ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Charlatan and Mister Loong

    ลำดับตอนที่ #5 : 3 - งาน

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 57



    ยืนยันรหัสเสียง ยืนยันม่านตาสองข้าง ยืนยันรอยนิ้วมือทั้งสิบ ระบบเก็บซ่อนทำงาน

    ห้ามใครเข้าเด็ดขาดนอกจากข้า ระดับการป้องกันสูงสุด

    ยืนยันคำสั่ง เปิดใช้มาตรการความปลอดภัยสูงสุด ระบบรักษาความปลอดภัยทำงาน

    ปิดระบบการติดต่อภายนอก

    ยืนยันคำสั่ง ปิดล็อคระบบภายนอก ปิดล็อคระบบการจัดส่ง ตั้งค่าเป็นส่วนตัว

    ดี...

     

    การคุยกับระบบคอมพิวเตอร์ทำให้เขาออกจะปวดหัวอยู่บ้างกับภาษาของมัน เรเว่นมองสภาพภายในร้านที่กำลังเปลี่ยนไป...

    ชั้นวางของรอบพื้นที่ร้านมีแผ่นเหล็กบางๆที่สร้างจากไทเทเนียมเลื่อนลงมาปิด เช่นเดียวกับตัวเคาท์เตอร์รกๆและชั้นวางยาด้านหลังนั่น ก่อนทุกอย่างจะจมลงสู่พื้นที่เปิดกว้างเพื่อเก็บพวกมันเข้าไป แทนที่ทุกตารางนิ้วด้วยพื้นและผนังสีเงินขุ่นที่ทำวัสดุเดียวกัน

     

    กลายเป็นกล่องเหล็กโง่ๆ...

     

    เรเว่นเรียกหน้าจอโฮโลแกรมขึ้นมาจากอากาศ ตัวเครื่องของมันถูกฝังไว้บนเพดานที่บัดนี้ก็กลายเป็นพื้นผิวไทเทเนียม จัดการแสกนใบหน้า ม่านตา ฝ่ามือ และนิ้วทั้งสิบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหอบหิ้วเอากรงหนูตะเภาและกระเป๋าเหล็กใบเขื่องที่บรรจุ สิ่งจำเป็น ออกจากร้าน

    คลินิกของเขาไม่ใช่สถานที่ที่จะมีใครมาบุกขโมยของ แฮคข้อมูล หรืออะไรเทือกนั้นอยู่แล้วแน่ๆ แต่บรรดายาที่เขาเก็บเอาไว้ต่างหากที่สำคัญ...

    ถ้าให้เลือกระหว่างเมโทรโปลิสกับยา... แน่นอนว่าเขาเลือกยา...

     

    มันคือชีวิตของเขา...

     

    จากภายนอก มันยังคงเป็นตึกเก่าๆกับประตูโง่ๆ ชายหนุ่มแขวนป้าย ขี้เกียจเปิด ที่ประตู และก้าวขึ้นสู่ยานบินรุ่นพิเศษสำหรับกองทัพ เอเลี่ยน ไอ้หัวขาวโผล่มารับเขาแต่เช้า...

    ถึงเวลาย้ายที่ทดลองยา

     

     

    ฐานทัพของหน่วยพิเศษเป็นอาคารที่แยกต่างหากออกมาจากตึกของกองทัพ

    เขารู้เรื่องนี้เอาหลังจากที่มาถึง อาคารพิเศษที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง มีสนามหญ้าที่น่าจะเอาไว้ให้แพะกิน ตัวอาคารสองชั้น ชั้นบนสำหรับส่วนพักอาศัยของพวก ตัวประหลาด ตามคำนิยามของเขา(ที่แปลจากคำพูดของเวอกัสอีกที) ชั้นล่างสำหรับห้องพักผ่อน ประชุม ฝึกซ้อม ห้องอาหาร และล็อบบี้สวนหย่อมในตัวอาคาร ที่มีไว้เพื่อให้เขาเดินผ่านขึ้นไปชั้นสอง

    แม้จะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งรอบตัวมากนัก แต่อย่างหนึ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์คือ กล้องวงจรปิด

    มันถูกติดไว้ตั้งแต่ประตูรั้วทางเข้าฐานทัพ (ซึ่งเข้าใจได้ในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย) ไปจนถึงหน้าห้องพักของแต่ละคนที่อาศัย...

    ไม่แน่ใจว่ามันเห็นพวกเขาเป็นหน่วยพิเศษ หรือเป็นนักโทษกันแน่...

    สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือการที่เขานำโดรนรุ่นจิ๋ว(เลือกทำลายวงจรไฟฟ้าได้เฉพาะจุด)ที่สต็อคไว้สำหรับขายทอดตลาดมาใช้งานอย่างสิ้นเปลือง การโดนจับตามองด้วยกล้องตลอดเวลามันทำให้เขารู้สึกประสาทกิน เพราะฉะนั้นเขาจึงต้องทำลายมันทิ้งให้หมด

    พังทิ้งให้หมด...ตั้งแต่ประตูทางเข้าฐานทัพนั่นแหละ

     

    เรเว่นเงยหน้าจากหลอดทดลอง ตั้งแต่ย้ายเข้ามาเขายังไม่คิดจะก้าวออกจากห้องพัก มันกลายเป็นสถานที่ทดลองแห่งใหม่ของเขาไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ในฐานะหน่วยพิเศษ เขาขอสิทธิในการมีห้องทดลองส่วนตัวที่ศูนย์บัญชาการใหญ่จากเวอกัส ทว่าเวลาที่เขาจะเข้าใช้คือช่วงค่ำจนถึงเช้ามืด เพื่อหลบเลี่ยงสายตาจากเจ้าพวกนักวิจัยจอมสอดรู้กับพวกทหารน่ารำคาญนั่น

    ห้องพักของเขาเป็นห้องกว้างๆ มีเตียง โซฟา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็นนัก ยาเข็มล่าสุดที่ฉีดเข้าไปกำลังจะครบสี่ชั่วโมง มันทำให้โลกเริ่มเป็นสีเทา...และความง่วงงุนกับความหิวกำลังเริ่มครอบงำ ร่างกายของเขากำลังจะประท้วงหาอาหารและการพักผ่อน

    มือเขาใกล้จะสั่น และการทดลองวันนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น

    วัตถุดิบที่นำมาด้วยไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ เขาควรจะหาอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติม แต่การย้ายมาอยู่ที่ฐานทัพของหน่วยพิเศษนี่กลับทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรๆได้อย่างเคย นั่นเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิด

    ปลายเข็มทิ่มทะลุผิวเนื้อ เข้าสู่เส้นเลือดใหญ่ ปล่อยให้ยาค่อยๆวิ่งพล่านเข้าไปในกระแสเลือด พร้อมดื่มด่ำความรู้สึกเต้นตุบของเส้นเลือดอย่างที่เคยเป็น...

     

    กำไลสีเงินที่ข้อมือส่งสัญญาณแจ้งเตือนถึงข้อความที่เข้ามาไม่หยุดสักสิบนาทีแล้ว รู้สึกเหมือนช่วงเช้าจะมีแจ้งประชุมหรืออะไรสักอย่างแต่เขาไม่ได้สนใจ เพราะขี้เกียจต้องไปนั่งฟัง ควีน พล่ามแต่เช้า เลยโดดเอาเสียดื้อๆ ไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวกันไหม

    ด้วยความรำคาญ ชายหนุ่มยกแขนซ้ายขึ้นสะบัดเรียกคำสั่ง จอแสดงผลปรากฏขึ้นบนอากาศ

    สิ่งแรกที่เข้าเห็น คือภาพยัยเด็กผีนั่น คาร์เดีย ซี อาร์เรส นับสิบรูป ยิ้มยิงฟัน ชูสองนิ้ว คู่กับ...หอย

    เรเว่นคิดว่า เขาต้องการยาแก้เครียด หลายๆเข็มด้วย

    กวาดสายตาอ่านผ่านจากรูปพวกนั้นไปยังรายละเอียดอื่นๆ ดูเหมือนแพะนั่นจะไปทำงานตั้งแต่คืนก่อนที่เขาจะเข้ามาพัก ส่วนคนอื่นเพิ่งรับภารกิจกันไปหยกๆ มีแต่งานที่ดูวุ่นวายอย่างการเจรจาหรือการตรวจสอบ ที่แค่คิดก็ปวดกบาลจนเบือนหน้าหนี

    แจ้งเตือนข้อความเข้าร้องขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ภาพคาร์เดียทำตาโต แลบลิ้นทะเล้น คู่กับอัญมณีเม็ดกลมโตสีดำ พร้อมข้อความประกอบ “เจอไข่มุกแล้วค่า” ตัวเบ้อเริ่ม

    เรเว่นกวาดมือไปบนโต๊ะ คว้าเอาหลอดยาสีชมพูอ่อนพร้อมเข็มขึ้นมา ก่อนจะจัดการทิ่มยาเข้าสู่กระแสเลือด...

    อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาไม่ประสาทกินไปก่อน

    สายตากลับมาพินิจรูปอัญมณีที่ว่านั่นอีกครั้ง เม็ดโต กลมไร้ที่ติ และมีสีดำสนิท...เหมือนนิล...

    ไข่มุกสีดำ

    นี่สิที่น่าสนใจ ไม่ว่ามันจะเกิดจากอะไรก็ตาม แต่ไข่มุกที่เป็นไข่มุก และมีสีดำสนิท มันหายากยิ่งกว่ายาก

    เขาไม่เคยลองนำไข่มุกมาสกัดเป็นยา...แต่ถ้ามุกสีดำพวกนั้น...อาจมีประโยชน์อะไรมากกว่าที่คิด ต่อให้ใช้เป็นยาไม่ได้ ก็ยังเป็นที่ต้องการในตลาดมืด...

    และเพิร์ลเต็มไปด้วยไข่มุกดำ...นั่นหมายถึงขุมสมบัติ...

    เลื่อนข้อความไปดูที่รายละเอียดภารกิจของแม่เด็กผีนั่นอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจว่ามันจะไม่ยุ่งยากเกินไปนัก

    >>>> ไข่มุกที่เก็บได้จากหมู่บ้านเพิร์ลกลายเป็นสีดำสนิทเหมือนมีเวทย์มนตร์ชั่วร้ายบางอย่างเคลือบอยู่ ประชาชนที่นั่นบอกว่าอาจจะเป็นเกิดการเปลี่ยนแปลงใต้ทะเลลึกก็เป็นได้ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ลงไปงมไข่มุกเองแต่ใช้เครื่องจักรแทน ซึ่งเครื่องจักรเหล่านั้นก็เหมือนถูกย้อมด้วยพลังอำนาจบางอย่างให้กลายเป็นสีดำสนิท แม้ว่าจะสามารถซ่อมแซมได้ แต่ดูเหมือนคราบสีดำจะไม่หายไป จึงอยากให้หน่วยพิเศษไปตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นใต้ทะเลลึก <<<

    เวทมนต์ชั่วร้าย?

    หัวเราะออกมาพรืดหนึ่งอย่างอดไม่อยู่ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีประชาชนฝั่งเมโทรโปลิสที่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์โง่ๆพรรค์นั้น แต่อาจเพราะช่วงนี้กำลังมีปัญหากับฝั่งแฟนตาเซีย ความหวาดระแวงของพวกงี่เง่าถึงได้พุ่งสูงนัก

    งานนี้มีแค่การดำน้ำหาสาเหตุ จะไปยากอะไรนัก

     “ติดต่อ คาร์เดีย 

    ยืนยันคำสั่ง กรุณารอสักครู่

    ไม่ถึงสามวินาที ภาพจำลองใบหน้าของเด็กสาวปรากฏขึ้นแทนหน้าจอคำสั่ง

    เฮ้ย ยัยเด็กผี นั่นเป็นประโยคแรกที่เขาทักออกไป สีหน้าและการขยับปากของเด็กนั่นแสดงให้เห็นว่ากำลังจะเริ่มพูดอะไรสักอย่าง ซึ่งเขาขี้เกียจจะฟัง

    อย่ารีบนักล่ะ กำลังตามไป

    หา???” ดูเหมือนประโยคนั้นของเขาจะทำให้เจ้าหล่อนตกใจเหลือหลาย เห็นได้จากดวงตาที่เบิกกว้าง และตามมาด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ ลุง? ชื่ออะไรนะ??? เรเว่น??? มาทำไมอะ???”

    ลุง? คำนั้นทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนปัดความรำคาญนั้นทิ้งไป

    งานนี้น่าสนใจ ข้าขอลุยด้วย"

    เด็กสาวเบิกตากว้าง ก่อนจะยิ้มยิงฟัน ผิวปากแซว ใจกล้าเหมือนกันนะคะเนี่ย งั้นไหน ๆ ก็โทรมาแล้ว หยิบของมาให้หนูหน่อยนะลุง

    สิ้นสุดการติดต่อ ของที่ต้องการครบเรียบร้อย

    อ่านรายละเอียดภารกิจของคนอื่นผ่านตา ดูเหมือนเด็กผู้หญิงผมน้ำเงินจะต้องปีนเขา จากร่างกายที่ออกจะบางจนแค่ดีดก็กระเด็นได้นั่น...ควรจะเสริมอะไรให้สักนิด...

    เขายังมียาที่ไม่ได้ใช้อยู่บ้าง...ยกให้เจ้าหล่อนไปเพื่อความสบายกระเป๋าก็ไม่เดือดร้อน

    จำพวกเพิ่มความอบอุ่น...บางทีน่าจะมียาเสริมกล้ามเนื้อด้วย...

    อันหลังไม่บอกคงจะดีกว่า...

    ชายหนุ่มปิดกระเป๋าเหล็กใบนั้น อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงใส่ไว้ให้พวกหนูตะเภาเรียบร้อยแล้ว กล่องเหล็กใบยาวที่มีอักษร US ของคาร์เดียที่เจ้าตัวขอมาวางไว้ข้างตัว

    จัดยานบินให้ข้าลำนึง...แล้วติดต่อควีน ออกคำสั่งไปที่กำไลข้อมือ มันต่อตรงหาแม่ทัพและจอมพล

    งานที่เพิร์ล ข้าเอาด้วย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×