คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3...สัมฤทธิ์ผล(ประหลาดๆ)
Chapter 3
เสียงตะโกนดังลั่นทำให้คนแห่กันเข้ามาในห้องกันอีกรอบ แม่ฉันที่เห็นพี่ชายลูบหน้าลูบตาตัวเองคล้ายตุ๊ดเวลาส่องกระจกแล้วยิ่งทำท่าจะเป็นลมจับไข้
"ลูกฉัน...หัวใจวาย ล้มตึง ตื่นขึ้นมาพูดจาแปลกๆแล้วยังกลายสภาพเป็นนกหงหยก...รับไม่ได้" แม่พูดอย่างหมดแรง ในที่นี้คงมีแต่ฉันที่ยืนอึ้งกับสิ่งที่พี่หมูอ้วนกำลังทำ
ความรู้สึกก็บอกว่ามันแปลกไป...
แต่มันแปลกเกินไปหรือเปล่า การพูดจา ลักษณะการมอง เรื่องที่รู้กันเพียงสองคน...
ตลกน่า!!
"เมอ้วน! ทำไมหน้าฉันกลายเป็นแบบนี้ แล้วใบหน้าที่หล่อเหลาจนสาวหลงมันหายไปไหน!"
"โมก็หล่ออยู่แล้วนี่นา" แม่พูดชมเปาะ แล้วก็มีเสียงยืนยันคำของแม่อีกสองสามเสียง ซึ่งแน่นอนนั่นคือเสียงของพ่อและพี่อะตอมนั่นเอง
"แต่ตอนแรกไม่ได้หน้าตาเป็นแบบนี้ หน้าฉันเหมือนแบรทพิด ผสมลีโอนาโด้ แถมออกเสี้ยวๆติ๊กเจษฎาพรอีก แล้วนี่มันอะไรน่ะ! ทำไมหน้าฉันจืดโคตร! อะไรขนาดนี้"
ฉันแอบอารมณ์เสียนิดหน่อย จืดโคตรงั้นเหรอ ยังไงนั่นก็มีโครโมโซมและยีนส์ที่สืบทอดทางพันธุกรรมคล้ายๆกับของฉันนะยะ พี่น้องมันย่อมเหมือนกันและฉันแน่ใจว่าฉันไม่ได้น่าเกลียด! แน่นอนพี่ชายฉันต้องดูดีเหมือนฉันสิ แล้วนั่นทำไมอยู่ดีๆถึงด่าหน้าตาตัวเอง...ใช่พี่ชายฉันด่าหน้าตาตัวเอง ไม่ใช่คนอื่นด่า...ไม่ใช่
ตายังคงจับจ้องไปยังเตียงพยาบาลที่มีพี่ชายฉันกำลังส่องกระจกอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนคนหลงรูปโฉมคล้ายนาซีซัส ใบหน้ารูปไข่กับผิวขาวแลดูสะอาดสะอ้านกำลังถูกลูบคลำด้วยมือหนา ดวงตาสีดำขลับรับกับจมูกโด่งสันเป็นคม ผมที่เคยตัดทรงสุภาพตอนนี้มีส่วนที่ยาวออกมาสักหน่อยทำให้ดูเท่ไปอีกแบบ แต่ไอ้ลักษณะท่าทางหน้าตาเหมือนคนเห็นผีตอนนี้ไม่ได้เข้ากับบุคลิกอันดูขรึมสนิทอย่างที่เคยเป็นเลย
มันช่างเหมือน...
"เมอ้วน ฉันไม่ยอมนะ! ฉันอยากกลับไปหล่อเหมือนเดิม!"
เดินหลบออกมาจากห้องปล่อยให้คนอื่นจัดการกันเองภายในห้องต่อไป ไม่ขอรับรู้อะไรดีกว่า ใจเต้นตึกตักด้วยอารมณ์ความรู้สึกแบบไหนไม่แน่ใจ เหมือนจะเชื่อแต่ก็ไม่เชื่อ แล้วนี่ฉันกำลังเจอกับอะไรอยู่...
สะบัดหัวพรื่ดแล้วระบายลมหายใจออกมาเบาๆ
ฉันคงเพี้ยนไปแล้วจริง
ทุกคนเดินออกมาจากห้อง ยืนคุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อยฉันไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่ได้ยินแต่เสียงจุ๊บจิ๊บๆไม่ได้ศัพท์เพราะมีหลายคนเหลือเกินคล้ายว่าจะแย่งกันพูด มีเพียงพ่อเท่านั้นที่เดินเข้ามาหา
"โมเรียกน่ะน้องเม"
"เหรอคะ? ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
พยักหน้าบอกกับพ่อให้รับรู้ว่าทราบในข่าวสารแล้วเดินเข้าไปข้างในเจอพี่โมอีกครั้ง พี่โมที่ยังวุ่นวายอยู่กับกระจกทันทีที่เห็นฉันก็ร้อง...
"อ๊าก! เมอ้วนที่รัก บอกกับฉันทีนี่มันเกิดอะไร"
"อะไรมาที่รัก?"
"ทำไมหน้าฉันกลายเป็นแบบนี้ แล้วคนพวกนั้นทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันด้วยฉันไม่รู้จักเขาสักคนเลยนะ!"
"..."
"เงียบทำไมเล่า ฉันไม่เข้าใจอะไรเลยนะ แล้วฉันโดนรถชนทำไมแม่กับพี่พายไม่มาเยี่ยม นี่มันผิดปกติมากไปแล้วนะ หรือว่าฉันฝัน! ก็ไม่นะ...โอ๊ยเจ็บ" พี่โมร้องเอะอะโวยวายอยู่คนเดียวแล้วก็เอามือดึงแก้มตัวเองพิสูจน์ว่าไม่ได้ฝันไป
ฉันใจเต้นระส่ำไม่อยากจะเชื่อ ไม่สิ มันยากที่จะเชื่อ...มันยากเกินไป มันจะเป็นไปได้ไงนี่มันไม่ใช่ละครหลังข่าวนะว้อย!!
"พี่พูดอะไรเมไม่เห็นเข้าใจเลย"
"ก็พูดว่าฉันไม่ใช่ฉันไงเล่า!"
"ทำไมต้องตวาดละฟะ!"
"ขอโทษงับ"
แอบสะดุ้งอีกครั้งแล้วก้าวถอยหลังเหมือนยืนไม่คงที่ คนที่มีปฏิกิริยาต่อการตะโกนด่าของฉันมีอยู่คนเดียว และแน่นอนพี่ชายฉันไม่เป็นแบบนี้แน่ สับสนไปหมดแล้ว...
พี่โมเอานิ้วมือจิ้มกันเองไปมาอย่างหงอยๆ "ก็มันตกใจนี่นา เมอ้วนง่ะ ฉันอยู่ในร่างใครก็ไม่รู้"
"พี่ก็อยู่ในร่างพี่นั่นแหละ"
"ฉันไม่ใช่พี่อะไรของเมอ้วนทั้งนั้นนะ ฉันเป็นแฟนเมอ้วน!" เขาเงยหน้าขึ้นจ้องสบตากับฉัน "เรารักกันจะตาย ฉันยังเคยจุ๊บเมอ้วนเลยจะเป็นพี่ไปได้ไง"
ทันทีที่จบประโยคฉันถลึงตาไปยังร่างพี่ชายฉันในทันทีก่อนจะถลาไปกระชากคอเสื้อแล้วทำหน้าเหี้ยมเกรียมผิดมนุษย์
"ไอ้บ้า อยากตายมากเลยใช่ไหมเนี่ย" หน้าร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ เรื่องแบบนี้พูดออกมาด้วยปากได้ไงกัน! แต่พี่โมได้แต่ทำสายตาวิ้งๆเหมือนอ้อนๆใช้มือที่มีทั้งสองข้างรวบมือฉันไว้
"ช่วยด้วยนะเมอ้วน ฉันทำอะไรไม่ถูกแล้ว"
"อย่ามาบ้านะ!" ฉันสะบัดมือที่ถูกเกาะกุมออกด้วยความตกใจ พี่ชายฉันในตอนนี้ที่เห็นฉันทำท่าตกใจขนาดนั้นก็นิ่งไปหลายอึดใจเหมือนกัน
"..."
"พี่คงจะเป็นลมไปนานสมองเลยเบลอๆแปลกๆ ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ก็หาย"
"หายบ้าอะไร เธอก็เห็นอยู่ว่าฉันมาอยู่ในร่างผู้ชายหน้าจืดชืดอย่างนี้ ได้ไงกัน! ฉันไม่ยอมนะ ต้องไปวัด!" พี่โมกระชากสายระโยงรยางค์ในตัวออกก่อนจะทำท่าลุกออกจากเตียงไป แต่ฉันคว้าแขนเอาไว้
"ไปทำบ้าอะไรวัด"
"ไปให้พระปัดรังควานออก ฉันเชื่อว่ามันต้องมีอะไรผิดปกติ ฉันควรจะกลับไปอยู่ในร่างกายของฉันสิ ร่างกายที่หล่อคล้ายติ๊กเจษฎาพร!"
"..."
"มันเป็นบ้าอะไรกันนักหนา วิ่งข้ามถนนมาหาเธอแล้วก็ได้ยินเสียงดังเอี๊ยดแล้วก็ลืมไปว่าเกิดอะไรขึ้น อ้อ! ฉันยังแฮปปี้เบิร์ดเดย์ให้เธออยู่เลย ตื่นขึ้นมาก็อยู่แต่ในห้องที่มีแต่กลิ่นยากับสายบ้าบอคอแตกอะไรนี่อีก! มีอะไรจะผิดปกติไปกว่านี้อีกไหมล่ะบอกมาซิ!!"
หลังจากที่ไม่แน่ใจมานาน ไอ้คำพูดว่าติ๊ก เจษฎาพร หรือว่าชมความหล่อเหลาของตนเองเนี่ย มันมีอยู่คนเดียวในโลกาที่หน้าด้านอย่างนี้ แถมยังเรื่องรถชนกับแฮปปี้เบิร์ดเดย์ฉันอีก
"แพท..."
"ฉันต้องไปวัด!!...เอ๊ะ อะไรนะ" เขาที่โวยวายอยู่หันหน้ามาทางฉันอย่างแปลกใจที่เรียกชื่อ ก่อนจะฉีกยิ้มพร้อมด้วยดวงตาที่มีประกายวาววับ "ใช่เลยเมอ้วน ฉันไงแพทสามีเธอ"
"แกอยากตายมากเลยใช่ไหม! ไอ้ทะลึ่ง ไอ้..." พูดไม่ทันจบแพททำท่าเหมือนหมดแรงล้มไปที่พื้นแล้วกอดเข่าเอาหน้าแนบกับขาฉันเหมือนนางทาสร้องขอชีวิต "เมอ้วนที่รัก ต้องช่วยฉันนะ"
"ธ...โธ่เว้ย นี่มันบ้าอะไรเนี่ย!"
"บ้ารักเธอไงเบบี๋"
นั่งจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ใคร และที่ไม่แพ้ใครก็เพราะว่า ฉันยังคงไม่เชื่อ ไม่สิ มันเริ่มเชื่อแล้วล่ะ ต้องใช้คำว่าไม่อยากจะเชื่อมากกว่า มันเป็นไปได้เหรอ สลับร่าง! โคตรการ์ตูนตอนเช้าเลย
"มันต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้ฉันมาอยู่ในร่างพี่ชายเธอแบบนี้"
พี่โม...ไม่สิ แพทออกความเห็นพลางตบมือดังเพียะตามนิสัยที่เคยเป็นในร่างเก่า ตัวเขาชินแต่ฉันไม่ชินว้อย พี่ชายผู้แสนจะเงียบขรึมของฉันกลายเป็นไอ้ห่ามไปแล้ว
"สารภาพตามตรงนะ ยังไม่อยากจะเชื่อเลยน่ะ"
"อะไรกัน พูดมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่ออีกเหรอ"
"มันเชื่อยาก!"
ไม่ใช่ยากธรรมดาด้วยแต่ยากมหาศาลบานตะไท งง และมืดแปดด้านไปหมด ถ้าแพทมาอยู่ในร่างพี่ชายฉันจริงๆ แล้วพี่ชายฉันล่ะ คำนวนจากสมการความน่าจะเป็นแล้ว พี่ชายฉันก็ต้องกระโดดจุ้มปุ๊กเข้าไปอยู่ในร่างของแพทสิ
เอ้อเหอไม่อยากจะคิดภาพ...
พี่ชายผู้เรียบร้อย ออกไปทางอ่อนโยนจะเข้าไปอยู่ในร่างกายของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าทำตัวเท่และประหลาดที่สุดเท่าที่เคยพบเจอคนมา ส่วนแพทแฟนผู้เจ้าชู้นิดๆขี้เล่นหน่อยๆและขี้อ้อน บุคลิกที่ผิดแผกแตกต่างออกไปจะเข้ามาในร่างผู้ชายที่แสนสุภาพอ่อนโยนอย่างพี่ชายฉัน
โอ้! มาย! ก้อด!
"ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันนั่นแหละ" แพทพูดพลางเงยหน้ามองไปที่เพดานก่อนจะนั่งไขว่ห้างกระดิกเท้ายิกๆ กอดอกทำเป็นใช้ความคิด "ฉันถึงบอกไงว่าเราต้องไปวัด ไปให้หลวงพ่อปัดรังควานวิญญาณฉันจะได้กลับไปเข้าร่างอันหล่อเหลาเหมือนเดิม"
"ฉันรู้นะว่านายใช้ความคิด แต่ได้โปรดอย่าใช้ร่างกายพี่ชายฉันกระดิกเท้ายิกๆอย่างนั้นได้ไหม มันระคายเคืองลูกตา! แล้วพี่ชายฉันมันไม่หล่อตรงไหน ถ้าฉันไม่ใช่น้องสาวเขาฉันแทบจะหลงรักเขาเลยนะจะบอกให้"
"หล่อก็ได้ เพราะเขาเป็นพี่ชายเธอหรอก แต่ฉันว่าฉันหล่อกว่า" แพทขมวดคิ้วนิดๆก่อนจะหันมามองหน้าฉันอีกครั้งด้วยประกายตาวิ้งๆ เป็นประกายวิบวับ
"อะไร มองอะไรแบบนี้ แล้วอย่ามองด้วยสายตาอย่างนี้ในร่างพี่ฉันได้ไหม"
"ฉันว่า อยู่ในร่างพี่เธอมันก็ดีนะ"
"ยังไง บอกว่าให้เลิกมองแบบนั้นไงเล่า!" ฉันตวาดแหวเมื่อเห็นสายตาของแพทที่มองตรงมา คือ...ถ้ามันเป็นเขาน่ะฉันคงจะชินหรือไม่ก็คงจะทำเป็นอายและตีไปสักที แต่นี่มันร่างพี่ชายฉันเลยนะเฟ้ย มันอุบาทว์!
"มันดีตรงที่...ฉันจะได้อยู่บ้านเดียวกับเธอ"
"..."
"ได้อยู่ใกล้ชิดเธอ"
"..."
"และได้นอนห้องเดียวกับเธอด้วย"
ทันทีที่แพทพูดจบฉันคว้าหมอนที่อยู่ใกล้ๆปาใส่หน้าอย่างไม่ออมแรง
"ไอ้ทุเรศ แอนด์อะเฟร่ดและอีเดียด! นี่เหรอความคิด ทำไมไม่ตายตั้งแต่ตอนรถชนนะ ฮึ้ย!"
"ไรอ่ะ โอ๊ย! มันเจ็บนะ ฉันพูดด้วยความรักผิดเหรอไงเมอ้วน!"
"รักที่เต็มไปด้วยแรงราคะนะสิฟะ วันๆนอกจากเรื่องพวกนี้เคยคิดเรื่องอื่นไหม"
"ฉันก็เป็นของฉันอย่างนี้แต่แรกอยู่แล้วนี่ ตอนนั้นเธอเองไม่เห็นจะว่าอะไรเลย โด่!"
"ไม่คุยด้วยแล้ว! ฉันจะไปหานายที่โรงพยาบาล"
"หาฉัน?...อ๋อ ร่างฉันน่ะเหรอ ไปด้วยสิ นะๆๆ"
"นอนเป็นผีเฝ้าเตียงไปนั่นแหละ ฉันจะไปดูพี่ชายฉันที่นอนแน่นิ่งอยู่ในร่างนายดีกว่า "
ฉันทำท่ากระฟัดกระเฟียดอย่างอารมณ์เสียออกมาจากห้องทันที เสียงเรียกว่าเมอ้วนๆยังตามมาไม่หยุดหย่อน พ่อแม่ที่นั่งอยู่หน้าห้องมองมาทางฉันอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ที่เห็นฉันเดินหน้าบูดปนแดงออกมา
"แล้วจะไปไหนน่ะเม แล้วทะเลาะอะไรกับโม เสียงดังเชียว" แม่ถามขึ้น ฉันหันไปทางแม่เล็กน้อยด้วยใบหน้าที่ยังไม่สบอารมณ์เช่นเดิม
"หาแฟนค่ะ!"
"..."
"หมายถึงหาแฟนเพื่อนน่ะค่ะ เขาก็สลบไสลอยู่เหมือนกัน แหะๆ" เป็นเด็กเป็นเล็กบอกมีแฟนมันไม่ดี๊ไม่ดี ฉันเลยต้องแก้ตัวออกไป
"ทำไมไม่อยู่ดูพี่เขาล่ะ"
"พี่เขาน่าจะค่อยยังชั่วแล้วแต่ทางนั้นนี่ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง เอาเป็นว่าเดี๋ยวเมจะรีบไปรีบกลับนะคะ" ทำท่าจะวิ่งผละจากไปแต่พ่อก็เรียกฉันไว้ก่อนจะเดินเข้ามา
"โทษทีนะ เลยไม่ได้ฉลองวันเกิดให้เลย ไว้อะไรเรียบร้อยค่อยเป่าเค้กอธิษฐานแล้วกันนะ"
"ค่ะ" พยักหน้ากับพ่อเบาๆ พ่อยิ้มให้แล้วเอามือลูบหัว
"แล้วคิดไว้หรือยังว่าอยากจะขอพรว่าอะไร"
กัดริมฝีปากตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้พ่อบ้าง
"ไม่ได้คิด แต่ขอไปแล้วค่ะ" เพราะมันฉุกละหุกเกินไปจึงอธิษฐานไปอย่างรีบเร่ง
"ขออะไร"
ฉันได้แต่ยิ้มให้พ่อโดยที่ไม่ตอบอะไรแล้วรีบวิ่งออกไปในทันที สิ่งที่ฉันขอน่ะเหรอ ไม่เห็นจะเดายากเลย...
ขอให้คนที่ฉันรักไม่จากไป...ฉันขอแล้ว
วันนี้วันเดียวฉันวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลสองที่เป็นว่าเล่น ตอนแรกมาอยู่ที่โรงพยาบาลที่แพท(ร่างกาย)อยู่ แล้วก็วิ่งไปโรงพยาบาลที่พี่ชายฉันอยู่ จากนั้นก็กลับมาที่เดิมอีกครั้งหนึ่ง นี่เดี๋ยวฉันก็ต้องวิ่งกลับไปทีเดิมอีกสินะ ประสาทจะกินแล้วเจ้าข้าเอ๊ย
ตรงมายังห้องฉุกเฉินที่ได้มาในตอนแรก พี่พายยืนกอดอกพิงกำแพงพอเห็นฉันก็ทำสีหน้าดีใจเล็กน้อยก่อนจะกลับไปสลดเช่นเดิม
"วันนี้มาสองรอบเลยนะ"
"ค่ะ ทางพี่ชายเมเองก็ยุ่งๆนิดหน่อย...แล้วแพทเป็นไงบ้างคะ" ฉันถามถึงแพทแต่ใจพะวงถึงพี่ชายฉันมากกว่าว่าเขาจะรู้ตัวหรือยังว่าอยู่อีกร่างหนึ่ง พี่พายส่ายหัวเหมือนเหนื่อยเต็มที
"แพทรอด...มั้งนะ"
"มั้ง? มันหมายถึงอะไรเหรอคะ" ถามซ้ำอย่างไม่เข้าใจ ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เริ่มระส่ำระส่ายหายใจไม่ทั่วท้อง
"มีลมหายใจไปวันๆ แต่ไม่ได้ลืมตา ไม่ได้สนทนาอีก นั่นคือคำว่ามั้ง...ของพี่"
"..."
"ทำไมไม่เป็นเหมือนในนิทานนะ จุมพิตแล้วตื่นขึ้นมาเริงร่าเป็นน้องชายที่แสนกะล่อนเหมือนเดิม ไม่ใช่มานอนเป็นเจ้าชายนิทราอย่างนี้"
เจ้าชายนิทรา...นี่นอนอยู่เฉยๆไม่รู้เดือนไม่รู้ตะวัน ไม่ต่างอะไรกับคนตายแค่หายใจทิ้งไปวันๆนั่นน่ะเหรอ...
"สรุปว่า...เป็นเจ้าชายนิทราอย่างนั้นเหรอคะ"
"สมองกระทบกระเทือนหนัก คง..."
"คง?"
"คงนอนหลับใหลไปตลอดกาล"
เป็นอีกครั้งที่เดินตรงเข้าไปในห้องฉุกเฉินแต่ต่างโรงพยาบาล ต่างร่างกายที่ได้พบเจอ สภาพร่างกายของแพทดูแย่กว่าร่างกายพี่ชายฉันมาก หัวถูกพันรอบๆด้วยผ้าก๊อตสีขาว สายระโยงรยางค์แทบจะพันคอตาย มีเครื่องช่วยหายใจและอุปกรณ์อะไรมากมายที่ฉันไม่รู้จัก น้ำตาไหลเป็นทางด้วยความสงสารที่เห็นเขานอนอยู่อย่างนั้น แต่ฉันไม่รู้จะร้องให้ใครดี
ให้แพทที่ร่างกายเป็นแบบนี้
หรือให้พี่ชายผู้แสนดีที่ไม่มีวันตื่นขึ้นมาเลยในร่างของแพท...
เอื้อมมือไปลูบหน้าอย่างแผ่วเบาแล้วเรียกชื่อเหมือนพยายามจะปลุกให้ตื่น...
"พี่โม"
ใครมองก็คงว่าแปลกทั้งนั้นล่ะ คนที่นอนเป็นแพทแต่ฉันเรียกหาพี่ชายตัวเอง พี่พายที่ยืนอยู่ข้างๆเอามือสะกิดไหล่ฉันน้อยๆ
"ปกติเรียกแพทแบบนี้เหรอ น่ารักดีมีที่มาแบบไหนล่ะ" พยายามพูดให้บรรยากาศมันดูดีขึ้นแต่หน้าตาไม่เป็นไปตามคำแซวที่เอ่ย ตาที่บวมช้ำบ่งบอกถึงการร้องไห้มาอย่างหนัก ฉันยิ้มให้พี่พายอย่างให้กำลังใจแม้ตัวเองจะท้อแท้ใจก็ตามแต่
พี่ชายผู้แสนดีของฉันหัวใจวาย และฉันก็คาดคะเนเอาเองว่าจะต้องมาเข้าในร่างนี้ แต่ดูจากสภาพ เจ้าชายนิทรามันหมายถึงว่า พี่ชายฉันก็คงหลับใหลในร่างของแพทเช่นกัน
ทำไมนะ...ทำไมคนเบื้องบนแกล้งคนเบื้องล่างอย่างเราขนาดนี้
To be continue...
ปล...รีบๆอ่านนะ ลงทุกวันและจะลบเร็ว โฮะๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็น