คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 การตัดสินใจของอาเทน่า
บทที่ 2
การตัดสินใจของอาเทน่า
เมื่อเนเมซิส ได้เอ่ยนามของนางให้เซย่าได้รู้ ความกลัวของเขาก็ยิ่งเพิ่มทวีขึ้นมา เหงื่อของเขาก็เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง กายของเขาสั่นไปทั่วร่างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่เขาพยายามข่มความกลัวนั้นเอาไว้ได้ นามของเนเมซิสนั้น เซย่านั้นเคยได้ฟังจากเซกะเมื่อตอนเขายังเล็กๆอยู่ เซกะผู้เป็นพี่สาวเห็นน้องชายตนเองนั้นเกเรมากเกินไป จึงคิดอุบายหลอกบอกอยู่เสมอว่า หากยังทำตัวเกเรอย่างนี้อีก เทพีเนเมซิส จะมาเอาชีวิตไป โดยเธอเล่าว่า นางมีหน้าที่ลงทัณฑ์ คนชั่ว ไม่ว่ามันผู้นั้นจะอยู่ ณ ที่แห่งหนไหน เทพีผู้นี้จะติดตามไปไม่ยอมเลิกรา จนกว่าจะสังหารเป้าหมายที่นางติดตามได้ แต่เซย่าในวัยเยาว์นั้นเห็นเป็นเรื่องหลอกเด็ก ไร้สาระ ซึ่งตอนนี้เรื่องหลอกเด็กของเขาได้มาปรากฏต่อหน้าเขาแล้ว
เมื่อเนเมซิสเห็นเซย่ายังคงนิ่งเฉยไม่ยอมบอกที่ซ่อนตัวของอาเทน่า ก็เริ่มรู้สึกโมโหจึงถามเซย่ากับไปอีกครั้งด้วย น้ำเสียงแข็งกร้าว
“ข้าจะถามแกเป็นครั้งสุดท้ายเปกาซัส อาเทน่า อยู่ที่ไหน”
เสียงของเนเมซิสนั้นทำให้เซย่าถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ตอบคำถามของนางอยู่ดีแต่กลับพูดจาตอบโต้นางกลับไป
“เจ้าเป็นถึงเทพีผู้ลงทัณฑ์ ไม่ว่าใครจะแอบซ่อนลึกลับแค่ไหน เจ้าก็จะตามล่าหาจนเจอ แค่ที่อยู่อาเทน่าเพียงคนเดียว แต่กลับไม่รู้ ช่างน่าหัวเราะ”
เทพีผู้ลงทัณฑ์เมื่อได้ยินคำตอบของเซย่าเป็นคำเย้ยหยันกลับมา ก็เริ่มมีอาการโมโห หน้าแดงจัด ซึ่งก็เป็นจริงอย่างที่เซย่าพูด ไม่ว่าใครหน้าไหนจะอยู่สุดหล้าฟ้าเขียวนางก็จะตามหาจนเจอ แต่กับอาเทน่านางถึงกับจนปัญญา เพราะไม่ว่านางจะพยายามใช้ความสามารถของนางในการตามหาคน แต่นางก็ไม่สามารถมองเห็นที่อยู่ของอาเทน่า ราวกับมีสิ่งใดมาบังตา สิ่งนี้เองทำให้นางรู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก ผู้เดียวที่จะบอกนางได้ว่าอาเทน่าอยู่ที่ไหน ก็คือชายที่อยู่กับอาเทน่าเป็นคนสุดท้ายและไว้วางใจได้ ชายผู้นั้นอยู่ตรงหน้านางแล้ว เขาคือ เปกาซัส เซย่า
“ข้าอุตส่าห์ให้โอกาสเจ้าแล้วนะเปกาซัส แต่เจ้าก็ไม่ยอมบอกที่ซ่อนของอาเทน่า ข้าหมดความอดทนกับเจ้าแล้ว ข้าจะหักแขนหักขาเจ้าซะ ดูสิเจ้าจะยังดื้อด้านอยู่อีกหรือเปล่า”
เทพีเนเมซิสหมดความอดทนแล้ว นางใช้พลังบางอย่างตรึงร่างเซย่าเอาไว้ เซย่าขยับตัวไม่ได้ร่างกายเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามใจคิด ราวกับว่าทั่วร่างของเขากลายเป็นอัมพาตไปแล้ว
“นี่เราเป็นอะไรไป ทำไม่ขยับตัวไม่ได้เลย”
“เจ้าถูกมนต์สะกดของข้าไปแล้วเปกาซัส เจ้าไปมีทางที่จะเคลื่อนไหวไปไหนได้อีก หากเจ้าไม่ยอมบอกที่อยู่ของอาเทน่าอีก แขนของเจ้าข้าหักมันเสียตรงนี้ เอาละเปกาซัสอาเทน่าอยู่ไหน”
เนเมซิสเดินเข้าไปหาเซย่าที่ตอนนี้ต้องมนต์สะกดของนางอยู่ นางถามเขาอีกครั้ง
“ข้าจะบอกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ยังไงข้าก็ไม่บอกเจ้าหรอก อ้าก!!!”
เมื่อได้รับคำตอบของเซย่าแล้ว...เนเมซิสก็จัดการหักแขนซ้ายของเขาทันที่ โดยไม่มีอาการลังเลใจ ใบหน้าของเซย่าเต็มไปด้วยความทรมาน เขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“เป็นอย่างไรละเปกาซัส เจ็บมากใช่ไหม เอาละคราวนี้เจ้ายอมบอกข้าดีๆไหมว่าอาเทน่าอยู่ที่ไหน”
เทพีเนเมซิสเอ่ยปากถามเซย่าอีกครั้ง
“ หึหึหึ ยังไงข้าไม่บอกเจ้าหรอก”
เซย่าหัวเราะออกมาท่ามกลางความเจ็บปวด เขายังยืนยันคำตอบเดิม เนเมซิสยิ่งเดือดดาลเข้าไปใหญ่เข้าไปตบหน้าเซย่าและจับแขนขวาของเขาขึ้นมา
“เจ้าเซนต์ชั้นต่ำคราวนี้หากเจ้าไม่บอกอีก ข้าจะฉีกแขนขวาของเจ้าให้ขาดออกจากร่าง บอกมา...อา...เท...น่า...อยู่ที่ไหน”
เทพีเนเมซิสถามเซย่าด้วยอารมณ์ที่โมโหร้าย แต่เซย่านั้นก็ให้คำตอบเติมเหมือนกับตอนแรก ความอดทนของนางถึงขีดสุดแล้ว
“ได้...เจ้าเปกาซัสในเมื่อเจ้าไม่อยากมีแขนไว้ใช้งานอีก ข้าจึงดึงมันออกมาจากร่างเจ้าซะ...
“ช้าก่อนเนเมซิส”
เทพีเนเมซิสหยุดชะงักไปชั่วขณะ นางหันหลังกลับไปดูเจ้าของเสียงที่ห้ามการกระทำของนาง และก็ได้พบกับชายที่นางรู้จักเป็นอย่างดี เนเมซิสเมื่อได้เห็นชายผู้นั้นก็โน้มคำนับกลับไป พร้อมพูดกับชายผู้นั้นว่า
“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”
“ข้าก็จะมาห้ามเจ้านะสิเนเมซิส ถึงเจ้าจะเด็ดแขน เด็ดขาเจ้าเปกาซัสผู้นี้ มันก็ไม่ยอมบอกอะไรออกมาหรอก ความภักดีของเจ้านี้มันช่างมีมากนัก อีกทั้งคราวนี้ถ้ามันไม่ยอมบอกอีก ข้าเกรงว่าเจ้าอาจจะสติแตกพลั้งลงมือฆ่าเจ้าเปกาซัส หากเจ้าเปกาซัสตายไปเราก็จะไม่รู้ที่ซ่อนของอาเทน่า จริงไหมเนเมซิส”
ชายผู้นั้นตอบคำถามของเนเมซิสพร้อมถามคำถามนางกลับไป เนเมซิสก้มหน้าลงเหมือนรู้สึกผิด เมื่อชายผู้นั้นเห็นอาการของนาง ก็เข้าใจถึงคำตอบของนาง เขาตบไหล่นางเบาๆพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี แล้วพูดกับนางว่า
“ฮ่าฮ่าฮ่า เอาละ ๆ เนเมซิส ข้ารู้ว่าเจ้าสำนึกผิดแล้ว การที่จะทำให้เจ้าเปกาซัสบอกที่ซ่อนของอาเทน่าได้น่ะ มันไม่ยากเลยสำหรับตัวข้า เจ้าก็รู้ดีใช่ไหมไม่ว่ามนุษย์หรือเทพเจ้าองค์ใดก็ไม่สามารถซ่อนความลับอันใดได้เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า เอาละข้าจะทำให้เจ้าเปกาซัสมันพูดเองว่าอาเทน่านั้นอยู่ที่ไหน”
ชายผู้นั้นเดินเข้าไปหาเซย่าอย่างช้าๆ เขาเดินเซไปเซมาคล้ายอาการคนเมา เมื่อเขาเข้ามาถึงตัวเซย่าเขาก็ใช้มือทั้ง 2 ข้างของเขายกหน้าของเซย่าที่ขณะนี้ขยับตัวไม่ได้ขึ้นมา เขาจ้องหน้าเซย่าแล้วถามออกไปอย่างสุภาพว่า
“เอาละเปกาซัส อาเทน่าของเจ้านั้นอยู่ที่ไหนกัน”
เซย่าได้กลิ่นเหล้าออกมาจากปากชายผู้นั้น จากนั้นเขาก็รู้สึกมึนงง สติสัมปชัญญะเลื่อนลอย เขาเริ่มพูดจาไม่เป็นภาษาคน เหมือนคนถูกมอมยา เขาเริ่มจะหมดสติ ชายผู้นั้นเมื่อเห็นเซย่ามีอาการเช่นนั้นก็ถามกลับไปอีกครั้งว่า
“อาเทน่าอยู่ที่ไหน เปกาซัส”
เซย่าเผลอตอบออกไปก่อนที่เขาจะผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
“อา...เท...น่า...อยู่...ที่..........ZZZZ”
เวลาได้ผ่านไปหลายชั่วยาม เซย่ารู้สึกตัวสะดุ้งตื่นขึ้นมา ด้วยอาการมึนงงเหมือนคนดื่มเหล้าหนักมาทั้งคืน เขามองไปรอบๆตัวของเขา ก็ไม่เห็นเทพีเนเมซิสกับชายลึกลับ แล้ว ความคิดแรกที่เกิดขึ้นในสมองของเขาก็คือ เขาเป็นห่วงอาเทน่า เขาสงสัยว่าเขาอาจจะบอกที่ซ่อนของอาเทน่าในขณะที่เขาควบคุมสติตนเองไม่ได้แก่ผู้ตามล่าอาเทน่า ทั้ง 2 คน เขาเริ่มร้อนใจวิ่งไปหาอาเทน่าอย่างเร่งรีบ เผื่อหวังว่าเขาอาจจะไปช่วยอาเทน่าได้ทันเวลา
เซย่าเร่งฝีเท้าของเขาเท่าที่จะเร็วได้อย่างสุดชีวิต จนในที่สุดเขาก็มาถึงสถานที่ที่อาเทน่าอยู่ เขาไม่พบใครเลยสักคน เขาร้องเรียกอาเทน่าด้วยความเป็นห่วง
“คุณซาโอริครับ คุณอยู่ที่ไหนกันครับ “
เซย่าร้องเรียกหาเทพีแห่งพื้นพิภพดังลั่นไปทั่วแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีเพียงแต่เสียงสะท้อนของเขาที่ร้องตะโกนออกไปเท่านั้น เขาเริ่มหน้าเสียขึ้นมา ในหัวของมีแต่ความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองว่าอาเทน่าคงไม่ปลอดภัยแน่ หากอาเทน่าเป็นอะไรไปเขาจะไม่ยกโทษให้ตนเองแน่ แต่แล้วเขาก็ได้เสียงลากเท้าใครบางคนอยู่ข้างหลังเขา เซย่าเมื่อได้ยินเสียงจึงหันกลับไปดูด้วยท่าทีที่ระมัดระวังตัว และเขาก็พบกับชายคนหนึ่งซึ่งมีร่างกายสูงใหญ่กำยำ ไว้ผมและหนวดรุงรัง ผิวกายออกคล้ำ มือทั้งสองข้างมีรอยแผลเป็นจากไฟลวก เดินกระเผลกเพราะขาซ้ายเสียข้างหนึ่ง แต่ที่เซย่าสนใจมากกว่านั้นคือ คิ้ว 2 ข้าง ของเขาช่างเหมือนกับ ชนเผ่ามู เสียเหลือเกิน ชายร่างใหญ่ผู้นั้นเดินเข้ามาหาเซย่าอย่างช้าๆคงด้วยเพราะขาซ้ายของเขานั้นใช้การไม่ได้ เมื่อมาถึงตัวเซย่าเขาก็จับไหล่ของเซย่า เซย่าสะดุ้งนิดหน่อย แต่เขามีความรู้สึกว่าชายผู้นี้ไม่ได้คิดร้ายกับเขาจึงไม่ป้องปัดออกไป ชายแปลกหน้าผู้นั้นเพ่งพิจารณาหน้าของเซย่าแล้วก็เอ่ยปากถามออกมาว่า
“เจ้าคงคือเปกาซัส เซย่าสินะ คงมาตามหาอาเทน่านะสิไม่ต้องห่วงนางปลอดภัย”
เซย่าแปลกใจที่ชายแปลกหน้าคนนั้น รู้จักชื่อของตนจึงถามกลับไปว่า
“ท่านรู้จักชื่อข้าได้อย่างไร แล้วท่านเป็นใครกัน แล้วตอนนี้อาเทน่าอยู่ที่ไหน”
ชายแปลกหน้าก็ตอบเซย่ากลับไปว่า
“เอาละ เอาละ อย่ารีบร้อน ข้าจะตอบเจ้าทีละคำถาม ข้ารู้จักเจ้าได้อย่างไรนะหรือ ก็ได้ยินมาจากเทพีของเจ้าไงละ และข้านี่แหละที่เป็นคนที่อาเทน่าของเจ้าตามหาอยู่ และตอนนี้นางได้พักอยู่ที่พักของข้าเจ้าไม่ต้องกังวล”
“พาข้าไปพบอาเทน่าได้ไหม ข้าอยากเจออาเทน่า”
เซย่าเมื่อรู้ว่าอาเทน่าปลอดภัยก็ดีใจก็อยากจะไปหาทันที แต่ชายแปลกหน้าคนนั้นได้ปรามเซย่าเอาไว้
“ช้าก่อนเปกาซัส อาเทน่ายังไม่ต้องการที่จะพบเจ้าตอนนี้ นางบอกให้เจ้ากลับไปที่แซงค์ทัวรี่เดี๋ยวนี้”
เซย่าตกใจที่อาเทน่าฝากคำพูดมากลับชายแปลกหน้าว่าไม่ต้องการที่จะเจอหน้าเขาและไล่ให้เขากลับแซงค์ทัวรี่
“คุณซาโอริไม่ต้องการเจอหน้าผม ทำไมกัน ทำไมกัน...ครับ... คุณซาโอริ”
เซย่าตะโกนร้องออกไป เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมอาเทน่าถึงทำเช่นนั้น
“ข้าว่านางคงมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่อยากให้เจ้าอยู่ตรงนี้ เจ้าจงทำตามที่นางสั่งเถิดนางจะได้ไม่ลำบากใจ”
ชายแปลกหน้าคนนั้นบอกให้เซย่าทำตามที่อาเทน่าบอก เซย่าก้มหน้ารับคำโดยไม่พูดอะไรออกไปใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเสียใจอย่างเห็นได้ชัด เขาลาชายแปลกหน้าคนนั้นแล้วพูดกับเขาว่า
“นั้นผมต้องขอตัวลาก่อนนะครับ ยังไงผมขอฝากอาเทน่าด้วยนะครับ ช่วยดูแลเธอให้ปลอดภัยจากอันตรายด้วยนะครับ เอ่อ...แล้วฝากบอกอาเทน่าด้วยนะครับว่าถึงแม้อาเทน่าจะไม่อยากเจอหน้าของผม แต่ก็ผมจะคอยอยู่เคียงข้างเธอไปตลอด ”
เซย่าเมื่อพูดจบก็หันหลังกลับไปแล้วเดินออกไปจนหายลับไปกับตา เซย่าไม่รู้ตัวหรอกว่าคิโดะ ซาโอริ นั้นได้แอบฟังเขาอยู่ เธอเดินออกมาพร้อมน้ำตา เธอได้ยินที่เซย่าพูดหมดทุกอย่าง ชายแปลกหน้าคนนั้นเข้ามาปลอบใจเธอ
“เจ้าจะเสียใจไปทำไม ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วว่าเจ้าต้องการทำอย่างนั้นจริงๆ”
คิโดะ ซาโอริ ปาดน้ำตาของเธอออกแล้วยิ้มออกมาให้กับชายแปลกหน้า แล้วพูดกลับไปว่า
“ใช่ ถ้าฉันไม่ทำอย่างนั้น เซย่าก็จะเป็นอันตราย เพราะเขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน ศัตรูที่อาฆาตมาดร้ายฉัน จะทรมานเซย่าเพื่อให้รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน ฉันรู้ว่านิสัยเขาเป็นอย่างไร เขาจะไม่ยอมบอกอะไรแน่ เขาจึงได้บาดเจ็บเกือบตายถึงเพียงนี้”
น้ำตาคิโดะ ซาโอริ เริ่มซึมมาอีกครั้ง ชายแปลกหน้าคนนั้นเข้ามาจับไหล่ของเธอมือใหญ่ยักษ์ของเขาปาดน้ำตาของเธอออก แล้วพูดออกไปว่า
“อย่าอ่อนแอไป อาเทน่า หยุดร้องไห้ซะ เจ้ายังมีหน้าที่ที่ต้องทำอีก เอาละเดินทางไปกลับข้า ขืนมัวชักช้าพวกโอลิมปัสคงส่งคนมาตามล่าเจ้าอีกแน่”
คิโดะ ซาโอริ ใช้มือปาดน้ำตาเธออีกครั้ง เธอพยักหน้ารับ พร้อมออกเดินทางไปพร้อมกับชายแปลกหน้า การออกเดินทางไปกับชายผู้นี้เป็นความหวังเดียวที่จะช่วยให้เหล่าเซนต์ของเธอสามารถต่อกรกับเหล่าทวยเทพแห่งโอลิมปัสได้ ถึงแม้ว่ามันจะมีความหวังริบหรี่เสียหรือเกิน แต่ถึงแม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ใช่ว่าไม่มี ตราบเท่ายังมีความหวัง ปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นตามมาแน่ แต่พวกเหล่าเซนต์ของเธอจะรู้หรือเปล่าว่าการเสียสละของเธอครั้งนี้ อาจหมายถึงชีวิตของเธอ
ความคิดเห็น