คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : 9.2 - เหล้า
เรเว่นเกลียดการเดินห้างสรรพสินค้า
เมโทรเวิร์ล เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวงเขตศูนย์ ใช้เวลาเดินทางจากเขตสองไม่ถึงห้านาทีด้วยยานบินรุ่นพิเศษของกองทัพ สมชื่อห้างสรรพสินค้า เพราะมันมีสินค้าทุกอย่างเท่าที่โลกบนดินพึงจะมี เชื่อว่าถ้าถามหาปืนรุ่นที่ถูกกฏหมายก็น่าจะมีอยู่ที่ชั้นไหนสักชั้น
เสียงจอแจของผู้คนรอบกายทำให้เขาปวดหัว ทว่ายังดีกว่าเสียงหลอกหลอนจากภายในสมองตัวเอง เขาเดินเข้าไปในลิฟต์และเลือกไปที่ชั้นสี่สิบสาม มันเป็นชั้นที่น่าจะเหมาะสำหรับปริภูมิ
ร้านขายของอบายมุกนับพันร้านตั้งเรียงราย ถ้าจำไม่ผิด คนรู้จักเขาอยู่แถวบล็อคที่สามสิบ
สองเท้าในสลิปเปอร์เดินเอื่อยเฉื่อย ผู้คนรอบตัวดูมีความสุข ทว่าเป็นสีเทา
ทุกสิ่งดูไม่สมจริง เหมือนความฝัน กระทั่งเรื่องที่เพิ่งถูกคราเคนกลืนเข้าไปนั้นเขาก็ไม่แน่ใจนักว่ามันเป็นความจริงมากน้อยขนาดไหน
เกล็ดที่แขนเหมือนเป็นเพียงภาพลวงตา เขาตัดสินใจดึงมันออกมาชิ้นหนึ่ง ความเจ็บปวดที่ผิวหนังแล่นผ่านประสาทสัมผัสจนสะดุ้ง หากกำลังฝัน ก็เป็นฝันที่เจ็บได้สมจริง
หน้าร้าน ตาเป็นพาย นั้นสะอาดสะอ้าน แต่ภายในกลับรกรุงรัง อุดมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากประเภทรวมไปถึงบุหรี่ ซิก้าร์ ยาสูบที่ดีที่สุดในเมโทรโปลิส และหากรู้จักกันมานานพอ เครื่องดื่มและยาสูบของแฟนตาเซียก็มีมาให้ลอง
เรเว่นเดินผ่านประตูอัตโนมัติ เห็นชายหนุ่มท่าทางกระเซอะกระเซิงนอนเอกขเนกอยู่หลังกล่องเหล้า
ไจโร เจ้าของร้าน มันเป็นหนึ่งในกลุ่มพวกที่หนีออกจากบ้านพร้อมเขา ได้ดิบได้ดีจากการขายสินค้าอบายมุก เหล้า เบียร์ บุหรี่ กระทั่งยา ที่ตอนหลังเลิกทำไป และตะเกียกตะกายจนขึ้นสู่โลกบนดินได้ ในระยะเวลาพอๆกันกับที่เขาสามารถเปิดคลีนิกเถื่อนเป็นของตัวเอง
หนึ่งในบรรดาคนรู้จักที่เป็นทั้งเพื่อน ทั้งคู่ค้า กิตติศัพท์เรื่องเหล้าที่มันหมักและยาสูบที่มันมีนั้นเหมือนเป็นดาราแห่งวงการ สูตรลับที่ไม่เคยมีใครรู้...แต่เขารู้…
หลายครั้งสุราชั้นเลิศนั่นก็ไม่ได้มีที่มาถูกกฏหมายนัก…
“ไม่รับลูกค้าหน่อยรึไง?” ตัดสินใจเป็นผู้เริ่มบทสนทนา เมื่อเห็นมันยังคงหลับตาดูดซิก้าร์อย่างไม่คิดจะสนใจโลก
ไอ้ตัวกระเซอะกระเซิงนั่น มันปรือตาสีเทาๆมาทางเขาด้วยท่าทางขุ่นมัวเหมือนโดนขัดจังหวะความฝันอันแสนหวาน หัวยุ่งสีทองแดงเหมือนสนิม หนวดเครารำไร ชวนให้นึกถึงหนวดเคราของตัวเขาเองที่บัดนี้ยังขึ้นแค่จางๆ นับตั้งแต่ยัยเด็กผีคาร์เดียอุตริโกนทิ้งไป
“ฮายยยย” เสียงทักทายยานคาง ควันลอยออกมาเป็นสาย “ลมอะไรพัดไอ้ขี้ยามาถึงนี่ได้วะ?”
ขี้ยา? คำด่านั่นทำให้เลิกคิ้ว มองคนที่กล้าด่าเขาทั้งที่ตัวมันยังอวลไปด้วยกลิ่นเหล้ากับซิก้าร์ “หาของขวัญ”
“หา?” เหมือนโดนไฟจี้ ไจโรลุกพรวด “ฟ้าผ่าหัวรึไง? นึกจะเป็นคนดี จ่ายเงินซื้อของที่ไม่ได้ใช้เองไปให้คนอื่นนี่นะ” คราวนี้เบิกตากว้าง “ไม่เจอกันพักเดียว พิลึกขึ้นเยอะ”
พิลึก เขามองหน้าคนที่พูดคำนั้น “ขี้เมายืนตรงไม่ได้อย่างเอ็งไม่น่าพูดคำนั้นได้”
คู่สนทนาเบ้ปาก เขาเดาความคิดมันออก ไม่วายแขวะเขาเรื่องยา จึงตัดบท
“ไม่ใช่เงินข้านี่หว่า” ยักไหล่ทีหนึ่ง “แรงที่สุด แพงที่สุด สองโหล จัดมา”
ไอ้ขี้เมาหัวสนิมเลิกคิ้ว ผิวปากหวือ “กระเป๋าหนักพอเรอะ? อย่างที่เอ็งว่า ล้านเดียวเอาไม่อยู่นาเหวย”
นั่นทำให้เรเว่นแสยะยิ้ม นึกไปถึงหน้าควีนและท่านแม่ทัพ
“สิบล้านก็ไหว ไอ้ขี้เมา”
ในนามจอมพลเวอกัส เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา
12 May AP 500 0351PM
เรเว่นวางหลอดทดลองลงบนโต๊ะ กลิ่นยาลอยแตะจมูกติดต่อกันสองชั่วโมงทำให้เขาเริ่มนึกอะไรไม่ออกนอกจากต้องการนำพวกมันเข้าเส้นเลือด ถุงหมึกกับถุงพิษคราเค่นถูกจัดเก็บอย่างปลอดภัย พวกมันไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้เหมือนร่างกายและมีจำนวนจำกัด เพราะฉะนั้นทุกออนซ์จึงถูกนำมาทดลองอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่อยากไปตามล่าหรือถูกมันกลืนไปอีกรอบ
อันที่จริงช่วงนี้เขาออกจะขยาดอาหารทะเลจำพวกหมึกเป็นพิเศษ กลิ่นคาวของพวกมันทำให้เขานึกถึงร่างกายใหญ่โตและฟันโสโครกนั่น
ช่วงเช้าของเมื่อวาน เด็กหัวน้ำเงิน รู้สึกจะชื่อรีน่า กลับจากภารกิจด้วยสภาพสะบักสะบอม เขาจึงนำยาที่ได้จากการทดลองพวกนี้ไปให้ รู้สึกว่าได้ผลดีกว่าที่คาดไว้ แม้เด็กสาวจะไม่หายสนิทในทันทีก็ตาม
ทว่าเมื่อกลับมาเปิดแฟ้มประวัติ กลับทำให้เขาต้องชะงักไป
ฮิวแมนนอยด์...หุ่นรบเหมือนมนุษย์…
มีเลือด มีเนื้อ แต่อวัยวะภายในทั้งหมดเป็นหุ่นยนต์...เหมือนคนมากจากเขาไม่อยากเชื่อ ท่าทางนุ่มนิ่มของรีน่าผิดกับคนจริงๆ อย่างคาร์เดีย ที่ดูแล้วพร้อมจะผ่าได้ตลอดเวลา
ยอมรับว่าภาพลูกตาสีเทากับไตสองข้างนั่นยังติดอยู่ในหัว...พวกมันถูกเลาะออกมาอย่างสวยงามจนเขาคิดว่ายัยเด็กผีนั่นต้องเป็นพวกงัดศพเป็นอาชีพ ในขณะที่แม่เด็กหัวน้ำเงิน ไม่ว่ายังไงก็เหมือนคนที่พร้อมจะเบะปากร้องไห้ได้ทันทีทีเห็นมดโดนบี้
บางครั้งโลกก็แปลกประหลาด
ยาที่สกัดออกมาได้เป็นสีดำสนิท เหมือนหมึกคราเคน เขายังนึกวิธีทำให้สีมันดูน่าไว้ใจกว่านี้ไม่ได้ และหากไม่นับเรื่องสี อีกไม่เกินสองวัน ตัวยาน่าจะเสร็จสมบูรณ์ นับว่าเป็นยาที่เขาใช้เวลาทำนานที่สุดตั้งแต่ที่เคยลองมา...สามหรือสี่วัน ไม่แน่ใจนัก ส่วนหนึ่งอาจเพราะไม่ได้ทดลองด้วยร่างกายของตัวเอง
นาฬิกาบอกเวลาสี่โมงเย็น อีกสองชั่วโมงจะถึงเวลาปาร์ตี้ เรเว่นเดินลงจากห้อง นึกสงสัยว่ามิคังจะทำอะไรให้กิน ดูเหมือนช่วงนี้การทานอาหารจะกลายเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่งที่แปลกไปจากการฉีดยาเข้าเส้นเลือด แม้กลิ่นและรสชาติในปากจะฝาดเฝื่อนจากรสจริงที่ควรจะเป็น แต่ความรู้สึกในท้องนั้นสัมผัสได้
12 May AP 500 0530PM
ห้องนั่งเล่นในฐานทัพนั้นโอ่โถงและสะดวกสบาย เพลงคลาสสิคคลอเอื่อยๆกับเก้าอี้นุ่มชวนให้ทิ้งตัวจมอยู่ในนั้น หนังสือเล่มโตตั้งเรียงรายบนชั้น และโปรแกรมที่สามารถเรียกได้จากทุกมุมห้อง กาแฟร้อนหอมกรุ่นตรงจมูก ทำให้ในหัวรู้สึกดีขึ้นมาก
กาแฟเป็นหนึ่งในไม่กี่อย่างที่เขาสามารถดื่มได้แม้ช่วงที่ใช้ยา กลิ่นและรสเข้มช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสให้ดีขึ้น เมื่อหยุดยาแล้วรสชาติที่ได้รับยิ่งชัดเจนกว่าเดิม ทั้งความเข้มขมและรสเปรี้ยวจางๆตามท้าย
แก้วที่สามหมดภายในสองชั่วโมง เขายันกายลุกจากเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เดินลากสลิปเปอร์ไปทางห้องอาหาร กลิ่นหอมฉุนประหลาดลอยแตะจมูก
“เฮ้ย!”
คำสบถร่ำๆจะหลุดจากปาก ทุกคนที่อยู่ในนั้นสวมหมวก หมึก แม้กระทั่งแพะที่ยืนเล็มหญ้า
“อ้าว~ ลุง~” น้ำเสียงหวานหยด เสแสร้ง แบบที่ได้ยินแล้วไม่จำเป็นต้องทายว่าใคร “ยินดีต้อนรับค่า”
แล้วยัยเด็กผีก็เดินเข้ามาพร้อมหมวกหมึกสีแดงแจ๋…แค่เห็นหนวดนั่นก็ทำให้เขาขนลุกซู่
“มาเร็วลุง! สวมนี่เลย มันน่ารักน้า~”
ความคิดเห็น