คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 10...ศัตรูความรัก
Chapter 10
แพทมาถึงก็ลากฉันเข้ามาคุยกันในห้องสองคน ปิดประตูเสียงดังปึง พ่อกับแม่ตามขึ้นมาฟังว่าเราทะเลาะเรื่องอะไรกันแต่พวกเราทั้งคู่ก็ไม่มีใครสนใจผู้ใหญ่เลยซ้ำยังปิดประตูใส่หน้าพ่อกับแม่อีกด้วย
“เลิกโวยวายสักทีได้ไหมแพท! ฉันก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิ!”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วไปยืนคู่กับมันทำไม อ๋อ พอแมวไม่อยู่หนูก็ร่าเริงเชียวนะ”
“เขาเป็นเพื่อนคณะเดียวกับฉัน ห้องเดียวกัน ทำงานกลุ่มเดียวกัน ก็เท่านั้นเอง”
“แล้วที่นาบอกว่ามันจับมือเธอล่ะจะว่ายังไง”
“แล้วจับเพื่อมิตรภาพมันจะเป็นอะไรไป? อย่ามาทำตัวไม่รู้จักโตได้ไหมมันน่าเบื่อ”
“แล้วที่บอกว่ามันเป็นผู้ชายในฝันของเธออะไรนั่นล่ะมันหมายความว่ายังไง”
“ก็ฉันรำคาญที่นายเอาแต่ฝอยบ้าบอในรถนั่นน่ะสิ เชอะ! ทีตัวเองไปกับพี่อะตอมทั้งวันฉันยังไม่พูดเลย!”
“ก็คนที่ผลักไสให้ฉันไปน่ะมันเธอไมใช่เหรอไง ให้มันได้อย่างนี้สิ!”
แพทเดินออกไปนอกห้องพลางปิดประตูเสียงดัง ปัง! ทำเอาคนที่อยู่ในห้องอย่างฉันสะดุ้งเล็กน้อย อาการจุกที่คอเริ่มปรากฏเป็นสัญญาณเตือนว่าฉันกำลังจะร้องไห้ ฉันไม่ได้เสียใจอะไรนักหรอกนะ ฉันมันเป็นแบบนี้เองพอเถียงไม่ได้หรือรู้สึกเจ็บใจน้ำตามันจะไหลและร้องไห้ขี้แยอย่างที่เห็น
ไอ้บ้าแพท! โป้งแล้ว! แค่นี้ก็ต้องตวาดใส่ฉันด้วย!
ทิ้งตัวลงกับเตียงแล้วฟุบหน้ากับหมอนนอนร้องไห้อย่างกับนางเอกมิวสิควีดีโอ ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อยทำไมต้องมาตะคอกด้วยเล่า ทีตัวเองไปเริงร่าท้าแดดท้าฝนกับแฟนชาวบ้าน(นั่นก็คือแฟนพี่ชายฉันนั่นเอง) ฉันแค่กระชับมิตรภาพจับมือชายอื่น(ที่หล่อเหลาเอาการอยู่)แค่นี้เองทำเป็นโกรธ!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานกี่นาที เสียงเสียดสีของบานพับประตูดังเอี๊ยดอ๊าดพร้อมทั้งเสียงที่ปิดเบาๆ ร่างสูงใหญ่เดินมานั่งข้างๆเตียงฝั่งที่ฉันนอนอยู่พร้อมทั้งเอานิ้วจิ้มๆที่แขนฉันเหมือนสะกิด
“ไปไกลๆเลยไป”
“ตัวเอง...งอนเขาเหรอ”
.”...”
“เค้าขอโทษนะตัวเอง อย่างอนเค้าเลยน้า นะนะ...”
แพทในร่างพี่ชายฉันเอานิ้วสะกิดอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมทั้งทำน้ำเสียงออดอ้อนอย่างที่ชอบทำเวลาที่ฉันโกรธ ฉันยังคงงอนแล้วหันหน้าไปอีกฝั่ง
“ไม่ต้องมายุ่งฉันอยากอยู่คนเดียว”
“จะงอนเขาไปถึงไหนคนดี เค้ากลัวตัวเองจะแย่อยู่แล้วน้า...หันมามองตากันนิดนึงน้า...”
ใจอ่อนเลเวล 1...
“สัญญาว่าต่อแต่นี้เค้าจะไม่ทำอะไรให้เมอ้วนน้อยใจแล้วน้า ขอโทษจริงๆเค้าไม่ได้มีเจตนาจะให้เมอ้วนที่น่ารักของเค้าเคืองเลย”
ใจอ่อนเลเวล 2...
ค่อยๆหันหน้ากลับมามองคนที่พยายามออดอ้อนด้วยความอ่อนใจม่านน้ำตาที่ปกคลุมลูกตาทั้งสองข้างทำให้ฉันมองหน้าของแพทไม่ชัดสักเท่าไหร่ แต่พอจะมองออกว่าแพทฉีกยิ้มอย่างดีใจที่ฉันหันมาสนใจเขาบ้างแล้ว ไม่ว่าเปล่า เอานิ้วชี้กับนิ้วกลางวางไว้บนเตียงทั้งสองข้างแล้วเล่นกายกรรมนิ้วด้วยการทำให้เหมือนขาคนเดิน
“คนที่อยู่ข้างหน้าฉันคือเมอ้วนนะ ส่วนคนที่อยู่ข้างหลังก็คือฉัน”
“...”
“ไม่ว่าเมอ้วนจะวิ่งไปไกลสักแค่ไหน” แพทขยับนิ้วที่บอกว่าเป็นฉันทำท่าเป็นเดิน
“...”
“ฉันก็จะพยายามวิ่งตามให้ทันเมอ้วน” พร้อมทั้งขยับนิ้วทีบอกว่าเป็นตัวเองเดินตามฉันมา
“...”
“จะพยายามรักษาระดับไม่ให้เร็วเกินไป และไม่ให้ช้าเกินไป”
“ทำไม” เป็นคำแรกหลังจากที่งอนไปหลายนาทีที่เปล่งเสียงออกมา เพราะเริ่มรู้สึกสนุกกับนิทานนิ้วของเขาบ้างแล้ว
“เราจะได้เดินคู่กันตลอดไปไง”
เหมือนว่าความโกรธภายในใจจะมลายหายไปในทันทีเมื่อได้ยินคำที่เต็มไปด้วยความจริงใจ แม้จะดูน้ำเน่าแต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าแพทรู้สึกแบบนั้นจริงๆ มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนปากฉันบ้างแล้ว แพทที่นั่งลุ้นอยุ่ว่าฉันจะมีปฏิกิริยายังไงก็ตบมืออย่างดีใจเหมือนลิงตีฉาบ
“ฟู่ ยิ้มออกสักที”
ฉันลุกขึ้นบ้างปาดน้ำตาที่มาอังไว้อยู่นานแล้วออก ถลึงตาไปยังแพทที่ยังทำหน้าดีใจไม่เลิก
“ก็ใครกันล่ะทำให้ฉันเป็นแบบนี้ บอกว่าไม่มีอะไรๆก็ยังจะหาเรื่องมาให้ทะเลาะกันจนได้ ควรจะโทษใครล่ะ”
“ก็แหม...” แพทเอานิ้วจิ้มกันเองอย่างหงอยๆ “ก็มันหึงนี่นา ถ้ามีใครมาชุบมือเปิบเอาเธอไปจากฉันก็แย่สิ”
“ไม่ไว้ใจกันเลยสินะ”
“ถ้าฉันอยู่ร่างเดิมแน่นอนฉันแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเธอไม่ทิ้งฉันไปแน่ๆ แต่นี่ฉันอยู่ร่างพี่ชายเธอ ไม่มีกำหนดตีตั๋วกลับไปร่างเดิมซะด้วย ถ้าเกิดเธอเบื่อฉันแล้วทิ้งฉันไปฉันจะทำยังไงล่ะ” แพทบอกพร้อมทั้งนั่งห่อไหล่ ฉันที่อยู่สูงกว่ายิ้มน้อยๆอย่างปลอบใจผู้ชายตรงหน้า
“บ้าน่า...ฉันไม่ทิ้งนายหรอกสัญญา”
“เพราะรักฉันใช่ม้า”
“เพราะนายน่า...ที่จะรัก โอเคไหม?”
“ไรอ่ะ มันแปลว่าอะไร น่าที่จะรัก”
“ไม่รู้สิตีความหมายเอาเอง”
“เฮอะก็ได้ ฉันเหมาเอาแล้วกันว่าฉันน่ารักและเธอก็รักฉัน อิอิ อ่ะ นี่รางวัลจากคนน่ารักให้แฟนที่น่ารักม้ากมาก” แพทสำรวจรอบตัวก่อนจะหยิบดอกไม้สีแดงเพียงดอกเดียวขึ้นมาส่งให้ฉัน ไม่รู้เหมือนกันว่าไปเอามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“เอามาจากไหนเนี่ย”
“ก็ตอนไปห้างฉันก็ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาสองดอก ให้อะตอมไปดอกหนึ่ง แล้วก็แอบเก็บอีกดอกหนึ่งไว้ให้เธอ” แพทยิ้มสดใสให้ฉันก่อนจะเอาหน้าซบลงกับตักฉันที่นั่งสูงกว่าอย่างอ้อนๆ “จำเอาไว้นะไม่ว่ายังไงฉันก็จะรักเธอ เทพีวีนัส”
“อยากเป็นอาโดนิสขนาดนั้นเชียวเหรอ รู้ไหมว่ากว่าจะได้ดอกกุหลาบมาต้องแลกกับอะไรบ้าง”
“ฉันรู้ ต่อให้ฉันต้องเสียเลือดหมดตัวเพื่อจะเอากุหลาบแดงมาให้เธอฉันก็จะทำถ้ามันทำให้เธอยิ้มได้” แพทเงยหน้าขึ้นมาสบตาฉันเล็กน้อย เป็นอีกครั้งที่เราคบกันแล้วฉันรู้สึกใจเต้นตึกตัก ม่านน้ำตาเอ่อล้นออกมาอีกครั้งอย่างไม่ตั้งใจ ใช้หลังมือปาดน้ำตาแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อภาพของคนตรงหน้าเปลี่ยนไป...
“แพท”
ฉันเรียกออกมาเบาๆเมื่อรูปหน้าที่คุ้นเคยแปรเปลี่ยนไปเป็นของอีกคน จมูกโด่งสันเป็นคมกับดวงตาสีสนิมที่มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อ รอยยิ้มที่มักจะทำให้ฉันหายโกรธได้เสมอๆ ในตอนนี้มันได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง แม้จะรู้ดีว่ามันคงเป็นแค่มโนภาพที่สร้างมาจากจิตใต้สำนึก
เอื้อมมือไปลูบใบหน้าคนที่นั่งต่ำกว่าอย่างแผ่วเบา คล้ายๆกับแม่เหล็กขั้วบวกกับขั้วลบที่มีแรงดึงดูดมหาศาล พาให้ใบหน้าของเราทั้งสองคนลดลงต่ำเรื่อยๆ...เรื่อยๆ
ตี๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งไว้อย่างเบสิกดังขึ้นขัดจังหวะ อาการเคลิ้มจำพวกโรแมนติกได้หายไป ใจแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อมโนภาพที่สร้างจากจิตใต้สำนึกเมื่อสักครู่กลับเป็นอย่างเดิมนั่นก็คือพี่โมนั่นเอง แม่เหล็กตาลปัตรกลับเป็นขั้วเดียวกันพร้อมทั้งแรงผลักดันมหาศาลแทบจะหงายหลังไปเลยทีเดียว ให้ตายเถอะ เมื่อกี๊นี้ฉันจะทำอะไรน่ะ!
“เป็นอะไรเหรอเมอ้วน”
“ห...หา ง่า...โทรศัพท์ๆๆ” รีบบอกออกไปอย่างละล่ำละลักเอี้ยวตัวไปหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าสะพาย ขึ้นเป็นชื่อของพี่พาย
“พี่พายล่ะแพท”
“เอ๋? ยัยนั่นโทรมาทำไม” ฉันส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน รับสายขึ้นมาเต็มไปด้วยเควสชั่นมาร์คในหัว
“สวัสดีค่ะพี่พาย”
“พี่รบกวนอะไรหรือเปล่าเนี่ย”
“เปล่าค่ะพี่ มีอะไรหรือเปล่าคะ ปกติไม่เคยโทรมา เอ๊ะ หรือว่าแพทเป็นอะไรไปคะ” คำที่หลุดออกมาจากปากทำเอาแพทที่นั่งอยู่ตำแหน่งเดิมทะลึ่งขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกันพลางแนบหูเข้ากับโทรศัพท์ใกล้ๆฉัน
“มีเรื่องอยากจะถามเมนิดหน่อยน่ะจ้ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับแพทหรอก ว่างไหม? มาเจอกันได้ไหมจ๊ะ”
“ค่ะๆ ได้ แล้วเจอกันนะคะพี่”
“อ้อ เม อีกเรื่องหนึ่ง”
“คะ”
“อย่าเอาโมมา พี่อยากคุยกับเมตามลำพัง”
พี่พายวางหูจากไป รอยย่นเกิดขึ้นที่หว่างคิ้วของฉันและแพทอย่างสงสัยเป็นที่สุด
เดินทางเพียงไม่นานก็มาถึงที่นัดหมาย ร้านอาหารฟ้าสฟูดส์ที่ๆฉันรู้จักเป็นอย่างดีเพราะที่นี่ฉันมักจะมากับแพทบ่อยๆ (ไม่มีปัญญาไปกินของหรูเลยต้องจู๋จี๋ตามประสาคนจน ฮึกๆ T^T) สอดส่ายสายตามองหาพี่พาย พี่พายโบกมือน้อยๆเป็นสัญญาณจึงเดินตรงรี่เข้าไปหา
ท่าทางของพี่พายวันนี้ดูแตกต่างมากไปกว่าทุกวัน ไม่สิ ต้องบอกว่าเป็นเหมือนเดิม เพราะปกติแล้วพี่พายเป็นคนร่าเริงแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา มักเรียกเสียงหัวเราะให้ฉันได้อยู่เสมอๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องแพทรอยยิ้มของพี่พายก็ไม่ค่อยปรากฏให้ได้เห็นอีก แม้จะยิ้มแต่ก็เป็นการฝืน แต่วันนี้ไม่ใช่ ยิ้มของพี่พายวันนี้คือยิ้มที่จริงใจและสดใสเช่นเดิม
“เมมาช้าหรือเปล่าคะ”
“เปล่าๆจ้ะ อิอิ อ้ะเฟรนฟราย” พี่พายหันปากห่อมาทางฉัน ฉันยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกระซวก...โอ้วไม่ดีกว่า ทานก็พอแก้ท้องว่าง
“น่าแปลกนะคะที่วันนี้พี่พายออกมาเที่ยวเล่น มีอะไรดีหรือเปล่า”
“จะบอกว่าพี่สดใสมากกว่าที่เคยใช่ไหมล่ะ”
“อ้อค่ะ จะทักแบบนั้นอยู่เหมือนกัน”
พี่พายเอามือเคาะโต๊ะไปมาอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าคมคายออกไปทางหมวยๆแต่ไม่ได้ตาตี่เป็นอาตี๋อย่างที่เข้าใจ ตาสองชั้น จมูกโด่งออกแนวรั้นๆแสดงถึงนิสัยที่ไม่ยอมคน รอยยิ้มที่ทำให้คนรู้สึกสดชื่นได้เสมอเป็นคุณสมบัติพิเศษของคนในครอบครัวนี้ เพราะแพทเองก็ทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน
“พี่มีความรัก”
“ฮ้า จริงเหรอคะ”
“อื้อ ถามจริงๆนะเม”
“คะ?” พี่พายกัดริมฝีปากยิ้มน้อยๆมองฉันแปลกๆเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง “ทำไมเหรอคะพี่พาย”
“เมว่า...พี่หน้าตาดีป่ะ”
“ฮะฮะ โธ่ นึกว่าอะไร ดีสิคะ แหม เมยังแอบอิจฉาความน่ารักของพี่เลยนะ ฮะฮะ”
“เมของพี่ก็น่ารักจ้ะ” พี่พายยิ้มสดใสตามสไตล์อีกครั้งก่อนจะถอนหายใจดังฟืดใหญ่ “แล้วเมว่า ถ้าผู้ชายมองพี่แล้วเขาจะสนใจไหม”
“อันนี้ต้องถามพี่สิคะว่าพี่รู้สึกยังไงเวลาถูกผู้ชายมอง คนที่ถูกมองมักจะรู้ดีมากกว่าคนอื่นบอกนะคะ”
“ก็จริง...แต่พี่กลัวว่าจะเป็นการเข้าใจผิดน่ะสิ”
“นั่นแน่...มีความรักกับใครเอ่ย หล่อหรือเปล่า”
พี่พายยิ้มอายๆเอามือเกากระจกด้านข้างไปมาเหมือนลูกแมวเหลากงเล็บ ฉันมองตามยิ้มๆนึกเอ็นดู ไม่ใช่ว่าพี่พายตัวเล็กหรือว่ายังไงหรอกนะ เหมือนมองผู้ใหญ่ที่ไม่ค่อยจะเดียงสามากกว่า ทำบ้าอะไรก็ดูน่ารักไปหมดยิ่งคนอย่างพี่พายด้วยแล้ว
“ถ้าเมอ้วนว่าหล่อ ก็คงหล่อ”
“เอ๋?”
“เพราะพี่มองเขาหล่อนะ”
“เมรู้จักด้วยเหรอคะ”
“จ้ะที่สุดของที่สุด”
“โอ้ว อยากรู้ซะแล้วสิ” ฉันกลอกตากลิ้งไปมาอย่างใช้ความคิด แต่ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักใครมากเท่าไหร่นี่นา...อืม...
“ไม่ต้องเดาแล้วพี่บอกแล้วกัน แต่ถ้าบอกเมอ้วนต้องช่วยพี่เข้าใจหรือเปล่า”
“โฮ้ว ถ้าให้ช่วยน่ะได้อยู่แล้วเรื่องสอดแทรกชาวบ้านนี่ของถนัดนัก”
พี่พายตาเป็นประกายด้วยความดีใจก่อนจะมองซ้ายมองขวากลัวใครจะได้ยิน ซึ่ง...ต่อให้ได้ยินก็คงไม่ทำให้มีอะไรเกิดขึ้นหรอก เพราะในร้านมีแต่คนไม่รู้จัก ฉันเองก็ยื่นหน้าเข้าไปหาเหมือนกันเพราะอยากรู้จะแย่
“พี่ชอบพี่โมของเมอ้วนล่ะ”
แทบจะพ่นเฟรนฟรายที่เคี้ยวในปากใส่หน้าพี่พายอย่างลืมตัว ถ้าเป็นการ์ตูนตาฉันคงจะถลนออกมานอกเบ้าไปแล้ว อะไรนะ! ชอบพี่ชายฉันเนี่ยนะ
“...”
“เมอ้วนไม่ขัดข้องใช่ไหม แหะๆ” พี่พายเอามือเกาหัวตัวเองอย่างเก้ๆกังๆด้วยความอาย หน้าที่เป็นสีชมพูอ่อนๆบ่งบอกถึงความพยายามที่จะพูดเรื่องนี้อย่างแรงกล้า
“ท...ทำไมถึงได้ชอบพี่ชายเมล่ะคะ”
“ก็ไม่รู้สิ เหมือนคุ้นเคย” พี่พายพูดยิ้มๆก่อนจะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ช้าๆ ตาเคลิ้มๆประหนึ่งว่ากำลังฝัน “จริงๆนะ ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาดทั้งๆที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อนแต่มันรู้สึกได้ในครั้งแรกว่า เนี่ยต้องใช่แน่ๆเลย”
ฉันกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ คนที่ใช่ซะด้วยนะ...เวรแล้วแพท
“...”
“แต่พี่ไม่แน่ใจ...ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า เมอ้วนว่าพี่คิดไปเองหรือเปล่าที่เขาอาจจะสนใจพี่บ้างก็ได้”
ฟันธง 100% เปอร์เซนต์ค่ะ มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะคะ นั่นมันแฟนเมแล้วเป็นน้องพี่ด้วยนะ! ฉันก็ได้แต่พร่ำร้องบอกในใจ ยิ้มแห้งๆกลับไปเพราะไม่รู้จะทำยังไงดี
“แล้วพี่โมของเมเขาทำท่าทีชอบพี่พายยังไงคะ”
พี่พายหัวเราะคิกคักเหมือนสาวแรกรุ่น(จริงๆก็แรกรุ่นน่ะนะ) มองมาทางฉันตาเป็นประกาย
“เขามาเยี่ยมแพทที่นอนป่วยอยู่ แล้วก็คุยกับพี่ได้เรื่อยๆโดยไม่เบื่อ รอยยิ้มของเขาทำให้พี่จำได้ติดตา แต่...”
“แต่?”
“แต่พี่สงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นที่มาด้วยน่ะใครกัน นั่นแหละสาเหตุที่พี่ไม่แน่ใจว่าโมชอบพี่หรือเปล่า มันกังขาพี่เลยต้องมาถามเมอ้วน เมอ้วนพอจะรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ที่ตัวเล็กๆผมยาวไปถึงหลัง หน้าตาจิ้มลิ้มๆหน่อยๆ”
จากรูปพรรณสัณฐานฉันเดาเอาเองว่าน่าจะเป็นพี่อะตอม ผู้หญิงตัวเล็กๆน่ารักๆ ที่ฉันคุ้นเคยมีแค่พี่อะตอมคนเดียว แล้วความคิดก็แล่นปิ๊งเข้ามาในหัว ยังไงซะฉันก็ให้ชอบพี่โม(แพท)ไม่ได้หรอก ไม่ใช่หมาหวงก้างนะแต่พี่น้องกันมันไม่ผิดแปลกไปหน่อยเรอะ!
“อ่อ คนนั้นแฟนพี่โมน่ะค่ะ สองคนนั้นเขารักกันม้ากมากยากที่จะแยกออกจากกัน ถ้าคนหนึ่งไปซ้ายอีกคนหนึ่งต่อให้ต้องตะแคงก็ต้องตะแคงไปทางซ้ายตาม แบบว่าติดกันม้ากมาก ม้ากมาก~ก จริงๆค่ะ”
ฉันมากเว่อร์ไปหน่อยรึเปล่าหว่า แต่ถ้าไม่ทำอย่างนี้พี่พายก็ต้องไม่เลิกความคิดแน่ๆ คนอย่างพี่พายยิ่งเป็นคนมั่นใจสุดชีวิตอยู่แล้วด้วย ตัดไฟเสียแต่ต้นลมก่อนที่มันจะลุกโหมจนบ้านพังทลาย(โหมดจินตนาการไปไกลโพ้น)
“แฟนเหรอ!”
“ค่า!”
พี่พายทำหน้าตกอกตกใจกัดริมฝีปากแน่นละม้ายคล้ายว่ากำลังใช้ความคิด...ก่อนจะเงยขึ้นสบตาฉันเล็กน้อย
“พี่ถามเมอ้วนจริงๆนะ ตอบมาตามความจริง”
“คะ?...อ๋อค่ะ”
พี่พายจ้องตาฉันแน่นิ่งเล่นเอาตัวฉันแทบจะกระดิกเสียไม่ได้ กระพริบตาปริบๆตั้งรับการโจมตีของข้าศึกด้านหน้า
“ระหว่างพี่กับแฟนของพี่ชายเมอ้วน”
“ชื่ออะตอมค่ะ”
“นั่นล่ะ ระหว่างพี่กับอะตอม เมอ้วนจะเข้าข้างใคร”
กลืนน้ำลายฝืดคอเป็นรอบที่สี่ร้อยพอดี แน่นอนฉันก็ต้องเชียร์...ตัวเองสิ! ก็นั่นมันแฟนฉันน่ะจะไปเชียร์พี่พายได้ยังไงกัน
“ขอเมเป็นคนกลางแล้วกันค่ะ คือ...ยังไงซะเมก็รักและนับถือทั้งคู่เลย”
“ว่าไงนะ!”
พอจะเข้าใจอยู่เลาๆแล้วว่าทำไมแพทชอบมาบ่นว่าพี่พายบ้าอำนาจนักหนา ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้สินะ
“แหะๆ”
“ตามใจ” พี่พายเอนหลังพิงพนักตามเดิม “แต่ว่าเมอ้วนต้องเอียงๆมาทางพี่นะรู้เปล่า”
“เอ่อ...”
“รู้ใช่ไหม”
“ค่ะ!”
“ดีมากจ้ะน้องรัก ฮิฮิ อ้ะกินเฟร้นฟรายให้หมดห่อแล้วกลับบ้านกัน ล้าลาล้าลา” พี่พายไม่สนใจอะไรอีกรวบหัวรวบหางเรียบร้อยเสร็จสรรพแล้วก็นั่งกินเฟรนฟรายเอร็ดอร่อยต่อไป
ศัตรูความรักของฉันเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแล้วเหรอเนี่ย ฮือ...อาเมน T_T
To be continue...
กร๊ากๆๆ โทษทีบอกจะอัพให้ทุกวันแต่ตอนนี้แต่งเรื่องเทพนิยายจนหัวหมุนติ้วเลย สันยาๆๆ อัพทุกวันแระ อย่าลืมมาอ่านกันล่ะ จะงานหนังสือแล้ว อย่าลืมไปเจอหน้ากันนะจ๊ะ ^^
เดี๋ยวตอบโพสต์จริงๆและ ดองไปร้อยกว่าโพสต์เอง...(โฮกกกกกกกกกกกกกกกกก)
ความคิดเห็น