คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : 9.3 - ผู้หญิง
เรเว่นกลัวความตาย…
แต่นาทีนี้กำลังรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย
สารพัดเมนูในปาร์ตี้อุดมไปด้วยหมึก หมึก หมึก และหมึก สิ่งที่ดูดีไม่กี่อย่างคือซุปอะไรสักอย่างกับปลาดิบๆตามความถนัดของคนทำ บางทียัยนั่นอาจไม่ถนัดกินของสุก เป็นข้อสังเกตที่เขาตั้งไว้ในใจ
เขามองพวกมันด้วยความรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้อง รสชาติและกลิ่นคาวหมึกจากคราเคนยังหลอนอยู่ในหัว รู้สึกเหมือนกินพวกมันไปสักสิบกิโลได้ (แม้ในความเป็นจริงอาจไม่มากขนาดนั้น) หากเป็นเวลาปกติเขาอาจผละหนีจากโต๊ะ แต่หากทำอย่างนั้นแล้วดูจะไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพกระเพาะอาหารเท่าไหร่นัก
เกล็ดหายไปเกือบหมดแล้ว...ตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ช่วงหลังและลำตัว ไม่เกินหนึ่งหรือสองวันน่าจะหายไปหมด หมายความว่ายังต้องพึ่งฝีมือทำกับข้าวของมิคัง (ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีของปาร์ตี้)ไปอีกสักพัก เขาไม่อยากเสี่ยงให้เจ้าหล่อนหงุดหงิดจนกระแทกปลาหมึกใส่หน้าเท่าไหร่
เรเว่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ เงยหน้าจากรายการอาหารที่กำลังจะยกมาเสิร์ฟ เพิ่งเห็นคนที่นั่งตรงข้ามว่าเป็นชายหนุ่มผมดำ...ชี้เหมือนเขาแพะ...หมอนั่นนั่งกำช้อนส้อมและยิ้ม
ยิ้มแบบไม่รู้ว่าทำไมต้องยิ้ม…
ถ้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นไอ้คนที่ส่ง แพะ เข้าประชุม กำไลประจำตัวของหน่วยอยู่ที่ข้อมือมันอย่างแน่นอน
เจ้านั่นกำลังกำช้อนส้อมและเคาะเป็นจังหวะ ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนเจ้าตัวกำลังพึมพำเป็นจังหวะด้วย…
“หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว!”
แพะ(จริงๆ) ยืนประจำการอยู่ด้านหลังหมอนั่น และกำลังแทะพรมด้วยสีหน้าเบื่อโลก
บางทีก่อนจะฆ่าตัวตาย เขาควรได้ยาแก้เครียดสักเข็มก่อน
“ทุกคนนนน ปาร์ตี้จะเริ่มแล้วนะค้า~ นั่งประจำที่ได้เลยค่า!”
เสียงวี้ดว้ายประจำตัวของคาร์เดียลอยมาประหนึ่งนาฬิกาบอกเวลา หกโมงตรงเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่วินาทีเดียว อิงจากนาฬิกาของหน่วย สมาชิกบนโต๊ะนั่งครบองค์ ยกเว้นยัยเจ๊มิคังที่ทำหน้าที่ดูแลอาหาร
ยัยเด็กหัวน้ำเงินดูหายสนิทดีแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะยาของเขา หรือเพราะอะไรแน่ แต่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดคือ...รู้สึกเหมือนจะหนีคาร์เดียไม่พ้น
เธอนั่งอยู่ข้างเขา ยิ้มหรา อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ...เต็มไปด้วยหมึกอย่างที่แจ้งไว้ในเมนู...อยากกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ดูเป็นการตายที่ทรมานไปหน่อย แต่น่าจะดีกว่ายัดหมึกเข้าร่างกายทั้งที่รู้สึกว่าของเก่ายังค้างอยู่ในกระเพาะ
แล้วประตูห้องอาหารก็เปิดออก
“จะเริ่มปาร์ตี้กันโดยไม่มีตูได้ไงฟะ!”
เริ่มจากเสียง ตามมาด้วยร่างของปริภูมิ แม่ทัพแห่งเมโทรโปลิส มันก้าวเข้ามาพร้อมกลิ่นฉุนของบุหรี่
“กำลังรออยู่เลยค่า เซนเซย์” ยัยเด็กผีทำท่ากระดี๊กระด๊า วิ่งเข้าไปต้อนรับอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่ปริภูมิหันไปทางประตู
“เฮ้ย มัวทำอะไรอยู่ รีบเข้ามาดิวะ”
น่าประหลาดใจ เวอร์กัสมาด้วย
ท่านแม่ทัพฉุดกระชากร่างของควีนเข้ามาในห้อง บรรยากาศเงียบไปถนัดตา
เรเว่นนึกขำ การมีเจ้านายคุมตอนปาร์ตี้มักทำให้ลูกน้องเฮฮาไม่สุด กรณีนี้ก็ดูจะไม่ใช่ข้อยกเว้นเท่าไหร่นัก บางทีอาจเพราะบรรยากาศน่าหมั่นไส้ประจำตัวของควีน ทำให้คนอื่นดูไม่ชอบใจกับการที่มันเข้ามาแจม
สำหรับเขาไม่ใช่ปัญหา…
เพราะของที่เอามาก็งบมันล้วนๆ
“ว้าว~ น่าแปลกจริงๆ ที่นายท่านมาร่วมงานปาร์ตี้ด้วย เชิญเลยค่านายท่าน”
เสียงแหลมๆประจำตัวของยัยเด็กผีตามเคย เจ้าหัวขาว - เอเลี่ยน - ทำงานเบ๊ของมันอย่างรวดเร็วด้วยการยกเก้าอี้จากที่ไหนไม่รู้อีกตัวมาให้ ก่อนทั้งสองคนจะนั่งลงที่หัวโต๊ะ
ปริภูมิคว้ากล่องอะไรสักอย่างส่งให้มิคัง แล้วมันก็หันมาโวย
“เอ้า! รอให้พ่อมาตัดริบบิ้นหรอ กินกันเลยดิ หิวจะตายแล้ว”
เรเว่นกำลังคีบข้าวโปะปลาดิบชิ้นหนึ่งเข้าปาก
“ตะ...แต่" เสียงใสๆเบาโหวงของรีน่านั้นเหมือนกำลังจะร้องไห้ "พ่อหนูอยู่ที่โบสถ์นะคะ ให้มาที่นี่คงไม่...”
ข้าวแทบพุ่งออกจากจมูก แพะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เรเว่นคว้าน้ำขึ้นดื่มไล่ของที่ติดอยู่ในคอทั้งที่ไหล่ยังสั่น คาร์เดียที่นั่งข้างๆกำลังอุดปากตัวเองด้วยท่าทีเหมือนคนกำลังจะขำตาย
บรรยากาศหม่นๆหายไป
แพะที่นั่งตรงข้ามเขาคว้าทุกสิ่งเข้าปากอย่างรวดเร็ว เอเลียนนั่งเยื้องฝั่งตรงข้ามก้มหน้าก้มตากิน รีน่านั่งยิ้มแย้มด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจว่าตนเป็นหนึ่งในผู้ปรุง มิคังคอยดูแลอาหารทุกอย่างบนโต๊ะสมกับที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร กระทั่งแม่ทัพปริภูมิและควีนเวอกัสก็เอ่ยปากชมไม่ขาด
รู้สึกเหมือนภาพที่เห็นจะมีสีอื่นนอกจากสีเทา…
เตาย่างเนื้อถูกยกมาตั้ง สันในอย่างดีโดยแม่ทัพปริภูมิเตรียมพร้อมให้ทุกคนรุมสกรัม เขาแสยะยิ้ม คว้าเอา ‘อาหาร’ ของตัวเองขึ้นมาบ้าง
“เข้ากันพอดี” กระแทกขวดลงบนโต๊ะ ขวดคริสตัลสีฟ้าใส รูปทรงเหมือนหยดน้ำ “เหล้าจากทางเหนือ บ่มยี่สิบปี หวานใสเหมือนน้ำค้าง ดีกรีเหมือนซาตาน พาพวกเอ็งขึ้นสวรรค์แน่”
ราคาก็ชวนตายพอกัน
“เจ๋งเป้ง!” ปริภูมิยกนิ้วโป้งด้วยท่าทางกระตือรือร้น พร้อมกับที่เอเลี่ยนจัดการเทของเหลวสีใสเหมือนน้ำเปล่านั่นลงแก้ว
ไร้กลิ่น ไร้สี ดีกรีซาตาน
ไจโรบอกเขาอย่างนั้น ขวดหนึ่งราคาเหยียบครึ่งล้านเพราะกรรมวิธีการบ่มที่เป็นความลับจากทางเหนือ กับระยะเวลาที่ยาวนาน
“ลุงขา”
คาร์เดียที่นั่งข้างๆเริ่มกระแซะเข้ามาใกล้ “อ้ามหน่อยนะคะ หมึกสุกรสไม่แหวะเหมือนหมึกดิบๆ หรอกนะคะ อ้ามมมมม”
ตะเกียบในมือเด็กสาวคีบ ไอ้นั่น เข้ามาใกล้ กลิ่นคาวทะเลอันเป็นจุดเด่นที่ชาตินี้คงไม่มีทางลืม แม้จะถูกกลิ่นของไฟที่ใช้ย่างกลบไปบ้างแล้วก็ตามที เขาผงะไปด้านหลัง กลิ่นพวกนั้นมันออกจะ น่าสยดสยอง
“กินเองสิโว้ย! ยัยเด็กผี!!!” แยกเขี้ยวใส่แล้วเบ้ปาก
“แหม...น่าเสียดายน้า” เจ้าหล่อนคีบมันใส่ปากแล้วทำท่าพริ้ม นั่นทำให้เขา ขนลุก “เนี่ย…แบบเนี้ยค่ะลุง หนวดดุ๊บดิ๊บ ๆ เคี้ยวกรุบกรอบ อร่อยน้า”
เรเว่นตัดสินใจเบือนหน้าหนี
เขาควรเอายาพิษไปรมห้องมันจริงๆด้วย!
การ กระซวก (เขาจำเป็นต้องใช้คำนั้น) ดำเนินไปได้อีกสักพัก แล้วเสียงแหลมๆของคาร์เดียก็งุ้งงิ้งมาอีกครั้ง
“ทุกคนนนน หันมาทางนี้แป๊บนึงค่าาาาาา”
เรเว่นมอง จอโฮโลแกรมฉายภาพใบหน้าของสมาชิกบนโต๊ะ แล้วเสียง ‘แชะ’ แสนคลาสสิคก็ตามมา
ยัยเด็กนี่...วุ่นวายจริง
อาหารหมดโต๊ะ เหลือของหวานสองสามอย่างที่เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก ตัดสินใจปล่อยให้สาวๆเพลินเพลินกับมันไป แล้วคาร์เดียที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันมาทำเสียงหวานหยดอีกครั้ง
"ลุงขา~"
ไม่รู้เพราะอะไร แต่เขารู้สึกว่าแม่นี่ไม่ได้มีความน่าไว้ใจเลยสักนิด...
"ทานขนมหน่อยนะคะลุง" ยัยเด็กผียิ้มร่า "คริสส่งมาให้ลุงเป็นพิเศษเลยน้า บอกว่าเป็นของขอโทษ ที่หาเรื่องลุงเมื่อวันก่อน"
ของขอโทษ? จากคุณหนู?
ยิ่งไม่ได้ไว้ใจมากขึ้นสักนิด บางทีเจ้านั่นอาจใส่ยาถ่ายผสมมาด้วย
"ขนมจ่ามงกุฎค่ะลุง คริสย้ำๆว่า ต้องให้ลุง 18ชิ้น "
สิ้นประโยคนั้น ขนมจ่ามงกุฏในจานของเขาที่คาร์เดียบรรจงวางให้ ก็ถูกเททิ้งลงถังขยะทันที
เรื่องขนม ยังไงก็ปล่อยให้พวกผู้หญิงทานไปนั่นแหละดีแล้ว
เรเว่นหันไปสนใจเรื่องแลกของขวัญแทน แม้อันที่จริงตัวเขาจะไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องพรรค์นี้เท่าไหร่ แต่ยังดีกว่าการนั่งทานของหวานแสบไส้พวกนั้น
คู่ของเขาคือปริภูมิ ไม่นับเรื่องยาเจ้าแม่ทัพนี่ค่อนข้างจะคอเดียวกับเขา ของขวัญที่ให้จึงง่ายแสนง่าย
“เอาไป”
โยนของให้แบบที่รู้ว่ายังไงมันก็รับได้ ท่านแม่ทัพหัวเทาเลิกคิ้ว แล้วถาม
“อะไรฟะเนี่ย?” มือแกะกล่องออกอย่างลวกๆ ของข้างในคือขวดแก้วสีใสประดับด้วยเพชรเม็ดงาม
“เหล้า” ตอบกลับไป “เก้าสิบปี จิบเดียวก็ตายได้”
ดวงตาของปริภูมิวาววับ ท่าทางจะถูกอกถูกใจอย่างที่คาด
เหล้าราคามหาศาลที่แพงทั้งขวดทั้งของในขวด อย่างที่ไอ้ไจโรบอก ล้านเดียวเอาไม่อยู่…
แค่ไอ้นี่ก็เกือบสิบล้าน ไม่รู้แพงที่ขวดหรือแพงที่เหล้า…
เวอร์กัสเป็นคนเดียวที่นั่งนิ่ง...เพราะไม่รู้ว่าจะมาร่วมงาน จึงไม่มีใครเตรียมของมาให้ เรเว่นเหยียดยิ้ม
“เฮ้ย ท่านควีน”
เขาเรียก มันหันมามองด้วยสายตาไม่ชอบใจกับสรรพนามนัก “รับ”
โยนของที่ซื้อมาให้อย่างส่งๆ ตอนไปเมโทรเวิร์ลเห็นแล้วนึกถึงกองเงินขึ้นมา เลยซื้อไว้ให้เสียหน่อย
“ของขวัญพิเศษให้เจ้านาย”
‘ให้ควีนหงส์หยก’
เขาเขียนการ์ดไว้แบบนั้น
กระจกพกพาสีดำกรุขอบทองสวยงามที่ลงทุนใช้เงินตัวเองซื้อ ถือว่าตอบแทนสำหรับงบประมาณที่ยอมให้เขาผลาญไป
ท่านเจ้านายเหยียดยิ้ม “ขอบใจ” และเก็บมันเข้ากระเป๋า
เรเว่นรู้สึกเหมือนมีใครสักคนดึงแขนเสื้อกาวน์ ยัยเด็กหัวน้ำเงินมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หันไปมองเต็มตา เขาถึงกับผงะ
แม่นี่เอาโบว์ผูกตัวเอง!
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด...สายตาทุกคู่มองมาทางเขาอย่างแปลกประหลาด…
รีน่าพูดเบา...ทว่าได้ยินชัด
“ก...ก็หนูเห็นลุงอยากได้เหยื่อทดลอง…” ดวงตาสีแดงตัดกับสีผมนั่นมองเขา “หนูเลย...เอาตัวเองมาให้...ค่ะ”
เรเว่นกลืนน้ำลายเอื้อกหนึ่ง...นับว่าดีที่ยัยเด็กนี่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่ครบ...แต่เขาอยากจับไหล่บางๆนั่น แล้วเขย่าแรงๆหลายๆทีเสียเหลือเกิน
คนสร้างแม่นี่เป็นพวกตาแก่โรคจิตชอบBDSM รึไง???
“ไอ้…ไอ้ลุงตัณหากลับ!!!”
เสียงแหลมปรี๊ดของคาร์เดียลอยมาเป็นคนแรก แก้วน้ำพลาสติกหนาๆจากใครสักคนลอยมากระแทกหัวเขา เสียงวิ้งในหูดังลั่น
แพะตกจากเก้าอี้ไปนอนกองที่พื้น เอเลี่ยน ไอ้เด็กหัวขาวลุกพรวดพราด มิคังรีบรั้งตัวมันเอาไว้ พร้อมๆกับที่เวอร์กัสตบโต๊ะปึง
สายตาท่านควีนดูไม่เป็นมิตร น้ำเสียงเย็นเยือก ทุกคนมองเหมือนเขาเป็นคนผิด...
“ฉันว่า...เรามีเรื่องต้องคุยกัน…”
เสียงปริภูมิโวยวายตามมา
“อยากมีงี้บ้างจังโว้ยยยยย”
-----------------------
ติดตามเรื่องราวของบรรดาหน่วยพิเศษแห่งเมโทรโปลิสได้ที่
ความคิดเห็น