ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Demons Aliance พันธมิตรรักร้าย

    ลำดับตอนที่ #6 : Lesson 6: ฤทธิ์เดชอสูร

    • อัปเดตล่าสุด 1 เม.ย. 57


    6

    ฤทธิ์เดชอสูร

     

    ไม่มีอาหารขาย เท่ากับนักเรียนที่นี่จะไม่มีอะไรกินกันในตอนกลางวัน!!!

    ทุกสายตาจ้องมองฉันอย่างอาฆาต ความหิวก็ดี ความไม่เข้าใจในเหตุผลก็ดี หรือมองเห็นต้นเหตุมากกว่าคนที่ทำให้เกิดเรื่องก็ดี เอาเป็นว่าตอนนี้ไม่มีอะไรที่เป็นผลดีกับฉันเลยแม้แต่น้อย แผนของอสูรมาแบบเนิบๆแต่ได้ผลดีชนิดที่ผิดคาด!

    “เธอมันตัวซวย!

    ตุบ!

    ยางลบก้อนเขื่องๆปาใส่หัวฉันจนเซไปอีกด้านด้วยความที่ไม่ได้ตั้งรับ โรสที่เห็นอย่างนั้นลุกขึ้นพรวดออกตัวปกป้องฉันทันที

    “ใครทำแบบนี้กัน! พวกเธอไม่ได้กินคนเดียวซะเมื่อไหร่กัน เมเองก็ไม่ได้กิน!

    “เพื่อนเธอไม่ได้กินก็สมควรแล้ว แต่พวกเราไม่ได้กินมันไม่เกี่ยวข้องกัน ทำอะไรทำไมไม่รับเอาไว้เอง พวกเราที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรทำไมต้องมารับเคราะห์กรรมที่เธอทำด้วย”

    และดูเหมือนการก่อม็อบจะไม่จบลงง่ายๆ พอมีคนหนึ่งปาของสิ่งหนึ่งมา ของอีกสิ่งหนึ่งที่มาจากอีกคนหนึ่งก็พุ่งตรงมาทางฉันและโรสทั้งคู่อย่างไม่สนใจเป้าหมายอีกต่อไป

    “เลิกโวยวายกันซะที!

    เสียงประกาศกร้าวของเทวะทำให้ทุกคนหยุดทุกการกระทำและการเคลื่อนไหวราวกับเสียงของสวรรค์ที่สั่งลงมาได้ พนักงานพิซซ่ากว่า 10 คนหิ้วถาดกันคนละสิบกล่องแล้ววางลงบนโต๊ะอาหารจนกองสูงท่วมหัว

    “ไม่ต้องโทษใครทั้งนั้น ในเมื่อวันนี้ไม่มีอาหารขาย ก็กินพิซซ่ากันไปก่อนแล้วกัน...ฉันเลี้ยง”

    O_O

    ทุกคนดูเหมือนจะลืมไปชั่วคราวว่าเพิ่งจะก่อม็อบ ต่างวิ่งกันมาที่ถาดพิซซ่าแล้วหยิบกันไปคนละชิ้นสองชิ้น นี่คนรวยอย่างนั้นเหรอ แย่งกันกินอย่างกับขอทาน =__=

    “เธอเองก็ต้องกินเหมือนกัน”

    “เทวะ...”

    เจ้าตัวส่งยิ้มให้ฉันแล้วยื่นมือมาวางแหมะเอาไว้บนหัวเหมือนกำลังดูแลหมาตัวน้อย

    “บอกแล้วไงว่าฉันจะปกป้องเธอเอง”

    “แต่ค่าพิซซ่า...”

    “ฉันรวย”

    คำพูดง่ายๆแต่ได้ใจความว่า รวย ทำให้ฉันหลุดหัวเราะออกมาพร้อมทั้งมองบรรยากาศรอบๆที่ผ่อนคลายขึ้น

    “วันนี้นายเลี้ยงพิซซ่าได้ก็จริง แต่นายคงเลี้ยงไม่ได้ทุกวันหรอก อสูรเล่นงานพวกพ่อค้าแม่ค้าที่ขายกับข้าวซะไม่ต้องทำมาหากินแบบนี้”

    “ใช่ ไม่มีใครกินพิซซ่าได้ทุกวันหรอก”

    เทวะพูดเพียงเท่านั้นแล้วไม่ได้ต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป จนกระทั่งผ่านไปอีกหนึ่งวันและวันนี้ก็ยังคงไม่มีอาหารมาขายตามเดิม แต่ทว่า...กลับมีหมูกระทะวางเรียงรายกันทุกโต๊ะพร้อมกับเครื่องเคียงมาย และแน่นอนว่า...

    “วันนี้นายเลี้ยงหมูกระทะ”

    “เพราะคนเราไม่สามารถกินพิซซ่าทุกวันได้ ฉันเลยเปลี่ยนเมนูบ้าง”

    “ฉันหมายถึงว่าคนเราไม่สามารถเลี้ยงอาหารคนทั้งโรงเรียนได้ทุกวัน!

    “ฉันรวย”

    “เราต้องจริงจังกับการคุยเรื่องนี้แล้วนะ เราแก้ปัญหากันที่ปลายเหตุ!

    “ใช่ ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุมันไม่ได้อยู่ที่อาหารแต่มันอยู่ทีเธอ”

    นี่ไม่ใช่เสียงของเทวะ แต่เป็นเสียงที่ทำให้คนทั้งโรงอาหารเงียบกริบเพราะหยุดทุกการเคลื่อนไหวเนื่องจากอยากเห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่ออสูรเดินมายืนคร่อมหัวฉันกับเทวะที่นั่งกินหมูกระทะกันอย่างเอร็ดอร่อย

    “อสูร!

    “แกนี่มันเก่งเรื่องใช้เงินแก้ปัญหาจริงๆเลยนะ” ไม่ว่าเปล่า อสูรนั่งลงข้างๆฉันแล้วเอามือเท้าคางมองเทวะผ่านเตาย่าง “แต่ก็นับว่ามีปัญญาดี”

    “ฉันเก่งในการแก้ปัญหาพอๆกับที่แกสร้างปัญหานั่นแหละอสูร คงต้องเหนื่อยไปขู่พ่อค้าแม่ค้ามากเลยสินะ ถึงกับไม่มีใครมาขายกับข้าว”

    “เรื่องข่มขู่น่ะมันงานถนัดของครอบครัวฉันอยู่แล้ว”

    “แต่น่าเสียดายที่การข่มขู่ของแกมันทำอะไรฉันไม่ได้”

    “ฉันรู้ว่าฉันขู่แกไม่ได้ ฉันเลยตัดสินใจขู่คนอื่นแทน”

    ไม่ว่าเปล่า อสูรตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้เพื่อให้ทุกคนมองเห็นเขา แล้วประกาศเสียงดังฟังชัดราวกับออกมาจากลำโพงระบบดอลบี้ฯ

    “ทุกคนฟัง ใครที่กินอาหารกลางวันที่เทวะเลี้ยงคนๆนั้นจะถือว่าเป็นศัตรูกับฉัน!

    “...”

    ทุกคนต่างชะงักกับอาหารตรงหน้า รอยยิ้มของอสูรที่ดูเหมือนเด็กกำลังสนุกกับเกมตรงหน้าทำให้ฉันหมั่นไส้จนอยากจะถีบเขาตกจากม้านั่งให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย

    “มันจะมากเกินไปแล้วนะ!” ฉันลุกขึ้นยืนบ้างอย่างเหลืออด “จะมีเรื่องก็มีกับฉันคนเดียว ทำไมต้องข่มขู่คนอื่น กดดันชาวบ้านด้วย”

    “มันเป็นวิธีของฉัน”

    “นายมันขี้ขลาด ไม่กล้ามีเรื่องกับฉันตัวต่อตัว แต่ทำแบบนี้เพื่อให้คนอื่นกดดัน รังเกียจฉัน โดยที่ตัวเองได้แต่มองอยู่หลังฉาก”

    “มันเป็นวิธีการที่โคตรฉลาด ฉันเกลียดเธอคนเดียวมันจะไปมีประโยชน์อะไร เธอเคยได้ยินมั้ยว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม เมื่อเธอไม่มีสังคม เธอก็อยู่ไม่ได้และเธอก็ไม่ใช่...มนุษย์!

    ฟิ้ววววว เพล้ง!!!

    จานใบเขื่องลอยมาจากทิศที่อยู่ไม่ไกล อะไรกัน! มีผู้กล้าท้าทายอำนาจมืดอยู่ในโรงเรียนนี้ด้วยเหรอเนี่ย และเมื่อหันไปก็ตกใจหัวใจแทบหลุดเมื่อพบว่าผู้กล้าคนนั้นคือ...

    “อย่างน้อยๆเธอก็ยังมีฉันอีกคนที่ไม่ได้เกลียด”

    มาเล่!!!

    ฉันไม่รู้ว่าหมอนี่มันบ้าบิ่นหรืออยากทำเท่อวดสาว น้องชายตัวแสบเดินอาดๆมาถึงโต๊ะฉันแล้วเงยหน้ามองอสูรที่ยืนอยู่บนเก้าอี้อย่างท้าทาย

    “รุ่นน้อง เคยเจอบ่อยๆแต่เราไม่เคยคุยกันเลยนี่นะ นายกล้าดีมากที่ออกตัวแรงขนาดนี้”

    “ฉันไม่ชอบวิธีการที่นายทำ คนอื่นเขาไม่ได้กินอาหารที่อยากจะกิน ร้านโปรดของฉันก็ไม่เปิดเพียงเพราะนายไปข่มขู่เขาไม่ให้มาขายเพื่อกดดันผู้หญิงเพียงคนเดียว สารเลว!

    “ปากร้ายด้วย”

    “ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่านายร้ายกาจได้สักแค่ไหน เห็นทำเป็นเก่งนักเก่งหนา ถ้าพ่อนายไม่ได้เป็นมาเฟีย อยากจะรู้นักว่าคนอย่างนายจะทำอะไรใครเขาได้”

    “ว่าไงนะ..”

    น้ำเสียงอสูรกดต่ำลงราวกับสัตว์ป่าคำราม น้องชายฉันเท่เหมือนกันนะเนี่ย O_o

    “ไม่แปลกใจ ทำไมถูกทิ้ง”

    “แก!!!

    พลั่ก!

    อสูรใช้ขาอันแสนจะยาวราวขาเปรตถีบเข้าที่ยอดอกมาเล่จนล้มหงายผึ่งลงไปนอนกับพื้น ทุกคนในโรงอาหารต่างวิ่งมามุงดูเหตุการณ์กันเป็นจุดเดียวแล้วยืนถ่ายคลิปกันสนุกสนาน จะเอาไปลงยูทูปกันหรือไง มันสนุกนักเหรอเห็นคนตีกันเนี่ย

    “แกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์ฉัน ฉันเป็นรุ่นพี่นะเว้ย!

    “แกไม่ได้น่านับถือขนาดนั้น ไอ้ขี้แพ้”

    มาเล่ตวัดขาแล้วเตะตัดแข้งจนอสูรล้มลง มันยิ่งกว่ามหากาพย์ไททันเพราะอสูรถูกรุ่นน้องทำให้ล้มลงได้ทั้งๆที่ใครๆต่างก็เรียกเขาว่าเป็นตำนานคนหนึ่ง

    ซึ่งฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขาทำอะไร ไม่เคยจะได้ฟังจนจบเสียที

    อสูรลุกขึ้น คว้าเตาร้อนๆด้วยสองมืออย่างลืมไปว่ามันร้อนแรงแค่ไหนหวังจะทุ่ม แต่เจ้าตัวถูกเพื่อนสองคนที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีมาห้ามเอาไว้ก่อน

    “ไอย์ ใจเย็นๆ นี่มันทำให้ตายได้เลยนะ”

    “ฉันจะฆ่ามัน! แกไม่เห็นเหรอว่ามันทำให้ฉันล้ม!

    “ไม่ใช่แค่มาเล่หรอกที่ทำให้แกล้ม ฉันเองก็ด้วย!

    เทวะที่เงียบอยู่นาน พอสบโอกาสที่ทุกคนกำลังชุลมุนก็ยกขาของตัวเองแล้วยันเข้าที่หน้าอกของอสูรที่กำลังถือเตาไฟอย่างไม่ระวังจนเตานั่นตกลงทับขาเสียงดังกร๊อบ!

    “อ๊ากกกกกกก”

    เสียงร้องโหยหวนของอสูรที่ถูกเตาทับขาสร้างความตกตะลึงพึงเพริ่ดให้กับเหล่านักเรียนในที่นั้นเป็นอย่างดี เอเดนที่เห็นสภาพของอสูรร้องโหยหวนก็ลุกขึ้นแล้วกระชากคอเสื้อเทวะ

    “แกทำเกินไปแล้วนะ”

    “เจ็บแทนผัวอีกแล้วเหรอ”

    “แก!!!

    ^^

    เทวะยิ้มให้เอเดนอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ฟาโรห์ที่เห็นท่าไม่ดีเลยมาห้ามมวยอีกยกด้วยการยืนแทรกกลาง

    “เอเดน แกอย่าเพิ่งหาเรื่องได้มั้ย พาอสูรไปห้องพยาบาลก่อน เผลอๆต้องไปเข้าเฝือกด้วยนะเนี่ย...แกก็เหมือนกันเทวะ ทำไมเล่นทีเผลอแบบนี้วะ”

    “หมั่นไส้ก็แค่นั้น เห็นมันทำตัววิเศษวิโสเหลือเกินฉันเลยอยากให้คนอื่นๆเห็นว่า...อสูรมันก็คนเหมือนเรานี่แหละ โดนเตาทับตีนก็ต้องแตกเป็นธรรมดา”

    “แกนี่มันแสบจริงๆ ไม่คุยด้วยแล้วโว้ย...เอเดน แบกอสูรกัน”

    เพื่อนซี้ทั้งสองของอสูรลากเพื่อนออกไป อสูรที่แม้จะเจ็บเจียนตายก็ยังไม่วายชูนิ้วกลางให้แล้วพูดทิ้งท้ายอย่างอาฆาต

    “ฉันจะทำลายพวกแกทั้งสามคนด้วยทุกสิ่งที่ฉันมี”

    เทวะยกนิ้วกลางให้อสูรกลับแล้วยักคิ้วให้

    “แกไม่ได้มีมือมีตีนคนเดียว!

     

    ที่บ้าน...

    หลังจากเกิดเรื่องราวในโรงเรียนวันนี้ ดูเหมือนว่ามาเล่จะกลายเป็นฮีโร่ในสายตาสาวๆเบิ้ลขึ้นไปอีกสิบเท่าราวกับเขาเป็นเฮอคิวลิสผู้พิชิต ถือดาบไล่ฟันสัตว์ประหลาดอย่างไม่กลัวตาย ในแฟนเพจโรงเรียนขณะนี้กำลังพูดถึงเรื่องของมาเล่กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่งว่าเขาช่าง

    เก่ง

    บึกบึน

    กล้าหาญ

    ยอดชาย!

    “วะฮ่าฮ่าฮ่า ^O^

    เสียงหัวเราะอันแสนจะน่าหมั่นไส้ของน้องชายฉันแลดูอุกอาจ น่าตบ และไม่ได้รู้สึกหวั่นอกหวั่นใจใดๆผิดกับพี่ไมโลที่เอาแต่ทำหน้าเครียด อันที่จริงวันนี้ที่แคนทีนพี่ไมโลเองก็เกือบจะเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้อยู่แล้วถ้าเทวะไม่ยกขาขึ้นถีบยอดอกอสูรจนเตาไฟทับใส่เท้าซะก่อน

    “แกเลิกหัวเราะแบบนี้สักทีได้มั้ย ยิ่งแกหัวเราะดังเท่าไหร่ ฉันยิ่งเครียดเท่านั้น” พี่ชายใหญ่

    “อะไรกันเฮีย คิดมากไปได้ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย อันที่จริงอสูรมันก็มีดีแค่ตำนานเท่านั้นแหละ เอาเข้าจริงๆไม่เห็นเป็นอะไรเลย โดนเตาทับตีนก็พิการได้เหมือนกัน ก๊ากกกกกกกรักกๆๆๆๆ ^O^

    “แกประมาทเกินไป ฉันไม่ไว้ใจเลย”

    “คิดมากๆ” มาเล่โบกมือขึ้นปัดอากาศอย่างไม่ยี่หระ “อสูรมันก็มีแต่ชื่อเท่านั้นแหละ ส่วนตำนานนั่นก็เป็นเรื่องที่กล่าวขานกันเฉยๆ เราก็ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง”

    “แต่เราเห็นผลงาน!

    “เดี๋ยวค่ะทั้งสองคนเลย อย่าพูดเหมือนกับว่าเมเป็นคนนอก ใครก็ได้บอกทีว่าอสูรเคยทำอะไรมา เมไม่เคยได้ยินชัดๆสักครั้ง”

    พี่ไมโลทำหน้าลำบากใจ มาเล่ที่ตอนนี้กระหยิ่มยิ้มเยาะและย่ามใจเลยพูดออกมาสั้นๆแต่ใจความชัดเจน

    “ระเบิดโรงเรียน”

    “ห๊า!!!

    “แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว อีกอย่างตัวจะกลัวอะไร นอกจากจะมีเค้าที่คอยปกป้องตัวแล้ว ยังมีเทวะที่พร้อมจะไฝว์เพื่อตัวตลอด ดูสิ อาหารกลางวันของพวกเราเทวะออกตังค์อยู่คนเดียว หมอนั่นต้องชอบตัวแน่เลย”

    “บ้า!

    “ทำเป็นเขิน ทั้งๆที่จริงๆแล้วตัวเองออกจะดีอกดีใจ คิกๆ”

    “ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”

    ฉันลุกขึ้นจากการนั่งสนทนาสุมหัวกันระหว่างพี่น้อง อยู่ๆหนังตาซ้ายของฉันก็กระตุกพรึ่บพรั่บ ใจไม่ดีเลยแฮะ...แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง?

     

    วันต่อมา...

    ถ้าคนเราจะเชื่ออะไรสักอย่าง ให้เชื่อในสัญชาตญาณตัวเองเอาไว้ก่อน แล้วก็เป็นอย่างที่ฉันกังวลมาตลอดทั้งคืน เพราะวันนี้พอฉันตรงมายังห้องเรียน เพื่อนๆในห้องต่างก็ลากโต๊ะไปนั่งกันคนละมุมและมีเพียงโต๊ะฉันเท่านั้นที่อยู่กลางห้องราวกับถูกบูชายัน

    “อ...อะไรกันน่ะ”

    ปั่ก!

    กลิ่นเหม็นเน่าราวกับสัตว์ตายซากถูกปาใส่หน้าฉัน ของแข็งที่พอกระแทกแล้วกลายเป็นของเหลวค่อยๆไหลย้อยจากเส้นผมหยดมาถึงหน้า ไข่เน่าที่ไม่ได้มาแค่เพียงฟองเดียวแต่ตอนนี้แห่กันมาเป็นสิบยี่สิบฟองกำลังส่งตรงมาจากมือของเพื่อนๆ

    “ออกไปจากโรงเรียนนี้ซะ!

    เพื่อนในห้องคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ฉันมองไปทางต้นเสียงอย่างไม่เข้าใจ

    “พวกเธอทำแบบนี้ทำไม”

    “ตอนนี้พ่อแม่พวกเราถูกคนของอสูรกักตัวไว้ในบ้าน”

    “เอ๋?”

    “อสูรบอกว่าถ้าเธอไม่ยอมลาออกจากโรงเรียน พ่อแม่ของพวกเราจะเป็นอันตราย!!!

    บ้าจริง! หมอนั่นมาลงกับฉันไม่ได้ก็เริ่มลงกับเพื่อนในห้องเรียนฉันแล้วเหรอเนี่ย ไม่ได้การ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง แต่...ฉันจะทำอะไรดี

    “อื้อหือ กลิ่นเหม็นอะไรอย่างนี้...ว้าย เธอดูดีนะเนี่ย O_o แนนนี่ เพื่อนต่างห้องที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันตั้งแต่ตอนแรกโผล่เข้ามาราวกับว่าพื้นที่ในห้องนี้เป็นของนาง “ได้นั่งซะกลางห้องเลย เด่นซะ!

    “...”

    “จุ๊ๆ ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ วันนี้ฉันมาอย่างเป็นมิตรนะ”

    “มิตรบ้ามิตรบออะไรกัน”

    “เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าวันนี้ขาดอะไรไป?”

    “ขาด?”

    ฉันมองไปรอบๆแล้วก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าในบรรดาเพื่อนทั้งหมด ในห้องนี้...ไม่มีโรส!!!

    “นั่นไง เธอทำหน้านึกออกแล้ว”

    “โรสอยู่ที่ไหน”

    “อยู่บนดาดฟ้า”

    “เธอทำอะไรกับเพื่อนฉันน่ะ”

    “ฉันไม่ได้ทำ”

    “...”

    “แต่คนอื่นทำ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×