คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 11 สภาเทพโอลิมปัส
บทที่ 11
สภาเทพโอลิมปัส
เทพีเฮร่ามีสีหน้าที่วิตกกังวลอยู่ไม่น้อยที่จะต้องเข้าพบกับองค์มหาเทพซุส เกี่ยวกับเรื่องที่นางสั่งการทวยเทพให้ทำงานให้นางโดยพละการ แต่นางก็สามารถที่จะกลบเกลื่อนสีหน้าของนางไว้ได้ไม่ให้เทพองค์ใดจับได้ว่านางกำลังเกรงกลัวอยู่ นางเดินเข้าไปที่มหาวิหารองค์เทพซุสอย่างมาดนางพญา ทหารและนางกำนัลที่อยู่บริเวณนั้น เมื่อได้พบกับองค์ราชินีเทพ ก็รีบก้มลงไปคำนับอย่างเร่งรีบ เพราะพวกเขารู้ดีว่าคนที่กระด้างกระเดื่องกับนางจะมีจุดจบที่ไม่ค่อยสวยงามนัก
เมื่อเทพีเฮร่าเดินเข้าไปถึงด้านในวิหารขององค์เทพซุส นางก็ไม่พบองค์เทพ แต่นางเองก็ได้พบกับเทพีทีสูงศักดิ์เหมือนกับนางอีกสององค์ ซึ่งก็คือเทพีเฮสเทีย และเทพีดีมิเตอร์ นั่นเอง พระพักตร์ขององค์เทพีทั้งสองนั้นมีความงดงามไม่แพ้เทพีเฮร่าเลย จะแตกต่างกันก็แค่เพียง พักตร์ของราชินีแห่งสวรรค์เฮร่านั้น ดูงดงามแต่แฝงไปด้วยความอารมณ์ที่โกรธเกี้ยวเหมือนพายุคลั่งอยู่ตลอดเวลา ส่วนองค์เทวีเฮสเทียนั้น ดูสุขุมเยือกเย็น แต่พระพักตร์นั้นแสดงออกถึงคนมีความเมตตากับทุกคน และเทพีดีมิเตอร์นั้นแม้จะมีพักตร์ที่งดงามไม่แพ้สองเทวี แต่พระพักตร์ที่แสดงอาการเศร้าสร้อยอยู่ตลอดเวลา ทำให้พักตร์ที่งดงามของนางนั้นหมองลงไปเลยทีเดียว
เทพีเฮสเทียเมื่อได้พบเทพีเฮร่านางก็ส่งยิ้มให้ เทพีเฮร่ายิ้มตอบกลับไปอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรนัก ส่วนเทพีดีมีเตอร์นั้นเมื่อรู้ว่าเทพีเฮร่าเข้ามานางก็เมินหน้าหนีไม่สบตาเทพีเฮร่าเหมือนว่านางไม่ชอบเทพีเฮร่า บรรยากาศรอบๆตัวเทวีผู้สูงศักดิ์ทั้งสามดูอึมครึม ต่างคนไม่พูดอะไรกันออกมา จนกระทั่งเทพีเฮสเทียจึงพูดออกมาเพื่อทำลายความเงียบนั้นลง
“เจ้าสบายดีหรือเฮร่า”
“เพคะ หม่อมฉันสบายดี และองค์เทพีเฮสเทียมาทำอะไรที่ตำหนักท่านซุสละเพคะ”
“ข้อนี้ ข้าเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน พอดีข้าและเทพีดีมีเตอร์ ได้รับสาสน์จากเทพเฮอร์มิสว่าท่านซุสมีรับสั่งต้องการพบพวกข้าทั้งสอง ข้าจึงรีบมา ส่วนเจ้าก็คงได้รับสาสน์นี้มาเช่นกันใช่ไหมเทพีเฮร่า”
เทพีเฮร่าเมื่อได้ยินคำถามก็ถึงกับเงียบไป แท้จริงแล้วเทพีเฮร่าไม่ได้รับสาส์นจากเทพเฮอร์มิส ที่นางมาที่นี่ก็เพราะเทพีไอริสหยั่งรู้เหตุการณ์ได้ว่าองค์ซุสทรงรู้ตัวแล้วว่านางกำลังจะทำอะไร นางจึงออกมาพบมหาเทพเพียงลำพัง แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมาพบสองเทพีอยู่ที่นี่”
“องค์เทพีเฮสเทีย เพคะ แต่ข้าว่าไม่มีใครเขาเชิญเทพีเฮร่าหรอก นางคงแอบทำอะไรผิดแล้วร้อนตัวถึงได้มาพบท่านซุส”
เทพีดีมีเตอร์พูดเสียดสีเทพีเฮร่า ทำให้นางโมโหมาก
“ข้าจะมาพบท่านซุสได้อย่างไร มันไม่สำคัญ เพราะยังไงข้าก็เป็นถึงราชินีแห่งสรวงสวรรค์ ข้าจะเข้าออกวิหารของมหาเทพ ข้าก็ทำได้โดยไม่ต้องรับอนุญาต เข้าใจหรือยังละ ข้าว่าเจ้าเก็บคำพูดเสียดสีที่ออกจากปากของเจ้าเอาไว้ร้องเรียกหาลูกสาวที่หายไปของเจ้าดีกว่าดีมีเตอร์”
“หุบปาก!! เจ้ากำลังทำให้ข้าโกรธเทพีเฮร่า”
เทพีดีมีเตอร์รู้สึกโมโหเป็นอย่างมากเมื่อเฮร่าพูดจาตอกกลับใส่นางกลับมา รอบๆตัวนางเปล่งพลังออร่าออกมาด้วยอารมณ์โมโหหมายพร้อมที่จะโจมตีทุกเมื่อ เทพีเฮร่าก็ไม่แพ้กัน นางก็เปล่งพลังออกมาข่มกับเทพีดีมีเตอร์ เทพีเฮสเทียที่อยู่ในเหตุการณ์ พยายามห้ามปรามทั้งสองแต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งทั้งสามเทพีก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อได้ยินเสียงฟ้าคำรามดังสนั่นในวิหารของมหาเทพ
“ท่านซุสเสด็จลงมาแล้ว”
เทพีเฮร่ากล่าวออกมา จากนั้นจึงหันกลับไปก็พบว่าองค์มหาเทพซุสได้เสด็จมาแล้ว องค์เทพซุสปรากฎกายขึ้นมาหลังม่าน แล้วประทับอยู่นั่งบนบังลังค์ เทพีทั้งสามเห็นแต่เพียงเงาลางๆของราชาแห่งเทพที่อยู่หลังม่านเท่านั้น จากนั้นเทพีทั้งสามจึงทำความเคารพต่อองค์เทพซุส เทพีเฮร่ายังคงใจเต้น เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรกับนาง แรงกดดันมหาศาลที่ท้วมท้นจากการมาขององค์เทพซุสทำให้นางรู้สึกยิ่งอึดอัดใจ และเทพซุสก็ได้เริ่มพูดกับเทพีเฮร่าด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความโกรธ
“เจ้าทำอะไรลงไปเจ้าคงรู้ตัวใช่ไหม เฮร่า”
เทพีเฮร่าถึงกับสะดุ้งขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเทพซุสได้เอ่ยถามนาง แต่นางก็ลดความประหม่าลงได้ ตอบคำถามเทพซุสออกไป ด้วยท่าทีที่องอาจ
“ที่ข้าทำลงไปก็เพื่อท่านทั้งนั้นนะเพคะ ท่านซุส พวกมันอาจหาญที่ท้าทายเทพเจ้า มันก็สมควรตายแล้วไม่ใช่หรือเพคะ”
“แล้วพวกมันที่เจ้าว่านะ มีใครไหมสักคนที่เจ้าจัดการมันได้สำเร็จนะ “
เมื่อได้ยินคำนี้เทพีเฮร่าถึงกับอึ้งไป การกระทำที่ทำไปโดยพละการของนางไม่มีเซนต์ของอาเธน่าคนไหนเลยที่จบชีวิตลง
“ไม่มีใช่ไหมละเฮร่า เท่านี้ยังไม่พอเจ้าทำงานของเจ้าไม่สำเร็จ เจ้ายังส่งลูกน้องของเจ้าไปสังหารเทพีเนเมซิสที่ทำงานพลาด เจ้ารู้ไหมที่ข้าโมโหเจ้าเพราะเรื่องอะไร “
“....................”
เทพีเฮร่าก้มหน้าไม่พูดจาอะไรออกไป
“งั้นข้าจะบอกให้เจ้ารู้ ที่ข้าโมโห นั้นก็เป็นเพราะว่า เซนต์ของอาเธน่าไม่มีใครตายสักคน แต่คนที่มาตายนะเป็นคนของโอลิมปัส ที่ตายเพราะเทพด้วยกันเอง”
เทพซุสตวาดเสียงใส่เทพีเฮร่า แรงโกรธาของขององค์เทพซุสดังสนั่นเหมือนเสียงฟ้าผ่า ทั้งสามเทพีรู้สึกตกใจ เพราะรู้กันว่าเมื่อใดที่มหาเทพโกรธ มักจะมีเรื่องที่ไม่ดีตามมา เทพีเฮร่าถึงแม้จะมีความเกรงกลัว แต่นางก็ไม่ยอมให้ใครรู้ว่านางกลัว กลับต่อล้อต่อเถียงองค์เทพซุสกลับไป
“แล้วท่านละ ท่านมัวไปทำอะไรอยู่ ท่านไม่รู้หรือว่า ลูกชายของท่านนะกำลังให้ความช่วยเหลืออาเธน่าในการทำศึกกับท่าน ภัยจะเข้ามาใกล้ตัวท่านแล้วท่านไม่รู้เลยหรือ”
เมื่อเทพีเฮร่าพูดออกมา เทพซุสก็ใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พูดออกมา
“หึ เจ้านั่นเองหรือ ลูกชายที่ไม่รักดีของเจ้ากับข้า เฮร่าข้าจะบอกเจ้าให้อย่างหนึ่งถึงแม้เจ้านั้นจะมาช่วยเหลืออาเธน่าในการทำศึกกับข้า แต่พวกเซนต์ของอาเธน่าไม่มีวันที่ทำให้เทพเจ้าอย่างพวกเรานั้นระคายเคืองได้หรอก”
“แต่ฟังที่เทพีเฮร่าพูดหน่อยก็ดีนะครับ ท่านพ่อ”
เทพีเฮร่าหันหลังกลับไปเพื่อหาเจ้าของเสียงที่พูดออกมาเมื่อครู่ เมื่อนางหันกลับไปดูก็พบกับเทพอพอลโล่ที่เดินเข้ามาพร้อมกับเทพีอาร์เทมิส
“นึกว่าใคร ที่แท้ก็เทพอพอลโล่นี้เอง เจ้ามาถึงตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อครู่นี้เองครับ เผอิญข้าได้ยินที่ท่านพ่อพูดกับเทพีเฮร่า ข้าก็อยากจะบอกท่านพ่อว่า ไม่ควรที่จะประมาทเซนต์ของอาเธน่า พวกมันไม่ใช่พวกกระจอกอย่างที่พวกท่านคิดกัน”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไรอพอลโล่”
“จากการที่ข้าได้ต่อสู้กับเซนต์ของอาเธน่าคนหนึ่ง พวกมันสามารถสร้างปาฏิหาริย์เร่งพลังคอสโม่ของมันให้ใกล้เคียงเทพเจ้าได้ แม้เพียงชั่วครู่มันก็ฝากบาดแผลไว้ที่ใบหน้าของข้าได้ “
มหาเทพซุสได้ฟังที่อพอลโล่พูดออกมาก็เริ่มใช้ความคิดอีกครั้งถึงปาฎิหารย์ที่เกิดขึ้นกับพวกเซนต์ของอาเธน่า แล้วก็พูดออกมากับเทพอพอลโล่ด้วยน้ำเสียงที่ปนอาการตกใจ
“ เป็นไปไม่ได้ หรือว่าพวกมัน.......”
“ท่านพ่อท่านก็คิดแบบเดียวกับข้าใช่ไหม พวกมนุษย์ใกล้จะรู้ความลับนี้แล้ว หากเราปล่อยเรื่องนี้ไว้นาน พวกมันอาจจะเป็นหนามยอกอกของพวกเราได้ พวกมันสามารถโค่นล้มสองเทพผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่านโปเซดอนและท่านฮาเดสได้ หากพวกมันเข้าถึงความลับอันนี้ได้ มันจะกลายเป็นภัยอันใหญ่หลวงแก่เทพเจ้าโอลิมปัสทั้งปวงได้ “
ในขณะที่องค์เทพซุสกำลังครุ่นคิดกับสิ่งที่เทพอพอลโล่พูดออกมานั้น เทพเจ้าแห่งสงครามอาเรสก็ได้เข้ามาในวิหารแห่งมหาเทพ พร้อมหัวเราะหยันอพอลโล่ที่ไปพลาดท่าพวกเซนต์ของอาเธน่า
“ ฮ่า ฮ่า ฮ่า อพอลโล่ เอ๋ย กับอีแค่มนุษย์หน้าโง่แค่คนเดียวที่บังเอิญดันมีพลังใกล้เคียงเทพเจ้า เจ้ายังวิตก ถึงพวกมันจะสามารถใช้พลังที่ใกล้เคียงเทพเจ้าได้ แต่พวกมันก็เป็นเพียงแค่มนุษย์ ไม่ใช่เทพอย่างพวกเรา มนุษย์ธรรมดาไม่อาจจะรองรับพลังของเทพเจ้าได้เป็นเวลานาน หากขืนพวกมันลองใช้พลังที่เหมือนกับเทพอย่างพวกเราอีกทีแล้วละก็ พวกมันนั่นเองแหละจะสูญสลายกลายเป็นผงธุลีไปเอง “
“’งั้นท่านจะลองสู้กับพวกมนุษย์พวกนี้ดูไหมละท่านอาเรส”
เทพแห่งสุริยะท้าทายให้เทพแห่งสงครามอาเรส ลองต่อสู้กับเซนต์ของอาเธน่า
“ อพอลโล่เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวพวกเซนต์ของอาเธน่าหรือ ได้ข้าจะนำทัพของข้าลงไปบุกแซงค์ทัวรี่และทำลายพวกมันให้ย่อยยับ”
“หยุด พวกเจ้าเลิกโต้เถียงได้แล้ว “
เทพซุสสั่งให้เทพอพอลโล่และเทพอาเรสยุติการโต้เถียงกัน แล้วหันไปถามความเห็นของเทพีเฮสเทียและดีมีเตอร์
“แล้วเจ้าทั้งสองมีความเห็นว่าอย่างไร”
“ส่วนตัวของข้าน่าจะให้ความเป็นธรรมแก่อาเธน่า ทำไมท่านไม่ลองฟังความคิดของนางบ้าง ไม่ใช่รับฟังความคิดของพวกเราฝ่ายเดียว ข้าว่านางคงมีเหตุผลของนาง”
เทพีเฮสเทียตอบคำถามขององค์เทพซุสที่ถามนางมา
“ หึ เหตุผลโง่ๆนะสิ เทพีเฮสเทีย เหตุผลของอาเธน่ามีเพียงอย่างเดียวคือนางต้องการที่จะปกป้องพวกมนุษย์ที่โสมมพวกนั้น “
เทพีเฮร่าเถียงเทพีเฮสเทียด้วยความคิดของนาง เทพีเฮสเทียมองเทพีเฮร่าแล้วก็ถอนหายใจ เทพีเฮร่ายืนยันที่จะไม่ยอมรับความคิดเห็นของอาเธน่า จนกระทั่งเทพีดีมีเตอร์ก็พูดจาโต้แย้งแทนเทพีเฮสเทีย
“หึ ใช่นะสิ เจ้ามันฉลาดแต่เพียงผู้เดียว ถึงได้ลงมือทำอะไรโดยพละการโดยไม่ปรึกษาใคร แล้วเป็นไงละคนฉลาด ต้องมานั่งหน้าสลดเพราะทำงานไม่สำเร็จ “
“นี่เจ้า เจ้าจะลองดีกลับข้าหรือดีมีเตอร์”
อารมณ์โมโหของเทพีเฮร่าเริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกแล้วนางเปล่งพลังของนางออกมาด้วยแรงโกรธ เทพีดีมีเตอร์ก็ไม่ยอมเร่งพลังเพื่อให้ทัดเทียมเทพีเฮร่า ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครยอมกันเลย จนกระทั่งเทพซุสต้องตวาดสองเทพีอีกครั้ง ทำให้ศึกระหว่างสองเทพีเป็นอันต้องสงบไป เทพซุสเองก็คิดใคร่ครวญที่เทพีเฮสเทียพูดออกมา เพื่อลองรับฟังความเห็นของอาเธน่าก่อน
“ ได้ ข้าจะลองรับฟังความคิดเห็นของอาเธน่าก่อน ข้าจะเดินทางไปหาอาเธน่าไปรับฟังเหตุผลของนางด้วยตัวของข้าเอง ถึงแม้ว่าข้าไม่รู้ว่านางซ่อนตัวทำอะไรอยู่ที่ไหนแต่ในอีกไม่ช้าข้าเชื่อว่านางจะต้องกลับไปที่แซงค์ทัวรี่อีกครั้งเป็นแน่ แล้วถ้าหากเหตุผลของนางไม่เพียงพอที่ข้าจะไว้ชีวิตเจ้าพวกมนุษย์เหล่านี้ ข้าจะทำลายล้างโลกนี้ด้วยอัสนีบาตของข้า และเฮร่าครั้งนี้ข้าจะยกโทษให้เจ้า ถ้าคราวหน้าเจ้ายังขืนทำอะไรโดยพละการข้าไม่ไว้เจ้าแน่”
“ขอบพระทัยเพคะ ท่านซุส “
เทพีเฮร่ารับปากด้วยท่าทีที่ไม่พอใจนัก ในช่วงเวลาเดียวกันเมื่อได้ยินว่าเทพซุสจะล้างโลกด้วยอัสนีบาตของตนหากเหตุผลของอาเธน่านั้นฟังไม่ขึ้น เทพีอาร์เทมิสที่นั่งฟังอยู่เงียบๆก็ตกใจขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอกำลังเป็นห่วงใครบางคน เทพอพอลโล่เมื่อเห็นท่าทีที่แปลกๆของน้องสาวจึงเอ่ยถามออกไป
“เป็นอะไรไปอาร์เทมิส เจ้ามีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีคะ ท่านพี่อพอลโล่”
แท้จริงแล้วเทพีอาร์เทมิสเป็นห่วงโทมะ เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่แองเจิ้ลของโอลิมปัสอีกต่อไป ไม่สามารถที่จะกลับมายังที่นี่ได้ แต่นางก็ไม่กล้าพูดออกไป แต่นอกจากเทพีอาร์เทมิสแล้วยังมีเทพที่มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีเมื่อได้ยินองค์เทพซุสพูดนั้นก็คือเทพีดีมีเตอร์ นางร้อนรนใจขอตัวองค์มหาเทพออกจากวิหารไปด้วยท่าทางที่ร้อนรน เทพีเฮร่าเมื่อได้เห็นนางก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของนางรู้สึกพอใจที่เหตุเทพีดีมีเตอร์เป็นทุกข์ ในขณะนั้นมหาเทพก็สั่งให้เทพเฮอร์มิสพาตนเองเดินทางไปพบกับอาเธน่าที่แซงค์ทัวรี่ เทพเฮอร์มิสรับทราบแล้วเดินทางออกไปตามคำสั่งที่ได้รับมอบหมาย เมื่อเทพเฮอร์มิสออกไปแล้ว องค์เทพซุสก็ได้อันตธานหายไปจากบังลังค์ เหล่าเทพที่มาเข้าเฝ้าต่างทยอยเดินทางกลับไปที่วิหารของตน เทพีเฮร่ารีบร้อนออกไปจากวิหาร ดูเหมือนว่านางกำลังรีบไปทำอะไรสักอย่างที่เร่งด่วน ด้วยท่าทีของนางในตอนนี้เป็นที่สังเกตของเหล่าเทพทุกคน แต่ดูเหมือนว่าเทพอพอลโล่และอาเรส จะไม่สนใจพฤติกรรมของนางสักเท่าไร คงมีเพียงแต่เทพีเฮสเทียและอาร์เทมิสที่กังวลว่าเทพีเฮร่ากำลังวางแผนอะไรบางอย่างที่คิดร้ายกับอาเธน่าเป็นแน่
ความคิดเห็น