ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ความทรงจำที่ดีของมัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่

    ลำดับตอนที่ #21 : ตอน : THE END [Chapter : 29]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      10
      30 เม.ย. 50




    + - บทที่ 29 - +

    "อะแฮ่ม!!" เสียงกระแอมของใครบางคนดังขึ้น ทำให้ทั้งคนทั้งคู่ผละออกจากกันทันที ฝ่ายคนเข้ามาขัดจังหวะจึงได้แต่ก้มหน้ามองพื้นทรายลูกเดียว ก็ไม่ได้คิดมาก่อนหนิว่าจะได้เห็นภาพสวีตอย่างนี้

    "คือ หนูไม่ได้ตั้งใจจะมาเป็น ก. ข. ค. หรอกค่ะ แต่ว่าพี่เรอคลอฟให้หนูมาตามพี่สองคน" เด็กสาวร่างโปร่งในชุดนอนสีเขียวอ่อนพูดไปพลางบิดไปพลางอย่างไม่รู้ตัว ส่วนเฮอร์ไมโอนี่และมัลฟอยนั้นก็หน้าแดงก่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    "อืม ขอบใจจ้ะ อแมนด้า" เฮอร์ไมโอนี่บอกกับเด็กสาวตรงหน้าที่เธอไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่ ก็อยู่ดีๆ อแมนด้าก็ตัวโตขึ้นมา แถมใบหน้ายังสวยขึ้นเสียจนเธอแทบจำไม่ได้ แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรอแมนด้าถึงได้โตพรวดขึ้นมาได้ภายในเวลาวันเดียว

    "ค่ะ" อแมนด้ารับคำ ก่อนจะหันหลังแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากไปทันที

    "มัลฟอย" เฮอร์ไมโอนี่สะกิดต้นแขนของเด็กหนุ่มที่ยืนเงียบอยู่ข้างเธอ

    "หืม" เขาครางในลำคอ แล้วหันมามองเจ้าของมือที่กำลังเกาะอยู่ที่แขนของเขา

    "ทำไมอแมนด้าถึงได้ เอ่อ ถึงได้โตขึ้นมาอย่างนั้นล่ะ คือ ชั้นหมายถึงทำไมเค้าถึงได้..." เฮอร์ไมโอนี่ยังอธิบายคำถามที่ออกจะงงๆ ของตัวเองไม่ทันจบ มัลฟอยก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน

    "เธอกำลังจะถามว่า ทำไมเขาถึงได้โตขึ้นมากะทันหันอย่างนั้นใช่ไหม" เด็กหนุ่มเปลี่ยนคำถามเข้าใจยากของเธอให้ฟังง่ายขึ้น เด็กสาวจึงพยักหน้าแทนคำตอบ

    "มันเป็นผลจากน้ำยาเพิ่มอายุน่ะ" คำว่า 'น้ำยาเพิ่มอายุ' จากคำตอบของมัลฟอยทำให้เฮอร์ไมโอนี่ร้องอ๋อออกมาทันที นั่นสินะ เมื่อวานรอนเป็นคนบอกเธอเองว่า อแมนด้าได้กินน้ำยาเพิ่มอายุที่เขาปรุงในวิชาปรุงยา แต่ เอ๊ะ! ทำไมมันถึงมีผลนานถึงสองวันเลยล่ะ

    "แต่น้ำยาเพิ่มอายุมีผลแค่ 10 ชั่วโมงหลังจากที่กินไม่ใช่หรอ" มัลฟอยไม่ปฏิเสธคำถามของเธอ เขาพยักหน้ายอมรับ ก่อนจะอธิบายในสิ่งที่เธออยากรู้

    "มันก็จริงอย่างที่เธอพูด แต่ถ้าหากใส่ส่วนผสมต่างๆ มากกว่าเดิมแค่เท่าเดียว มันก็มีโอกาสที่จะทำให้ยาออกฤทธิ์ผิดพลาด ในกรณีของอแมนด้าก็คือ มันมีผลนานเกินกว่า 10 ชั่วโมง" คำตอบจากเขาทำให้เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าเบาๆ รอนคงใส่ส่วนผสมเกินไปหลายเท่าทีเดียว ไม่อย่างนั้นยาก็คงไม่ออกฤทธิ์นานถึง 30 ชั่วโมงอย่างนี้หรอก

    "มีอะไรจะถามอีกไหม" มัลฟอยถาม และหันมามองเด็กสาวที่กำลังทำสีหน้าครุ่นคิด

    "ไม่มีแล้ว" เฮอร์ไมโอนี่ตอบเสียงแผ่ว เธอกำลังชั่งใจอยู่ว่า เธอควรจะขอโทษเขากับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ดีหรือไม่ เพราะ เรื่องราวทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็มีเหตุจากคำว่า 'เข้าใจผิด' และ 'ไม่เชื่อใจ' ของเธอเพียงฝ่ายเดียว เพียงเพราะเหตุผลงี่เง่าเพียงสองข้อนี้ เกือบจะทำให้เธอต้องเสียเขาไปแล้ว

    "งั้นไปกันเถอะ" ว่าจบเขาก็ทำท่าจะพาเธอไปสมทบกับนักดนตรีอีกสามคนที่รออยู่ทันที แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ขืนตัวไว้ เพราะ เธอตัดสินใจได้แล้วว่า เธอควรจะขอโทษเขา

    "เป็นอะไรอีก" มัลฟอยหันมาถามเสียงดุ

    "ขอโทษนะ" คำพูดของเด็กสาวทำให้คนที่กำลังจะว่าอะไรต่อเงียบไปทันที

    "เธอว่าไงนะ?" ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยแน่ใจในสิ่งที่เธอพูด ก็อยู่ดีๆ มาพูดว่าขอโทษอย่างนี้ก็งงสิ

    "ขอโทษ" เฮอร์ไมโอนี่กล่าวเน้นอีกครั้ง ในขณะที่คิ้วทั้งสองของเด็กหนุ่มมาขมวดเป็นปมอย่างสงสัย

    "เรื่องอะไร?" มัลฟอยถามกลับไปอีกครั้ง

    "ก็ขอโทษที่วันนี้ชั้นเข้าใจนายผิด ชั้นเห็นนายอยู่กับอแมนด้าที่ระเบียงทางเดินชั้นสาม เผอิญชั้นเดินผ่านไปพอดีน่ะ แล้วชั้นก็เข้าใจผิด คิดว่าอแมนด้าเป็นแพนซี่ ชั้นก็เลยโกรธนาย ทั้งๆ ที่นายก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย ขอโทษนะ เป็นเพราะชั้นเองแหละ ที่ไม่เชื่อใจนาย" เฮอร์ไมโอนี่พร่ำพูดออกมาโดยไม่ยอมสบตากับอีกฝ่าย เธอเอาแต่ก้มหน้ามองผืนทรายสีขาวสะอาดราวกับมันเป็นคู่สนทนาของเธออย่างนั้นแหละ

    "งั้นสินะ ตอนนั้นเธอถึงทำท่าเย็นชากับชั้นแบบนั้น" มัลฟอยกล่าวพาดพิงไปถึงตอนที่เขาไปเจอเธออยู่กับ ฌอน คาร์เตอร์ และตอนนั้นเองที่เธอปั้นหน้าเย็นชาพูดกับเขาราวกับเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดในโลก (ย้อนกลับไปอ่านได้ใน ตอน : THE END - บทที่ 3)

    "แล้วทำไมเธอถึงเข้าใจว่าอแมนด้าเป็นแพนซี่ล่ะ" เด็กหนุ่มถามกลับ พลางมองคนตรงหน้าที่ยังไม่ยอมสบตากับเขาเสียที

    "ชั้นเห็นข้างหลังของอแมนด้าน่ะ คือ สองคนนั้นแต่งตัวคล้ายกันมาก แถมยังไว้ผมทรงเดียวกันด้วย นายคงเห็นใช่ไหม ผมของแพนซี่ที่วันนี้ยาวลงมาถึงกลางหลังเลยน่ะ ก็เลยเข้าใจผิด แล้วตรงนั้นมันก็มืดๆ ด้วย ก็เลยเห็นไม่ชัด ชั้นเลยนึกว่านายกำลังจะ..." คำอธิบายที่หยุดไปกลางคันของเฮอร์ไมโอนี่ทำให้รอยยิ้มมุมปากของเด็กหนุ่มปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

    "คิดว่าชั้นกำลังจะทำอะไร?" เขาถามกลับไปทันที เห็นได้ชัดว่าแผนการแกล้งเธอของเขาได้ผล เพราะ แก้มนวลของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูทันที... เธอคงไม่กล้าบอกว่า 'นึกว่านายกำลังจะจูบกับแพนซี่' หรอก

    "เปล่า ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่าชั้นขอโทษละกัน" เฮอร์ไมโอนี่ตัดบทเสียดื้อๆ ทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ... เธอก็เป็นซะอย่างนี้ล่ะ ชอบเดินตามแผนการของเขาทุกที

    "อืม แล้วทีหลังเธอต้องหัดระวังตัวบ้างนะ นั่งหลับซะจนตกจากต้นไม้แบบนั้นน่ะ ใช้ได้ที่ไหน" คำกล่าวทิ้งท้ายของเด็กหนุ่มทำให้เฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงขึ้นมาอีกจนได้ เขานั่นเองที่ช่วยเธอเอาไว้

    'เธอตกลงมาจากต้นบีช…' เสียงของแฮกริดดังก้องขึ้นมาในหัว

    'แต่ยังไม่ทันถึงพื้นหรอกนะมีคนเขาช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน'

    'แล้วใครช่วยหนูไว้คะ'

    'ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนะชั้นหันไปมองไม่ทัน คือเขาอยู่บนปราสาทน่ะ'

    "นายนั่นเอง คนที่อยู่บนปราสาท... ขอบใจนะ" เฮอร์ไมโอนี่รำพึงกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ก่อนจะรีบวิ่งตามเด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าเธอไปแล้ว

    …+*+*+…

    "เอาล่ะ ทำตามนี้ละกันนะจ้ะ แล้วทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบ ฝากบอกมิสเตอร์มัลฟอยด้วยล่ะ แล้วอีกห้านาทีเจอกันที่เดิม" ศาสตราจารย์มักกอนนากัลสรุป แล้วเดินจากไปก่อนที่มัลฟอยและเฮอร์ไมโอนี่จะเดินมาถึงเพียงแค่ไม่กี่วินาที

    "กว่าจะมาได้นะ" เรอคลอฟเอ่ย พลางส่งไวโอลินตัวสวยคืนให้กับเจ้าของ

    "แล้วเราต้องออกไปตอนไหน" มัลฟอยถามอย่างไม่ใส่ใจกับคำพูดของเพื่อนรัก เด็กหนุ่มผมสีทรายจึงต้องเปลี่ยนจากคำตำหนิมาเป็นคำตอบแทน

    "อีกห้านาที ตอนที่ศาสตราจารย์มักกอนนากัลประกาศเรียก แต่ตอนนี้เราต้องลงไปที่ห้องซ้อมกันก่อน" เรอคลอฟบอก แล้วหันไปหาเฮอร์ไมโอนี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ มัลฟอย

    "เดี๋ยวเราต้องลงไปที่ห้องซ้อมกันน่ะ เธอไปอยู่กับพวกอแมนด้าตรงโต๊ะนั้นก่อนนะ" เรอคลอฟชี้ไปทางโต๊ะข้างฟลอร์เต้นรำที่มีแฮร์รี่ รอน อแมนด้าและมารีนนั่งอยู่

    "อืม" เฮอร์ไมโอนี่รับคำ พลางทำท่าจะถอดเสื้อคลุมของเขาออก แต่ก็ถูกเด็กหนุ่มห้ามไว้เสียก่อน

    "ใส่ไว้เถอะ ที่นี่ลมแรง เดี๋ยวจะไม่สบาย" คำพูดเป็นห่วงเป็นใยของมัลฟอยทำเอาเฮอร์ไมโอนี่หน้าแดงก่ำ... เฮ้อ! ไม่รู้วันนี้ชั้นหน้าแดงมากี่หนแล้วนะ

    "อืม ขอบใจชั้นไปนะ" เฮอร์ไมโอนี่บอก ก่อนจะเดินไปหากลุ่มเพื่อนของเธอทันที

    "แหม กลัวว่าเจ้าหล่อนจะไม่สบาย หรือกลัวว่าจะโดนสายตาแทะโลมจากผู้ชายคนอื่นกันแน่ฮะ เดรโก" เรอคลอฟแกล้งแซว แล้วกอดคอเพื่อนรักที่มองส่งเด็กสาวไปจนถึงโต๊ะ

    "เรอคลอฟ ถ้านายไม่ยุ่งกับเรื่องของชาวบ้านเค้าสักวันนี่จะตายมั๊ย" มัลฟอยหันมากวนกลับ ซึ่งอีกฝ่ายเองก็ยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้าน

    "ก็คงตายล่ะ เพราะ ชีวิตชั้นที่อยู่ได้ทุกวันนี้ก็เพราะเรื่องของชาวบ้านนี่ล่ะ" คำพูดกวนประสาทไม่แพ้กันของเรอคลอฟทำให้คนที่ถูกกอดคออยู่หัวเราะออกมาเบาๆ เพื่อนของเขาคนนี้ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เป็นคนร่าเริงและก็อารมณ์ดีอย่างนี้เสมอ คงเพราะเหตุผลนี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้คำว่า 'มิตรภาพ' ของพวกเขายั่งยืน ในเมื่อคนหนึ่งใจร้อนราวกับไฟ ก็ต้องมีอีกคนที่คอยเป็นน้ำดับไฟเสมอ และเรอคลอฟเองก็คือคนที่คอยดับไฟของเขาเสมอมา

    "ไปกันเถอะ เดี๋ยวถ้าลงไปอยู่ที่นั่นไม่ทัน คุณป้าแกจะว่าเอา" คำว่า 'ที่นั่น' ของเรอคลอฟหมายถึง ห้องซ้อมดนตรี ที่อยู่ตรงชั้นสี่ของปราสาท ส่วนคำว่า 'คุณป้า' ของเขานั้นก็หมายความถึง ศาสตราจารย์มักกอนนากัลนั่นเอง

    "อืม" มัลฟอยพยักหน้า แล้วร่างสองร่างของเด็กหนุ่มก็หายไปจากตรงนั้นทันที ส่วนรอนและฌอนที่ได้แต่ยืนเงียบมาตลอดเวลานั้นก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหายตัวตามคนทั้งสองไปในเวลาไม่นาน

    To be continued +

    ฮ่าฮ่าฮ่า (ขำนำมาก่อนตัว)

    หลายคนคงสงสัยว่าช่วงนี้มันผีเข้าอารัย
    มาอัพได้ถี่ๆ อิอิ

    ก้อผีนักเขียนเข้าค่ะ

    5555+ ใกล้จบแล้วๆๆ

    ติดตามกันต่อไปนะคะ
    อย่าลืมคอมเม้นต์นะคะ
    เพื่อเป็นกำลังใจให้กวางต่อไปนะคะ

    ด้วยจิตคาราวะ
    เด็กผมฟู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×