คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ตอน : THE END [Chapter : 33]
+ - บทที่ 33 - +
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนักเรียนส่วนใหญ่พากันกลับหอมาก่อนหน้านี้แล้วหรือว่ายังไม่ได้กลับมาจึงทำให้ตลอดทางเดินที่นำไปสู่หอคอยกริฟฟินดอร์ว่างเปล่าไร้ผู้คน สุภาพสตรีอ้วนคนสวยที่มักอารมณ์เสียเสมอหากถูกปลุกตอนกลางดึกกลับมีท่าทางกระตือรือร้นผิดปกติเมื่อเห็นว่าผู้ปลุกคือ ชายหนุ่มรูปหล่อที่ในอ้อมแขนมีร่างบางของสาวน้อยผมสีน้ำตาลที่กำลังหลับสนิท
“พาซินเดอเรลล่ามาส่งดึกไปหน่อยนะจ้ะ” สุภาพสตรีอ้วนทักทายอย่างอารมณ์ดี มัลฟอยยิ้มรับน้อยๆ ก่อนจะมองเจ้าหญิงนิทราที่ถูกมองว่าเป็นซินเดอเรลล่าในอ้อมแขน
“รหัสผ่านล่ะจ้ะ” สุภาพสตรีอ้วนทักต่อไป ทำให้มัลฟอยเพิ่งสำนึกได้ว่าจะต้องมีรหัสผ่านถึงจะเข้าไปในหอได้ เด็กหนุ่มหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ก็ยังไม่เจอแม้แต่เงาของนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์สักคน
“คนอื่นกลับมากันหมดหรือยังครับ” มัลฟอยเอ่ยถามอย่างสุภาพ ส่วนฝ่ายคนถูกถามนั้นก็กระตือรือร้นที่จะตอบเหลือเกิน
“คิดว่าเกือบครบแล้วมั้งจ้ะ” คำตอบของสุภาพสตรีอ้วนทำเอาเด็กหนุ่มใจหายวาบ สมองเริ่มสั่งการคิดหาทางออกอย่างเร่งด่วน แล้วทางเลือกชั่วร้ายก็ผุดขึ้นในสมอง... พาเธอไปนอนที่ห้องเขาสิ... ไม่ได้! ทำอย่างนั้นไม่ได้! ระหว่างที่เทพและปีศาจแห่งใจกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเศษกระดาษแผ่นหนึ่งปลิวมาอยู่ข้างหน้า คำสั้นๆ ที่ถูกเขียนด้วยลายมืดหวัดๆ ของใครบางคนซึ่งอ่านได้ความว่า...
“ฟอร์เก็ตมีน๊อต” มัลฟอยอ่านคำตามกระดาษนั้น พลันรูปภาพของสุภาพสตรีอ้วนก็เหวี่ยงออก... บิงโก! ใครกันนะที่งี่เง่าถึงขนาดต้องจดรหัสประจำหอของตัวเองเอาไว้กระดาษแล้วดันทำตกไว้หน้าหออย่างนี้
มัลฟอยก้าวเข้าไปในห้องนั่งเล่นรวมของบ้านกริฟฟินดอร์เป็นครั้งแรก ภายในถูกตกแต่งด้วยโทนสีแดงและเหลืองซึ่งเป็นสีสัญลักษณ์ของนักเรียนใจสิงห์เหล่านี้ เสียงปะทุของไฟในเตาผิงที่กำลังจะดับนั้นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ห้องนั่งเล่นแห่งนี้ดูไม่เงียบสงบจนเกินไป ของเล่นต่างๆ เปลือกขนมหรือแม้แต่ขนมที่ยังกินไม่หมดถูกวางไว้เกลื่อนกลาดเต็มห้อง ไม่เว้นแม้แต่บนเพดานที่มีลูกโป่งที่ขึ้นชื่อว่าไม่มีวันแตกลอยอยู่เต็มไปหมด
เด็กหนุ่มก้าวข้ามสิ่งของทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้ของนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ไปอย่างระมัดระวัง ในที่สุดเขาก็เดินข้ามห้องไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูสองบานที่เป็นทางขึ้นไปบนหอนอน มัลฟอยค่อยๆ เปิดประตูที่พาไปสู่หอนอนฝ่ายหญิงออกช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นไปบนบันไดอย่างระวัง น่าแปลกที่บันไดลงเวทมนต์ที่ห้ามไม่ให้ผู้ชายขึ้นมากลับไม่มีผลต่อเด็กหนุ่มคนนี้ แต่สิ่งที่หน้าแปลกกว่านั้นก็คือ แหวนเงินที่นิ้วมือของเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยกำลังเรืองแสงสว่างจ้าราวกับโคมไฟ และเพราะแสงของมันนี่เองที่ไม่ทำให้เขาก้าวพลาดและตกลงไปเสียก่อน
ประตูห้องนอนหญิงถูกเปิดออกช้าๆ พร้อมกับร่างสูงของมัลฟอยที่ก้าวเข้าไปภายในอย่างเงียบเชียบ เตียงสี่เสาของเฮอร์ไมโอนี่เป็นเพียงเตียงเดียวที่ยังว่างอยู่ ส่วนเจ้าของเตียงคนอื่นๆ กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงนุ่มของตัวเอง เด็กหนุ่มวางร่างของเด็กสาวในอ้อมแขนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างบางที่ยังคงไม่ได้สติ
“นั่นใครน่ะ!!” เสียงถามที่ดังมาจากด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ก่อนจะหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงที่ตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ไม่รู้
“มัลฟอย!!” ปาราวตีกึ่งร้องกึ่งตะโกนเสียงดัง หลังจากที่เทียนไขเล่มเล็กในมือถูกจุดขึ้นและภาพของเด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ทองปรากฏชัดในคลองสายตา
“นายเข้ามาได้ยังไง!!” เสียงถามที่ไม่ได้เบาลงเลยเกือบจะปลุกเหล่าสาวๆ ปีสี่ของกริฟฟินดอร์ให้ตื่นขึ้นกันหมด หากไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้าจากงานเลี้ยงในวันนี้ทำให้พวกเธอหลับลึกจนไม่รับรู้ถึงเสียงร้องของเพื่อนสาว ป่านนี้เขาคงโดนรุมสะกำไปแล้วแน่ๆ
“เข้ามาทำไม” ปาราวตีถามอีกเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบคำถาม
“เกรนเจอร์ไม่สบาย จะนอนหลับไปอย่างนี้อีกสามวัน ฝากดูแลด้วย” คำตอบไม่ตรงคำถามของชายหนุ่มตรงหน้าทำให้ปาราวตีเบิกตาขึ้นอย่างตกใจ
“เกิดอะไรขึ้นกับเธอ” ปาราวตีพึมพำ พลางรีบตรงเข้ามาหาร่างของเพื่อนสาวที่กำลังหลับสนิท ใบหน้านวลที่เคยมีเลือดฝาดนั้นซีดเซียวจนน่ากลัว เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวขึ้นเต็มใบหน้า ร่างกายทุกส่วนร้อนผ่าวราวกับกองไฟ
“ฝากด้วยนะ” คำกล่าวอ่อนโยนที่ฟังดูเหมือนขอร้องกลายๆ นั้นทำให้อีกฝ่ายฟังแล้วใจหาย... ไม่น่าเชื่อว่าคนข้างหน้านี้จะเป็นเดรโก มัลฟอย เด็กหนุ่มที่เธอไม่เคยนึกอยากจะเสวนาด้วยแม้สักครั้ง
“อืม” ปาราวตีรับคำ แล้วส่งยิ้มให้กับเขา
“ขอบใจ” มัลฟอยกล่าวทิ้งท้าย ก่อนจะเดินกลับออกไปจากห้องนอน โดยทิ้งความรู้สึกประหลาดใจไว้ให้กับเด็กสาวผู้ที่ได้รับคำ ‘ขอบใจ’ จากปากของเขา
...+*+*+...
“มัลฟอย!!” เสียงตกใจที่ดังขึ้น ทำให้เจ้าของชื่อที่กำลังก้าวออกมาจากหอคอยของกริฟฟินดอร์เงยหน้าขึ้นมอง
“ลองบ๊อตทอม” มัลฟอยทัก และทอดสายตามองเนวิลล์ที่กระโดดลุกขึ้นยืนจากพื้นหินอย่างเข้าใจอะไรบางอย่าง... เขาพอจะรู้แล้วล่ะว่าใครเป็นเจ้าของกระดาษจดรหัสผ่านนั่น
“นายเข้าไป
เข้าไปหรอ” เนวิลล์ถามอย่างตกใจ ทั้งๆ ที่ก็เห็นอยู่เต็มสองตาว่า มัลฟอยเพิ่งเดินออกมาจากหอของตัวเอง
“แล้วนายไม่เข้าไปรึไง” มัลฟอยถามกลับ ทำเอาคนถูกถามหน้าเปลี่ยนสี... ไม่ใช่ไม่เข้าไป แต่เข้าไปไม่ได้ต่างหากล่ะ
“เข้าสิ แต่... แต่ชั้นรอเพื่อนอยู่” เนวิลล์แก้ต่างให้กับตัวเองที่กำลังหน้าแดงจัดเพราะอีกฝ่ายถามจี้จุดได้อย่างถูกต้อง
“รอเพื่อน?” มัลฟอยทวนคำ รอยยิ้มกระตุกขึ้นบนริมฝีปากอีกครั้ง ทำให้คนเห็นรู้สึกเสียวสันหลังวาบ “หรือลืมรหัสผ่านกันแน่?”
“เปล่านะ!” เนวิลล์โต้กลับเสียงลั่น ทำเอาคนยั่วยิ้มอย่างพอใจ... เจอหมอนี่ทีไรหายเครียดได้ทุกที
“เปล่าก็เปล่าสิ” มัลฟอยเอ่ยเสียงกวน ก่อนจะก้าวขาเดินผ่านอีกฝ่ายไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำพูดกล้าหาญอย่างผิดเวลาของเนวิลล์
“ชั้นจะบอกอาจารย์ เรื่องที่นายบุกรุกหอของชั้น” ถึงแม้เสียงประกาศจะสั่นไปหน่อย แต่ก็เรียกความมั่นใจของคนพูดกลับมาได้มากทีเดียว แต่แล้วความมั่นใจนั้นก็ต้องหายวับ เมื่อคนบุกรุกหันหน้ากลับมามองเขาด้วยแววตาเย็นๆ
“บุกรุกหรอ?” มัลฟอยถามเสียงเย็น ทำเอาคนกล้าหาญเมื่อกี้ขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ชั้นน่ะหรือบุกรุกหอคอยกริฟฟินดอร์ ในเมื่อชั้นบอกรหัสผ่านถูกต้องและเข้าไปในนั้นโดยได้รับอนุญาตจากสุภาพสตรีในกรอบรูป”
“ตะ... แต่” เนวิลล์ทำท่าจะเถียง แต่ก็ถูกเสียงเย็นๆ อีกระลอกของมัลฟอยขัดขึ้นเสียก่อน
“ส่วนคนที่ผิดน่ะ ควรจะเป็นคนที่ทิ้งกระดาษจดรหัสผ่านไว้เรี่ยราดเสียมากกว่า” ว่าจบเขาก็ทำท่าจะเดินจากไป แต่ก็ถูกเสียงอ่อนๆ ของเนวิลล์เรียกให้หันกลับมาอีกครั้ง
“นาย... นาย... จะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอาจารย์หรอ” เนวิลล์ถามเสียงอ่อย หลังจากเพิ่งสำเหนียกได้ว่าตัวเองผิดเต็มประตู
“คงจะเป็นอย่างนั้น” มัลฟอยแกล้งตอบเสียงจริงจัง ทำเอาเนวิลล์หน้าถอดสี เมื่อภาพใบหน้าของศาสตราจารย์มักกอนนากัลลอยเข้ามาในความคิด “แต่ถ้านายไม่บอกใครเรื่องชั้น...”
“ชั้นจะไม่บอกใครเลย ชั้นสัญญา สาบานเลยก็ได้” เนวิลล์ขัดขึ้นอย่างกระตือรือร้น โดยไม่ห่วงว่าตัวเองจะดูตลกแค่ไหนในสายตาของอีกฝ่ายอีกแล้ว
“ต้องขอคิดดูก่อน” มัลฟอยพูดไปกลั้นหัวเราะไปกับท่าทางของคนตรงหน้า
“อืม ขอบใจมากนะ ขอบใจ” เนวิลล์เผลอขอบใจศัตรูตลอดกาลของตัวเองอย่างสุดซึ้ง แต่ไหนๆ ก็ปล่อยไก่ไปขนาดนี้แล้ว จะปล่อยไปอีกสักตัวก็คงจะไม่เสียหายอะไร คิดแล้วเนวิลล์ก็เอ่ยถามในสิ่งที่แทบทำให้มัลฟอยกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“ว่าแต่... นายยังจำรหัสผ่านได้ใช่ไหม”
ความคิดเห็น