คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 10 Your s Ever
บทที่ 10
Your ‘s Ever
โพรมีธีอัสรู้สึกไม่ไว้วางใจกับการปรากฏตัวของเทพเฮอร์มิสเลย ที่เขาระแวดระวังเทพเฮอร์มิสก็เพราะเขาไม่แน่ใจว่ามหาเทพซุสจะมีแผนอะไรซ่อนไว้หรือไม่ ถึงได้ส่งเทพเฮอร์มิสมายังทีนี้ โพรมีธีอัสมองหน้าเทพเฮอร์มิสด้วยสีหน้าสงสัยและระวังตัวตลอดเวลา ซึ่งเฮียวกะเองก็แทบจะสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดที่แผ่พุ่งออกมาจากโพรมีธีอัสได้เลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าโพรมีธีอัสไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที เทพเฮอร์มิสก็เริ่มจะรอไม่ไหวที่จะให้โพรมีธีอัสพูดออกมาก่อน เขาจึงเป็นฝ่ายพูดจากับโพรมีธีอัสก่อน
“ไม่ได้พบกันตั้งนานเลยนะท่านโพรมีธีอัส ท่านสบายดีหรือไม่”
“พูดจาตลกดีนี่ เทพเฮอร์มิส เจ้าคิดว่าการที่ข้าถูกเจ้าซุสล่ามเอาไว้ให้แร้งคอยจับกินตับของข้า เจ้าดูไม่ออกเลยหรือว่า ข้าจะสบายดีแค่ไหน “
โพรมีธีอัสพูดตอบกลับไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียว
“ เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าขอท่าน ข้าไม่ได้ตั้งใจพูดอย่างนั้น ก็ข้าไม่เคยพบท่านมานานมากแล้ว ข้าก็อยากจะถามสารทุกข์สุขดิบของท่านมั้ง “
“ พอหยุดพูดจาพร่ำเพรื่อได้แล้วเทพเฮอร์มิส เจ้ามาทำอะไรที่นี่ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเจ้าจะแค่มาตามแกนิมิดกลับไป”
เทพเฮอร์มิสนิ่งไปสักพักหนึ่งและก็หัวเราะออกมาเบาๆ เพราะไม่นึกเลยว่าเทพโพรมีธีอัสจะรู้ทันเขา
“ เอาละ เอาละ ข้าจะบอกความจริงก็ได้ที่ข้ามาหาท่าน ก็เพราะข้าได้รับคำสั่งจากท่านซุสให้นำของสิ่งนี้มามอบให้แก่ท่าน”
“เจ้าว่าไงนะ เจ้าเทพซุสนะหรือให้เจ้านำของมาให้ข้า จงเอากลับไปเสียเถิดของขวัญจากเจ้าซุสน่ะ มีแต่ความหายนะที่จะมอบให้แก่ผู้รับมอบเท่านั้นแหละ”
โพรมีธีอัสปฎิเสธที่จะรับของจากเทพเฮอร์มิส เพราะเขารู้ดีว่าไม่มีสิ่งไหนดีที่มาจากเหล่าเทพ โดยเฉพาะของที่มาจากมหาเทพซุส
“ งั้นท่านลองดูสิว่าข้านำอะไรมาให้ท่าน “
เทพเฮอร์มิสหยิบห่อผ้าสีดำออกมา ของสิ่งนั้นมีขนาดเล็กเท่ากลับกล่องหีบเพลง เทพเฮอร์มิสทำหน้ายิ้มเชื้อเชิญให้เทพโพรมีธีอัสรับไป แต่โพรมีธีอัสก็ยังยืนกรานที่จะไม่รับสิ่งนี้ไว้ เมื่อเห็นโพรมีธีอัสมีท่าทีปฏิเสธ เขาก็รู้สึกอ่อนใจ และตัดสินใจที่จะเผยเจ้าสิ่งนั้นให้โพรมีธีอัสเห็น
“ ก็ได้ หากท่าน ไม่รับมันไป ข้าจะเปิดให้ท่านดูว่าของสิ่งนี้มันคืออะไร เผื่อท่านจะเปลี่ยนใจ เอาละจงดูซะ“
เทพเฮอร์มิสเปิดเผยของสิ่งนั้นให้เทพโพรมีธีอัสดู เมื่อโพรมีธีอัสมองเห็นสิ่งนั้นเขาก็ถึงกลับตกใจและถอยออกมา
“ อ๊ะนี่มัน กล่องแพนโดร่า !!! กล่องอัปมงคลเช่นนี้เจ้าเอามาให้ข้าทำไม “
“ อ๊ะ อย่าเพิ่งตกใจไปท่าน กล่องแพนโดร่าที่ท่านเห็นอยู่ตอนนี้มันเป็นแค่กล่องเปล่า ไม่มีสิ่งอัปมงคลใดๆบรรจุอยู่ในกล่องนี้หรอก “
“กล่องแพนโดร่าเปล่าใบนี้ เจ้านำมาให้ข้าทำไม หรือว่า....“
“ ท่านรู้แล้วสินะ ว่าจะทำอะไรกับกล่องแพนโดร่าเปล่าใบนี้ “
โพรมีธีอัสมีสีหน้าที่วิตกกังวลมากกับสิ่งของที่เขาได้รับมา มือไม้ของเขาสั่นจนเฮียวกะต้องจับตัวเขาเพื่อให้เขาตั้งสติ
“ท่านโพรมีธีอัสเป็นอะไรไปครับ”
เมื่อเฮียวกะจับตัวเขาโพรมีธีอัสก็ได้สติกลับคืนมา
“ ไม่มีอะไรหรอกเซนต์ของอาเทน่า เออ...เจ้าชื่อเฮียวกะใช่ไหม”
“ ครับ “
“ เฮียวกะจงนำข้าไปแซงค์ทัวรี่เพื่อให้ข้าพบอาเทน่าโดยด่วน เร็วเข้าหากช้าแล้วจะไม่ทันการณ์ เร็วเข้า”
เมื่อเห็นอาการที่ร้อนรนของโพรมีธีอัสทำให้เฮียวกะรีบแบกร่างของชิริวที่ตอนนี้ยังไม่ได้สติขึ้นไว้บนบ่าของเขาอย่างเร่งรีบ เพื่อเตรียมพร้อมที่จะนำทางโพรมีธีอัสสู่แซงค์ทัวรี่ แต่เทพเฮอร์มิสยืนขวางทางพวกเขาไว้ข้างหน้า ทำให้โพรมีธีอัสที่ร้อนรนตวาดใส่เทพเฮอร์มิส
“ อะไรของเจ้าอีก ถอยไป เจ้าจะมาขวางข้าไว้ทำไม “
“ อ๊ะ ฟังข้าก่อนสิท่าน ระยะทางจากเทือกเขาคอเคเซียนถึงแซงค์ทัวรี่กินเวลาหลายวัน ข้าก็แค่อยากจะย่นระยะเวลาให้พวกท่านก็แค่นั้นเอง เอาละเตรียมตัวกันไว้ให้ดี “
จู่ๆเทพเฮอร์มิสที่อยู่ตรงหน้าก็หายตัวไปปรากฎอยู่ข้างหลังอย่างรวดเร็วจนแทบมองไม่เห็น เขาใช้มือทั้งสองข้างจับที่ไหล่ของเทพโพรมีธีอัสและเฮียวกะ แล้วทั้งสองคนก็รู้สึกถึงแรงกดดันของอากาศที่พุ่งเข้ามาหา แล้วเทพเฮอร์มิสก็เตือนพวกเขาว่า
“ เอาละทุกคน หลับตาซะถ้าไม่อยากตาบอด “
ทั้งเทพโพรมีธีอัสและเฮียวกะหลับตาลงตามที่เทพเฮอร์มิสบอก ร่างกายของพวกเขากำลังเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วแสง ทั้งสองรู้สึกกระอักกระอ่วนแทบอยากจะอาเจียน กับการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่พวกเขาไม่ค่อยจะคุ้นเคย ไม่น่าเชื่อว่าชั่วเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ พวกเขาทั้งหมดก็กลับมาที่ทางเข้าของแซงค์ทัวรี่กันแล้ว โพรมีธีอัสและเฮียวกะเมื่อมาถึงที่ ก็มีสีหน้าซีด ท้องไส้รู้สึกปั่นป่วน เวียนหัว แทบจะหมดเรี่ยวแรง
“ เอาละ ข้ามาส่งพวกท่านที่แซงค์ทัวรี่แล้ว ยังไงก็ข้าขอตัวกลับโอลิมปัสก่อนละ “
เทพเฮอร์มิสทำท่าที่จะเตรียมตัวกลับไปโอลิมปัส แต่ก่อนที่เขาจะไปเขาก็มองไปที่ชิริวที่ไม่ได้สติอยู่
“ เจ้าคนนี้สินะ ที่สามารถทำลายโซ่ยักษ์ของท่านซุสลงได้ ยอดเยี่ยมเสียจริง แต่น่าเสียดาย....”
เทพเฮอร์มิสเหมือนจะพูดอะไรออกไปแต่ก็ไม่พูด สักพักหนึ่งเขาก็ใช่ไม้เท้าที่เขาติดตัวมาชี้ไปที่ชิริว ร่างกายของชิริวเปล่งแสงไปทั่วร่างบาดแผลตามร่างกายของเขาเริ่มหายไปที่ละนิด จนกระทั่งหายไปจนหมด ไม่มีริ้วรอยบาดแผลว่าชิริวเคยผ่านการต่อสู้นั้นเลย จากนั้นเทพเฮอร์มิสก็หายตัวไปด้วยความรวดเร็วโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวใครไว้เลย
เมื่อเทพเฮอร์มิสจากไปได้สักพักเฮียวกะก็ประคองร่างของชิริวขึ้นมาและพยายามเรียกสติของเขาให้กลับคืนมา ซึ่งก็ได้ผลชิริวฟื้นขึ้นด้วยอาการงวยงง เพราะเขาแปลกใจว่าเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สักพักเฮียวกะก็อธิบายเรื่องราวต่างๆทั้งหมด จนชิริวเข้าใจ เมื่ออธิบายเรื่องราวตต่างๆกันจนหมดข้อสงสัยแล้วโพรมีธีอัสก็เริ่มถามถึงอาเทน่า
“ แล้วอาเทน่าตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน พานางมาพบข้าที “
“ อาเทน่าไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ เธอบอกว่าให้นำท่านมาที่นี่ แล้วเธอจะมาพบกับท่านเองครับ”
เมื่อโพรมีธีอัสได้ฟังเฮียวกะพูดเขาก็มีสีหน้าร้อนใจมาก แต่ก็ต้องรอคอยอาเทน่าที่เป็นความหวังเดียวกลับเขา เขาหยิบกล่องแพนโดร่าเปล่าขึ้นมาดู ด้วยอาการที่วิตกกังวลที่ว่าหากอาเทน่ามาหาเขาช้าเกินไปโลกนี้คงถึงกาลอวสานเป็นแน่
ในขณะที่พวกเฮียวกะและชิริว ได้เดินทางไปช่วยเหลือโพรมีธัส ก็เป็นเวลาเดียวกันกับ ชุน ที่ได้เดินทางมาถึงเกาะอันโดรเมด้า ชุนเมื่อมาถึงเกาะอันโดรเมด้า เขาก็รีบวิ่งไปยังที่พักของจูเน่ ด้วยความเป็นห่วง จากเหตุการณ์ที่เทพีเนเมซิสบุกเข้าสังหารเซนต์ในแซงค์ทัวรี่เมื่อคราวนั้น เขาเกรงว่าคนของโอลิมปัสอาจจะส่งคนมาสังหารจูเน่ที่อยู่เกาะอันโดรเมด้าเพียงคนเดียวก็เป็นได้ เขาจึงฝากแซงค์ทัวรี่ไว้กับเซย่าแล้วออกเดินทางมา
เมื่อมาถึงที่พักของจูเน่ ชุนก็ยิ่งมีสีหน้าที่ไม่ดีมากยิ่งขึ้น ที่พักของจูเน่ถูกทำลายพังเสียหายไปเป็นอย่างมาก เขาตะโกนเรียกหาจูเน่ ด้วยท่าทางที่กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก
“ จูเน่ เธออยู่ไหน ได้ยินฉันไหม “
ไม่มีเสียงตอบอันใดตอบกลับมาหาชุน ยิ่งทำให้ชุนยิ่งร้อนใจไปมากกว่าเดิม เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปยังที่พักของจูเน่เผื่อว่าจะได้เบาะแสอะไรบ้าง เมื่อชุนเดินมาถึงประตูทางเข้าเขาก็หยุดชะงักลง โซ่อันโดรเมด้าในกล่องคลอธก็มีปฏิกิริยาทำท่าที่อยากจะออกมาจากกล่อง ชุนคิดว่าอาจมีอันตรายอยู่ตรงหน้า เขาจึงสวมคลอธอันโดรเมด้าเตรียมรับศัตรูที่อาจจะจู่โจมเข้ามาได้ทุกเมื่อ
ชุนเปิดประตูเข้าไปด้วยท่าทีที่ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก ข้างในที่พักนั้นค่อนข้างมืด แต่ก็พอเห็นทางเดินจากแสงแดดที่รอดผ่านจากรอยแตกของหลังคาและผนังที่เสียหายจากการโจมตี ชุนเดินคลำทางเข้าไปเรื่อย ๆ ในขณะที่โซ่อันโดรเมด้าเองก็มีปฏิกิริยาอยู่ตลอดเวลา ในช่วงที่ชุนกำลังเดินเข้าไปนั้น จู่ๆก็มีคนเข้ามาทำร้ายชุนในความมืด ชุนเบี่ยงตัวหลบการโจมตีนั้นได้อย่างหวุดหวิด
“ นั้นใครกันนะ “
บุคคลลึกลับนั้นไม่ตอบแต่กลับใช้แส้ โจมตีเข้าหาชุนอีกครั้งด้วยความเร็ว คราวนี้ชุนใช้ความเร็วของเขาใช่โซ่อันโดรเมด้ารั้งแส้นั้นไว้ได้ ร่างลึกลับพยายามดึงแส้กลับแต่ก็ทำไม่ได้ ชุนได้โอกาสนี้กระชากร่างลึกลับนั้นเข้าหาแสงสว่างที่ลอดผ่านเข้ามาภายในบ้าน แสงสว่างทำให้เห็นหน้าคนที่ลอบโจมตีชุนได้อย่างชัดเจน เมื่อชุนได้เห็นหน้าคนผู้นั้น เขาก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก
“ จูเน่ “
คนที่ลอบโจมตีชุน นั่นก็คือ จูเน่คนรักเขานั่นเอง แต่ดูเหมือนเธอคล้ายกับคนคุ้มคลั่งไม่ได้สติ เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
“ แก เจ้าปีศาจ อย่านึกว่าจะหลอกฉันได้อีก “
เมื่อชุนได้ยินจูเน่เรียกเขาว่าเป็นปีศาจ เขาถึงกับแปลกใจว่าทำไมจูเน่เรียกเขาเช่นนี้ เขาจับจูเน่เข้ามากอด แต่จูเน่พยายามแข็งขืนพยายามผลักตัวเขาออกไป ชุนกอดเธอไว้แน่นแล้วพูดเรียกสติเธอแต่ก็ไม่ได้ผล ชุนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้จูเน่ได้สติคืนมาเพื่อที่จะจำเขาได้ ในขณะที่ใช้ความคิดอยู่นั้น สายตาของชุนก็เหลือบไปเห็นอะไรบางแขวนอยู่ที่คอของจูเน่ มันเป็นจี้ห้อยคอ เขารู้สึกคุ้นเคยกับเจ้าสิ่งนี้ แต่เมื่อเขาได้เห็นมันชัด ๆเขาก็ถึงกับตกใจเป็นอย่างมาก
“ ข้อความนี้มัน !!! (Your ‘s Ever) ไม่จริง เจ้านรกฮาเดสตายไปแล้วนี้ “
สิ่งที่ชุนได้เห็นนั้นเป็นจี้ห้อยคอที่สลักคำว่า Your ‘s Ever ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของที่ชุนคิดว่าเป็นไว้ดูต่างหน้าของแม่เขา แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นสัญลักษณ์ที่บอกให้รู้ว่าชุนเป็นร่างจุติของเจ้านรกฮาเดสที่ได้รับเลือกมา
ขณะที่ชุนกำลังตกใจกับสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้า จูเน่ก็กัดแขนเขาอย่างแรง ทำให้ชุนเผลอปล่อยมือออกจากจูเน่ จูเน่วิ่งหนีชุนเข้าไปในห้องโดยท่าทีที่แสดงออกมาว่าเธอกลัวชุนเป็นอย่างยิ่ง ชุนรีบตามจูเน่เข้าไปในห้อง แต่ก็พบว่าจูเน่ได้หายตัวไปแล้ว
“ จูเน่ เธออยู่ไหน ออกมาเถอะ ฉันไม่ใช่คนที่จะมาทำร้ายเธอนะ “
ไม่มีเสียงตอบจากจูเน่ แต่กลับมีเสียงผู้หญิงหัวเราะคิกคักกันอยู่หลายคน ชุนพอจับเสียงได้ว่าน่าจะมีกันอยู่สามคน ชุนตะโกนถามถึงเจ้าของเสียงหัวเราะ แต่เจ้าของเสียงนั้นกับส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นเรื่อยๆ พอกับส่งเสียงเป็นคำพูดขึ้นมาคำหนึ่งไม่ยอมหยุด
“ Your ‘s Ever ฮิฮิฮิ Your ‘s Ever ฮิฮิฮิ Your ‘s Ever ฮิฮิฮิ Your ‘s Ever “
“ หยุดนะ “
ชุนใช้โซ่อันโดรเมด้าเข้าโจมตีเจ้าของเสียงลึกลับ แต่โซ่ของเขากับค้างอยู่บนอากาศเหมือนถูกอะไรที่มองไม่เห็นตรึงไว้ เขาพยายามชักโซ่ของเขากับแต่ก็ไม่เป็นผล เสียงหัวเราะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ชุนรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา และในที่สุดเขาก็หน้ามืดล้มลงไปอย่างไม่รู้ตัว เจ้าของเสียงหัวเราะทั้งสามเดินออกมาจากมุมมืด แล้วเดินเข้ามาหาชุน พร้อมกับยกตัวชุนขึ้นมา พร้อมเขียนข้อความอะไรบางอย่างไว้ที่ตัวชุน เมื่อทั้งสามคนเขียนข้อความนั้นเสร็จ พวกเธอก็ลุกขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะอีกครั้ง พร้อมกล่าวคำว่า Your ‘s Ever ไปตลอดทาง
“Your ‘s Ever ฮ่า ฮ่า ฮ่า “
ความคิดเห็น