ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fire Burning ภารกิจรักร้อนซ้อนกลหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : ประกวดร้องเพลง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.43K
      12
      18 ม.ค. 57

    5

    ประกวดร้องเพลง

     

    การมาโรงเรียนในวันนี้ความรู้สึกของฉันแตกต่างออกไป อาจจะเป็นเพราะว่า ฉันมีแฟนแล้ว ก็คงจะเป็นได้...ฮิฮิ >O< รู้สึกตื่นเต้นเหลือเกิน แค่คิดว่าตัวเองได้มีประสบการณ์รักในวัยเรียนกับเขาก็ทำให้หัวใจพองโต ฉันไม่ต้องพึ่งพานิยายหวานแหววโลกสีชมพูแสนสวยในอินเตอร์เนทอีกต่อไปแล้ว คราวนี้จะถึงทีของฉันบ้างที่จะเติมเต็มจินตนาการความรักฉบับนักเรียน!

    วืบ...

    พี่ไอซ์เดินผ่านหน้าฉันไปราวกับฉันเป็นอากาศธาตุ ฉันอ้าปากจะเรียกทักทายตามประสาน้องสาวควรทำกับพี่สาวแต่เจ้าตัวไม่คุยกับฉันเลย นี่นางโกรธฉันมากเลยเหรอเนี่ย =__= แต่ช่างเถอะ! งอนอะไรไม่เข้าเรื่อง โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว

    “พยัคฆ์ >O</

    ฉันเอ่ยทักทาย พยัคฆ์ที่นั่งหน้านิ่งเป็นเรื่องปกติของชีวิตยักคิ้วให้ฉัน

    “วันนี้ดูอารมณ์ดีนะ”

    “แน่นอนล่ะ”

    “มีอะไรดีๆล่ะ”

    “ฉันมีแฟนแล้ว”

    “ห๊ะ O_o

    “ฉันบอกว่าฉันมีแฟนแล้ว! >O<

    ฉันหมุนตัวจนกระโปรงนักเรียนพลิ้วเป็นวงกลมตามตัวฉันไปด้วยราวกับเต้นลีลาศ

    “ผู้ชายห่ามๆคนนั้นน่ะเหรอ”

    “เขาชื่อพระเพลิงแต่ฉันจะเรียกเขาว่า พระเฉยๆ”

    “เธอรักเขาเหรอ”

    เพราะเป็นคนที่ขวานผ่าซากอยู่แล้วพยัคฆ์จึงไม่ลังเลที่จะถามออกมาตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม

    O_O รักเหรอ? เราเพิ่งคบกันเราจะรักกันได้ยังไง”

    “แล้วเธอชอบเขาเหรอ”

    “แน่นอนว่าฉันไม่ชอบเขาและเขาก็ไม่ชอบฉันด้วย แต่เราคบกันเป็นแฟนแล้ว >_O

    “นี่เธอบ้าหรือบ้าเนี่ย!” พยัคฆ์ลุกขึ้นตวาดใส่ฉัน เจ้าหญิงตัวน้อยๆที่ทำกระโปรงพลิ้วไหวไปมาอย่างฉันเลยได้แต่สะดุ้งเฮือกแล้วชะงัก

    “ฉันมีตัวเลือกอื่นนอกจากบ้าหรือเปล่า =O= ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ”

    “ฉันควรจะต้องโกรธสิ เธอคบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ชีวิตไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ถามว่ารักมั้ยก็ไม่ได้รัก ถามว่าชอบมั้ยเธอก็ไม่ได้ชอบ!

    “คนจะเป็นแฟนกันมันต้องเรียนรู้กันก่อนจะรักไม่ใช่เหรอ”

    “มันต้องเรียนรู้กันก่อนถึงจะเป็นแฟนกันได้!

    “ฉันเรียงลำดับผิดเหรอ? >O</ แต่ช่างมันเถอะ ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนสำหรับฉันก็ค่าเท่ากันนั่นแหละ นายไม่ดีใจกับฉันเหรอที่ฉันมีแฟนแล้ว”

    “ฉันจะไปดีใจได้ยังไงในเมื่อฉัน!!!

    “หือ?”

    “ฉันไม่เห็นด้วย!

    ฉันยิ้มให้เขาแล้วเอาไหล่กระแทกเจ้าตัวให้อารมณ์ดีขึ้น

    “นี่ ถึงฉันจะมีแฟนไปแล้วฉันก็จะไม่ลืมนายหรอกนะพยัคฆ์คงคาหิมาลัยของฉัน ตอนนี้ฉันรักนายมากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนเสียอีก ใจร่มๆนะ ฉันก็แค่อยากรู้เท่านั้นเองว่าการเป็นแฟนกันนั้นมันคืออะไร นายดูฉันสิ! หน้าตาก็ธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น ความสามารถก็ไม่มี เพื่อนคนอื่นเขามีแฟนแล้วเอาไปเม้าท์กับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นทีคนนี้ที ฉันเห็นแล้วฉันก็อยากจะมีแล้วเอาไปอวดคนอื่นบ้าง -3-“

    “สำหรับเธอการมีแฟนมันเอาไว้อวดคนอื่นหรือไง”

    “แต่มันก็เป็นประสบการณ์วัยเรียนที่น่าจดจำแล้วเอาไว้บอกต่อรุ่นลูกรุ่นหลานไม่ใช่เหรอ ไม่เอาน่าอย่าซีเรียส นายเองก็ควรจะมีแฟนเหมือนกันนะ เราจะได้เอาไว้เม้าท์กัน”

    “ถ้าไม่ใช่เธอ ฉันจะไม่มีแฟน”

    “เอ๋? หมายความว่ายังไงเหรอ”

    พยัคฆ์ลุกขึ้นแล้วเอามือเขกหัวฉันหนึ่งที แต่ว่ามันเจ็บสุดๆไปเลย TwT

    “งั้นเธอก็โง่ต่อไป”

    =[]=

     

    จริงๆฉันไม่ใช่คนโง่หรอกนะ เพียงแต่ฉัน...แค่ไม่อยากคิดว่าสิ่งที่พี่ไอซ์เคยบอกเล่ามันเป็นเรื่องจริงก็แค่นั้น พระเพลิงที่นัดฉันมานั่งเล่นที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งซึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนของฉันเท่าไหร่ส่งน้ำอัดลมให้ฉันดูดหลังจากไปซื้อมาให้ เขาคงสังเกตเห็นว่าหน้าของฉันนั้นทุกข์ใจและคิดอะไรในใจแน่เลยถามขึ้น

    “มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่ เธอทำหน้าเป็นหมาหงอยมันช่างไม่น่ารักเอาซะเลย เพราะโดยปกติแล้วเธอก็ไม่ใช่คนน่ารัก”

    -__-++ ตอกย้ำเข้าไปสิ”

    “ฉันเป็นพวกกระตุ้นต่อมอารมณ์คนเก่งน่ะ ว่าไง เธอมีอะไรในใจกันแน่”

    “วันนี้เพื่อนสนิทของฉัน ที่ฉันพยายามปฎิเสธมาตลอดว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันมาสารภาพรักฉันในวันนี้”

    “ไอ้ตัวใหญ่นั่นน่ะเหรอ”

    “นายรู้ได้ยังไงกัน O_o

    “แค่เห็นก็รู้แล้ว ผู้ชายกับผู้หญิงเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอก แล้วยิ่งทำตัวเหมือนหมาหวงกระดูกตอนเจอหน้าฉันฉันก็เดาได้ในทันทีว่ามันคิดอะไรกับเธอเกินเพื่อนแล้ว นอกจากคนโง่และคนที่ทำหูหนวกตาบอดเท่านั้นแหละที่ไม่รู้”

    จ้ะ...ฉันคือคนโง่และหูหนวกตาบอด ด่าขนาดนี้ก็ไปซื้อน้ำกรดตามเวชภัณฑ์มาสาดใส่หน้าฉันซะเลยสิ!

    “แล้วเธอกลุ้มใจอะไร ไม่ชอบก็แค่บอกไปว่าไม่ชอบ เธอมีแฟนอยู่แล้วนั่นก็คือฉัน!

    “ฉันรู้สึกการเป็นแฟนของเรามันช่างแปลกประหลาด จริงๆเราควรจะทำความรู้จักกันก่อนแล้วค่อยเป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ”

    “เราก็รู้จักกันแล้วนี่ เธอจูบฉันด้วยซ้ำไป”

    “แต่การรู้จักกันของเรามันไม่ได้สร้างความสัมพันธ์อันดีแต่ประการใดเลยนะ นายไม่รู้สึกเลยเหรอว่าเราไม่มีอะไรที่แบบ...คอนเนคกัน ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายชอบกินอะไร ชอบดูหนังแบบไหน หรืออะไรบ้างที่นายจะทำให้ฉันใจเต้นจนต้องเก็บไปแอบนอนคิดนอนฝันคนเดียวว่า ว้าว ฉันตื่นเต้นมากเลยพี่ชาย วันนี้เขายิ้มให้ฉันด้วย อะไรแบบนี้”

    “ถ้าเธอต้องการแค่รอยยิ้มฉันจะยิ้มให้ดู ^O^

    “พริกติดฟัน -__-

    “เธอนี่ไม่น่ารักเอาซะเลย!

    พระเพลิงรีบหยิบกระจกมาส่องดู แล้วก็ทำหน้าบูดใส่ฉันเพราะถูกหลอก แบร่!

    “คนที่เราไม่ชอบ ต่อให้ยิ้มหรือทำอะไรมันก็ไม่ชอบ นายไม่คิดอย่างนั้นเหรอ...ขนาดนายยิ้มที่ผู้หญิงคนอื่นน่าจะละลายที่ได้เห็น แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรด้วยเลย นายเองก็คงรู้สึกเหมือนกัน ต่อให้ฉันทำตัวน่ารักหรือพูดไพเราะแค่ไหนมันก็ไม่ประทับใจนายอยู่ดี”

    “มันก็ใช่”

    “เราไม่ควรค่อยๆก้าวไปทีละขั้นแบบคู่อื่นเขาเหรอ”

    “ฉันไม่เคยคบใครแล้วก้าวทีละขั้นมาก่อน เพราะพอถูกใจฉันก็จับปล้ำเลย”

    =[]=

    “ฉันไม่ปล้ำเธอแน่ๆ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น”

    “แม้แต่ปล้ำฉันนายยังไม่อยากทำแล้วเราจะเป็นแฟนกันได้ยังไงวะ”

    “ถึงจะได้ให้สร้างความทรงจำอยู่นี่ไง บางทีถ้าฉันได้ทำอะไรร่วมกับเธอ มันอาจจะทำให้ฉันผูกพันกับเธอ ถึงแม้จะความจำเสื่อมฉันก็ยังรักเธอไม่เสื่อมคลายอะไรทำนองนั้น”

    “ทำไมจะต้องความจำเสื่อม เป็นโรคอื่นไม่ได้เหรอ =__= ฉันไม่เข้าใจอะไรสักอย่างแต่ว่าไงก็ว่ากัน ว่าแต่เราจะสร้างความทรงจำอะไรกันอีกนายลองว่ามาสิ เพราะเท่าที่ผ่านมาฉันยังไม่มีอะไรทำร่วมกับนายเลยนะ”

    “เราจะไปประกวดร้องเพลง”

    “ห๊ะ!!!” ฉันชะงักไปนิดหนึ่งแล้วชี้มาที่ตัวฉันและเขา “เรา?”

    “ใช่ เราจะไปประกวดร้องเพลง ประกาศให้โลกรู้ว่าเรามีสุ้มเสียงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่โลกนี้เคยมีมา”

    “ฉันร้องเพลงไม่เป็น”

    “เธอต้องร้องให้เป็น”

    “ไม่!

    “ไม่งั้นเธอตาย -__-++

    “นายจะฆ่าฉันยังไงไม่ทราบ”

    “ฉันประกาศบอกในเฟสบุ๊คว่าเธอท้องแล้วฉันพาไปทำแท้ง”

    “ไอ้...ไอ้...”

    “แบร่ๆ”พระเพลิงเต้นแร้งเต้นกาแล้วเดินจากไปพร้อมทั้งโบกมือลา “วันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วไว้เรามาร้องเพลงกันนะ แบร่ๆ >O<

    นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเขาแลบลิ้นน่ะ...ถือว่าเป็นประสบการณ์หรือเปล่า? =__=

    รู้สึกเหมือนฉันหรือเปล่าว่าการร้องเพลงกำลังวนเวียนอยู่ในชีวิตฉันแล้ว ณ ขณะนี้...เพราะแม้นฉันจะไม่ได้อยู่กับพี่ไอซ์ฉันยังสามารถถูกแฟนคนแรกบังคับให้ไปประกวดร้องเพลงได้เลย โดยเพลงที่เขาส่งชื่อมาให้ทางข้อความลับนั้นมีชื่อว่า ‘Impossible’

    “เพลงของทอมครูซเหรอ”

    “เธอมีอินเตอร์เนทเอาไว้เสิร์ชหาวิธีทำยังไงให้หูรูดไม่เสื่อมสมรรถภาพหรือไง ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเพลงประกอบมิชชั่นอิมพอสสิเบิลสักหน่อย”

    “ทำไมนายไม่เอาเวลาพิมพ์ประชดฉันแล้วตอบให้มันตรงคำถามมันจะไม่เสียเวลามากเลยนะ”

    ฉันกดตามลิงค์ที่เขาส่งให้ แล้วก็พบว่ามันเป็นเพลงที่ไพเราะดี แต่สิ่งหนึ่งที่พระเพลิงไม่รู้...คือฉันโง่ภาษาอังกฤษที่สุดในโลกกกกกก

    “ร้องเพลงไทยไม่ได้เหรอ อย่างน้อยฉันยังฟังภาษาไทยรู้เรื่องนะ”

    “นกแก้วมันยังเลียนเสียงคนได้โดยที่ไม่รู้ความหมาย เธอแค่ไปหัดร้องมันจะตายหรือไง”

    “เคยมีใครบอกมั้ยว่านายปากจัด =__=

    พอพิมพ์จบพี่ไอซ์ก็วิ่งปึงปังเข้ามาในห้อง ฉันได้แต่กระพริบตาปริบๆแล้วถูกตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงโหดร้ายว่า...

    “แกทำอะไรอยู่”

    “ฟังเพลง”

    “ฉันชอบเพลงนี้”

    “ฉันดีใจกับพี่ด้วยที่พี่มีเพลงในดวงใจแล้ว”

    ว่าแต่นางจะมาบอกฉันทำไม =__= แล้วไหนบอกว่าจะไม่คุยกับฉันเป็นเวลาสามเดือนไม่ใช่เรอะ?

    “ฉันคิดว่าฉันจะร้องเพลงนี้ประกวด”

    “หา?”

    “และแกจะต้องไปเป็นเพื่อนฉันตามสัญญาที่ให้ยืมโน๊ตบุ๊ค ฉันจะมาบอกกับแกแค่นี้...เตรียมตัวให้พร้อม”

    “แล้วฉันต้องไปวันไหน”

    “วันเสาร์ บัยส์!

    พอพี่ไอซ์ออกไปฉันก็หันกลับมาพิมพ์ที่แป้นเพื่อถามวันเวลาที่ฉันจะต้องไปร้องเพลงกับพระเพลิง ซึ่งเจ้าตัวตอบตรงกันเด๊ะเลยว่า

    “วันเสาร์ หัดร้องล่ะ ออกเสียงให้ถูกด้วย บัยส์!

    แล้วทำไมวันนี้ทุกคนต้องพร้อมใจกันบังคับและเอ่ยลาฉันเหมือนกันไปหมด บัยส์เป็นคำบอกลาแบบใหม่ที่ให้อารมณ์ศิลปินรึไง

     

    ฉันปริ๊นท์เนื้อเพลงแล้วเอาไปฝึกร้องที่โรงเรียน ดนตรีของมันติดหูฉันบ้างแล้วแต่ให้จับเป็นคำๆหรือนั่งสะกดแต่ละคำมันช่างยากเหลือเกิน TT^TT กระดาษในมือฉันถูกแย่งชิงไปต่อหน้า และก็พบว่าเป็นพยัคฆ์ที่กำลังยืนค้ำหัวฉันอยู่

    อั้ยย่ะ! ฉันลืมเรื่องเขาไปซะสนิทเลยนะเนี่ย O_o ทำยังไงดี ฉันจะสู้หน้าเขาได้มั้ยนะ TT^TT

    “เดี๋ยวนี้หัดร้องเพลงฝรั่งแล้วเหรอ”

    “ฉันมีจุดมุ่งหมายนิดหน่อย...” ฉันพยายามบังคับลมหายใจและจังหวะการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับปกติเพื่อที่จะได้ต้องตื่นเต้นมาก “ฉันจะไปประกวดร้องเพลง”

    “เธอเนี่ยนะ!

    “ทำไมต้องเสียงดังด้วย -__-^^

    “พูดภาษาไทยยังไม่ค่อยจะคล่องเลย กล้าดียังไงจะไปสมัครร้องเพลงแถมเป็นเพลงฝรั่ง”

    “ฉันก็แค่ไม่ต้องการให้ชีวิตอยู่กับที่ก็เท่านั้นเอง นายไม่สนับสนุนฉันก็อย่าซ้ำเติมจะได้มั้ย ไม่คุยด้วยแล่ว!

    ฉันลุกขึ้นแล้วเดินกระทืบเท้าปึงๆหนีพยัคฆ์ แต่ถูกเขาคว้าแขนเอาไว้ได้เสียก่อน

    “ทำไมฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนเพื่อหลบหน้าฉัน”

    “อะไร ฉันไปกลบเกลื่อนอะไร ไม่มี๊!!!

    “วันนี้เธอไม่สบตาฉันด้วยซ้ำ”

    “วันนี้ฉันเจ็บตาเพราะไข้กาหลังแอ่นต่างหาก”

    “ไอ้โรคที่เธอว่ามันหายไปจากโลกใบนี้ตั้งนานแล้ว”

    “มันเกิดขึ้นใหม่จากฉันไง ปล่อยนะ!

    “เพราะฉันบอกชอบเธอใช่มั้ยเลยทำให้เธออึดอัดแบบนี้”

    ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกดให้ยืนอยู่กับที่ ทำไมฉันจะต้องมาเถียงกับเพื่อนสนิทผู้ชายเพียงคนเดียวในชีวิตฉันเรื่องที่เขาคิดกับฉันเป็นอื่นแบบนี้ด้วย ไม่ดีเลย ฉันไม่ชอบใจเอาซะเลย!!!

    “ใช่ ฉันอึดอัด ตอนนี้ฉันไม่พร้อมจะคุยอะไรกับแกทั้งนั้น ดังนั้นฉันขอร้องให้ฉันได้อยู่กับตัวเองและสงบจิตสงบใจ พร้อมเมื่อไหร่ฉันจะไปคุยกับแกเอง ได้มั้ย? ห๊ะ!

    “แล้วแต่เธอ”

    พยัคฆ์เดินหนีแล้วทิ้งให้ฉันยืนกระทืบเท้าอยู่คนเดียว เอ้า! แล้วเพลงนี่เอาไงเนี่ย โว้ย ไม่ร้งไม่ร้องมันแล้ว!

    ด้วยความที่เครียดจัด พอเลิกเรียนฉันเลยหนีมาเดินห้างคนเดียวโดยที่หูของตัวเองยังคงฟังเพลง impossible อะไรนั่นมาตลอดทาง การได้เจอแอร์เย็นๆและมองผู้คนเดินไปเดินมานี่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกหัวสมองปลอดโปร่งดีเหมือนกันนะ เป็นการตอกย้ำตัวเองว่าฉันไม่ได้อยู่โลกนี้คนเดียว

    โอ๊ะโอ...

    ปลอดโปร่งไม่ว่า ดูเหมือนฉันจะบังเอิญเจอคนคุ้นเคยเข้าให้แล้วแฮะ O-o นั่นมันผู้หญิงคนที่พระเพลิงเคยเอาแต่จ้องมองไม่ใช่เหรอ แต่ไม่ได้มากับผู้ชายหน้าตาดีคนเก่า เจ้าหล่อนมากับกลุ่มเพื่อนขนาดใหญ่และดูสินค้าอย่างตื่นเต้น

    อยากจะเข้าไปสอดดดด จังเลย!

    “นี่ก็สวยนะลูกหมี ฉันว่ามันเขียนลื่นด้วย แถมยังเป็นรูปหมีลิละคุมะ”

    เพื่อนของเด็กผู้หญิงที่ชื่อ ลูกหมี ต่างพากันแนะนำโน่นนั่นนี่ ว่าแต่หูเจ้าหล่อนเป็นอะไรหว่า ทำไมต้องยัดอะไรลงไปในนั้นด้วย บลูทูธ? อา...แต่น่ารักจริงๆนั่นแหละ ตอนยิ้มนี่ตาเป็นสระอิเลย ผิวก็ดี เทียบกับหนังหน้าฉันแล้วคนละโยชน์...แว้ก!!!

    “มาด้อมๆมองๆอะไรไอ้หนูน้อย”

    ผู้ชายตัวใหญ่ใส่หมวกไหมพรมเคี้ยวหมากฝรั่งใช้มือคีบปกคอเสื้อด้านหลังฉันเหมือนอุ้มลกหมา หน้าตาเกลี้ยงเกลานั่นทำให้ฉันได้อ้าปากค้างเพราะตกตะลึงกับความหล่อ นี่หล่อจริงๆนะเนี่ย

    “ทำอะไรน่ะพี่เสือ...พี่มาอยู่นี่ได้ยังไง แอบตามฉันมาอีกแล้วเหรอ .V.

    “ใครบอกแอบตาม ฉันแค่เดินเล่นไปมาในห้าง”

    “แล้วนั่นพี่ทำอะไรน่ะ เขาเป็นเด็กผู้หญิงนะ”

    “ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย ยัยนี่มาด้อมๆมองๆเธอตลอดเลย”

    “เอ๋?”

    ลูกหมีมองฉันแล้วเอียงคอมองอย่างสงสัย ฉันเลยโบกมือเซย์ไฮอย่างเป็นมิตรสุดๆ

    “เฮลโล่ลูกหมี ฉันชื่อน้ำ...เป็นแฟนกับพระเพลิงจ้า ^O^

    O_O

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×