทีที่ฉันออกรถน้ำตามันก็ไหลพรั่งพลูออกมาเหมือนเขื่อนแตก เหมือนฉันกำลังจะเสียทั้งแฟนและเสียทั้งเพื่อนไปพร้อมๆกันยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่มันเกิดขึ้นแหละนะยังไงอีกไม่นานเราก็คงกลับมาเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม
(บันทึกพิเศษ : ทรี)
สวัสดีอีกครั้งครับทุกคน พบกับผมอีกแล้วนะครับ แต่วันนี้ผมไม่ได้ร่าเริงสดใสเหมือนครั้งก่อนหรอกครับ ตอนนี้ในใจของผมมันหดหู่มากมายจริงๆทุกคนคงจำได้ซินะว่าครั้งที่แล้วผมได้ขอพลอยเป็นแฟนและพลอยก็ตอบตกลงคบกับผม เราคบหาดูใจกันมาได้สักพักแต่มันก็ไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร เราบังเอิญต้องเจอกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนหลายครั้งแต่ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมกับพลอยคบกันเพราะมันคงเป็นเรื่องน่าขำน่าดูเลยละที่เพื่อนสนิทที่คบกันมาเป็นสิบๆปี อยู่ๆก็มาคบกันเป็นแฟนซะอย่างนั้นเพื่อนผมมันคงจะนินทาผมกับพลอยจนมันส์ปากเลยละ เพราะฉะนั้นผมเลยไม่อยากให้ใครรู้และไม่อยากเปิดเผยมาก แต่ผมก็รู้สึกดีนะ รู้สึกมีความสุขมากตอนที่ได้คบกับพลอย แต่ก็นั้นแหละผมเป็นพวกที่ทำงานแล้วไม่สนใจอะไรเลย แม้กระทั่งแฟนผมก็พอจะรู้ว่าพลอยคงจะน้อยใจผมบ้าง เธอก็พยายามทำให้ดีที่สุด เวลาเธอจะไปไหนทำอะไรเธอก็จะส่งเมสเซจมาบอกผมทุกครั้ง ผมชอบที่มันเป็นแบบนี้แต่ความรักของเรามันไม่ได้ราบรื่นน่ะซิ เมื่อผมได้รับข้อเสนอบางอย่างที่ผมอยากได้มานานแสนนาน ผมได้รับทุนไปเรียนต่อทางด้านศิลปะที่กรุงโรมประเทศอิตาลี่เป็นเวลา 3 ปีถ้าเป็นเมื่อก่อนผมก็คงจะตัดสินใจไปทันที แต่ตอนนี้ผมคบกับพลอยแล้ว แล้วผมจะหนีเธอไปเรียนต่อต่างประเทศอย่างนั้นหรอ ผมควรจะทำยังไง ผมจะทิ้งเธอไปอย่างนี้ไม่ได้หรอก 3 ปีเลยนะที่เธอต้องทนกับความเหงาผมคงไม่ยอมปล่อยให้พลอยเป็นแบบนั้นแน่ๆแต่ถ้าจะชวนพลอยไปด้วย พลอยก็คงไม่ไปกับผมแน่นอนเธอเป็นคนรักอิสระมาก เธอคงไม่ไปอยู่ต่างประเทศกับผมถึง 3 ปีแน่ๆและผมก็คิดแผนเลวๆได้ เมื่อผมได้รับเมจเซสจากพลอย พลอยบอกว่าวันนี้เธอจะไปเที่ยวที่ผับกับเพื่อนๆผมคิดแผนของผมออกแล้วละแผนที่จะทำให้พลอยเลิกกับผมและจะให้เธอรู้ความจริงไม่ได้ว่าผมจะไปอิตาลี่มันคือฝันของผม แต่พลอยก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมเหมือนกัน เพราะฉะนั้นผมจะปล่อยให้เธอทนเหงาอยู่คนเดียวที่นี่ไม่ได้หรอก เธอควรจะมีคนที่เธอรักและคนที่รักเธอ คนที่คอยดูแลเธอแทนผมถึงแม้ว่าวิธีนี้จะทำให้เธอเจ็บปวดและผมเจ็บปวดมากก็ตาม แต่อย่างน้อยเราก็เจ็บกันแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเราจะไม่เจ็บซ้ำๆซากๆถ้าเราคบกันและเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมันคงจะเจ็บปวดน่าดู ผมจึงวางแผนไปเที่ยวผับที่พลอยจะไปและผมก็แกล้งไปนัวเนียกับผู้หญิงคนหนึ่ง และจังหวะเดียวกับที่พลอยเดินออกมากับเพื่อนของเขาพอดีผมรู้ว่าเธอเห็นแต่ผมก็ไม่สนใจผมเห็นสีหน้าของพลอยพลอยเจ็บปวดมากแต่ผมก็เจ็บปวดไม่แพ้เธอเหมือนกัน พลอยเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนของเธอที่ชื่อนนทร์ ผมขับรถตามไปดูพลอยที่คอนโดเพราะรู้สึกเป็นห่วงอยากจะเห็นว่าพลอยถึงห้องอย่างปลอดภัยแต่สิ่งที่ผมเห็นมันกลับทำให้ผมเจ็บปวดมากกว่าเดิมอีก พลอยยืนกอดอยู่กับเพื่อนของเธอที่หน้าห้อง ผมไม่รู้จะพูดอะไร พลอยหันมาเห็นผมพอดีผมเลยรีบเดินหนีออกมาเลย และวันต่อมาพลอยก็มาหาผมที่บ้าน ผมชั่งใจอยู่นานว่าจะออกไปพบเธอดีไหมและผมก็ตัดสินใจออกไปพบเธอพลอยยืนมองหน้าผมและบอกเรื่องที่เธอไปเห็นผมกอดกับผู้หญิงมาและผมก็พูดเรื่องที่เธอไปกอดกับผู้ชายมา พลอยตัดสินใจบอกเลิกผมผมรู้สึกเจ็บทั้งๆที่ผมเตรียมใจไว้แล้วแต่มันก็เจ็บมากพอสมควร แต่มันเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วพลอยจะได้ไปเริ่มต้นใหม่กับคนที่สามารถดูแลเธอได้และอยู่กับเธอได้ทุกวัน อย่างน้อยผมก็ยังเป็นเพื่อนกับพลอยได้ ยังสามารถดูแลเธออยู่ห่างๆได้เหมือนเดิม แค่นี้ผมก็พอใจแล้วละ ถึงแม้ว่าผมจะเจ็บปวดมากมายแค่ไหนก็ตาม
(จบบันทึกพิเศษ : ทรี)
จบสิ้นเสียทีกับความรักที่มันมาแบบรวดเร็วแล้วมันก็ไปแบบรวดเร็วจริงๆฉันเชื่อแล้วกับคำพูดที่ว่าคนที่เป็นเพื่อนกันมาก่อนจะมาเป็นแฟนกันมันคงจะไปไม่รอดจริงๆและมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆเสียด้วย หลังจากวันนั้นทรีก็ไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย ฉันขอลางาน 2 วันเพราะฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยมีอารมณ์จะไปทำงานสักเท่าไหร่นนทร์ก็แวะมาเยี่ยมฉันทุกวันและวันนี้เขาก็มาเยี่ยมฉันที่ห้อง นนทร์ซื้อของมาฝากฉันเยอะแยะ ทั้งข้าว ทั้งผลไม้ แต่ความจริงฉันไม่ได้ป่วยเลยแค่ไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรเลยต่างหาก
“เป็นไงบ้าง พลอย โอเคขึ้นแล้วยัง”
นนทร์เข้ามานั่งที่ห้องรับแขกในห้องของฉัน หน้าตาของฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเพราะหน้าก็ไม่ได้แต่ง ผมก็ไม่ได้หวี หน้าตาโทรมสุดๆไปเลย แต่ถึงกระนั้นฉันก็ยังกล้าให้นนทร์เข้ามาในห้อง
“ก็ดีขึ้นอ่ะ นนทร์ แต่ อย่างที่เห็นอ่ะ”
ฉันพิงหัวกับโซฟาที่นั่งอยู่ฉันคิดทบทวนดูว่าน่าจะบอกเรื่องที่ฉันแกล้งป่วยกับนนทร์ไปซะดีกว่าเพราะถึงยังไงก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดบังอะไร
“นนทร์ ความจริงแล้วฉันไม่ได้ป่วยหรอกนะ ฉันเลิกกับทรีแล้วน่ะ เราเคลียกันเรียบร้อยแล้ว ฉันเลยรู้สึกไม่ค่อยมีกระจิตกระใจทำงานเท่าไหร่ กลัวไปทำงานนายเสียเปล่าๆเลยหยุดดีกว่า”
ฉันพูดความจริงออกไป นนทร์ไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรเขาเพียงแต่พยักหน้าเข้าใจฉัน
“ผมเข้าใจครับ ผมก็เคยผ่านจุดนี้มาก่อนเหมือนกัน”
นนทร์เริ่มมีสีหน้าเศร้าหมองลงทันที อย่าบอกนะว่าเขายังลืมแฟนเขาไม่ได้ พอพูดถึงเรื่องนี้ทีไรจากที่ร่าเริงๆกลายเป็นเศร้าหมองลงทันที
“นั่นแหละ มันเจ็บน่าดูเลยละ แต่ทำยังไงได้ละ ในเมื่อเราไปด้วยกันไม่ได้ก็ต้องเลิกลากันไปมันก็เป็นธรรมดาของชีวิตรัก เนอะ”
ฉันนั่งคุยอยู่กับนนทร์ เราคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้กันอยู่สักพัก ฉันก็ชวนเขากินข้าว ก็ข้าวและขนมผลไม้ที่เขาซื้อมานั่นแหละ คือคุยไปคุยมาแล้วรู้สึกหิวขึ้นมา
“แล้วพรุ่งนี้คุณจะไปทำงานหรือเปล่า หรือจะพักต่ออีกสักวัน”
นนทร์ถามเรื่องไปทำงานพรุ่งนี้ในขณะที่เราทานข้าวกันอยู่
“ไปทำเลยละกัน พักพอแล้วมั้งไม่อยากเป็นคนไร้ค่านานๆ”
การนั่งคุยกันขณะรับประทานอาหารมันทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมากเลยทีเดียว
“งั้นก็ดีแล้วละครับ ไปทำงานดีกว่า พรุ่งนี้ผมก็เข้าสตูดิโอ เดี๋ยวไปพร้อมกับผมละกันนะ”
ปกตินนทร์ไม่ค่อยได้เข้าสตูดิโอบ่อยเท่าไหร่นัก พรุ่งนี้คงจะเข้าไปเคลียงานดีเหมือนกันไม่ต้องขับรถไปเองให้เหนื่อย
เช้าวันนี้ดูสดใสกว่าเมื่อวานฉันแต่งตัวไปทำงานตามปกติ แต่วันนี้จิตใจของฉันไม่ค่อยหดหู่สักเท่าไหร่เพราะฉันได้ปล่อยวางและระบายให้ใครสักคนฟังและคนที่ฉันเล่าให้ฟังก็เป็นผู้ฟังที่ดีเลยทีเดียวเขาไม่ได้ถามอะไรฉันมากแต่รับฟังทุกๆอย่างที่ฉันเล่า
“อ่าว นนทร์ ทำไมไม่เรียกฉันละ”
นนทร์ยืนรอฉันอยู่ที่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าเขารอมานานเท่าไหร่แทนที่เขาจะเคาะเรียกหรือไม่ก็โทรเรียกฉัน แต่เขากลับยืนรอ เอ้อ !! แปลกคนจริงๆ
“ผมมารอแค่แปบเดียวเอง ไม่รบกวนคุณดีกว่า เดี๋ยวคุณจะรีบเปล่าๆนี่ก็ไม่สายมาก ผมไม่รีบๆ”
นนทร์ยกแขนขึ้นดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง ฉันกับนนทร์ไปทำงานพร้อมกันพนักงานที่สตูดิโอของ
นนทร์มองเราด้วยสายตากรุ่มกริ่ม ฉันรู้นะว่าพวกหล่อนๆทั้งหลายคิดอะไรอยู่ แต่ฉันไม่สนใจเพราะความจริงแล้วฉันก็รู้จักกับนนทร์มาก่อนฉันเลยไม่สนใจอะไร
“เย้ พลอยมาทำงานแล้ว เป็นไงบ้าง ไม่สบายโอเคขึ้นแล้วหรือยัง”
กี้รีบเดินเข้ามาถามไถ่อาการของฉันโดยเร็ว รู้สึกผิดนิดๆที่ทำให้คนอื่นเป็นห่วงทั้งๆที่จริงแล้วฉันอกหักต่างหากละ ไม่ได้ป่วยอะไรสักหน่อย
“ก็ไม่มีอะไรแล้วละจ่ะ โอเคแล้ว”
ฉันหันไปสบตากับนนทร์นิดหน่อย นนทร์ยิ้มน้อยๆให้กับฉัน ฉันกลัวกี้จับได้เลยเดินไปนั่งที่โต๊ะ
“สองคนนั้นส่งซิคอะไรกัน”
นั่นไง ไม่พ้นสายตาของมาร์คจนได้มาร์คหันมาหรี่ตามองฉันกับมาร์คสลับกันไปสลับกันมาส่วนฉันกับนนทร์ก็ได้แต่หลบตาแล้วก็แอบยิ้มให้กัน
“เปล่า ไม่มีอะไร ฉันจะมีอะไรว่ะ แกคิดเยอะไปเปล่ามาร์ค”
นนทร์แกล้งตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองโดยไม่สนใจมาร์คกับกี้ ฉันก็แกล้งหยิบกล้องมาเช็ดๆถูๆทำเป็นไม่สนใจคนทั้งคู่
“นี่แหละ ยิ่งแกทำพฤติกรรมแบบนี้ ยิ่งมีอะไรเลยหรอละ”
มาร์คเดินไปจ้องหน้านนทร์ ส่วนกี้เดินมาจ้องหน้าฉันนี่มันอะไรกันเนี่ย
“แกบอกมาซะดีดี ว่าเมื่อกี้แกยิ้มอะไรกับพลอย”
“ไม่ได้ยิ้มอะไร แกอย่ามาคาดคั้นฉันได้มั้ยบอกไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรซิ”
นนทร์เก็บของที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วหันมาทางฉัน
“พลอย เตรียมกล้องเรียบร้อยแล้วใช่ไหม เดี๋ยวเราออกไปดูโลเกชั่นกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีถ่ายเซ็ตแบบท่องเที่ยวกัน ผมจะให้คุณเป็นคนถ่ายงานนี้”
ฉันงงๆเล็กน้อยเมื่อนนทร์บอกให้ฉันเตรียมกล้องแล้วบอกว่าจะไปดูโลเกชั่นเพื่อถ่ายงานพรุ่งนี้ แล้วเรื่องที่ฉันตกใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือพรุ่งนี้เขาจะให้ฉันเป็นคนถ่ายงานนี้ โห !! สุดยอดอ่ะ ฉันตื่นเต้นกับงานนี้มากจนลืมไปเลยว่ากี้จ้องหน้าฉันอยู่
“ขอตัวก่อนนะค่ะกี้ พอดีพลอยต้องไปแล้ว”
ฉันเดินเลี่ยงตัวออกมาแล้วเดินตามนนทร์ไป
“จำไว้เลยนะ 2 คนนี้ มีความลับกับเรา เชอะ”
ฉันได้ยินเสียงมาร์คบ่นตามหลังฉันเบาๆนนทร์หันมาหัวเราะน้อยๆกับฉัน
“คุณจะให้ฉันถ่ายงานนี้จริงๆหรอ”
ฉันหันไปถามนนทร์ย้ำอีกครั้ง นนทร์เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย
“จริงซิ งานนี้ผมจะให้คุณถ่ายเลย คิดเองเลยว่าอยากถ่ายแบบไหน ยังไง วันนี้ไปดูโลเกชั่นกับผมแล้วพรุ่งนี้คุณก็ลุยเลย โอเคนะ”
นนทร์ดูท่าทางจะมั่นใจกับฉันมากแล้วอย่างนี้ฉันจะให้เขาผิดหวังได้ยังไงละ ฉันก็ต้องลุยงานนี้เองน่ะซิ แค่นี้เองพลอยพราวทำได้อยู่แล้วละ
“โอเคค่ะ พรุ่งนี้ฉันลุยเอง”
แล้วนนทร์ก็พาฉันออกไปดูโลเกชั่น วันนี้ฉันออกไปทำงานกับนนทร์จนลืมไปเลยว่าตัวเองรู้สึกหดหู่ การทำงานที่ฉันรักมันทำให้ฉันลืมอะไรหลายๆอย่างไปได้ อย่างน้อยฉันก็ได้ทำงานที่ฉันชอบอีกอย่างฉันยังได้เริ่มทำงานเดี่ยวเป็นครั้งแรกด้วยมันน่าตื่นเต้นดีเหมือนกันนะ พรุ่งนี้แล้วจริงๆหรอใครจะมาเป็นางแบบน่า ขอให้ไม่เหวี่ยงไม่วีนด้วยเหอะ สาธุ !!
ความคิดเห็น