คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 10 - สงคราม
18 May 500AP
หมู่บ้านอีเธอร์ฮิลล์ถูกทำลาย ไม่ปรากฏผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียว หลักฐานยืนยันว่าเป็นพลังงานเวทมนตร์ ล่าสุดทางรัฐแจ้งว่าการนัดเจรจากับประเทศข้างเคียงจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
จากการสืบสวนข้อมูลพบว่า….
เรเว่นกวาดตาอ่านผ่านๆ นั่นไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก
คนตายยกหมู่บ้าน หลักฐานบอกว่ามันคือเวทมนตร์...
สงคราม
บางทีฝั่งแฟนตาเซียอาจทำพิธีปัดรังควานแล้วโดนผีเข้า หรือเกิดสวดมนต์ผิดบทจนโดนนางไม้ลงโทษ
เขาไม่แน่ใจนัก แต่การเปิดสงครามด้วยการฆ่าล้างหมู่บ้านไม่เหลือแม้แต่ศพ ทิ้งไว้แต่คราบเลือดสาดกระจายให้ดูต่างหน้าออกจะดูโรคจิตเหมือนพิธีกรรมเซ่นสังเวยของพวกคลั่งไสยศาสตร์
“ไอ้พวกงมงายนั่น...”
สบถคำหยาบออกมาสองสามคำ สงครามอาจทำให้เขามีงานมากขึ้นกว่าเดิม นั่นคือเรื่องน่ารำคาญใจ
ยาที่เคยสกัดไว้อาจไม่พอใช้ เหล่าลูกค้านายทหารต้องการยาบำรุงมากกว่าที่เคย แม้ตอนนี้จะอยู่ในช่วงปิดร้าน แต่พวกมันยังคงติดต่อมาเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นการสูญเสียรายได้ที่พึงมี และเพื่อการผลาญงบประมาณเวอกัส เขาจึงใช้ห้องทดลองของกองทัพในการสกัดยาส่งลูกค้ารายใหญ่
ประหยัดเงินลงทุนไปได้โข
เกล็ดหายไปแล้ว…
ใช้เวลาอีกหลายวันหลังจากงานเลี้ยงนั่นเพื่อยืนยันว่าเกล็ดบนร่างกายหายไปหมดเกลี้ยงอย่างแน่นอน และไม่มีผลข้างเคียงอื่นใดอีก ทันทีที่ระบบประมวลผลแจ้งมาเรียบร้อย เขาก็รีบอัดยาเข็มแรกเข้าเส้นเลือดทันที
ความรู้สึกที่แสนคุ้นเคย...ความร้อนที่แล่นไปตามกระแสเลือด...อาการเต้นตุบและความปีติยินดี เหล่านั้นทำให้เขารู้สึกปลอดภัยอีกครั้ง…
โลกไม่เป็นสีเทาอีกต่อไป...
หลังงานปาร์ตี้มีโอกาสได้เห็นแม่ทัพปริภูมิที่ฐานทัพอยู่เนืองๆ หลายครั้งมาเพื่อนั่งดื่มเบียร์และผลาญเหล้าราคาแพงที่เขาให้มันเป็นของขวัญในงานจับฉลาก อยู่มาวันหนึ่งมันก็โยนอุปกรณ์หน้าตาประหลาดที่โผล่มาจากอากาศให้เขา 'เอ็งลองเอาไปเล่นดู ตูว่าเหมาะกับมากๆ'
หน้ากากกันก๊าซพิษ เข็มขัดหน้าตาประหลาดที่มีช่องบรรจุยากับปุ่มแปลกๆ สองสามปุ่ม 'ใช้พ่นก๊าซได้ฟู่ๆ เลยนะเว้ย!' มันว่าอย่างนั้น
เขารับมาแม้จะไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ ควรบอกมันว่าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ของพวกนี้ เขาใช้ยา ไม่ใช่ก๊าซ...
แต่บางที...ของได้ฟรีก็ต้องรับ...
การเข้าออกห้องทดลองของกองทัพทำให้การพัฒนาตัวยาต่างๆ เป็นไปได้ง่ายขึ้น วัตถุดิบหลายชนิดที่ไม่สามารถสกัดเอง ในเวลานี้กลับดำเนินไปอย่างราบรื่น เทคโนโลยีขั้นสูงที่ไม่เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สัมผัส และงบประมาณของเวอร์กัส สองสิ่งนี้ทำให้ยาหลายชนิดหมดปัญหาที่เคยมีได้อย่างง่ายดาย
ชั้นแล็บของกองทัพยามดึกมักร้างผู้คน หรือต่อให้มีก็ไม่ใช่เรื่องเดือดร้อน เพราะถูกแบ่งแยกย่อยและมีการระบุชัดเจน สำหรับตัวเขา - หน่วยพิเศษ - มีแล็บที่อุปกรณ์ครบครันเป็นของตนเอง การจะเข้าได้ต้องอาศัยทั้งม่านตา รอยนิ้วมือ ลักษณะโครงหน้า รวมไปถึงลักษณะทางพันธุกรรม
การถูกเข็มทิ่มนิ้วทุกวันไม่ใช่เรื่องสนุก
นั่นคือสิ่งที่เขาสรุปได้จากระบบรักษาความปลอดภัยที่มากมายเกินเหตุ
สิ่งที่บรรดาทหารยามและเหล่านักวิจัยรอบดึกรู้ คือเขาเป็นนักวิจัยระดับสูงที่มีสิทธิในการเข้าเขตหวงห้ามแต่เพียงผู้เดียว
ทุกวันจะต้องผ่านทหารยาม กับนักวิจัยสองหรือสามคนที่ไม่แน่ใจว่าเป็นคนเดิม พวกมันมักพูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ โดยพยายามลากเขาไปคุยด้วย สิ่งที่ต้องทำมีเพียงการทำทีเป็นสนใจสักสองหรือสามนาที พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวด้วยการอ้างว่าต้องทำงานต่อ
ทว่าช่วงหลังกลับมีหัวข้อหนึ่งที่คุยกันบ่อย
‘สงคราม’
บรรยากาศตึงเครียดระหว่างสองประเทศที่นับวันจะยิ่งหนักขึ้นทำให้ผู้เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างพวกที่ทำงานในกองทัพต้องตื่นตัว กระทั่งเขาที่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ยังโดนพวกนักวิจัยสู่รู้และทหารสอดเห็นซักไซ้เรื่องงาน ว่าเกี่ยวข้องกับสงครามหรือไม่ อย่างไร…
พวกน่ารำคาญ…
การปฏิเสธไม่ได้ทำให้พวกนั้นเชื่อ ความเงียบก็ไม่ และหากตอบไปว่าเป็นความลับ สิ่งที่ตามออกไปอาจเป็นข่าวลืองี่เง่า เขาไม่อยากรับผิดชอบกับเรื่องพวกนั้น มันน่ารำคาญเกินไป
สิ่งที่เขาต้องทำมีเพียงรอยยิ้มเป็นมิตร เสแสร้ง ว่าเป็นเพียงการวิจัยยารักษาสำหรับกองทัพเท่านั้น
19 May 500AP
เช้ามืด
พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีนัก ยาถูกฉีดเข้าเส้นเลือดอีกครั้ง ชายหนุ่มก้าวขึ้นยานส่วนตัวที่เบิกใช้ในนามเวอร์กัสเพื่อกลับไปยันฐานทัพ เขาเลือกที่จะออกจากศูนย์ในเวลานี้เสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอนักวิจัยน่ารำคาญ
เมื่อกลับมาใช้ยาได้ การนอนหลับก็ไม่ใช่สิ่งจำเป็น ไม่มีความรู้สึกน่ารำคาญเข้ามารบกวนร่างกาย ความง่วง ความเหนื่อย ความหิว ถูกลบได้ด้วยยาเข็มเล็กๆ เวลาทุกวินาทีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง สามารถใช้ได้อย่างคุ้มค่า
ไม่มีฝันร้าย...ไม่มีความหิวโหย...ไม่มีเสียงกระซิบจากความทรงจำที่หลอกหลอน...
มิคังกำลังซ้อมดาบอยู่ที่สนามหน้าฐาน โดยมีเอเลี่ยนเดินตัดหญ้า และแพะยืนเล็มหญ้าอยู่ห่างๆ พยักหน้าทักทายเล็กน้อย และเดินลากสลิปเปอร์ผ่านเข้าไป
ยาที่สกัดจากพิษและน้ำหมึกคราเคนอีกสองชนิดกำลังรออยู่ในตู้รักษาอุณหภูมิ เขาตัดสินใจจะทดลองพวกมันต่ออีกสักนิด
เมื่อก้าวเท้าเข้าห้องและตั้งต้นทดลอง...เวลาก็ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว
19 May 500 AP
1530PM
ชายหนุ่มตัดสินใจว่าควรพัก หลังให้อาหารหนูตะเภา เขาจึงลากสลิปเปอร์ออกจากห้องพักของตนและไปยังห้องนั่งเล่น
แปลก...
รีน่ากับมิคังอยู่ตรงนั้นทั้งที่ปกติจะไม่อยู่ เขาไม่เห็นโกสต์ บางทีมันคงอยู่ข้างนอก เอเลี่ยนไปทำงานของกองทัพตามหน้าที่ ส่วนยัยเด็กผีก็หายหัวไปอีกตามเคย
ผู้หญิงสองคนนั้นนั่งอยู่หน้าจอโฮโลแกรมที่กำลังถ่ายทอดข่าวอะไรสักอย่าง สีหน้าไม่สู้ดีนัก
เรเว่นถือแก้วกาแฟ ทิ้งตัวลงบนโซฟา กลิ่นหอมกรุ่นตรงปลายจมูกกระตุ้นสมองได้ดี
ทั้งสองคนหันมามองหน้าเขา สายตาแปลกประหลาด เขาไม่ได้ใส่ใจกับมัน จนกระทั่งมิคังเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อน
"เรเวนซัง" เจ้าหล่อนไม่เคยออกเสียงชื่อเขาได้ชัดเจนนัก ครั้งนี้ก็เช่นกัน "สงคราม..."
สงคราม สงคราม เกลียดคำนี้ขึ้นมาตงิดๆ เมื่อตลอดทั้งวันทั้งคืนดูเหมือนจะมีแต่คนพยายามคุยเรื่องนี้กับเขา
เขาถอนใจเฮือกหนึ่ง "อะไร?"
"เมื่อครู่มีการถ่ายทอดสดการประชุมกับทางฝั่งแฟนตาเซียค่ะ" ท่าทางของเจ้าหล่อนดูไม่อยากเอ่ยถึงมันเท่าไหร่นัก แต่ดูจะเป็นเรื่องสำคัญ
"เวอร์กัสประกาศสงครามกับแม่ทัพของฝ่ายนั้น"
แล้วประโยคต่อมาก็ทำให้เขาต้องชะงักงัน...
“แม่ทัพปริภูมิ...เสียชีวิตแล้วค่ะ...”
มิคังและรีน่า
ความคิดเห็น