ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fire Burning ภารกิจรักร้อนซ้อนกลหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : เรื่องวุ่นวายหลังโรงเรียน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.13K
      13
      5 ม.ค. 57

    2

    เรื่องวุ่นวายหลังโรงเรียน

     

    ฉันขอร้องให้พระเพลิงออกไปคุยกับฉันที่ร้านกาแฟกันตามลำพัง ย้ำ! ตามลำพัง แต่ฉันไม่เข้าใจว่า นังพี่สาวตัวดีของฉันทำไมจะต้องมาด้วยแม้จะนั่งกันคนละโต๊ะแต่ฉันรู้ดีว่านางไม่ได้คิดจะมากินกาแฟที่ชอบด่าบ่อยๆว่าเหมือนน้ำล้างเท้าแน่ๆ

    “คำถามแรก นายตามหาฉันเจอได้ยังไง”

    “พี่เธอส่งข้อความจากในเฟสฯมาหาฉัน”

    “พี่ฉันน่ะนะ O_o

    ยัยตัวยุ่ง ทำไมมีนางแล้วพระเจ้ายังสรรสร้างให้พ่อผลิตฉันออกมาด้วย T^T

    “แต่พี่เธอส่งมาในเชิงเป็นห่วงมากกว่า ถามว่าฉันเป็นใคร ทำไมเอารูปน้องสาวเขามาขึ้นหราอย่างนี้ พอคุยกันได้สักพักฉันเลยขอที่อยู่ของเธอเพื่อจะได้คุยกันให้รู้เรื่อง พี่เธอก็เลยให้ที่อยู่ฉันมา”

    “ยัยนั่นไม่ได้คิดจะให้คุยให้รู้เรื่องหรอก”

    “อะไรนะ”

    “เปล่า!

    ไม่มีทางที่พี่ไอซ์จะทำให้เรื่องนี้มันง่าย พี่ฉันน่ะขี้แกล้งและเกลียดฉันอย่างกับอะไรดี การที่เรียกอีตานี่มาถึงบ้านก็เพียงเพื่อที่จะแกล้งให้ฉันทำหน้าแบบ =[]=!! โอ้มายก้อด อะไรแบบนี้เพื่อจะได้หัวเราะเสียงดัง ก๊ากกกกก” ทีหลัง ฮึ่ย!

    “แกมองหน้าฉันทำไม” พี่ไอซ์

    “ฉันรู้สึกว่ามันเป็นภาพที่สวยดีเวลาเห็นพี่นั่งอยู่ในร้านกาแฟที่มักจะบอกว่ารสชาติเหมือนน้ำล้างจาน”

    “ฉันไปพูดแบบนั้นตอนไหน”

    “ทุกครั้งที่เดินผ่านร้านนี้ตอนกลับจากโรงเรียน”

    เพราะเรานั่งกันคนละโต๊ะ เจ้าของร้านเลยได้ยินชัดเจน พี่ไอซ์ทำหน้ากระฟัดกระเฟียดแล้วเดินออกจากร้านไปโดยทิ้งแก้วกาแฟเอาไว้ แน่นอน...ไม่ได้ดูดสักอึก!

    เอาล่ะ...ถ้านี่เป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆถือว่าฉันทำได้สำเร็จ ในที่สุดฉันก็กำจัดพี่สาวที่ต้องการจะมาสอดแนมออกจากร้านไปได้

    “เธอไม่ค่อยถูกกับพี่สาวเหรอ”

    “พี่ไอซ์เกลียดฉัน”

    “ไม่หรอก พี่เขารักเธอ”

    “คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้! แล้วทำไมฉันต้องเล่าเรื่องครอบครัวฉันให้นายฟังด้วย....” ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วเข้าเรื่อง “มาคุยกันในเรื่องของเราดีกว่า”

    “เยี่ยมไปเลย ฉันชอบคำนี้ ฉันจะจดมันเอาไว้ในสมุด ‘Memory books’ ของเรา”

    “อะไรคือเมโมรี่บุ๊ค”

    “สมุดโน้ตแห่งความทรงจำไง ฉันซื้อมาเก็บเอาไว้เพื่อบันทึกเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับเรื่องของเรา”

    เขาส่งสมุดบ้าอะไรนั่นให้ฉันเปิดอ่าน พอเปิดมาหน้าแรกก็พบว่ามีรูปฉันกับเขาแปะอยู่ด้านหน้า เป็นรูปที่ฉันถ่ายตอนเมาซึ่ง...ฉันจำอะไรไม่ได้เลย T^T แถมในนั้นยังมีปากกาขีดๆเขียนๆว่า วันแรกของเรา...เธอจูบ ผม’’

    น่าอับอายมาก...ที่ฉันไปจูบผมเขา TTOTTT

    “อย่าฉีกนะ ไม่งั้นเธอตาย!

    =[]=

    ราวกับเขาอ่านความคิดของฉันออก พระเพลิงดึงสมุดไปจากมือฉันแล้วเปิดออกอย่างเบามือก่อนจะหยิบปากกาที่พกติดตัวมาได้แล้วทำเป็นสัมภาษณ์ฉันในทันที

    “เธอชื่อน้ำสินะ...น้ำเฉยๆเหรอ ทำไมใครๆก็ชื่อน้ำ”

    “แล้วทำไมใครๆในโลกนี้จะชื่อน้ำไม่ได้”

    “มันเชย”

    “ชื่อฉันไม่เชย! จริงๆแล้วฉันมีชื่อเต็มๆว่า...” ขอเวลาคิดแป๊บนะ ชื่ออะไรนะที่จะไม่ซ้ำกับคนอื่น

    “ชื่อตัวเองเธอยังต้องนึกด้วยเหรอ ว่ามาสิ เธอมีชื่อเต็มๆว่าอะไร”

    “น้ำสรรพรส...นี่คือชื่อเล่นของฉัน”

    =__= นี่มันชื่อคนเหรอ ทำไมชื่อเล่นเธอมันถึงได้ยาวได้ขนาดนี้ แล้วชื่อจริงล่ะ”

    ทำไมฉันจะต้องบอกเขาละเอียดขนาดนั้น! เขาคิดว่าตัวเองทำงานอยู่สำมโนประชากรแห่งประเทศไทยรึไงกัน!

    “ฉันชื่อ น้ำสรรพรสสุดแสนอร่อยดี

    “ฉันล่ะทึ่ง!

    “ไพเราะล่ะสิ”

    “อยากเห็นหน้าพ่อแม่ของเธอเลยทีเดียวกับการสร้างสรรค์ชื่อแบบนี้ แต่ก็เอาเถอะ ฉันจะเรียกเธอว่า สัปปะรดก็แล้วกัน”

    “จะบ้าเหรอ ทำไมไม่เรียกฉันว่าน้ำ หรือน้ำสรรพรสสุดแสนอร่อยดี”

    “ชื่อเธอยาวกว่าชื่อกรุงเทพมหานครอีกใครจะไปเรียกได้! อีกอย่างฉันไม่อยากเรียกว่าน้ำ...เพราะใครๆก็เรียกกัน คนเป็นแฟนเขาควรจะเรียกชื่อที่ไม่เหมือนใคร...เอาล่ะฉันจดเอาไว้แล้ว ฉันจะเรียกเธอว่า ยัยสัปปะรด

    “ฉันก็จะเรียกนายว่า...พระ!

    “ฉันชื่อพระเพลิง”

    “ถ้าใครๆก็เรียกพระเพลิงฉันจะเรียกนายว่าพระ”

    “แล้วถ้ามีคนกราบไหว้ฉันตอนเธอเรียกล่ะ”

    “นายก็ตอบ เจิรญพร ไปสิ”

    ฉันกับพระเพลิงต่างจ้องตากันสุดฤทธิ์เพราะไม่มีใครคิดที่จะยอมแพ้ใคร พระเพลิงก้มลงจดอะไรยิกๆในสมุดนั่นแล้วถอนหายใจ

    “ตอนเธอเมาเธอน่ารักกว่านี้ แต่ไม่เป็นไร คิดซะว่ามันเป็นกรรมของฉันที่ได้เจอเธอและคิดจะร่วมทางไปกับเธอ”

    “ร่วมทางบ้าบออะไร”

    “วันนี้พอแค่นี้ ฉันได้รู้จักเธอมากขึ้นแล้ว ไว้เจอกันใหม่”

    “เจอกันใหม่?”

    เขาลุกขึ้นแล้วเตรียมจะเดินกลับแต่ฉันวิ่งไปขวางหน้าเขาเอาไว้แล้วกางแขนกางขา

    “ฮัดช่า!!!

    “เธอจะเต้นระบำแขกหรือไงมาฮัดช่า =__= ไม่เท่เลยยัยสัปปะรด”

    ทำไมฉันต้องเจ็บปวดเวลาเขาเรียกว่า สัปปะรด ด้วย ฉันไม่เข้าใจ T^T

    “อย่าเพิ่งไป ที่ฉันมายืนขวางเอาไว้ก็เพื่อจะคุยกับนายต่างหาก หมายความว่ายังไงไอ้ที่ว่า แล้วเจอกันใหม่ น่ะ”

    “ก็แปลว่าเราจะต้องพบเจอกันเรื่อยๆ สร้างประสบการณ์ดีๆร่วมกันน่ะสิ”

    “นายเป็นอะไรกับการสร้างความทรงจำนักหนาวะ นายรู้มั้ยว่ารูปเราสองคนที่ว่อนในเฟสบุ๊คไปทั่วมันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเด็ก ม.5 อย่างฉันมากแค่ไหน นายรู้หรือเปล่า”

    “เธอ ม.5 แล้วเหรอ ฉันนึกว่าเธอปี 4 เกือบเรียกพี่สาวแล้ว แต่ยังเกรงใจอยู่”

    “กรี๊ด”

    “เสียงกรี๊ดไม่เป็นสรรพรส”

    “อย่ามาล้อชื่อฉันนะ”

    “เอาเป็นว่าเราจะได้เจอกันอีก อย่าคิดว่าเธอเสียหายสิ มองในแง่ดี หน้าตาเหมือนหมากินข้าวไม่อิ่มอย่างเธอได้เจอคนอย่างฉันที่อยากจะสร้างความทรงจำด้วยมันเก๋จะตายไป >_O ลัลล้า!!!

    พระเพลิงวิ่งกระโดดๆราวกับกระต่ายป่าผู้มีความสุขเหลือคณา จากนั้น...รถสิบล้อก็วิ่งพุ่งมาชนดังตูม!!!

    แน่นอน...ฉันคาดหวังว่าให้มีรถสิบล้อวิ่งพุ่งมาชน แต่ไม่มี =__= นั่นแปลว่าเขายังคงมีชีวิตอยู่ และเราทั้งคู่จะต้องได้เจอกันอีกแน่ ฮึ่ย! พี่ไอซ์ ฉันจะต้องเล่นงานพี่ให้ได้คอยดูสิ ฉันตรงกลับไปบ้านแล้วขึ้นไปหาพี่สาวที่กำลังนั่งดูเดอะวอยซ์ด้วยใบหน้าฝันเคลิ้ม พอฉันกระทืบเท้าเสียงดังปัง (พื้นห้องนอนเป็นพื้นไม้) พี่สาวฉันหันมามองแว่บหนึ่งแล้วมองเดอะว้อยซ์ต่อ

    “แกคงต้องเจ็บเท้ามากแน่ๆ”

    “พี่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง พี่ทำแบบนี้ทำไม”

    นิ้วโป้งเท้าฉันซ้นหรือเปล่านะT^T ไม่น่าทำเท่ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าการกระทืบเท้าไม่ช่วยให้อะไรมันดีขึ้น T^T

    “การดูเดอะวอยซ์ของฉันมันผิดตรงไหนไม่ทราบ ฉันไม่เคยแม้แต่จะแชร์เดอะวอยซ์ลงเฟสบุ๊คด้วยซ้ำ ไม่เหมือนแกหรอก”

    “ไม่ต้องมาประชดฉันเลย พี่ก็รู้ว่าคนที่แชร์ไม่ใช่ฉัน แต่ฉันแปลกใจมากกว่าว่าพี่บอกที่อยู่กับพระเพลิงไปทำไม”

    “ชื่อเขาเท่เนอะ”

    “พี่ไอซ์”

    “แกกล้าดียังไงมาขึ้นเสียงใส่ฉันอีเด็กผี -__-++

    =[]= ฉันไม่ได้ขึ้นเสียง มันเป็นการเปล่งเสียงจากหลอดลมที่ดังเกินไป (><  )(  ><) ไม่! ฉันจะไม่ยอมพี่อีกแล้ว พี่ต้องการจะทำลายชีวิตฉันใช่มั้ยถึงได้เรียกให้พระเพลิงมา ฉันจะต้องถูกเกาะติดหนึบไปจนถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้”

    “นี่แกยังคุยกับเขาไม่รู้เรื่องอีกเหรอ -__- นึกว่าแกจะคุยกับเขาจนเคลียร์แล้วต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปเสียอีก”

    “ถ้ามันง่ายอย่างนั้นก็ดีสิ เขายังบอกอีกว่า แล้วเจอกันใหม่ มันแปลว่าเขาจะต้องมาเจอฉันอีกแน่นอน เพราะพี่คนเดียว”

    “แค่แกไล่เขาก็ไปแล้ว”

    “เขาไม่ไป เขามีสมุดส่วนตัวเพื่อบันทึกเรื่องราวระหว่างฉันกับเขา โอ๊ย อะไรเยอะแยะไปหมด ฉันโกรธพี่แล้ว พี่ทำให้ชีวิตของฉันพัง”

    “ถ้าแกไม่กินเหล้าไปแต่แรกชีวิตแกก็ไม่พังหรอก ไม่ต้องมาโทษฉัน”

    “เพราะพี่!

    “งั้นเราให้ผู้ใหญ่จัดการกันเถอะ พ่อหรือแม่ดี?”

    “พี่ขู่ฉัน TOT พี่รู้ว่ายังไงฉันก็จะไม่บอกพ่อกับแม่”

    “เก่งมาก เอาไปสิบกะโหลก เลิกรบกวนฉันเสียทีจะดูเดอะวอยซ์!

    ฉันถูกถีบกระเด็นออกมาจากห้องโดยที่ไม่ได้ใจความสำคัญอะไรจากพี่สาวฉันเลยว่าทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร แต่ช่างเถอะ ชีวิตฉันมันก็น่าสงสารอย่างนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้าจะมีไอ้พระเพลิงอะไรนั่นเข้ามาในชีวิตอีกคนนึง

    ทำไมฉันจะทำไม่ได้!!!

     

    แต่เรื่องราวในโซเชียลเนตเวิร์คมันส่งผลกระทบกับฉันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับคนในโรงเรียน นี่คือจันทร์แรกที่ฉันได้มาเรียนหลังจากเกิดเรื่อง สายตาทุกคนตอนมองมาที่ฉันขณะเดินเข้ามาในโรงเรียนหรือเปลี่ยนคาบเรียนล้วนเต็มไปด้วยเสียงงึมงำๆ บ้างก็หัวเราะ บ้างก็พูดเสียงดังๆให้ฉันได้ยินอย่างตั้งใจ

    “แฟนเธอหล่อดีนะ                สงสัยต้องไปห้อยป้ายบ้างแล้วล่ะ ฮิ้วววว ^3^

    “เธอไม่คิดว่าการทำแบบนี้มันตลกเหรอ เป็นฉันนะอายตายชักเลย!

    แต่ละเสียงลือเสียงเล่าอ้างไมว่าจะดีหรือไม่ดีมันก็ทำให้ฉันอยากจะเดินโซเซแล้วกระโดดลงจากระเบียงด้วยความอับอายเสียเหลือเกิน แต่ทว่า...

    “หุบปากไปเลยไอ้พวกหมา!

    เสียงของใครคนหนึ่งที่เป็นทึ่พึ่งพาให้ฉันได้ในยามยากเสมอก็ปรากฏกายขึ้น *0* พยักฆ์กระชากคอเสื้อเพื่อนผู้ชายแล้วเขย่าเหมือนกำลังถือขวดน้ำอัดลม

    “เฮ้ยๆ พวกเราแซวเล่นหน่อยเดียว”

    “มีปากก็ควรจะเอาไว้กินข้าวหรือเอาไปเลียขาอาจารย์ไม่ใช่มาแซวเพื่อนแบบนี้ ฉันไม่ชอบ อย่าทำอีกเข้าใจมั้ย”

    “อื้อ TT^TT

    “พยักฆ์ของฉันนนนน >O<

    ฉันเข้าไปกอดแขนพยักฆ์ ส่วนเพื่อนที่เหลือต่างวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง พยัคฆ์มองฉันอย่างเย็นชาแล้วแกะมือที่ฉันเกาะกุมแขนเขาเอาไว้ออก

    “ปล่อยฉัน”

    “ฉันไม่ปล่อย อยากจะกราบขอบคุณด้วยท่าเบญจางคประดิษฐ์วันละหลายๆหนที่พระเจ้าส่งฉันมาเกิดแล้วส่งนายมาเป็นบอดี้การ์ดให้ด้วย”

    “เธอทำตัวเอง ใครจะไปตามช่วยเธอได้ตลอด...บอกให้ปล่อยยังไงเล่า!

    เขาผลักฉันออก ฉันเซไปกระแทกกับเสาปูนใกล้ๆแล้วเบะปากทำหน้าจะร้องไห้ พยัคฆ์ที่พอเห็นว่าฉันมีน้ำตาปริ่มๆเขาก็รีบปลอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาอย่างนั้น

    “ฉ...ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ ก็เธอมาเกาะแขนฉัน มันน่ารำคาญ”

    “แต่ก่อนไม่เห็นนายจะรำคาญเลย TT^TT

    “เธอมีแฟนแล้ว เธอเลยน่ารำคาญ”

    “นายหมายถึงพระเพลิงน่ะเหรอ”

    “มันชื่อพระเพลิงด้วยเรอะ ดี...ดีมาก!

    นั่นเลยทำให้พยัคฆ์ยิ่งโกรธ ฉันเลยทำเป็นล้มลงแล้วกอดขาเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน อ้อนวอนขอชีวิต

    “ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเลยพยัคฆ์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นฉันอธิบายได้”

    “อธิบาย”

    เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ ฉันก็เลยต้องอธิบายทั้งๆที่เขายังหันหลังและฉันยังคงกอดขาเขาเอาไว้ ขนหน้าแข้งบางเส้นทิ่มจมูกฉันด้วยซ้ำ -..-

    “เรื่องมันมีอยู่ว่า...”

    เอาเป็นว่าฉันจะไม่อธิบายคนอ่านอ่านซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะทุกคนได้ผ่านประสบการณ์เดียวกับฉันมาจนหมดแล้วตั้งแต่วันหยุด พยัคฆ์พอได้ยินอย่างนั้นก็ทำหน้าแปลกใจแล้วหันมาพยุงให้ฉันลุกขึ้นยืน

    “เธอเมา เธอกินเหล้าเรอะ!””

    “ใช่”

    “เธออายุเท่าไหร่กันถึงได้ไปแตะของแบบนั้น มันอันตรายมากนะ มีที่ไหนคนเมาแล้วเหมือนหน้าจอดับ จำความได้อีกทีทุกอย่างก็เกิดขึ้นไปแล้ว”

    “มันเกิดขึ้นกับฉันนี่แหละ ผลกระทบจากวันนั้นมันสร้างความเจ็บปวดให้ฉันจนถึงวันนี้ TT^TT ตั้งแต่มาโรงเรียนเพื่อนก็เอาแต่ซุบซิบนินทา ไอ้เรื่องนั้นยังไม่เท่าไหร่ ตอนนี้ฉันหลบหน้าพี่แอมแปร์ตั้งแต่เช้า ตอนเคารพธงชาติฉันก็หนีไปยืนทำความเคารพในห้องน้ำเพราะกลัวจะเจอ ฉันสาดเหล้าใส่พี่เขาเลยนะ TTOTT

    “ทำอะไรเอาไว้เธอก็ควรจะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง”

    “แปลว่าฉันต้องรับผิดชอบที่ไปจูบผมพระเพลิงด้วยอย่างนั้นเหรอ”

    “ฉันจะไปคุยกับหมอนั่นให้ ฉันจะไล่มันไปจากชีวิตเธอให้เอง”

    “จริงเหรอ นายทำได้เหรอ O_O

    “พวกผู้ชายเขาคุยกันด้วยหมัด”

    “เฮ้ย =[]= ไม่ต้องรุนแรงอย่างนั้นหรอก”

    “ผู้ชายต้องใช้ความรุนแรงเข้าสู้ นี่คือกฎ...เธอไปนัดมันมา วันนี้ได้เลยยิ่ง...”

    เขายังพูดไม่ทันจบ โทรศัพท์ของฉันก็ดังเป็นเสียงข้อความ แล้วก็อย่างกับรู้ว่าฉันกำลังพูดถึงอยู่...ไอ้ตายยากก็ส่งข้อความมาหาฉันทำนองบังคับ แม้ไม่ได้ยินเป็นเสียงแต่ฉันสัมผัสได้เลยล่ะว่านี่คือการบังคับแหงๆ

    ฉันจะไปรอเธอที่หน้าโรงเรียน ออกมาเจอกัน สวัสดี

    “วันนี้นายจะได้เจอเขา”

    “นี่คือเรื่องดี”

    พยัคฆ์เดินจากไปทิ้งให้ฉันได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเขาตามไปอย่างนั้น จริงๆฉันก็รู้สึกดีใจหรอกนะที่พยัคฆ์จะแก้ปัญหาให้ แต่การแก้ปัญหาด้วยกำลังมันไม่ใช่ทางออกที่ดีเลย ฉันขอเล่าเรื่องพยัคฆ์หน่อยก็แล้วกัน เผื่อทุกคนจะยังไม่รู้จักเขา

    พยัคฆ์...แค่ชื่อ เวลาใครได้ยินก็รู้สึกว่าเขาเป็นน่ากลัว อันที่จริงจากบุคลิกของเขาแล้วใครเห็นก็ต้องรู้สึกได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาล เขาเป็นคนผิวสีเข้มแต่ไม่ได้ดำ หน้าตาคมเข้มชนิดที่ว่ารุ่นน้องตามกรี๊ดเลยล่ะ เขาเท่เพราะเขาเป็นนักดนตรีและเป็นนักกีฬาชกต่อยชั้นดีจนเป็นที่เลื่องลือของฝ่ายปกครอง ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวลือว่าเขาเป็นพวกนักเลงและเป็นเอเย่นค้ายาบ้าด้วยซ้ำ

    แต่ข่าวลือก็คือข่าวลือ...

    เจ้าตัวถึงแม้จะดูดุดันแต่เขามักจะใจดีเสมอ พี่ไอซ์มักจะพูดว่าพยัคฆ์หลงรักฉันแต่ฉันไม่เคยเชื่อเพราะเรารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาล ส่วนหนึ่งที่พยัคฆ์คอยดูแลฉันเสมอเพราะครั้งหนึ่งตอนเด็กเขาเคยแกล้งจนฉันแขนหักและตั้งแต่นั้นเขาก็รู้สึกผิดเลยปกป้องฉันมาโดยตลอด

    เห็นมั้ยว่าเขาเป็นเพื่อนที่ดี...

    ไม่เหมือนพี่สาวฉันหรอก คลานตามกันมาแท้ๆแต่แกล้งฉันทุกวัน เกลียดฉันทุกตอน ไม่น่ารักเลย!!!

    “ฉันรู้สึกได้ว่าแกกำลังคิดถึงฉันในทางที่ไม่ดี”

    “พี่ไอซ์ O_o

    ผีอะไรไปกระซิบเจ้าตัวเขาวะ ถึงได้มาโผล่ฉันจากทางด้านหลังได้เนี่ย

    “ทำไมไม่เข้าเรียน แกมายืนเล่นเอ็มวีอะไรอยู่ตรงนี้ และฉันสัมผัสได้ว่าแกคิดถึงฉันอยู่”

    พี่สาวแสนสวยของฉันทำเป็นกอดไหล่แล้วพูดไปยิ้มไป คนที่มองจากไกลๆจะมองเหมือนกับว่าพี่สาวกำลังให้กำลังใจกับน้องสาวอย่างฉันเต็มที่

    “ฉันไม่เคยคิดถึงพี่...ในทางที่ดี”

    “แกเหมือนฉันเลย ก๊ากกกกก”

    “แล้วทำไมพี่ถึงไม่เข้าเรียน มาทักฉันทำไม”

    “ฉันอยากรู้ว่าตอนนี้แกตายไปหรือยังกับสายตาของคนมากมายที่จ้องแกอยู่ วันนี้มีข่าวแกเต็มโรงเรียนไปหมด แกกลายเป็นคนดังกว่าฉันอีก”

    “พี่เลิกซ้ำเติมฉันเสียทีเถอะ” ฉันสะบัดแขนพี่ไอซ์ออกแล้วกอดอกจ้องมองพี่สาว “แค่นี้ฉันก็ทุกข์ใจจะแย่อยู่แล้ว ไหนตอนเย็นฉันจะต้องเจอกับพระเพลิงอีก ดวงฉันช่วงนี้มันตกพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกหรือไงก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากมาโรงเรียนแล้ว แงๆๆๆ”

    ฉันทำหน้าเบะจะร้องไห้งอแงอีกครั้ง แต่พี่ไอซ์ชี้หน้าแล้วทำเสียงเข้ม

    “หุบปาก ห้ามร้องไห้ออกมา ไม่งั้นฉันจะตบหน้าแก”

    “พี่ไม่เข้าใจความทุกข์ของฉันหรอก”

    “ฉันสวยเกินกว่าจะเข้าใจความน่าเกลียดของแกได้ หุบปากเดี๋ยวนี้ อย่าร้องนะ ฉันฟาดแกจริงๆนะ”

    “ไม่ต้องมาทำเสียงเหมือนแม่เลย”

    “วันนี้ฉันจะเลี้ยงน้ำแก ห้ามร้องไห้...เอ๊ะ ปาดน้ำตาขึ้นไปเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่ชอบ ห้ามร้อง”

    “ทำไมพี่ต้องสั่งให้ฉันห้ามร้องด้วย ฉันทุกข์ใจร้องไห้ไม่ได้หรือไง”

    “แกต้องหัวเราะ หัวเราะออกมา เดี๋ยวนี้”

    “ไม่!

    “แกทำให้ฉันโกรธจริงๆแล้วนะ หัวเราะ!

    “ฮือๆ”

    “ฉันจะไปฆ่ามัน!

    พี่ไอซ์เดินดุ่มๆจากฉันไป ฉันที่กำลังจะร้องไห้เลยได้แต่สะอึกแล้วงงกับคำของพี่สาว ฉันจะไปฆ่ามัน คือ...พี่สาวฉันหมายถึงใครเหรอ???

     

    พอตกเย็นฉันก็ได้รับข้อความจากพระเพลิงอีกครั้งว่า ฉันรอเธออยู่ ออกมาเร็วๆเข้า ซึ่งคำว่าเร็วๆสำหรับฉันมันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันเดินได้ช้าที่สุดตั้งแต่เคยเดินมาราวกับตัวเองใส่เกี๊ยะญี่ปุ่นเดิน แต่อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดป่ะ TOT ฉันหนีไม่พ้นอยู่แล้ว

    เอาวะ วันนี้ฉันต้องคุยให้รู้เรื่อง

    และเมื่อเดินมาถึงหลังโรงเรียน พระเพลิงกลายเป็นเป้าสายตาของใครหลายๆคนเพราะต้องยอมรับว่า...เขาหน้าตาดีมาก แถมยังอยู่ในชุดนักศึกษาที่แลดูสะอาดสะอ้าน พอเห็นฉันเขาก็รีบโบกไม้โบกมือเพื่อบอกว่า ฉันอยู่ตรงนี้ ซึ่งนั่นทำให้ฉันอยากจะ...

    ฟิ้ว!!!

    เอ๊ะ ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรวิ่งผ่านตัวฉันไป มันว่องไวกว่าแสงและเร็วกว่าเสียง เอ๋? ทำไมฉันคุ้นกับแผ่นหลังนั่นจังหว่า...

    “พี่ไอซ์!

    ไม่ผิดแน่ ฉันรีบวิ่งตามไปพี่ไอซ์ไปจนถึงด้านหน้า พี่ไอซ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงกระโดดข่วนหน้าพระเพลิงจนเจ้าตัวร้องจ๊าก!

    “เฮ้ย อะไรวะเนี่ย”

    “ทำยังไงแกก็จะไม่ไปจากชีวิตน้องของฉันใช่มั้ย ถ้าไม่ไล่แกฉันไล่เอง ตาย!!!

    ท...ทำไมพี่สาวฉันถึงได้....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×