ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Saint Seiya : Chapter Olympus

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 9 สัญอัคคี

    • อัปเดตล่าสุด 26 ม.ค. 58


    บทที่ 9

    สัญอัคคี

     

    ชายผู้ที่ถูกพันธนาการที่แท้เขาก็คือ โพรมีธีอัส เทพที่ถูกมหาเทพซุสลงฑัณท์นั่นเอง หลังจากที่ชิริวใช้เอ็กซ์คาลิเบอร์ทำลายโซ่ยักษ์ที่แข็งแก่งดุจเพชรกล้าได้แล้ว เขาก็รีบวิ่งมาช่วยเหลือเฮียวกะจากการโจมตีของแกนิมิดโดยใช้ความเร็วชั่วพริบตาผลักเขาออกไปจากระยะสังหารของแกนิมิด ส่งผลให้ออร่า เอ็กซ์คิวชั่น นั้นโจมตีถูก โพรมีธีอัส แทนเฮียวกะ ร่างกายของเขาจึงได้รับบาดเจ็บ



    เป็นไปไม่ได้ ที่เจ้าเซนต์ดราก้อนที่ปวกเปียกเช่นนั้น จะทำลายโซ่ของมหาเทพซุสลงได้


    เจ้าดูถูกเซนต์อาเธน่ามากไปแล้ว แกนิมิด พลังของเจ้าพวกนี้นั้นมีซุกซ่อนเอาไว้มากมายเกินที่เจ้าจะคาดถึงนะ


    หึ ถ้าเช่นนั้นเห็นทีข้าจะปล่อยพวกมันไว้ไม่ได้เสียแล้ว เพื่อไม่ให้พวกมันกลายเป็นเสี้ยนหนามของท่านซุสในวันข้างหน้า


    เจ้าเสียสติไปแล้วหรือ แกนิมิด อดีตโกลด์เซนต์ที่ได้ชื่อว่ามีความภักดีต่ออาเธน่ามากที่สุดอย่างเจ้ากลับกลายเป็นปรปักษ์กับนาง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเจ้ากันแน่


    หุบปาก อย่าเอ่ยนามของนางให้ข้าได้ยินอีก

     


    เมื่อโพรมีธีอัสเอ่ยปากพูดชื่อของอาเธน่าออกมา แกนิมิดก็เริ่มมีอาการหงุดหงิดควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ราวกับว่าเขาไม่อยากจะได้ยินนามของนางเลย โพรมีธีอัสที่เคยรู้จักคุ้นเคยกับ
    แกนิมิดเป็นอย่างดีถึงกับแสดงอาการตกใจออกมาเล็กน้อย เพราะเขาไม่เชื่อเลยว่า คนที่ได้สมญานามว่าบุรุษที่มีใจเยือกเย็นราวกับน้ำแข็งเช่นเขา กับแสดงอารมณ์โกรธออกมาให้เห็น

     


    แกนิมิดบอกข้ามาเถอะว่า เจ้าเป็นอะไรไป


    โพรมีธีอัสนี่ไม่ใช่เรื่องของเจ้า เจ้าอย่ายุ่งให้เข้าเรื่อง และจงหลีกไปเสียแต่โดยดีข้าไม่อยากทำร้ายเจ้า


    ถ้าข้าไม่หลีก แล้วเจ้าจะทำอะไรข้า


    หึ โพรมีธีอัส ถึงแม้เจ้าจะเป็นเพื่อนรักของข้าแต่เมื่อเจ้าแสดงท่าทีเป็นปรปักษ์กับข้า เห็นทีข้าจะต้องจัดการเจ้าไปพร้อมพวกเซนต์ของอาเธน่าไปอีกคน


    ถ้าเจ้าทำได้ก็ลองดูสิแกนิมิด


    งั้นก็ตายไปพร้อมเจ้าพวกนั้นซะ ออโรร่า เอ็กซ์คิวชั่น

     


    เมื่อโพรมีธีอัสไม่ยอมหลีกทางให้ แกนิมิดจึงตัดสินใจจู่โจมโพรมีธีอัสโดยทันที พลังความเย็นออร่าเอ็กซ์คิวชั่นพุ่งตรงเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วและรุนแรง โพรมีธีอัสไม่ยอมหลบพลังของแกนิมิดเขาเอาตัวของเขารับแรงกระแทกอย่างจังๆ ที่จริงความเร็วของเขาก็เพียงพอที่จะหลบพลังนี้ได้ แต่เพราะว่าหากเขาหลบออกไป เกรงว่าพลังที่รุนแรงเช่นนั้นอาจจะไปถูกเฮียวกะหรือชิริว ผู้ที่มาช่วยเหลือเขาได้

     

    เสียงแรงกระแทกดังสนั่นไปทั่วเทือกเขา ร่างของโพรมีธีอัสตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ด้วยรอยน้ำแข็งกัดขึ้นหลายแห่ง แต่เขายังฝืนที่จะยืนประจันหน้ากับแกนิมิดสหายของเขา แกนิมิดเองก็มีสีหน้าที่ตกใจไม่น้อย เพราะคิดไม่ถึงเลยว่าโพรมีธีอัสจะกล้าเอาตัวเข้าแลกปกป้องคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่ถึงชั่วโมง

     


    เจ้ามันบ้าไปแล้วหรือ โพรมีธีอัส ความเร็วของเจ้านั้นเร็วพอทีจะหลบพลังของข้า แต่ทำไมเจ้าไม่หลบ เจ้าคิดว่ามันคุ้มแล้วหรือที่เจ้าจะเอาชีวิตทั้งชีวิตของเจ้าปกป้องเจ้าพวกนี้


    ทำไมข้าต้องปกป้องเจ้าพวกนี้ เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีแกนิมิด เพราะเจ้าเองครั้งหนึ่งก็เคยเอาชีวิตปกป้องคนอื่น เมื่อกับข้าในตอนนี้

     


    เมื่อได้ยินโพรมีธีอัสตอบออกมา แกนิมิดก็เงียบไปชั่วครู่หนึ่ง เหมือนว่าเขาคิดอะไรออกมาได้สักอย่าง แต่เขาก็ยังยืนยันความคิดเดิมที่จะสังหารเซนต์ของอาเธน่า ในขณะนั้นเองเฮียวกะก็ได้สติขึ้นมา  เขาตรงไปช่วยเหลือเพื่อนของเขาชิริว ตรงแท่นที่พันธนาการโพรมีธีอัสเอาไว้ เมื่อเขาไปถึงเขาก็พบชิริวนอนสลบอยู่โดยไม่สวมคลอธดราก้อนตรงส่วนด้านบน เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ตกใจรีบพยุงร่างอันไร้เรี่ยวแรงรีบไปหาชิริว เพราะเกรงว่าอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้อาจคร่าชีวิตเพื่อนของเขาที่ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายก็เป็นได้

     


    ชิริว นายอย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ ฟื้นขึ้นมาสิ

     


    เฮียวกะส่งเสียงร้องเรียกชิริวที่ไม่ได้สติ และในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกแปลกใจที่ร่างกายของชิริวไม่ได้เย็นเฉียบเหมือนกับน้ำแข็ง แต่กับมีความอบอุ่นทั่วร่างกายของเขา และในตอนนั้นเองเขาก็สังเกตบางสิ่งที่อยู่ในมือของชิริว



    อ๊ะ ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้จะมันจะมาอยู่ที่นี่  หรือว่าชายที่เรามาช่วยเหลือนั้นคือเทพโพรมีธีอัส เขาทิ้งสิ่งนี้ไว้กับชิริวเพื่อป้องกันไม่ให้ชิริวหนาวตาย  ไม่ได้การละเราต้องนำเจ้านี้ไปให้เขา



    เฮียวกะพบสิ่งของสิ่งหนึ่งที่ถูกซุกไว้ที่มือของชิริว เขาจึงแบกร่างชิริวแล้วใช้กำลังเฮือกสุดท้ายของเขารีบรุดไปหาโพรมีธีอัสอย่างเร่งรีบ เพราะหากช้าไปเพียงวินาทีเดียว ชายที่พวกเขาต้องมาช่วยเหลือ อาจต้องมีอันเป็นไป


    ทางด้านโพรมีธีอัสตอนนี้กำลังจะหมดแรงเพราะความเหน็บหนาวของอากาศ  ร่างกายของเขาทั่วร่างกายสั่นสะท้านไปทั่วเพราะความหนาว เสียงกระทบของฟันมีให้ยินเป็นช่วงไป ร่างกายของเขาตอนนี้นอกจากกางเกงที่เขาสวมใส่แล้วไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเขาไว้เลย



    ดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดของเจ้าแล้วสินะ โพรมีธีอัส  เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บเช่นนี้ได้หรอก  ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง หลีกทางไปซะ


    ไม่...มี...ทาง....



    โพรมีธีอัส ยังคงยืนกรานที่จะเอาตัวปกป้องชิริวและเฮียวกะ ด้วยร่างกายที่หนาวสั่น แกนิมิดเองถึงแม้จะไม่อยากทำร้ายเพื่อนรักของเขา แต่เมื่อไม่มีทางเลือกเขาจึงตัดสินใจลงมือสังหารเพื่อนรักของเขาด้วยมือของตนเอง



    ข้าไม่อยากจะทำร้ายเจ้าไปมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เจ้าได้รับความเจ็บปวดข้าจะแช่ร่างของเจ้าไว้ เจ้าจงรับมันไปซะ ฟรีซซิ่ง คอฟฟิ่น



    ฟรีซซิ่ง คอฟฟิ่น เข้าห่อหุ้มร่างโพรมีธีอัสเอาไว้ และในตอนนี้โพรมีธีอัสก็ถูกแช่แข็งไว้ในโลงน้ำแข็งชั่วนิรันดร์ ซึ่งในตอนนั้นเองแกนิมิดก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว



    ท่านโพรมีธีอัส

     


    เฮียวกะซึ่งกำลังแบกร่างของชิริวเอาไว้ ตอนนี้ได้มาถึงตัวของโพรมีธีอัสแล้ว แล้วเขาก็พบว่าโพรมีธีอัสถูกแช่แข็งเอาไว้แล้ว



    หึ เฮียวกะเจ้านี่มันช่างโง่เสียจริง แทนที่จะเอาช่วงเวลาที่ข้าละสายตาจากเจ้าหลบหนีไป แต่เจ้ากลับดันแส่มาหาที่ตายอีกครั้ง

     

    ท่านแกนิมิด หากตราบใดที่ข้าช่วยเหลือท่านโพรมีธีอัสไปได้ละก็ ข้าก็จะไม่ยอมไปไหน

     

    หมายความว่าเจ้าจะจัดการข้าแล้วช่วยเจ้าโพรมีธีอัสไปงั้นหรือ ถึงเจ้าจะจัดการข้าได้แต่เจ้าก็ไม่มีวันละลายโลงน้ำแข็งที่ข้าสร้างขึ้นมาได้หรอก การที่จะทำลายมันลงได้จะต้องใช้พลังความเย็นศูนย์องศาสัมบูรณ์ร้อยๆเท่าอย่างที่เทพทานาทอสบอกเจ้าเอาไว้ไง

     

    ถึงข้าจะไม่มีพลังความเย็นศูนย์องศาสัมบูรณ์อย่างขนาดที่ท่านบอก แต่ว่าข้าในตอนนี้ก็สามารถทำลายมันลงได้ในชั่วพริบตา คอยดูให้ดีละ


    เฮียวกะใช้มือเปล่าของเขาแตะโลงน้ำแข็งที่แช่ร่างของโพรมีธีอัส ไม่น่าเชื่อว่าโลงน้ำแข็งอันนั้นกลับถูกละลายระเหยกลายเป็นไอไปชั่วพริบตาอย่างที่เฮียวกะบอกจริงๆ

     

    เป็นไม่ได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเจ้าทำลายโลงน้ำแข็งของข้าได้



    เฮียวกะเข้าไปประคองร่างของโพรมีธีอัสเอาไว้ไม่ให้ล้ม แล้วสักพักหนึ่งโพรมีธีอัสก็ได้สติขึ้นมา เขามองหน้าเฮียวกะแล้วกล่าวขอบคุณเฮียวกะ




    นี่พวกเจ้าช่วยข้าเอาไว้อีกแล้ว ขอบใจเจ้ามากนะ



    เฮียวกะพยักหน้าและยิ้มให้เล็กน้อยตอบรับคำขอบคุณของโพรมีธีอัส จากนั้นเขาวางร่างของชิริวลงแล้วนำของบางอย่างให้กับโพรมีธีอัส

      

    ข้าเอามาคืนท่านแล้วนะครับ ขอบคุณท่านมากที่ท่านช่วยเหลือชิริว โดยไม่ห่วงถึงความปลอดภัยของตัวท่านเอง

     


    โพรมีธีอัสรับของสิ่งนั้นมาจากเฮียวกะ เขารับมันไว้ เพียงไม่กี่นาทีรอบๆตัวเขาที่เต็มไปอากาศหนาวเย็นกลับกลายเป็นบรรยากาศที่อบอุ่นเหมือนอยู่ในฤดูร้อนเลยทีเดียว โพรมีธีอัสลุกขึ้นมาเพื่อเผชิญหน้ากับแกนิมิดอีกครั้ง



    เอาละแกนิมิด เจ้ายอมแพ้ข้าเสียเถิด เพราะตอนนี้เจ้าไม่มีทางเอาชนะข้าได้อีกแล้ว


    หึ เพ้อเจ้ออะไรออกมาโพรมีธีอัส คนอย่างข้านะหรือจะแพ้คนใกล้ตายอย่างเจ้า


    งั้น ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็จงลองมองของสิ่งนี้ในมือข้าซิ



    แกนิมิดมองไปตามที่โพรมีธีอัสบอก เมื่อเขาได้เห็นสิ่งนั้นในมือเขาก็ถึงแสดงอาการตกใจออกมา

     


    ไม่น่าเชื่อ ว่าของสิ่งนั้นจะมาอยู่กับเจ้า  



    ของสิ่งนั้นก็คือสัญอัคคีหรือไฟศักดิ์สิทธิ์ที่โพรมีธีอัส ได้ขโมยมาจากสวรรค์เพื่อนำมาช่วยเหลือมนุษย์โลก พลังของไฟศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอำนาจพอที่จะหลอมละลายทุกสิ่งตามที่ใจต้องการได้



    มิน่าละเจ้าถึงสามารถทนอากาศที่หนาวเย็นเช่นนี้ได้เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่ไฟศักดิ์สิทธิ์ที่เจ้าขโมยมานั้นนะใกล้จะหมดเชื้อแล้ว อีกไม่นานก็คงจะดับ ยังไงเจ้าก็ใช้มันป้องกันตัวเจ้าได้ตลอดรอดฝั่งหรอก


    ไฟศักดิ์สิทธิ์ที่ใกล้จะมอดแล้ว มันก็สามารถที่จะดับลมหายใจของเจ้าได้ เจ้าจะลองดูไหมละ แกนิมิด



    โพรมีธีอัสพูดท้าทายแกนิมิด  เมื่อแกนิมิดได้ยินคำสบประมาทเขาเองก็ไม่รอช้าตอบรับคำเชื้อเชิญโดยการเร่งพลังสูงสุดเพื่อที่จะจัดการกับโพรมีธีอัสและพวกเฮียวกะเพื่อให้เรื่องนี้มันจบไป



    งั้นก็ลองดูว่าไฟที่ใกล้จะมอดดับ กับพลังท่าไม้ตายที่เร่งพลังจนสูงสุดของข้าจะสามารถโค่นพวกเจ้าได้ไหม ข้าจะฝังร่างของพวกเจ้าที่เทือกเขาคอเคเซียนนี่ซะ เฮียวกะเจ้าจงดูท่าไม้ตายที่แม้แต่เจ้าคามิวอาจารย์ของเจ้าก็ยังไม่เคยเห็น ออโรร่าเอ็กซ์คิวชั่น ที่เจ้าเคยเห็นยังเทียบไม่ได้กับท่าไม้ตายนี้เลย นี้คือสุดยอดวิชาสายน้ำแข็งของโกลด์เซนต์อควอริอัสที่แท้จริงจงรับมันไปซะ .......



    ท่านแกนิมิด หยุดลงมือเดี๋ยวนี้



    แกนิมิดได้ยินเสียงร้องเตือนไม่ให้ลงมือ เสียงนั้นไม่ใช่โพรมีธีอัส หรือเฮียวกะ หรือแม้แต่ชิริว แกนิมิดรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั้นมาก เมื่อเขาหันกลับไปหาเจ้าของเสียง เขาก็พบกับชายที่คลุมผ้าไว้ทั่วร่าง ตอนแรกเขาไม่แน่ใจว่าชายผู้นี้คือใครเมื่อเขาสังเกตไม้เท้าที่ชายผู้นั้นถือเขาก้มลงไปคำนับทันที



    ท่านเฮอร์มิส ท่านมาที่นี้ได้อย่างไรครับ


    แกนิมิดท่านมหาเทพซุสให้มาเชิญท่านกลับโอลิมปัสโดยด่วน


    แต่ว่าข้า....


    หยุดพูดได้แล้วแกนิมิด เจ้ากล้าขัดคำสั่งท่านซุสหรืออย่างไร เจ้าจงรีบกลับไปอย่าชักช้า


    ครับ ข้าจะรีบไป



    แกนิมิดรีบกลับไปโอลิมปัสด้วยทีท่าที่เร่งรีบ ก่อนที่เขาจะกลับไปเขาก็ทิ้งท้ายคำพูดให้โพรมีธีอัสและเฮียวกะว่า



    วันนี้พวกเจ้าโชคดี ที่รอดชีวิตไปได้ แต่คราวหน้าไม่มีอีกแน่จำไว้



    แกนิมิดเมื่อพูดจบก็หันหลังเดินทางกลับไปโอลิมปัส ปล่อยให้เทพเฮอร์มิสเผชิญหน้าอยู่กับโพรมีธีอัสและเฮียวกะกันเพียงตามลำพัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×