ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Le present de la mer | ทะเล ฟ้าใส หัวใจ สองเรา

    ลำดับตอนที่ #5 : เหตุเกิดที่สวนท้ายวัง

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 49


    4

     

                    แอ๊ด~

                    ฉันแอบเปิดประตูเข้าไปในห้องหนังสือกลางดึกคืนหนึ่ง ใครมาเห็นเข้าคงนึกว่าผีหลอก ก็ร้อยวันพันปีฉันไม่เห็นจะเข้าห้องหนังสือซักทีนี่นา ถ้าไม่ใช่เพราะเข้ามาเล่นซ่อนแอบตอนเด็กๆ หรือหนีไม้เรียวของท่านแม่ ฉันก็ไม่มีทางเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือน่าเบื่อๆ พวกนี้เด็ดขาด

                    แต่แล้ววันนี้มันก็ถึงความจำเป็นที่ฉันจะต้องมาหาข้อมูลอย่างเร่งด่วน เพราะปล่อยให้เรื่องนี้ค้างคาใจต่อไปอีกไม่ได้ เหลือเวลาก่อนงานเต้นรำอีกไม่มาก ฉันต้องรีบจัดการเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด

                    ห้องหนังสือที่นี่มีชั้นวางหนังสือวางเป็นแถวๆ แต่ละแถวก็จะแบ่งตาหมวดหนังสือ ฉันยกตะเกียงขึ้นส่องป้ายที่แขวนอยู่ตามชั้นหนังสือแต่ละชั้น

                    เวทย์มนตร์เหรอ ไม่ใช่อะ -_-“

                    ฉันอ่านป้ายตามชั้นหนังสือไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืดของห้องหนังสือมีเพียงแสงจากตะเกียงเท่านั้นที่นำทาง อากาศเย็นๆ ทำให้ฉันขนลุกแฮะ

                    แว่บ~

                    ฉันเห็นเงาของอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วผ่านลำแสงของตะเกียงไป

                    ใครน่ะ?

                    พอหันไปมองรอบๆ ก็พบว่าทุกอย่างยังเงียบสงัด ให้ตายสิ ฉันไม่อยากคิดอะไรฟุ้งซ่านเลย

                    อยู่ไหนน้า~”

                    ฉันเดินไล่ไปตามชั้นหนังสือทีละชั้นทีละชั้น แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกราวกับว่าในห้องนี้ไม่ได้มีแค่ฉันเพียงคนเดียว ยังมีบางสิ่งซึ่งฉันอาจจะมองไม่เห็นซ่อนตัวอยู่ตามหลืบของความมืด

                    ประวัติศาสตร์?

                    เอ...น่าจะเป็นหมวดนี้แหละมั้ง ฉันเดินเข้าไปที่ชั้นหนังสือประวัติศาสตร์ แล้วยกตะเกียงขึ้นมาจ่อตามสันหนังสือไล่ไปทีละเล่ม จนกระทั่ง...

                    คำสาปใต้ท้องสมุทร

                    เห็นชื่อหนังสือน่าสนใจฉันเลยดึงมันออกมาเปิดอ่านดู

                    เป็นที่รู้กันว่าอาณาจักรใต้ท้องสมุทรเป็นความลับของโลกใบนี้ บรรพบุรุษของเราทั้งหลายได้รักษาความลับของอาณาจักรเราเอาไว้ยิ่งชีพ ทั้งนี้เพราะเกรงว่าหากความลับแห่งอาณาจักรถูกเปิดเผยออกไป อาณาจักรใต้ท้องสมุทรอาจมีอันต้องล่มสลายตามคำทำนายแห่งจักรวาล

                อ่านคำนำไปย่อหน้าเดียวฉันก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก พลิกไปหน้าสารบาญเลยดีกว่า

                    นี่ไง!!!”

                    พอพลิกมาฉันก็เหลือบไปเจอหัวข้อที่น่าสนใจพอดี

                    คำสาป ความลับ และความรักต้องห้าม

                พอดูเลขหน้าแล้วฉันก็รีบพลิกไปอย่างรวดเร็ว ตื่นเต้นชะมัด อยากจะรู้จริงๆ ว่าจะออกลูกเป็นปลาหมึกอย่างที่ป้าเจนน่าเล่าให้ฟังหรือเปล่า เอาล่ะ...เจอแล้ว...

                    ความรักระหว่างมนุษย์และชาวใต้ท้องสมุทรเป็นสิ่งต้องห้าม หากผู้ใดมีความรักกับมนุษย์ เมื่อถึงคราวในกำเนิดบุตร

                พรึ่บ!!!!

                    อยู่ๆ ไฟจากตะเกียงก็ดับลงอย่างกะทันหัน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย –O- และฉันก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองฉันจากความมืด

                    ค...ใครน่ะ?

                    ฉันละล่ำละลักถามออกไปในความมืดนั้น

                    แมกซี่...แมกซี่...เธอกำลังต้องคำสาป...

                    เสียงแผ่วเบาราวกระซิบของใครคนหนึ่งดังขึ้นในห้องนี้ มันเป็นเสียงผู้หญิง ไม่ผิดแน่!

                    ใครน่ะ ออกมานะ

                    ฟึ่บ!!!!

                    ฉันรู้สึกได้ว่ามีมือของใครบางคนยื่นออกมาจากความมืดคว้าหมับเข้าที่ไหล่ของฉัน และในวินาทีนั้นเองฉันก็จับมือนั้นบิดนิดหนึ่ง

                    อะ...โอ๊ย!”

                    เลิกเล่นบ้าๆ ซะทีมิมิ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเป็นเธอ จุดตะเกียงซะ!”

                    พี่ก็ปล่อยฉันก่อนสิ

                    พรึ่บ~!

                    แสงจากตะเกียงสว่างขึ้นอีกครั้ง ทำให้ฉันเห็นว่าคนที่มาหลอกหลอนฉันคือมิมินั่นเอง ยัยบ้านี่ชอบเล่นแบบนี้จนฉันชินเสียแล้ว

                    เธอนี่ชอบเล่นอะไรบ้าๆ ไม่รู้จักโตเสียที

                    ก็ร้อยวันพันปีมิมิไม่เคยเห็นพี่เข้าห้องหนังสือ เลยลองตามเข้ามาดูไง

                    แค่นั้นใช่มะ

                    เปล่า มิมิรู้ว่าพี่กำลังมีเรื่องร้อนใจ

                    ยัยนี่รู้ดีจริง -_- ฉันกำลังร้อนใจแบบสุดๆ เลยล่ะ

                    “-O-“

                    หนึ่งคือพี่ไม่อยากแต่งงาน สองคือไข่มุกนั่น...

                    ยัยมิมิมองมายังไข่มุกสีชมพูที่อยู่บนคอของฉัน

                    เราออกไปคุยเรื่องนี้กันที่อื่นเหอะ

                    ฉันเสนอความคิด เพราะว่าที่นี่มันดูไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ ฉันเลยลากแขนยัยมิมิไปยังห้องนอนของตัวเอง

                    เอาล่ะ...เธอเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้นะมิมิ เพราะงั้นเธอต้องช่วยฉัน

                    “-_-“

                    มิมิ...ฉันจะทำยังไงดี TT^TT”

                    เอามันมาดูซิ

                    ฉันถอดสร้อยคอแล้วส่งให้มิมิ

                    ว่าไง?

                    มีรอยร้าวด้วยอะ

                    ใช่ มีรอยร้าวด้วย

                    แต่รอยร้าวหรืออะไรมันก็ไม่สำคัญหรอก แต่ที่สำคัญน่ะ...

                    ยัยน้องสาวเว้นจังหวะหายใจ

                    มันเป็นของปลอม

                    -_- นี่คือใบหน้าของเราสองคนค่ะ

                    ถ้าจำไม่ผิด ฉันเคยเล่าให้พวกคุณฟังแล้วใช่ไหมคะ ว่าฉันทำของสำคัญหล่นหายไปตอนที่ขึ้นไปบนโลกมนุษย์น่ะ ตอนนั้นแหละค่ะที่ไข่มุกสีชมพูของฉันหายไป ฉันเลยปรึกษายัยมิมิว่าทำไงดี สรุปแล้วเราก็เลยแอบไปซื้อไข่มุกที่ร้านเครื่องประดับ เพราะไม่คิดว่าไข่มุกที่ท่านพ่อมอบให้จะมีเวทย์ผนึกเอาไว้

                    มิมิ เธอต้องช่วยพี่นะ

                    ให้มิมิช่วยยังไง เรื่องมันก็นานมาแล้ว มิมิกลัวท่านพ่อ

                    ยัยมิมิพูดถึงท่านพ่อแล้วก็ทำท่าจะร้องไห้ ยัยบ้านี่ขี้ขลาดตั้งแต่เด็กจนโตเลยจริงๆ

                    เอาง่ายๆ เลยนะ มันสามารถใช้เปิดประตูกลบ้าบออะไรนั่นได้หรือเปล่า ถ้ามันใช้ได้เราก็ไม่จำเป็นจะต้องมากังวลอะไรทั้งสิ้น

                    นั่นสิ มิมิก็ว่าอย่างงั้น

                    งั้นเราไปลองกันดีมั้ย

                    สวนท้ายวังน่ะเหรอ ไม่เอาอะ ถ้าใครเห็น มิมิต้องถูกจับไปลงโทษแน่ๆ เลย ฮือ

                    ยัยนี่ทำท่าจะร้องไห้อีกแล้ว บ้าชะมัด ฉันจะหลอกล่อยังไงดีเนี่ย

                    ไม่เป็นไรหรอกมิมิ ถ้าเกิดมีใครเห็น พี่จะรับผิดแทนมิมิเอง

                    ไม่เอาอะ มิมิไม่ไปด้วยหรอก มิมิกลัว

                    มิมิ!!! อย่าทำให้พี่โกรธนะ ไปด้วยกันเดี๋ยวนี้ โทษฐานที่เธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรก

                    ม่ายยยยยยยยยยยยย...

                    ว่าแล้วยัยมิมิก็วิ่งหายไปจากห้องฉันทันที บ้าจริง แล้วฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้ TT^TT

     

                    คืนนั้น...

                    ด้วยความที่ยัยมิมิหักหลังฉันได้ลงคอ ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ฉันเลยแอบย่องออกมากลางดึกสงัดอีกครั้งเพียงลำพัง โดยแอบเข้าไปในห้องของพี่วิกกี้และมิมิเพื่อเอาไข่มุกของทั้งสองคนไปพิสูจน์ประตูบ้าบอนั่นให้รู้กันไป

                    หยุดนะ! เจ้าหัวขโมย!!”

                    “O_O”

                    ฉันสะดุ้งเฮือกขณะกำลังจะเดินออกจากห้องของพี่วิกกี้ แย่จริงสงสัยฉันจะเสียงดังเกินไปสินะ

                    เจ้าบังอาจขโมยหัวใจของข้าไป เจ้าจะรับผิดชอบเช่นไร

                    “-_-“

                    ฉันว่ามันแปลกๆ นะ พอหันกลับไปดูก็พบว่าพี่วิกกี้หลับตาเดินไปเดินมารอบเตียง เหอะ ยัยพี่บ้านี่ละเมออีกแล้วสินะ -_-

                    เอาล่ะ ฉันไม่มีเวลามาก ต้องจัดการพิสูจน์เรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

     

                    และแล้วฉันก็มาถึงสวนท้ายวัง สถานที่ซึ่งประดับประดาไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ และที่นี่ก็ยังห้ามคนทั่วไปเข้าออกอีกด้วย ตั้งแต่เล็กจนโตฉันก็มาแถวนี้ออกบ่อยนะ แต่ก็ว่ามันจะมีอะไรพิเศษไปกว่าสวยต้นไม้ดอกไม้ธรรมดาๆ แต่วันนี้ฉันพอจะรู้แล้วว่าลึกเข้าไปในสวนท้ายวังมีประตูลึกลับบานหนึ่งซ่อนอยู่ และมันคือประตูเจ้าปัญหาที่ฉันอยากจะลบมันออกจากอาณาจักรเสียตอนนี้เลย ถ้าเป็นไปได้อะนะ

                    ที่หน้าทางเข้าสวนท้ายวังมีผู้ชายท่าทางขึงขังสองคนเฝ้าอยู่ ฉันแอบมองสองคนนั้นอย่างระมัดระวังอยู่หลังหินก้อนใหญ่ ทำยังไงดีนะ ถ้าพวกนั้นยังเฝ้าอยู่ตรงนี้ฉันคงไม่มีทางเข้าไปได้ แล้วทันใดนั้นฉันก็ปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้นมาในสมอง

                    โครม!!!

                    เสียงดังมาจากด้านหนึ่งของสวน ทำให้ทหารหน้าเข้มทั้งสองคนรี่ไปดูแทบจะไม่ทัน และโอกาสนั้นเองฉันก็ตรงดิ่งไปเข้าไปในสวนทันทีโดยไม่ต้องรีรอสิ่งใดอีก

                    ฉันเคลื่อนตัวไปตามทางอย่างระมัดระวัง และในที่สุดฉันก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูหินบานหนึ่ง มันเป็นประตูที่สลักลวดลายแปลกๆ เอาไว้ แต่บนประตูบานนั้นมีอยู่ส่วนหนึ่งซึ่งสลักไว้เป็นแท่นเว้าลงไป และฉันเดาว่าไอ้ช่องเว้าๆ สามช่องนั้นเป็นช่องสำหรับใส่ไข่มุกสามสีนั่นเอง

                    ไม่รอช้า ฉันรีบหยิบไข่มุกสามสีออกจากถุงผ้าทันที ฉันว่าไข่มุกสีเขียวของพี่วิกกี้ลงไป เมื่อผิวของไข่มุกสัมผัสกับประตูหินแสงสีเขียวก็สว่างวาบ จากนั้นก็ตามด้วยสีฟ้าของยัยมิมิ ก็ปรากฏว่ามีแสงสีฟ้าสว่างออกมาจากตัวไข่มุก อ๊า~ ท่าทางจะสำเร็จแฮะ

                    แต่ว่า...ปัญหามันอยู่ที่ไข่มุกสีชมพูของฉันนี่สิ เอาเถอะ เป็นไงเป็นกัน ฉันบรรจงวางไข่มุกเม็ดนั้นลงในช่องเว้าที่เหลืออยู่ และแล้ว...

                    ปี๊ด ปี๊ด ปี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!

                    แสงสีแดงวูบวาบ ไข่มุกทั้งสามกระเด็นออกมาจากประตูบานนั้นจนหมด ด้วยความตกใจฉันจึงทำอะไรไม่ถูก นี่หมายความว่าไข่มุกของฉันใช้ไม่ได้สินะ บ้าจริง ทำไงดีล่ะเนี่ย ทหารต่อพากันแห่มาที่นี่แน่ๆ เลย

                    และวินาทีนั้นเอง...

                    เธอถูกจับแล้ว!!!”

                    มือของใครบางคนวางลงที่ไหล่ของฉันเบาๆ ทว่ามั่นคง

                    พอฉันหันไปก็พบกับชายผู้มีดวงตาสีน้ำตาลอ่อน คิ้วเข้มของเขาขมวดเข้าหากันเหมือนเช่นทุกทีที่เจอฉันทำอะไรแผลงๆ และคราวนี้ก็เช่นกัน

                    เฟย์!!!”

                    เธอก่อเรื่องอีกแล้วนะ

                    เขาดุฉันอย่างเคย เฮ้อ เจอหมอนี่ทีไรโดนดุทุกที แต่การเจอเขาตอนนี้เป็นอันรู้ได้เลยว่าเรื่องคราวนี้ต้องผ่านไปด้วยดีแน่ ^O^

                    ยืนยิ้มอะไรอยู่เล่า รีบไปเถอะ ก่อนที่พวกทหารจะแห่กันมาจับเธอกันหมด

                    จริงสิ ไปกันเถอะ

     

    (โปรดติดตามตอนต่อไป)

     

    ขอโทษที่มาอัพช้านะครับ พอดีเจอมรสุมชีวิตเล็กน้อย ฮ่าๆๆ

    ยังไงก็อ่านกันให้สนุกนะคร๊าบบบ...

    ใครอ่านแล้วไม่เม้นโกรธ หุหุ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×