ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Demons Aliance พันธมิตรรักร้าย

    ลำดับตอนที่ #5 : Lesson 5 : กดดัน

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 57


    5

    กดดัน

     

    ครั้นจะให้คนอื่นคอยปกป้องเราตลอดก็คงจะไม่ได้ เพราะเทวะไม่ได้อยู่กับฉันตลอด 24 ชม. ดังนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตน! ฉันนอนคิดทั้งคืนว่าจะตั้งรับกับการถูกเล่นงานจากอสูรยังไง แล้วมันก็ทำให้ฉันคิดขึ้นได้ว่า...รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะหนึ่งครั้ง ไม่สิ (><  )(  ><) ร้อยครั้ง! เอาล่ะอย่างแรกฉันจำเป็นต้องรู้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับอสูรและคนที่อยู่รอบข้างของเขา รวมไปถึงลิ่วล้อต่างๆที่อาจจะมาเล่นงานฉันได้ตลอดเวลา แน่นอนว่าคนที่ช่วยเหลือฉันในครั้งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...

    “ฉันส่งทุกอย่างให้เธอทางอีเมล์แล้ว หลังจากที่เธอขอฉันก็นั่งพิมพ์ใส่เวิร์ดส่งให้เธอเลย”

    โรสบอกมาทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเชื่อมั่น

    “เธอช่างเป็นคนดีเหลือเกิน T^T

    “เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ก็เพราะฉัน ฉันสมควรจะทำอะไรให้เธอบ้าง ถ้านี่จะตอบแทนเธอได้...ไม่สิ มันน้อยไปด้วยซ้ำ การที่เธอยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเรื่องมาเล่ในครั้งนั้น เป้าเลยพุ่งไปที่เธอแทนแต่ฉันกลับได้แค่ยืนดู ช่วยอะไรเธอไม่ได้เลย”

    “เธอช่วยแล้ว ไม่ต้องรู้สึกเสียใจขนาดนั้น”

    “แต่...”

    “อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ฉันมั่นใจในระดับหนึ่งว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว อย่างน้อยๆก็มีเธอ”

    “อื้อ!

    ...และพี่น้องอีกสองคน

    ตอนนี้ทั้งพี่ชายใหญ่และมาเล่ต่างก็กระตือรือร้นเรื่องของฉันกันมาก ถึงกับนั่งวางแผนกันสองคนว่าจะอารักขาฉันยังไงดีโดยที่ไม่ให้ความลับเปิดเผย จริงๆเรื่องความลับที่ว่าเราเป็นพี่น้องกันจะเปิดเผยก็ได้ แต่ฉันยังไม่อยากให้ใครรู้ ตอนนี้ฉันอยากเป็นคนที่อ่อนแอในสายตาทุกคน

    โดยเฉพาะสายตาของเขา...เทวะ

    กระดากอายจังที่กลายเป็นคนแบบนี้ T^T ต้องมาแสร้งทำเป็นว่าตัวเองน่าสงสารต้องการคนปกป้องเพียงเพราะอยากให้ผู้ชายรูปหล่อคนนั้นมาอยู่ใกล้ ฉันเป็นผู้หญิงแบบไหนกันนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก เราย่อมรู้ตัวเองดีว่าเราเป็นคนแบบไหน แม้จะแรดไปบ้างแต่เราก็เป็นสาวแกร่ง เริ่มหาข้อมูลฝ่ายตรงข้ามเพื่อปกป้องตัวเองแล้วนี่ไง อา...เอาล่ะ เปิดเมล์แล้วดาวน์โหลดมาไว้ในเครื่องก่อน อ๊ะ เปิดได้แล้ว ยาวเหมือนกันนะเนี่ย O_o

    ข้อมูลของบุคคลสำคัญประจำโรงเรียน

    นี่ชื่อหัวข้อเหรอ =__= อย่างกับอัตชีวประวัติของคนทั่วโลกอะไรแบบนั้นเลย ในข้อมูลประกอบไปด้วยรูปภาพของคนที่ฉันอยากรู้ไล่มาตั้งแต่ประธานนักเรียน หัวหน้าชมรมต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าฉันไม่ได้สนใจนางจะใส่มาให้ฉันทำไมเนี่ยโรส ฉันเลื่อนลงมาเรื่อยๆจนกระทั่งเห็นรูปที่ฉันต้องการดูซึ่งนั่นก็คือ...เทวะ

    เทวะ – ลูกชายเจ้าของธุรกิจเกี่ยวกับสื่อวงการบันเทิงและถือหุ้นใหญ่เกี่ยวกับดาวเทียมในประเทศ เป็นลูกชายคนเดียว เก่งเรื่องต่อยตี ตอนแรกเข้าชมรมเทควันโดแต่อยู่ๆก็เปลี่ยนมาเล่นกีฬา X-Tream ที่เรียกกันว่า Free Runing เคยมีคนรักอยู่ในโรงเรียนเดียวกันแต่เสียชีวิตไปแล้ว

    เสียชีวิต...

    ทำไมฉันอ่านแล้วรู้สึกแย่อะไรอย่างนี้ ที่ดวงตาของเขาว่างเปล่าไม่มีชีวิตชีวาสักเท่าไหร่เป็นเพราะเรื่องนี้หรือเปล่านะ

    ไอสูรย์ – ทายาทเพียงคนเดียวของมาเฟียชื่อดังเจ้าของบ่อนคาสิโน่ที่มาเก๊า ปอยเปต และถือหุ้น 30%ที่ลาสเวกัส เป็นผู้มีอิทธิพลในธรุกิจด้านมืด ถึงแม้ว่าจะถูกตรวจสอบเงินก็ไม่สามารถจับได้ว่าเงินที่ได้มานั้นมาจากไหน เป็นครอบครัวที่ทำธุรกิจใต้ดินเยอะเป็นอันดับหนึ่งของประเทศและถูกหมายหัวจากทางการมากที่สุด เคยมีคนรักอยู่โรงเรียนเดียวกันแต่เสียชีวิตไปแล้ว

    เสียชีวิต!

    อะไรกัน ทำไมประวัติสองคนนี้ถึงได้เหมือนกันราวกับ Copy แล้ว Paste ฉันกดโทรศัพท์หาโรสอีกครั้งหนึ่งเพื่อถามรายละเอียด ซึ่งดูเหมือนว่านางเองก็รอคอยให้ฉันถามไถ่อยู่แล้ว

    [เธอเดาไม่ผิดหรอก แฟนของคนทั้งคู่ที่ฉันให้ข้อมูลไปคือคนเดียวกัน]

    “เขาเลยไม่ถูกกันอย่างนั้นเหรอ”

    [เรื่องมันซับซ้อนกว่านั้นเยอะ จริงๆแล้วในกลุ่มมีกันห้าคน ทั้งเทวะ ไอสูรย์ ฟาโรห์ เอเดน และเมจิ]

    “อยู่กลุ่มเดียวกันด้วย O_O เอ๊ะ แต่ฉันไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเมจิเลย”

    [เมจิตายไปแล้ว...ก็คนที่บอกว่าเป็นแฟนกับเทวะและก็เป็นแฟนกับไอสูรย์ในเวลาเดียวกันนั้นแหละ]

    “คบซ้อนอย่างนั้นเหรอ”

    [จะว่าอย่างนั้นก็ได้ ข้อนี้ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเมจิคบใครกันแน่ แต่ทุกคนมารู้เอาตอนที่เมจิตายเพราะรถคว่ำ]

    “น่าสงสารจัง”

    [คนที่ทำให้เมจิตายคือเทวะ...เขารอดเพียงคนเดียว ไอสูรย์เลยจับได้ว่าเมจิเองก็คบกับเทวะ ทั้งคู่เลยเลิกคบกันตั้งแต่วันนั้น แต่เธอเอ๊ยยยย วันที่สองคนนั้นแตกหักโรงเรียนอย่างกับสนามรบ ทุกคนโกลาหลกันหมด อาจารย์ยังห้ามให้สองคนนั้นเลิกสู้กันไม่ได้เลย]

    “แล้วทำยังไง”

    [ก็สู้กันจนทั้งสองฝ่ายต่างหมดแรงล้มกันไปเอง เลือดนี่นองเต็มพื้นเลย]

    “เดี๋ยวก่อนนะ สองคนนั้นสู้กันเพราะผู้หญิงฉันไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่เพื่อนๆคนที่เหลือทำไมไปอยู่ฝ่ายไอสูรย์กันหมดล่ะ”

    [จากเรื่องราวแล้วดูเหมือนเทวะจะแอบคบกับเมจิ ทั้งๆที่รู้ว่าไอสูรย์คบอยู่ เพื่อนๆเลยไม่เห็นด้วยอะไรทำนองนี้ล่ะ คนนอกไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอก]

    “อ...อืม”

    [เธอเองก็ระวังตัวเอาไว้ให้ดีนะเมลานี ไอสูรย์เห็นช่องทางจะทำลายเทวะแล้วคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เวลาหมอนั่นโกรธ...น่ากลัวมาก! ฉันก็อยากจะอยู่เคียงข้างเธอแต่ไม่รู้จะทำยังไง]

    “ไม่เป็นไรหรอก ฉันเข้าใจ”

    [ขอโทษนะ T^T]

    ถึงแม้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่ได้ช่วยให้ฉันปลอดภัยสักเท่าไหร่แต่อย่างน้อยๆก็ยังได้รู้ความเป็นมาบ้างว่าเรื่องมันเป็นยังไงมายังไง งานนี้คงไม่ธรรมดาซะแล้ว ฉันคงจะถูกพวกอสูรตามล่าหรือแกล้งอย่างสาหัส เพราะฉันคือช่องทางเดียวที่จะทำให้อสูรระบายความแค้นได้

    ฉันก็แค่ต้องเตรียมตัวตั้งรับให้ได้มากที่สุดก็เท่านั้น!

     

    เช้าวันจันทร์...

    การมาโรงเรียนในวันนี้ทำให้ฉันอิดโรยมาก เพราะตื่นเต้นตั้งแต่เมื่อคืนจนนอนไม่หลับ แม้แต่มาเล่เองยังต้องมาเคาะประตูที่ห้องนอนของฉันแล้วนั่งปรับทุกข์กันตามประสาพี่น้องด้วยความเป็นห่วง บนโลกใบนี้ไม่ค่อยมีอะไรที่ทำให้คนไม่สนใจโลกอย่างมาเล่เป็นกังวลได้หรอก ก็ดูจากผู้หญิงมากมายที่มันคบยังไม่เคยมีใครทำให้หมอนี่เป็นเดือดเป็นร้อนได้ (ไม่นับแนนนี่ที่มาทำให้ฉันกลายเป็นเหยื่อของอสูร) แต่เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นกับฉันทำให้มาเล่ถึงกับยกมือไหว้

    เค้าขอโทษนะ ถ้าไม่ใช่เพราะเค้าไปทักตัว ตัวคงไม่ต้องตกเป็นเป้ามากขนาดนี้

    แปลว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฉันมันไม่ธรรมดาเลย...

    ฉันเดินทางมาโรงเรียนแล้วก็เดินไปตามทางปกติ นี่ถ้ามีเสื้อเกราะกันกระสุนฉันคงใส่มันมาด้วยแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่พวกนั้นก็แค่อายุ 17 ปี อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับฉัน คงไม่ทำอะไรรุนแรงอย่างฆ่าแกงกันหรอก...มั้ง

    ซ้ายไม่มี...

    ขวาไม่มี...

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฟู่!!! (ถอนหายใจอย่างแรงเพราะกำลังจะขาดใจตาย =__=) แล้วไอ้ที่ขู่ๆกันว่าอสูรจะต้องทำให้ฉันเดือดร้อนนี่มันอะไรกัน ถ้าไม่มีการกลั่นแกล้งกันแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น!

    “เม”

    เสียงเรียกของโรสทำให้ฉันที่หงอยเหงาเศร้าสร้อยกลับมายิ้มอีกครั้งหนึ่ง แต่พอเงยหน้าไปเจอกับคนที่ฉันหวาดกลัว ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับนั่งอยู่ข้างๆเพื่อนฉันแล้วส่งยิ้มให้ รอยยิ้มของฉันก็หุบราวกับถูกสาป!

    “ไฮ!

    ไอสูรย์ หรือที่เพื่อนๆเรียกกันติดปากแบบคำสมาธิว่า อสูร ยกมือขึ้นแล้วยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ ใบหน้าเกลี้ยงเกลากับผมที่เซตด้วยน้ำมันเรียบแปล้แลดูเหมือนเขาเป็นเด็กเรียบร้อยมากกว่าจะเป็นตำนานที่เพื่อนต่างกล่าวขานกันอย่างน่าสะพรึ่ง! โรสที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้กำลังสื่อสารกับฉันว่าอย่าอยู่ในรัศมีนี้จะดีกว่า แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะ ฉันมาอยู่แล้วนี่!

    “อะไรกัน เมื่อกี๊เธอยังยิ้มอยู่เลย นั่งสิ”

    “ฉันจะนั่งได้ยังไง”

    “ทำไมล่ะ”

    “นายนั่งที่ของฉันอยู่”

    “โอ๊ะจริงด้วย” อสูรทำหน้าตกใจเล็กน้อย “งั้นเธอจะนั่งตักฉันมั้ยล่ะ”

    นี่เป็นคำเชื้อเชิญประเภทไหนกัน ต้องการจะหยั่งเชิงว่าฉันจะกล้าท้าทายเขาหรือเปล่าอะไรแบบนั้นน่ะเหรอ เหล่าเพื่อนๆในห้องที่จ้องมองการสนทนาของเราทั้งคู่นั่งซุบซิบนินทาอย่างเปิดเผยว่ากำลังคุยเรื่องของเราอยู่ หนึ่งในนั้นถึงกับเสนอหน้าแบกเก้าอี้มาให้ฉันด้วยความหวังดีพร้อมพูดทั้งรอยยิ้ม

    “นั่งสิ ฉันลากมาให้แล้ว”

    ร้อยวันพันปีไม่เคยจะคุยกัน แต่วันนี้กลับมาหวังดีประสงค์ร้าย อยากจะเห็นฉันตายไวๆสินะ เพื่อนนิสัยดีทุกคน!!!

    “นี่เธอจะไม่นั่งเหรอ เพื่อนอุตส่าห์หวังดีลากมาให้ หรือกลัว?”

    “ฉันไม่ได้กลัว!

    “งั้นดีเลย นั่งๆเราจะได้คุยกัน”

    ทุกคำที่เขาพูดออกมามันเจือไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสนุก แต่มันเป็นรอยยิ้มที่กดดัน เพราะฉันหวั่นใจเหลือเกินเนื่องจากไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรอยู่ เวลาอย่างนี้เทวะไปไหนนะ เขาบอกจะปกป้องฉันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงปล่อยให้ฉันมาต่อสู้กับหมอนี่อยู่คนเดียว!

    ฉันนั่งลงตรงข้ามกับอสูร ยืดตัวตรง หายใจเข้าปอดแล้วปล่อยออกมาเบาๆ (ปล่อยลมหายใจนะไม่ใช่ตด -__-) พอตั้งสติได้ก็ปล่อยคำถามออกไปทันที

    “นายต้องการอะไร”

    “ต้องการเป็นแฟนเธอ”

    “ห๊ะ!

    “ฉันพูดอะไรผิดเหรอ”

    “นายมาที่นี่เพื่อจะมาพูดเล่นหรือไง”

    “ฉันไม่ได้พูดเล่น คนอย่างฉันไม่เคยล้อเล่น” น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นต่ำลงอย่างต้องการสื่อว่าเขาพูดจริงแน่นอน อันที่จริง..ฉันชอบตอนเขากะล่อนมากกว่านะ แบบนี้บรรยากาศไม่ดีเลย T^T

    “แล้วอยู่ดีๆมาขอฉันเป็นแฟนเนี่ยนะ จะให้ฉันคิดว่ามันเป็นความจริงได้ยังไง!

    “มันต้องเป็นความจริงได้สิ เธอยังเป็นแฟนกับเทวะได้ง่ายๆเลย” อสูรกลับมายิ้มแล้วทำทีเล่นทีจริงอีกครั้ง “เทวะมันมีดีอะไรเหรอที่เธอจะไปคบ หน้าตามันก็งั้นๆ ชอบกระโดดเป็นลิงเป็นค่าง”

    “แต่เขาปกป้องฉัน”

    “มันจะปกป้องเธอได้สักเท่าไหร่เชียว ต้องฉันสิ มีเพื่อนเป็นร้อย แค่รู้ว่าเธออยู่ในอันตรายฉันก็สั่งให้เพื่อนๆของฉันไปตายแทนเธอได้แล้ว”

    “ฉันรู้ว่านายมันเป็นมาเฟีย แต่ฉันไม่ใช่พวกประเภทหลงรักกับคนเลว”

    “เธอพูดอย่างกับเทวะมันเป็นคนดี”

    “เขาดีกว่านายก็แล้วกัน”

    “แปลว่าเธอจะปฎิเสธสิ่งที่ฉันเสนอไปสินะ”

    “ใครตกลงก็บ้าแล้ว!

    อสูรจ้องตากับฉันราวกับต้องการจะกดดันให้ฉันพูดออกมาว่า ฉันสำนึกผิดแล้ว อภัยให้เถอะแต่แน่นอนว่าการกดดันนั้นใช้ไม่ได้ผลกับฉัน!

    ไม่ใช่อะไรหรอก มันกดดันจนฉันพูดอะไรไม่ออกเลย TT^TT

    “ฉันก็ไม่ได้คิดว่ามันง่ายหรอก” อสูรลุกขึ้นพร้อมทั้งเดินอ้อมมายังด้านหลังฉันที่นั่งตัวแข็งอยู่ “ถ้าเธอตอบตกลงง่ายๆก็คงไม่สนุก อย่างน้อยๆนี่ก็เป็นการพิสูจน์ว่าเธอกับเทวะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

    “ฉันกับเขาเราไม่!!!...”

    อสูรเอื้อมมือมาปิดปากฉันแล้วเอานิ้วชี้แตะปากตัวเองแล้วส่งเสียง จุ๊ๆ ราวกับจิ้งจกหน้าหล่อ

    “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น คนที่ปฎิเสธฉันคือศัตรู” อสูรเดินไปนอกห้องเรียนแล้วส่งเสียงดังเหมือนต้องการให้ใครหลายๆคนได้ยิน “ผู้หญิงของเทวะเป็นศัตรูยิ่งกว่า และใครเป็นเพื่อนของผู้หญิงคนนี้”

    “...”

    “คือศัตรูของฉัน”

    จากนั้นเขาก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ความเงียบเข้าปกคลุมพวกเราไปทั่วทั้งห้องเรียน มีเพียงโรสเท่านั้นที่กล้าส่งเสียงคุยกับฉัน

    “เม”

    “...”

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?”

    ฉันไม่ได้ตอบอะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้ฉันสั่นไปหมดทั้งตัว เขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง อายุไล่เลี่ยกันกับฉันแต่ทำไมถึงได้กดดันคนได้เก่งขนาดนี้ แม้แต่เพื่อนในห้องเองยังนั่งกันเงียบไม่กล้าทำท่ากระซิบอย่างแสดงออกแบบเมื่อกี๊นี้เลย

    ไม่...เขาแค่มาเพื่อขู่เท่านั้น

    เขาไม่กล้าทำอะไรจริงๆหรอก!!!

     

    และก็เป็นอย่างที่ฉันคิด วันนี้ผ่านไปด้วยดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น! มันก็แค่คำขู่เท่านั้น เชอะ! ถ้าเขามีปัญญาทำอะไรจริงๆฉันคงไม่ลอยหน้าลอยตามานั่งกินข้าวกับที่บ้านแบบนี้ร๊อกกกกก

    “เค้าว่ามันผิดปกติ มันนิ่งเกินไป”

    มาเล่ออกความเห็น ส่วนพี่ชายใหญ่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

    “จริง ถ้าอสูรประกาศตัวขนาดนี้แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย พี่ว่ามันไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่”

    “แต่พี่ก็เห็นแล้วนี่คะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย บางทีเขาอาจจะเก่งแต่ปากก็ได้ หรือไม่ก็คงจะกลัวเทวะจัดการ”

    “อสูรไม่มีกลัวเทวะหรอก หมอนั่นยิ่งทำให้เทวะเจ็บปวดเท่าไหร่ยิ่งสะใจ แล้วยิ่งคิดว่าเธอเองเป็นผู้หญิงของเทวะด้วยแล้ว ไม่น่าจะปล่อยไปง่ายๆ”

    “พวกพี่ระแวงเกินไปค่ะ ฉันว่าไม่มีอะไรหรอก” ฉันลุกขึ้นบิดขี้เกียจก่อนจะตบพุงตัวเองฟ้องว่าอิ่มแล้ว “ขึ้นไปนอนก่อนนะคะ”

    “ถ้าเค้าเป็นตัวจะไม่ทำท่าสบายใจขนาดนั้น”

    “เค้าแค่มีความกล้ามากเท่านั้นเอง และเค้าเชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น!!!

    ฉันกลับมาที่ห้องนอนแล้วปิดประตูเพราะไม่ต้องการให้ใครมาพูดจาให้ตัวฉันรู้สึกกลัวอีก อสูรก็แค่นั้นแหละ คนอื่นกลัวกันไปเอง ก็เห็นๆอยู่ว่าวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และฉันก็เชื่อว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตลอดไป เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็อย่างที่โรสบอกไว้นั่นแหละ เด็กโรงเรียนนี้ต่างก็ไม่กลัวกันและกันเพราะต่างคนต่างก็มีดี ฉันเองก็เชื่อว่าตัวเองมีดี เพียงแต่ฉันยังใหม่มากและอาจจะยังปรับตัวไม่ได้ก็เท่านั้น

    เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วทำทุกวันของฉันให้ดีเถอะ

    ตรู๊ด....

    เสียงโทรศัพท์ในห้องดังขึ้น ซึ่งโทรศัพท์เครือ่งนี้เป็นเบอร์ที่ยิงตรงมายังห้องของฉันเพื่อเอาไว้เล่นอินเตอร์เนทโดยเฉพาะ ดังนั้นฉันจึงรู้ทันทีว่าใครที่โทรมาหา

    [ไฮ]

    “หายไปนานเลยนะ J!!!

    [ขอโทษที ช่วงนี้ยุ่งๆกับการเปิดเรียนน่ะ เธอล่ะเป็นยังไงบ้าง ต่อให้ฉันไม่โทรหาเธอก็ควรจะโทรมาหน่อยนะ ทำไมต้องมีแต่ฉันคนเดียวที่โทรด้วย]

    “ผู้หญิงไม่ควรโทรหาผู้ชายก่อน อีกอย่าง...ช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อย”

    [เรื่องอะไรเหรอ]

    “มันเกี่ยวกับที่โรงเรียนน่ะ ถ้าเล่าไปแล้วนายสืบหาฉันเจอก็แย่สิ”

    [งั้นเล่าแค่ความทุกข์ใจของเธอก็ได้ อะไรที่ทำให้เธอเป็นกังวล]

    “ก่อนหน้านี้ฉันกังวล แต่พอได้ยินเสียงนายฉันก็หายแล้ว”

    [ปากหวาน จำเอาไว้นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ ดังนั้นถ้ามีอะไรไม่ดีขอแค่บอก ฉันจะช่วยเธอทันที]

    “ขอบใจนะ”

    ฉันยังต้องมีอะไรให้กลัวอีก ในเมื่อคนรอบข้างของฉันต่างก็พร้อมจะปกป้องคุ้มครอง แม้แต่เจเองที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตายังคิดจะปกป้องฉัน หึ...อสูร นอกจากเห่าแล้วนายทำอะไรฉันไม่ได้เลย

    ก๊ากกกกกก กั่กๆๆๆๆ

     

    วันต่อมา...

    ฉันยังคงไปเรียนหนังสืออย่างทุกวัน และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันเชื่อว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อนๆทุกคนยังปฎิบัติกับฉันเหมือนเดิมนั่นก็คือ...เมินใส่ =__= ทำไมคนที่นี่ถึงได้เย่อหยิ่งนักนะ

    ฟึ่บ!!!

    อยู่ๆไฟในห้องเรียนก็ดับสนิท แอร์ที่เคยให้ความเย็นชุ่มฉ่ำก็พลันไม่ทำงานไปด้วย ทุกคนมองซ้ายมองขวาเหมือนจะหาที่มาว่าทำไมไฟดับแต่แน่ล่ะ ว่าไม่มีคำตอบ

    “อยู่ๆไฟดับได้ไงเนี่ย”

    หนึ่งในเพื่อนๆตะโกนขึ้น จากนั้นไม่นาน เพื่อนในห้องที่ออกไปเพื่อจะแจ้งเรื่องไฟดับรีบวิ่งกลับมาพร้อมกับรายงาน

    “ห้องเราดับอยู่ห้องเดียว”

    เพื่อนๆทุกคนหันมามองฉันเป็นตาเดียวเหมือนกับว่าที่ไฟดับนี่เป็นความผิดของฉันอะไรอย่างนั้น โรสเองที่พอจะอ่านสายตาขของเพื่อนๆได้รีบตะโกนเถียงแทนฉัน

    “นี่พวกนายคิดว่าการที่ไฟดับเป็นความผิดของเมลานีเหรอ”

    “ถ้าไม่ใช่ยัยนี่จะเป็นใคร บางทีอสูรอาจจะทำก็ได้”

    “ไม่มีหลักฐานอย่ามากล่าวหากันนะ และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง คนที่พวกนายต้องประณามคืออสูร ไม่ใช่เมลานี”

    พอเถียงไม่ได้ ทุกคนก็ออกไปนั่งรับลมเย็นๆข้างนอกรออาจารย์มาเพื่อแจ้งเรื่องไฟ ส่วนโรสรีบตบบ่าฉันอย่างให้กำลังใจ

    “ไม่ต้องกังวลนะ ก็แค่ไฟดับ มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก”

    “อืม ^^

     

    แต่ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่จบเพียงเท่านั้น พอพักเที่ยงเราทั้งหมดต้องไปแคนทีนเพื่อพักกลางวัน นี่ต่างหากคือของจริง เพราะร้านอาหารทั้งหมดถูกปิดเรียบ ไม่มีใครในที่นี้ได้กินเลยแม้แต่คนเดียว

    “บ้าไปแล้ว โรงอาหารไม่มีข้าวขายได้ยังไงกัน!

    เด็กรุ่นเดียวกันกับฉัน คนหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างโมโหหิว แต่ทว่า...ผู้หญิงนางหนึ่งในชุดเชียร์ลีดเดอร์ ตัวแสบแห่งโรงเรียนนี้เดินผ่านไปหน้าตาเฉยพร้อมกับอาหารข้าวกล่องที่นำมาเองจากบ้านแล้วกินเปิดพิสดารให้ทุกคนเห็น 

    “โรงเรียนนี้แย่เนอะ ไม่มีข้าวขาย โชคดีที่ฉันไหวตัวทันเลยมีข้าวกิน”

    แนนนี่ทำเป็นพูดเสียงดังให้ทุกคนในโรงอาหารได้ยิน รุ่นพี่นางหนึ่งที่เพิ่งจะได้พักกลางวันเดินมายังโต๊ะของเจ้าหล่อนแล้วถามอย่างสงสัย

    “ทำไมอยู่ๆเธอก็แบกข้าวมากินเอง เธอรู้ได้ยังไง”

    “รู้สิ อสูรบอก”

    “เอ๋?”

    และทุกคนในโรงอาหารก็หันมาทางฉันอย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในนั้นชี้มาที่ฉันแล้วพูดอย่างอาฆาต

    “เพราะยัยเด็กใหม่ ผู้หญิงของเทวะทำให้พวกเราทั้งหมดไม่ได้กินข้าว!

    ท...ทำไมล่ะ ทำไมหวยมาออกที่ฉัน

    อสูร...หมอนั่นกำลังทำให้สังคมในโรงเรียนนี้รังเกียจและบีบฉันให้ตายอย่างนั้นสินะ!!! O_o

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×