ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =ยุ่งนัก...เมื่อรักสลับร่าง=

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7...ไล่ผี

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.55K
      0
      10 มี.ค. 49

    Chapter 7

                    เสียงเเอร์ดังหึ่งๆแต่ไม่ดังมากนักแทบจะเรียกได้ว่ากลืนกับบรรยากาศจนแทบจะแยกไม่ออกเลยว่ามันเป็นเสียงแอร์ นอนบิดขี้เกียจไปมาสักพักแล้วค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อความสบายในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความอึดอัด หนังตาอันหนักอึ้งค่อยปรับสภาพมองเห็นภาพตรงหน้าชัดแจ๋วแหววก่อนจะกระพริบตาปริบๆ

    "อรุณสวัสดิ์ที่รักของป๋ม"

    "ผีอำ!"

    "ผีอะไรจะหล่อปานนี้"

    "อ๊ากกกก!!"

    พลังเท้ามหากาฬเด้งอัติโนมัติพร้อมทั้งแรงถีบมหาศาลเล่นเอาคนที่นอนคร่อมร่างในตอนแรกหงายหลังลงไปกลิ้งกับพื้นดังตุบ

    "ทำไมรุนแรงอย่างนี้ล่ะเมอ้วน"

    "ทำรุ่มร่ามอีกแล้วนะแพท!"

    จะไม่ให้ตกใจได้ไงตื่นขึ้นมาเจอผู้ชายมาขึ้นคร่อมแล้วบอกอรุณสวัสดิ์ในตอนเช้าตรู่อย่างนี้ ไม่ให้คิดว่าผีอำก็ผีหื่นงานนี้นี่แหละ

    "ก็ปลุกไม่รู้สึกตัวนี่นา แล้วก็อยากจะแอบมองเมอ้วนนอนมันผิดมากนักเหรอไง ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอสักหน่อย"

    "ถ้ารุ่มร่ามอีกฉันจะเจี๋ยนทิ้ง!"

    "อ๊าง โหดร้าย"                               

    ลงมาทานอาหารเช้าด้วยใบหน้าที่บูดสนิท พ่อกับแม่มองฉันกับพี่โม(แพท)สลับกันไปมาอย่างงงๆ

    "แปลกนะ เมื่อคืนนอนในห้องทำไมตอนเช้าเห็นสองคนออกมาจากห้องนอนพร้อมกัน"

    "..."

    นี่ถ้าคนที่ไปนอนด้วยกันไมใช่พี่ชายฉันแต่เป็นชายอื่น การสนทนาแบบนี้จะตีความหมายไปอีกทางได้ง่ายๆเลยนะเนี่ย ฉันที่กินข้าวอยู่แทบจะสำลักพรวดกระเด็นไปใส่หน้าแม่เลยทีเดียว แต่ก็ต้องควบคุมสติตอบกลับไปอย่างปกติที่สุด

    "อ๋อ พ่อนอนกรนเสียงดังมากน่ะค่ะ เลยตัดสินใจหนีไปนอนที่ห้องกับพี่โมสองคน แล้วเป็นห่วงว่าพี่โมถ้านอนคนเดียวจะลำบากเลยต้องอยู่ด้วยกันตามคำสั่ง-แม่-ไง"

    "อ๋อ แต่แม่ไม่เห็นได้ยินเสียงพ่อกรนเลยนะ"

    เหอะๆ ถ้าได้ยิน-แม่-คงบอกเลิกกับพ่อตั้งแต่สมัยไม่มีเมกับพี่โมแล้วมั้งคะ ฉันนิ่งไม่ตอบอะไรยังคงกินอาหารกันต่อไป เป็นจังหวะที่มีเสียงออดหน้าบ้านดังฉันจึงอาสาออกไปดู

    "มีนา"

    "เออฉันเอง ลงทุนมาบ้านแกแต่เช้าเลยนะเนี่ย" "ดีใจที่แกมา กำลังเหนื่อยๆ"

    "ไอ้ลิงมันปล้ำแกเหรอไง ดูอิดโรย"

    "ไม่เชิง เข้ามาก่อนสิ"

    มีนาเดินเข้ามาตามคำเชิญของฉัน แล้วรีบสอดส่ายสายตาหาพี่ชายฉัน(หรือแพทนั่นแหละ) ทันทีที่มันเห็นก็กระทุ้งสีข้างฉันอย่างต้องการคำยืนยัน

    "อืมนั่นแหละ"

    "โห...พี่ชายแกผู้เงียบขรึมพอเปลี่ยนเป็นลิงแล้วดูเป็นส่วนผสมที่ลงตัวนะ"

    เหอะๆ เอาอะไรมาลงตัวล่ะ ทฤษฎีบทไหนไม่ทราบ ส่ายหัวน้อยๆอย่างไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ ทางแพทเองที่กำลังคุยจ้อทำท่าเหมือนลิงจ๋อพอหันมาเห็นมีนาก็ร้องลั่น

    "มีนมก็มาด้วยเหรอเนี่ย"

    "มีนา" เพื่อนซี้ฉันพูดขัดขึ้น

    โอ้โห... แทบจะโยนจานข้าวแล้วถลาเข้ามาหาอย่างดีอกดีใจ มีนมเอ้ย มีนาหันมาทางฉันแล้วเลิ่กคิ้วอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่

    "ตายและ หนุมานในร่างพระราม ไม่เห็นด้วยตาไม่มีทางเชื่อเลย"

    ย้ายร่างขึ้นมาปรึกษากันที่ห้องนอนของฉันแทน แพทที่เป็นผู้ชายไฮเปอร์แอคทีฟอยู่แล้วเอาแต่รื้อโน่นคนนี่เหมือนลิงก็ไม่ปาน สร้างความรำคาญให้กับฉันเป็นอย่างดีจะ ปรึกษาอะไรทีก็ไม่รู้เรื่องเลย

    "แพท นั่งเฉยๆได้ไหม นี่เราทุกคนกำลังปรึกษากันเรื่องนายกันอยู่นะ"

    "ก็ปรึกษาไปสิ ฉันขอดูโน่นดูนี่หน่อย นี่อัลบั้มภาพอะไรเหรอเมอ้วน"

    "ปล่อยมันไปเถอะ แกคุยกับฉันก็ได้เม ใช่ว่าแพทมานั่งฟังแล้วจะช่วยให้อะไรมันดีขึ้น" มีนาแทรกขึ้นทำให้ฉันได้แต่พยักหน้าอย่างเห็นด้วยปล่อยให้แพทซนไปตามเรื่องตามราว หันมาคุยกับมีนาอย่างเอาการเอางาน

    "แล้วจะเอายังไงต่อ สรุปว่าที่ๆเราจะพาแพทไปไล่ผีน่ะที่ไหน"

    "แถวๆบางนาน่ะ หม่าม้าฉันเคยพาฉันไปครั้งหนึ่ง ตอนนั้นเห็นมีร่างทรง คือสารภาพตามตรงก่อนนะว่าฉันไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า แต่เห็นคนร่างทรงเต้นไปเต้นมาเห็นว่าร่างจากเทพเบื้องบนเข้าร่างแล้วก็คอยบอกเลขอะไรทำนองนี้อ่ะ แต่คราวนี้เราพาแพทที่อยู่ในร่างพี่ชายแกไปแทนไง ให้เขาไล่ไอ้แพทไปเข้าร่างตัวเองไม่ได้ไปหาเลข มันน่าจะง่ายๆนะตามความคิดฉัน " มีนาพูดพลางเอามือลูบคางอย่างใช้ความคิด

    "แล้วเราจะไปเมื่อไหร่ พี่ชายฉันในสภาพนี้ไม่เหมาะสมอย่างแรง แกดูสิ เอานิ้วแคะขี้มูกมาปั้นๆแล้วก็ดีดอ่ะ พี่ฉันเขาไม่อะเฟร่ดและอีเดียดขนาดนั้น"

    "ฉันก็ว่างั้น" มีนาพูดพลางเอาลิ้นเลียปากแผล่บๆไม่รู้ว่าปากแห้งหรือหิวขี้มูกที่แพทดีด "เอ้อ แล้วร่างแพทล่ะเป็นยังไงบ้าง"

    ไหล่ฉันลู่ลงก่อนตอบอย่างซึมๆ "สภาพแผลเต็มตัวไปหมดเลย เห็นแล้วน้ำตามันพาลจะไหลให้ได้เลยน่ะ"

    "ไหลทำไมวะ มันยังมานั่งเป็นลิงแสมปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่นี่เลยนะ"

    "ก็จริง...แต่ตามความน่าจะเป็นของฉัน ฉันว่าพี่ชายฉันต้องกระเด้งไปอยู่ในร่างแพทแน่ๆเลย พอคิดว่าพี่ชายฉันนอนหลับอยู่ในร่างที่บอบช้ำขนาดนั้นแล้วมันอยากจะ...ฮือ"

    "เฮ้ยๆ ใจเย็นๆเว้ย อยู่ดีๆเบะกระทันหัน"

    "ฮือๆๆ พี่ฉันนอนอยู่ในร่างลิง ส่วนลิงอยู่ในร่างคน ไม่มีอะไรจะปวดหัวไปกว่านี้แล้ว ฮือๆๆๆ"

    ความเครียดและความวิตกจริตตีกันยุ่งทำให้ฉันเกิดอาการประสาทกำเริบร้องไห้เบะออกมาอย่างกับเขื่อนแตก แพทที่กำลังสนุกสนานอยู่กับการเปิดอัลบั้มรูปพอเห็นน้ำตาฉันไหลพรากๆเท่านั้นก็กระโดดพรวดขึ้นมาบนเตียงอย่างตกอกตกใจ

    "เมอ้วนเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมคนดี เมอ้วน"

    "ฮือๆๆ แพทกลับไปร่างเดิมของนายเถอะ อย่าทำให้พี่ฉันดูแย่ไปกว่านี้เลย ฮือๆๆ ฉันจะบ้าตายแล้วนะฮือๆ"

    "อะไรกันเมอ้วนอย่าร้องไห้อย่างนี้สิ ฉันใจคอไม่ดีเลยจะให้ฉันทำยังไงล่ะ ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ในร่างพี่ชายเธอเท่าไหร่นะ"

    "ทำอะไรสักอย่างสิแพท ทำๆๆ ไม่ใช่เอาแต่นั่งดูรูป ฮือๆๆ"

    แพทตาลีตาเหลือกทำอะไรไม่ถูกคว้าหัวฉันได้ก็จับซบเข้ากับอกกว้างด้วยร่างกำยำของพี่ชายฉัน ร้องเอ่เอ๊ๆเหมือนฉันเป็นเด็ก นั่นยิ่งทำให้ฉันร้องไห้หนักเข้าไปอีก

    "หยุดร้องนะคนดี เดี๋ยวเรื่องร้ายๆก็ผ่านไป"

    "ฮึกๆ มันจะผ่านไปได้ยังไงก็เรื่องร้ายๆมันกอดฉันอยู่น่ะ แง แพท ทำไงดี นายถึงจะออกไปจากร่างพี่ฉันได้"

    "แกเลิกโวยวายได้ไหมเม ตอนนี้ไม่มีใครเขาดีใจกับการปรากฏตัวแบบใหม่ของแพทมันหรอก ถ้าแกร้องไห้แพทมันจะพลอยเสียกำลังใจไปด้วยนะ"

    คำพูดของมีนาทำให้แรงสะอื้นฉันชะงัก ค่อยๆเงยหน้าคนที่กอดอย่างเริ่มมีกังวล

    "โทษทีแพท ฉันลืมคิด"

    ก่อนจะค่อยๆผละจากมาแล้วสะอึกสะอื้นฮึกๆในลำคอ เอาหลังมือปาดน้ำตาออก แพทยิ้มน้อยๆอย่างเอาใจ

    "ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้ว่าเธอเครียด ไม่อยากให้พี่เธอต้องมาอยู่ในสภาพนี้ แต่ฉันก็เครียดเหมือนกันนะ ผู้ชายที่รวยทั้งฐานะและหน้าตาอย่างฉันต้องมาอยู่ในร่างจืดชืดอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอก"

    "เม เมื่อกี๊ที่ฉันพูดถือซะว่าไม่ได้ยินนะ แกร้องไห้ต่อไปเลยเอาให้มันรู้สึกว่าไม่มีค่าควรแก่การอยู่บนโลกนี้ไปเลย"มีนาพูดขึ้นฉันที่รู้สึกผิดเมื่อกี๊หันไปทางแพทแล้วเอามือตีป้าบเข้าที่หน้าผากเข้าให้

    "หล่อให้มันถูกกาลเทศะได้ไหม ซึ้งก็ควรซึ้ง ฮาก็ควรฮาอย่ามาตัดอารมณ์แบบนี้ ไปไกลๆไป๊!"

    อารมณ์เสียเลย นี่แหละที่เขาว่าคนบ้ามีความสุขทุกสถานการณ์เช่นไอ้บ้านี่เป็นต้น

    "ฉันว่าเราควรจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ถ้ายิ่งวันนี้ได้ยิ่งดีเลยนะ" มีนาออกความเห็น ฉันหันไปมองหน้าแพทอย่างใช้ความคิด

    "แม่ไม่มีทางยอมแน่แก แพทเพิ่งจะกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวาน ถ้าออกนี่มีถามยาว จะให้ฉันบอกแม่ว่าพาแพทไปหาหมอผีนี่มีแต่โดนด่าเข้าน่ะสิ"

    "หนีสิ เราต้องหนี"

    "หนี? หนีไปไหน ข้างล่างมีทางออกอยู่ทางเดียวคือประตู แล้วแม่ฉันน่ะเฝ้าเป็นนายทวารเลยนะ จะเข้าจะออกก็ไม่พ้นสายตาแม่ไปได้หรอก"

    "อย่าลืมสิ" มีนาหันไปทางแพทแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แพทมองมีนาพลางกลืนน้ำลายเอื๊อกๆลงคอ

    "..."

    "ว่าแฟนแกน่ะหนุมานในร่างคน"

    ฉันกับมีนาทำท่าจะออกจากบ้านแต่ก็ถูกนายทวารหรือแม่เรียกเอาไว้ก่อน ใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆกลัวแม่จะจับได้เหลือเกิน

    "นั่นจะไปไหนน่ะเม"

    "ไปหาซื้ออุปกรณ์ทำรายงานนิดหน่อยน่ะค่ะแม่ เดี๋ยวแป๊บๆก็กลับแล้วล่ะ" ตอบปากสั่นฟันกระทบกันกึกๆ สิ่งที่ฉันทำไม่เก่งที่สุดในชีวิตก็คือการโกหก และนี่ฉันก็กำลังถูกแม่จ้องตาเป็นมันเพราะคาดว่าน่าจะจับได้ แม่หันสายตาที่มองตรงมาทางฉันมองไปยังมีนาแทน

    "จริงหรือเปล่านา"

    "จริงค่ะ"

    "..."แม่

    "..."มีนา

    ตามองตาสื่อภาษากันเข้าใจ แม่ปิดเปลือกตาลง ฉันมองอย่างไม่เข้าใจความหมายเท่าไหร่

    "โอเค นาพูดจริง ส่วนเมยังโกหกแม่อยู่ว่าไปทำรายงาน สรุปว่าเมไปไหน"

    "เอ่อ..." ฉันตอบไม่ถูก แน่นอนมีนาผู้เก่งกล้าสามารถตอบแทนฉัน

    "ไปเป็นกระเป๋าตังค์ให้นายืมค่ะ"

    "อ่อ"

    "..."ฉันยังคงยืนเหงื่อแตกซิก ป่านนี้ไอ้ลิงนั่นจะทำตามที่บอกได้ยังก็ไม่รู้

    "แล้วโมล่ะ"

    "นอนหลับตัวกลมอยู่ข้างบนน่ะค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงค่ะยัยเมเขากล่อมพี่ชายหลับสนิทไปแล้ว"

    "กล่อม?"

    "ค่ะ ไม่เชื่อขึ้นไปดูสิคะ หลับปุ๋ยเลย" มีนายังคงตอบหน้าตายแถมท้าด้วยนะ แม่กระพริบตาปริบๆอย่างจับผิดอีกครั้ง

    "ไม่ต้องพิสูจน์หรอกจ้ะแม่ก็ถามไปงั้นเอง รีบๆกลับนะเมเดี๋ยวพี่เขาน้อยใจแบบเมื่อวานอีก หมู่นี้ทำท่าแปลกๆอยู่ด้วย รู้หรือเปล่า"

    "ค่ะแม่ ไปนะคะ"

    และเราก็สามารถฝ่าด่านแม่ออกมาได้ด้วยคำโกหกของนา ฉันลืมบอกไปมั้งว่าถ้าฉันคือผู้หญิงที่โกหกแย่ที่สุดในโลก งั้นมีนาก็คงเป็นอันดับหนึ่งในการโกหกตอแหลหน้าตายเพราะเธอทำสถิติในการโกหกไม่เคยพลาดสักครั้ง และนี่ก็เช่นกันโกหกหน้าตายและก็เดินออกมาได้โทงๆ

    "แกนี่เป็นคนที่โกหกได้อุบาทว์ที่สุดในโลกมีอย่างที่ไหนบอกไปซื้อของทำรายงานแต่ปากสั่นเหมือนอยากยาบ้าก็ไม่ปาน ใครจับไม่ได้ก็ฟายเต็มทีแล้ว"

    "ใครจะเหมือนแกล่ะ ออสการ์นี่ยกให้เลย"

    "ถ้าหมายถึงตีบทแตกน่ะฉัน ถ้าหมายถึงผาดโผนยอดเยี่ยมน่ะ ลงมาแล้ว" มีนามองขึ้นไปข้างบนเห็นแพทที่ปีนต้นไม้ลงมาเก้ๆกังๆก่อนจะลงสู่พื้นสง่างาม

    "โทษที ช้าไปหน่อยแหะๆ"

    สมแล้ว...ที่เป็นลิง -_-

    นั่งรถตรงมายังที่หมายปลายทางแถบชานเมือง พอออกมานอกเมืองก็เจอข้างทางที่ป่าหญ้ารกรุงรัง กับตึกราบ้านช่องที่สร้างกันอย่างถี่ห่าง แม้จะเรียกว่ากรุงเทพแต่ก็เป็นกรุงเทพที่ดูสงบอย่างประหลาด

    เราทั้งสามคนลงจากแท็กซี่มาถึงยังที่ๆมีนาบอก บรรยากาศมืดทึมอลวนอลเวงแม้ว่าจะเป็นกลางวันแต่ความรู้สึกแบบนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกสั่นสะท้าน มนต์ขลังปะหลาดๆทำให้ฉันขนลุกเกรียว

    "ที่นี่แหละ"

    มีนาบอกพร้อมทั้งชะเง้อชะแง้มองเหมือนให้แน่ใจ แพทเดินเข้ามาควงแขนอย่างที่ชอบทำบ่อยๆเวลาอยู่ร่างเดิม

    "แหมวันนี้เหมือนเรามาเดทกันเลยเนอะ เพียงแต่สถานที่มันขลังไปนิดส์"

    "แล้วก็เพียงแต่นายเป็นพี่ชายฉันด้วยไง ปล่อยเถอะขนลุก"

    ฉันดึงแขนแพทออก แพททำปากบู้ทู่นิดหน่อยยังขัดใจ เราทั้งคู่ตามมีนามาติดๆเดินเข้าไปตามทางที่ระหว่างทางเป็นต้นไม้รกทึบทางเป็นเพียงดินทรายธรรมดา มีนาหยุดลงตรงหน้าบ้านทรงไทยหลังหนึ่งที่ดูเก่าแก่เหมือนเคยเห็นในหนังผีไทยสมัยก่อน

    "บ้านผีปอบรึเปล่าเนี่ย"

    แพทพูดซึ่งฉันก็ถึงบางอ้อทันทีว่ามันเหมือนในหนังเรื่องไหน บรื๋อน่ากลัว

    "ตามเข้ามาเถอะ สูดหายใจลึกๆ ฮึบ...ฮ่า หน้าเดิน"

    มีนาพูดพลางเดินนำเข้าไป บันไดไม้ที่กระง่อนกระแง่นนั่นยิ่งเพิ่มความขลังมากขึ้น กลิ่นธูปจากในบ้านลอยมาแต่ไกล ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ผงะแทบจะกระโดดขี่คอแพททีเดียว

    "พ...แพท"

    ฉันเอื้อมมือไปคล้องแขนแพทไว้อย่างด้วยความลืมตัว ไม่ลืมหรอกตั้งใจเลยล่ะมันจะขลังเกินไปหรือเปล่าเนี่ย ในบ้านมีผู้ชายแก่ใส่ชุดขาวเหมือนในหนังผีไม่มีผิด ลูกปะคำแขวนรอบคอแล้วหลับตาสวดอะไรสักอย่าง ด้านหน้าเป็นหัวกระโหลกมีเทียนปักนั่นยิ่งทำให้ฉันขนหัวลุก

    "สวัสดีค่ะ"

    มีนาพูดทักขึ้นพร้อมทั้งลดตัวลงนั่ง ฉันกับแพททั้งสองคนจึงนั่งลงตาม อาจารย์แก่ๆคนนั้นลืมตาขึ้นมอง ดวงตาสีอีกาที่จับจ้องมาแทบจะกลืนพวกเราเข้าไปทีเดียว

    "มีอะไรก็ว่ามา"

    "เกิดอาเพทบางอย่างกับกลุ่มพวกเราค่ะ"

    "ยังไง ว่ามา" อาจารย์คนนั้นถามขึ้น มีนาอ้าปากจะถามต่อเสียงทุ้มต่ำอีกเสียงก็แทรกขึ้นมาในทันที

    "เก่งมากก็ลองทายดูสิ"

    แว้ก! ไอ้ลิงกัง จะมาลองดีอะไรเนี่ย

    ฉันถลึงตามองไอ้หนุมานในร่างพระรามนี่ในทันที แพทกระพริบตาบ้องแบ๊วมาทางฉันปริบๆก่อนจะหันไปทางอาจารย์คนนั้นด้วยดวงตาเครียดเล็กน้อย

    "ไม่ได้จะอวดเก่งอยากลองภูมิหรอก แต่แค่อยากรู้ว่าท่านประสิทธิ์ประสาทวิชาแค่ไหน"

    "ฮะฮ่าๆๆๆๆ" เสียงหัวเราะกร้าวดังขึ้นจากอาจารย์เล่นเอาขนลุกเกรียวไปตามๆกัน "ไม่เห็นจะเดายาก ไอ้ผีบ้ามันเข้าร่างแกน่ะสิ ชิชะ กล้ามาลองของกับข้าซะแล้ว"

    ผีบ้า!ใช่เลย มันน่ะผีบ้าของจริง อาจารย์คะมันเป็นลิงบ้าด้วย รีบๆใช้มันไปปีนต้นมะพร้าวด่วน

    แอบเชียร์อาจารย์ในใจอย่างนั้นเพราะหมั่นไส้แพทเต็มที แพทยังคงลอยหน้าลอยตามองการวินิจฉัยจากอาจารย์เหมือนกำลังรอฟังคุณหมอจากโรงพยาบาลวินิจฉัยโรค

    "สรุปว่าผมเป็นอะไร"

    "เป็นผีไง ชิชะ ลองข้าวสารเสกหน่อยเป็นไร"

    อาจารย์พูดจบก็หยิบข้าวสารออกมาจากย่ามแล้วเอามาจ่อที่ปากทำท่าพ่นคาถาอะไรสักอย่างแล้วสาดเข้ามาที่ตัวแพทโดยที่ฉันหลบข้าวสารนั่น(ไม่ได้กลัวนะแต่ถ้าเศษข้าวมันหลุดเข้ามายังเสื้อในแล้วฉันขี้เกียจหยิบ) แพทเอามือถูข้าวสารนั่นออกจากหน้าก่อนจะพ่นเม็ดข้าวที่เข้าปากไปทางอาจารย์ด้วย

    "รู้หรือเปล่าว่าชาวนาปลูกข้าวลำบากแค่ไหน เที่ยวเอามาปาใส่ชาวบ้านเขาเนี่ยนะ"

    "หนอยชิชะไอ้วายร้าย ข้าวสารทำอะไรแกไม่ได้ งั้นต้องใช้-ค-ว-า-ย-ดินเหนียวไปสู้กับมัน" แล้วก็เป่าคาถาเหมือนตอนแรกตั้งไว้ข้างหน้า

    .......

    .....

    ...

    เวลาผ่านไปกี่นาทีไม่แน่ใจพวกเราทั้งหมดได้แต่จ้อง-ค-ว-า-ย-ดินเผาตัวนั้นเผื่อมันจะมีอิทธิฤทธิ์อะไรเพิ่มขึ้นมากกว่าที่จะมายืนอยู่กับที่ แต่ผลลัพย์ของมันเท่ากับศูนย์

    "เอามาไถนาหาข้าวสารมาเสกใส่ฉันอีกเหรอไงลุง เอาออกมาทำไมเนี่ย"

    นั่นสิ...เอาออกมาทำไม -_-

    "เฮี้ยนจริงๆเลยนะแก เอานี่ไป กุมารทองสยองขน"

    และผลลัพย์ก็ออกมาเป็นเช่นเดิม ออกมายืนคู่กับค-ว-า-ย-ตัวแรกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หันไปกระซิบกับมีนาที่นั่งมองกุมารกับ-ค-ว-า-ยไม่วางตาอย่างนั้นด้วยความสงสัย

    "นี่หม่าม้าแกเขามาให้เข้าทรงหาอะไรวะ ถามจริง"

    "แอบได้ยินว่ามาทำเสน่ห์ให้ป๊ารักป๊าหลงว่ะ"

    "แล้วหลงป่ะ"

    "หลงว่ะ หลงไปบ้านอื่นเลยนี่ไม่เห็นป๊ากลับบ้านหลายวันแล้วอ่ะ"

    "เฮ้ย แล้วงี้มันจะได้ผลเหรอวะ"

    "เหอๆ ไม่รู้ว่ะ รอดูกันไป"

    แพทนั่งขัดสมาธิเอามือกอดอกมองอาจารย์ที่หยิบสารพัดของวิเศษที่ออกมาจากย่ามนึกว่าโดเรมอนจำแลงกายมาในประเทศไทย

    "นี่ลุง หมดแล้วเหรอของเล่นอ่ะ"

    "เฮี้ยนจริงๆให้ตาย อย่างนี้มันต้องเจอของหนักซะหน่อยแล้ว"

    อาจารย์ไม่ว่าเปล่าควักเทียนเล่มสีเหลืองออกจากย่ามสีขาวกำไว้ในมือท่องอะไรสักอย่างพึมพำ

    "เจอเทียนคาถามหาวิปโยคของข้าหน่อยเป็นไร"

    จากนั้นก็ต่อไฟจากเทียนที่ปักกับหัวกะโหลกตั้งแต่ทีแรกแล้วสะบัดน้ำตาเทียนมาทางแพท สิ่งที่เห็นเล่นเอาฉันกับมีนากระโดดมากอดกันเพราะร่างของแพทนั้นลงไปดิ้นพร่านๆเหมือนหมาถูกน้ำร้อนสาด

    "แพท!"

    ร่างสูงถูกเทียนคาถาสะบัดลงไปดิ้นพร่านๆอยู่ที่พื้น ภาพที่เห็นทำเอาฉันอ้าปากค้างร้องเรียกแพทออกมาเสียงหลงเนื่องด้วยความตกใจ จากที่กอดๆอยู่กับมีนาก็ปล่อยออกมาแล้วถลาไปหาแพทอย่างลืมตัว

    "เป็นไงบ้างแพท"

    "โอ๊ย!"

    แพทร้องออกมาเท่านั้นก่อนจะหันควับเข้าไปที่อาจารย์อย่างเคียดแค้น เอามือลูบแขนตัวเองพร้อมทั้งลุกขึ้นเอานิ้วชี้หน้า

    "เล่นสะบัดน้ำตาเทียนอย่างนี้ผีที่ไหนมันจะไปทนได้วะ"

    "ก็ผีทะเลอย่างแกไงล่ะ ไม่หยุดใช่ไหมเอานี่ไป น้ำมันตะเกียงวิเศษ"

    อาจารย์คว้าน้ำมันตะเกียงใกล้ๆแล้วทำท่าจะสะบัดใส่แพท แต่แพทหลบได้ทันก่อน บริเวณที่น้ำมันหกใส่มีควันขึ้นมานิดหน่อยแสดงถึงความร้อนที่อมอยู่ในตัวน้ำ ฉันกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเมื่อนึกถึงว่า ถ้าน้ำมันโดนแขนตัวเองบ้างแล้วจะรู้สึกยังไง

    "งั้นฉันจะไล่แกออกไปจากร่างคนนี่บ้างไอ้อาจารย์ขี้ฮกเบ่เบ๋"

    ขี้ฮกเบ่เบ๋...นี่มันต้องผีพี่เบิร์ดธงไชยแน่ๆ ฉันมองตามการกระทำของแพทอย่างงงๆ แพทสาวเท้าก้าวเข้าไปหาอาจารย์คนนั้นแล้วยกมือขึ้นบีบคอเขย่าๆอย่างสุดแรงเกิด

    "เฮ้ยแพท เรามาให้เขาไล่ผีให้นะเว้ย" มีนาร้องค้าน

    "ไม่ต้องไล่มันแล้ว มันจะทำให้หน้าที่เต็มไปด้วยความหล่อของฉันเสียหาย! ยอมไม่ได้เป็นอันขาด มันต้องตาย!"

    แพทเริ่มออกอาการบ้าสุดขีดบีบคอไม่ยั้งฉันกับมีนาทำอะไรกันไม่ถูกได้แต่มองหน้ากันเองอย่างถามความเห็น แพทเวลาโมโหแล้วไม่ต่างอะไรกับหมีค-ว-า-ยตอนหิวโซหรอก(จำได้จากเพชรพระอุมาว่าหมี-ค-ว-า-ยมันดุ)

    "หยุดนะแพท"

    "ย้ากๆๆ" แพทยังคงบีบคออาจารย์นั่นไม่เลิก หน้าอาจารย์คนนั้นตาเหลือกจนแทบจะปลิ้นออกมา

    "ถ้านายหยุด"

    "ย้ากๆๆ"

    "ฉันจะให้จูบหนึ่งที"

    ได้ผลชะงัดนักสำหรับคนบ้าในกามมารมณ์ แพทแทบจะกระเด้งออกจากอาจารย์ทันทีแล้วหันมาทำตาวิ้งๆกระพริบตาถี่ๆ

    "หยุดแล้ว จูบจริงนะ"

    "ออกจากที่นี่กันก่อนเถอะ" มีนาพูดขัดขึ้นก่อนที่ฉันจะได้ตอบอะไร อาจารย์คนนั้นเอามือลูบคอป้อยๆก่อนจะชี้มาทางพวกเราอย่างอาฆาต

    "พวกแกต้องตาย เด็กๆ เด็กๆว้อย! หายหัวไปไหนกันหมด โผล่ออกมาเดี๋ยวนี้"

    "ไปกันเหอะ!" มีนาฉุดแขนฉันส่วนฉันเองก็ฉุดแขนแพทอีกต่อหนึ่งแล้วต่างพากันลากออกมาจากบ้านผีปอบนั่น วิ่งหนีกันออกมาอย่างสุดแรงเกิดเมื่อมีนาบอกว่าพวกลูกศิษย์อาจารย์นั่นวิ่งตามมา

    "โธ่เอ๊ยแพท ไม่น่าเลย!หาเรื่องจนได้" วิ่งไปบ่นไปพลาง แพทได้แต่ยิ้มเผล่เหมือนไม่รู้สึกอะไรสักนิด

    "ก็มันหลอกลวงฉันก็อดไม่ได้นี่ อีกอย่างยังเอาน้ำตาเทียนมาสะบัดร่างที่ไม่งดงามอยู่แล้วในตอนต้นให้ไม่งดงามเข้าไปอีกฉันทนไม่ได้หรอก"

    "หยุดนะว้อย! หยุด!" พวกลูกศิษย์สองสามคนที่วิ่งตามมาร้องสั่งให้พวกเราหยุด แพทหันไปชูนิ้วกลางให้แล้วหันมายิ้มเผล่ให้ฉันอย่างไม่รู้สึกผิดอะไรสักอย่าง

    "มันโง่เนอะ คิดว่าเป็นใครมาสั่งให้ฉันหยุดได้ ฮะฮะ"

    "แพท! เงียบ! แล้ววิ่งไม่ต้องพูดมาก ย้าก! มันตามมาแล้ว"

    "เม! รถแท็กซี่ข้างหน้า เร็ว!" มีนาตะโกนเรียกในขณะที่ก็เปิดประตูแล้วเข้าไปโดยไว ฉันที่เห็นอย่างนั้นก็รีบสาวเท้าโดยใช้พลังเฮือกสุดท้ายวิ่งปรี่ตามเข้าไปเช่นกัน เสียงปิดประตูปัง รถเคลื่อนตัวออก เหล่ไปมองด้านหลังก็เห็นเด็กพวกนั้นทำท่าโหวกเหวกโวยวายแต่ไม่ได้ยินว่าด่าว่าอะไร

    เหล่ไปยังแพทอย่างหาเรื่องแต่ก็ต้องหยุดอารมณ์โกรธไว้แค่นั้นเมื่อเห็นหน้าแพทขาวซีดเอามือกุมที่อกด้านซ้าย

    "เป็นอะไรอีกล่ะ วิ่งมากจนจะอ้วกออกมาเลยเหรอไง"

    "ม...ไม่รู้ ฉันเจ็บหน้าอก หายใจไม่ออก" แพทเอามือขยุ้มอกด้านซ้ายทำหน้าบูดเบี้ยวเหมือนเจ็บหนัก

    "แพท...เป็นไรหรือเปล่า"

    "เฮ้ย ท่าทางไม่ดีว่ะเม"มีนาออกความเห็น ฉันกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอเต็มที

    "เม...ฉันเจ็บ ช่วยด้วย"

    To be continued...


    กรักๆๆๆ มาอัพอีกแล้ว ปลาน้อยยังไม่ได้ตอบเม้นเลยอ่ะ  ขอโต๊ดด้วย มีคนถามว่าเรื่องนี้กี่ตอนจบ เรื่องนี้ยาวมากจ้ะ ประมาณ 50 กว่าตอนได้ แต่มันลงได้ไม่จบอ่ะตัวเอง เรพาะตอนนึงมันยาวจะถึงประตูน้ำอยู่แล้ว เอิ๊กๆๆ อ่านไวท์วาเลนไทน์เศร้าๆมา มาอ่านอันนี้จะได้ยิ้มๆกันได้บ้างเนอะ รักทุกคนเรยยยย


    กรักๆๆๆ มาอัพอีกแล้ว ปลาน้อยยังไม่ได้ตอบเม้นเลยอ่ะ  ขอโต๊ดด้วย มีคนถามว่าเรื่องนี้กี่ตอนจบ เรื่องนี้ยาวมากจ้ะ ประมาณ 50 กว่าตอนได้ แต่มันลงได้ไม่จบอ่ะตัวเอง เรพาะตอนนึงมันยาวจะถึงประตูน้ำอยู่แล้ว เอิ๊กๆๆ อ่านไวท์วาเลนไทน์เศร้าๆมา มาอ่านอันนี้จะได้ยิ้มๆกันได้บ้างเนอะ รักทุกคนเรยยยย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×