ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +Plan of LovE+ วางแผนรักของหัวใจ

    ลำดับตอนที่ #5 : เมื่อเขาและเธอมาเจอกัน

    • อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 52


    “ยินดีต้อนรับน้องๆเข้าสู้รั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และคณะศิลปะศาสตร์ เราต่างก็มาจากหลากหลายที่ เพราะฉะนั้นเราก็ยังคงไม่รู้จักกัน พี่ก็ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะคะ พี่ชื่อน้ำฟ้าค่ะ เป็นประธานสาขาอิ้งนะคะ”
    “พี่คนนี้น่ารักจังเลยแก ดูสิ่ ผมยาวสลวยเป็นเงางาม ดูมีน้ำหนัก หุ่นก็ดี ผิวก็เนียนขาวสวย ถ้าฉันเป็นผู้ชายนะ รับรองจีบชัวร์” ฉันหันไปพูดกับยัยนูนา พี่เค้าน่ารักจริงๆนะ
    “นั่นสิ่ๆ ชื่อก็เพราะ น้ำฟ้า ฉันว่ามีแฟนแล้วแน่ๆ” อิจฉาจังเลย เข้าข่ายที่ว่า หน้าก็งาม นามก็เพราะ
    “อย่าดูแค่ภายนอกสิ่น้อง ถ้าพวกน้องได้รู้จักตัวจริง แล้วจะไม่คิดแบบนี้” ในขณะที่พวกเรากำลังชื่นชมพี่น้ำฟ้าอยู่นั้น ก็มีรุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลาเอาการเลยหล่ะ แต่เจาะหูข้างหนึ่ง พูดขึ้นมา พวกเราเลยหันไปสนใจในสิ่งที่พูด
    “สวัสดีครับ พี่ชื่อคิงครับ” พี่คิงแนะนำตัวเองพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ รอยยิ้มวิ้งมากเลย ถ้าเป็นหนังการ์ตูนนะ ก็จะเห็นประกายรอบตัวพี่เค้าเต็มไปหมด คนบ้าอะไร หล่ออลังการมากมาย
    “เฮ้ย..ไอ้คิง ชวนน้องคุยอะไร มาแนะนำตัวข้างหน้าเร็วๆ” ในขณะที่พวกเรากำลังจะละลายไปกับรอยยิ้มของพี่คิงนั้นก็มีรุ่นพี่คนหนึ่ง ไม่อาจทราบชื่อได้ เพราะไม่ได้สนใจ (ฮิๆ) เรียกพี่คิงให้ไปแนะนำตัวข้างหน้า ซึ่งรู้สึกว่าตอนที่พวกเราคุยกัน รุ่นพี่ทุกคนจะแนะนำตัวกันเรียบร้อยแล้ว
    “เอาหล่ะ พวกพี่ก็แนะนำตัวกันหมดแล้ว ก็ถึงตราน้องๆแล้ว แล้วเดี๋ยวพวกพี่แต่ละคนจะแบ่งน้องไปอยู่เป็นสีๆ แล้วจะมีพี่ประจำสีคอยดูแลน้องๆในการทำกิจกรรมต่างๆนะคะ” พี่น้ำฟ้าพูดพร้อมกับเริ่มแนะนำตัวทีละคน จนมาถึงฉัน
    “สวัสดีค่ะชื่อรักค่ะ”
    “ฮิ้ววว” พอแนะนำตัวเสร็จก็ตามด้วยเสียงโห่ฮิ้วจากทั่วสารทิศเลย อะไรกันนักหนาเนี่ย
    “พี่อยากเป็นสุดที่รักของน้องจัง” แล้วก็ตามด้วยเสียงแซวจากพี่หน้าตาประมาณว่าไม่เข้าตาคนหนึ่ง รูปร่างผอมมากมาย ประมาณว่าโดนไต้ฝุ่นพัดอาจจะปลิวหายไปได้ (มีใครที่โดนใต้ฝุ่นพัดแล้วไม่ปลิวบ้างฟะ -*-) แล้วฉันซึ่งเป็นรุ่งน้อง ทำอะไรมากไม่ได้นอกจากหันไปทำหน้าแหยๆกับนูนาแล้วก็นั่งลง เห่อะๆ ไม่ไหวๆ
    “สวัสดีครับผมชื่อ ปริ้นซ์ ครับ” อ้าว! ข้างหลังฉันมีคนตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า สงสัยพึ่งมา ว่าแต่หน้าคุ้นๆแหะ พอเค้าคนนี้แนะนำตัวเสร็จ พี่ๆก็ให้น้องๆจับสลากกระดาษสี เพื่อที่จะแบ่งสีในการทำกิจกรรม ซึ่งฉันกับนูนาต้องแยกกันหล่ะ แล้วคราวนี้จะคุยกับใครหล่ะ
    “แกดูแลตัวเองดีๆนะ หนาวก็อย่าลืมห่มผ้านะ” ฉันพูดล่ำลาเมื่อเราต้องแยกจากกัน
    “พอเถอะ อย่ามาเว่อร์ ห่างกันไม่กี่ก้าว เดี๋ยวเหนี่ยวเลย” ดูมัน ไม่ซึ้งเลย ชิส์ แล้วฉันก็เดินไปหาสีตัวเอง อ้าว! นั่นนายปริ้นซ์นี่หน่า ดีหล่ะ คราวนี้จะได้มีเพื่อนหล่ะ ว่าแต่จะทักดีไหมเนี่ย ดูหยิ่งๆยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ..เอาไงดีหว่า
    “น้องที่จับได้สีฟ้าทางนี้เลยครับ” สีฟ้า ที่เรานี่หว่า
    “อ้าว..น้องรัก จับได้สีฟ้าด้วย ระวังตัวไว้นะ พี่จะแกล้งให้หนักเลย ฮิๆ” เมื่อพี่คิงเห็นฉันก็แซวเลย พร้อมกับขยี้หัวด้วย ขยี้หัวกันบ่อยจริงๆ คอยดูนะ วันหลังจะไม่สระผม เอาให้เป็นสังคังเลย จะมีใครกล้าขยี้อีกไหมเนี่ย
    “หง่ะ..พี่คิง อย่าพูดงี้จิ่ รักกลัวนะเนี่ย” ฉันพูดพลางเอื้อมมือไปจับเอามือพี่คิงให้ออกจากหัว
    “อ้าว..เฮ้ย ไอ้ปริ้นซ์ สีฟ้าเหมือนกันเหรอเนี่ย โดนแน่แก” เอ๋..เค้ารู้จักกันเหรอเนี่ย แต่ก็คงไม่แปลกมั้ง เพราะเราแค่เจอพี่คิงไม่กี่นาที ยังเหมือนสนิทกันเลย เพราะพี่แกเล่นอัธยาศัยดีซะขนาดนี้ เจอใครเป็นคุยเป็นยิ้มให้หมด
                เฮ้ย..นั่นสีชมพูทีนูนาอยู่นี่หน่า นั่งเยื้องกับสีฟ้านิดเดียวเอง ได้พี่น้ำฟ้าเป็นพี่สีด้วย ดีจัง อยากได้บ้างๆ อิจฉาๆ นั่นๆ นูนาแอบหันมาเยาะเย้ยด้วยหล่ะ เดี๋ยวต้องมีเคลียร์
    “วันนี้ก็คงยังไม่มีอะไรมากเท่าไหร่ เพราะนี่ก็เย็นแล้ว กิจกรรมจะเริ่มจริงๆคงพรุ่งนี้ พี่ขอให้น้องๆใส่เสื้อสีดำมานะ เพราะเละแน่ๆ” นั่นพี่คิงมีขู่ๆ
    “แต่ก่อนจะปล่อยเดี๋ยวพวกพี่จะแจกสมุดล่าลายเซ็นรุ่นพี่ และรายเซ็นเพื่อนกันเอง เพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับตัวของรุ่นน้องนะครับ” แล้วก็มีรุ่นพี่สีฟ้ามาแจกสมุดเล่มเล็กๆ สันปกก็เป็นสีฟ้า ข้างในก็เป็นตารางสามช่อง มีช่องชื่อรุ่นพี่ ชั้นปี และเบอร์โทรศัพท์ ประมาณสามหน้า แล้วก็มีของรุ่นเดียวกันเอง อีกสามหน้า แล้วก็เป็นเพลงมหาวิทยาลัย
    “สมุดเล่มนี้ พวกพี่จะขอคืนเมื่อจบกิจกรรมรับน้อง ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีแค่เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น ใครได้ไม่ครบ โดนทำโทษ และก็อดได้ติ้งรุ่น ทราบไหมครับน้องๆ” พอพี่คิงพูดประโยคนี้จบก็มีเสียงตะโกนมาพร้อมกันว่าทราบค่ะ/ครับ
    “ตอนนี้เนื่องจากไม่มีกิจกรรม พวกพี่ก็จะปล่อยให้น้องๆไปล่าลายเซ็นกันก่อน วันสุดท้ายของการรับน้อง จะมีการจับพี่รหัส ซึ่งในเรื่องนี้เดี๋ยวพวกพี่จะอธิบายกันอีกที แยกย้ายกันได้แล้วครับ ส่วนใครที่อยากกลับบ้านก็กลับได้นะ แต่ลายเซ็นไม่ครบพี่ก็ไม่รับประกันนะ” แล้วพวกเราก็แยกย้ายกันไป พร้อมกับสีอื่นๆที่แยกย้ายเช่นกัน แล้วทำไมพวกพี่เค้าไม่อธิบายกันทีเดียวหว่า กลัวไม่มีหน้าที่กันหรือไงนะ
    “เอาไงนูนา” พอแยกกันมาได้ ฉันก็เดินไปหานูนา
    “แกเซ็นให้ฉันก่อนดิ่” นูนาพูดพร้อมกับยื่นสมุดสันสีชมพูมาให้ ส่วนฉันก็เช่นกัน ยื่นสมุดไปให้นูนาเช่นกัน
    “นี่!” ขณะที่ฉันก้มหน้าเซ็นอยู่นั้น ก็เห็นสมุดอีกเล่มตรงหน้า เลยหันไปมองที่มาของสมุดก็พบว่าเป็นปริ้นซ์นี่เอง
    “อื้ม..แล้วไงเหรอ” เอามาให้ดูทำไม
    “เซ็นให้หน่อย”
    “ต้องการของจากคนอื่นเค้าพูดกันแบบนี้เหรอ” ฉันถามกลับไป
    “ไม่เซ็นก็อย่าเซ็น คิดว่าอยากได้นักเหรอ” อ้าวเฮ้ย ไอ้ผู้ชายคนนี้มันยังไง รู้สึกไม่เป็นมิตรเลย
    “แล้วคิดว่าอยากให้นักเหรอ” ชิส์ หน้าตาก็ดี แต่นิสัยแย่ซะมัด ว่าแต่รู้สึกคุ้นๆจริงๆนะ
    “เกิดอะไรกันขึ้นคะน้องๆ” เสียงพี่น้ำฟ้าแทรกเข้ามายุติสงครามที่กำลังก่อตัวขึ้นได้อย่างทันที
    “เอ่อ..ไม่มีอะไรค่ะพี่น้ำฟ้า ^_^”
    “แน่ใจนะคะ เป็นเพื่อนกัน รักกันไว้ จับมือ”
    พี่น้ำฟ้าไม่พูดเปล่า ยังจับมือฉันกับมือนายปริ้นซ์มาเซ็คแฮนด์กัน แต่ทันทีที่มือนายนั่นกำลังจะเช็คแฮนด์ นายนั่นก็สะบัดมือพร้อมกับสะบัดก้นหนีไปเลยหล่ะ แอบเห็นว่าหน้าแดงด้วยแหะ เอ๋...หรือว่านายนั่นจะชอบพี่น้ำฟ้านะ
    “แกๆ ฉันว่าหน้านายนั่นคุ้นๆนะ” ยัยนูนาพูดขึ้นขณะที่ฉันมองตามหลังนายนั่นไป
    “คิดเหมือนกันเลยแก แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน”
    “ตลอดหล่ะแก ไม่เคยจำหน้าใครเค้าได้หรอก” จริงอย่างที่นูนาพูดเลย ฉันเป็นคนที่ขี้ลืมมาก ลืมได้ทุกสิ่ง ลืมหน้าคนด้วย เลยชอบเกิดเหตุการณ์ทักคนผิดบ่อยๆ แรกๆก็เขิลนะ ไปๆมาๆเริ่มชินกับอาการหน้าแตกของตัวเองแล้ว หรือเรียกอีกอย่างว่าหน้าด้านไปแล้วนั่นเอง แห่ะๆ
    “แกจำได้เหรอ” ฉันหันไปถามเอาคำตอบ
    “ใครเค้าจะไปเหมือนแก จำได้สิ่”
    “ใครเหรอ เพื่อนเก่าเราเหรอ แต่ไม่ยักจะใช่นะ เพราะพวกเราเรียนโรงเรียนหญิงล้วน เอ๋! หรือว่า เพื่อนเราแปลงเพศเหรอ”
    “ไอ้บ้า พอเลย เลิกสันนิษฐานเลยแก” แล้วใครหว่า “ใช่คนที่แกเคยทำเลาะกับเค้าในห้างปะ”
    “ห้างไหน วันไหน เมื่อไหร่ ฉันเคยทะเลาะกับนายคนนี้ด้วยเหรอ” จำไม่เห็นได้เลย
    “กรรม เพื่อนฉัน อายุไม่เท่าไหร่อัลไซเมอร์กินหมดยังเนี่ย แล้วมันจำหนังสือสอบได้ไงฟะเนี่ย” กรรม ฉันผิดเหรอที่ขี้ลืมไปหน่อยก็เท่านั้นเอง (ไม่หน่อยนะ รู้สึก -*-) “ก็ไอ้วันที่ประกาศผลไง แล้วที่พี่เลิฟพาไปเลี้ยงหน่ะ แล้วที่แกหายไปบอกจะไปห้องน้ำ พอฉันไปตามก็เห็นแกทะเลาะกับผู้ชายคนนี้แหล่ะ”
    “อ่อออ...นึกออกแล้ว เฮ้ย..ไอ้บ้านั่นหน่ะเอง นึกแล้วยังเจ็บใจไม่หายเลย คนบ้าอะไรมองโลกแง่ร้ายสุดๆ”
    “เอ่อ..น้องๆคะ สนใจพี่นิดนึง” เฮ้ย..ลืมพี่น้ำฟ้าไปเลย ว่าพี่แกยังยืนอยู่ ทำหน้างงด้วยล่ะ
    “ขอโทษนะคะพี่น้ำฟ้า”
    “ไม่เป็นไรจ้า ถ้าไม่มีอะไรกันแล้วพี่ไปก่อนนะ”
    “เฮ้ย..ไอ้น้ำฟ้า ไปเข้าเรียนกัน” เสียงพี่คิงตะโกนเรียกพี่น้ำฟ้าดังขึ้นมา
    “งั้นพี่ไปก่อนนะ” แล้วพี่น้ำฟ้าก็วิ่งออกไป
    “โทรเรียกพี่นิวเยียร์ยังแก” ฉันหันไปถามนูนาเมื่อเห็นว่าตอนนี้ที่ซุ้มเริ่มไม่มีใครแล้ว รุ่นพี่ก็มีเรียนเย็นกัน พวกฉันก็ขอกลับไปพักผ่อนบ้างล่ะกันนะ เหนื่อยมาทั้งวัน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามาเรียนอีก
    “อืม พี่เค้ามารอได้ซักพักแล้ว เห็นพี่แกบ่นๆบอกไม่มีอะไรทำ เลยมาหลีสาวเล่นดีกว่า”
    ใช่แล้ว พี่เลิฟกับพี่นิวเยียร์ไม่ได้ทำงานนอกจากดูแลพวกเราอย่างเดียว เหมือนเป็นพ่อบ้านเลย ฉันเคยถามนะว่าไม่ไปหางานเหรอ พี่เลิฟก็บอกว่าไม่ดีกว่า เผื่อว่าม๊าป๊าเรียกบินด่วน จะได้ไม่ต้องวุ่นวาย แถมได้ดูแลฉันได้เต็มที่ ฮิๆ ส่วนพี่นิวเยียร์ก็เหมือนกัน ก็พึ่งกลับมานี่หน่า
    “ไปๆ กลับๆไปนอน ง่วงเต็มที ฮ้าว...>0<” ฉันบ่นพลางหาวไปด้วย ง่วงซะมัด
     
    “ถึงแล้วสาวๆ ลงได้แล้ว” พี่นิวเยียร์ปลุกพวกเราที่พอขึ้นรถมาก็สลบกันเลยทีเดียว
    “หอมจังเลยพี่เลิฟ เค้ากลับมาแล้ว” พอเดินเข้ามาในบ้านปุบก็ได้กลิ่นอาหารปั๊บ ทั้ง แกงส้ม ต้มยำกุ้งผัดวุ้นเส้น โอ้ววว..น้ำลายใหล แหม! เสียดาย น่าจะมีปลาสลิดด้วย อยากกินๆ
    “ไปอาบน้ำกันก่อนนะ แล้วค่อยมาทานข้าวกัน” จบคำสั่งของพี่เลิฟ พวกเราก็แยกกันไปอาบน้ำ แล้วก็มานั่งทานข้าวด้วยกัน
    “มาแว้วๆ” อาบน้ำเสร็จลงมาก็พบว่าทุกคนนั่งรอบนโต๊ะกันหมดแล้ว เหมือนเค้ากำลังรอใครอยู่เลยเนอะ “-_-
    “นึกว่าจะต้องนอนรอซะแล้ว”
    “แค่นี้แซวเหรอพี่นิวเยียร์ เดี๋ยวไม่ให้กินเลย บ้านใครให้รู้ซะบ้าง”
    “พี่นิว อย่าไปแซวมันเลย ยังไม่ชินอีกเหรอ มันอาบน้ำนานตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว”
    รุมกันเข้าไป ไอ้เพื่อนบ้า ครื้นเครงกันจริงๆ เอ๊ะ! นั่น ปลาสลิดนี่หน่า แต่เมื่อกี้ไม่เห็นมีนี่
    “พี่เลิฟ ทำปลาสลิดเพิ่มเหรอ กำลังอยากกินเลย” ฉันพูดพลางแกะปลาสลิดมากิน อร่อยจัง เนื้อนิ่ม มันปลาเยิ้มเลย อร่อยๆ
    “เปล่าหรอก เพื่อนบ้านคนใหม่เค้าเอามาให้น่ะ”
    “เหรอๆ อร่อยดีจัง” เออ..พูดถึงเพื่อนบ้านคนใหม่ ยังไม่เจอเลย แต่เดี๋ยวก็คงเจอล่ะมั้ง
     
    “เอาล่ะน้องๆ เข้าแถวนะ เดี๋ยวพวกพี่จะพาไปส่งถึงห้องเรียนนะ” ตอนนี้พวกเราอยู่ในแถวที่ซุ้ม เพื่อรอพี่ๆพาเข้าห้องเรียน โดยมีพี่น้ำฟ้ากับพี่คิงนำขบวน พี่สองคนนี้ดูเหมาะกันจังเลย ผู้หญิงก็ดูดีน่ารัก ผู้ชายก็หล่อร่าเริง ฮิๆ
     “พอพี่พาไปส่งถึงห้องแล้ว ตอนพักกลางวันทานข้าวกันให้เรียบร้อยแล้วมาเจอกันที่ซุ้มนะคะ” พอพี่น้ำฟ้าพูดจบ พวกพี่ก็พาเราเดินไปหาห้องเรียน
    “โอ๊ย!”
    “ระวัง” O_O
    ในขณะที่พวกเรากำลังออกเดิน ด้วยความซุ่มซ่ามของฉันหรือด้วยความที่มดมันมาเดินขวางทาง หรืออาจจะเป็นก้อนหินที่เพิ่มขนาดทันที ทำให้ฉันสะดุด เกือบจะหน้าทิ่ม แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่พี่คิงเข้ามารับไว้ทันที หน้าฉันเลยห่างจากพื้นแค่ 10 นิ้ว
    “เป็นอะไรหรือเปล่าแก” นูนาหันมาถามทันที
    “ไม่เป็นอะไรๆ ขอบคุณนะคะพี่คิง” ฉันหันไปยิ้มขอบคุณพี่คิงที่ช่วยไว้ไม่ให้หน้าแหกขึ้นมา
    “ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เดินระวังหน่อยนะ ^_^” พี่คิงพูดพร้อมกับส่งยิ้มประกายมาให้อีกแล้ว
    “น้องรักเป็นไรหรือเปล่าคะ” พี่น้ำฟ้าวิ่งเข้ามาดูพร้อมจับตรัวฉันหมุนไปหมุนมา สำรวจทั่วทั้งตัว เอ่อ
    “-_- หนูจะเป็นเพราะพี่หรือเปล่าคะพี่น้ำฟ้า มึนหัวอ่ะ @_@
                “พอแล้วแก น้องจะเป็นเพราะแกนั่นแหล่ะ” พี่คิงพูดพร้อมจับมือพี่ฟ้าให้เลิกหมุนตัวฉัน ฉันรู้สึกเหมือนว่าจะเห็นพี่น้ำฟ้าหน้าแดงแหล่ะ
                “ขอบคุณนะคะพี่น้ำฟ้า แต่รักไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ ^_^”
                “เดินไหวนะ” พี่น้ำฟ้าถาม นี่ฉันทำให้คนอื่นเป็นห่วงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย สงสัยต้องลดความซุ่มซ่ามลงบ้างแหละ จะทำได้ไหมเนี่ย
                “ไหวค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆค่ะ ขอบคุณพวกพี่ๆมากนะคะ” พอฉันพูดแบบนี้พวกพี่เค้าก็บอกว่าค่อยหายห่วง แล้วก็เดินต่อไป แต่ยังไม่วายกำชับว่าให้เดินดูหิน มด บ้าง
                “ซุ่มซ่าม”
                แต่ยังเดินไม่ถึงไหน ก็มีเสียงจากคนข้างหลังพูดขึ้นมา ฉันเลยหันกลับไปดู พบว่าเป็นนายปริ้นซ์นั่นเอง เรื่องอะไรมาว่าฉันนะ
                “นี่นาย นายมีปัญหาอะไรกับฉันมากหรือไง” อะไรกัน มาหาเรื่องกันได้ไง
                “แล้วมันจริงหรือเปล่าล่ะ เดินยังไงให้ล้มได้ หรือว่าเรียกความสนใจจากพี่คิง”
                “พูดแบบนี้หมายความว่าไงหะ”
                “เอาล่ะค่ะน้องๆ ถึงห้องกันแล้วนะ ตั้งใจเรียนกันนะ แล้วตอนกลางวันเจอกันจ้า” พี่น้ำฟ้าพูดขึ้นมา ทำให้คนอื่นๆเดินเข้าห้องเรียน ซึ่งก็รวมทั้งนายนั่นด้วย เจ็บใจซะมัด
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×