คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 คำสาปสุริยะเทพ
บทที่ 1
คำสาปสุริยะเทพ
“ขอโทษนะครับ คุณซาโอริ ที่นี่มันดูสวยมากเกินไป มันเงียบสงบจนทำให้ผมหวนคิดถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา ผมขอส่งคุณแค่นี้นะครับ ขอโทษนะครับที่ผมอยู่เป็นเพื่อนคุณไม่ได้“
“ไม่เป็นไรจ๊ะเซย่า ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวได้ เธอไม่ต้องห่วง”
นี่เป็นคำพูดสุดท้ายของเซย่า กับ คิโดะ ซาโอริ ก่อนที่คนทั้ง 2 จะลาจากกันไป คิโดะ ซาโอริ กำลังตามหาคนๆหนึ่งในที่แห่งนี้ ตามบันทึกของ แอเรียส ชิออน ที่เขาฝากให้กับ แอเรียส มู ลูกศิษย์ ของเขา ซึ่ง มู ที่คาดเดาถึงเหตุการณ์ข้างหน้าว่า ตนเองอาจจะเสียชีวิตในสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ จึงได้ฝากบันทึกเล่มนี้ ให้กับศิษย์คนเดียวของเขานั่นก็คือ กิกิ ไว้ก่อนที่เขาจะออกศึก โดยกำชับไว้อย่างแน่นหนาว่า หากอาเธน่าจะต้องทำศึกสุดท้ายกับเหล่าทวยเทพ แห่งเทือกเขาโอลิมปัส ให้มอบบันทึกเล่มนี้ให้กับอาเธน่า ให้อาเธน่าไปตามหาบุคคลในบันทึกเล่มนี้ ซึ่งเขาจะเป็นผู้ช่วยเหลืออาเธน่าในการทำศึก
เซย่าได้ร่ำลาคิโดะ ซาโอริ แล้วออกเดินทางไปเพียงลำพังด้วยใบหน้าที่ฉายไปด้วยความเศร้าและความเหงา เขาเองไม่อยากทิ้งเทพีที่เป็นที่รักของเขาไป แต่ก็ต้องจำใจจากไป เขาหวนคิดถึงเหตุการณ์ เมื่อหลายเดือนก่อน ที่เขาต้องเผชิญหน้ากับเทพเจ้า ทั้ง 2 องค์ นั่นก็คือ เทพีอาร์เทมิส และ เทพอพอลโล่ โดยคำพูดสุดท้ายที่เทพอพอลโล่ ได้พูดกับเขาก่อนที่จะรามือกลับสู่สรวงสวรรค์ ไปก็คือ
“เจ้าเปกาซัส ผู้ต่ำช้า เจ้าบังอาจสร้างรอยแผลไว้บนหน้าของข้า โทษที่ทำให้เทพเจ้าต้องหลั่งโลหิตมันช่างใหญ่หลวงเช่นนัก โทษตายมันยังคงไม่สาสมกับสิ่งเจ้าทำกับข้าไว้ ข้าจะให้เจ้าได้ตายทั้งที่ยังเป็นอยู่”
เทพอพอลโล่เมื่อพูดจบก็หันหน้าไปทางคิโดะ ซาโอริ แล้วชี้มือไปที่เธอ แล้วพูดออกไปว่า
“อาเธน่าในเมื่อเจ้ามนุษย์ผู้นี้คอยปกป้องช่วยเหลือเจ้าให้พ้นจากความตายมาตลอด ข้าก็จะขอให้เจ้าต้องมาตายด้วยน้ำมือของเจ้าพวกมนุษย์ที่คอยปกป้องเจ้าไว้”
“ว่าไงนะ!! หมายความว่าอย่างไร?”
เซย่ารู้สึกเอะใจกับถ้อยคำที่เทพอพอลโล่เอ่ยออกมา
เทพอพอลโล่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไรกลับไปพร้อมพลางดูเซย่าด้วยสายตาที่เหยียด ก่อนที่จะอันตธานหายลับไปต่อหน้าเขา
เมื่อไม่ได้คำตอบจากเทพแห่งสุริยะ เซย่าจึงเดินเข้าไปถาม คิโดะ ซาโอริ
“คุณซาโอริครับ ที่เจ้านั่นมันพูด มันหมายความว่าอย่างไรครับ”
คิโดะ ซาโอริ สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเซย่าถามคำถามนี้ขึ้นมา เธอพยายามซ่อนสีหน้าที่ตกใจ แต่ก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้หมด เธอเข้าใจความหมายที่เทพอพอลโล่พูดออกมา คำสาปของอพอลโล่น่ากลัวเช่นไรเธอรู้ดี แต่เธอไม่กล้าพอที่จะตอบข้อสงสัยนี้ให้กับเขา เพราะหากบอกไปคนที่จะต้องเสียใจก็คือเขานั้นเอง
ในช่วงเวลาที่คิโดะ ซาโอริ กำลังลังเลใจที่จะบอกออกไปนั้น ก็มีผู้ตอบคำถามแทนเธอให้เซย่าเข้าใจอย่างกระจ่าง นั้นก็คือ เทพี อาร์เทมิส
“ในเมื่อเจ้าลำบากใจที่จะบอก ข้าจะบอกเจ้าเปกาซัส ให้เอง สู้ให้เจ้าเปกาซัสรู้ตอนนี้ยังดีกว่าไปรู้ในภายหลัง จะได้ทำใจและไม่ต้องโทษตัวเองหากเกิดอะไรขึ้นกับเจ้าในภายภาคหน้า เอาละตั้งใจฟังให้ดีมันก็หมายความว่า หากเจ้ายังคงอยู่ใกล้ชิดกับอาเธน่า อาเธน่าจะต้องตายด้วยมือของเจ้า”
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางที่ผมจะลงมือสังหารคุณซาโอริได้หรอก จริงไหมครับคุณหนู”
เซย่าหันไปถามคิโดะ ซาโอริ ด้วยใบหน้าที่ทีฝืนยิ้มออกมา ตัวเขาสั่นสะท้าน เขาภาวนาในใจว่าขอให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่เรื่องล้อเล่น คิโดะ ซาโอริเมื่อได้เห็นใบหน้าของเซย่า เธอก็หันหน้าไปทางอื่นและก้มหน้าลง
เมื่อคิโดะ ซาโอริยังคงนิ่งเฉยเซย่าก็เข้าใจในคำตอบ เขายืนก้มหน้า นิ่งเฉยไม่พูดจาอะไร ภายในใจตอนนี้กำลังว้าวุ่นและสับสน
“คำสาปแช่งของเทพอพอลโล่ถือเป็นวาจาสิทธิ์ หากเจ้ายังห่วงชีวิตของอาเธน่า เจ้าจงรีบไปจากนางซะ”
อาร์เทมิสพูดย้ำอีกครั้งให้เซย่าได้คิดและหันไปพูดกับอาเธน่า
“ในเมื่อท่านพี่อพอลโล่กลับไปโดยที่ไม่สังหารพวกเจ้า ข้าก็ไม่มีธุระอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่แล้ว อาเทน่า ข้าขอตัวกลับไปโอลิมปัสก่อนนะ ตอนนี้ชีวิตของเจ้าและพวกมนุษย์ทั้งหลายคงจะยืดเวลาออกไปได้สักหน่อย จงจำไว้ให้ดีนะ ถึงแม้ข้าจะรามือจากเจ้าไป ก็ไม่ใช่ว่าเทพเจ้าทั้งปวงแห่งโอลิมปัสจะยอมยุติเรื่องเท่านี้ พวกเจ้าก็ยังคงต้องรับฑัณท์จากเทพเจ้าอยู่เหมือนเดิม”
เมื่อเทพีอาร์เทมิสพูดจบก็หันหลังกลับ พร้อมที่จะกลับสู่สรวงสวรรค์อีกครั้ง แต่นางก็ต้องหยุดชะงักเพราะคิโดะ ซาโอริ ได้เรียกนางขึ้นมา
“ท่านพี่ ท่านจะไม่พาอิคารอสกลับไปพร้อมกับท่านหรือ”
เทพีแห่งจันทรายืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะหันมามองโทมะ อิคารอส ซึ่งตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของ อีเกิ้ล มารีน ผู้ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆของเขา ก่อนที่จะตอบอาเธน่ากลับไปว่า
“แองเจิ้ลที่หลงไปคลุกคลีกับพวกมนุษย์ ไม่สมควรที่จะเป็นแองเจิ้ลอีกต่อไป อิคารอสผู้นี้ไม่ใช่คนของโอลิมปัสอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อพูดจบเทพีอาร์เทมิสก็หันหลังกลับไปอีกครั้ง ก่อนที่นางจะหายไปนางก็หันหน้ามาเล็กน้อยเพื่อมองมาที่โทมะ อิคารอส อีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาแค่เสี้ยววินาที คิโดะ ซาโอริก็สังเกตเห็นว่า ใบหน้าของเทพีนั้นแสดงถึงความเป็นห่วงโทมะ อิคารอสอยู่ไม่น้อย
เมื่อเทพีอาร์เทมิสกลับไปยังโอลิมปัสแล้ว คิโดะ ซาโอริ ก็เดินเข้ามาหาเซย่าที่ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมา เธอจับไหล่เขาเบาๆพร้อมพูดให้เขาสบายใจขึ้น แต่แล้วเธอก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา
เซย่าจับข้อมือเธออย่างแรง เธอมองเห็นแววตาที่น่ากลัวของเขา เขาดูเหมือนปีศาจร้ายที่น่ากลัว เขาพุ่งหมัดออกไปจนทะลุร่างเธอ คิโดะ ซาโอริ กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
“คุณซาโอริ”
เซย่าตกใจตื่นขึ้นมา เขาฝันไปหรือนี่ ? ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยเหงื่อทั้งที่อากาศก็ไม่ได้ร้อนอะไร เขาฝันถึงเรื่องนี้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว เซย่าเอามือปาดเหงื่อตนเอง นั่งหายใจหอบ เขาพยายามสูดหายใจลึกๆ พยายามให้ร่างกายและจิตใจของเขากลับมาเป็นเหมือนเดิม สักพักหนึ่งเขาก็เริ่มปรับตัวได้ เซย่าเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ตอนนี้เขาเดินทางมาอยู่กลางป่า ห่างจากสถานที่คิโดะ ซาโอริอยู่ไม่ไกลนัก
ตอนนี้ในหัวของเขากำลังเป็นห่วง คิโดะ ซาโอริ ว่าจะปลอดภัยดีหรือไม่ หลายครั้งที่เขาอยากกลับไปหาเธอ แต่ก็ฝืนใจไม่ไปเพราะเหตุที่ช่วงหลังที่เขาฝันร้ายติดๆกัน จนทำให้เขากลัวว่าคำสาปของอพอลโล่จะเป็นจริงขึ้นมา เขาเองก็ไม่กล้าที่จะไปจากเธอไกลเท่าไรนัก เพราะหากเกิดเรื่องอะไรกับเธอขึ้นมา เขาจะได้ไปช่วยเธอได้ทัน
ขณะที่เขากำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จู่ก็มีลมพัดมาอย่างแรง สัตว์ป่าน้อยใหญ่พากันแตกตื่น เหมือนกลัวอะไรบางอย่าง ขึ้นมา เซย่าลุกขึ้นพร้อมระมัดระวังตัวเองกับสิ่งที่กำลังคืบคลานเข้ามาหาเขา เขาสัมผัสถึงคอสโม่ที่น่าสะพรึงกลัว ขนหัวของเขาลุกชันขึ้นมา เซย่าข่มความกลัวตะโกนหาแขกผู้มาเยือน
“นั่นใครอยู่ตรงนั้นทำไมไม่ออกมา? ออกมาเดี๋ยวนี้นะ“
แขกที่ไม่ได้รับเชิญตอบรับคำเชื้อเชิญของเซย่า ร่างปริศนาที่คลุมผ้าไว้ทั่วร่าง เดินออกมาหาเขา พร้อมพูดออกไปว่า
“เจ้าคงเป็นเซนต์ เปกาซัส ใช่ไหม”
เซย่าตอบกลับไปทันทีด้วยนิสัยของเขา
“ใช่ ข้านี่แหละ เปกาซัส เจ้าต้องการอะไร”
ร่างปริศนาเมื่อว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเป็นเซนต์เปกาซัสเขาจึงพุ่งไปหาเซย่าด้วยความเร็วจนเซย่าไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างปริศนาจับไปที่ต้นคอของเซย่า และยกตัวของเขาขึ้นมา เซย่าดิ้นไปดิ้นมาเพราะหายใจไม่ออก
“อาเธน่าอยู่ที่ไหน”
ร่างปริศนาถามเซย่า
เซย่าพยายามดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด เขารวบรวมพลังเฮือกใหญ่ใช้ขาทั้ง 2 ของเขา ถีบร่างปริศนาเข้าไปอย่างแรง ซึ่งได้ผลร่างปริศนาปล่อยมือออกจากเขา เมื่อได้โอกาสเซย่าจึงปล่อยหมัดใส่ร่างปริศนาอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้ร่างปริศนานั้นได้ทันตั้งตัว
“เปกาซัส หมัดดาวตก”
หมัดดาวตกของเซย่าพุ่งเข้าหาร่างปริศนาอย่างรวดเร็ว ร่างปริศนาโดนหมัดดาวตกเข้าไปเต็มๆ เศษดินและใบไม้ฟุ้งกระจายไปทั่ว เซย่าระมัดระวังตัวเพราะเขาคิดว่าหมัดแค่นี้คงทำอะไรกับร่างปริศนานี้ได้ไม่มากนัก เมื่อเศษดินและใบไม้จางลง เขาก็ได้เห็นร่างที่แท้จริงของร่างปริศนา หมัดดาวตกของเขาทำให้ผ้าที่คลุมร่างขาดกระจุย เซย่าเมื่อได้เห็นร่างนั้นถึงกับตกใจ เพราะร่างที่เขาเห็นนั้นเป็นหญิงสาวที่มีใบหน้าที่งดงาม ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีพละกำลังมากเช่นนี้
“ นี่เจ้าเป็นผู้หญิงหรือนี่ !”
“ใช่ ก็อย่างที่เจ้าเห็น เจ้าเก่งมากนะเปกาซัส ที่โจมตีใส่ร่างข้าได้ แต่ฝีมือแค่นี้เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าไม่เวลาว่างที่จะเล่นกับเจ้าเสียด้วย บอกมาเดี๋ยวนี่ว่าอาเธน่าอยู่ไหน”
หญิงปริศนาตอบกลับเซย่าไปและถามหาที่อยู่ของอาเธน่ากลับไป
“เจ้าอยากรู้ที่อยู่ของอาเธน่าไปทำไม คิดจะทำอะไรกับอาเธน่า”
เซย่าถามหญิงปริศนาด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด
“ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะยุ่งอะไรกับอาเธน่าของเจ้านักหรอก แต่นี้เป็นหน้าที่ของข้าที่ต้องติดตามลงฑัณท์เทพเจ้าผู้ประพฤติผิด ข้าจะต้องนำศีรษะของนางไปถวายท่านซุส”
หญิงปริศนาตอบเซย่าออกไปด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียดไม่น้อยไปกว่ากัน เขาสะดุดคำพูดคำหนึ่งของนางที่ว่านางมีหน้าที่ต้องติดตามลงฑัณท์เทพเจ้าผู้ประพฤติผิด และเซย่าก็รู้ได้เองในทันทีว่านางคือใคร
“หรือว่าเจ้าคือ!!”
“เจ้าคงรู้แล้วสินะว่าข้าคือใคร ใช่ เป็นอย่างที่เจ้าคิด ข้าคือเทพีเนเมซิส”
หญิงปริศนาตอบเซย่าเพื่อให้เขารู้ว่าเขาเข้าใจถูกต้องแล้ว
ความคิดเห็น