คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 : ข้อตกลงก่อนลงสนาม
4
ข้อตกลงก่อนลงสนาม
เพราะสมุดนั่นทำให้ฉันอยากรู้จักพระเพลิงให้มากขึ้น...แต่ข้อมูลของเขานอกจากเฟสบุ๊คที่ฉันยังไม่ได้แอดเป็นเพื่อนแล้ว ฉันไม่มีอะไรเลย นี่ฉันก็นั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์มา 2 ชม.แล้วโดยที่ไม่รู้จะเล่นเวปอะไรดี เลยได้แต่ดูรูปของตัวเองที่ยังคงว่อนไปมาในเฟสสร้างความอับอายให้กับชีวิตตัวเองอยู่อย่างนั้น
เอ๊ะ พี่สาวฉันไง พี่ไอซ์!
แม่นางผู้รู้มากคนนั้นเคยส่งข้อความลับไปคุยกับพระเพลิงได้ ถ้าอย่างนั้นแปลว่าเจ้าตัวต้องรู้แน่ว่าเฟสส่วนตัวของพระเพลิงคืออันไหนใช้ชื่อว่าอะไร ถ้าจะสืบ...ก็สืบจากนางเนี่ยแหละ
“แฮ่ม!”
“อะไร -__-++”
หน้าตาหงุดหงิดหน้าบอกบุญไม่รับมากนั่นทำให้ฉันขวัญหนีดีฝ่อ ใครไปเหยียบหนังหน้านางเหรอถึงได้เหวี่ยงปานนี้
“ว่างหรือเปล่า”
“ไม่ว่าง”
“พี่ทำอะไร”
“หายใจอยู่”
“=__=”
“แกมีอะไร คนเกลียดกันเขาไม่ควรที่จะคุยกันเกินกว่าสามประโยคนะ ถ้าไม่มีอะไรก็ไสหัวกลับไปซะ ฉันจะอยู่คนเดียว”
“พี่อย่ามาใจแคบหน่อยเลย ร้อยวันพันปีเราก็ทะเลาะกันอย่างนี้อยู่แล้ว อยู่ๆจะมาทำแง่งอนมันไม่น่ารักเลยนะขอบอก”
“ฉันขอให้แกมารักฉันหรือไง”
“ฉันทำมาม่าให้เอามั้ย”
“แกนึกว่าฉันเห็นแก่กินเหรอ”
“ต้มยำนะ”
“ใส่น้ำปลาเยอะๆ”
ถ้านี่คือการง้อกัน ฉันคิดว่าฉันรู้วิธีง้อพี่สาวตัวเองดี ดูนางจะหงุดหงิดอะไรบางอย่างซึ่งฉันก็ไม่กล้าถามมาก หรือนักร้องที่เชียร์ตกรอบรึไงกัน พอกินมาม่าที่ฉันต้มให้ก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
“อารมณ์เสียอะไรกันพี่ไอซ์ หรือว่าเรื่องที่ฉันบอกว่าเกลียดพี่”
“แกจะเกลียดหรือไม่มันเคยมีความหมายกับฉันเมื่อไหร่กัน ฉันหงุดหงิดเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย”
“เรื่องส่วนตัวที่ว่าน่ะอะไร”
พี่ไอซ์ทำหน้าหงุดหงิดอีกครั้ง ปากเหมือนต้องการจะพูดแต่ก็หุบแล้วก็ทำท่าจะพูด กลายเป็นหุบๆอ้าๆ อ้าๆหุบๆ ราวกับปลากะพงแดงในน่านน้ำ =__=
“แม่ไม่ให้ฉันไปประกวดร้องเพลง!”
“นี่พี่จะไปประกวดร้องเพลงเรอะ =[]=”
“แกทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน ฉันเสียงไม่ดี หน้าตาไม่ได้คุณสมบัติหรือไง”
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่แปลกใจ ไม่เห็นเคยได้ยินว่าพี่น้ำมีความฝันอยากจะเป็นนักร้องกับเขาก็แค่นั้น”
“แกคิดว่าฉันดูเดอะวอยซ์ไว้เต้นแอโรบิกหรือไง”
บางวันฉันเห็นนางเล่นโยคะด้วยนะ แต่เอาเถอะ อย่าพูดเลย =__=
“เอาเป็นว่าฉันเป็นกำลังใจให้พี่นะ อย่าอารมณ์เสียเลย”
“วันนี้แกเป็นอะไร ผีเข้าเหรอ มาเป็นกำลังจงกำลังใจอะไร ฉันบอกแกเหรอว่าฉันต้องการ!”
“แล้วพี่ไม่ต้องการเหรอ ฉันไม่ให้กำลังใจก็ได้”
“ได้นิดนึงก็ดี นับว่าแกมีคุณสมบัติน้องที่ดีติดตัวมาเหมือนกันนะเนี่ย” นี่พี่ฉันจะเอายังไงกับชีวิตวะคะ เชียร์ก็ไม่ชอบ ไม่เชียร์ก็ทำหน้ามึน “ว่าแต่แกมาทำอะไรห้องฉัน ถามก็ไม่ตอบ”
“อ๋อ! ฉันจะมายืมโน๊ตบุ๊คพี่สักหน่อยน่ะ”
“คอมห้องแกก็มีทำไมต้องใช้โน๊ตบุ๊คฉันด้วย เครื่องไม่ใช่ถูกๆ ฉันต้องทำงานพิเศษกว่าจะได้มันมานะไอ้เด็กบ้า”
“พอดีคอมห้องฉันติดไวรัสและฉันต้องทำรายงานส่งนี่นา ถ้าพี่ไอซ์ไม่ยืม ฉันไม่ยืมก็ได้” ฉันทำเป็นเดินคอตก แต่พี่น้ำใช้ง่ามนิ้วเท้าหนีบชายเสื้อฉันเอาไว้
“ที่มาทำดีเพราะหวังผลสินะ รีบเอาไปใช้แล้วเอามาคืน เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจ!!!”
“และแกจะต้องไปสมัครเดอะว้อยซ์กับฉัน”
“เอ๋?”
“แกเป็นกำลังใจให้ฉันไม่ใช่หรือไง โน๊ตบุ๊คแกก็ยืมฉันแกไม่คิดว่าแกติดหนี้บุญคุณฉันบ้างเหรอ”
=[]= มัดมือชกชิบเป้งเลย! แต่ต่อให้ฉันปฎิเสธก็คงไม่มีประโยชน์ นอกจากจะไม่ได้คอมพิวเตอร์มาแอบส่องดูแล้วยังเป็นการทะเลาะกับพี่สาวที่ไม่ถูกไม่ควร ยังไงซะฉันก็ถูกบังคับไปอยู่ดีด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง
พอกลับมาถึงห้องฉันก็จัดการเปิดเข้าหน้าเฟสบุ๊คแล้วเช็คประวัติการเข้าใช้ในแต่ละเวป ซึ่งน่าทึ่งมากที่พี่สาวของฉันเอาแต่ส่องดูเวปที่มีแต่ประกวดร้องเพลง นี่ฉันไม่สนิทกับพี่สาวมากพอหรือว่าฉันสนใจแต่ตัวเองถึงได้ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของฉันนั้นชอบทำอะไรกันแน่ อา...ฉันคงต้องเป็นกำลังใจให้อย่างช่วยไม่ได้แล้วสินะ
เอ๊ะ! ฉันหยิบโน๊ตบุ๊คมาเพื่อสิ่งนี้ที่ไหนกัน เช็คหน้าประวัติเฟสบุ๊คต่างหาก! เอ...เข้าหน้าไหนบ้างน้า ทำไมมีแต่เฟสบุ๊คหน้าฉัน =__= ชอบแอบเข้ามาส่องดูเพื่อสอดแนมเหรอ ช่างเป็นพี่สาวที่นิสัยไม่ดีเลย งั้นดูขอ้ความลับดีกว่า น่าจะเจาะจงได้มากสุด คุยอะไรกับใครบ้างน้อ...
‘Firefly’
ชื่อนี้มันช่างกระแทกต่อมความสนใจของฉันได้ดีจริงๆ อาจจะเพราะคำว่า Fire ให้ความรู้สึกร้อนแรงดั่งไฟ มันเลยทำให้ฉันจิ้มจึ๊กเข้าไปในทันที
อะฮ้า!!! แช็ทล็อคของพี่สาวฉันกับอีตาพระเพลิง นี่คือชื่อเพจของหมอนั่นอย่างนั้นรึ รีบจดก่อนดีกว่าแล้วค่อยไปเสิร์ชเอาในเครื่องของตัวเอง
“ไอ้น้ำ!”
เสียงตะโกนของพี่ไอซืทำให้ฉันรีบออกจากหน้าเฟสบุ๊คแล้วเข้าดูเวป Cnn อย่างเด็กฉลาดชาติเจริญ
“อะไรอีกพี่”
“ฉันจะบอกว่าห้ามเอาธัมไดร์ฟของแกมาจิ้มจึ๊กๆกับคอมฉันนะ เดี๋ยวติดไวรัส”
“รู้แล้ว”
“นั่นแกดูอะไรอยู่”
“ข่าวสรยุทธ”
“สรยุทธบ้าอะไรไปอยู่ใน CNN”
“เขาเป็นนักข่าวจะติด CNN บ้างมันจะแปลกยังไง”
“ไหน ดูหน่อย O_O ฉันตื่นเต้นนะเวลาคนไทยออกข่าวนอก นี่มันสรยุทธที่ไหน ไม่มีผมบนหัวแบบนี้มันปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียชัดๆ”
“อ้าวเหรอ ฉันเข้าใจว่าสรยุทธหน้าตาแบบนี้ตั้งนาน”
“แกนี่โง่หรือโง่กันนะ ฉันละปวดใจ รีบๆทำเข้าล่ะ ฉันจะดูคลิปร้องเพลง อย่าช้า ไม่มีคอมฉันขาดใจ”
“รู้แล้วน่า!”
พี่ไอซ์ออกจากห้องไป ฉันเลยถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะกลัวเหลือเกินว่าพี่สาวจะเล่นคอมแล้วจับได้ว่าฉันมาดูแชทลับ แต่ในแชทก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากพี่ไอซ์ถามว่า ‘นายเป็นใคร’ หรือ ‘ต้องการอะไร’ เอ๋?
‘อย่ายุ่งกับน้องสาวฉัน อย่าหาว่าไม่เตือน’
อุ้ยตาย! มีโมเม้นแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย
“ไอ้น้ำ!”
พี่ไอซ์เข้ามาในห้องอีกครั้งแล้วก็เห็นฉันกำลังวุ่นวายกับเฟสบุ๊คพอดี เท่านั้นเองพี่แกก็คว้าเจ้าเครื่องกระจิริดนั่นไว้ในมือแล้วทำท่าโมโหโทโส
“แกเข้าเฟสบุ๊คฉันเรอะ แอบดูข้อความลับฉันด้วย ไอ้เด็กไม่มีมารยาท”
“=[]= ฉ...ฉันแค่”
“งดคุยสามเดือน!”
“TOT”
และเวลาแห่งนรกที่ต้องเจอหน้าแต่คุยกันไม่ได้ก็คงจะดำเนินตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป...ช่างเถอะ ฉันเองก็ไม่ได้อยากคุยกับพี่ไอซ์สักเท่าไหร่ ฉันสนใจอีตาพระเพลิงมากกว่า พอเปิดคอมได้ฉันก็กดแอดเขาเป็นเพื่อนในทันที และที่น่าแปลกใจคือแป๊บเดียวพระเพลิงก็ตอบรับฉันเป็นเพื่อน แล้วคุยกันผ่านข้อความลับอย่างรวดเร็ว
“แหม กว่าจะแอดมาได้”
“แล้วทำไมนายไม่แอดมาหาฉันล่ะ”
“เพราะฉันจะดูว่าเธอสนใจฉันมากขนาดไหน และฉันกำลังคิดว่าเธอสนใจฉันอยู่”
หลงตัวเองที่สุด ฉันก็แค่สอดรู้สอดเห็นตามประสาเด็กสาวคนหนึ่งเท่านั้นเอง
“ฉันอ่านสมุดโน้ตนั่นแล้ว ไอ้ข้อความยาวๆที่นายเขียนนั่นคิดเองหรือลอกใครมา”
“ฉันก็มีหัวสมองอันชาญฉลาดคิดเองบ้างไม่ได้เหรอ”
“ถ้าอย่างนั้นนายเขียนให้ผู้หญิงคนนั้นเหรอ?”
ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากันตรงๆ แต่ฉันก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มัน ‘สงัด’ จนเกินไป ฝั่งตรงข้ามเหมือนจะพิมพ์อะไรมาแล้วก็ลบไป พิมพ์แล้วก็ลบไป แล้วก็หายไปเลยจนฉันต้องเป็นฝ่ายพิมพ์ซ้ำ
“ไม่ต้องเล่าก็ได้”
“เธออยากรู้ไปทำไม สนใจฉันแล้วเหรอ”
“ฉันอยากรู้เหตุผลที่นายคิดสร้างความทรงจำกับฉัน เพราะบอกกันตรงๆนอกจากนิยายลูกกวาดแล้วไอ้การที่คนเราจะมาตื๊อเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากการที่เธอเมาแล้วจูบเขา มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ในปัจจุบัน แต่นายทำ”
“เพราะฉันเป็นพระเอก”
อยากจะอ้วกใส่แป้นพิมพ์แต่ติดที่ฉันไม่อยากจะมานั่งทำความสะอาดทีหลัง
“ถ้านายอยากจะสร้างความทรงจำกับฉันล่ะก็ นายต้องเปิดใจกับฉันให้มากกว่านี้ ถ้าอยากจะหาใครสักคนร่วมชะตากรรมหรือเล่นเกมไปกับนายด้วย นายควรจะบอกถึงที่มาที่ไปและกติกา ไม่มีใครอยากลงแข่งขันโดยที่ไม่รู้ว่าต้องไปเจอกับอะไรหรอก”
“เธออยากรู้อะไรกันแน่”
“เหตุผลของการเป็นคู่เดตของนาย”
“ความรัก”
“รัก?”
“ฉันอยากจะมีความรักอีกครั้ง...ความรู้สึกที่ใจเต้นเวลาเห็นเขาคนนั้นมีความสุข มีรอยยิ้ม หรือเศร้าใจไปกับเขาและเขาก็เศร้าใจไปกับเรา”
“แล้วนายคิดว่าฉันจะเป็นคนนั้นให้นายได้อย่างนั้นเหรอ”
“ถ้าเธอเปิดใจให้ฉัน บางทีเราสองคนอาจจะเป็นคนคนนั้นของกันและกันก็ได้”
ฉันนิ่งไปนาน ช่างเป็นการคุยกันอย่างมีสาระที่สุดเท่าที่เคยเผชิญหน้ากันเลย
“ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าความรักมันคืออะไร เคยแต่แอบรักรุ่นพี่ที่โรงเรียนแต่ไม่เคยได้รับความรู้สึกกลับ ดังนั้น...ฉันจะลองเปิดใจกับนายดู แต่ฉันอาจจะไม่เหมือนผู้หญิงคนที่นายเคยรักหรอกนะ”
“ใช่ เธอไม่เหมือน”
“และตอนนี้ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายแม้แต่น้อยเลยด้วย”
“ฉันเองก็เหมือนกัน”
“ถ้าจะลงสนามด้วยการเล่นเกมรักกัน เราต้องทุ่มกันเต็มที่ นายคิดเหมือนฉันมั้ย”
“คิดเหมือนกัน...สำหรับครั้งนี้ เราจะลงสนามและทำให้ความรู้สึกของเราสมเหตุสมผลสมจริงสมจังที่สุด”
“ได้ ตกลงตามนี้”
“งั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป เราจะทำตัวเหมือนแฟนกัน”
“ฉันงอนได้ใช่มั้ย”
“ได้”
“ฉันโวยวายได้ใช่มั้ย”
“ใช่”
“ฉันหึงได้ใช่มั้ย”
“ฉันก็จะหึงเธอเหมือนกัน”
“ถ้าอย่างนั้นตกลง”
“เราเป็นแฟนกันแล้ว”
ความคิดเห็น