ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    =ยุ่งนัก...เมื่อรักสลับร่าง=

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5...กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.9K
      1
      6 มี.ค. 49

    Chapter 5…

     

    หลังจากที่แพทในร่างพี่ชายฉันฝังตัวอยู่ในโรงพยาบาลมาแล้วสองอาทิตย์ก็ได้เวลาต้องกลับไปสถิตอยู่บ้านสักที ตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเป็นช่วงที่น่าปวดหัวที่สุดเพราะวันๆแพทเอาแต่ทำตัวกะล่อนปลิ้นปล้อนหลอกจับก้นนางพยาบาลโดยที่คิดว่าฉันไม่เห็น หรือบางครั้งก็แกล้งทำเป็นป่วยให้พยาบาลมาลูบๆคลำๆตัวว่ามีไข้ตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งแน่นอนฉันถลึงตาใส่แทบจะทันทีที่เห็น ไอ้เรื่องหึงน่ะฉันลืมไปแล้วล่ะเพราะชินตั้งแต่เขาอยู่ร่างเดิม แต่ที่ไม่พอใจคือเอามือพี่ชายฉันไปจับก้นนางพยาบาลนี่สิ!

    ฮ้า...ได้เปลี่ยนบรรยากาศบ้างนะเมอ้วน อยู่แต่โรงพยาบาลอุดอู้จะตายอยู่แล้ว แพทพูดขึ้นพร้อมทั้งบิดขี้เกียจไปมา ส่วนฉันก็เก็บสัมภาระข้าวของลงกระเป๋าเตรียมตัวจะกลับบ้าน

    แหม...นึกว่าชอบซะอีก เห็นดูจะมีความสุขกับผู้หญิงในชุดสีขาวเสียเหลือเกิน

    ผู้หญิงในชุดขาวดูสะอาด ก่อนจะทำเป็นมองซ้ายมองขวาถลามากอดจากด้านหลัง แต่เมอ้วนใส่สีอะไรฉันก็ชอบหมดเลย มาหอมที

    ไปกินขี้ซะไป๊!ไอ้ลิง!”

    ฉันหันมาเอาสองนิ้วที่ชูเป็นสู้ตายค่ะ เสยเข้าจมูกเป็นท่า ตายไปเถอะค่ะ!’ แทบจะทันที แพทจับจมูกตัวเองหันหน้าหนีรองครวญคราง

    ทำไมเธอชอบทำฉันเจ็บอยู่เรื่อย ฉันไปทำกับสาวคนอื่นก็ได้

    เชิญ

    อย่าท้านะฉันทำจริง

    อืม

    อย่าท้านะ!”

    อื้ม

    ท้าหน่อยสิฉันงอนอยู่นะ

    รำคาญ! ช่วยฉันเก็บของได้ไหมเนี่ย

    งับ

    แพทขานรับด้วยท่างทางจ๋อยสนิทพร้อมทั้งทำท่าจ๋องๆถ้ามีหูก็คงจะลู่ลงเหมือนหมาหงอย ฉันถอยออกมาปล่อยให้แพทจัดการสัมภาระเอง มองไปยังแผ่นหลังกว้างนั่นแล้วยิ้มกับความน่ารักที่เหมือนลิงของเขา ยังเคยเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น

    เดินไปที่ระเบียงโรงพยาบาลแล้วมองรถไฟฟ้าที่อยู่ในระดับสายตาจะมองเห็นวิ่งผ่านไป นึกไปถึงอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมาเกี่ยวกับตัวฉันและเขา...แพท

     

    ฉันกับแพทคบกันได้ด้วยความบังเอิญหรือไงไม่แน่ใจ ตั้งแต่สมัยม.ปลายแล้ว แพทเป็นนักเรียนใหม่ เป็นผู้ชายรุ่นแรกที่โรงเรียนฉันรับหรือจะเรียกว่าเป็นรุ่นทดลองก็ได้เพราะโรงเรียนฉันเป็นหญิงล้วนมาก่อน การที่มีนักเรียนชายย้ายเข้ามาจึงเป็นที่กรี๊ดกร๊าดในบรรดาเด็กผู้หญิงอย่างเราๆ

    เม! แกเห็นนักเรียนชายที่เข้ามาใหม่ป่ะ หล่อโคตรๆเลยอ่ะ หันไปทางมีนาที่ยืนแต่งตัวอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ กำลังสำรวจผมเผ้าเรียบร้อยเตรียมจะไปออกศึกเต็มที่

    เหรอ หล่อสู้พี่ชายฉันได้ไหม

    แกก็นะ มองเห็นแต่ความหล่อของพี่ชายตัวเองนั่นแหละ

    อ๊ะแน่นอน พี่ชายฉันเป็นบุรุษผู้งามเลิศเพียบพร้อม เรียนเก่ง รูปหล่อดูดีเหมือนน้องสาว โฮะๆ และเป็นคนที่ดูเหมือนผู้ใหญ่ตลอดเวลา คนจะเป็นแฟนฉันได้มันต้องแบบนี้เว้ยบอกพร้อมทั้งยืนเท้าสะเอวแล้วทำท่าหัวเราะแบบตัวอิจฉาในหนังจีนหน้ากระจกอีกรอบเหมือนนังบ้า มีนามองฉันอย่างเซ็งๆ

    ปฏิเสธไปเถอะ อะไรที่อยากได้มักจะไม่ได้หรอก อะไรที่ไม่อยากได้มักจะได้ มันเป็นธรรมดาโลก

    หมายความว่าไง

    ก็หมายความว่า แกชอบอะไรก็จะไม่ได้อย่างนั้นไง ไม่เชื่อแกรอดูแล้วกัน

    ฉันทำหน้าเบ้ไม่เชื่อในทฤษฎีเพื่อนสักเท่าไหร่ แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ เดินก้มหน้าก้มตาไม่มองทางชนปั่กเข้ากับหลังเพื่อนจนเซถอยหลัง

    หยุดทำไมฟะ!”

    ผู้ชาย... มีนาพูดเหมือนผู้หญิงหิวโหย กระสือหิวส้วมอะไรทำนองนั้น ขว้างค้อนไปทางมันอย่างอารมณ์เสียนิดหน่อยก่อนจะมองไปยังเป้าหมายที่ทำให้ฉันหัวทิ่มใส่หลังเพื่อน

    หนึ่งในกลุ่มนั้นคนที่สะดุดตาฉันมีเพียงคนเดียว ผู้ชายผมตั้งๆ จมูกโด่งหน้ารูปไข่ ดูใสไร้สิวเสี้ยน มีเขี้ยวเล็กๆประดับที่มุมปากที่บางเป็นกระจับสีชมพู  ยิ้มที่ร่าเริงสดใสนั่นเหมือนสะกดให้คนทั่วๆไปหยุดมองกัน และนั่นรวมไปถึงยัยมีนาด้วย

    เป็นหญิงนะเว้ย อย่ามองผู้ชายด้วยสายตาแบบนั้นมันไม่ดี

    ไม่เป็นไรสมัยนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน ฉันยอมพลีกายถวายชีพเพื่อผู้ชาย ~ ~”

    พอเถอะ ก็อยู่ดูผู้ชายต่อไปนะ บาย ผละจะเดินจากไปแต่ก็ถูกมีนาคว้าแขนไว้ อย่าเพิ่งไป หนึ่งในนั้นมองมาทางเรา

    เลิ่กคิ้วอย่างแปลกใจหันไปมองตามที่เพื่อนบอกก็เห็นว่าหนึ่งในนั้นมองมาทางเราจริงๆและแน่นอนคนที่มองมาคือคนที่ฉันบรรยายไว้แต่แรก คนที่เด่นสะดุดตาฉันที่สุดในนั้น เหมือนเวลาหยุดนิ่งอยู่กับที่ เพราะอยู่ไกลกันไม่เท่าไหร่จึงมองเห็นได้ว่าเขาจ้องตามาที่ฉันและฉันเองก็จ้องตาเขากลับเหมือนกัน ไม่ต้องมีคำพูดใดๆหัวใจก็เต้นถี่เร็วอย่างประหลาด และฝ่ายแพ้ก็คือฉันเองที่เลือกจะหลบสายตาไปเพราะทำอะไรไม่ถูก

    ไปดีกว่า

    ไปไหน

    ห้องพยาบาล

    อ้าวเป็นไรอ่ะเม มีนาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

    เป็นไข้มั้ง หน้าร้อนๆ

     

    หลังจากนั้นก็ไม่รู้อะไรที่นำพาฉันกับแพทมาเจอกันบ่อยๆ แต่ฉันก็มักจะทำท่าเป็นไม่สนใจ ก็แค่ทำเป็นไม่สนใจน่ะนะ แต่พอรู้สึกว่าเขาหันไปทางอื่นหรือไม่ได้อยู่ในระดับสายตาที่เขาจะมองเห็นฉันได้แล้วฉันจะเป็นฝ่ายที่มองเขาเองโดยไม่ละสายตาไปไหน ได้รู้จักเขาในมุมมองของฉัน สายตาของฉัน ส่วนเรื่องราวของเขาจะได้รับการถ่ายทอดจากมีนาเป็นระยะๆ ไม่รู้ไปเป็นนักข่าวCNN ตั้งแต่เมื่อไหร่นับถือจริงๆ

    ชื่อ แพท สูง 176 อายุ 16 อีกสองเดือนจะ 17 เลือดกรุ๊ปเอ ร่าเริงสดใสตลอดเวลา งานอดิเรกคือ เต้นเบรกแด๊นซ์ เป็นเด็กบีบอย

    เบรกแด๊นส์ แปลกใจนิดหน่อยกับคำบอกเล่า มีนากระแอมเบาๆอย่างมีมาด

    ใช่ เต้นได้ทุกท่าเลยนะ ตั้งแต่ตีลังกา ควงสว่าน บลาๆ ฉันก็ไม่รู้จักหรอกว่าเขาเต้นอะไรได้ แต่รู้แค่ว่าเขาเต้นโคตรเก่ง

    อือฮึ เหรอแล้วไง ทำเป็นไม่สนใจแม้จะสนใจใจจะขาด ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร

    ผู้หญิงที่ชอบ ชอบคนที่สามารถบังคับตัวเองไม่ให้นอกลู่นอกทางได้

    เอ๋? หมายความว่าไง

    ก็แบบสามารถควบคุมเขาได้น่ะ ไม่ใช่หงอเขาเพราะว่าเขาน่ะนะ... มีนาเว้นช่วงเพื่อเรียกความสนใจและฉันก็สนใจจริงๆ

    หือ?

    เจ้าชู้ยักษ์เลย

     

    กิติศัพท์ของแพทเป็นอะไรที่ฉันขยาด สิ่งที่เกลียดที่สุดคือผู้ชายเจ้าชู้ ที่ไม่ชอบเพราะฉันถือว่าคนที่จะคบกับเราแล้วต้องให้เกียรติเราไม่ใช่เที่ยวไปสอดส่ายสายตามองหาผู้หญิงคนอื่นแล้วอ้างว่าได้ความรักไม่พอ อืม...มันจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ชอบใจในตัวผู้ชายคนนี้มั้ง

    เหตุการณ์หลายต่อหลายอย่างเกิดขึ้นอย่างน่าแปลกใจ ระยะหลังๆเหมือนแพทจะตามมาหลอกมาหลอนฉันเรื่อยไป ขึ้นรถเมล์กลับบ้านก็บังเอิญเจอ ไปดูหนังก็ได้ที่นั่งใกล้กัน หรือแม้กระทั่งเรียนพิเศษก็ยังเรียนที่เดียวกันอีก ฉันมักจะไม่เป็นตัวของตัวเองเสมอเวลาที่เจอกับเขา ความจริงก็ตื่นเต้นที่เจอนะอยากจะยิ้มทักทายเหมือนกันแต่ตัวปากไม่ตรงกับใจมันทำงานพร้อมกัน พอเห็นหน้าเขาก็ย่นคิวกดต่ำลงแทบจะแยกเขี้ยวขย้ำคอเขาเลยในทุกครั้งที่เจอ จนวันหนึ่งเขาเดินเข้ามาหานั่นแหละ เรื่องราวของฉันกับแพทก็เกิดขึ้น

    ฉันแปลกใจว่าทำไมเธอไม่ชอบฉัน

    ฉันกระพริบตาปริบๆมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ ใจเต้นโครมครามที่เห็นว่าเป็นเขา...แพท ไม่เคยคุยกันมาก่อนเลย อยู่ดีๆวันนี้ก็เดินดุ่มเข้ามายังโรงอาหาร มีผู้หญิงมากมายมองมาทางเราอย่างสนใจ

    พูดเรื่องอะไร หลบสายตาทำเป็นไม่สนใจตักเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างใจเย็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    เรื่องของเรา

    ฉันหยุดตะเกียบในมือค่อยๆเงยหน้ามองตัวเขาอย่างช้าๆ แสยะยิ้มออกมา (คือฉันน่ะทั้งดีใจและตกใจเลยยิ้มเครียดๆ) แต่แพทกลับทำหน้าฉงนสงสัย

    ทำไมยิ้มแบบนั้น เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ฉันจีบยากสุดเลย

    จีบ?

    เมื่อไหร่วะ? ตั้งคำถามกับตัวเองว่า...ทำไมเขาจีบแล้วเราไม่รู้เรื่องเลยแต่คิดไปคิดมาคงฟังผิดหรือความหมายอาจจะไม่ใช่เกี้ยวพาราสี บางทีอาจจะเป็นท่าหนึ่งในวิชานาฏศิลป์(คิดไปโน่น)

    ใช่! ก็ฉันสนใจเธอ พยายามส่งยิ้มให้ พยายามส่งสายตาให้ ลงทุนขึ้นรถเมล์คันเดียวกับเธอ เรียนที่เดียวกับเธอ แต่เธอไม่สนใจฉันเลย

    อ๋อเหรอ...

    อ๋อเหรออะไรล่ะ! ฉันชอบเธอนะแล้วนี่ทำไมต้องเย็นชากับฉันอย่างนี้ ไม่เคยมีหน้าไหนทำให้ฉันเสียเกียรติเท่ากับที่เธอทำมาก่อนเลย

    เสียงเริ่มดังขึ้น อารมณ์หงุดหงิดแทรกขึ้นมากลางใจแทนอารมณ์ดีใจที่เขาบอกว่าสนใจฉัน

    อย่าเสียงดัง

    อย่ามาสั่งฉันนะ!”

    นี่! แล้วทำไมต้องตวาดด้วยล่ะฟะ ชอบก็ชอบสิพูดให้มันดีกว่านี้หน่อยได้ไหม! แล้วคิดว่าทำแบบนี้จะมีใครสนใจนายอย่างนั้นเหรอ ใช่! ที่นี่เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์อาจจะชอบนายเยอะ แต่ฉันเป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่เกลียดนายเข้าใจไหม!”

    พร้อมทั้งขว้างตะเกียบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ตัวแพทเองกระพริบตาปริบๆมองฉันที่ตวาดแว้ดๆใส่ ฉันที่เห็นอย่างนั้นยิ่งรู้สึกได้ใจ

    ไอ้ลิง

    ทิ้งท้ายสวยงามโดยที่ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าพูดออกไปได้ไง ทุกคนในที่นี้อ้าปากค้างกับคำว่า ไอ้ลิง ของฉัน มองไปรอบๆบรรยากาศเงียบเชียบเหมือนไม่มีคนอาศัยในประเทศกำลังพัฒนาเช่นประเทศไทยนี้อีกแล้ว หัวเราะหึหึในลำคออีกเล็กน้อยแล้วผละจากโรงอาหารไป แต่ก็ไม่วายถูกแพทวิ่งมาดักหน้าอยู่ดี

    อะไรอีกล่ะ

    แล้ว...แล้วทำยังไงเธอถึงจะชอบฉันล่ะ

    ....เป็นอย่างพี่ชายฉันสิ รับรองฉันจะรักนายถวายหัวเลย แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดออกไปจ้องหน้าแพทแล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูจากสภาพแล้ว เจ้าชู้ก็ที่หนึ่ง ขี้โวยวายก็ที่หนึ่งอย่างนี้...ท่าทางจะไม่ไหวนะ ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยๆ บอกตรงๆฉันประทับใจผู้ชายตรงหน้านี้จริงๆแต่ฉันรับอะไรหลายๆอย่างในตัวเขาไม่ค่อยได้

    นายทำไม่ได้หรอก ช่างเถอะ

    บอกมาสิ ขอแค่บอกแล้วฉันจะบอกเองว่าได้หรือไม่ได้

    นี่ขู่ฉันเหรอไง!”

    เปล่างับ เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาทำท่าจ๋องๆแล้วทำหน้าคล้ายจะเบะออกมา อย่าทำให้ฉันกลัวเธอสิ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าต้องทำยังไง

    ฉันอยากจะหัวเราะจริงๆให้ดิ้นตาย เมื่อกี๊นี้ยังตะโกนใส่หน้าฉันอยู่แหมบๆนี่เปลี่ยนเป็นเด็กขี้กลัวไปแล้วเหรอเนี่ย หรี่ตามองคนตรงหน้าเล็กน้อยแล้วกอดอกอย่างลำพองใจ ตั้งโจทย์อะไรบางอย่างในหัวออกมา แล้วหัวเราะหึๆในลำคอ

    เอางี้สิ ถ้านายสามารถเดินมาหาฉันพร้อมทั้งดอกไม้สีแดงฉันจะรับนายไปพิจารณาก็ได้

    หา! จริงรึเปล่า ได้เลยโหง่ายๆ รู้งี้น่าจะถามเธอแต่แรก แพทตบมือดังเพียะอย่างได้ใจ ฉันมองการกระทำนั่นอย่างหมั่นไส้นิดหน่อย

    แต่ต้องเดินมาหาฉันโดยไม่ใช้เท้านะ ไม่ใช้พาหนะเช่นจักรยาน เสก็ตบอร์ด โรลเลอร์เบรด ให้เพื่อนเอามาให้ก็ไม่ได้ นายต้องเอามาให้เอง หรืออะไรที่ต้องใช้เท้าน่ะ ถ้าทำได้จะยอมคบ

    จบบริบูรณ์กับเงื่อนไข แพทกระพริบตาปริบๆแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากสังเกตจากลูกกระเดือกที่นานจะกระเพื่อมที หึหึ ถ้ามาหาฉันดีๆแต่แรกอาจจะตอบตกลงไปแล้ว ดันมาตวาดคนขี้รำคาญอย่างฉันซะด้วยนะ

    ถ้าทำได้ แล้วค่อยมาเจอกัน

     

    เงื่อนไขนี้ฉันแน่ใจว่าเขาทำไม่ได้หรอก ฉันลืมมันไปเลยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทั้งๆที่เรื่องแบบนี้ฉันควรจะจำเอาไว้เพราะก็ยอมรับว่าประทับใจในตัวแพทเองอยู่ไม่น้อย หรือเพราะไม่ใส่ใจกับคำท้ามั้งเลยพาลจะลืมไป คิดเข้าข้างตัวเองเอาว่าเดี๋ยวเขาก็คงหาวิธีเข้าหาฉันใหม่ได้เองแหละถ้าเขาชอบจริงๆ

    แล้ววันหนึ่งในตอนเช้าจะเข้าแถว จังหวะที่กำลังเม้าส์กับเพื่อนอย่างเมามันก็ถูกมีนาสะกิด...ไม่สิ ทุบเลยล่ะ เพราะฉันร้องอั่กๆด้วยความเจ็บจากแรงทุบ

    ทุบทำไมฟะ มันเจ็บนะ!” แหวใส่เพื่อนอย่างอารมณ์เสียทุบมาได้ไม่รู้ว่ามือคนหรือมือควาย

    เมเว้ย ดูนั่นดิดูๆ

    อะไร...เอ๋?

    คนค่อยๆแหวกออกมาพร้อมด้วยร่างคนที่เดินแปลก หัวที่ควรจะอยู่ด้านบนมันลงมาด้านล่าง ขาที่ควรจะอยู่ด้านล่างมันไปอยู่ด้านบน แพทเดินมาพร้อมด้วยมือทั้งสองข้างปากคาบดอกไม้เข้ามาหา ฉันยืนกระพริบตาปริบๆอย่างตกใจกับสิ่งที่เห็น

    รับดอกไม้สิเม เขาเอามาให้

    หา?

    เออสิเร็วๆ

    เพราะเพื่อนเร่งหรือตกใจเกินเหตุเดินเข้าไปหาแล้วหยิบดอกไม้ออกจากปากของแพท พอทำท่าจะลุกขึ้นเขาก็ขยับปากช้าๆ

    ฉันจะพูดกับเธออย่างรวดเร็วก่อนจะทรงตัวไม่ได้

    ...

    ชอบนะ คบกันเถอะ

    ...

    คบกันเถอะ

    ...

    นะครับ

    ค่ะเขินจนตอบอะไรไม่คิดออกมา รู้ตัวอีกทีก็เห็นคนตรงหน้ายิ้มแป้นแล้ว เสมองไปทางอื่นก็เห็นคนรอบๆเอาแต่อมยิ้มเป็นบ้าเป็นบอ

    ลงได้ยังงับ เลือดลงหัวเวียนหัวไปหมดแล้วงับ

    ฉันหัวเราะกับสิ่งที่เขาขอแล้วพยักหน้าว่าได้แล้ว แพทกลับมาอยู่ในสภาพเดิมเหมือนมนุษย์ทั่วไปที่ขาแตะพื้นและหัวก็อยู่ที่เดิมที่ควรอยู่ ใบหน้าแดกเถือกแยกไม่ออกว่าอายหรือเพราะเลือดลงหัว

    เธอทำฉันป่วยเลยนะเนี่ย ตัวแสบ

     

    เป็นครั้งแรกที่ได้ออกเดท...เรานัดกันในวันที่ตกลงคบกันนั่นแหละ นั่งกันอยู่ในร้านไอศกรีมต่างคนต่างไม่พูดไม่จา ฉันไม่ได้ยิ้มและไม่ได้ทำท่าเขินอายอย่างที่เข้าใจทำท่าขรึมๆเงียบๆไม่พูดไม่จามากกว่าแม้ในใจจะตื่นเต้นอยากจะกรี๊ดกรีดร้องจะแย่อยู่แล้ว ผิดกับแพทที่ทำท่าจ๋องเอาช้อนจิ้มไอติมจนมันไม่เป็นรูปร่างที่ควรเป็น

    เธอเป็นคนดุ

    หือ? ฉันเหรอ

    งืม...เธอทำฉันกลัว แพทตอบพร้อมทั้งเอานิ้วชี้เกาแก้มตัวเอง แต่ฉันชอบเธอเพราะเธอน่ารักดี

    อ๋อ...เหตุผลแค่นี้เองที่ทำให้ฉันชอบฉันด้วยการลงทุนเดินหกสูงมาหา อืมๆ ยังคงทำหน้าเฉยเมยใส่มองคนตรงหน้าที่หลบสายตาไป

    ฉันชอบเธอเพราะเธอดุ...ดูเหมือนแม่ดี

    และไม่ช้าใบหน้าก็ร้อนฉ่าอย่างไม่ตั้งใจ จากที่เคร่งขรึมเมื่อกี๊เริ่มอาการตาลีตาเหลือก บ้าเอ๊ย!

    อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับแม่

    ทำไมเหรอ

    อย่าก็แล้วกัน ไม่เข้าใจเหรอไง!”

    งับ

    เพราะเหมือนแม่ในที่นี้มันหมายถึงศรีภรรยาในอนาคตน่ะ แม่เคยบอกกับฉันว่าอย่างนั้น...แล้วให้เป็นศรีภรรยาอีตานี่ในอนาคตน่ะเหรอ คิดไม่ออก... แล้วจะรีบคิดไหนน่ะฉัน =_=

    เมกินเยอะๆไม่กลัวอ้วนเหรอ

    เป็นคนที่กินอะไรแล้วไม่ค่อยอ้วนน่ะ เป็นข้อดีอย่างหนึ่งของฉันที่ผู้หญิงหลายคนมักอิจฉา

    ว้า...ฉันชอบผู้หญิงอ้วน

    งั้นก็แยกทางกันเลยก็ได้นะ แอบเขม่นเล็กน้อยเมื่อเขาบอกว่าชอบผู้หญิงอ้วน โทษทีที่เกิดมาผอมนะยะ! ก็ฉันมันนางแบบ เฮอะ (ฝัน)

    ใจร้าย! ไม่แยกกับเธอหรอกฉันจะร้าก ~ก เธอตลอดไป ฮิฮิ และฉันจะขุนเธอให้อ้วนเป็นหมูเลย เอางี้ดีกว่าฉันจะไซโคเธอให้เธออ้วนให้ได้ ฉันจะเรียกเธอว่าเมอ้วน อ้วนเหมือนหมูจะได้กลิ้งไปมาน่าฟัดน่ากอด เขาพูดพร้อมทั้งทำจมูกย่นๆเหมือนกับหมั่นเขี้ยวฉันเสียเต็มประดา

    จะบ้าเหรอไง มาเรียกอะไรอ้วนๆเสียมารยาท

    ไม่รู้ล่ะฉันเรียกแล้ว เมอ้วนๆ

    ก็ดี งั้นฉันจะเรียกนายว่าไอ้ลิง

    ไรอ่ะ เธอเป็นหมูทำไมให้ฉันเป็นลิง เขาทำปากจู๋อย่างไม่เข้าใจก่อนจะถอนหายใจยาวๆ ไม่เป็นไร ลิงจะเลี้ยงหมูเอง ลิงรักหมูจังเลย

    ขนลุก! ไม่ต้องมาอย่างนั้นนะ ชิ่วๆ ไปเลยนะ ชิ่วๆ

    ไล่ก็ไม่ไปหรอกเบบี๋ ก็หลงรักเธอแล้วนี่ ฮิฮิ

     

    มองรถไฟฟ้าวิ่งผ่านไปคันแล้วคันเล่า สายลมที่พัดจากที่สูงทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงตอนนี้ก็สามปีแล้วที่เราคบกัน จนเข้ามหาวิทยาลัยกันคนละที่นั่นแหละ แต่เราก็ยังเหมือนเดิม ทุกอย่างยังคงดำเนินไปอย่างปกติเหมือนเรียนอยู่ที่เดียวกัน คุยโทรศัพท์ นัดเจอวันหยุด ไปดูหนัง ไปฟังเพลง ดูคอนเสิร์ต ดูเขาเต้นเบรกแด๊นซ์ที่ชอบ จนกระทั่งตอนนี้ที่เขาเข้ามาอยู่ในร่างพี่ชายฉันและร่างกายตัวเองก็นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลอีกที่หนึ่ง

    เหม่ออะไรอยู่เหรอ

    แพททำท่าประหนึ่งน้องหมาที่เอาขาหน้ามาเกาะไหล่ฉัน จินตนาการดีๆเหมือนกำลังทำลิ้นห้อยแล้วส่งเสียงแฮ่กๆอยากได้กระดูก หันไปหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะขมวดคิ้ว

    จัดเสร็จแล้วเหรอลิงน้อย

    เสร็จแย้ว เหม่ออะไรอยู่

    คิดถึงเรื่องเก่าๆ

    เอ๋?

    ช่างเถอะ กลับบ้านแล้วกัน หลังจากวันนี้เรามีอะไรต้องทำอีกเยอะแยะ

    อืมครับผม แฟนผู้เป็นที่รัก

    บอกแล้วไงอย่าพูดอย่างนี้ด้วยปากพี่ชายฉัน!!” พร้อมทั้งใช้สองมือตีขนาบหน้าเป็นแซนวิสใส่เขาเสียงดังเปรี๊ยะ แพทได้แต่ร้องครวญครางด้วยความเจ็บแล้วก็ทำปากขมุบขมิบนินทาฉัน

    นินทาอะไร ฉันรู้นะ!”

    แพททำหน้าจ๋อยๆพูดเหมือนเด็กกำลังทำเป็นอธิบายความผิดให้พ่อแม่ฟัง

    ไม่ได้นินทา บอกว่าเมอ้วนน่ารักที่สุดเลย


    To be continue...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×