ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Magicalrood

    ลำดับตอนที่ #1 : M.R. Shop

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 50


    “เฮ้อ~”
     
    เสียงถอนหายใจของใครบางคนที่ตอนนี้กำลังนั่งล้มฟุบกับโต๊ะเรียน มีหนังสือมากมายวางกองยู่บนโต๊ะ เสียงถอนหายใจที่ดังขึ้นมา ทำให้อีกคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ละสายตาจากหนังสือ

    “ แค่นี้ก็ท้อซะแล้ว ยังทำรายงานไม่ถึงครึ่งเลยไม่ใช่เหรอ? ”

    “จะให้ทำเสร็จได้ไง ครูสั่งให้ทำรายงานไม่ต่ำกว่า100 หน้าแล้วให้ส่งภายในเดือนนี้ เธอคิดว่าจะทันเหรอ ไอร์! ”    คนตอบที่แต่ก่อนเคยล้มฟุบ บัดนี้เงยหน้าขึ้นมา  นัยน์ตาสีดำสนิทที่แลดูเหนื่อยอ่อน หันไปมองเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ  แต่คนถูกจ้องกลับทำเป็นรู้สึกรู้สา แล้วหันไปอ่านหนังสือที่อยู่ในมือต่อ 

    “งั้นก็อย่าโอ้เอ้ รีบๆทำหน้านั้นให้เสร็จแล้วรีบกลับเถอะ ใกล้มืดแล้ว”

    “อืม”

    ว่าแล้วไมรีรอ    เจ้าของนัยน์ตาสีนินที่ตอนนี้ ได้ขุนเอาแรงเฮือกสุดท้ายที่มีอยู่มาตั้งใจกับรายงานหน้าสุดท้ายของรายงาน เสียงขีดเขียนของปากการัว อย่างไม่พัก...

    “ว๊าก! เสร็จแล้ว!”  

    สักพักเสียงตะโกนก็ดังขึ้น ทำให้ไอร์ละสายตาจากอักษรในหนังสือ มามองคนที่ตอนนี้เริงร่าสุดขีด

    “ยินดีด้วยนะที่เสร็จ นะคาเรน” 

    “ฮะๆๆ เหมือนยกภูเขาออกจากอกตั้งสิบลูกเชียว”

    “งั้นกลับกันเถอะ วันนี้ฉันต้องรีบไปเอาของที่สั่งไว้กับเจ้าของร้านด้วยซิ”

    “ร้าน...ที่ไหนเหรอ”

    “ร้านM.R.Shop ที่ย่านLuna Nigh วันก่อนเจอของที่ถูกใจแต่มันหมดก่อนเลยต้องสั่งเพิ่ม”

    “อืม...งั้นก็รีบไปเถอะ”

      ที่แห่งนี้คือย่านการค้า “Luna Night” ที่ผู้คนนิยมมาเดินหาซื้อของ และบรรยากาศที่ดูย้อนยุคนิดๆ เพราะ  ตามทางถนนเดินเท้าที่ปูด้วยอิฐสีแดงตลอดทาง โดยมีโคมไฟทรงย้อนยุคที่ให้แสงสว่างสีเหลืองนวลคอยขนาบไปกับสองข้างทาง ทำให้ตลอดทั้งทางไม่มืด  ต้นไม้พุ่มถูกปลูกไว้เป็นหย่อมๆข้างๆกับเก้าอี้ไม้ยาว    รวมทั้งหน้าร้านค้าต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาให้เข้ากัน   
    และผู้คนจะมาเดินกันเยอะที่สุดก็เมื่อหลังโรงเรียนเลิกหรือหลังเวลาทำงาน  ฉะนั้นLuna nightในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินขวักไขว่ไปมา รวมถึง คาเรนและไอร์ที่กำลังเดินฝ่าฝูงชนยู่ ไม่นานทั้งสองก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง คาเรนแหงนหน้ามองป้ายหน้าร้านที่สลักเป็นตัวหนังสือสีทอง

    “MR Shop…ร้านนี้เหรอ?”

    “อืม”

    “มันขายอะไรมั๊งเนี่ย”

    “ม่ายรู้เหมือนกันแต่ของสวยดีนะ เข้าไปกันเถอะ”              

    ว่าแล้วไม่รีรอ ไอร์ผลักประตูร้าน เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่กับบานประตูดังให้คนที่อยู่ในร้านรู้ว่ามีคนเข้ามา คาเรนเดินตามหลังไอร์เข้าไปในร้าน แล้วกวาดสายตาไปรอบๆ ร้าน  อย่างที่ไอร์บอก ร้านนี้ดูไม่ออกว่าขายของประเภทไหนแต่ว่า มีของสวยๆและแปลกตาอยู่มาก   เจ้าของร้านที่ยืนอยู่ตรงที่เช็คเงิน มองลูกค้าสองคนที่เดินเข้ามาในร้านอย่างเป็นมิตร

    “สวัสดีครับ”

    “ของที่สั่งเมื่อวันก่อนมารึยังคะ”

    “อันไหนเหรอครับ พอดีวันก่อนผมไม่ได้เฝ้าหน้าร้านนะครับ”

    “เหรอคะ  นั่นสินะวันก่อนสั่งของไว้กับอีกคน”

    “นั่นเค้าเป็นเพื่อนของผมเองครับ ผมวานให้เขาเฝ้าร้านไว้ครับแล้วของที่คุณสั่งคืออะไรเหรอครับ ”                      

    “สร้อยคะ รู้สึกว่าจะเป็นแบบเส้นนั้นน่ะคะ” ไอร์ชี้ไปที่สร้อยเส้นหนึ่งที่แขวน อยู่ตรงทางข้างหลัง เจ้าของร้าน

    “อ๋อ Shall เหรอครับ”

    “คะ?”

    “มันเป็นชื่อของสร้องเส้นนี้น่ะครับ ของทุกสิ่งในร้านนี้ล้วนมีชื่อของมันเอง”  เข้าเดินไปหยิบสร้อยเส้นนั้นแล้วมาวางไว้บนเคาท์เตอร์ตรงหน้าไอร์    จากนั้นเจ้าของร้านก็เบือนสายตาสบกับคาเรนที่เงียบมานาน

    “นัยน์ตาของคุณสวยจังนะครับ”              

    “คะ?”

    “ผมหมายถึง นัยน์ตาของคุณน่ะครับ สีมันดำสนิท สวยมากครับ”

    “…”   ไม่มีคำใดเอ่ยจากปากของเธอ  ถึงสีหน้าจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่ในใจกลับกระวนกระวายมาก เจ้าของร้านมองหน้าเออย่างยิ้มๆ แล้วค่อยหันหน้าไปคิดเงินต่อ

    “ไอร์”

    “หืม?”

    “เดี๋ยวฉันเดินดูของในนี้ก่อนนะ”

    “เอาสิ  ฉันจะได้ดูของอย่างอื่นด้วย”
    “อืม”

    ว่าแล้ว คาเรนก็เดินมองดูของช้าๆ และเดินเข้าไปตรงแถวข้างในร้าน  ตาสีนินที่ดำสนิทกวาดมองไปที่สินค้าอย่างเหม่อลอย เพราะ ตอนนี้เจ้าตัวไม่ได้สนใจกับสินค้าพวกนั้นเลย เพราะมีสิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือ  บทสนทนาเมื่อครู่ระหว่างเธอกับเจ้าของร้าน คาเรนเดินอย่างช้าๆพลางครุ่นคิดบางสิ่ง ไปซักพักใหญ่ 

    “หืม?” 

     และแล้วเธอก็ต้องชะงักเมื่อสายตาไปสะดุดอยู่ที่กล่องใบเล็กๆสีน้ำเงิน เธอมองกล่องใบนั้นด้วยความแปลกใจ และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปหยิบ  กล่องสีน้ำเงินใบเล็ก  ข้างบนมีลายอักขระสีทองซึ่งเขียนบางอย่างไว้ 
    ‘Magicalrood’  คาเรนเอ่ยขึ้นในใจ น่าแปลกทั้งที่ไม่เคยเห็นกล่องใบนี้มาก่อนแต่ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับมันมาก  ในขณะที่เธอคิดอยู่ จู่ๆ มือข้างที่ว่างก็เลื่อนขึ้นมาเปิดฝา อย่างไม่รู้ตัว จังหวะที่เจ้าของร้านเดินมาพอดี ภาพที่เหนทำให้เขาทำสีหน้าตกใจ


    แกรก!                    


    “อะไรกันน่ะ” 

    “คุณ...เป็นคนเปิดมันเองหรือครับ?”

    “หา?”

    “เปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่แปลกใจน่ะครับ ความจริงตั้งแต่เปิดร้านมากล่องใบนั้นไม่มีใคสนใจมันเลยครับ”   เขาเปลี่ยนสีหน้ากลับมายิ้มแย้มตามเดิม

    “ทำไมละ?”

    “เพราะไม่มีคนเปิดฝากล่องนี้ได้เลยนะสิครับ”

    “แล้วทำไมฉันถึงเปิดได้ละ”

    “ของทุกชิ้นล้วนแต่มีเจ้าของของมันอยู่ ถึงมีคนมากมายอยากจะได้มันมากเท่าไร แต่คนที่จะเป็นเจ้าของมันได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น แล้วมันจะรอเจ้าของ ของมันไม่ว่าจะนานเท่าไร”

    “อย่างนั้นเองเหรอ”

    “ครับ”

    “แต่มันแพงหูฉี่เลยไม่ใช่เหรอ”  คาเรนชี้ไปที่ป้ายราคาที่ตั้งราคาไว้เกือบถึงหลักหมื่น เจ้าของร้านมองตามแล้วยิ้มให้

    “ถ้าผมจะให้คุณฟรีๆละครับ”

    “หา? คุณพูดเล่นเปล่าเนี่ย!”

    “ไม่ครับ ผมพูดจริงๆ”

    “งั้นก็ขอบคุณคะ” เจ้าของร้านยิ้มน้อยๆแล้วพูดต่อ

    “ผมชื่อโรครับ”

    “...คาเรน”   คาเรนยิ้มน้อยๆให้

    “คาเรน!กลับบ้านกันเถอะ” เสียงของไอร์ดังขึ้นจากที่มุมหนึ่งของร้าน

    “รู้แล้ว!” คาเรนตอบกลับ และหันมาทางโรที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    “คุณโร ฉันมีเรื่องคาใจ ขอถามหน่อยได้ไหม?”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×