ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Charlatan and Mister Loong

    ลำดับตอนที่ #17 : 10 - สงคราม

    • อัปเดตล่าสุด 9 มิ.ย. 57


     

    18 May 500AP

    หมู่บ้านอีเธอร์ฮิลล์ถูกทำลาย ไม่ปรากฏผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียว หลักฐานยืนยันว่าเป็นพลังงานเวทมนตร์ ล่าสุดทางรัฐแจ้งว่าการนัดเจรจากับประเทศข้างเคียงจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

    จากการสืบสวนข้อมูลพบว่า….

    เรเว่นกวาดตาอ่านผ่านๆ นั่นไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก

    คนตายยกหมู่บ้าน หลักฐานบอกว่ามันคือเวทมนตร์...

    สงคราม

    บางทีฝั่งแฟนตาเซียอาจทำพิธีปัดรังควานแล้วโดนผีเข้า หรือเกิดสวดมนต์ผิดบทจนโดนนางไม้ลงโทษ

    เขาไม่แน่ใจนัก แต่การเปิดสงครามด้วยการฆ่าล้างหมู่บ้านไม่เหลือแม้แต่ศพ ทิ้งไว้แต่คราบเลือดสาดกระจายให้ดูต่างหน้าออกจะดูโรคจิตเหมือนพิธีกรรมเซ่นสังเวยของพวกคลั่งไสยศาสตร์

    “ไอ้พวกงมงายนั่น...”

    สบถคำหยาบออกมาสองสามคำ สงครามอาจทำให้เขามีงานมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือเรื่องน่ารำคาญใจ

    ยาที่เคยสกัดไว้อาจไม่พอใช้ เหล่าลูกค้านายทหารต้องการยาบำรุงมากกว่าที่เคย แม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงปิดร้าน แต่พวกมันยังคงติดต่อมาเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นการสูญเสียรายได้ที่พึงมี และเพื่อการผลาญงบประมาณเวอกัส เขาจึงใช้ห้องทดลองของกองทัพในการสกัดยาส่งลูกค้ารายใหญ่

    ประหยัดเงินลงทุนไปได้โข

     

    เกล็ดหายไปแล้ว…

    ใช้เวลาอีกหลายวันหลังจากงานเลี้ยงนั่นเพื่อยืนยันว่าเกล็ดบนร่างกายหายไปหมดเกลี้ยงอย่างแน่นอน และไม่มีผลข้างเคียงอื่นใดอีก ทันทีที่ระบบประมวลผลแจ้งมาเรียบร้อย เขาก็รีบอัดยาเข็มแรกเข้าเส้นเลือดทันที

    ความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย...ความร้อนที่แล่นไปตามกระแสเลือด...อาการเต้นตุบและความปีติยินดี เหล่านั้นทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง…

    โลกไม่เป็นสีเทาอีกต่อไป...

    หลังงานปาร์ตี้มีโอกาสได้เห็นแม่ทัพปริภูมิที่ฐานทัพอยู่เนืองๆ หลายครั้งมาเพื่อนั่งดื่มเบียร์และผลาญเหล้าราคาแพงที่เขาให้มันเป็นของขวัญในงานจับฉลาก อยู่มาวันหนึ่งมันก็โยนอุปกรณ์หน้าตาประหลาดที่โผล่มาจากอากาศให้เขา 'เอ็งลองเอาไปเล่นดู ตูว่าเหมาะกับมากๆ'

    หน้ากากกันก๊าซพิษ เข็มขัดหน้าตาประหลาดที่มีช่องบรรจุยากับปุ่มแปลกๆ สองสามปุ่ม 'ใช้พ่นก๊าซได้ฟู่ๆ เลยนะเว้ย!' มันว่าอย่างนั้น

    เขารับมาแม้จะไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ ควรบอกมันว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้ เขาใช้ยา ไม่ใช่ก๊าซ...

    แต่บางที...ของได้ฟรีก็ต้องรับ...

    การเข้าออกห้องทดลองของกองทัพทำให้การพัฒนาตัวยาต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น วัตถุดิบหลายชนิดที่ไม่สามารถสกัดเอง ในเวลานี้กลับดำเนินไปอย่างราบรื่น เทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัส และงบประมาณของเวอร์กัส สองสิ่งนี้ทำให้ยาหลายชนิดหมดปัญหาที่เคยมีได้อย่างง่ายดาย

    ชั้นแล็บของกองทัพยามดึกมักร้างผู้คน หรือต่อให้มีก็ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อน เพราะถูกแบ่งแยกย่อยและมีการระบุชัดเจน สำหรับตัวเขา - หน่วยพิเศษ - มีแล็บที่อุปกรณ์ครบครันเป็นของตนเอง การจะเข้าได้ต้องอาศัยทั้งม่านตา รอยนิ้วมือ ลักษณะโครงหน้า รวมไปถึงลักษณะทางพันธุกรรม

    การถูกเข็มทิ่มนิ้วทุกวันไม่ใช่เรื่องสนุก

    นั่นคือสิ่งที่เขาสรุปได้จากระบบรักษาความปลอดภัยที่มากมายเกินเหตุ

    สิ่งที่บรรดาทหารยามและเหล่านักวิจัยรอบดึกรู้ คือเขาเป็นนักวิจัยระดับสูงที่มีสิทธิในการเข้าเขตหวงห้ามแต่เพียงผู้เดียว

    ทุกวันจะต้องผ่านทหารยาม กับนักวิจัยสองหรือสามคนที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดิม พวกมันมักพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ โดยพยายามลากเขาไปคุยด้วย สิ่งที่ต้องทำมีเพียงการทำทีเป็นสนใจสักสองหรือสามนาที พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวด้วยการอ้างว่าต้องทำงานต่อ

    ทว่าช่วงหลังกลับมีหัวข้อหนึ่งที่คุยกันบ่อย

    ‘สงคราม’

    บรรยากาศตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่นับวันจะยิ่งหนักขึ้นทำให้ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างพวกที่ทำงานในกองทัพต้องตื่นตัว กระทั่งเขาที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ยังโดนพวกนักวิจัยสู่รู้และทหารสอดเห็นซักไซ้เรื่องงาน ว่าเกี่ยวข้องกับสงครามหรือไม่ อย่างไร…

    พวกน่ารำคาญ…

    การปฏิเสธไม่ได้ทำให้พวกนั้นเชื่อ ความเงียบก็ไม่ และหากตอบไปว่าเป็นความลับ สิ่งที่ตามออกไปอาจเป็นข่าวลืองี่เง่า เขาไม่อยากรับผิดชอบกับเรื่องพวกนั้น มันน่ารำคาญเกินไป

    สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงรอยยิ้มเป็นมิตร เสแสร้ง ว่าเป็นเพียงการวิจัยยารักษาสำหรับกองทัพเท่านั้น

     

    19 May 500AP

    เช้ามืด

    พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีนัก ยาถูกฉีดเข้าเส้นเลือดอีกครั้ง ชายหนุ่มก้าวขึ้นยานส่วนตัวที่เบิกใช้ในนามเวอร์กัสเพื่อกลับไปยันฐานทัพ เขาเลือกที่จะออกจากศูนย์ในเวลานี้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอนักวิจัยน่ารำคาญ

    เมื่อกลับมาใช้ยาได้ การนอนหลับก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่มีความรู้สึกน่ารำคาญเข้ามารบกวนร่างกาย ความง่วง ความเหนื่อย ความหิว ถูกลบได้ด้วยยาเข็มเล็กๆ เวลาทุกวินาทีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่า

    ไม่มีฝันร้าย...ไม่มีความหิวโหย...ไม่มีเสียงกระซิบจากความทรงจำที่หลอกหลอน...

    มิคังกำลังซ้อมดาบอยู่ที่สนามหน้าฐาน โดยมีเอเลี่ยนเดินตัดหญ้า และแพะยืนเล็มหญ้าอยู่ห่างๆ พยักหน้าทักทายเล็กน้อย และเดินลากสลิปเปอร์ผ่านเข้าไป

    ยาที่สกัดจากพิษและน้ำหมึกคราเคนอีกสองชนิดกำลังรออยู่ในตู้รักษาอุณหภูมิ เขาตัดสินใจจะทดลองพวกมันต่ออีกสักนิด

    เมื่อก้าวเท้าเข้าห้องและตั้งต้นทดลอง...เวลาก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว

     

    19 May 500 AP

    1530PM

    ชายหนุ่มตัดสินใจว่าควรพัก หลังให้อาหารหนูตะเภา เขาจึงลากสลิปเปอร์ออกจากห้องพักของตนและไปยังห้องนั่งเล่น

    แปลก...

    รีน่ากับมิคังอยู่ตรงนั้นทั้งที่ปกติจะไม่อยู่ เขาไม่เห็นโกสต์ บางทีมันคงอยู่ข้างนอก เอเลี่ยนไปทำงานของกองทัพตามหน้าที่ ส่วนยัยเด็กผีก็หายหัวไปอีกตามเคย

    ผู้หญิงสองคนนั้นนั่งอยู่หน้าจอโฮโลแกรมที่กำลังถ่ายทอดข่าวอะไรสักอย่าง สีหน้าไม่สู้ดีนัก

    เรเว่นถือแก้วกาแฟ ทิ้งตัวลงบนโซฟา กลิ่นหอมกรุ่นตรงปลายจมูกกระตุ้นสมองได้ดี

    ทั้งสองคนหันมามองหน้าเขา สายตาแปลกประหลาด เขาไม่ได้ใส่ใจกับมัน จนกระทั่งมิคังเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน

    "เรเวนซัง" เจ้าหล่อนไม่เคยออกเสียงชื่อเขาได้ชัดเจนนัก ครั้งนี้ก็เช่นกัน "สงคราม..."

    สงคราม สงคราม เกลียดคำนี้ขึ้นมาตงิดๆ เมื่อตลอดทั้งวันทั้งคืนดูเหมือนจะมีแต่คนพยายามคุยเรื่องนี้กับเขา

    เขาถอนใจเฮือกหนึ่ง "อะไร?"

    "เมื่อครู่มีการถ่ายทอดสดการประชุมกับทางฝั่งแฟนตาเซียค่ะ" ท่าทางของเจ้าหล่อนดูไม่อยากเอ่ยถึงมันเท่าไหร่นัก แต่ดูจะเป็นเรื่องสำคัญ

    "เวอร์กัสประกาศสงครามกับแม่ทัพของฝ่ายนั้น"

    แล้วประโยคต่อมาก็ทำให้เขาต้องชะงักงัน...

    แม่ทัพปริภูมิ...เสียชีวิตแล้วค่ะ...

    -----------------------------------------------
    มิคังและรีน่า

      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×