ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dr.Charlatan and Mister Loong

    ลำดับตอนที่ #15 : 9.3 - ผู้หญิง

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 57


     

     

              เรเว่นกลัวความตาย…

     

              แต่นาทีนี้กำลังรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย

     

              สารพัดเมนูในปาร์ตี้อุดมไปด้วยหมึก หมึก หมึก และหมึก สิ่งที่ดูดีไม่กี่อย่างคือซุปอะไรสักอย่างกับปลาดิบๆตามความถนัดของคนทำ บางทียัยนั่นอาจไม่ถนัดกินของสุก เป็นข้อสังเกตที่เขาตั้งไว้ในใจ

     

              เขามองพวกมันด้วยความรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้อง รสชาติและกลิ่นคาวหมึกจากคราเคนยังหลอนอยู่ในหัว รู้สึกเหมือนกินพวกมันไปสักสิบกิโลได้ (แม้ในความเป็นจริงอาจไม่มากขนาดนั้น) หากเป็นเวลาปกติเขาอาจผละหนีจากโต๊ะ แต่หากทำอย่างนั้นแล้วดูจะไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพกระเพาะอาหารเท่าไหร่นัก

     

              เกล็ดหายไปเกือบหมดแล้ว...ตอนนี้มันเหลืออยู่แค่ช่วงหลังและลำตัว ไม่เกินหนึ่งหรือสองวันน่าจะหายไปหมด หมายความว่ายังต้องพึ่งฝีมือทำกับข้าวของมิคัง (ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตีของปาร์ตี้)ไปอีกสักพัก เขาไม่อยากเสี่ยงให้เจ้าหล่อนหงุดหงิดจนกระแทกปลาหมึกใส่หน้าเท่าไหร่

     

              เรเว่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ เงยหน้าจากรายการอาหารที่กำลังจะยกมาเสิร์ฟ เพิ่งเห็นคนที่นั่งตรงข้ามว่าเป็นชายหนุ่มผมดำ...ชี้เหมือนเขาแพะ...หมอนั่นนั่งกำช้อนส้อมและยิ้ม

     

              ยิ้มแบบไม่รู้ว่าทำไมต้องยิ้ม…

     

              ถ้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นไอ้คนที่ส่ง แพะ เข้าประชุม กำไลประจำตัวของหน่วยอยู่ที่ข้อมือมันอย่างแน่นอน

     

              เจ้านั่นกำลังกำช้อนส้อมและเคาะเป็นจังหวะ ถ้าฟังไม่ผิดเหมือนเจ้าตัวกำลังพึมพำเป็นจังหวะด้วย…

     

              “หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว! หิวแล้ว!”

     

              แพะ(จริงๆ) ยืนประจำการอยู่ด้านหลังหมอนั่น และกำลังแทะพรมด้วยสีหน้าเบื่อโลก

     

              บางทีก่อนจะฆ่าตัวตาย เขาควรได้ยาแก้เครียดสักเข็มก่อน

     


     

              “ทุกคนนนน ปาร์ตี้จะเริ่มแล้วนะค้า~ นั่งประจำที่ได้เลยค่า!”

     

              เสียงวี้ดว้ายประจำตัวของคาร์เดียลอยมาประหนึ่งนาฬิกาบอกเวลา หกโมงตรงเป๊ะ ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่วินาทีเดียว อิงจากนาฬิกาของหน่วย สมาชิกบนโต๊ะนั่งครบองค์ ยกเว้นยัยเจ๊มิคังที่ทำหน้าที่ดูแลอาหาร


              ยัยเด็กหัวน้ำเงินดูหายสนิทดีแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะยาของเขา หรือเพราะอะไรแน่ แต่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดคือ...รู้สึกเหมือนจะหนีคาร์เดียไม่พ้น

     

              เธอนั่งอยู่ข้างเขา ยิ้มหรา อาหารถูกยกมาเสิร์ฟ...เต็มไปด้วยหมึกอย่างที่แจ้งไว้ในเมนู...อยากกัดลิ้นฆ่าตัวตาย ดูเป็นการตายที่ทรมานไปหน่อย แต่น่าจะดีกว่ายัดหมึกเข้าร่างกายทั้งที่รู้สึกว่าของเก่ายังค้างอยู่ในกระเพาะ

     

              แล้วประตูห้องอาหารก็เปิดออก

     

              “จะเริ่มปาร์ตี้กันโดยไม่มีตูได้ไงฟะ!”

     

              เริ่มจากเสียง ตามมาด้วยร่างของปริภูมิ แม่ทัพแห่งเมโทรโปลิส มันก้าวเข้ามาพร้อมกลิ่นฉุนของบุหรี่

     

              “กำลังรออยู่เลยค่า เซนเซย์” ยัยเด็กผีทำท่ากระดี๊กระด๊า วิ่งเข้าไปต้อนรับอย่างรวดเร็ว พร้อมๆกับที่ปริภูมิหันไปทางประตู

     

              “เฮ้ย มัวทำอะไรอยู่ รีบเข้ามาดิวะ”

     

              น่าประหลาดใจ เวอร์กัสมาด้วย

     

              ท่านแม่ทัพฉุดกระชากร่างของควีนเข้ามาในห้อง บรรยากาศเงียบไปถนัดตา

     

              เรเว่นนึกขำ การมีเจ้านายคุมตอนปาร์ตี้มักทำให้ลูกน้องเฮฮาไม่สุด กรณีนี้ก็ดูจะไม่ใช่ข้อยกเว้นเท่าไหร่นัก บางทีอาจเพราะบรรยากาศน่าหมั่นไส้ประจำตัวของควีน ทำให้คนอื่นดูไม่ชอบใจกับการที่มันเข้ามาแจม

     

              สำหรับเขาไม่ใช่ปัญหา…

     

              เพราะของที่เอามาก็งบมันล้วนๆ

     

     

              “ว้าว~ น่าแปลกจริงๆ ที่นายท่านมาร่วมงานปาร์ตี้ด้วย เชิญเลยค่านายท่าน”

     

              เสียงแหลมๆประจำตัวของยัยเด็กผีตามเคย เจ้าหัวขาว - เอเลี่ยน - ทำงานเบ๊ของมันอย่างรวดเร็วด้วยการยกเก้าอี้จากที่ไหนไม่รู้อีกตัวมาให้ ก่อนทั้งสองคนจะนั่งลงที่หัวโต๊ะ

     

              ปริภูมิคว้ากล่องอะไรสักอย่างส่งให้มิคัง แล้วมันก็หันมาโวย

     

              “เอ้า! รอให้พ่อมาตัดริบบิ้นหรอ กินกันเลยดิ หิวจะตายแล้ว”

     

              เรเว่นกำลังคีบข้าวโปะปลาดิบชิ้นหนึ่งเข้าปาก

     

              “ตะ...แต่" เสียงใสๆเบาโหวงของรีน่านั้นเหมือนกำลังจะร้องไห้ "พ่อหนูอยู่ที่โบสถ์นะคะ ให้มาที่นี่คงไม่...”

     

              ข้าวแทบพุ่งออกจากจมูก แพะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น เรเว่นคว้าน้ำขึ้นดื่มไล่ของที่ติดอยู่ในคอทั้งที่ไหล่ยังสั่น คาร์เดียที่นั่งข้างๆกำลังอุดปากตัวเองด้วยท่าทีเหมือนคนกำลังจะขำตาย


              บรรยากาศหม่นๆหายไป

     

              แพะที่นั่งตรงข้ามเขาคว้าทุกสิ่งเข้าปากอย่างรวดเร็ว เอเลียนนั่งเยื้องฝั่งตรงข้ามก้มหน้าก้มตากิน รีน่านั่งยิ้มแย้มด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจว่าตนเป็นหนึ่งในผู้ปรุง มิคังคอยดูแลอาหารทุกอย่างบนโต๊ะสมกับที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร กระทั่งแม่ทัพปริภูมิและควีนเวอกัสก็เอ่ยปากชมไม่ขาด

     

              รู้สึกเหมือนภาพที่เห็นจะมีสีอื่นนอกจากสีเทา…

     

     

     

              เตาย่างเนื้อถูกยกมาตั้ง สันในอย่างดีโดยแม่ทัพปริภูมิเตรียมพร้อมให้ทุกคนรุมสกรัม เขาแสยะยิ้ม คว้าเอา ‘อาหาร’ ของตัวเองขึ้นมาบ้าง

     

              “เข้ากันพอดี” กระแทกขวดลงบนโต๊ะ ขวดคริสตัลสีฟ้าใส รูปทรงเหมือนหยดน้ำ “เหล้าจากทางเหนือ บ่มยี่สิบปี หวานใสเหมือนน้ำค้าง ดีกรีเหมือนซาตาน พาพวกเอ็งขึ้นสวรรค์แน่”

     

              ราคาก็ชวนตายพอกัน

     

              “เจ๋งเป้ง!” ปริภูมิยกนิ้วโป้งด้วยท่าทางกระตือรือร้น พร้อมกับที่เอเลี่ยนจัดการเทของเหลวสีใสเหมือนน้ำเปล่านั่นลงแก้ว

     

              ไร้กลิ่น ไร้สี ดีกรีซาตาน

     

              ไจโรบอกเขาอย่างนั้น ขวดหนึ่งราคาเหยียบครึ่งล้านเพราะกรรมวิธีการบ่มที่เป็นความลับจากทางเหนือ กับระยะเวลาที่ยาวนาน

     

              “ลุงขา”

     

              คาร์เดียที่นั่งข้างๆเริ่มกระแซะเข้ามาใกล้ “อ้ามหน่อยนะคะ หมึกสุกรสไม่แหวะเหมือนหมึกดิบๆ หรอกนะคะ อ้ามมมมม

     

              ตะเกียบในมือเด็กสาวคีบ ไอ้นั่น เข้ามาใกล้ กลิ่นคาวทะเลอันเป็นจุดเด่นที่ชาตินี้คงไม่มีทางลืม แม้จะถูกกลิ่นของไฟที่ใช้ย่างกลบไปบ้างแล้วก็ตามที เขาผงะไปด้านหลัง กลิ่นพวกนั้นมันออกจะ น่าสยดสยอง

     

              “กินเองสิโว้ย! ยัยเด็กผี!!!” แยกเขี้ยวใส่แล้วเบ้ปาก

     

              “แหม...น่าเสียดายน้า”  เจ้าหล่อนคีบมันใส่ปากแล้วทำท่าพริ้ม นั่นทำให้เขา ขนลุก “เนี่ย…แบบเนี้ยค่ะลุง หนวดดุ๊บดิ๊บ ๆ เคี้ยวกรุบกรอบ อร่อยน้า”

     

              เรเว่นตัดสินใจเบือนหน้าหนี

     

              เขาควรเอายาพิษไปรมห้องมันจริงๆด้วย!

     

     

              การ กระซวก (เขาจำเป็นต้องใช้คำนั้น) ดำเนินไปได้อีกสักพัก แล้วเสียงแหลมๆของคาร์เดียก็งุ้งงิ้งมาอีกครั้ง


              “ทุกคนนนน หันมาทางนี้แป๊บนึงค่าาาาาา”


              เรเว่นมอง จอโฮโลแกรมฉายภาพใบหน้าของสมาชิกบนโต๊ะ แล้วเสียง ‘แชะ’ แสนคลาสสิคก็ตามมา

     

              ยัยเด็กนี่...วุ่นวายจริง

     

              อาหารหมดโต๊ะ เหลือของหวานสองสามอย่างที่เขาไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก ตัดสินใจปล่อยให้สาวๆเพลินเพลินกับมันไป แล้วคาร์เดียที่นั่งอยู่ข้างๆก็หันมาทำเสียงหวานหยดอีกครั้ง


              "ลุงขา~"


              ไม่รู้เพราะอะไร แต่เขารู้สึกว่าแม่นี่ไม่ได้มีความน่าไว้ใจเลยสักนิด...


              "ทานขนมหน่อยนะคะลุง" ยัยเด็กผียิ้มร่า "คริสส่งมาให้ลุงเป็นพิเศษเลยน้า บอกว่าเป็นของขอโทษ ที่หาเรื่องลุงเมื่อวันก่อน"

     

              ของขอโทษ? จากคุณหนู?

     

              ยิ่งไม่ได้ไว้ใจมากขึ้นสักนิด บางทีเจ้านั่นอาจใส่ยาถ่ายผสมมาด้วย

     

              "ขนมจ่ามงกุฎค่ะลุง คริสย้ำๆว่า ต้องให้ลุง 18ชิ้น "

     

              สิ้นประโยคนั้น ขนมจ่ามงกุฏในจานของเขาที่คาร์เดียบรรจงวางให้ ก็ถูกเททิ้งลงถังขยะทันที

     

              เรื่องขนม ยังไงก็ปล่อยให้พวกผู้หญิงทานไปนั่นแหละดีแล้ว

     

              เรเว่นหันไปสนใจเรื่องแลกของขวัญแทน แม้อันที่จริงตัวเขาจะไม่ใช่คนที่สนใจเรื่องพรรค์นี้เท่าไหร่ แต่ยังดีกว่าการนั่งทานของหวานแสบไส้พวกนั้น


              คู่ของเขาคือปริภูมิ ไม่นับเรื่องยาเจ้าแม่ทัพนี่ค่อนข้างจะคอเดียวกับเขา ของขวัญที่ให้จึงง่ายแสนง่าย

     

              “เอาไป”

     

              โยนของให้แบบที่รู้ว่ายังไงมันก็รับได้ ท่านแม่ทัพหัวเทาเลิกคิ้ว แล้วถาม

     

              “อะไรฟะเนี่ย?” มือแกะกล่องออกอย่างลวกๆ ของข้างในคือขวดแก้วสีใสประดับด้วยเพชรเม็ดงาม

     

              “เหล้า” ตอบกลับไป “เก้าสิบปี จิบเดียวก็ตายได้”

     

              ดวงตาของปริภูมิวาววับ ท่าทางจะถูกอกถูกใจอย่างที่คาด

     

              เหล้าราคามหาศาลที่แพงทั้งขวดทั้งของในขวด อย่างที่ไอ้ไจโรบอก ล้านเดียวเอาไม่อยู่…

     

              แค่ไอ้นี่ก็เกือบสิบล้าน ไม่รู้แพงที่ขวดหรือแพงที่เหล้า…

     

              เวอร์กัสเป็นคนเดียวที่นั่งนิ่ง...เพราะไม่รู้ว่าจะมาร่วมงาน จึงไม่มีใครเตรียมของมาให้ เรเว่นเหยียดยิ้ม

     

              “เฮ้ย ท่านควีน”

     

              เขาเรียก มันหันมามองด้วยสายตาไม่ชอบใจกับสรรพนามนัก “รับ”

     

              โยนของที่ซื้อมาให้อย่างส่งๆ ตอนไปเมโทรเวิร์ลเห็นแล้วนึกถึงกองเงินขึ้นมา เลยซื้อไว้ให้เสียหน่อย

     

              “ของขวัญพิเศษให้เจ้านาย”

     

              ‘ให้ควีนหงส์หยก’


              เขาเขียนการ์ดไว้แบบนั้น


              กระจกพกพาสีดำกรุขอบทองสวยงามที่ลงทุนใช้เงินตัวเองซื้อ ถือว่าตอบแทนสำหรับงบประมาณที่ยอมให้เขาผลาญไป

     

              ท่านเจ้านายเหยียดยิ้ม “ขอบใจ” และเก็บมันเข้ากระเป๋า

     

              เรเว่นรู้สึกเหมือนมีใครสักคนดึงแขนเสื้อกาวน์ ยัยเด็กหัวน้ำเงินมายืนอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ หันไปมองเต็มตา เขาถึงกับผงะ

     

              แม่นี่เอาโบว์ผูกตัวเอง!

     

              ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด...สายตาทุกคู่มองมาทางเขาอย่างแปลกประหลาด…

     

              รีน่าพูดเบา...ทว่าได้ยินชัด

     

              “ก...ก็หนูเห็นลุงอยากได้เหยื่อทดลอง…” ดวงตาสีแดงตัดกับสีผมนั่นมองเขา “หนูเลย...เอาตัวเองมาให้...ค่ะ”

     

              เรเว่นกลืนน้ำลายเอื้อกหนึ่ง...นับว่าดีที่ยัยเด็กนี่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่ครบ...แต่เขาอยากจับไหล่บางๆนั่น แล้วเขย่าแรงๆหลายๆทีเสียเหลือเกิน

     

              คนสร้างแม่นี่เป็นพวกตาแก่โรคจิตชอบBDSM รึไง???

     

     

     

              “ไอ้…ไอ้ลุงตัณหากลับ!!!”

     

              เสียงแหลมปรี๊ดของคาร์เดียลอยมาเป็นคนแรก แก้วน้ำพลาสติกหนาๆจากใครสักคนลอยมากระแทกหัวเขา เสียงวิ้งในหูดังลั่น

     

              แพะตกจากเก้าอี้ไปนอนกองที่พื้น เอเลี่ยน ไอ้เด็กหัวขาวลุกพรวดพราด มิคังรีบรั้งตัวมันเอาไว้ พร้อมๆกับที่เวอร์กัสตบโต๊ะปึง

     

              สายตาท่านควีนดูไม่เป็นมิตร น้ำเสียงเย็นเยือก ทุกคนมองเหมือนเขาเป็นคนผิด...

     

              “ฉันว่า...เรามีเรื่องต้องคุยกัน…”

     

              เสียงปริภูมิโวยวายตามมา

     

              “อยากมีงี้บ้างจังโว้ยยยยย”



    -----------------------

    ติดตามเรื่องราวของบรรดาหน่วยพิเศษแห่งเมโทรโปลิสได้ที่

         
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×